21.49 น.
กดปลายจมูกลงบนต้นแขนของศิราช มือเล็กควานหาแมสก์ปิดจมูกในกระเป๋า ศิราชหันมาหาเธอประคองศีรษะเล็กแนบอก หยิบกระเป๋าของเธอออกมา มองหาแมสก์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ทั้งโต๊ะที่เห็นแบบนั้นก็พลอยมองมาด้วยท่าทางสงสัย
หยิบแมสก์ออกมาสวมให้เฟรญ่า ประคองใบหน้าเล็กไว้ในอุ้งมือ หยิบทิชชูออกมาซับน้ำตาให้เธอ
“ไม่เป็นอะไร” ลูบศีรษะเล็ก ดึงเธอเข้ามากอด เป็นคำพูดแรกที่เขาพูดกับเธอ หลังจากเงียบไปนาน เขากำลังเรียกเช็กบิลทั้งหมดเพราะทุกคนอิ่มกันแล้ว แต่ในระหว่างนั้นกลับมีคนเอาแก้วเบียร์เดินมาวางบนโต๊ะตรงหน้าที่เฟรญ่านั่งอยู่ โดยทับอยู่บนกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่ง มันจะไม่มีอะไรเลย ถ้าตัวของผู้ชายคนนั้นไม่มีกลิ่นของบุหรี่ติดมาด้วย จมูกเธอไวต่อกลิ่นพวกนี้มาก
ไอชิที่เห็นเฮียของตนไม่คิดจะให้ค่ากระดาษแผ่นนั้น ปลอบเมียตัวน้อยของตัวเองอย่างเดียว จึงลุกขึ้นเดินไปหยิบกระดาษขึ้นดู
‘ดูไม่ค่อยอยากรู้เท่าไหร่เลยนะ’
“อยากรู้จัก” อ่านออกเสียงออกมา ทุกคนบนโต๊ะต่างมองตรงไปที่ไอชิ คนที่วางแก้วเห็นแต่ด้านหลังจำไม่ได้ เพราะทันทีที่ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ เฟรญ่าก็แสดงอาการแพ้ออกมาทันที ทุกคนจึงหันมาสนใจเฟรญ่าแทน
“เฮีย มีคนอยากรู้จักเมียเฮียอ่า” เหมือนเป็นการพูดเพื่อจุดประกายไฟในดวงตาของศิราช เห็นดวงตาขวางอย่างเอาเรื่องของศิราชนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าตัวเองพูดย้ำอะไรออกมา
หยิบกระเป๋าตังค์วางลงบนโต๊ะ “ฝากจัดการ” ไหว้วานไอชิก่อนจะดันตัวลุกขึ้นพาเฟรญ่าออกไปจากร้าน
“พูดไม่ดูอีกแล้วมึง” คล้อยหลังศิราช ก๊วนถึงได้ตำหนิรุ่นน้อง “มึงก็รู้ว่าเฮียใหญ่เป็นคนอย่างไง”
เฮียศิราชคนจริง เอาจริง ดูออกว่าหวงของมากกกก ถล่มร้านและพร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายเต็มที่แน่นอน แต่เฮียศิราชคงไม่อยากแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวแบบนั้นต่อหน้าน้องเฟรญ่าหรอก ดูจากการควบคุมอารมณ์โดยการนั่งนิ่งเพื่อไม่ให้อารมณ์ระเบิดออกมาจนเกินควบคุม ก็ถือว่าสุดมากๆ แล้ว
“มันหลุดปากอ่ะเฮีย”
“ไปๆ จ่ายเงินจะได้กลับ” กิมเล้งว่า โบกมือไล่ให้ไอชิไปเคลียร์ค่าหมูกระทะวันนี้ ส่วนตัวเขาสองคนก็เดินออกจากร้านไปหาเฮียใหญ่ที่ยืนพาดแขนกอดคอน้องเฟรญ่าอยู่
