Share

บทที่2 เตรียมตัว

last update Последнее обновление: 2025-02-14 02:43:55

เครื่องใช้ไฟฟ้า

(electrical appliance)

โซนเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นโซนที่มีลูกค้ามาซื้อประจำในห้างนี้ และเหอเสี่ยวหงก็เลือกที่จะไปเป็นที่แรก เพราะเธอตั้งใจจะมาหาซื้อกระติกน้ำร้อน

“สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง ไม่ทราบคุณผู้หญิงกำลังมองหาเครื่องใช้อะไรคะ ดิฉันสามารถแนะนำให้ได้”

พนักงานที่ดูแลโซนเครื่องใช้ไฟฟ้ารีบเดินเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นเหอเสี่ยวหงเดินเข้าโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกับผู้ติดตาม

เหอเสี่ยวหงไม่ได้ตอบพนักงานที่ถาม แต่เธอมองหากระติกน้ำร้อนที่ตั้งใจจะมาซื้อ พอเห็นก็รีบเดินไปดูทันที

“อุ๊ย! คุณผู้หญิงตาถึงจริง ๆ ค่ะ! นี่คือกระติกน้ำร้อนรุ่นลิมิเต็ดที่เลียนแบบยุคสมัยก่อน และเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตมาจำนวนจำกัดไม่สามารถผลิตเพิ่มได้แล้ว ราคาจะอยู่ที่ 1,239 หยวนค่ะ” 

หากซื้อกระติกน้ำร้อนรุ่นธรรมดา ราคาจะไม่ถึงหนึ่งพันหยวน แต่เนื่องจากทางโรงงานผลิตเห็นว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาล จึงผลิตขึ้นมาเพียง 1,000 ใบ พร้อมกับส่งตรงให้แค่ห้างในเครือของที่นี่

“หากคุณผู้หญิงมีบัตรสมาชิกของห้าง สามารถใช้แลกแก้วเก็บอุณหภูมิต่อการซื้อกระติกน้ำร้อนหนึ่งใบต่อหนึ่งใบ แต่ถ้าไม่มีบัตรสมาชิก ดิฉันสามารถพาไปสมัครได้ค่ะ” พนักงานสาวแนะนำลูกค้า

เหอเสี่ยวหงพยักหน้า “เอาทั้ง 10 ใบเลย” ว่าแล้วก็เดินไปยังโซนอื่น ปล่อยให้ลุงฟ่านเป็นคนจัดการ

ต่างจากพนักงานสาวที่นิ่งอึ้งไปแล้ว เนื่องจากการขายของแต่ละอย่างนั้น พนักงานคนไหนที่ขายได้ก็จะได้ห้าเปอร์เซ็นต์ของราคาขาย ยิ่งขายได้เยอะพนักงานก็จะได้เยอะตาม

โซนเสื้อผ้า

   (clothes)

“ยัยหงเอาผ้าด้วยไหม”

หยาดฟ้ารีบเดินเข้าไปในโซนเสื้อผ้า ที่มีม้วนผ้ารวมอยู่ด้วย

“แกดูสิ เนื้อผ้าแบบนี้ถ้าตัดออกมาแล้วคงจะใส่สบายมาก” หยาดฟ้ารีบหยิบม้วนผ้าตัวอย่างขึ้นมาให้เพื่อนสนิทดู

นอกจากจะบอกให้เหอเสี่ยวหงดู หยาดฟ้าก็เดินเลือกผ้ามาหลายร้อยม้วน รถเข็นที่เอามาห้าคันถึงกลับเต็ม ไม่ว่าจะเป็นม้วนผ้าสีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม สีชมพูพีท สีฟ้า สีส้ม สีม่วงอ่อน สีน้ำเงิน สีเทา สีขาวและสีดำ

ช่วงนี้ทางห้างมีโปรซื้อม้วนผ้าหนึ่งม้วนจะแถมด้ายที่สีเดียวกับผ้าให้อีกหนึ่ง ซึ่งเหอเสี่ยวหงยังขอซื้อมาเพิ่มอีกหนึ่งร้อยเพราะเธอคิดว่ามันจะไม่พอ และได้ซื้อไหมพรมมาด้วย

“มีขนมแนะนำไหม แบบเอาไว้กินตอนว่างงี้” เหอเสี่ยวหงถาม

หยาดฟ้าหันมามอง “มี แต่มันน่าจะอยู่อีกโซน” พอเห็นเหอเสี่ยวหงพยักหน้า หยาดฟ้าก็รีบลากเธอไปยังโซนขนม

โซนขนม

    (candy)

“ฉันเห็นว่าดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ขนมแบรนด์นี้เยอะมาก เห็นว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบกินขนมแต่รักสุขภาพ” หยาดฟ้าหยิบคุกกี้แบรนด์ดังที่กำลังเป็นกระแสอยู่ขึ้นมาให้ดู

