บทที่ 5 ได้สมบัติคืนมา
อึก อึก
'ทำไมถึงเจ็บปวดได้ขนาดนี้นะ! ' หยวนเหมยสะดุ้งตื่นขึ้นมาพบว่ายามนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัวความรู้สึกหน่วงที่หัวใจคล้ายโรคหัวใจของเธอกำเริบอีกครั้งแต่เมื่อเธอหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ กลับหายไป
"หรือว่าที่ฉันรู้สึกเจ็บไม่ใช่เพราะอาการของรฉันแต่เป็นความเจ็บปวดที่เหม่ยหลิงต้องพบเจอ ฉันรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงได้อยากจบชีวิตตัวเอง ช่างไม่รักตัวเองเอาเสียเลยดูฉันสิอยากมีชีวิตอยู่ เฝ้าอ้อนวอนสวรรค์กลับไม่มีความเมตตา แต่เอาล่ะในเมื่อตอนนี้ฉันเป็นเธอฉันจะไม่ยอมตายง่าย ๆ แน่และฉันจะไม่ยอมทนกับครอบครัวนี้อีกต่อไป แม้เหวินเทียนสามีของเธอจะรักเธอมากแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถปกป้องเธอได้อย่างนี้จะมีไปทำไมสู้หย่าไปเสียดีกว่า คนที่รักเธอจริง ๆ มีเพียงตัวเองกับน้องชายเท่านั้น " เมื่อคิดได้อย่างนั้นหยวนเหมยลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินไปหาผู้เป็นสามีเพื่อขอให้เขาหย่าให้ตนเอง และโชคดีที่แม่สามีเองก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้พร้อมทั้งสามีของเธอ เธอจะจบเรื่องนี้ภายในวันนี้
"เหม่ยหลิงเธอฟื้นแล้วหรือ? มาสิเดี๋ยวฉันจะพยุงเธอเอง วันนี้ฉันเข้าครัวทำข้าวต้มให้เธอด้วยนะคิดว่าเธอตื่นจะยกไปให้ที่ห้อง "เหวินเทียนเห็นภรรยาของตนเดินมาเขารีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปประคองด้วยความเป็นห่วง แต่ทว่ากลับถูกหยวนเหมยปัดมือออก
"ฉันเดินเองได้ จริงสิในเมื่ออยู่กันพร้อมหน้าแล้วฉันมีเรื่องอยากจะพูดกับทั้งแม่สามีและคุณ "
"เพี้ยนหรือไงฟื้นขึ้นมาจู่ ๆ ก็พูดจาแปลก ๆ " ฟางเซียนเหล่ตามองก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
"ใช่ค่ะ! ตอนนี้ฉันเพี้ยนเพราะตายแล้วฟื้นและต้องการเรียกร้องความยุติธรรมของตัวเอง พูดกันตามตรงในเมื่อคุณแม่ไม่ต้องการฉันให้เป็นสะใภ้ในบ้านหลังนี้และคอยรังแกฉันจนทำให้ฉันแท้งลูกมิหนำซ้ำยังใช้งานฉันสารพัด ข้าวแต่ละมื้อต้องให้กินทีหลังคุณแม่กับพี่ลู่หลินจนร่างกายพ่ายผอม เวยอันเองก็อด ๆ อยาก ๆ วันนี้ฉันจะมาเรียกร้องสิทธิ์ของฉันคืน