Share

บทที่ 7 กลิ่นหอมตลบอบอวล

หลังจากได้กลิ่น ซูหวั่นก็กลืนน้ำลายอย่างเงียบๆด้วยเช่นกัน

เดิมทีปากก็รู้สึกจืดชืดอยู่แล้ว เมื่อได้กลิ่นหอมๆแบบนี้ขึ้นมา ร่างกายของนางก็ไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้อีกแล้ว

นางจึงรีบหยิบชามดินเผาขึ้นมา จากนั้นก็ตักซุปและเนื้อไก่ให้ซูลิ่วหลางและตัวนางเองคนละครึ่งชาม“กินเสร็จแล้วเรากลับบ้านกัน ที่เหลือเก็บเอาไว้ให้ท่านแม่นะ”

และซูลิ่วหลางก็รับชามมาอย่างมีความสุข

ด้านบนของซุปไก่มีน้ำมันสีทองลอยอยู่ โดยที่ด้านล่างเป็นน้ำซุปสีขาวข้น เนื้อไก่แทบจะละลายในปาก สดและนุ่มเอาเสียมากๆ

หลังจากกินไปครึ่งชาม ปากของซูลิ่วหลางก็เต็มไปด้วยรสชาติของไก่“พี่ครับ หากท่านย่ามาพบเข้า จะต้องแย่งเอาไว้อย่างแน่นอนเลย”

แม้ว่าเขาจะหัวช้า แต่ก็ค่อนข้างจะชัดเจนเกี่ยวกับแม่เฒ่าเซี่ยงอยู่เลยทีเดียว เขารู้ว่าหากนำซุปไก่กลับไป นางหลี่คงจะไม่ได้กินมันอย่างแน่นอน

ซูหวั่นลูบหัวของเขา แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา“งั้นก็อย่าให้ท่านย่ารู้สิ เดี๋ยวกลับไปเจ้า......”

......

หลังจากกลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่แม่เฒ่าเซี่ยงทำก็คือการค้นกระบุงไม้ไผ่

ฝ่ามือของซูลิ่วหลางเต็มไปด้วยเหงื่อ และจ้องมองกระบุงไม้ไผ่นั้นอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเขาเห็นว่าพี่สาวได้เอาซุปไก่ใส่ในกระบุงไม้ไผ่นี้ไว้!

และหากแม่เฒ่าเซี่ยงค้นหาเจอแล้วละก็ ท่านแม่คงจะไม่ได้กินอย่างแน่นอน

นั่นคือเนื้อไก่และน้ำซุปที่พี่สาวเก็บเอาไว้ในท่านแม่เลยนะ!

ทันทีที่แม่เฒ่าเซี่ยงกลับมาจากนา นางก็เข้ามาแย่งกระบุงไม้ไผ่อันนี้ไปทันทีโดยยังไม่ทันได้ล้างไม้ล้างมือเลยเสียด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างในยกเว้นผลไม้ป่าที่ไม่รู้จักสองสามชนิด สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปในทันที

“อะไรของเจ้าเนี่ย จับกระต่ายป่ามาไม่ได้อย่างน้อยก็เก็บผักอะไรมาสักหน่อยก็ยังดี นี่แค่ผลไม้ป่าไม่กี่ลูก เจ้าก็ยังเก็บมางั้นเหรอ!”

ซูหวั่นทำหูทวนลม และก้มไปเก็บผลไม้ป่าขึ้นมา“ในเมื่อท่านย่ารังเกียจผลไม้ป่าพวกนี้ก็เอามาให้ข้าเถอะ ข้ากับซูลิ่วหลางสามารถอิ่มท้องได้เวลาที่หิวตอนกลางคืน”

แม่เฒ่าเซี่ยงขมวดหนังตาย่นๆของตัวเอง แล้วพูดว่า“นังเด็กบ้า รีบเอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้นะ!”

มันดีกว่าไม่มีอะไรเลย

แม้ว่าผลไม้ป่านี้จะมีรสเปรี้ยวและฝาด แต่ก็ยังกินได้ อย่างน้อยก็ไม่ให้นังเด็กบ้านี่ได้ประโยชน์ไปอย่างแน่นอน

ซูหวั่นโยนกระบุงไม้ไผ่ทิ้งและวิ่งเข้าไปช่วยนางหลี่หุงหาอาหารในครัว จากนั้นก็ขยิบตาให้ซูลิ่วหลางเพื่อให้เขาไปอยู่รอในห้อง

เพราะอย่างไรเสียซูลิ่วหลางก็เป็นเด็กหัวช้า แม่เฒ่าเซี่ยงก็คงไม่จ้องใช้ให้เขาทำงานอะไรหรอก