“มีรสวานิลลา นม แล้วก็ช็อกโกแลต เอาทั้ง 3 รสก็ได้” เหอเสี่ยวหงบอก

หยาดฟ้าพยักหน้าแล้วหยิบกล่องคุกกี้ลงรถเข็น รสชาติละ 20 กล่อง ซึ่งมันเป็นกล่องใหญ่ที่สามารถกินได้หลายคน

“บราวนี่กรอบอันนี้ก็อร่อยนะ มีทั้งชาเขียว ชาเย็น แล้วก็ช็อกโกแลต เป็นแบรนด์เดียวกันกับคุกกี้เลย” หยาดฟ้าแนะนำ

“ทำไมแกรู้จัก” เหอเสี่ยวหงสงสัยจริง ๆ เพราะหยาดฟ้าก็ตัวติดกับเธอแทบจะตลอดเวลา เอาเวลาไหนไปหาขนมแบรนด์ไหนอร่อย ใครเป็นพรีเซ็นเตอร์

หยาดฟ้าหัวเราะ “นี่ใคร หยาดฟ้าเชียวนะ ทางแบรนด์เขาเก่งการตลาดมากดึงดารา ไอดอลดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โฆษณา” และเธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกการตลาดครอบงำ 

“แกก็จริง ๆ” เหอเสี่ยวหงส่ายหน้า

จากนั้นทั้งสองก็เดินเลือกซื้อของอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตชิบ นมผง นมอัลมอนด์ นมอัดเม็ด และผงเวย์โปรตีน ก่อนจะพากันไปจ่ายเงิน

หยาดฟ้าขึ้นนั่งบนรถฝั่งคนขับเอ่ยถามเหอเสี่ยวหงที่นั่งข้างคนขับข้าง ๆ กัน “ไปร้านเครี่ป๊อปกันไหมยัยหง”

เหอเสี่ยวหงยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาบนนาฬิาแล้วตอบ “ร้านเครี่ป๊อปไม่ปิดแล้วเหรอ”

เครี่ป๊อปเป็นร้านค้าขายส่ง – ขายปลีก ไม่ว่าเป็นธัญพืช ข้าวสาร แป้ง พวกของทำเบเกอรี่ พวกเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เตาอบ ผักสดหรืออาหารสด ที่ร้านเครี่ป๊อปก็มี

“เนี่ยอีกครึ่งชั่งโมงก็ปิด เราไปถึงก็มีเวลาประมาณ 20 นาที ลูกค้าคนอื่นก็น่าจะกลับหมดแล้ว แกก็มีรายการของอยู่ไม่ใช่เหรอ เอาให้เขาจัดให้ก็ได้นี่ ไม่งั้นก็ให้เขาเอาไปส่งที่บ้านก็ได้” ถึงปากจะบอกแต่หยาดฟ้าก็ขับรถตรงไปที่ร้านแล้ว

เหอเสี่ยวหงทำได้เพียงส่ายหน้า เพราะต่อให้ปฏิเสธหยาดฟ้าก็พาเธอไปอยู่ดี

เครี่ป๊อป

ป้ายชื่อหน้าร้านเด่นหลาตั้งแต่ที่รถของหยาดฟ้ากับเธอยังไม่เข้าใกล้ร้านเลย ยิ่งพอจอดรถแล้วป้ายมันก็ใหญ่มาก

“เอ๊ะ! สวัสดีค่ะคุณเหอ สวัสดีค่ะคุณหยาด ไม่ได้เจอกันนานสวยขึ้นรึเปล่าคะ”

“สวัสดีค่ะผู้จัดการจิง เราเพิ่งเจอกันไม่ยังถึงสัปดาห์เลยค่ะ” หยาดฟ้าหัวเราะ

“แหม่ ผู้จัดการจิงคะ มาคุณหงคุณเหออะไรกันคะ เราคนกันเองทั้งนั้น เรียกเสี่ยวหงก็ได้ค่ะ” เหอเสี่ยวหงยิ้ม

เสวี่ยจิงเป็นผู้จัดการร้านเครี่ป๊อปที่เหอเสี่ยวหงกับหยาดฟ้ามาซื้อของทีไร ผู้จัดการจิงก็จะเป็นคนมาจัดการให้ เพราะเหอเสี่ยวหงจะซื้อของครั้งละมาก เรียกได้ว่าเธอเป็นลูกค้าคนสำคัญของร้านเลยก็ว่าได้

“คุณเหอต้องการซื้ออะไรคะ แต่ถ้าจำไม่ผิดเพิ่งจะซื้อกันไปไม่ใช่เหรอคะ” เสวี่ยจิงถาม เพราะปกติไม่เหอเสี่ยวหงก็หยาดฟ้าที่จะมาซื้อของทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน

