Share

บทที่ 13 ความเชื่อใจ (5)

last update Last Updated: 2025-02-20 14:41:17

ซ่งเจียซินใช้เวลาหลังจากที่เด็ก ๆ ไปโรงเรียนแล้วตรวจสอบบัญชีกิจการ เมื่อพบว่าไม่มีปัญหาอะไรให้กังวลเธอก็มอบหมายให้ตงซางผู้จัดการเดิมดูแลต่อ โดยเธอจะแวะเข้ามาตรวจสอบเป็นระยะ ในระหว่างที่กำลังจะกลับบ้านเพื่อเตรียมไปรับเด็ก ๆ สายตาก็หันไปเห็นลูกบอลหนัง ซ่งเจียซินนึกถึงสนามหญ้าด้านหลังบ้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางเหมาะแก่การทำเป็นสนามฟุตบอลให้เด็ก ๆ ใช้ออกกำลังกาย

“อิงอิง ไปซื้อลูกบอลหนังให้ฉันที”

“ค่ะ”

หูหลินอิงเดินไปซื้อของตามคำสั่งผู้เป็นนาย ขณะที่ซ่งเจียซินเดินไปดูเสื้อผ้าที่แผนกเด็กโต วันก่อนเธอสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าของเด็กชายมีขนาดเล็กเกินไป ก่อนออกจากบ้านจึงไปแอบวัดเสื้อผ้าชุดเดิมมาคร่าว ๆ เพื่อกะขนาดที่ใหญ่ขึ้นสักหน่อยให้พวกเขา ทว่าเลือกดูได้ไม่นานเธอก็ชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคน

“อะ... ขอโทษค่ะ”

เพราะเธอเดินไม่ระวังจึงชนคน ดังนั้นซ่งเจียซินจึงรีบขอโทษก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ตนเองชน และทันทีที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายคิ้วเรียวก็ขมวดมุ่นในทันที

“คุณเฉินเซียว”

“คุณเสวี่ย ไม่เจอกันนานคุณสบายดีไหม”

“สบายดีค่ะ แล้วนี่ภรรยาของคุณล่ะคะไม่มาด้วยหรือ”

เฉินเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อถูกหญิงสาวตรงหน้าเอ่ยถามถึงสิงฉู่หรัน ภรรยาที่เขาจำใจแต่งงานด้วย

“ผมกับสิงฉู่หรันเราแยกกันอยู่มาปีกว่าแล้ว”

คำตอบที่คล้ายกับเป็นการบอกสถานะของเขาและภรรยาทำให้ซ่งเจียซินยิ้มแห้งก่อนจะเอ่ยขอตัว แต่เฉินเซียวกลับไม่ยอมหลีกทางขยับเท้าไปขวางทางเธอเอาไว้

“เรื่องในตอนนั้นผมไม่ได้ตั้งใจ เป็นสิงฉู่หรันฉวยโอกาสสร้างความเข้าใจผิด ผมคิดว่าเธอเป็นคุณถึงได้...”

“คุณเฉินคะ คุณคือสามีของสิงฉู่หรัน และฉันก็คือภรรยาของผู้พันหลี่ ระหว่างเราไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบันก็ล้วนไม่มีอะไรมากเกินไปกว่าคำว่ามิตรภาพ ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจและวางตัวอยู่ในจุดที่เหมาะสม”

“คุณเสวี่ย ผม...”

“ชิงหยวน”

เสียงทุ้มทรงอำนาจดังมาจากทางด้านหลัง ก่อนที่เอวบางของซ่งเจียซินจะถูกวงแขนหนึ่งโอบรัด ดวงตากลมเบิกกว้างกับสัมผัสอุกอาจนี้ ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นพบว่าเจ้าของวงแขนคือใคร หัวใจของเธอก็เต้นระรัวอย่างไม่อาจควบคุม

“หลี่โจวอี้!”

