ทางด้านเชอรีนเสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาทุกสายตาหันมองไปทางเดียวกัน เสียงเรียกนั่นช่างคล้ายกับธาวินเสียจริง ทันทีที่หันไปมองเชอรีนก็ถึงกับยืนนิ่งอยู่กับที่เพราะคนที่เรียกมาร์ชคือธาวินจริงๆและถ้าเจอธาวินยังไงเวหาก็คงต้องมาด้วยสินะสายตาคู่สวยมองไปทางด้านหลังธาวิน เธอพบเข้ากับผู้ชายคนนั้นคนที่เธอไม่ต้องการที่จะเห็น สายตาของเราทั้งคู่จ้องมองกัน เชอรีนใจเต้นระรัวดั่งมีคนเข้าไปตีกลองซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเธอยังคงไม่ลืมความรักระหว่างเธอและเขา ใบหน้าเนียนใสร้อนวูบยามเมื่อเห็นเขาคนนั้นยกยิ้มที่มุมปาก“นี่มันอะไรกัน!!”ไอรีนหันมองไปที่เชอรีนก่อนที่จะปรายตาถามมาร์ช ไหนว่าพวกเราจะมากินข้าวกันแค่นี้ไงแต่ทำไมถึงได้มาเจอเข้ากับกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาได้หรือว่าไอ้หมอนี่มันนัดเพื่อนมันมา คงอยากจะให้เวหาได้เจอกันเชอรีนอย่างนั้นสินะและถ้าเป็นแบบนั้นจริงเพื่อนของเธอจะทำอย่างไรคงจะอึดอัดใจน่าดู...“ใจเย็นๆฟังมาร์ชเขาก่อนนะ” เพียวที่ยืนอยู่ข้างกายมาร์ชรีบเอ่ยขอให้เพื่อนทั้งสองใจเย็นแล้วรอฟังในสิ่งที่มาร์ชแฟนหนุ่มของเธอจะพูดเสียหน่อย ไอรีนหันมองเพียวแล้วพยักหน้าหงึกหงัก ก็ได้ถ้าเพียวร้องขอเธอก็จะรอในสิ
เชอรีนมองไปยังคนทั้งคู่การได้เห็นเขายืนคุยกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ก็เหมือนจุดไฟความหึงหวงในใจเธอให้ลุกโชนขึ้นครืด~“โอ๊ะ~ พี่เก้าทักมาพอดีเลย” เสียงข้อความจากมือถือเชอรีนดังขึ้นจึงทำให้เธอล่ะสายตาที่มองพวกเขาอยู่ ให้หันกลับมามองยังมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มปรากฏขึ้นมือเล็กหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดพิมพ์แชทตอบกลับเวหามองขวับเมื่อได้ยินเสียงเธอเรียกชื่อผู้ชายคนอื่นเขารู้สึกฉุนเฉียวขึ้นอย่างบอกไม่ถูก รอยยิ้มรวมไปถึงทุกๆอย่างของเธอมันต้องเป็นเขาคนเดียวสิที่มีสิทธิ์ได้มอง ใจนึกอยากจะเดินเข้าไปทวงถามว่าไอ้เวรนั่นมันเป็นใครหรือว่าเธอมีแฟนใหม่ไปแล้วทั้งที่พึ่งเลิกกับเขาได้เพียงไม่กี่วันเนี่ยนะ!!เวหาไม่สนผู้หญิงตรงหน้าเขาเลือกที่จะเมินเธอ ชายหนุ่มเตรียมที่จะสาวเท้าเดินไปหาเชอรีนแต่ติดที่ยัยเด็กนี่ก้างแขนห้ามเขาเอาไว้ก่อนนี่แหละ น่ารำคาญชะมัด!!“พี่เวหาจะไปไหนคะ พรีมคิดถึงพี่ พวกเราไปดื่มฉลองด้วยกันดีมั้ยคะ” เด็กสาวทำน้ำเสียงออดอ้อนอย่างยั่วยวน เมื่อก่อนเธอจำได้ดีว่าเขาโปรดปรานเธอมากมายแค่ไหนแต่ติดที่ว่าพี่เขาไม่ชอบคนวุ่นวายแล้วเธอก็ดันหึงเขามากเกินไปซึ่งนั่นจึงทำให้เขาขอห่
