แชร์

บทที่ 12 ความเชื่อใจ (4)

ผู้เขียน: ชงเมิ่ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-20 14:39:38

ซ่งเจียซินยืนพิงขอบหน้าต่างห้องนอน ร่วมเดือนแล้วที่เธอทะลุมิติมาใช้ชีวิตในฐานะของเสวี่ยชิงหยวน แต่ระยะเวลาอันแสนสั้นนี้ก็ทำให้เธอได้รู้ว่า หลี่โจวอี้ไม่ได้ต้องการให้เธอเป็นภรรยาอย่างแท้จริง และเด็กชายทั้งสามก็ไม่ปรารถนาให้เธอเป็นมารดาเลี้ยง เช่นนี้แล้วยังมีเหตุผลใดให้เธอต้องทนอยู่ในบ้านหลังนี้กัน

“อิงอิง ในยุคนี้สามีภรรยาสามารถหย่าขาดจากกันได้แล้วใช่ไหม”

“ได้ค่ะ แต่การหย่าร้างจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของผู้หญิงนะคะ”

หูหลินอิงอยู่กับเสวี่ยชิงหยวนมาหลายปี แม้ช่วงนี้อีกฝ่ายจะมีพฤติกรรมและความคิดที่แปลกไปจากปกติ แต่เธอก็พอจะคาดเดาความคิดของผู้เป็นนายได้

“ก็แค่หญิงหม้าย หย่าสามี มีเรื่องใดให้ต้องอับอายกัน”

“คุณหนูตัดใจทิ้งคุณชายทั้งสามได้หรือคะ”

หากเป็นเมื่อก่อนหูหลินอิงย่อมไม่กล้าถามคำถามนี้ เพราะรู้ดีว่าคุณชายทั้งสามไม่มีความสำคัญใดต่อคุณหนูของตนเลยสักนิด ทว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ขอเพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณชายน้อยทั้งสาม คุณหนูของเธอก็จะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ

“พวกเขาต้องการฉันด้วยหรือ”

หลี่จื่อหมิง และ หลี่จื่อรั่วสบตากันก่อนจะมองไปที่หลี่จื่อชิงด้วยความสงสัย ก่อนที่หลี่จื่อรั่วจะขยับตัวไปนั่งประชิด จับมือของแฝดคนพี่มากอบกุมแล้วถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“จื่อชิง วันนี้นายเป็นอะไร ไม่พอใจที่คุณแม่ไปโรงเรียนหรือ”

เพราะปกติแล้วเรื่องเดียวที่ทำให้หลี่จื่อชิงไม่พอใจได้ก็คือการที่มารดาเลี้ยงพยายามแสดงสถานะของเธอในที่สาธารณะ นั่นเพราะสำหรับหลี่จื่อชิงแล้วสถานะนี้มีไว้ให้มารดาที่แท้จริงของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

“เธอไปโรงเรียนเพื่อจัดการติงฝูไห่ให้พวกเราฉันจะไม่พอใจเธอได้อย่างไร”

“ถ้าอย่างนั้นนายเป็นอะไรไป ตั้งแต่กลับมาฉันเห็นนายสีหน้าไม่ดีเลย”

หลี่จื่อชิงได้ยินน้องชายฝาแฝดเอ่ยถามด้วยท่าทางใสซื่อก็ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด หมุนตัวมาสบดวงตากลมใสแล้วถามกลับเสียงเครียด

“จื่อรั่ว นายไม่หงุดหงิดเลยหรือไง”

“หงุดหงิด? ฉันต้องหงุดหงิดเรื่องอะไรหรือ”

“ก็หญิงใจร้ายคนนั้นไปที่โรงเรียนของเราวันนี้ เจอปัญหาไม่คิดจะพูดถึงคุณพ่อเลยสักคำกลับไปพูดถึงคนอื่น”

“พูดถึงคนอื่น? นายหมายถึงเพื่อนคุณแม่ที่ชื่อ... เฉินเซียว อะไรนั่นใช่ไหม”