เหวินเทียนคุณช่วยหย่าให้ฉันในวันนี้ด้วย ฉันไม่อยากจะอยู่ในบ้านหลังนี้แม้เพียงเศษเสี้ยวนาทีไม่ว่ามองไปทางใดก็เห็นเพียงความเจ็บปวดกับความทุกข์ทรมานใจที่แม่ของคุณทำกับฉันมาตลอด และอย่าบอกว่าคุณรักฉันและไม่ยอมปล่อยฉันไป หากคุณรักฉันจริง ๆ คงไม่ปล่อยให้ฉันพบเจอเรื่องไม่ยุติธรรมมาหลายปีถึงเพียงนี้ เอาล่ะในเมื่อคุณแม่ต้องการให้เหวินเทียนปองดองกับลูกสาวเจ้าของโรงเย็บผ้าก็รีบไปเอาใบหย่ามาสิจะได้ทำให้มันจบไป " ฟางเซียนแสยะยิ้มออกมาอย่างดีใจที่จู่ ๆ เหม่ยหลิงเปลี่ยนไปและยอมปล่อยบุตรชายของเธอ เธอรีบหันไปบอกเหวินเทียนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เหม่ยหลิงไปเอาใบหย่ามาให้เธอเซ็น
"เหวินเทียนลูกรีบไปเอาใบหย่ามาสิ ดีเหมือนกันต่อจากนี้ชีวิตของลูกชายฉันจะได้ก้าวไปข้างหน้ามีอนาคตที่ดี"
"แม่ทำไมแม่ถึงเห็นดีเห็นงามกับลูกสะใภ้อย่างนี้ล่ะครับไม่เอาผมไม่หย่า เหม่ยหลิงอย่าทำอย่างนี้เลยนะ! ต่อจากนี้เรามาเริ่มต้นใหม่กันเถอะ หากเธอไม่อยากอยู่บ้านหลังเดียวกับคุณแม่เราย้ายไปอยู่ที่บ้านของตระกูลเธอก็ได้นี่น่า บ้านหลังนั้นตอนนี้ก็ถูกปล่อยเอาไว้ไม่มีคนอยู่ด้วยซ้ำเธอจะได้สบายใจอย่างไรล่ะ" หยวนเหม่ยได้ยินเธอยิ้มกริ่มขึ้นมาพร้อมหัวใจที่พองโต ก่อนจะมาพูดเรื่องนี้เธอยังคิดมากเรื่องที่อยู่อยู่เลย หากเธอมีบ้านของเธอทำไมเธอถึงต้องเป็นกังวลล่ะ
"ใช่! ฉันจะกลับไปอยู่บ้าน "
"ฉันจะทำให้ทุกวันของเธอมีแต่ความสุข งั้นเราล้มเลิกความคิดที่จะหย่ากันเลยนะ"
"ไม่! ฉันจะกลับไปอยู่ที่บ้านของฉันหลังจากหย่ากับคุณรีบไปเอาใบหย่ามาสิ " ใบหน้าของเหวินเทียนที่ยิ้มระเรื่อกลับกลายเป็นตึงเครียดเมื่อได้ยินคำพูดที่มั่นคงแน่วแน่ของเหม่ยหลิง แต่แล้วแม่สามีกลับยืนขึ้นหัวเราะออกมาอย่างขบขัน
"ฮ่า ฮ่า เธอจะกลับไปอยู่บ้านเธออย่างนั้นหรือ? ไม่มีทางเสียหรอกฉันรับเลี้ยงเธอมาให้ข้าวให้น้ำทั้งเธอทั้งน้องของเธอจะให้ฉันเลี้ยงโดยไม่มีค่าตอบแทนได้ยังไง! หากอยากออกไปจงออกไปแต่ตัวเพราะเธอจะไม่ได้อะไรออกไปแม้แต่น้อย " หยวนเหม่ยคิดอยู่แล้วว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างฟางเซียนคงไม่ยอมง่าย ๆ เธอจึงจะใช้เรื่องที่เธอได้พบเจอมาเป็นข้อต่อรอง ดูสิว่าศึกครั้งนี้ใครจะชนะ!
