ซ่งเจียซิน ถูกรถชนตาย ทว่าตายแล้วเกิดนับเป็นวัฏจักรชีวิต แต่การเกิดใหม่ของเธอแปลกประหลาดเกินไปไหม คนอื่นเกิดใหม่ในครรภ์มารดา แต่เธอกลับเกิดใหม่มาเป็นมารดาผู้อื่น ที่สำคัญผู้อื่นที่ว่ายังมีถึง 3 คน
View Moreบทนำ
“ที่นี่คือที่ไหน? ทำไมถึงมืดขนาดนี้ มีใครอยู่ไหมคะ ช่วยเปิดไฟให้หน่อยได้ไหม”
ท่ามกลางความมืดสนิทที่มองไปทางไหนก็ไร้จุดหมาย ซ่งเจียซินเดินไปมาอย่างไร้ทิศทาง เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองกำลังจะเดินข้ามถนนเพื่อไปซื้อเนื้อหมูสดที่ตลาดฝั่งตรงข้าม แต่ขณะที่อยู่ตรงกลางถนนบังเอิญมีหญิงชราคนหนึ่งหกล้ม ด้วยคุณธรรมในใจจึงหันหลังกลับไปช่วยพยุงอีกฝ่ายลุกขึ้น
"เจอกันอีกแล้วนะ"
"เจอกันอีกแล้วเอ่อ... เราสองคนเคยเจอกันมาก่อนด้วยหรือคะ"
หญิงชราคนนั้นไม่ได้ตอบอะไร เพียงยิ้มให้เธอแล้วเดินจากไป ซ่งเจียซินแม้จะสงสัยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ หมุนตัวเพื่อเดินไปยังอีกฟากของถนนเพื่อเร่งทำธุระของตนต่อ
ใกล้ได้เวลาเข้างานแล้ว ถ้ายังไม่เร่งวันนี้เธออาจจะหมักหมูไม่ทัน แล้วพรุ่งนี้ก็คงไม่มีหมูไปย่างขาย
ในขณะที่ซ่งเจียซินเร่งฝีเท้า แสงไฟจากรถบรรทุกคันหนึ่งก็สาดส่องมาที่ตัวเธอ ไม่ทันตั้งตัวสติก็ดับวูบ ร่างกายมืดมิดขึ้นมากะทันหัน คาดเดาตามสถานการณ์แล้วเธอต้องถูกรถบรรทุกคันนั้นชนตายอย่างแน่นอน แต่เพราะอะไรตอนนี้เธอจึงมาอยู่ที่นี้ หรือว่านี่จะเป็นเส้นทางไปยมโลกที่กล่าวถึงในนิทานระดับประถม
แต่ไม่ทันได้คำตอบที่แน่ชัด ทั่วทั้งตัวของซ่งเจียซินก็รู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกเลาะกระดูก เฉือนเนื้อ เธอกรีดร้องดังลั่น ร่างกายค่อยๆ ทรุดลง ก่อนจะรู้สึกคล้ายมีแรงบางอย่างดึงกระชากราวกับกำลังตกจากที่สูง
"กรี๊ด!" หญิงสาวหลับตากรีดร้องลั่นอีกครั้ง ก่อนความรู้สึกวูบหล่นจะหยุดนิ่ง พร้อมกับอาการเจ็บปวดที่ค่อยๆ ทุเลาลง
เมื่อความเจ็บปวดจางหาย ซ่งเจียซินก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้ง หากแต่แสงที่สว่างเข้ามาในลานสายตาแบบกะทันหันทำให้เธอรู้สึกแสบตาจนต้องยกมือขึ้นบดบังแสง เพียงแต่มือของเธอ...