“ใช่! จื่อรั่วนายไม่รู้อะไร วันที่นายไปโรงพยาบาลเพราะถูกน้ำร้อนลวกแขน ภรรยาของผู้ชายคนนี้มาหาเรื่องพวกเรา เพราะไม่พอใจที่ในอดีตหญิงใจร้ายคนนั้นเคยไปเกี่ยวข้องกับผู้ชายของเธอ”

“ในอดีต? แสดงว่าตอนนี้คุณแม่ของพวกเราก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับชายคนนั้นแล้ว ทำไมผู้หญิงคนนั้นยังต้องมาหาเรื่องคุณแม่ของพวกเราอีก”

“จื่อรั่ว! นายไม่เข้าใจ จะอดีตหรือปัจจุบันนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือวันนี้หญิงใจร้ายคนนี้ไม่คิดถึงคุณพ่อเลยสักนิด กลับคิดพึ่งพาชายที่มีภรรยาแล้วอย่างเฉินเซียวผู้นั้น!”

“นั่นเพราะคุณพ่อไม่เคยเป็นที่พึ่งให้เธอ”

หลี่จื่อหมิงที่นั่งนิ่งฟังบทสนทนาของน้องชายทั้งสองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แม้ว่าที่ผ่านมาตัวเขาจะไม่ชื่นชอบเสวี่ยชิงหยวนมากนัก แต่ก็ยอมรับว่าเธอไม่ได้เป็นมารดาเลี้ยงที่ย่ำแย่จนเกินไป กลับเป็นบิดาของพวกเขาที่ละเลยเธออย่างชัดเจน ดังนั้นวันนี้เธอคิดไปพึ่งพาคนอื่นย่อมไม่ใช่ความผิดของเธอ

“ดึกแล้วรีบนอน พรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียน”                     

ในช่วงสายของวันถัดมาที่บ้านตระกูลหลี่ก็มีแขกมาเยือน ในตอนแรกซ่งเจียซินก็ยังสงสัยว่าบุรุษคุ้นหน้าผู้นี้เป็นใคร แต่เมื่อทบทวนความทรงจำของเสวี่ยชิงหยวนแล้วก็พบว่า บุรุษตรงหน้าก็คือเสวี่ยตงฉิน บิดาของเจ้าของร่างนั่นเอง

“คุณพ่อมาหาฉันถึงที่นี่มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ”

ความจริงแล้วซ่งเจียซินไม่ต้องถามก็พอจะคาดเดาได้ว่า

เสวี่ยตงฉินมาหาเธอถึงบ้านตระกูลหลี่ด้วยสาเหตุอะไร

“ผู้ช่วยสวีรายงานเรื่องที่ร้านเครื่องเพชรแล้ว”

“เป็นฉันที่ตัดสินใจโดยพลการ ต้องขอโทษคุณพ่อด้วย”

“ขอโทษอะไรกัน พ่อยังต้องขอบคุณลูกด้วยซ้ำไป”

เสวี่ยตงฉินพูดด้วยรอยยิ้มที่ซาบซึ้งใจ ชีวิตนี้ของเขาก็เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง โรยราลงทุกวัน สิ่งเดียวที่กังวลก็คือกิจการของตระกูลที่ตกทอดมาหลายชั่วอายุคนอาจจะต้องสิ้นสุดที่เขา แต่ทั้งหมดนี้เขาไม่เคยคิดโทษลูกสาวตรงหน้าเลย ล้วนเป็นบิดาเช่นเขาที่เลี้ยงดูเธอได้ไม่ดี

เพียงแต่ไม่คิดว่าตระกูลหลี่ที่เป็นดั่งหมาป่าหิวโซนี้ เพียงสองปีก็ขัดเกลาลูกสาวของเขาจนกลายเป็นเพชรเม็ดงาม

“รับไปสิ”

“อะไรหรือคะ”

“ของขวัญ พ่อให้”