“ผมเห็นคุณหายมานานแล้วก็เลยมาดู เป็นไงบ้างเลือกได้หรือยัง”

ซ่งเจียซินตื่นตกใจกับการทักทายของหลี่โจวอี้อยู่ชั่วครู่ เมื่อตั้งสติได้ก็สวมบทบาทสามีภรรยารักใคร่ยิ้มหวานตอบกลับให้เขาพร้อมกับชูชุดสองแบบในมือให้เขาดู

“ฉันกำลังลังเลใจระหว่างสองแบบนี้ คุณว่าพวกเขาจะชอบแบบไหนมากกว่ากันคะ”

“คุณชอบแบบไหนลูกก็ชอบแบบนั้น”

“อย่างนั้น ฉันเอาทั้งสองแบบเลย อ่อ... เอาแบบนี้ด้วย”

หลี่โจวอี้มองมือเรียวที่เอื้อมไปหยิบชุดอีกแบบมาถือแล้วเดินไปที่จุดชำระเงิน สายตาคมตวัดมองไปที่เฉินเซียวแล้วพูดเสียงเยือกเย็น

“หวังว่าคราวหน้าคุณเฉินจะไม่เข้ามารบกวนภรรยาของคนอื่นอีก”

กล่าวจบร่างสูงโปร่งก็เดินตามแผ่นหลังบางไปยังจุดชำระเงิน

“ทั้งหมดสามแบบเก้าตัวนะคะ”

“ค่ะ”

“180 หยวนค่ะ”

หลี่โจวอี้ได้ยินราคาเสื้อที่หญิงสาวเลือกซื้อก็ตกใจจนหน้าซีด ปกติแล้วเสื้อผ้าหนึ่งชุดราคาประมาณ 5-10 หยวนเท่านั้นไม่ใช่หรือไง เพียงแต่ไม่ว่าจะในฐานะของบิดาหรือสามี เงินจำนวนนี้อย่างไรเขาก็สมควรจ่าย หากแต่ในจังหวะที่เขากำลังนับเงินในกระเป๋าตังค์ตนเอง หญิงสาวตรงหน้าก็หยิบเงินสองร้อยหยวนวางลงตรงหน้าพนักงานขาย

“นี่ค่ะ”

หลี่โจวอี้ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะหยิบเงินของเธอคืนกลับให้เจ้าตัว แล้วเป็นฝ่ายจ่ายค่าเสื้อผ้าแทน ซ่งเจียซินไม่ใช่คนเรื่องมากในเมื่อหลี่โจวอี้ต้องการจ่ายก็แค่ให้เขาจ่ายก็เท่านั้น

ได้ประหยัดเงินในกระเป๋าไปเกือบสองร้อยหยวน นับว่าเป็นเรื่องที่ดี

เพียงแต่เมื่อกลับมาที่รถ คนตัวโตกลับตวัดสายตาดุมองเธอด้วยความไม่พอใจ

“คุณมีอะไรหรือคะ”

“ผมรู้ว่าฐานะทางบ้านของคุณดีมาก แต่การใช้จ่ายเงินโดยไม่ระวังแบบนี้จะทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง”

“ค่ะ”

คิ้วหนาขมวดแน่น เมื่อหญิงสาวตอบรับอย่างว่าง่าย

“เสวี่ยชิงหยวน เธอไม่สบายหรือ”

ซ่งเจียซินถอนหายใจยาวอย่างระอาใจ ในอดีตเธอแผลงฤทธิ์โวยวายไม่ยอมใครเขาก็ตำหนิว่าเธอไร้มารยาทขาดการอบรม และเอาแต่ใจ วันนี้เธอว่าง่าย เชื่อฟัง ไม่โต้แย้ง เขาก็หวาดระแวงสงสัย ช่างเป็นบุรุษที่เอาใจได้ยากจริง ๆ

“ใกล้ได้เวลาเลิกเรียนแล้ว ฉันต้องเอารถกลับไปให้ลุงเหอขับไปรับเด็ก ๆ คุณไปทำธุระต่อเถอะ”

หลี่โจวอี้เป็นทหารสังกัดกรมแพทย์ทหาร วันนี้ไม่ใช่วันหยุดของเขา ได้พบเจอโดยบังเอิญแน่นอนว่าต้องเป็นเพราะเขามีภารกิจบางอย่าง ดังนั้นเพื่อไม่ให้เขาเสียงานซ่งเจียซินจึงไม่คิดรั้งเขาเอาไว้

กลับเป็นหลี่โจวอี้ที่รู้สึกขุ่นเคืองใจ เธอกับเขาไม่พบกันมาร่วมเดือน ไม่ทักทายแสดงความรักก็แล้วไป แต่ท่าทีห่างเหินเช่นนี้มากเกินไปหรือไม่

“อาทิตย์หน้าผมจะกลับบ้าน”

“ฉันจะบอกเด็ก ๆ ให้ค่ะ”