เขาจะไม่รออีกต่อไป เวหาขยับเก้าอี้โน้มใบหน้ากระซิบกระซาบบอกเชอรีน ถ้าขืนเธอยังคงเลือกที่จะเงียบอยู่แบบนี้เขาคนนี้นี่แหละที่จะเป็นคนช่วยเปิดปากให้เธอเองเปิดปากเธอด้วยปากของเขา...“อย่านะ!!” เชอรีนตาลุกโตไอ้บ้านี่เอะอะๆก็ขู่เธอด้วยประโยคแบบนี้ตลอด แล้วคือทุกคนก็กำลังมองมาที่พวกเรากันอยู่ด้วย เขาไม่อายแต่เธออายนะ อายมากด้วย“ยัยเด็กนั่นมองอยู่ช่วยทำหน้าให้ดีๆหน่อยได้มั้ย ยิ้มน่ะทำเป็นหรือเปล่า” เวหาอมยิ้มหางตาเหลือบไปเห็นยัยเด็กนั่นกำลังมองเธอและเขาอยู่ เขาเอื้อมมือไปบีบแก้มของเชอรีนทำเอาคนที่โดนจับแก้มรีบดึงมือเขาออก ไอ้บ้า! มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับเธอ~เชอรีนถอนหายใจ ยิ้มก็ยิ้ม ช่วยแล้วก็คงต้องช่วยให้ถึงที่สุด ใบหน้าสวยเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานเธอหันมองไปยังบุคคลจอมวุ่นวายที่นั่งข้าง ถ้ายิ้มแบบนี้เขาจะพอใจหรือยัง ถ้ายังไม่พอใจก็เชิญไปหาคนใหม่เถอะ“พอใจหรือยัง วุ่นวายชะมัด” มือเล็กยกขึ้นกอดอกสีหน้าแสดงออกถึงความรำคาญที่มี เวหาโอบกอดเชอรีนทำเอาคนตัวเล็กชะงักเพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้กับเธอทั้งที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น“โอ๋ๆไม่งอนนะครับคนสวย ยัยนั่นแค่อดีตส่วนเธอน่ะคือปัจจุบันและตลอดไ
เวหายิ้มเพียงนิดก่อนที่จะกลับไปทำหน้าเงียบขรึมตามเดิม มือใหญ่จับไปที่บริเวณเป้ากางเกงของเขาทำเอาเชอรีนที่มองเห็นรีบเบือนหน้าหันมองไปทางอื่น“ทะลึ่ง!!” ใบหน้าสวยแดงก่ำยามเมื่อคิดว่าเขากำลังจับไอ้เจ้านั่นของตัวเขาเองอยู่ เวหาเอ่ยเสียงเรียบจ้องมองปฏิกิริยาของคนตัวเล็กว่าจะทำอย่างไรต่อไป“เข้าไปได้แล้ว อยากกลับแล้วไม่ใช่เหรอแล้วจะมัวแต่ยืนอืดอาดยืดยาดอยู่ทำไม เคยบอกแล้วไงว่าอย่ากินเยอะเพราะฉะนั้นถ้าเดินไม่ไหวเดี๋ยวเวอุ้มไปเอง มา~” เขาทำทีจะเข้าไปช้อนร่างเธออุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว ชายหนุ่มสาวเท้าเดินเข้าไป ถ้าเธอไม่ร้องออกมาเขาก็ไม่อายหรอกนะที่อุ้มเธอกลางร้านอาหารแบบนี้น่ะ“อย่านะ!!” มือเล็กยกขึ้นห้าม สองเท้าเล็กเดินก้าวถอยไปข้างหลัง ไอ้บ้านี้ทำไมเป็นคนแบบนี้ไปได้นะ แล้วเธอจำต้องแพ้คนแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่“งั้นก็เดินเข้าไปด้วยกันดีๆ” เวหาเหยียดยิ้มเมื่อเห็นเธอแพ้เขาราบคาบ มือหนาเอื้อมไปจับกุมมือนิ่มของเชอรีนให้เดินเข้าไปในร้านอาหารด้วยกัน พวกเขาเดินเข้ามานั่งลงยังเก้าอี้ตัวเดิมชายหนุ่มตัวร้ายโน้มศีรษะอิงซบไหล่เล็กของเชอรีนท่ามกลางสายตาของเพื่อนทั้งกลุ่มที่จับจ้องมองมาที่พวกเราสองคนเชอรีนได้แต