ซ่งเจียซินรับแฟ้มเอกสารตรงหน้ามาเปิด เมื่อเห็นว่ามันคือการโอนหุ้นกิจการร้านเพชรสาขาที่ 37 ดวงตากลมก็เบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ

“คุณพ่อคะนี่มันมากเกินไป”

“มากเกินไปอะไรกัน กิจการของเรามีทั้งหมดสี่สิบแปดสาขา ในวันหน้าล้วนต้องเป็นของลูก ตอนนี้แบ่งให้ลูกทดลองบริหารหนึ่งสาขา หากสิ้นปีนี้ทำกำไรได้มากกว่าปีที่แล้วเกินสิบเปอร์เซ็นต์พ่อจะยกอีกสองสาขาให้ดูแลเพิ่ม”

ซ่งเจียซินใจสั่นระรัว ทั้งตื่นเต้น ทั้งดีใจ หากแต่ก็แฝงความกังวลอยู่ในตัว

“แล้วหากฉันทำขาดทุนล่ะคะ”

“ไม่มีทางอยู่แล้ว แต่ถึงจะขาดทุนก็แค่สาขาเดียว คงไม่กี่แสนหยวน”

ไม่กี่แสนหยวน ในยุคที่เงินเดือนพนักงานประจำยังไม่ถึงร้อยหยวน บิดาของเสวี่ยชิงหยวนกลับมองเงินแสนหยวนเป็นเรื่องเล็ก แท้จริงแล้วตระกูลเสวี่ยมีฐานะมั่งคั่งแค่ไหนเธอคงไม่ต้องสงสัยอีก

เพียงแต่ที่ซ่งเจียซินสงสัยก็คือ เสวี่ยชิงหยวนเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งรวย ชีวิตเรียกได้ว่าเพียบพร้อมทุกอย่าง เช่นนั้นที่ผ่านมามีเหตุผลอะไรกันแน่ เธอถึงยอมทนอยู่กับหลี่โจวอี้ที่ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอ

รักแรกพบ เป็นคำตอบที่สะท้อนขึ้นมาในความทรงจำ

ซ่งเจียซินถอนหายใจยาวกับความรู้สึกงมงายของเจ้าของร่างเดิมยิ่งนัก เพราะคำว่ารักอย่างไร้เหตุผลเพียงคำเดียว ทำให้คนที่ดีพร้อมอย่างเสวี่ยชิงหยวนกลายเป็นสตรีโง่งม เป็นตัวตลกของคนทั้งเมือง

ชีวิตในอดีตเป็นเสวี่ยชิงหยวนที่เลือกเดิน แต่ชีวิตต่อจากนี้จะเป็นเธอที่เลือกเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 60 งานเลี้ยงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

    ซ่งเจียซินมองดูบัตรเชิญที่ตงซางยื่นให้แล้วขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย“สมาคมฟู่หลันอย่างนั้นหรือ ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“เป็นสมาคมที่ตระกูลฟู่ก่อตั้งขึ้นครับ เห็นว่าก่อตั้งมาเพียงสามปีก็ได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมาก มีทุนสนับสนุนหมุนเวียนปีละหลายล้านหยวนเลยทีเดียว”ทุนสนับสนุนหมุนเวียนปีละหลายล้านหยวน จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ที่จะมีคนบริจาคเงินสนับสนุนด้วยงบประมาณที่สูงถึงเพียงนั้น เว้นแต่ว่ากิจการสมาคมนี้เบื้องหลังจะไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางการกุศลเพียงอย่างเดียว ทว่าตระกูลฟู่นี้ทำไมจึงรู้สึกคุ้นหูนัก“ตระกูลฟู่... ทำไมฉันถึงได้คุ้นหูจัง”“อาจเป็นเพราะนายท่านตระกูลฟู่ ก็คือบิดาบุญธรรมของคุณเจียงครับ”“บิดาบุญธรรมของเจียงชิงชุน?”“ครับ ตระกูล เป็นผู้ประกอบกิจการรายใหญ่ของประเทศ ผลิตอุปกรณ์และยาทางการแพทย์ครับ”“กิจการของตระกูลเสวี่ยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่ดังนั้นงานเลี้ยงนี้คงไม่เหมาะสมที่จะไป”ในเมื่อไม่มีเหตุผลทางธุรกิจ และไม่มีความจำเป็นในความสัมพันธ์ส่วนตัวซ่งเจียซินก็คิดว่าเธอไม่ควรสอดมือเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่น่าไว้วางใจนี้ มือเรียวจึงวางบัตรเชิญ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 59 ผู้หญิงของเจียงชิงชุน