“นี่เป็นรายการสินค้าที่ฉันต้องการค่ะ ถ้าเป็นไปได้พวกข้าวสารหรือธัญพืชฉันขอแยกเป็นถุงละ 1 ชั่งนะคะ” เหอเสี่ยวหงยื่นรายการของให้กับผู้จัดการจิง

“โอ้! เยอะขนาดนี้เลยเหรอคะ น่าจะใช้เวลานานเลยค่ะ เพราะพนักงานบางคนพักกันแล้ว” เสวี่ยจิงบอกลูกค้า

“ไม่มีปัญหาค่ะ เอาใส่รถด้านนอกได้เลย”

“ดิฉันขออนุญาตทบทวนรายการที่สั่งนะคะ มีข้าวสาลี ข้าวฟ่าง 300 ชั่ง ข้าวโพดดิบ 100 ชั่ง แป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า แป้งมันเทศ แป้งข้าวโพด แป้งอเนกประสงค์ แป้งเค้ก 50 ชั่ง น้ำตาลไอซิ่ง น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลกรวด เกลือ อย่างละ 50 ถุง เนยจืด เนยเค็ม 20 กระปุก ตระกูลถั่วชนิดละ 30 ชั่ง ไข่ไก่ ไข่เป็ดอย่างละ 100 แผง ฟองเต้าหู้ สาหร่าย เห็ดหูหนู เก๋ากี้ พุทราแห้ง 50 ชั่ง พูดถูกไหมคะ? อยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกได้เลยค่ะหรือถ้าอยากเดินดูก็สามารถเดินได้เลยค่ะ ดิฉันเพิ่มเวลาปิดร้านให้” เสวี่ยจิงยิ้ม

ในเมื่อลูกค้ารายใหญ่ของร้านมาหาถึงที่ มีเหตุผลอะไรที่ต้องไล่ลูกค้าด้วย อีกทั้งต่อให้ร้านปิดช้าพนักงานทุกคนก็ได้เงินเพิ่มอีกด้วย

รถเข็นจำนวนสี่คันถูกเข็นตามหลังเหอเสี่ยวหงที่เดินเลือกซื้อของ และโซนแรกที่เธอได้เดินไปคือโซนเครื่องปรุงเพราะยังไม่ได้เขียนลงในรายการ

“เอารสดี ผงชูรส ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรสฝาเขียว น้ำปลา น้ำมัน กะทิ แป้งทอดกรอบ แล้วก็เอาซอสอะไรก็ได้ผสมกัน”

เหอเสี่ยวหงหันไปสั่งลุงฟ่านกับคนงานในสวน ที่ตามมาช่วยให้หยิบใส่รถเข็นแต่เธอก็ช่วยด้วย เครื่องปรุงพวกนี้เป็นของนำเข้าจากประเทศไทยที่เธอชอบมาก

“ได้ครับคุณเหอ”

ครืน ครืน

“ยัยหงคุณนายเหอโทรมาอีกแล้ว”

หยาดฟ้าเรียกเหอเสี่ยวหงที่ช่วยคนงานหยิบของใส่รถเข็น และที่ต้องติดต่อผ่านหยาดฟ้าก็เพราะถูกเหอเสี่ยวหงบล็อกช่องทางการติดต่อ

“เฮ้อ” เหอเสี่ยวหงถอนหายใจ

ที่เธอไม่ค่อยยุ่งกับครอบครัวของเธอในชาตินี้ก็เพราะเธอรู้ว่าตัวเองต้องกลับไปในที่ที่จากมา อีกอย่างถ้าเธอให้ความช่วยเหลือตลอดทุกคนก็จะเคยตัว

“แล้วจะรับสายไหม” หยาดฟ้ามองบน เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมพ่อแม่ของเพื่อนสนิทเธอถึงเป็นแบบนี้ 

“รับก็ได้” เหอเสี่ยวหงพยักหน้าก่อนจะรับโทรศัพท์จากหยาดฟ้ามาแนบหู

ถึงเธอจะไม่ค่อยยุ่งกับครอบครัว แต่ทุกเดือนเหอเสี่ยวหงก็จะกินข้าวด้วยเดือนละ 2-3 ครั้ง แต่ช่วงนี้มันใกล้หมดเวลาจึงยุ่งมาก ก็เลยไม่ได้ไปหา

“คุณแม่มีอะไรคะ”

(แกอยู่ไหน!) เสียงตะคอกผ่านโทรศัพท์ทำให้เหอเสี่ยวหงต้องยกโทรศัพท์ออกจากหู

“หนูมาซื้อของกับหยาดฟ้าแล้วก็คนงานในสวนค่ะ”

(อะไร? แกลืมนัดของฉันไปแล้วหรือยังไง)

“แม่คะ หนูไม่ว่างเลยค่ะช่วงนี้ หนูก็บอกแม่ไปแล้ว”

(แต่ฉันเป็นแม่แกนะ!)