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
ดวงตากลมเบิกกว้าง ดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วเลื่อนมือของตนลงมามองด้วยอาการตกใจ
ทำไมมือที่แข็งกระด้างหยาบกร้านของเธอจึงได้เปลี่ยนเป็นขาวเนียนและนุ่มละมุนขนาดนี้ หลังจากพิจารณาจนแน่ใจแล้วว่ามือนี้ไม่ใช่มือของเธอ ซ่งเจียซินก็ขยับตัวลงจากเตียงนอน ยกมือทั้งสองข้างขึ้นสำรวจอีกหน
“นะ... นี่มัน... ไม่ใช่มือของฉัน! แต่ทำไมจึงกลายเป็นมือของฉัน”
ซ่งเจียซินตั้งแต่อายุสิบสามก็ทำอาชีพขายหมูย่างเลี้ยงชีพ ในทุกวันไม่เพียงแต่ต้องออกไปซื้อเนื้อหมูมาหมักเสียบไม้ ยังต้องผ่าฟืนก่อไฟย่างเนื้ออยู่หน้าเตาจนใบหน้าหยาบกร้าน เวลาที่เว้นว่างยังทำงานเสริมสารพัด ตั้งแต่เย็บผ้าไปจนถึงแบกปูน ดังนั้นมือคู่นี้ของเธอจึงทั้งแข็งและแห้งกราน จะนุ่มละมุนและขาวเนียนเช่นนี้ได้ยังไงกัน
ในขณะที่กำลังตกใจกับมือของตนเองที่เปลี่ยนแปลงไป ภาพความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยก็ไหลเข้ามาในห้วงความคิดอย่างกะทันหัน
“โอ๊ย!” ซ่งเจียซินกัดฟันร้องในลำคอ ยกสองมือขึ้นกุมศีรษะที่ปวดร้าวราวกับจะปริแตก จนเสียหลักล้มลงบนเตียงอีกหน
นี่มันเรื่องอะไรกัน... ความทรงจำพวกนี้... ทำไม... ทำไมถึงเข้ามาในหัวของฉัน
หญิงสาวดิ้นไปมาบนเตียงนอนอย่างทรมาร จนกระทั่งภาพความทรงจำมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาหยุดลง อาการทรมานจึงสิ้นสุด เธอทิ้งตัวหายใจหอบถี่ด้วยความสับสนและหวาดกลัว ดวงตากลมกวาดมองไปรอบๆ ตัว ยิ่งเห็นว่าตนเองอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย หัวใจของเธอก็ยิ่งทวีความรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา
ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วที่นี่คือที่ไหน
นะ... นั่นคนใช่ไหม
สายตาตื่นตระหนกหยุดอยู่บนร่างของชายหนุ่มแปลกหน้าที่นอนขดบนโซฟา แม้จะอยู่ในระยะห่างหลายเมตรแต่ซ่งเจียซินก็สามารถมองเห็นเค้าโครงใบหน้าอันหล่อเหลาและคมเข้ม ของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน พลันภาพความทรงจำหนึ่งก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง
อี้โจว หลังดื่มเหล้าแก้วนี้คุณก็นับว่าเป็นสามีโดยสมบูรณ์ของฉันแล้ว
สามี! ที่แท้ชายหนุ่มหล่อเหลาบนโซฟาคนนี้ก็คือสามีเจ้าของร่างเดิม... นายแพทย์ทหารมากฝีมือ ผู้พันหลี่ หลี่โจวอี้ นั่นเอง
ซ่งเจียซินนั่งหายใจหอบอยู่บนเตียง ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับแต่เหตุผลเดียวที่พอจะอธิบายสถานการณ์ของเธอในตอนนี้ได้ก็คือ เธอทะลุมิติ มาเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวที่มีชื่อว่า ‘เสวี่ยชิงหยวน’ หญิงสาวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวย และร้ายกาจจนเลื่องลือไปทั่ว
สตรีไร้ยางอายเช่นเธอ ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งภรรยาของฉัน
คำพูดของหลี่อี้โจวที่ประกาศก้องห้องโถงในค่ำคืนนั้นชัดเจนจนซ่งเจียซินรับรู้ได้ถึงความคับแค้นใจของเจ้าของร่างเดิม เพียงแต่เรื่องนี้หากจะผิดก็ผิดที่เจ้าของร่างเดิมผู้นี้ ใครใช้ให้นางคิดร้ายต่อสามีตนเอง ถึงขั้นวางยาปลุกอารมณ์เพื่อหวังบังคับฝืนใจชายหนุ่มให้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งทางกายด้วย ถูกเขาแสดงท่าทีรังเกียจเช่นนั้นก็นับว่าเหมาะสม เพียงแต่ไม่รู้ว่าการกระทำในอดีตของเจ้าของร่าง จะมีผลต่อ้ธอในอนาคตหรือไม่
เอาเถิดอย่างน้อยก็มีบ้านให้อยู่ มีข้าวให้กิน เทียบกับชีวิตก่อนที่ต้องทำงานหาเงินมาแลกข้าว แลกที่อยู่แล้ว ชีวิตใหม่นี้ก็ไม่เลวนัก
ในขณะที่กำลังพยายามสะกดจิต สงบใจ ให้ยอมรับสถานการณ์อันเหนือธรรมชาติอยู่นั้น หญิงสาวก็ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก ก่อนที่ใบหน้ากลมราวลูกซาลาเปาก้อนหนึ่งจะโผล่เข้ามา
“แม่! คุณฟื้นแล้ว!”