“มึงจะเอายังไงต่อไป” ธาวินถามเวหาที่เอาแต่มองไปทางรถของมาร์ช สายตาของมันเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่และพอได้ยินประโยคคำถามของเพื่อนเขาก็รีบหันมามองหน้าธาวินพร้อมกับควักบุหรี่ออกมาจุดสูบเขาคิดถึงเธอ...กลิ่นกายของเธอยังคงอยู่ในประสาทสัมผัสของเขาเพียงแค่ได้กลิ่นและนึกถึงก็ทำให้เขาอยากที่จะยื้อเธอเอาไว้อยู่กับเขา“เชอรีนพูดชัดขนาดนั้น!!” ออสตินที่เห็นว่าไอ้เวหาที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ไม่ยอมพูดอะไรสักทีเขาจึงย้ำบอกคนอย่างมันอีกครั้ง‘เรื่องของเรามันกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว’เวหาหันขวับมองหน้าไอ้ออสตินไม่พูดก็ไม่มีใครว่ามันหรอกนะ พูดซะจนกูคิดย้อนไปถึงคำพูดของเชอรีนเลย เขาถอนหายใจออกมาอย่างหัวเสียคนอย่างเขาจะไม่ยอมให้เธอตกเป็นของใครแน่ไม่ว่าจะเป็นไอ้เหี้ย ‘เก้า’ อะไรนั่น หรือแม้แต่ใครหน้าไหนทั้งนั้น“กูจะทำให้เธอไม่กล้ามีคนอื่น!!” สายตามาดมั่นของเวหาทำเพื่อนคนอื่นนึกหวั่นเกรง กลัวใจว่ามันอาจทำอะไรเชอรีนจนถึงขั้นเป็นเรื่องราวใหญ่โต“ยังไง~” ธาวินที่อยากรู้จึงถามต่อทำเอาเวหาหันขวับมองหน้าเพื่อนรักทันควันเรื่องอะไรที่เขาจะต้องบอกพวกมันด้วย ใบหน้าหล่อเหลาเหยียดยิ้มขึ้นที่มุมปากเพียงได้คิดไปถึง
เชอรีนพยักหน้าด้วยความดีใจที่เย็นนี้เธอจะได้ไปบ้านของเพื่อนสนิทเป็นครั้งแรก ตกเย็นหลังจากที่ออกจากโรงเรียนทั้งสามได้เดินทางไปบ้านของเพียวด้วยรถแท็กซี่โดยที่ในวันนี้มาร์ชติดธุระจำต้องเข้าบ้านก่อนแต่เขาได้บอกกับเพียวไปก่อนที่จะไปแล้วว่าจะขับรถมารับพวกเธอในตอนสองทุ่มบ้านเพียว“วันนี้พ่อกับแม่ของฉันพวกท่านไม่อยู่บ้านน่ะ” ทันที่ก้าวเข้ามาในบ้านเพียวรีบบอกไปยังเพื่อนสาวทั้งสองถึงเรื่องที่พ่อกับแม่ของเธอนั้นไม่อยู่บ้านในวันนี้ทำเอาคนที่อยากรู้อย่างไอรีนรีบถามกลับในทันที“พ่อแม่แกไปไหนเหรอ”“ไปเที่ยวสวีทกันตามประสาคนมีความรักนั่นแหละ” เพียวยิ้มกว้างพ่อกับแม่ของเธอจะไปไหนได้นอกเสียจากจะไปสวีทกันตามประสาคนมีความรัก พ่อแม่ของเธอเป็นแบบนี้มาโดยตลอดพวกท่านจะคอยเติมเต็มความรักให้กันและกันอย่างสม่ำเสมอเพียวพาเพื่อนรักทั้งสองเดินขึ้นบันไดจนมาถึงห้องของเธอ มือเล็กหยิบกุญแจห้องนำออกมาจากกระเป๋าแล้วไขเปิดห้องออกกว้างแอ๊ด~“เข้ามาสินี่ห้องฉันเอง” เพียวส่งเสียงเรียกเพื่อนโดยที่ตัวเองเดินนำเข้าไปในห้องก่อนใคร เชอรีนเดินตามเข้ามาเป็นคนที่สองเธอมองไปโดยรอบ ห้องนอนนี้มีแต่สีชมพูอยู่เต็มไปหมด เชอรีนเอ่ยปากช
เพียวยื่นชุดส่งคืนให้เชอรีนอีกทั้งยังย้ำว่าชุดนี้นี่แหละที่เหมาะกับผิวขาวๆของเธอแล้วถ้าจะให้ดีต้องฉีดสเปรย์กลิตเตอร์วิ้งค์วับไปตามเรียวแขนขาวๆของยัยสองคนนี้อีกสักหน่อย“ชุดนี้นี่แหละเหมาะกับแกแล้ว ไปลองใส่ดู ฉันมีเสื้อคลุมให้แกอยู่”“เอางั้นเหรอ งั้นก็ได้” เชอรีนเม้มปากครุ่นคิด งั้นถ้ามีเสื้อคลุมเธอก็ยังพอใส่ได้ เธอหันหลังกลับเตรียมที่จะเดินไปยืนรอเพื่อนหน้าห้องน้ำซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไอรีนได้เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำพอดี ทั้งสองต่างก็มองหน้ากัน“ไอรีนสวยมากเลย” เชอรีนมองดูชุดสีน้ำเงินที่อยู่บนตัวของเพื่อนสาว