เหอเสี่ยวหงเงียบก่อนจะกดตัดสายเพราะไม่ต้องการจะทะเลาะ พอดีกับหยิบของใส่รถเข็นครบจึงส่งโทรศัพท์คืนหยาดฟ้า

“ตามหงมาทางนี้ค่ะลุงฟ่าน”

“เอาปลากระป๋อง ทูน่า กระเทียมดอง มาม่าแล้วก็โจ๊กค่ะ”

“แกรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ ฉันจะไปหาเดินดูของสักหน่อย” หยาดฟ้าไม่รอให้เหอเสี่ยวหงตอบก็รีบเข็นรถเข็นที่ว่างไปทันที

“อ้าว” เหอเสี่ยวหงยืนงง

“คุณเหอครับ ลุงจะเอาของไปไว้ที่จ่ายเงินนะครับ จะไปเอารถเข็นคันใหม่มาด้วย” ลุงฟ่านรีบสะกิดบอก

“ได้ค่ะ หงจะเดินดูรอบ ๆ นี้”

“โอเคครับ ไป ๆ เอาของไปจ่ายเงิน” ลุงฟ่านหันไปบอกลูกน้องที่ตามมา

เหอเสี่ยวหงมองลุงฟ่านกับลูกน้องที่ตามมาช่วยกันเข็นรถเข็นไปจนสุดสายตา “เฮ้อ เมื่อไหร่จะได้กลับไปกันนะ” เมื่ออยู่คนเดียวเหอเสี่ยวหงก็น้ำตาไหล

จากลูกจากสามีมาหลายสิบปีเธอย่อมคิดถึง ไม่รู้ว่าลูกสาว หลานสาว พี่สะใภ้ พี่เขย

 สามีของเธอจะเป็นยังไงกันบ้าง แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เหอเสี่ยวหงสำนึกผิดแล้ว เธอเสียลูกจึงขาดสติ

“ยัยหงงงง ฉันมาแล้ววว” เสียงของหยาดฟ้าตะโกนมาตั้งแต่ยังไม่ถึง

เหอเสี่ยวหงรีบเช็ดน้ำตาแล้วส่ายหน้าให้กับหยาดฟ้า ที่เรียกซื้อของมาเต็มรถเข็น

“ยัยฟ้า แกไปเอาอะไรมาเยอะขนาดนั้น” เหอเสี่ยวหงตกใจ

“นิดเดียว ๆ “ หยาดฟ้าหัวเราะ

“ของพวกนี้เอาไว้ชงกินตอนเช้า ไม่ก็ทำเป็นน้ำหวานให้คนในบ้านดื่ม ฉันคิดว่าแกคงทำได้ และแกก็ชอบมากไม่ใช่เหรอ” หยาดฟ้าอธิบาย อีกอย่างของที่ซื้อก็เป็นของที่เพื่อนสาวดื่มเป็นประจำ

“อืม เอาไปจ่ายเงินกันเถอะ เลยเวลานานแล้ว” เหอเสี่ยวหงว่าหลังยกนาฬิกาขึ้นดู

“ได้ ๆ เดี๋ยวต้องแวะไปเอา ขนมจีบ ซาลาเปาอีก” หยาดฟ้าตอบกลับเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอสั่งซาลาเปากับขนมจีบไว้

“เดี๋ยวลุงเข็นไปเองครับ” ลุงฟ่านที่กลับมาถึงพอดีรีบเดินเข้ามาเข็นรถเข็นช่วยเจ้านาย

“ฝากด้วยค่ะ”

“คุณเหอมาซื้อของเยอะมากเลยค่ะรอบนี้” ผู้จัดการเสวี่ยยิ้มกว้าง

แน่นอนว่าหากมีลูกค้าซื้อของครั้งละมาก ทางพนักงานที่รับผิดชอบหน้าที่คิดเงินก็จะได้รับเปอร์เซ็นต์จากการขายด้วย จึงไม่แปลกที่เหอเสี่ยวหงจะเห็นพนักงานรีบเดินมาคิดเงิน

เหอสี่ยวหงยิ้มแต่ไม่ได้ตอบ เธอยื่นบัตรเครดิตให้กับหยาดฟ้าที่ยื่นมือมา ไม่ต้องถามก็รู้ว่าจะเอาอะไร

“แล้วก็เอาของโซนนั้นด้วยนะคะ เอาไปส่งไว้ที่โกดังเลย” เหอเสี่ยวหงชี้บอก

“ได้ค่ะ”

“คุณลุงกลับก่อนเลยค่ะ หงกับยัยฟ้าจะไปทำธุระกันต่อ”

ระหว่างรอจ่ายเงินเหอเสี่ยวหงก็หันไปบอกลุงคนสนิทที่มาช่วยซื้อของ จริง ๆ ก็แทบจะตลอดทุกครั้งที่เหอเสี่ยวหงมาซื้อของ คุณลุงจะเป็นคนมาช่วยยกของขึ้นรถ

“ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะเอาไปไว้ที่โกดังให้”

“ค่ะ”

18.53 น.