"หากคุณแม่เอ่ยมาอย่างนั้นฉันเองก็ไม่ขอไว้หน้า ระหว่างที่ฉันมาอยู่ที่นี่งานบ้านทุกอย่างคุณแม่โขกสับใช้ฉันอย่างกับทาส แถมยังไม่เคยให้พักแม้แต่เจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่เคยได้นอน ความเอ็นดูเมตตาไม่ต้องพูดถึง มีหลายครั้งที่ฉันกับน้องชายได้กินเพียงข้าวปั่นแข็ง ๆ ที่แอบซ่อนเอาไว้เพราะมื้ออาหารมื้อนั้นคุณแม่กับพี่ลู่หลินกินสองคนจนหมด เพราะความขี้งกและไม่เคยให้ฉันได้จับจ่ายใช้เงิน นี่คือความอัปยศที่ฉันเคยได้พบเจอมาและอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันสมเพชตัวเองคือการมีสามีอย่างเหวินเทียน แม้ปากจะบอกว่ารักแต่ไม่เคยปกป้องฉันได้อย่างที่พูด เพราะคอยเชื่อฟังแต่คนเป็นแม่เสมือนควายถูกจูง อย่างนั้นไม่ว่าจะเป็นบ้านของตระกูลฟ่งจะต้องกลับมาเป็นของฉันเหม่ยหลิง หากจะบอกว่าเป็นค่าเลี้ยงดูก็คงจะไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาเป็นคุณแม่เองต่างหากที่จะต้องชดใช้ให้ฉันทั้งร่างกายและจิตใจ วันที่ฉันแท้งพี่ลู่หลินรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นหากเรื่องนี้ฉันเอ่ยปากบอกทางการเท่ากับว่าพี่ลู่หลินเป็นคนร้ายที่ลงมือฆ่าคนได้เลยก็ว่าได้ คุณแม่คิดดี ๆ จะทำยังไง ยอมหย่าง่าย ๆ ยกสมบัติของฉันคืนทุกอย่างจบกันด้วยดี หรือจะให้เรื่องที่คุณแม่กับครอบครัวนี้ทำกับฉันกระฉ่อนออกไปข้างนอก อีกอย่างถ้าเรื่องนี้ถึงหูลูกสาวโรงเย็บผ้าคิดว่าพ่อของเธอจะยอมให้ลูกสาวมาแต่งกับเหวินเทียนหรือ?" หยวนเหม่ยกอดอกเดินเข้ามาใกล้ ๆ แม่สามีที่เสียรู้ลูกสะใภ้ ไม่คิดเลยว่าการที่เธอตายแล้วกลับมาได้ครั้งนี้จะทำให้เธอปีกกล้าขาแข็ง หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงทำได้เพียงยืนตัวสั่นไม่กล้าแม้แต่จะเงยมองหน้าด้วยซ้ำไป
แต่ทว่าเหวินเทียนนั้นไม่อยากจะหย่ากับเหม่ยหลิงเลยเขารักเธอจริง ๆ แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่แม่ของเขากับพี่สาวทำเรื่องเลวทรามต่ำช้ากับเธออย่างนี้หากปล่อยเธอออกจากบ้านหลังนี้คงจะปลอดภัยมากกว่า
"ก็ได้ฉันจะหย่าและคุณแม่จะต้องชดใช้เรื่องที่ผ่านมาให้เหม่ยหลิงด้วย คืนทุกอย่างของเธอให้กับเธอและมอบเงินให้เธอไปตั้งตัวห้าสิบหยวน " น้ำเสียงเข้มขรึมได้พูดขึ้นทำให้ผู้เป็นแม่ต้องหันไปมองหน้าลูกชายทันที
"นี่เหวินเทียนลูกพูดอะไรออกมา ขนาดลู่หลินไปทำงานเดือน ๆ หนึ่งได้ค่าแรงไม่ถึงสิบหยวนต่อเดือนด้วยซ้ำนี่ลูกเสียสติไปแล้วหรือที่จะยอมจ่ายให้เธอตั้งห้าสิบหยวน "
"หรือแม่อยากให้เรื่องที่แม่กับพี่ลู่หลินทำลงไปรู้กันทั้งหมู่บ้านหรือ? อีกอย่างเงินจำนวนนั้นยังน้อยไปด้วยซ้ำที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่ต้องเจอ หากพี่ลู่หลินพบเจอความไม่ยุติธรรมเหมือนเหม่ยหลิงคุณแม่จะทนได้มั้ยครับ" หยวนเหม่ยจ้องมองสองแม่ลูกด้วยความสะใจ