ชุดนี้มันช่างเหมาะกับไอรีนเป็นไหนๆผิวที่ขาวตัดกับสีของชุด แล้วไหนจะรูปร่างที่ผอมบางของเธอทำให้ทุกอย่างล้วนสมบูรณ์แบบอย่างถึงที่สุดและคงไม่ต้องพูดไปถึงเรื่องหน้าตาเพราะเธอน่ะกินขาดอยู่แล้ว“อย่ามาชมฉันหน่อยเลย รีบเข้าไปเปลี่ยนชุดเลยไป~” ไอรีนที่โดนเพื่อนแซวจนรู้สึกเขินรีบส่งยิ้มหวานมือเล็กสะบัดไปมารีบบอกให้คนชมรีบเดินเข้าไปห้องน้ำทันทีเพราะขืนยังอยู่ตรงนี้แล้วชมเธอต่อมีหวังเธอได้เขินจนตัวบิดแน่เชอรีนเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำตามที่เพื่อนได้บอกให้เธอรีบทำ เธอลองใส่ชุดเดรส
ขวับ~“สั่งอะไรนักหนาเนี่ยมาเที่ยวนะไม่ได้มานั่งฟังนายบ่น บ่นเป็นพ่อเราเลย” เธอไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ใบหน้าสวยหันมองจ้องหน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องบ่นนั่นนี่ใส่เธอแบบนี้ด้วย ใบหน้าสวยยู่ขึ้น มือเล็กยกขึ้นกอดอกเขานี่มันดุยิ่งกว่าพ่อของเธออีก ให้ตายมีสิทธิ์อะไรมาบังคับคนอื่นให้นั่งด้วยแบบนี้!!“ไม่อยากเป็นพ่อเธอหรอกนะ เชอก็รู้ดีนี่ว่าเวอยากเป็น..ผัว” ชายหนุ่มตัวร้ายยิ้มเจ้าเล่ห์โน้มใบหน้ากระซิบใบหู เขาต้องการให้มีแค่เราสองคนเท่านั้นที่จะได้ยินหรือถ้าเธอต้องการอยากให้คนอื่นรู้ด้วยเขาก็ยินดีและเต็มใจ“หุบปากไปเลยนะ!!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นมือเล็กที่กอดอกอยู่รีบเปลี่ยนท่าทางอัตโนมัติ เธอยกมือไปปิดปากของผู้ชายร้ายกาจตรงหน้าอย่างไม่ทันระวังว่าชุดเดรสที่เธอสวมใส่อยู่นั้นอาจจะเลื่อนขึ้นจนเห็นต้นขาขาวเนียนมือแกร่งจับเข้าที่ฝ่ามือเล็ก สายตาพลันมองไปยังเรียวขาขาวของคนตัวเล็กก็เกิดอาการหวงขึ้นมาเสียดื้อๆ ก็นะจะไม่ให้หวงได้อย่างไรก็ในเมื่อตอนนี้ชุดเดรสที่เธอสวมใส่อยู่มันได้เลื่อนขึ้นจนแทบจะเห็นอะไรไปถึงไหนต่อไหนแล้วทำไมเธอไม่ค่อยจะระวังตัวเลยนะ...เขาคิดตำหนิเธอ มือแกร่งหยิบเ
“ส่งกระเป๋าของฉันคืนมาได้แล้ว” เสียงหวานเอ่ยบอกไปยังชายหนุ่มที่กำลังมองเธออยู่ เขานิ่งมองดูท่าทีของหญิงสาวโดยที่ไม่คิดที่จะคืนให้เธอ มือเล็กยื่นมือไปข้างหน้าไม่ว่าอย่างไรเธอต้องได้กระเป๋าของเธอคืนแต่คนที่หน้ามึนยังคงรั้งไม่ยอมให้อย่างง่ายดายไม่ว่าอย่างไรต้องไปส่งให้ถึงที่“เดี๋ยวถือขึ้นไปให้เวจะไปส่งถึงหน้าห้องนอน”“ไม่ต้องกระเป๋าใบแค่นี้ฉันถือเองได้ เอาคืนมาเลย ฉันไหว~” เชอรีนถลึงตาดุใส่เขา มือเล็กเริ่มจับไปที่หูกระเป๋าเดินทางอย่างพยายามที่จะยื้อแย่ง เธอคิดว่ากระเป๋าใบแค่นี้เธอถือได้สบายมากเชอรีนยังคงยืนยันคำเดิมว่าเธอนั้นถือไหว...เวหาพยักหน้าอย่างเข้าใจถ้าเธออยากถือมากนักงั้นถือกระเป๋าของเขาก็แล้วกันเพราะยังไงก็คือกระเป๋าเหมือนกันแถมยังได้ฟิลแบบคู่รักแลกกระเป๋ากันถือด้วย“อืม ถ้าอยากถือมากงั้นช่วยถือกระเป๋าของเวแล้วกัน ใบไม่หนักมากไม่ค่อยได้พกเสื้อผ้ามา” มือหนาหยิบจับกระเป๋าสะพายข้างหลังของตัวเองแล้วเดินเข้าหาเชอรีน เขาจับร่างบางหันหลังให้กับเขาแล้วนำกระเป๋าสะพายใส่แขนเล็กของเธอทั้งสองข้าง“ดะ เดี๋ยว นี่! ได้ฟังที่ฉันพูดบ้างมั้ยเนี่ย” เชอรีนที่พยายามดิ้นหนีก็พลางมองหน้าเขา นี่เขาเ