แม่! ซ่งเจียซินที่ได้ยินเจ้าซาลาเปาน้อยหน้าประตูเรียกขาน ก็ถึงกับอ้าปากค้างไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง แค่เธอทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นสตรีร้ายกาจจนถูกสามีหมางเมินก็ยากจะทำใจยอมรับแล้ว ตอนนี้ยังมีลูกอีกหนึ่งคนมาให้เลี้ยงเพิ่ม...
สวรรค์พวกท่านว่างมากหรือไง ถึงได้เล่นตลกกับชีวิตคนเช่นนี้
.................................................
"ผมไม่ให้ไป!""คุณเฉิน นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวแบบนี้""สิทธิ์ในการเป็นสามีของคุณยังไงล่ะ"ได้ยินคำพูดที่เอาแต่ใจของชายหนุ่มตรงหน้าสิงฉู่หรันก็ได้แต่ขบกรามแน่น เดินเข้ามาประชิดตัวเขาแล้วพูดเสียงหนักแน่นลอดไรฟัน"อย่างนั้นฉันก็จะหย่า ต่อจากนี้ระหว่างคุณกับฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"เฉิงเซียวขบกรามแน่น สิงฉู่หรันเธอกล้าดีอย่างไรมาพูดเรื่องหย่ากับเขาเช่นนี้ ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำอธิบายอะไรคนโตก็ตวัดอุ้มหญิงสาวขึ้นแนบอก"ว้าย! ท่านประธานเฉิน คุณจะทำอะไร ปล่อยตัวฉู่หรันนะคะ""เธอเป็นภรรยาของผม ผมจะจับจะปล่อยคุณเกี่ยวอะไรด้วย""แต่ฉันเป็นผู้จัดการส้วนตัวของน้องฉู่หรันนะคะ""อย่างนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปก็ไม่ต้องเป็นอีก ผม! ไล่! คุณ! ออก!""คุณเฉิน คุณถือดีอะไรมาไล่คนของฉันออก""คนของเธออย่างนั้นหรอ ฉู่หรันชีวิตนี้คนที่สามารถใช้คำว่าคนของเธอมีแค่ฉัน เฉินเซียว! คนเดียวเท่านั้น"และนับจากเหตุการณ์นี้ดาราสาวดาวรุ่งสิงฉู่หรันก็หายไปจากวงการบันเทิง ผู้คนต่างเล่าลือกันว่าเป็นเพราะสามีของเธอหึงหวงภรรยาคนสวยมาก ถึงขั้นมอบหุ้นกิจการของตระกูลเฉินครึ่งหนึ่งให้เธอเป็นข้อแลกเปล
หลังจากที่หลี่จื่อหมิงหายดีแล้ว ทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เว้นเพียงเรื่องของซ่งเจียซินและหลี่โจวอี้ ที่ทุกคืนจะต้องวุ่นวายจนกลับเช้า เขาจึงยอมปล่อยให้เธอได้นอนพัก"เด็กๆ อยากได้น้องสาวมาก ช่วงนี้แม้ผมจะเหนื่อยกับคนไข้ไปหน่อยแต่ก็ยินดีทำเพื่อพวกเขา"ซ่งเจียซินถอนหายใจอย่างระอา เธอใช้ชีวิตมาสองชาติสองภพเพิ่งเคยเจอคนที่หลงและมั่นใจในตัวเองถึงเพียงนี้ "คุณเสวี่ยครับ ทางร้านเหม่ยลี่ส่งชุดมาให้แล้วครับ"ตงซานรายงานพร้อมกับส่งกล่องกระดาษห้า ใบให้กับหญิงสาวผู้เป็นนาย ซ่งเจียซินพยักหน้ารับ อาทิตย์ก่อนหลังจากที่ได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมงานหมั้นของอันลู่ซือและประธานฮั่ว ซ่งเจียซินก็สั่งตัดชุดให้กับตัวเองและพ่อลูกบ้านหลี่ทั้งสี่คน"คุณเสวี่ย คุณจะพานายพลหลี่ แล้วก็เด็กๆ ไปร่วมงานด้วยจริงๆ หรือครับ"ถึงแม้ว่าหลี่โจวอี้จะเป็นนายพลที่ผู้คนนับหน้าถือตา แต่งานสังคมแบบนี้มีแต่นักธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ หลี่โจวอี้เป็นทหารเข้าไปร่วมงานอาจจะรู้สึกอึดอัดไม่สะดวกในการวางตัว"พวกเขาเป็นคนของฉัน หากเกิดอะไรขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง"เมื่อเจ้านายสาวกล่าวออกมาเช่นนี้ ตงซานก็ไม่คิดเซ้าซี้ให้มากความ หมุนตัวเดินออกไปทำหน