เหอเสี่ยวหงมองหยาดฟ้าที่ต่อสายหาเจ้าของร้านซาลาเปารายใหญ่ประจำอำเภอ จริง ๆ ของที่ต้องมารับถูกนัดไว้หกโมงเย็น แต่พวกเธอมาสาย

“เฮียบอกเตรียมซาลาเปายังไม่เสร็จ แต่ก็ใกล้แล้ว ถ้าเราเสร็จแล้วให้ไปรอที่ร้านก่อนได้ หรือจะไปนั่งคาเฟ่แถวนั้นรอ” หยาดฟ้าหันมาบอกหลังรับสายเสร็จ

“ได้หมด” เหอเสี่ยวหงไม่ปฏิเสธ

‘เฮ้อ วันนี้ขายของไม่หมดอีกแล้ว’

 ‘อืม ตอนนี้กลางเดือนคนคงจะวุ่นวายกันอยู่ คงจะไม่ว่างกัน’

‘แต่ฉันเสียดายของนี่คะ’

‘เสียดายเหมือนกันแต่จะให้ทำยังไง’

‘เฮ้อ’

กรุ๊งกริ๊ง

“เอ๊ะ! สวัสดีค่ะ คุณลูกค้าต้องการอะไรคะ ทางร้านยินดีต้อนรับค่ะ”

ทันทีที่มีเสียงเปิดประตู พนักงานร้านที่กำลังนั่งคุยกันรีบเดินมาหาเหอเสี่ยวหงที่เดินเข้าร้าน ตามด้วยหยาดฟ้า

“ฉันเอาทุกอย่างที่มีค่ะ ช่วยใส่กล่องแยกให้ด้วยนะคะ” เหอเสี่ยวหงบอก

“คะ?” พนักงานงุนงง

“อ๋อ ได้ค่ะ ๆๆๆ” พนักงานอีกคนที่ได้สติก่อนเพื่อนรีบตอบแล้วลากเพื่อนร่วมงานไปเอาเค้กใส่กล่อง

19.34 น.

เหอเสี่ยวหงมองเวลาในโทรศัพท์ในมือแล้วถอนหายใจออกมา วันนี้พวกเธอกลับบ้านดึกอีกแล้ว ก่อนจะเงยหน้ามามองพนักงานที่เดินมาหา

“แฮ่ก แฮ่ก ขออภัยคุณลูกค้าด้วยนะคะที่ให้รอนาน พอดีเมนูมีเยอะและมีพนักในร้านแค่สองคน” พนักงานสองคนที่มีอยู่ในร้านต้องช่วยกันยกเค้กใส่กล่องจำนวนมาก ไหนจะพวกขนมหวานที่มีในร้านอีก

หยาดฟ้ายื่นบัตรเครดิตให้พนักงานอย่างรู้งาน ซึ่งเธอก็ยังไม่ได้คืนเพื่อนเพราะต้องซื้อของต่ออีก

“ที่นี่รับทำเค้กก้อนเล็กไหมคะ” เหอเสี่ยวหงถาม

“ที่ร้านรับทำทุกออเดอร์ค่ะ”

“ฉันสั่งเค้กมะพราวอ่อน 500 ก้อน ไปส่งที่สวนสกุลเหอให้เลยค่ะ”

“ได้ค่ะ!”

“อาฟ้า อาหง อั๊วทำตั้งแต่เมื่อคืนเลยนะ! เพิ่งจะเสร็จ” อานเฮียเจ้าของร้านซาลาเปาบอก

หลังจากเอาเค้กใส่มิติเพราะจะได้ประหยัดพื้นที่ในรถและกลัวจะไม่มีที่ใส่ซาลาเปา หยาดฟ้าก็รีบพาตรงมาที่ร้านทันที

“โชคดีนะคะที่เสร็จทัน!”