เวหาเอ่ยเสียงเรียบเอ่ยถามไปยังเพื่อนๆที่ไม่ได้เจอกันเกือบสองปี สายตาของเขามองจับจ้องไปยังเชอรีนที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถืออยู่แบบนั้นเธอเลือกที่จะก้มหน้าเพราะรู้ว่าเขากำลังแอบมองเธออยู่“ฉันสบายดีย่ะ ขับรถมองทางข้างหน้าด้วยเดี๋ยวได้ตายกันยกคันหรอก มองกระจกอยู่ได้”ไอรีนมองจ้องหน้าเวหาผ่านกระจกหน้ารถ เธอทำเสียงดุที่เห็นว่าเวหาเอาแต่มองเพื่อนของเธอโดยที่ไม่ได้สนใจไปกับเส้นทางข้างหน้าแม้แต่น้อย ไม่รู้หรือไงว่ามันอันตรายมากนะเข้าใจอยู่ว่าไม่ได้เจอกันหลายปีแต่เดี๋ยวเอาไว้ถึงที่หมายก่อนค่อยมองก็ได้มั้ยยัยเชอไม่หายไปไหนหรอก...“ไอรีนของพวกเรายังคงปากแจ๋วเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ” เวหากลับไปให้ความสนใจไปกับเส้นทางข้างหน้าโดยที่ปากของเขาก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยแซว(กัด)ไปยังไอรีน หึ~ เหมือนว่าเธอจะได้ยินเสียงผู้ชายหัวเราะดังมาจากทางที่นั่งด้านหลังนะแต่พอเธอหันกลับไปมองก็พบว่าแต่ละคนกำลังเลื่อนโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่ สงสัยเธอจะหูแว่วช่างมันเถอะเธอไม่สนใจแล้วก็ได้ ใบหน้าสวยหันกลับมาให้ความสนใจไปกับไอ้ผู้ชายตรงหน้า ไอ้คนที่มันกำลังขับรถให้พวกเธอนั่งอยู่นั่นแหละ“แน่นอนอยู่แล้ว เอาไว้ด่าผู้ชายนิสัยไ
“แล้วมึงกับไอ้วินไม่ไปด้วยกันจริงเหรอ”มาร์ชยิ้มเยาะอดที่จะเสียดายไม่ได้ที่ในครั้งนี้พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน สายฟ้าถอนหายใจ ใจจริงเขาก็อยากไปอยู่หรอกแต่ทั้งเขาและไอ้วินในตอนน่างก็มีธุระบางอย่างที่ไม่สามารถละทิ้งไปไหนได้เลย“มึงก็น่าจะรู้ว่าทำไมกูกับไอ้วินถึงไม่ไป”“ทำไมอะ” เพียวเอ่ยถามไปยังมาร์ชอย่างไม่เข้าใจ ธุระนั่นสำคัญขนาดที่ปฏิเสธไม่ยอมไปเที่ยวกับเพื่อนได้เชียวเหรอ มาร์ชก้มกระซิบเข้าที่ใบหูของแฟนสาวเรื่องแบบนี้เรื่องเม้าส์ต้องพูดเบาๆเพราะเดี๋ยวไอ้สายฟ้ามันจะด่าเอาได้“พวกมันติดหญิงไงแล้วผู้หญิงของพวกมันนะก็ยังอยู่แค่ชั้นปีที่1เท่านั้นด้วย”“อ๋อแบบนี้นี่เอง นี่ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เพียวพยักหน้าอย่างเข้าใจที่แท้สายฟ้ากับธาวินก็ติดหญิงนี่เองจึงทำให้เธอไม่ค่อยได้พบพวกเขาสักเท่าไหร่ เธอส่งยิ้มให้สายฟ้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนทั้งสองของเธอจะเป็นพวกกินเด็กสายฟ้ากล่าวคำทักทายไปยังเพื่อนสาวทุกคนสายตาชำเลืองมองไปทีละคนแล้วไปจบที่เพื่อนผู้หญิงคนสุดท้าย ดวงตาคู่คมเบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาได้เห็นเข้ากับวิเวียนซึ่งเคยเป็นพนักงานที่ร้านของเขา“หวัดดีเพียว หวัดดีไอรีน หวัดดีเชอรีนด้วย แล้วนั่