ทางด้านซ่งเจียซินหลังจากที่หลี่โจวอี้ลงไปส่งเฟิ่งเฉิงเยว่ เธอก็ตักข้าวต้มปลาใส่ชามส่งให้เด็กๆ อย่างใส่ใจ จนพวกเขาอดที่จะคิดถึงมารดาผู้ให้กำเนิดไม่ได้ เพราะตั้งแต่ที่พ่อออกจากประตูไป เธอไม่เพียงไม่ใส่ใจพวกเขา ทุกคำพูดหากไม่ตำหนิพ่อ ก็ด่าทอมารดาเลี้ยง ยุยงให้พวกเขาเกียจชังอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา และที่ร้ายแรงเกินกว่าจะยอมรับก็คือการกระทำที่มารดาผู้นั้นกระทำกับลุงเฟิ่งของพวกเขา"ฝีมือของพี่อิงอิงนับว่าไม่เลว แต่ก็ยังเทียบกับมือของแม่ไม่ได้"“จริงครับ แม่ครับพรุ่งนี้คุณหมอก็จะให้จื่อหมิงกลับบ้านได้แล้ว แม่ทำข้าวต้มปลาให้พวกเรากินได้ไหมครับ”“ถ้าลูกๆ อยากกิน แน่นอนว่าไม่มีปัญหา”ซ่งเจียซินเห็นเด็กๆ มีความสุขเช่นนี้ในใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่นไปด้วย เพียงแต่เมื่อมองไปยังหลี่จื่อหมิงที่นั่งอยู่บนเตียงโดยไม่ตักอาหารกินสักคำ อีกทั้งสีหน้าและแววตาของเขายังเต็มไปด้วยความกังวลบางอย่าง ก็คาดเดาไปว่าเด็กชายคงคิดถึงกวงเหยียนฟางให้เธอดีแค่ไหน ก็เป็นได้แค่มารดาเลี้ยง ไม่อาจเทียบเท่ากับมารดาที่แท้จริงในใจของเธอรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย เพียงแต่ซ่งเจียซินไม่ใช่คนไร้เหตุผล จิตใจคับแคบ จึงเข้าใจความรู้สึกของเด็กๆ
ซ่งเจียซินลุกจากเตียงด้วยความยากลำบากก่อนจะตวัดสายตามองไปทางชายหนุ่มที่ยังนอนอยู่บนเตียงด้วยความไม่พอใจ"คุณหลี่ ทำไมคุณยังไม่รีบลุกมาแต่งตัวอีกไม่ใช่คุณบอกว่าเด็กๆ กำลังรอกินข้าวต้มปลาของฉันอยู่หรือคะ""มีเฉิงเย่วดูแลพวกเขาอยู่ จะต้องกังวลไปทำไมกัน""คุณไม่กังวล แต่ฉันกังวลค่ะ ฉันจะไปดูลูกค่ะคุณอยากจะนอนพักต่อก็ตามสบายค่ะ"พูดจบซ่งเจียซินที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินเปิดประตูออกไป โดยไม่สนใจคนบนเตียงอีกหลี่โจวอี้เห็นหญิงสาวเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะชายตามองตนเองก็อ้าปากค้างรีบลุกจากเตียง สวมใส่เสื้อผ้าอย่างเร่งรีบ ก่อนจะวิ่งตามเธอลงมาด้านล่าง"ชิงหยวน คุณกำลังจะทิ้งผมอีกแล้ว"ซ่งเจียซินถอนหายใจพลางอย่างระอาใจกับความแง่งอนไร้เหตุผลของคนตรงหน้า ทว่าเวลานี้เด็กๆ กำลังรอเธออยู่ที่โรงพยาบาล ดังนั้นเธอจึงยอมถอยให้เขาหนึ่งก้าว "ฉันจะทิ้งคุณได้ยังไงกันคะ เรารีบไปกันเถอะค่ะ เด็กๆ รอพวกเรานานแล้ว"ซ่งเจียซินบอกพร้อมกับเดินเข้ามาจับแขนของคนตัวโต เมื่อเห็นว่าเสวี่ยชิงหยวนงอนง้อตนเองด้วยท่าทางน่ารัก ใบหน้าคมเข้มของหลี่โจวอี้ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง เปิดประตูรถเข้าไปประจำที่นั่งคนขับทำหน้าที่เป็นคนข