พูดจบซ่งเจียซินก็หันไปส่งสายตาให้หูหลินอิงขึ้นรถแล้วขับออกไปในทันที หลี่โจวอี้มองตามด้วยความรู้สึกหลากหลาย ในแววตาของเธอเมื่อครู่ไม่มีแม้แต่ประกายยินดีกับเรื่องที่เขาเอ่ยบอก เสวี่ยชิงหยวนเธอช่างเป็นภรรยาที่ดีจริง ๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 60 งานเลี้ยงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

    ซ่งเจียซินมองดูบัตรเชิญที่ตงซางยื่นให้แล้วขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย“สมาคมฟู่หลันอย่างนั้นหรือ ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“เป็นสมาคมที่ตระกูลฟู่ก่อตั้งขึ้นครับ เห็นว่าก่อตั้งมาเพียงสามปีก็ได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมาก มีทุนสนับสนุนหมุนเวียนปีละหลายล้านหยวนเลยทีเดียว”ทุนสนับสนุนหมุนเวียนปีละหลายล้านหยวน จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ที่จะมีคนบริจาคเงินสนับสนุนด้วยงบประมาณที่สูงถึงเพียงนั้น เว้นแต่ว่ากิจการสมาคมนี้เบื้องหลังจะไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางการกุศลเพียงอย่างเดียว ทว่าตระกูลฟู่นี้ทำไมจึงรู้สึกคุ้นหูนัก“ตระกูลฟู่... ทำไมฉันถึงได้คุ้นหูจัง”“อาจเป็นเพราะนายท่านตระกูลฟู่ ก็คือบิดาบุญธรรมของคุณเจียงครับ”“บิดาบุญธรรมของเจียงชิงชุน?”“ครับ ตระกูล เป็นผู้ประกอบกิจการรายใหญ่ของประเทศ ผลิตอุปกรณ์และยาทางการแพทย์ครับ”“กิจการของตระกูลเสวี่ยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่ดังนั้นงานเลี้ยงนี้คงไม่เหมาะสมที่จะไป”ในเมื่อไม่มีเหตุผลทางธุรกิจ และไม่มีความจำเป็นในความสัมพันธ์ส่วนตัวซ่งเจียซินก็คิดว่าเธอไม่ควรสอดมือเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่น่าไว้วางใจนี้ มือเรียวจึงวางบัตรเชิญ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 59 ผู้หญิงของเจียงชิงชุน

    ซ่งเจียซินแทบจะสำลักข้าวต้มเมื่อหลี่โจวอี้แจ้งข่าวว่าตนเองทำเรื่องย้ายกลับเข้าเมืองได้สำเร็จแล้ว และนับจากวันนี้ไปเขาจะอยู่ที่บ้านทุกวัน“คุณหลี่ เมื่อครู่คุณบอกว่ายังไงนะคะ”“ผมบอกว่าตอนนี้ผมทำเรื่องย้ายมาสังกัดในเมืองได้แล้ว ต่อไปก็สามารถอยู่กับลูกและคุณได้ทุกวัน”อยู่ได้ทุกวัน เพียงแค่คิดซ่งเจียซินก็รู้สึกว่าเส้นเลือดที่ขมับปูดโปนขึ้นมา สบดวงตาคมที่จ้องมองแล้วยิ้มแห้ง ทว่ายังไม่ทันพูดอะไรเสียงรถคันหนึ่งก็ขับมาจอดที่หน้าประตูรั้ว“คุณไป๋ชิงหลันมาพบคุณหลี่ค่ะ”หูหลันอิงเข้ามารายงานด้วยท่าทางสงบนิ่งหากแต่หางตาลอบมองผู้เป็นนายสาวด้วยความห่วงใย ซ่งเจียซินตวัดสายตามองชายหนุ่มหัวโต๊ะแล้วถอนหายใจยาว ช่างเป็นบุรุษมากเสน่ห์จริงๆ“อย่างนั้นคุณก็คุยกับเพื่อนสนิทไปก่อนก็แล้วกันนะคะ วันนี้ฉันจะไปส่งเด็กๆ เอง”พูดจบซ่งเจียซินก็ลุกขึ้น ไม่ต้องเอ่ยชวนเด็กชายทั้งสามก็ลุกขึ้นลงจากเก้าอี้ตามมารดาเลี้ยงในทันที“พ่อใจร้าย”หลี่จื่อรั่วพูดเสียงน้อยใจก่อนเดินออกไป ตามด้วยพี่ชายทั้งสองสีหน้าและแววตาชัดเจนว่าไม่พอใจคนเป็นพ่อเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน“เดี๋ยวก่อน ผมไม่ได้...”“โจวอี้...”หลี่โจวอี้พูดไม่ทันจบประโย