“ซาลาเปาอั๊วแบ่งใส่กล่องให้แล้ว กล่องละ 4 ลูก 5,000 กล่อง ส่วนขนมจีบใส่กล่องละ 50 ลูก 200 กล่อง อั๊วใส่ตามที่ลื้อบอก”

“ขอบคุณค่ะเฮีย”

“ขอบคุณค่ะ”

“คนกันเอง ๆ พวกลื้อก็มาซื้อของไปเลี้ยงเด็ก ๆ บ่อย”

เหอเสี่ยวหงมองคนงานที่ช่วยกันยกทั้งซาลาเปา ทั้งขนมจีบขึ้นรถให้ ก่อนจะรีบจ่ายเงินแล้วไปช่วยคนงานยกขึ้นรถ ยิ่งเสร็จเร็วพวกเธอก็จะได้กลับเร็วขึ้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทพิเศษ 1 หยาดฟ้า

    เรื่องราวของหยาดฟ้าที่เหอเสี่ยวหงคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอะไรทั้งนั้นหยาดฟ้าในวัยสิบสองขวบเป็นเด็กสาวที่น่าสงสารคนหนึ่ง ตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่เคยเห็นหน้าผู้เป็นพ่อสักครั้ง แม่ให้เหตุผลว่าเลิกกันก่อนที่เธอจะลืมตาดูโลก และเล่าให้ฟังว่าพ่อติดเหล้าหนักมาก และชอบทุบตีแม่ที่กำลังท้องเธอเกือบห้าเดือน สุดท้ายแม่ทนไม่ไหวก็เลยเก็บเงินที่ซ่อนไว้หนีมาบ้านเกิดผู้เป็นยายและยายของเธอก็เป็นเพื่อนวัยเด็กของคุณย่าเหอ คุณย่าเหอที่สงสารก็เลยรับแม่ของเธอมาเป็นคนสนิท จนกระทั่งเธออายุสิบสองขวบก็เกิดข่าวร้ายแม่ของเธอมีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงหลังจากที่คลอดเธอออกมา และไม่ยอมเข้ารักษาอาการป่วยจนเกิดเรื้อรัง สุดท้ายจึงจากเธอไปวันนั้นหยาดฟ้าจำได้ดี เธอร้องไห้แทบใจขาดเมื่อคนที่อยู่กับเธอมาตลอดจากไป และเป็นวันเดียวกันที่มีคนเข้ามาช่วยพยุงเธอเอาไว้ นั่นก็คือคุณย่าเหอกับเหอเสี่ยวหง เพื่อนสนิทสาวพ่วงตำแหน่งเจ้านายของเธอ ถึงคุณย่าเหอกับเหอเสี่ยวหงไม่ได้เจ้ากี้เจ้าการกับตำแหน่ง และเธอก็ถือว่าเป็นหลานบุญธรรมของท่านแล้ว แต่เธอก็รู้ตัวดีว่าไม่ควรเอาตัวเองไปเทียบกับเหอเสี่ยวหงคุณย่าเหอเ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 77 บทส่งท้าย

    เหอเสี่ยวหงรู้สึกว่าช่วงนี้ดวงของสามีตกมาก เมื่อได้ที่ดินคืนมาแล้วทั้งโจวเหวินหลงกับพี่ชายใหญ่ก็จะพากันกลับ แต่ก็เกิดเรื่องอีกครั้งโจวกว่างโมโหที่ผู้เป็นพ่อยกบ้านและที่ดินให้กับพี่ชาย จึงลงมือกับคนเป็นแม่ด้วยอาการมึนเมา มีคนเข้าไปช่วยทันแต่อาการนางหลี่ซื่อก็หนักมาก เพราะไม่มีเงินไปหาหมอโจวเหวินหลงรับรู้และเขาก็ยังกลับฉงชิ่งไม่ได้ การกลับบ้านจึงต้องเลื่อนออกไปอีกหลายวัน ถึงนางหลี่ซื่อไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของโจวเหวินหลง โจวจือหยวน และโจวมี่ แต่นางก็เลี้ยงโจวมี่มา โจวมี่เลยมาขอร้องพี่ชายให้พานางหลี่ซื่อไปโรงพยาบาล“ถ้าคุณพานางไป ก็ไม่ต้องกลับมา” เหอเสี่ยวหงกล่าวเสียงเรียบในวันที่เธอแท้งลูก นางหลี่ซื่อไม่มีแม้แต่เชิญหมอมารักษาหรือพาเธอไปหาหมอ ปล่อยให้เธอแท้งลูกซ้ำยังบอกย่าโจวว่าเธอสะดุดขยะในห้องล้มอีก แม้นางหลี่ซื่อตายเธอก็ไม่เสียใจ‘ผมบอกพวกเขาแล้วครับ’มีไม่กี่เรื่องที่เหอเสี่ยวหงจะปฏิเสธสามี และครั้งนี้ต่อให้ใครมาขอร้องเหอเสี่ยวหงก็ไม่ยอม ลูกชายและลูกสะใภ้ หลานของนางก็ยังอยู่ ทำไมถึงต้องมาพึ่งสามีเธอด้วย อีกอย่างก่อนที่พวกเธอจะออกจากหมู่บ้าน นางหลี่ซื่อยังอยู่ในกลุ่มที่มาไล่พวกเธอเลย“ฉัน