    ซ่งเจียซินแทบจะสำลักข้าวต้มเมื่อหลี่โจวอี้แจ้งข่าวว่าตนเองทำเรื่องย้ายกลับเข้าเมืองได้สำเร็จแล้ว และนับจากวันนี้ไปเขาจะอยู่ที่บ้านทุกวัน“คุณหลี่ เมื่อครู่คุณบอกว่ายังไงนะคะ”“ผมบอกว่าตอนนี้ผมทำเรื่องย้ายมาสังกัดในเมืองได้แล้ว ต่อไปก็สามารถอยู่กับลูกและคุณได้ทุกวัน”อยู่ได้ทุกวัน เพียงแค่คิดซ่งเจียซินก็รู้สึกว่าเส้นเลือดที่ขมับปูดโปนขึ้นมา สบดวงตาคมที่จ้องมองแล้วยิ้มแห้ง ทว่ายังไม่ทันพูดอะไรเสียงรถคันหนึ่งก็ขับมาจอดที่หน้าประตูรั้ว“คุณไป๋ชิงหลันมาพบคุณหลี่ค่ะ”หูหลันอิงเข้ามารายงานด้วยท่าทางสงบนิ่งหากแต่หางตาลอบมองผู้เป็นนายสาวด้วยความห่วงใย ซ่งเจียซินตวัดสายตามองชายหนุ่มหัวโต๊ะแล้วถอนหายใจยาว ช่างเป็นบุรุษมากเสน่ห์จริงๆ“อย่างนั้นคุณก็คุยกับเพื่อนสนิทไปก่อนก็แล้วกันนะคะ วันนี้ฉันจะไปส่งเด็กๆ เอง”พูดจบซ่งเจียซินก็ลุกขึ้น ไม่ต้องเอ่ยชวนเด็กชายทั้งสามก็ลุกขึ้นลงจากเก้าอี้ตามมารดาเลี้ยงในทันที“พ่อใจร้าย”หลี่จื่อรั่วพูดเสียงน้อยใจก่อนเดินออกไป ตามด้วยพี่ชายทั้งสองสีหน้าและแววตาชัดเจนว่าไม่พอใจคนเป็นพ่อเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน“เดี๋ยวก่อน ผมไม่ได้...”“โจวอี้...”หลี่โจวอี้พูดไม่ทันจบประโย

