เข้าสู่ระบบ"อะไรที่เป็นของๆฉันไปแล้ว ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้เป็นของคนอื่นเด็ดขาด!"
ดูเพิ่มเติมบ้านกิตรัตนสกุลชัย
“ไอรีนลูก แม่มีเรื่องที่อยากจะบอกหนู” เสียงของแม่เธอทำไมถึงได้ดูเศร้าหมองแบบนี้ ไอรีนเด็กสาววัยมัธยมปลายหันมองไปตามเสียงเรียกของผู้เป็นแม่ทันควัน ว่าแต่แม่ของเธอมีเรื่องอะไรกันนะ
“เรื่องอะไรเหรอคะแม่” เสียงหวานใสเอ่ยถามไปยังแม่ตัวเองและทันทีที่เห็นใบหน้าของผู้เป็นแม่ เธอก็หุบยิ้มลงทันทีเพราะไม่ใช่แค่เสียงเท่านั้นที่เศร้าแต่หน้าตาของแม่เธอก็ดูเศร้ามากเช่นกัน จะมีเรื่องอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นหรือเปล่า ไม่นะ เธอพึ่งจะอยู่ชั้นมัธยมปลายเองนะ
และในตอนนั้นเองพ่อของเธอก็เดินเข้ามา…
“พ่อกับแม่พวกเราได้พูดคุยกันแล้วว่า...”
“…” ว่าอะไร เด็กสาวมองไปยังหน้าพ่อกับแม่ของเธอสลับสับเปลี่ยนไปมา
“จะหย่ากัน!!”
กึก!!
ไอรีนอ้าปากค้างเรื่องที่พ่อพูดมันเกิดขึ้นได้ยังไงในเมื่อเธอก็ยังเห็นอยู่เลยว่าพ่อกับแม่ก็ยังดูรักกันดีอยู่ ณ เวลานั้นหัวสมองของเด็กสาวเบลอไปชั่ว ณ ขณะจิต นี่พ่อแม่ของเธอกำลังหลอกกันเล่นอยู่หรือเปล่า ที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยเห็นพวกเขาทะเลาะกันเลยนะแล้วสุดท้ายกลายมาเป็นแบบนี้ได้อย่างไร
“ไอรีน..ลูก” เสียงของแม่สั่นเครือ ก็นะเธอเองก็อดที่จะสงสารลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างไอรีนไม่ได้แต่ทว่าเธอก็ทนอยู่กับพ่อของลูกอีกต่อไปไม่ได้เช่นกันแล้วใครจะหาว่าเธอเห็นแก่ตัวก็คงต้องยอม เด็กสาวน้ำตาไหลพรากยกมือขึ้นเช็ดปาดคราบน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด เธอเงยใบหน้าสวยขึ้นเอ่ยถามไปยังคนทั้งสอง
“พ่อกับแม่ไม่รักกันตอนไหนเหรอคะ ทำไมไอรีนไม่เห็นจะรู้สึกบ้างเลย” เธอมองสบตาอย่างคนที่ไร้เดียงสา ทั้งพ่อและแม่ต่างก็เงียบไปสักพักและเพียงไม่นานท่านทั้งสองก็มองหน้ากันและก็เป็นพ่อที่เป็นฝ่ายตอบคำถาม
“พ่อกับแม่ขอโทษที่ทำให้ลูกต้องรู้สึกแบบนั้นแต่พ่อกับแม่ลองปรับจูนเข้าหากันหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่า..หย่าและแยกกันอยู่น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด”
“แล้วพ่อกับแม่จะให้ไอรีนทำยังไงคะ ไอรีนต้องรับให้ได้กับเหตุการณ์แบบนี้ใช่ไหมคะ”
“…” พวกท่านต่างก็เลือกที่จะเงียบเพราะไม่รู้จะตอบคำถามลูกสาวยังไงดี
“แล้วพ่อกับแม่จะไปหย่ากันวันไหนเหรอคะต้องให้ไอรีนไปเป็นพยานด้วยหรือเปล่า”
“อาทิตย์หน้า แต่เดี๋ยวแม่เขาคงจะย้ายออกไปอยู่บ้านเพื่อนของเขาก่อนที่จะถึงวันหย่า”
กึก!