"ก็ได้ ๆ เฮอะที่ฉันยอมไม่ใช่ว่าฉันรับผิดหรอกนะ แต่เพราะลูกชายของฉันเป็นคนดีมีเมตตากลัวว่าเธอออกจากที่นี่ไปแล้วไม่มีเงินจะดำรงชีวิต อีกอย่างเรื่องที่เธอตายแล้วฟื้นคนเขาคงรู้กันไปทั่วต่อจากนี้คงจะใช้ชีวิตยากหน่อยนะ ฮ่าฮ่า " แม่สามีไม่สำนึกสักนิดกลับดีใจที่ทั้งสองจะหย่ากันเพราะเธอจะได้ให้ลูกชายเข้าหาซิงเยียนได้อย่างเต็มที่
ตอนพิเศษฟิ้ว ฟิ้ว ..สายลมพัดเย็นนะเยือกบ่งบอกว่าช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวร่างบางยืนทอดสายตาจ้องมองกลางเมืองยามค่ำคืนพลางกอดอกแน่น ชายร่างใหญ่เดินออกมาจากในตัวบ้านโผล่เข้ากอดเธอจากด้านหลังอย่างแนบชิด"ทำไมมาอยู่ตรงนี้ไม่หนาวหรือไง ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วรีบเข้าบ้านกันเถอะ" อี้หานกระซิบถามพร้อมบอกให้ภรรยาของตน"ฉันอยากมองดูดวงจันทร์อีกสักหน่อยเดี๋ยวอีกไม่กี่วันหิมะคงจะตกเมื่อนั้นดวงจันทร์ที่สวยงามคงไม่มีให้เห็น " ตั้งแต่แต่งงานมานี่ก็สามเดือนแล้ว เหม่ยหลิงมีความสุขเสียจนคิดว่านี่เป็นเพียงความฝัน"ดวงจันทร์ไม่เห็นจะน่ามองตรงไหน สู้ภรรยาของฉันก็ไม่ได้จริงสิวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่โทรเลขมาอยากให้ลูกสะใภ้มีหลานให้อุ้มเร็ว ๆ จนท่านทั้งสองบอกให้เธอหยุดขายซาลาเปาและจะจ่ายค่าจ้างเพื่อให้เธออุ้มท้องด้วยล่ะ ภรรยาคนสวยของฉันคงไม่อยากให้ท่านทั้งสองผิดหวังหรอกใช่มั้ย? อย่างนั้นเราไปดูดวงจันทร์ต่อที่ห้องดีมั้ย ป่านนี้เวยอันคงหลับไปแล้วไม่มีใครมารบกวนแล้วนะ! " อี้หานกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาพลางหอมแก้มของเธออย่างนุ่มนวล เธออายจนใบหน้าแดงระเรื่อรีบผลักเขาออกก่อนจะเดินหนีเข้าบ้าน"ไม่เอาฉันยังไม่พร้อมจะอุ้ม
บทที่ 35 แต่งงาน"ท่านนายพลมันจะเกินไปแล้วนะ แค่ผู้หญิงต้อยต่ำคุณปกป้องเธอถึงเพียงนี้เลยหรือ? เธอคงใช้ลีลาบนเตียงเก่งสินะ ไม่ว่าจะเป็นสามีฉันเหวินเทียนหรือแม้แต่คุณก็ยังติดใจเหม่ยหลิงคนนี้ เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจจริง ๆ " ซิงเยียนที่ยืนฟังมานานเธอได้เอ่ยขึ้นด้วยความคับแค้นใจเพราะไม่ว่าจะเป็นเหวินเทียนหรือแม้แต่ท่านนายพลลุ่มหลงอะไรเธอนักหนา"นั่นสินะแต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สามีเก่าของเหม่ยหลิงโง่เง้ายอมปล่อยคนดี ๆ อย่างเหม่ยหลิงหลุดมือ ฉันไม่สนใจว่าเหมยหลิงจะผ่านใครมาหรือว่าอดีตจะเป็นอย่างไรเพราะฉันเองก็มิใช่ชายที่บริสุทธิ์ฉันเคยผ่านการมีภรรยามาก่อนอย่างนี้เท่ากันว่าฉันกับเหม่ยหลิงเราเท่าเทียมกันแล้ว คุณหนูซิงเยียนลูกสาวคนเดียวเจ้าของโรงเย็บผ้าสินะ! จำไม่ผิดเมื่อไม่กี่วันก่อนส่งคนมาทำร้ายเหม่ยหลิงถึงบ้าน วันนั้นฉันใจเย็นเพราะเหม่ยหลิงห้ามเอาไว้ หากไม่มีเธอลูกน้องของคุณหนูคงไม่ได้กลับไปอย่างมีชีวิตอยู่ คงผยองใจที่ฉันไม่เอาเรื่องสินะ ไม่ว่าจะเป็นครั้งก่อนที่เหวินเทียนสามีเก่าบุกเข้ามาหวังข่มขืน หรือจะเป็นเรื่องซาลาเปาเน่า ๆ ที่มาใส่ร้ายและคอยมาตามรังแกเหม่ยหลิงไม่เลิกลา หากวันนี้ฉันจะเอา