เชอรีนยิ้มแห้งที่เดินช้าเป็นเพราะมัวแต่คุยกับไอรีนเรื่องเร็นนั่นแหละ ทั้ง4สาวพากันเดินเข้าไปในตึกใหญ่จุดมุ่งหมายคือห้องเรียนที่เอาไว้เรียนในตอนช่วงบ่ายนี่แหละฮึบๆเรียนอีกแค่วิชาเดียวเท่านั้นก็จะเป็นอิสระแล้ว พรุ่งนี้คือวันเสาร์พักผ่อนได้ตามสบาย...1 อาทิตย์ผ่านไปวันศุกร์ในช่วงเช้าไอรีนที่จอดรถเสร็จเป็นที่เรียบร้อยเดินสาวเท้าเข้ามาหากลุ่มเพื่อนด้วยสีหน้าที่เหมือนแบกโลกเอาไว้ทั้งใบ เธอเดินเข้ามานั่งลงที่ม้านั่งตัวโปรดซึ่งสีหน้าของเธอทำเอาเชอรีนเอ่ยถามเพื่อนทั้งหมดต่างจับจ้องมองไอรีนเป็นตาเดียวหรือว่าจะมีอะไรที่ทำให้เพื่อนของพวกเธอเครียดกันนะ“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“เบื่อๆเซงๆน่ะ พวกแกฉันมีอะไรจะบอก” ไอรีนถอนหายใจพลางพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เหมือนคนจะร้องไห้ เชอรีน เพียวรวมไปถึงวิเวียนต่างก็มองไปยังใบหน้าเรียวใสของไอรีน ลุ้นเหลือเกินว่าเธอจะพูดว่าอะไรแล้วอาการที่เหมือนจะร้องไห้นี่ก็อีก“คือว่าน้องชายของฉันต้องไปด้วยไม่งั้นพ่อไม่ให้ฉันไป” เธอพูดออกมาถึงสิ่งที่พ่อของเธอได้ยื่นคำขาด เมื่อวานไอ้เร็นมันเข้าไปที่บ้านและมันไปรู้มาจากไหนก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังจะไปเที่ยวกับเพื่อน มันก็เลยเข้าไปขอพ่อบอกว่
มือทั้งสองข้างยกขึ้นเพื่อเป็นเชิงว่าเขาจะไม่เข้าไปใกล้เธอมากไปกว่านี้ รอยยิ้มที่ดูจริงใจยิ้มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เชอรีนมองไปยังรุ่นน้องคนนั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังกลัว กลัวในเรื่องนั้น กลัวว่าเขาอาจจะพูดอะไรที่ไม่ดีออกมา“น้องรู้เหรอว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่” เธอเอ่ยถามไปยังหนุ่มรุ่นน้องและยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่อเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นจากทางด้านข้างของเธอ“เฮ้ยไอ้เร็นไปเร็ว!” เสียงทุ้มตะโกนส่งเสียงมาแต่ไกลเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของพวกเขากำลังพูดคุยอยู่กับหญิงสาวที่หน้าตาสะสวยแต่ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมายืนคุยไง ตอนนี้มันเป็นเวลาที่จะต้องรีบไปเข้าแถวรับน้องขืนไปสายมีหวังได้โดนทำโทษหมู่แน่ชายหนุ่มรุ่นน้องเปรยตามองเพื่อนเพียงนิดก่อนที่จะหันกลับมาพูดคุยกับพี่สาวคนสวยต่ออีกสักหน่อยความจริงอยากคุยให้นานมากกว่านี้แต่เจอเธอที่ไรก็เหมือนจะมีอุปสรรคจึงทำให้ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการสักที“ผมรู้ครับ เรื่องวันนั้นผมลืมมันไปหมดแล้วพี่เชอรีนไว้ใจผมได้ มันจะไม่หลุดออกมาจากปากผมแน่นอนแล้วไว้ค่อยเจอกันใหม่นะครับ”เมื่อพูดบอกพี่สาวคนสวยเสร็จเขาก็สาวเท้าเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนทั