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 76 สิ้นย่าโจว

    เข้าสู่วันที่ห้าของการกลับบ้านของโจวเหวินหลง เหอเสี่ยวหงก็ได้รับข่าวร้าย สกุลโจวได้สิ้นผู้อาวุโวอย่างย่าโจวไปแล้ว นางจากไปด้วยโรคชราที่เป็นปัญหามาหลายปีเหอเสี่ยวหงส่ายหน้าเมื่อวางสายจากสามีไปหลังเขาติดต่อมา ในร้านน้ำชามีโทรศัพท์จึงไม่แปลกที่เหอเสี่ยวหงจะได้รับการติดต่อจากสามี ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการย่าโจวทรุดหลังจากที่เธอพาครอบครัวกลับ“มีอะไรหรือเปล่าครับ”เป็นผู้จัดการหลงที่เก็บโต๊ะเสร็จถามเหอเสี่ยวหง เขาเห็นเจ้านายนั่งคุยกับปลายสายไม่นาน แต่ตอนนี้หล่อนกลับมีสีหน้าที่เคร่งเครียด“ไม่มีอะไรค่ะ เดี๋ยวถ้าเอาบัญชีร้านขึ้นไปบนห้อง ตามโจวต้านีให้ด้วยนะคะ” เหอเสี่ยวหงส่ายหน้า“ได้ครับ”โจวต้านียังไม่กลับมาทำงาน คงเพราะหลานสาวตัวน้อยของเธอป่วย อันที่จริงเธอก็บอกหล่อนแล้วว่าไม่ต้องมา แต่โจวต้านีก็รั้นมาจนได้“แม่คุยอะไรกับพ่อเหรอคะ”พอผู้จัดการหลงเดินออกจากร้านไป ก็เป็นซานนีที่ประจำร้านอยู่เอ่ยถาม หล่อนรู้แค่ว่ามารดาคุยกับใคร แต่จับใจความไม่ค่อยได้“ย่าโจวเสียแล้ว” เหอเสี่ยวหงถอนหายใจสำหรับเหอเสี่ยวหงแล้วเธอรู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วมาก อีกอย่างเรื่องที่เธอแท้งเมื่อยี่สิบปีก่อนก็ยังไม่ได้บอกย่าโจ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 75 เฟยฮวา

    เหอเสี่ยวหงมองหน้าหลานสาวตัวน้อยนามเฟยฮวาวัยห้าเดือนในอ้อมแขนแล้วถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าสกุลเฟยตาบอดหรือยังไง ทำไมถึงมองไม่เห็นความน่ารักของหลานสาวตัวน้อยคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเมื่อมองลูกสาวช่วยคนอื่นขนของโจวต้านีลงจากรถ หรือเพราะเธอไม่บังคับลูกสาวกันนะ ถึงไม่ได้มีหลานให้อุ้มแบบนี้ได้แต่อิจฉาสะใภ้ใหญ่ที่ได้ลูกเขยก่อนคนอื่น แล้วยังได้หลานก่อนคนอื่นอีก ยังดีที่สหายของเธอยังไม่มีหลาน เหอเสี่ยวหงจึงไม่ต้องทนฟังเสียงอวดหลาน“ให้ฉันอุ้มหลานบ้างสิ”สะใภ้ใหญ่เดินเข้ามาหาผู้เป็นน้องสะใภ้และน้องสาว ตั้งแต่ที่ลูกสาวอุ้มหลานสาวลงรถมา นางก็ยังไม่ได้อุ้มหลานเลย มีแต่เหอเสี่ยวหงที่อุ้มหลานแล้วไม่ยอมปล่อยให้ใครอุ้มต่อ“เดี๋ยวพี่ก็ได้อุ้มแล้ว” เหอเสี่ยวหงแย้งอย่างไม่จริงจังนักโจวต้านีขอเข้าทำงานพร้อมสามีในร้านผู้เป็นอากับอาสะใภ้ โดยที่แม่ของหล่อนยินดีที่จะดูแลหลานระหว่างที่พ่อกับแม่ของหลานทำงานแบบไม่เอาเงินสักเฟิน“หลับแล้ว” สะใภ้ใหญ่บอก“อืม”เหอเสี่ยวหงส่งหลานสาวให้ผู้เป็นยายแท้ ๆ อุ้ม แล้วตัวเองก็ออกมาช่วยทุกคนขนของเข้าบ้านตึกแถว ยังไงโจวต้านีก็แต่งออกแล้วจะให้ไปอยู่รวมกับครอบครัวก็ไม่ใช่ อีกอย