“ว่าไงนะคะ นี่แม่จะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกเลยเหรอคะ ทำไมมันเร็วแบบนี้ เร็วแบบที่จะไม่ให้ไอรีนได้ตั้งตัวเลยใช่ไหม”
“แม่ขอโทษแต่แม่จำเป็นต้องไปหรือไอรีนอยากไปกับแม่ ดีไหมลูก พวกเราไปด้วยกันนะไปอยู่บ้านเพื่อนของแม่กัน” แม่เดินเข้ามาจับมือลูกสาวตัวเอง สีหน้าของเธอยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ใจนึกอยากให้ลูกสาวตอบรับคำชวนเพื่อที่จะได้ไปอยู่ด้วยกัน
“แม่คะ ไอรีน...” ไอรีนอ้ำอึ้งมองหน้าแม่ตัวเองนิ่ง ทำไมแม่มาเอ่ยชวนเธอในเวลาแบบนี้ มันฉุกละหุกเกินไป จะไม่ให้เธอได้มีเวลาคิดทบทวนเลยเหรอ เด็กสาวมองไปยังพ่อของตัวเองความรู้สึกในตอนนี้ของเธอก็คืออยากอยู่กับพ่อมากกว่าแต่ใจก็ไม่ได้อยากให้แม่ย้ายออกไปเช่นกัน
เอาเป็นว่าช่วยอยู่กันแบบนี้ต่อไปไม่ได้เลยเหรอ...
“แม่เข้าใจ..” แม่มองดูสถานการณ์ตรงหน้า ใจนึกรับรู้มาโดยตลอดว่าลูกสาวรักและอยากอยู่กับพ่อมากกว่าแม่อย่างเธอ เธอลอบถอนหายใจออกมาเอาเป็นว่าไม่ว่ายังไงเธอจะหาเวลากลับมาเยี่ยมลูกให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วกัน
“อย่าบีบบังคับลูก อยากย้ายออกไปก็ไปคนเดียว” พ่อขึ้นเสียงใส่พลางดึงแขนแม่ออกจากตัวลูกสาว นี่เธอมีสิทธิ์อะไรที่จะมาบีบบังคับใจไอรีนแบบนี้ มือหนาชี้นิ้วมือไปยังประตูทางออกของบ้านเสียงแข็งกร้าวของพ่อทำไอรีนปวดใจเหลือเกิน
ที่ผ่านมาพวกเขาแสดงละครหลอกเธอว่ายังรักกันหรือยังไง...
“ฉันย้ายออกไปคุณจะได้พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาไงคะ ไม่ดีเหรอไง” แม่ยืนกอดอกสายตาจ้องเขม็งมองพ่อเหมือนอยากจะกลืนกินเข้าไปทั้งร่าง เธอแสยะยิ้มด้วยใบหน้านึกรังเกียจเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าพ่อของลูกเธอนั้นมีผู้หญิงคนใหม่
“อย่ามาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าลูก!!” พ่อส่งเสียงดุ สองเท้าแกร่งเดินปรี่เข้าหาอดีตภรรยาตัวเอง ไอรีนมองดูภาพเหล่านั้นด้วยใจที่เต้นแรงเจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องมาเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันแบบนี้ ที่แท้พ่อของเธอก็มีคนใหม่นี่เองจึงทำให้แม่จำต้องย้ายออกไปอยู่ข้างนอก
แต่ทว่ายังไม่ทันที่ไอรีนจะคิดอะไรไปมากกว่านั้นพ่อก็ได้พูดต่อ...