“ฝากหน่อย กูจะไปเข้าห้องน้ำ” พูดทั้งที่ก้มหน้ามองคนในอ้อมแขน เฟรญ่ายังทำเสียงฝุดฝิดอยู่ใต้แมสก์ แต่พอออกมานอกร้านก็ดีขึ้นมาก
“ได้ครับ” ผละตัวจากเฟรญ่าเดินไปเข้าห้องน้ำ เธอยืนนิ่งอยู่กับที่ โดยมีก๊วนและกิมเล้งขนานนาบ มองลุงนัยที่กำลังยืนดูเด็กในค่ายมวยปีนขึ้นท้ายรถปิ๊กอัพเพื่อไปส่ง
“น้องเฟรญ่ารู้ไหมครับว่าเฮียใหญ่ไม่พอใจเรื่องอะไร” เงยหน้ามองคุณก๊วนที่ชวนเธอคุย ส่ายหน้าตอบเขา “ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบที่มีคนมายุ่งกับผู้หญิงของตัวเองหรอกนะครับ”
“ถึงจะงงนิดหน่อยแต่ก็พอเข้าใจได้ค่ะ” คุณก๊วนยิ้มส่งให้เธอเล็กน้อย เฟรญ่าถึงได้เงยหน้าขึ้นมองคุณกิมเล้งบ้าง “แล้วคุณกิมเล้งล่ะคะ มีอะไรจะบอกเฟรญ่าไหม” ดูจากสายตาของทั้งสองคน เหมือนมีอะไรอยากจะพูดกับเธอ
“อืม..อย่างไงดีล่ะ น้องเฟรญ่าน่าจะรู้จักเฮียดีกว่าใคร คงไม่มีอะไรต้องพูดแล้วมั้งครับ” เฟรญ่าเลือกที่จะพยักหน้ารับ ศิราชคงเห็นอะไรที่ไม่เข้าตาเขาละมัง ถึงได้นิ่งเงียบกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
“คุณกิมเล้งกับคุณก๊วนคิดว่าศิราชเป็นคนอย่างไงคะ”
“แล้วในมุมของน้องเฟรญ่าเฮียศิราชเป็นคนอย่างไง?” กิมเล้งถามเธอกลับ สอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง มองตรงไปด้านหน้า ไม่มองใบหน้าอ่อนใสของเมียเฮียใหญ่
หนึ่งคือไม่มองเพื่อกดดันเธอ
สองการมองผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมาก นมเป็นนมไล่ต่ำลงมาเป็นเอวคอด สะโพกผายอย่างน่าหึงหวงสัสสัส เป็นเรื่องที่เขาจะหลีกเลี่ยง จะมองก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าเฮียใหญ่เท่านั้น
“ปากร้าย โหด หื่น ห่าม แต่ก็ดูแลเฟรญ่าดีมาก ดีมาโดยตลอด^^” ยามพูดถึงเฮียใหญ่ดวงตาของผู้หญิงคนนี้เป็นประกาย ซึ่งมันเป็นเรื่องดี แต่น้องเฟรญ่าอาจจะลืมไปอีกสองข้อว่าเฮียใหญ่ขี้หึง ขี้หวงมาก เจ้าตัวอาจไม่ค่อยรู้ แต่คนนอกดูออกแน่นอน
“เฮียก๊วน! เฮียกิม!” เสียงไอชิวิ่งเข้ามาหา หอบเหนื่อยหายใจ หยุดยืนตรงหน้า “เฮียใหญ่มีเรื่อง ตีกับใครไม่รู้” พูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ตรงไหนนำไปสิวะ!” ก๊วนพูดก่อนจะวิ่งตามไอชิไป เฟรญ่าที่ได้ยินแบบนั้น หัวใจดวงน้อยก็พลันเหมือนถูกกระชากอย่างรุนแรง เมื่อก่อนตอนเขาต่อยตีกับใครแล้วเธอได้ข่าวแบบนี้ทีไร เขาก็กลับมาหาเธอด้วยสภาพเละเทะ จนเธอหวาดผวาทุกครั้ง