“ผมไม่กวนคุณแล้ว แค่อยากให้พวกเราไปนอนพักกันสักหน่อยจะได้มีแรงดูแลเด็กๆ แต่ถ้าคุณต้องการผมก็ไม่ขัด”ซ่งเจียซินตวัดสายตามองคนตัวโตอีกครั้ง สองแก้มร้อนผ่าวคิดถึงเรื่องที่ร้านเสวี่ยก่อนหน้านี้ด้วยความรู้สึกอับอาย“โต๊ะทำงานของคุณแข็งมาก คุณปวดหลังไหม”เสียงทุ้มอ่อนโยนถามด้วยความห่วงใยหลังจากวางคนลงบนเตียงกว้าง ซ่งเจียซินเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนหน้านี้เขาลงมือแบบไม่มีออมแรง ตอนนี้มาถามไถ่ไม่รู้สึกว่าช้าไปหรืออย่างไร“ถ้าคุณไม่ปวดอย่างนั้นเรามา...”“คุณหลี่ หยุดนะ!เมื่อครู่คุณบอกว่าจะพักไม่ใช่หรือไง”หลี่โจวอี้มองท่าทางดึงผ้าห่มมาบังตัวของเสวี่ยชิงหยวนแล้วยิ้มกว้าง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นสีหน้าท่าทางเช่นนี้ของเสวี่ยชิงหยวน“โอ๊ย!คุณทำอะไรน่ะ ฉันเจ็บนะ”ร้องพลางยกมือขึ้นจับหน้าผากที่ถูกนิ้วยาวของเขาดีดใส่เมื่อครู่ ทว่ายังไม่ทันตำหนิอีกฝ่ายต่อ ริมฝีปากร้อนของเขาก็กดลงบนรอยแดงเล็กที่หน้าผากเนียน“แบบนี้หายหรือยัง”“คุณหลี่!”ซ่งเจียซินเบิกตากว้างรีบขยับตัวถอยห่างจากชายหนุ่ม แต่กลับถูกวงแขนแกร่งของเขาตวัดเอวเล็กมาแนบชิดแล้วดึงนอนตะแคงบนเตียงด้วยกัน“หยวนหย
"คุณหลี่... คุณจะทำอะไร นี่มันห้องทำงานของฉันนะคะ""ผมก็แค่จะพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายของผมให้คุณดูก็เท่านั้น""ไม่... อื้ม..."เสียงของซ่งเจียซินเงียบลงในทันที เมื่อริมฝีปากบางถูกนายพลหนุ่มจู่โจมยึดครองด้วยจุมพิตที่เร่าร้อนรุนแรง"คุณหลี่อย่าค่ะ... ที่นี่ไม่ได้... อ่ะ..."ทันทีที่ริมฝีปากบางได้รับอิสระซ่งเจียซินก็รีบเอ่ยปากร้องห้ามเขาอีกครั้ง พร้อมกับใช้สองมือออกแรงดันอกแกร่งเพื่อให้เขาถอยห่าง แต่กลับถูกเขาจับยึดเอาไว้ด้วยมือเดียว แล้วกดตัวเธอลงบนโต๊ะทำงาน"คุณหลี่ ปล่อยฉันนะ...""หยวนหยวนคุณไม่ต้องการผมจริงๆ เหรอ"หลี่โจวอี้กระซิบถามเสียงแหบพร่าพร้อมกับกดริมฝีปากไล้ไปตามลำคอระหง มืออีกข้างก็ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อด้านหน้าของเธอออก เผยเนินเนื้ออกอิ่มขาวเนียนตัดกับชุดชั้นในราคาแพงสีดำ ที่กำลังถูกเขาถอดออกไปให้พ้นทาง"อ่ะ... โจวอี้"ซ่งเจียซินร้องครวญเสียงกระเซ่า เมื่อยอดอกถูกริมฝีปากร้อนยึดครองดูดดึง จนเป็นรอยแดงก่ำ ความเร่าร้อน ปรารถนาในกายถูกปลุกเร้าให้ตื่นตัว จนเธอเผลอแอ่นอกอวบอิ่มเข้าหา ตอบรับสัมผัสเขาอย่างไม่รู้ตัว"อื้ม... หยวนหยวน"หลี่โจวอี้สัมผัสได้ถึงความพร้อมของเธอก็ขยับรุกเข้าห
Comments