“เธอเองก็ไม่ต่างกันนี่ได้ข่าวว่ามันเป็นฝรั่งด้วยนี่ หึ!” พ่อเหยียดยิ้มมองแม่อย่างนึกสมเพช สายตาที่ทั้งคู่มองกันไปมาทำไอรีนไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไป สุดท้ายพ่อกับแม่ต่างก็มีคนใหม่นี่เองจึงทำให้ต้องรีบแยกย้ายกันไป เอาละในเมื่อรู้แบบนี้แล้วก็ขอตัวไปทำใจคนเดียวซะยังดีกว่า
“ไอรีนขอตัวก่อนนะคะ” ไอรีนลุกขึ้นยืนเตรียมที่จะเดินขึ้นไปยังห้องตัวเอง สองเท้าสวยเดินผ่านพ่อกับแม่แล้วสาวเท้าเดินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน
“เดี๋ยวก่อนสิลูก” เสียงแม่ตะโกนตามหลังแต่ไอรีนเลือกที่จะไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย” เธอส่งเสียงพึมพำออกมาทันทีที่เดินเข้ามาในห้องนอน ร่างเล็กล้มตัวนอนลงบนเตียงใหญ่ ความคิดของเด็กสาวคิดไปต่างๆนาๆ อีกหน่อยถ้าพ่อกับแม่มีครอบครัวใหม่เธอมันก็เป็นแค่ลูก..ที่พวกเขาไม่ต้องการ เดี๋ยวพวกเขาก็มีลูกใหม่และเธอก็จะกลายเป็นเพียง ‘หมาหัวเน่า’ เท่านั้น
5 วันผ่านไป
ณ โรงอาหารของโรงเรียน
วันนี้ก็เป็นเช้าอีก 1วันที่ไอรีนกับเพื่อนๆมาโรงเรียนกันแต่เช้าและนี่เธอยังไม่ได้บอกใครใช่ไหมว่ากลุ่มของพวกเราน่ะมีด้วยกัน 3คน ซึ่งคนแรกที่จะแนะนำเลยก็คือยัยเพียวเพื่อนสนิทสุดรักที่พวกเราน่ะคบหากันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแล้ว ส่วนคนที่ 2 ก็คือ ยัยเชอรีน คนนี้คือคนสวยขาซึ่งเธอพึ่งย้ายโรงเรียนเข้ามากลางคันย้ายมาตอนที่พวกเราอยู่ม.6กันเนี่ยแหละและคนสุดท้ายที่จะแนะนำก็คือตัวฉันเองค่ะ
สวัสดีค่ะฉันชื่อไอรีน ชื่อจริงชื่อนางสาวนลินญา นามสกุลไม่ต้องรู้ไปหรอกนะคะเอาเป็นว่าตอนนี้พวกเรากำลังนั่งกินอาหารเช้ากันอยู่ที่โรงอาหารของโรงเรียนและฉันก็กำลังนั่งดูยัยเชอรีนเขินที่โดนแซวเรื่อง ‘เวหา’ เพื่อนชายร่วมชั้นเรียนห้องที่ 2
เฮ้อ~
แต่ถึงจะมีเรื่องให้น่าสนุกมากสักแค่ไหนแต่ในใจก็อดที่จะคิดไปถึงเรื่องของพ่อกับแม่ตัวเองไม่ได้อยู่ดีและในจังหวะที่ฉันกำลังนั่งครุ่นคิดอะไรอยู่นั้นเสียงหวานของยัยเชอรีนก็ดังขึ้น
“แล้วทำไมไอรีนนั่งหน้าเศร้าแบบนั้น” ฉันเงยหน้ามองไปยังเชอรีนพร้อมทั้งไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้เธอ
“ฉันเครียดๆน่ะมีเรื่องให้คิด”
“บอกพวกเราได้นะ พวกเรายินดีที่จะเป็นผู้รับฟัง” เชอรีนเอื้อมมือไปจับเข้าที่บ่าเล็กของฉันอย่างเบามือพลางส่งยิ้มให้อย่างจริงใจ ทั้งเธอและเพียวพร้อมที่จะเป็นผู้รับฟังในยามที่เพื่อนมีเรื่องให้คิดและกลุ้มใจและเมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองต้องการที่จะรับรู้ฉันจึงเริ่มพูดเรื่องที่วนอยู่ในหัวตัวเองในช่วงนี้ขึ้นมา
“พ่อกับแม่ฉันพวกท่านกำลังจะหย่ากัน!!”