ศิราชเดินมาเข้าห้องน้ำ ตั้งใจจะล้างหน้าเพื่อระบายความตึงเครียดที่สะสมแน่นอยู่ในอกจนยากจะอธิบาย เขาไม่อยากขับรถกลับด้วยสภาพแบบนี้ วักน้ำขึ้นมาล้างหน้า เท้าแขนอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า มองสีหน้าของตัวเองผ่านกระจก
“ผู้หญิงที่อยู่คาเฟ่ที่มึงไปสักกับคนที่ชื่อศิราชอะนะ”
“เออ โคตรแจ่มกูพูดแค่นี้ นมโคตรใหญ่ ขาวสัส”
“กูขำตอนมึงเดินเอาโน้ตไปให้เขาฉิบหาย เขาหันหน้าหนีทำท่าทางรังเกียจมึง”
“เขาไม่รู้ว่ากูแซ่บแบบฉิบหายไง พูดแล้วเจ็บใจกูอุตส่าห์ทำตัวแสนดีอาสาตักไอติมให้”
“น้องเขามากับผัวเปล่า”
“กูไม่รู้โว้ย! กูแค่อยากลองดู ถ้าได้จะจับฟัดเช้ากลางวันเย็นก่อนนอน เบื่อแล้วกูจะส่งต่อให้มึง พูดแล้วก็แข็งขึ้นมาเลยว่ะ ฮ่าๆ”
เป็นการฟังที่ใช้ความอดทนมากที่สุดเท่าที่เขารู้สึกได้ มือทั้งสองข้างกำแน่น ดวงตาแข็งกร้าวจ้องกระจกห้องน้ำ ถ้าดวงตาเขาสามารถทำให้กระจกแตกได้ มันคงแตกละเอียดไปแล้ว
“กูถ่ายคลิปไว้ด้วย ตอนกูขอนั่งด้วยไม่ให้นั่ง เสือกย้ายไปนั่งตรงอื่น ขาขาวแค่ไหนมึงดู จับนิดเดียวก็แดงแล้ว มันเขี้ยวว่ะ อยากฟัด เหี้ยไรว่ะ!?” สบถออกมาเมื่อสมาร์ตโฟนที่ถืออยู่ถูกแย่งไปใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงของใครบางคน
หมัดหนักๆ ถูกประเคนใส่ใบหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัวจนล้มลง ศิราชกระทืบเท้าบนหน้ามัน ก่อนจะตามลงไปปล่อยหมัดใส่หน้ามันไม่ยั้ง
รู้ไหมว่าช่วงเวลาไหนที่เขาน่ากลัวมากที่สุด
ก็ตอนที่ระดับการควบคุมอารมณ์ของเขาขาดกระเจิงออกจากกันอย่างไงล่ะ มันพร้อมที่จะพังทุกอย่างไม่ให้เหลือซากโดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น
6 วันถัดมา..เช้าวันใหม่ศิราชวิ่งออกกำลังกายตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เขาวิ่งทว่าเฟรญ่าปั่นจักรยานตาม เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ตอนเช้า และเพื่อไปเที่ยวดูสวนทุเรียนของคุณพ่อด้วยคุณพ่อกับคุณแม่เข้าสวนตั้งแต่เช้าไปดูคนตัดทุเรียน เฟรญ่าจึงถือโอกาสออกกำลังกายขาด้วยการปั่นจักรยานเพื่อไปหาท่านขับมาถึงหน้าสวน ตั้งขายั้งกับพื้น เดินเข้าไปในสวนพร้อมกับศิราช เฟรญ่ามาอยู่ที่นี่เกือบอาทิตย์ เธอยังไม่ได้เข้าสวนทุเรียนสักครั้ง