บทที่ 34 ผู้หญิงไร้ค่าฝั่งด้านเหม่ยหลิงหลังจากที่เธอหยุดไปหลายวันเมื่อเปิดขายอีกครั้งทำให้ซาลาเปาของเธอขายดีเพราะลูกค้าประจำคิดถึงและอยากกินพากันซื้อไปคนละหลายลูก ตอนนี้เหม่ยหลิงกำลังเก็บกวาดร้าน เพราะขายซาลาเปาหมดแล้วจังหวะนั้นเองเธอสาดน้ำราดที่ถนนหน้าบ้านพอดีเป็นจังหวะเดียวกันที่สามคนแม่ลูกเดินเข้ามาหาเธอ พวกเธอร้องกรี๊ดเสียงดังต่อว่าเหม่ยหลิงขับไล่"กรี๊ด!! อะไรของเธอกันช่างไร้มารยาท" เหม่ยหลิงมองทั้งสามพลางถอนหายใจทำไมคนพวกนี้ยังมาวุ่นวายอีก เธออุตส่าห์ไม่ไปเอาเรื่องซิงเยียนที่ส่งคนมาทำร้ายเธอแต่วันนี้ทั้งสามพากันเดินมาหาเธออย่างพร้อมหน้าดูก็รู้แล้วว่าต้องมาหาเรื่องแน่นอน"อะไรกันเดินมาไม่ดูเองยังหาว่าฉันเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ? ถามชาวบ้านที่เดินไปมาแถวนี้สิว่าเมื่อครู่ฉันตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรือพวกคุณเดินมาไม่ดูเอง วันนี้ตอนแรกก็อากาศแจ่มใสดีอยู่ทำไมตอนนี้เริ่มมืดครึ้มไปเสียแล้วล่ะ เป็นอย่างนี้ทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย " เหม่ยหลิงทำเป็นไม่สนเดินถือกระถังน้ำเข้าบ้าน ลู่หลินทนไม่ไหวคว้าตัวเธอเอาไว้พร้อมกระชากผมของเธอเต็มแรง"นี่แกกล้าทำกับพวกฉันแบบนี้เหรอ? หลายครั้งมาแล้วที่ฉันไม
บทที่ 33 มีดีอะไรนักหนาทั้งสามมาถึงบ้านของลุงจ่าวทันทีที่ป้าเสี่ยนเห็นหน้าของอี้หานก็จดจำได้ทันทีนี่นายทหารที่เห็นวันนั้นเธอยิ้มกริ่มจ้องมองใบหน้าของเหม่ยหลิง วันนี้เธอคงพาเขามาเปิดตัวสินะ เมื่อเธอจะเอ่ยถามแต่ก็ถูกเหม่ยหลิงกระซิบกระซาบเสียก่อน“ฉันรู้นะว่าป้าคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่ป้าคิดหรอกนะ เวยอันชื่นชอบนายพลผู้นี้มาจึงชักชวนเขามาด้วยฉันขัดไม่ได้จึงยอมให้เขามาด้วยเท่านั้น”“ป้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลยมีเพียงแค่เวยอันหรอกหรือที่ชื่นชอบท่านนายพลป้าคิดว่าอาเหม่ยก็ชอบเหมือนกันซ่ะอีก ฮ่า ฮ่า ท่านนายพลเชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะวันนี้คงเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดของสามีฉันแล้วที่มีนายพลผู้ยิ่งใหญ่มาร่วมงาน” ป้าเสี่ยนพูดจบได้เดินจากเหม่ยหลิงไปหาอี้หานเชิญเขาเข้าไปในบ้านปล่อยให้เหม่ยหลิงยืนหน้าแดงอยู่เพียงลำพังทุกคนร่วมกันกินอาหารเย็นกันอย่างสุขสันต์จนถึงเวลาเอ่ยคำอวยพรและมอบของขวัญให้ และพากันแยกย้ายกลับบ้าน อี้หานสั่งให้ลูกน้องชุดเดิมกลับไปพักและสลับเปลี่ยนอีกชุดมาเฝ้าที่หน้าบ้านของเหม่ยหลิง ใจจริงเขาเองอยากจะอยู่เฝ้าเธอแต่จะทำให้เธอลำบากใจจึงทำได้เพียงให้ลูกน้องมาเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้2 ว