“มันเรื่องของฉัน!” เร็นมองหน้าสวยหวานของรุ่นพี่สาวสายตาที่เขามองเธอมันเต็มไปด้วยความเย็นชาจนไอรีนนั้นเริ่มทนไม่ไหวปัง!!เธอตบโต๊ะอาหารอีกครั้ง เรื่องของฉันอย่างนั้นเหรอ ไอ้เด็กบ้านี่มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ“พูดจาห้วนๆแบบนี้อีกแล้วนะ ฉันแก่กว่านายนะ ไอ้เด็กบ้านี่!!” ไอรีนใบหน้ายู่ ชี้มือด่ากราดไปยังเด็กหนุ่มนิสัยไม่ดีตรงหน้า มีอย่างที่ไหนที่รู้จักกันแล้วแต่ก็ยังคงทำตัวพูดจาเดิมๆห้วนๆแบบนี้ใส่เธออยู่อีก“ไม่เอาน่าไอรีน ปล่อยน้องไปเถอะถือว่าพ่อขอแล้วกัน” พ่อเอื้อมมือมาจับแขนไอรีนพร้อมทั้งเอ่ยขอร้องแทนลูกชายของภรรยาใหม่ ไอรีนมองมือของพ่อที่จับแขนของเธอ นี่แค่วันแรกที่มันเข้ามาเหยียบในบ้านเองนะ พ่อยังขอร้องเธอให้มันขนาดนี้แล้วต่อๆไปเธอไม่กลายไปเป็นหมาหัวเน่าเลยเหรอ...“แต่ว่า..ก็แล้วแต่พ่อแล้วกันค่ะ ไอรีนขอตัวก่อนนะคะ” เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้าพ่ออยากให้พอเธอก็จะพอตามใจพ่อก็แล้วกัน ไอรีนหยัดกายลุกขึ้นยืนเมื่อคิดว่าตรงนี้ไม่น่าจะใช่ที่ของเธอแล้วเธอเดินสาวเท้าขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน เดินเข้าไปยังในห้องนอนของตัวเองและไม่ลืมที่จะบ่นไปยังได้เด็กผู้ชา
แม่บ้านรีบเดินออกไปเรียกลูกชายของน้าผกาและเพียงไม่นานชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีก็เดินเข้ามาตามหลังแม่บ้าน ผการีบลุกขึ้นยืนส่งเสียงดังเรียกชื่อลูกชายตัวเอง ความรู้สึกดีใจทำให้เธอเผลอลืมตัว“เร็น..มาแล้วเหรอลูก มานั่งข้างแม่เร็ว”“ครับ” เด็กหนุ่มขานรับเพียงแค่นั้นก่อนที่จะเดินเข้ามานั่งยังเก้าอี้ข้างแม่และเขาไม่รอช้าที่จะยกมือไหว้ไปยังสามีใหม่ของแม่ตัวเองพร้อมกับเริ่มแนะนำตัวเสร็จสรรพ“สวัสดีครับ ผมชื่อเร็น” เด็กหนุ่มยิ้มหน้าเจือนให้กับสามีใหม่ของแม่ตัวเองและทันทีที่ได้ยินคำแนะนำตัวที่ออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม พ่อของไอรีนก็ทำเพียงแค่ยิ้ม เขาเปรยตามองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเร็นเด็กหนุ่มคนนี้หน้าตาดีผิวพรรณใช้ได้แต่คงต้องค่อยๆสอนเรื่องมารยาทเสียหน่อย อาจจะเพราะยังเด็กยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยนั่นแหละจึงทำให้ไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างสักเท่าไหร่“หนูไอรีน นี่เร็น..ลูกชายของน้าเอง” น้าผกายิ้มกว้างเริ่มแนะนำลูกชายตัวเองให้ไอรีนได้รู้จัก เธอหวังเป็นอย่างยิ่งที่อยากจะให้เด็กทั้งสองได้อยู่ด้วยกันประดุจดั่งพี่น้องที่คลานตามกันมาแต่ทว่าเธอก็ไม่รู้เลยว่าเร็น..ลูกชายของเธอจะยอมย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่“เร