มัวแต่หากิจกรรมทำกับครอบครัว เป็นต้นว่าพาคุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันใกล้ๆ บ้าน ให้คุณพ่อได้ทำความคุ้นเคยกับว่าที่ลูกเขย“เดินดีๆ” มองเฟรญ่าที่เดินเซไปเซมาเพราะพื้นไม่เสมอเรียบเหมือนพื้นปูน “บอกว่าเป็นลูกชาวสวนใครจะเชื่อ” ส่ายหน้ามองเธอ“เฟรญ่าไม่ได้ใส่ผ้าใบมานี่คะ เลยเดินไม่คล่องตัว” ชายหนุ่มจับมือเธอ ตรงเข้าไปหาคุณพ่อ การปรากฏตัวพร้อมกันของทั้งคู่ เหมือนเป็นการประกาศว่าที่ลูกเขยของที่นี่ก็ไม่ปาน“น้องเฟรญ่าของพี่~” เสียงยานเรียกเฟรญ่าดังขึ้นบนต้นทุเรียน “จำพี่ได้ไหมจ๊ะ” บอกตรงจำไม่ได้ แต่เฟรญ่าก็เลือกที่จะอมยิ้มส่งให้ “จำไม่ได้แต่พี่จำน้องเฟรญ่าได้นะจ๊ะ คนสวยของพี่~”
ดินเนอร์มื้อค่ำง่ายๆ เกิดขึ้นหน้าบ้าน ศิราชกับคุณพ่อไม่มีบรรยากาศอึมครึมต่อกัน แถมยังดูเข้ากันง่ายขึ้นเพราะกินเหล้าเหมือนกันชายหนุ่มตักหมูกระเทียมให้เธอเพราะเห็นว่าอยู่ไกลมือ การใส่ใจของศิราชอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ทั้งหมด แม้จะมีการดูแลคุณพ่อคุณแม่ของเฟรญ่าเพื่อเรียกคะแนนอยู่บ้าง แต่การดูแลลูกสาวของตนดูออกง่ายมาก ว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติเพราะทำแบบนี้ให้เฟรญ่าบ่อย“เฟรญ่าอยากกินกุ้งหรือเปล่าลูกรัก” คุณพ่อพูดและหันไปมองศิราช “ให้พ่อตักให้ไหม”“เฟรญ่าแพ้กุ้งครับ” ศิราชพูดดักเอาไว้“ฮึ” ยกแก้วเหล้าขึ้นกิน พูดไปงั้นแหละ อยากรู้ว่าเขยจะรู้หรือเปล่าว่าเฟรญ่าแพ้ ดูจากการตอบสนองจากคำถามที่ถามเฟรญ่า สีหน้าก็ออกทันที“ถ้าเฟรญ่ามาอยู่ที่นี่ คงมีหนุ่มจีบตรึม เนื้อหอมมากรู้หรือเปล่า” คุณพ่อพูดกับใครไม่มีใครรู้ เสมือนพูดขึ้นมาลอยๆ“แต่เฟรญ่าชอบศิราชค่ะ” พูดกับคุณพ่อยิ้มๆ ได้รับเสียงหัวเราะจากคุณแม่เป็นการยกใหญ่“คุณก็อย่าแกล้งลูก” คุณแม่หันไปพูดกับคุณพ่อ“แล้วศิราชล่ะชอบลูกสาวพ่อหรือเปล่า ไม่สิรักหรือเปล่า ชอบมันพูดง่ายเกินไป มาเพื่อที่จะขอเฟรญ่าแต่งงานคงไม่ตอบว่าแค่ชอบหรอกใช่ไหม?”เฟรญ่าอมยิ้