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 58 ความลุ่มหลงของภรรยา

    ข่าวเรื่องลูกค้าระดับแบล๊กโกล์ดคลาสของร้านเพชรเสวี่ยจะได้เลือกชมตัวอย่างแบบร่างเครื่องเพชรของนักออกแบบอันลู่ซือก่อนผู้อื่นทำให้บรรดาสมาชิกผู้ถือบัตรต่างพากันเข้าซื้อสินค้าในร้านเพชรเสวี่ยเพื่อเพิ่มระดับบัตรสมาชิกของตัวเอง เพียงระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์สร้างรายได้ให้กับร้านเสวี่ยมากกว่าสามล้านหยวน ทำลายยอดสถิติหลายปีที่ผ่านมาของเสวี่ยกรุ๊ปจนบรรดาผู้ถือหุ้นทั้งหลายต่างพากันตกใจและเมื่อถึงกำหนดส่งบัตรเชิญจำนวนลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิกระดับแบล๊กโกล์ดคลาสจากสิบกว่าคนก็เพิ่มยอดเป็นสามสิบคน คิดคำนวณดูแล้วเพียงแค่กลุ่มลูกค้านี้ก็สร้างรายได้ให้ร้านเสวี่ยถึงสามล้านหยวนแล้ว“ไฉ่หงทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”“เรียบร้อยดีค่ะ”ซ่งเจียซินที่มาตรวจสอบความเรียบร้อยของการจัดงานสอบถามกวนไฉ่หง โดยวันนี้เธอได้มอบหมายให้ตงซางเข้าไปต้อนรับสมาชิกและดูแลความเรียบร้อยด้านใน แต่หากมีเรื่องผิดพลาดหรือปัญหาใดๆ เกิดขึ้นตัวเธอก็จะรอจัดการอยู่ที่ด้านนอก“ยอดการสั่งจองเป็นอย่างไรบ้าง”“แบบร่างทั้งหกสิบแบบที่จะผลิตในปีนี้ถูกสั่งจองไว้ทั้งหมดแล้วค่ะ”“ดี!”และเพราะแบบร่างทั้งหกสิบแบบที่อันลู่ซือออกแบบไว้ก็ถูกสั่งจองไปจนหมด ทำให้ที

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 57 สถานะที่ไม่อาจครอบครอง

    หลังจากงานเลิก ซ่งเจียซินก็พาเด็กชายทั้งสามแยกตัวออกจากงาน อาจเพราะเป็นเวลาที่ดึกมากแล้วดังนั้นขึ้นรถมาได้ไม่นานทั้งสามคนก็เอนหลับ ดวงตากลมมองศีรษะเล็กของหลี่จื่อรั่ว และ หลี่จื่อชิงที่นอนซบอยู่บนตักนุ่ม ขณะที่หลี่จื่อหมิงนั่งนิ่งแผ่นหลังตรงราวกับยังมีสติครบ เพียงแต่ดวงตาที่ปิดสนิทกับลมหายใจที่สม่ำเสมอก็ทำให้ซ่งเจียซินรับรู้ได้ว่าเขาเองก็หลับแล้วเช่นกัน“คุณชายทั้งสามยังเด็ก ออกงานครั้งแรกมีปัญหาอะไรไหมคะ”“ไม่มี”เมื่อตอบจูหลินอิงไปแล้วซ่งเจียซินก็อดคิดถึงภาพสามคุณหนูที่ถูกเด็กชายทั้งสามลงมือไม่ได้“ถึงมีฉันก็จะปกป้องพวกเขาเอง”“คุณหนูดีกับคุณชายน้อยทั้งสามคนขนาดนี้ คุณหลี่ก็ยังคิดมอบใบหย่าคุณอีก ช่างเป็นบุรุษที่ใจร้ายจริงๆ”ในรถพลันเงียบลงในทันทีจูหลินอิงที่รู้ว่าตนเองพูดเรื่องที่ไม่สมควรออกมาก็รีบกล่าวขอโทษแล้วหันกลับไปนั่งนิ่งไม่พูดอะไรอีกซ่งเจียซินปวดหนึบในใจ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่แต่เธอรู้สึกรักและผูกพันจนไม่อยากจากเด็กชายทั้งสามไปเลย ดวงตากลมเสมองไปนอกหน้าต่างเพื่อขับไล่ความรู้สึกในอก จึงไม่เห็นมือเล็กของหลี่จื่อหมิงที่กำแน่นเข้าหากันบิดาของเขาคิดจะมอบใบหย่าให้มารดาเลี้ยงอย่า

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 56 ลูกที่ดีย่อมต้องเชื่อฟังพ่อแม่