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 58 ความลุ่มหลงของภรรยา

    ข่าวเรื่องลูกค้าระดับแบล๊กโกล์ดคลาสของร้านเพชรเสวี่ยจะได้เลือกชมตัวอย่างแบบร่างเครื่องเพชรของนักออกแบบอันลู่ซือก่อนผู้อื่นทำให้บรรดาสมาชิกผู้ถือบัตรต่างพากันเข้าซื้อสินค้าในร้านเพชรเสวี่ยเพื่อเพิ่มระดับบัตรสมาชิกของตัวเอง เพียงระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์สร้างรายได้ให้กับร้านเสวี่ยมากกว่าสามล้านหยวน ทำลายยอดสถิติหลายปีที่ผ่านมาของเสวี่ยกรุ๊ปจนบรรดาผู้ถือหุ้นทั้งหลายต่างพากันตกใจและเมื่อถึงกำหนดส่งบัตรเชิญจำนวนลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิกระดับแบล๊กโกล์ดคลาสจากสิบกว่าคนก็เพิ่มยอดเป็นสามสิบคน คิดคำนวณดูแล้วเพียงแค่กลุ่มลูกค้านี้ก็สร้างรายได้ให้ร้านเสวี่ยถึงสามล้านหยวนแล้ว“ไฉ่หงทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”“เรียบร้อยดีค่ะ”ซ่งเจียซินที่มาตรวจสอบความเรียบร้อยของการจัดงานสอบถามกวนไฉ่หง โดยวันนี้เธอได้มอบหมายให้ตงซางเข้าไปต้อนรับสมาชิกและดูแลความเรียบร้อยด้านใน แต่หากมีเรื่องผิดพลาดหรือปัญหาใดๆ เกิดขึ้นตัวเธอก็จะรอจัดการอยู่ที่ด้านนอก“ยอดการสั่งจองเป็นอย่างไรบ้าง”“แบบร่างทั้งหกสิบแบบที่จะผลิตในปีนี้ถูกสั่งจองไว้ทั้งหมดแล้วค่ะ”“ดี!”และเพราะแบบร่างทั้งหกสิบแบบที่อันลู่ซือออกแบบไว้ก็ถูกสั่งจองไปจนหมด ทำให้ที

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 57 สถานะที่ไม่อาจครอบครอง

    หลังจากงานเลิก ซ่งเจียซินก็พาเด็กชายทั้งสามแยกตัวออกจากงาน อาจเพราะเป็นเวลาที่ดึกมากแล้วดังนั้นขึ้นรถมาได้ไม่นานทั้งสามคนก็เอนหลับ ดวงตากลมมองศีรษะเล็กของหลี่จื่อรั่ว และ หลี่จื่อชิงที่นอนซบอยู่บนตักนุ่ม ขณะที่หลี่จื่อหมิงนั่งนิ่งแผ่นหลังตรงราวกับยังมีสติครบ เพียงแต่ดวงตาที่ปิดสนิทกับลมหายใจที่สม่ำเสมอก็ทำให้ซ่งเจียซินรับรู้ได้ว่าเขาเองก็หลับแล้วเช่นกัน“คุณชายทั้งสามยังเด็ก ออกงานครั้งแรกมีปัญหาอะไรไหมคะ”“ไม่มี”เมื่อตอบจูหลินอิงไปแล้วซ่งเจียซินก็อดคิดถึงภาพสามคุณหนูที่ถูกเด็กชายทั้งสามลงมือไม่ได้“ถึงมีฉันก็จะปกป้องพวกเขาเอง”“คุณหนูดีกับคุณชายน้อยทั้งสามคนขนาดนี้ คุณหลี่ก็ยังคิดมอบใบหย่าคุณอีก ช่างเป็นบุรุษที่ใจร้ายจริงๆ”ในรถพลันเงียบลงในทันทีจูหลินอิงที่รู้ว่าตนเองพูดเรื่องที่ไม่สมควรออกมาก็รีบกล่าวขอโทษแล้วหันกลับไปนั่งนิ่งไม่พูดอะไรอีกซ่งเจียซินปวดหนึบในใจ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่แต่เธอรู้สึกรักและผูกพันจนไม่อยากจากเด็กชายทั้งสามไปเลย ดวงตากลมเสมองไปนอกหน้าต่างเพื่อขับไล่ความรู้สึกในอก จึงไม่เห็นมือเล็กของหลี่จื่อหมิงที่กำแน่นเข้าหากันบิดาของเขาคิดจะมอบใบหย่าให้มารดาเลี้ยงอย่า