“คุณพ่อจะไปไหนคะ” เดินเข้ามาในบ้าน เห็นคุณพ่อสวมเสื้อแขนยาว เหมือนจะออกไปไหน แถมยังโยนเสื้อแขนยาวอีกตัวให้ศิราชอีกด้วย ชายหนุ่มเองก็รับเอาไว้ได้ทัน“จะเข้าสวน พ่อหนุ่มตามมา จะเป็นลูกเขยของชาวสวน ก็ต้องเก็บทุเรียนให้เป็น”“คุณพ่อ…” เรียกท่านเสียงอ่อน มองตามหลังท่านที่เดินผ่านเธอไป ศิราชเองก็สวมเสื้อและเดินตามท่านไปเช่นกันเฟรญ่ากังวล เพราะกลัวว่าคุณพ่อจะทดสอบอะไรแผลงๆ ถึงศิราชจะไม่ใช่คนที่ใช้ชีวิตฟู่ฟ่าหรูหรา แต่เขาก็ไม่เคยลำบาก แถมตอนนี้แดดยังร้อนจัดอีกด้วย ขนาดเธอเป็นลูกเจ้าของสวน เฟรญ่ายังไม่เคยเก็บทุกเรียนเองเลยมันต้องใช้ความชำนาญ ซึ่งมีคนงานคอยทำหน้าที่นี้อยู่แล้วคุณพ่อนะคุณพ่ออยากเดินตามทั้งสองคนไป แต่คุณแม่จับแขนเธอเอาไว้ พร้อมส่ายหน้า“เราซื้ออะไรมาเยอะแยะจ๊ะ พาแม่ไปดูหน่อยสิ เตรียมมื้อเย็นให้ทั้งสองคนนั้นด้วย กลับมาคงเหนื่อยและหิว” มองคุณแม่อ้อนๆ แต่ในเมื่อท่านยังคงส่ายหน้าเฟรญ่าจึงจำยอม เดินตามท่านไปในครัว“ตอนนี้ทำงานอะไร” เปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างคนขับ คุณพ่อของเฟรญ่าใช้รถกระบะขับเข้าไปในสวนที่อยู่ห่างออกไป“เปิดร้านสักครับ มีหุ้นธุรกิจกับเพื่อนอีกนิดหน่อย” ตอบท่านอย่างตรง
สองอาทิตย์ต่อมา..เลื่อนกระเป๋าไปให้ศิราชยกขึ้นท้ายรถ เฟรญ่ายิ้มตั้งแต่ตื่นเช้า เธอทั้งตื่นเต้นมากและยินดีมาก เพราะวันนี้เป็นวันที่ศิราชจะเดินทางไปพบคุณพ่อกับคุณแม่ของเธอท่านเป็นคนต่างจังหวัด และศิราชต้องการขับรถไปเอง แม้จะเหนื่อยหน่อยแต่มันสะดวกต่อการเดินทาง จะแวะที่ไหนก็ได้ระหว่างทาง และเฟรญ่าชอบนั่งรถมากกว่านั่งเครื่องบิน“ไม่ต้องยก” หันมาพูดกับเธอ “พูดไม่ฟังเดี๋ยวโดน” เฟรญ่าย่นจมูกใส่เขา เธอแค่อยากช่วยเขายกกระเป๋าเอง อีกอย่างมันเป็นใบเล็ก“โดนอะไรคะ”“โดนจับจูบ ถ้าไม่อายเด็กในค่ายก็ลองยกอีกรอบ” เฟรญ่าหันไปมองเด็กในค่ายมวยที่มองตรงมายังเธอ ก่อนจะเบือนหน้าหนี“อายค่ะ ไม่ยกแล้ว” ก้าวขาถอยหลัง แต่เฟรญ่ากลับถูกดึงให้กลับเข้าไปชิดตัวเขา “อื้อออ” ชายหนุ่มจูบหนักๆ บนปากนุ่ม“ยิ้มตั้งแต่เช้า ตอนนี้ก็ยังไม่หยุดยิ้ม”“เหมือนคนบ้าไหมคะ” ยิ่งเขาพูดเธอก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น“ไม่เหมือน” ส่ายหน้าตอบ “ไม่มีคนบ้าที่ไหนน่ารักเท่าเธอแล้วเฟรญ่า”“ฮืออออ” วางมือบนแผ่นอกกว้าง ก่อนจะกดหน้าลงเพื่อหลบซ่อนความเขินอายของตัวเองชายหนุ่มปล่อยตัวเธอ ยกกระเป๋าใบสุดท้ายขึ้นรถ ก่อนจะจูงมือเฟรญ่าไปขึ้นรถเพื่อออกเดินท