    “ชิงหยวน เป็นอย่างไรบ้าง”อวี้ซูซินเห็นลูกสาวของตนเองเดินกลับออกมาก็เอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล เช่นเดียวกับเสวี่ยตงฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ“ลูกไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพ่อจะสนับสนุนลูกเอง”“ขอบคุณค่ะ”เพราะยังไม่แน่ใจว่าสิงฉู่หรันจะช่วยเหลือจากใจจริงหรือไม่ ซ่งเจียซินจึงทำได้เพียงหมุนตัวไปทางเวทีด้านหน้า พลันแสงไฟในงานก็ดับลง เหลือเพียงแสงที่สาดขึ้นบนเวทีซ่งเจียซินจดจ้องบนลานเดินที่บรรดานางแบบกำลังทยอยเดินออกมา บนตัวของพวกเธอแต่ละคนต่างสวมเครื่องเพชรหรูหรา โดยมีพิธีการชายหญิงคอยอธิบายถึงคุณสมบัติต่างๆ ของผลงานแต่ละชิ้น“และในลำดับต่อไปเป็นเครื่องเพชรจากร้านเสวี่ยครับ”สิ้นเสียงของพิธีกรสิงฉู่หรันในชุดสีดำวาวก็เดินออกมายังเบื้องหน้าเวที ด้วยรูปลักษณ์และใบหน้าที่โดดเด่น อีกทั้งท่วงท่าสง่างาม แน่นอนว่าเธอย่อมเป็นจุดสนใจของผู้คนในทันทีที่ปรากฏตัว“นั้นคุณสิงฉู่หรัน ดาราดังไม่ใช่หรือ”“ได้ยินว่าเธอไม่รับงานเดินแบบนี่นา ไม่คิดเลยว่าร้านเสวี่ยจะสามารถเชิญเธอมาเดินแบบให้ได้”เสียงผู้คนดังขึ้น เสวี่ยชิงหยวนจ้องมองไปบนเวทีด้วยหัวใจที่สั่นระรัว สองมือข้างลำตัวกำแน่นด้วยความกังวล ก่อนจะสัมผัสได้ถึง

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 55 ชดใช้คืนให้

    “คุณหนูเสวี่ยครับเกิดเรื่องแล้ว”“เรื่องอะไร”“นางแบบที่จะสวมชุดเครื่องเพชรของร้านเราขึ้นเวทีเป็นลมหมดสติไปกะทันหันครับ”ซ่งเจียซินขมวดคิ้วเรียวแน่น ในแววตามีความกังวลและสงสัยเกิดขึ้นทันทีที่ฟังคำรายงานของตงซางจบ เพียงแต่ตอนนี้สิ่งสำคัญไม่ใช่การหาสาเหตุการเกิดปัญหา แต่คือการหาวิธีแก้ไขปัญหา“คุณแม่คะ ฉันฝากเด็กๆ ไว้สักครู่นะคะ”“ได้!แม่จะดูแลพวกเขาเอง ลูกไปจัดการธุระเถอะ”“แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะดูแลน้องๆ เอง”หลังจากได้รับคำตกลงจากมารดา และคำมั่นจากหลี่จื่อหมิงซ่งเจียซินก็วางใจเร่งเดินไปที่ห้องด้านหลังเวทีในทันที“คุณเสวี่ย พวกเราจะทำยังไงดี”อันลู่ซื่อถามด้วยความร้อนใจ บรรยากาศในห้องแต่งตัวเวลานี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด แม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นเหตุสุดวิสัย และทางสมาคมหมิงหลันไม่ได้ตำหนิพวกเธอร้านเสวี่ย แต่สำหรับซ่งเจียซินแล้วนี่กลับเป็นการขาดทุนมหาศาลหากไม่ได้ขึ้นเวทีเครื่องเพชรของเธอก็จะไม่ได้ถูกนำเสนอ ชื่อร้านเสวี่ยก็จะไม่มีการประกาศ เช่นนี้แล้วทุกอย่างที่ลงแรงไปก็เท่ากับศูนย์เปล่า“นางแบบเป็นยังไงบ้าง พาไปโรงพยาบาลหรือยัง”“เรียบร้อยแล้วครับ”ในสถานการณ์เช่นนี้ซ่งเจียซินไม่ไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status