“น้องเขามาจีบแกเหรอ”“จะบ้าเหรอ! ไอ้เด็กไม่มีมารยาทแบบนั้นฉันไม่มีทางชอบมันแน่!!” ไอรีนรีบหันขวับมองจ้องหน้าเพื่อนสนิททันที เห็นหน้าเธอแบบนี้เธอก็เลือกนะแม้ว่าไอ้เด็กนั่นมันจะหล่อมากก็ตามแต่เธอก็ไม่คิดที่จะเอาผู้ชายแบบนั้นมาเป็นคนรักหรอกนะแล้วแถมตอนนี้เขาและเธอได้กลายมาเป็นพี่น้องกันด้วยมันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้เลยและเธอยืนยันได้เลยว่าไม่เคยมีสักครั้งที่อยากจะเป็นพี่น้องกับผู้ชายแบบนั้น...“ว่าแต่น้องเขาอยู่โรงเรียนเดียวกันกับแกเหรอยัยเชอ” เพียวที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาแล้วหันไปถามทางด้านเชอรีนบ้างเพราะเมื่อครู่เธอก็เห็นน้องคนนั้นพูดคุยกับเชอรีนอยู่เหมือนกัน“อืมใช่ รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าน่ะ”“แล้วสรุปคุยอะไรกัน จีบกันชัวร์ มีให้ของด้วยเนี่ย” เพียวเห็นของที่อยู่ในมือไอรีนเธอจึงถามย้ำอีกครั้งก็คนมันต้องการที่จะจับผิดเพื่อนให้ได้นี่เนอะ สายตาเจ้าเล่ห์ของเพียวทำเอาไอรีนมองออกทันทีเธอถอนหายใจออกแล้วเริ่มเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้ฟังอีกครั้ง“จำที่ฉันเคยเล่าเรื่องครอบครัวได้มั้ย เนี่ยแหละลูกติดของแม่เลี้ยงฉันเอง เด็กนั่นอายุห่างกับฉัน 2 ปีแต่ว่ามันไม่เคยเรียกฉันว่าพี่เลยแม้แต่ครั
“อืม ใช่ เราก็เลยเลือกที่จะทำงานที่นี่ที่เดียวน่ะ เราว่าจะทำไปสักพักนึง แล้วงานนี้เลิกประมาณเที่ยงคืนด้วย เลิกไวกว่าตอนเป็นพนักงานเสิร์ฟด้วย” เธอพูดไปก็ยิ้มไปตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอใครใจดีเท่าเจ้าของผับที่เธอทำงานอยู่มาก่อนเลย ทั้งๆที่เขาก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่อายุก็คงจะประมาณเท่าเธอแต่เขากลับบริหารกิจการงานเก่ง มีลูกค้ามากมายเข้ามาใช้บริการผับทุกวัน“แล้วร่างกายจะไหวมั้ย..” เชอรีนที่เป็นห่วงในตัวเพื่อนสาวรีบเอ่ยถามตัวเธอก็แค่นี้แล้วยังต้องทำงานจนดึกดื่นอีกแล้วแบบนี้โรคภัยไข้เจ็บจะไม่ถามหาเอาเหรอ“ต้องไหวสิเราทำได้อยู่แล้ว” วิเวียนยิ้มหวานมองตาเพื่อนรัก เรื่องนอนดึกแบบนี้เธอชินแล้ว ร่างกายรวมไปถึงสภาพจิตใจของเธอมันโอเคมากแต่ก็นะเธอรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง มือเล็กกอบกุมมือเชอรีนจะบอกเธออย่างไรดีว่าไม่ต้องเป็นห่วง“ไม่ต้องเป็นห่วงเรานะ ถ้าเราไม่ไหวเราค่อยลาออก โอเคมั้ย”“โอเค..งั้นสู้ๆแต่อย่าหักโหมจนเกินไปนะ” ได้ยินแบบนั้นเชอรีนก็ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย เธอกับไอรีนและเพียวจะคอยซัพพอร์ตวิเวียนอยู่ตรงนี้เสมอขอแค่มีอะไรเธอบอกกันเท่านั้นพวกเธอก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ทันที วิเวียนพยักหน้าส่งย