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 56 ลูกที่ดีย่อมต้องเชื่อฟังพ่อแม่

    “ชิงหยวน เป็นอย่างไรบ้าง”อวี้ซูซินเห็นลูกสาวของตนเองเดินกลับออกมาก็เอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล เช่นเดียวกับเสวี่ยตงฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ“ลูกไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพ่อจะสนับสนุนลูกเอง”“ขอบคุณค่ะ”เพราะยังไม่แน่ใจว่าสิงฉู่หรันจะช่วยเหลือจากใจจริงหรือไม่ ซ่งเจียซินจึงทำได้เพียงหมุนตัวไปทางเวทีด้านหน้า พลันแสงไฟในงานก็ดับลง เหลือเพียงแสงที่สาดขึ้นบนเวทีซ่งเจียซินจดจ้องบนลานเดินที่บรรดานางแบบกำลังทยอยเดินออกมา บนตัวของพวกเธอแต่ละคนต่างสวมเครื่องเพชรหรูหรา โดยมีพิธีการชายหญิงคอยอธิบายถึงคุณสมบัติต่างๆ ของผลงานแต่ละชิ้น“และในลำดับต่อไปเป็นเครื่องเพชรจากร้านเสวี่ยครับ”สิ้นเสียงของพิธีกรสิงฉู่หรันในชุดสีดำวาวก็เดินออกมายังเบื้องหน้าเวที ด้วยรูปลักษณ์และใบหน้าที่โดดเด่น อีกทั้งท่วงท่าสง่างาม แน่นอนว่าเธอย่อมเป็นจุดสนใจของผู้คนในทันทีที่ปรากฏตัว“นั้นคุณสิงฉู่หรัน ดาราดังไม่ใช่หรือ”“ได้ยินว่าเธอไม่รับงานเดินแบบนี่นา ไม่คิดเลยว่าร้านเสวี่ยจะสามารถเชิญเธอมาเดินแบบให้ได้”เสียงผู้คนดังขึ้น เสวี่ยชิงหยวนจ้องมองไปบนเวทีด้วยหัวใจที่สั่นระรัว สองมือข้างลำตัวกำแน่นด้วยความกังวล ก่อนจะสัมผัสได้ถึง

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 55 ชดใช้คืนให้

    “คุณหนูเสวี่ยครับเกิดเรื่องแล้ว”“เรื่องอะไร”“นางแบบที่จะสวมชุดเครื่องเพชรของร้านเราขึ้นเวทีเป็นลมหมดสติไปกะทันหันครับ”ซ่งเจียซินขมวดคิ้วเรียวแน่น ในแววตามีความกังวลและสงสัยเกิดขึ้นทันทีที่ฟังคำรายงานของตงซางจบ เพียงแต่ตอนนี้สิ่งสำคัญไม่ใช่การหาสาเหตุการเกิดปัญหา แต่คือการหาวิธีแก้ไขปัญหา“คุณแม่คะ ฉันฝากเด็กๆ ไว้สักครู่นะคะ”“ได้!แม่จะดูแลพวกเขาเอง ลูกไปจัดการธุระเถอะ”“แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะดูแลน้องๆ เอง”หลังจากได้รับคำตกลงจากมารดา และคำมั่นจากหลี่จื่อหมิงซ่งเจียซินก็วางใจเร่งเดินไปที่ห้องด้านหลังเวทีในทันที“คุณเสวี่ย พวกเราจะทำยังไงดี”อันลู่ซื่อถามด้วยความร้อนใจ บรรยากาศในห้องแต่งตัวเวลานี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด แม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นเหตุสุดวิสัย และทางสมาคมหมิงหลันไม่ได้ตำหนิพวกเธอร้านเสวี่ย แต่สำหรับซ่งเจียซินแล้วนี่กลับเป็นการขาดทุนมหาศาลหากไม่ได้ขึ้นเวทีเครื่องเพชรของเธอก็จะไม่ได้ถูกนำเสนอ ชื่อร้านเสวี่ยก็จะไม่มีการประกาศ เช่นนี้แล้วทุกอย่างที่ลงแรงไปก็เท่ากับศูนย์เปล่า“นางแบบเป็นยังไงบ้าง พาไปโรงพยาบาลหรือยัง”“เรียบร้อยแล้วครับ”ในสถานการณ์เช่นนี้ซ่งเจียซินไม่ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status