07.40 น.วางถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะ มองคนตัวโตเดินลงบันไดตรงมาที่โต๊ะทานข้าว วันนี้เฟรญ่าทำข้าวต้มเองในครัว ไม่ได้ออกไปทำที่ร้านเฉกเช่นทุกวันชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะดึงเฟรญ่านั่งลงบนตัก เกยคางบนไหล่บอบบาง “วัดไข้ให้หน่อย” จับมือเล็กวางบนหน้าผากเขา “ยังมีไข้อยู่ไหม”เฟรญ่าอมยิ้ม หอมแก้มของชายหนุ่มเป็นการเอาใจคนป่วย “ตัวไม่ร้อนแล้วค่ะ” เมื่อคืนเธอคาดการณ์ว่าเขาอาจไข้สูง แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น หลังจากกินยา อาบน้ำ นอนพัก แปะแผ่นเจลลดไข้ ศิราชก็ไม่ไข้อีกเลย “ตัวเย็นมากเลย”“เพราะเพิ่งอาบน้ำมา” เฟรญ่าพยักหน้ารับ เพราะกลิ่นครีมอาบน้ำยังติดตัวเขาอยู่เลย “ป้อนหน่อย” มองข้าวต้มในถ้วย บอกเฟรญ่าชิดริมหูเฟรญ่าอมยิ้มน้อยๆ นานทีเธอจะเจอศิราชโหมดนี้ ใช้ช้อนตักข้าวต้มเป่าป้อนเขา ศิราชก็อ้าปากรับกินจนหมด วันนี้เขานอนตื่นสายกว่าทุกวัน อยากลุกไปออกกำลังกายตามความเคยชิน แต่ก็โดนเมียตัวน้อยห้ามเอาไว้ แถมยังขู่อีกด้วยว่า หากเขาดื้อ เธอจะขังเขาเอาไว้ในห้องตัวก็แค่นี้ยังมีหน้ามาขู่ ทว่าศิราชก็ยอมทำตาม“วันนี้หยุดทำงานสักวันดีไหมคะ”“เมื่อกี้ฉันมีไข้ไหม” เฟรญ่าส่ายหน้าตอบ “แสดงว่าหายแล้ว”“แต่อาจจะยังไม่
19.00 น.‘มึงอยากให้กูจัดการแบบไหน’ เสียงพูดธิเบศร์ดังผ่านมือถือเข้ามากระทบหูเขา ศิราชถอดถุงมือโยนใส่ถังขยะ เพราะพึ่งสักให้ลูกค้าเสร็จ ทว่ายังไม่เสร็จทั้งหมด ต้องมาทำต่ออีกในวันพรุ่งนี้“แล้วแต่ดุลพินิจ” ตอบเรียบๆ หันไปคว้าเสื้อแขนยาวมาพาดบ่า มองนาฬิกาบนข้อมือเพียงนิด “สองคนนั้นทำร้ายว่าที่น้องสะใภ้มึง”‘…’“น้องสะใภ้คนแรกของมึง”‘เออ’ ตอบรับอย่างหงุดหงิด รู้อยู่หรอกว่าเฟรญ่าเป็นว่าที่น้องสะใภ้ มีใครไม่รู้บ้าง ธิเบศร์เองก็เพิ่งรู้เรื่องว่าพ่อของเขาไปหาว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยตัวเอง ไปดูให้เห็นกับตา“จัดการให้เหมาะสมแล้วกัน”‘ไอ้เวร ทำไมมึงไม่จัดการเองวะ’“หรือมึงจะคอยตามเช็ดให้กู?” ศิราชจัดการเองได้ แต่เพราะเขาละเอียดไม่มากพอ เส้นสายไม่เยอะเท่าธิเบศร์ อารมณ์ร้อนดั่งไฟ เผลอพลั้งมือทำอะไรเกินกว่าเหตุคงไม่ใช่เรื่องดี “จะเอาอย่างนั้นก็ได้ กูไม่มีปัญหา”‘เฮ้อ เดี๋ยวกูจัดการเอง เก็บเงินเตรียมแต่งน้องสะใภ้กูแล้วกัน’“อย่าห่วง เฟรญ่าพร้อมเมื่อไหร่แต่งเมื่อนั้น”‘เออ กูรอดู’สายถูกตัดไป ชายหนุ่มเดินออกจากห้อง มองเฟรญ่าที่นั่งกินผัดไทยอยู่บนโซฟา ดวงตาคู่สวยมองซีรีเกาหลีบนหน้าจอไอแพด โดยมีไอชินั่งเล่น