“อืม ได้สิ ว่าแต่บ้านเราอยู่แถวไหนเหรอ” แชมเปญยินดีเป็นอย่างมากที่จะไปส่งไอรีนถึงที่บ้าน“อยู่แถวลาดพร้าวค่ะ”“แถวเดียวกับเก้าเลยนี่ เก้าไปส่งไอรีนหน่อยได้มั้ย” แชมเปญชี้มือไปทางเก้าทันทีเพราะคอนโดของเขาก็อยู่แถวนั้นเหมือนกัน เธอร้องขอให้หนุ่มปีสามช่วยไปส่งเพื่อนน้องสาวของเธอซึ่งเขาก็พยักหน้ารับปากด้วยความเต็มใจและหันไปส่งยิ้มให้ไอรีน เรื่องไปส่งแค่นี้ถือว่าสบายมากไม่ได้ลำบากอะไรเลย“อืม ได้สิ ไอรีนเดี๋ยวกลับกับพี่นะ”“หา ตะ แต่ว่า..ค่ะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทำไมสุดท้ายเธอถึงต้องให้พี่เก้าไปส่งเธอที่บ้านด้วย ทำไมเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้ ไอรีนอ้าปากเตรียมที่จะปฏิเสธแต่พอเห็นสีหน้าและแววตาของพี่เก้าเข้าให้จึงทำให้เธอหลบสายตาเผลอตกปากรับคำเขาไปอย่างง่ายดายและเป็นจังหวะเดียวกันกลับที่พนักงานของร้านได้นำบิลมายื่นให้เก้า“ทั้งหมด 1,500 บาทค่ะ”“นี่ครับ” เก้าหยิบเงินในกระเป๋าขึ้นมาแล้วยื่นเงินจำนวนนั้นให้กับพนักงานของร้าน ทุกคนพากันลุกขึ้นจากเก้าอี้และสาวเท้าพากันเดินออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น เพียวกับมาร์ชขอแยกตรงหน้าร้าน เชอรีนไปรถของพี่แชมเปญส่วนไอรีนจำต้องไปกับพี่เก้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ยัยเชอพูดอะไรน่ะน่าตีจริง” แชมเปญรีบส่งเสียงเอ็ดน้องสาว เดี๋ยวนี้เธอร้ายถึงขั้นที่แนะนำเพื่อนให้ผู้ชายเชียวเหรอถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เถอะ แชมเปญมองไปยังเพื่อนทั้งสองของเชอรีน คนนึงกำลังหัวเราะตลกขบขันเหมือนคนไม่คิดอะไรแต่อีกคนนี่น่ะสิชื่อว่าอะไรนะ ไอรีน อย่างนั้นใช่มั้ย ก้มหน้าก้มตาเชียวดูเหมือนจะเขินไปกับสิ่งที่น้องสาวเธอพูดอย่างนั้นสินะเก้าที่มองเห็นเหมือนกันว่าไอรีนเขินเขาจึงได้พูดอย่างไม่จริงจังมากนัก เขามองไปยังใบหน้าเรียวสวยของไอรีน เด็กสาวคนนี้สวยผิวขาวหน้าตาน่ารักน่ามองเหมือนกันนะซึ่งเขาเองที่ไม่ค่อยจะสนใจใครสักเท่าไหร่จึงทำให้ไม่ทันได้สังเกตเธอ“ดูสิ เพื่อนเราเขินพี่หมดแล้ว” เก้าชี้มือไปที่ไอรีนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เขาหลุดยิ้มออกมาอย่างคนที่เอ็นดูเพื่อนของน้องสาว เชอรีนมองไปยังไอรีนก็พบว่าเธอเขินอายอย่างที่พี่ชายเธอได้บอก อย่าบอกนะว่าไอรีนชอบพี่เก้าน่ะงั้นจะรอช้าอยู่ทำไมก็รีบจับคู่ให้พวกเขาเลยสิครับ...“ก็เห็นพี่โสดเลยอยากแนะนำคนใกล้ตัวให้ช่วยดูแลพี่ชายไงคะ” เชอรีนไม่รีรอที่จะพูดต่อไปถ้าพวกเขาหัวใจตรงกันสักวันก็อาจจะได้เลื่อนขั้นพัฒนาเปลี่ยนสถานะ