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 74 เอ้อร์นีมีความรัก

    จากที่จะกลับไปพักผ่อนอยู่บ้านเกิดในช่วงปิดเทอมตามคำขอของสาว ๆ บ้านรองโจวก็ต้องกลับมาอยู่ที่ฉงชิ่ง เหอเสี่ยวหงเอ่ยขอโทษลูกสาวกับหลานสาวที่ต้องพากลับกระทันหัน ยิ่งกับอาสามแล้วเหอเสี่ยวหงยิ่งเอ่ยขอโทษอยู่หลายครั้งเหอเสี่ยวหงรู้ว่าอาสามอยากอยู่ที่บ้านเหอ แต่พอเหอเสี่ยวหงจะกลับเขาก็ไม่สามารถอยู่ต่อได้ เป็นห่วงหลาน ๆ หากปล่อยให้มาด้วยกัน“เอาไว้เรียนจบแม่ค่อยพากลับไปดีกว่า” เหอเสี่ยวหงบอกลูกสาวอีกตั้งหลายปีที่เด็ก ๆ จะเรียนจบ ทุกคนในหมู่บ้านก็คงจะลืมไปแล้ว อีกอย่างทุกคนก็รู้กฎหมายกันอย่างดี เหอเสี่ยวหงจึงไม่กลัวที่จะกลับไป แต่ครั้งนี้มันตั้งตัวไม่ทัน“ไม่กลับก็ได้ค่ะ อยู่นี่ก็ดีแล้ว” เอ้อร์นีเอ่ยตอบเป็นคนแรกหล่อนอยากกลับไปที่บ้านเกิดก็จริง แต่หล่อนกลัวเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นอีก ลึก ๆ แล้วหล่อนรู้ว่าแม่ของหล่อนเป็นห่วงเรื่องการบังคับแต่งงาน เอ้อร์นีไม่ใช่คนโง่ หล่อนถูกมารดาเลี้ยงมาอย่างดีแต่ก็ไม่ได้เลี้ยงให้โง่เขลา แม่ของหล่อนไม่ชอบการบังคับ หล่อนก็ไม่ชอบการบังคับเช่นเดียวกัน“ใช่ค่ะ ไม่กลับไปแล้วก็ได้” ลิ่วนีเอ่ยด้วยความหวาดกลัว หล่อนเป็นเด็กที่ตั้งแต่จำความได้ก็เติบโตมาในเมือง จึงไม่ร

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 73 ลูกสาวบ้านรองโจว

    เหอเสี่ยวหงเดินนำลูกสาวตามโจวเหวินหลงเข้าไปภายในบ้าน ชาวบ้านที่มามุงแหวกออกให้เข้าไป แต่พอเข้าไปแล้วก็กลับมามุงเหมือนเดิมครั้งก่อนอยู่เพียงนอกบ้าน แต่ครั้งนี้ที่ต้องเข้ามาในบ้านเพราะย่าโจวล้มป่วยอีกแล้ว ภายในบ้านที่ไม่ใหญ่จึงแคบลงถนัดตาเมื่อมีคนล้อมรอบ‘หลานสาวบ้านโจวแน่ ๆ’‘ฉันต้องทาบทามจากย่าโจวแล้ว’‘ฝันอยู่เหรอ บ้านรองโจวอยู่ในมือสะใภ้รองโจว คงจะให้ลูกสาวแต่งมาอยู่ชนบทหรอก!’‘ใครจะไปรู้ อีกอย่างสะใภ้ก็ต้องเชื่อฟังครอบครัวของสามี’‘ไม่ใช่ว่าแต่งงานกันแล้วรึ อายุขนาดนี้แล้ว’‘จริง ถ้ายังไม่แต่งคงจะไม่มีใครเอา’เหอเสี่ยวหงหันไปมองชาวบ้านที่นินทาลูกสาวของเธอ เรื่องที่ลูกสาวจะแต่งกับใครเหอเสี่ยวหงไม่ได้ห้าม ต่อให้ฝ่ายชายไม่มีเงินแต่ง ถ้าลูกสาวจะแต่งเธอก็ให้แต่ง สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่เป็นไร แต่คนอื่นจะเดือดร้อนด้วยทำไม“ลูกสาวฉันไม่แต่งงานแล้วทำไม”ชาวบ้านที่ซุบซิบอยู่หน้าบ้านเงียบปากกันลงทันที เมื่อสะใภ้รองโจวพูดขึ้น ใคร ๆ ก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเหอเสี่ยวหง“นี่ย่าทวด เป็นย่าของพ่อเรา”เหอเสี่ยวหงแนะนำย่าโจวให้ลูกสาวทำความเคารพ ซึ่งเด็ก ๆ รู้จัก แต่นี่ก็ไม่ได้มาเจอกันนานแล้ว เธอจึง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status