เก้าหยิบเงินที่อยู่ในกระเป๋านักศึกษาแล้วยื่นไปให้กับพนักงาน เขาหยิบถุงพวกนั้นขึ้นมาแล้วหยิบชานมไต้หวันของตัวเองเก็บไว้กับตัว ส่วนที่เหลือก็ยื่นไปให้เชอรีนให้จัดการแจกจ่ายให้กับเพื่อน และด้วยความที่เห็นว่าตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วเค้าก็ไม่ลืมที่จะถามไปถึงเรื่องของการเดินทางกลับบ้านของน้องสาวตัวเอง“แล้วนี่กลับยังไงให้พี่ไปส่งไหม”“เดี๋ยวลุงคนขับมารับค่ะพี่เก้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”“อืม” เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ“แล้วนี่เหนื่อยหรือเปล่า”“เหนื่อยค่ะ วันนี้เหนื่อยมากก็เลยว่าจะแยกย้ายกลับไปนอน” เชอรีนพยักหน้าแล้วทำหน้ายู่ วันนี้ยอมรับว่าเหนื่อยจริง เหนื่อยจนอยากรีบกลับไปอาบน้ำเปิดแอร์แล้วนอนเก้าลูบศีรษะลูกพี่ลูกน้องด้วยความเอ็นดู เขายิ้มให้กับเธอพร้อมกับค่อยๆใช้มือขยี้เส้นผมของเธอไปมา ไอรีนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ชื่นชมไปกับความน่ารักของพี่ชายเชอรีน“งั้นก็ดี พักผ่อนเยอะๆ พี่ไปก่อนนะ” ทันทีที่พูดจบหนุ่มรุ่นพี่คณะทันตะก็ได้เดินออกไปจากร้านทันทีเพราะวันนี้เขายังมีงานที่ต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จ“ยัยเชอ..” และทันทีที่พี่เขาได้เดินออกไปจากร้านแล้ว ฉันก็ได้เรียกชื่อเพื่อนสนิททัน
วิเวียนที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเพราะไม่คิดว่าเพื่อนใหม่ของเธอจะใจดีและดีกับเธอได้ถึงเพียงนี้และดูเหมือนจะเริ่มมีหยดน้ำตาไหลซึมออกมาจากดวงตาคู่สวย เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดคาบน้ำตาที่ไหลบนใบหน้าทันที“ขอบใจพวกเธอมากเลยนะ ดีกับเรามากจริงๆ ตอนอยู่มอปลายเราไม่มีเพื่อนเลย ตอนนั้นเราเป็นเด็กทุนเพียงคนเดียวของห้องด้วย” เธอพูดไปใบหน้าก็เริ่มเศร้าหมองในตอนเรียนมัธยมปลายนั้นเธอไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว ในห้องเรียนส่วนมากจะมีแต่พวกลูกคุณหนูจึงไม่แปลกที่พวกเธอเหล่านั้นจะไม่คิดที่จะเอาคนอย่างเธอไปเป็นเพื่อนเพียวยืนหยุดนิ่งแล้วรีบเดินเข้ามาโอบกอดร่างเล็กของวิเวียนทำไมชีวิตเธอถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ความจนนี่ถึงกับทำให้ไม่มีเพื่อนดีๆได้เลยหรือไง คอยดูนะเธอจะทำให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเธอกับวิเวียนก็สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้“เรื่องมันผ่านไปแล้วลืมๆมันไปได้แล้วตอนนี้แกมีพวกเรานะ จุ๊บๆ แล้วเดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกับแฟนของฉันด้วย เขาเรียนอยู่วิศวะมหาลัยนี้นี่แหละ ชื่อมาร์ช เธอจะได้มีเพื่อนหลายๆคน”“มาร์ช ที่พูดกันเมื่อกี้หรือเปล่า” วิเวียนเอียงคอสงสัย เหมือนว่าเธอจะได้ยินชื่อมาร์ชเมื่อครู่นี้ใช่มั้ยนะ เธอผละกาย