บทที่ 32 พี่ชอบพี่สาวฉันจริง ๆ ใช่มั้ยเขาค่อย ๆ ทายาให้เหม่ยหลิงอย่างเบามือเธอจ้องมองความอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขาเป็นคนเดียวเมื่อไหร่ที่เธอพบเจอกับเรื่องอันตรายจะเข้ามาช่วยไว้ได้เสมอ เมื่อมีเขาอยู่เคียงข้างหัวใจของเธออบอุ่นทุกครั้ง ความหวาดกลัวที่มีทั้งหมดได้หายไป"ขอบคุณนะคะที่เข้ามาช่วยเหลือฉันทุกครั้งที่ฉันตกอยู่ในเหตุการณ์อันตราย หากไม่มีคุณฉันคงไม่รู้จะทำอย่างไรเลย ""ไม่เห็นจะต้องขอบคุณหลายครั้งเลย คงเป็นโชคชะตาที่ลิขิตมาให้เราได้พบเจอกัน ตอนนี้รู้สึกดีแล้วใช่มั้ยฉันขอออกไปคุยกับลูกน้องสักครู่นะ" เหม่ยหลิงพยักหน้าให้อี้หาน เขาเดินออกมาด้านนอกสั่งการให้ลูกน้องไปสืบประวัติสามีเก่าของเหม่ยหลิงรวมถึงซิงเยียนที่เป็นคนสั่งการให้คนมาทำร้ายเหม่ยหลิงอีกด้วย เมื่อสั่งการเสร็จเขาได้เดินเข้ามาหาเหม่ยหลิงด้านในเห็นเธอกำลังเก็บของที่หล่นลงบนพื้นที่ซื้อมาจากตลาดอย่างทุลักทุเลจึงนั่งลงช่วยเธอเก็บของ"มาให้ฉันช่วย ซื้อของมาเยอะขนาดนี้จะขายซาลาเปาพรุ่งนี้ใช่มั้ย? แขนเจ็บแบบนี้คงนวดแป้งไม่ได้แน่ ๆ ว่าแต่ของนี่คืออะไร"เขาเก็บของหันไปเห็นของมีค่าคล้ายซื้อไว้เก็บสะสมนิยมมอบให้ผู้ใหญ่ที่นับถือ"อ้อ...
บทที่ 31 เป็นเขาอีกแล้วที่ช่วยเหลือเมื่อมาถึงหน้าประตูเหม่ยหลิงวางของไว้ที่โต๊ะหน้าบ้านก่อนจะไขกุญแจเปิดโดยมีชายคนนั้นคอยเดินตามหลังติด ๆ ทันทีที่เธอเปิดประตูเหม่ยหลิงคว้าไม้ถูพื้นฟาดใส่หัวของชายคนนั้นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทำให้เขาโมโหผลักกายของเหม่ยหลิงจนล้มกับพื้น"โอ๊ย!!! นี่เธอกล้าลงมือกับฉันอย่างไม่หวาดกลัวเลยอย่างนั้นหรือตอนแรกตั้งใจแค่มาข่มขู่แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ต้องทำให้เธอเจ็บกว่าฉัน""อึก! ฉันไปทำอะไรให้ทำไมต้องมาทำฉันแบบนี้อยากได้อะไรก็เอาไปเลย" เหม่ยหลิงเจ็บแขนเพราะถูกผลักจนล้มถลาลงทับแขนตัวเอง ความหวาดกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นแววตาของชายที่อยู่ตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาอาฆาตจนเหม่ยหลิงคิดว่าหากเธอสู้ไม่ไหวหรือไม่มีใครช่วยเธอได้วันนี้เธอคงได้ตายอีกครั้งแน่ ๆ คนเดียวที่เธอคิดถึงกลับเป็นอี้หาน เฝ้าภาวนาในใจให้เขามาช่วยเธอ"เธอไม่เคยทำอะไรให้ฉันแต่เป็นคุณหนูของฉันต่างหากที่เธอไปก่อกวนให้รำคาญใจ ไม่พูดมากมานี่ซ่ะดี ๆ ฉันจะจัดการให้เธอเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เอง" เขาขึ้นคร่อมร่างของเหม่ยหลิงก่อนที่จะยกมือที่ถือมีดขึ้นเพื่อแทงเข้าที่หน้าอกของเธอ เหม่ยหลิงหัวใจเต้นร