วิเวียนรับรู้ถึงความจริงใจของเชอรีนจึงทำให้เธอเผยรอยยิ้มออกมา ขอบคุณมากขอบคุณพวกเธอจริงๆที่อยากเป็นเพื่อนกับผู้หญิงจนๆแบบเธอ วิเวียนมีสีหน้าที่ดีขึ้นใบหน้าเริ่มคลี่ยิ้มอ่อนโยน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดสแกนเพิ่มเพื่อน“หวัดดีนะวิเวียน เราไอรีนยินดีที่ได้รู้จักต่อไปพวกเราเป็นเพื่อนกันนะ” ไอรีนกล่าวถ้อยคำสั้นๆทักทายไปยังเพื่อนสาวคนใหม่หวังว่าเธอคนนี้จะเป็นคนดีและเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันนะ“ขอบใจนะงั้นเดียวเราเข้าไปยื่นใบสมัครก่อนนะ ไว้เจอกันตอนเปิดภาคเรียนนะ” วิเวียนยิ้มกว้างรู้สึกโชคดีมากได้มาพบเจอกลุ่มของหญิงสาวสามคนนี้แต่เธอจำใจต้องขอจบบทสนทนาไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนเพราะในเวลานี้เธอแทบจะไม่มีเวลาหลงเหลือแล้ว คนจนแบบเธอต้องรีบเข้าไปยื่นใบสมัครแล้วต้องรีบกลับไปทำงานรับจ้างปูๆปลาๆตามประสางานอะไรก็ได้ที่มันได้เงินเธอพร้อมสู้ตาย....“โอเค เราดึงวิเวียนเข้ากลุ่มแล้วนะ บัยบายไว้เราทักไปนะ” เชอรีนเงยหน้าขึ้นมองสบตาเพื่อนใหม่พร้อมทั้งยกมือขึ้นร่ำลา ในตอนนี้เธอดึงวิเวียนเข้ามาในกลุ่มไลน์ของพวกเธอเรียบร้อยแล้ว วิเวียนโบกมือลาพร้อมกับรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปด้านในของคณะ“โอเคง
“โอเคเลย~”มาร์ชที่พอรู้ว่าคณะวิศวะของตัวเองอยู่ตรงไหนก็รีบสาวเท้าเดินออกไปทันที“งั้นพวกเราก็เข้าไปด้านในกันเถอะ” เพียวที่เห็นแฟนหนุ่มเดินออกไปแล้วจึงเอ่ยชวนเพื่อนรักทั้งสองให้เดินเข้าไปในคณะโดยที่มีเพียวกับไอรีนเดินนำอยู่ข้างหน้าแล้วตามด้วยเชอรีนเดินตามหลังคณะนิเทศศาสตร์ทันทีที่เธอได้เดินเข้าไปยังคณะ พวกเธอก็ได้พบกับหญิงสาวรายหนึ่งที่มองยังไงก็หน้าตาคล้ายกับเชอรีนไม่มีผิด ไอรีนกับเพียวต่างก็มองหน้ากันหรือว่าพี่คนสวยคนนี้จะเป็นญาติของเพื่อนเธอหรือเปล่านะ“มาแล้วเหรอเชอรีน~” แชมเปญหันไปมองเห็นน้องสาวของตัวเองเดินเข้ามาพอดีจึงทำให้เธอรีบเดินเข้าไปหา ใบหน้าสวยฉีกยิ้มขึ้นทำเอาไอรีนกับเพียวต่างก็รู้สึกชื่นชมไปกับความสวยของพี่เขา ผู้หญิงอะไรสวยชะมัด เชอรีนรีบเดินเข้าไปหาคนพี่ ทั้งสองโอบกอดกันกลมเพราะเป็นเวลาหลายวันแล้วที่เธอไม่ได้เจอพี่สาวคนโตเลย...“พี่แชมเปญคิดถึงจังเลยค่ะ~” คนน้องพูดขึ้นด้วยความคิดถึงทั้งสองผละกายออกจากกันแล้วก็เป็นเธอที่เริ่มแนะนำพี่สาวให้เพื่อนทั้งสองได้ทำความรู้จัก“พวกแกนี่พี่สาวเราเอง” ที่แท้สาวสวยคนนี้ก็เป็นพี่สาวของเพื่อนเธอนี่เอง ไอรีนกับเพียวต่างก็รีบยกมือขึ
ความคิดเห็น