แม่เฒ่าเซี่ยงยังคงแบ่งอาหารบนโต๊ะอาหารตามเดิม โดยที่ทุกคนจะได้รับซาลาเปากันคนละหนึ่งลูก ซึ่งเป็นซาลาเปาสีดำที่แย่ที่สุด พอกันเข้าไปก็จะฝืนในลำคอ แล้วก็ยังมีผักสีเขียวอีกสองสามกอง

โดยที่โจ๊กจะมีเม็ดข้าวแค่ไม่กี่เม็ดเท่านั้น

“นังหนูฝูกับนังหนูหรงจะกลับมาที่บ้านในเย็นวันนี้ อาหารพวกนี้ก็เก็บไว้ให้พวกนางนะ!”

ขณะที่พูด แม่เฒ่าเซี่ยงก็ได้หยิบซาลาเปาอีกสองสามลูกและวางเอาไว้ข้างๆ

ซูหวั่นแค่ชำเลืองมองและก้มหน้าลง

ฝูและหรงเป็นลูกสาวของบ้านใหญ่ ซึ่งมีฐานะสูงกว่าพวกเขาที่เป็นบ้านรอง โดยไม่กี่วันมานี้พวกนางไปเยี่ยมป้าที่ในเมืองมา

เมื่อเห็นว่าพวกนางจะกลับมาในเร็วๆนี้ แม่เฒ่าเซี่ยงจึงตั้งใจเก็บอาหารเอาไว้ให้พวกนาง

หลังจากมื้ออาหาร ซูหวั่นก็ได้ไปอาบน้ำอีกครั้ง

เมื่อนางหลี่กำลังจะเข้านอน นางก็เห็นว่าลูกชายของตัวเองกำลังแอบย่องเข้ามาใกล้ๆ“ท่านแม่ ข้าและพี่สาวมีอะไรดีๆจะให้ท่านแม่นะ”

จากนั้นซูหวั่นก็ได้หยิบโถดินเผาออกมา

เมื่อเปิดฝาออกมา ก็พบว่ามีเนื้อไก่ชิ้นใหญ่และน้ำซุปไก่อยู่ภายใน และมันก็หอมกรุ่นไปทั่ว

“เอื๊อก——”

นางหลี่กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว เพราะเนื้อไก่ดีๆแบบนี้ หากไม่ใช่เทศกาลที่สำคัญอะไร นางก็จะไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสอย่างแน่นอน

และถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเทศกาล ด้วยความลำเอียงของแม่เฒ่าเซี่ยงที่เป็นมา นางก็จะได้รับส่วนแบ่งเป็นแค่คอไก่เท่านั้น

ไม่มีเนื้อเลยแม้แต่น้อย!

และตัวนางหลี่เองก็ได้ยินเสียงกลืนน้ำลายอย่างชัดเจน ซึ่งนางก็หน้าแดงด้วยความเคอะเขินขึ้นมาทันที“พวกเจ้าไปเอามันมาจากไหน หรือเป็นเพราะ......”

นางคิดจะพูดว่าขโมยมา แต่นางก็รู้ดีว่าลูกชายและลูกสาวของนางไม่ใช่คนแบบนั้น นางจึงห้ามปากเอาไว้ได้ทัน

ซูลิ่วหลางจึงอธิบายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยกลัวคนอีกฟากของบ้านจะได้ยินว่า“นี่เป็นไก่ป่าที่พี่สาวจับมาได้ครับ พวกเราตุ๋นมันในป่า พวกท่านย่าไม่รู้หรอก ท่านแม่รีบกินเร็วเข้า อร่อยมากเลยนะครับ!”

เป็นการยากมากที่ซูลิ่วหลางจะสามารถพูดประโยคยาวๆและติดต่อกันแบบนี้ได้

แต่ประโยคนี้พี่สาวของเขาเป็นคนที่สอนเขาเอง และเขาก็ฝึกฝนอยู่ในบ้านเป็นเวลานานแล้ว

นางหลี่หรี่เปลือกตาลง และพยายามต่อสู้ภายในใจว่าจะนำซุปไก่นี้ไปให้บ้านใหญ่หรือไม่

ซูหวั่นมองนางหลี่อย่างเงียบๆ และไม่พูดอะไรออกมา

นางรู้ดีว่านางหลี่เป็นสะใภ้ตัวอย่างที่ดี คำสอนที่ว่าให้เคารพผู้ใหญ่และรักเด็กนั้นได้ฝังแน่นอยู่ในกระดูกของนางแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นแล้วนางก็คงจะคิดแค้นเวลาที่ถูกทุบตีและสาปแช่งอย่างแน่นอน

“ท่านแม่ ท่านแม่รีบชิมดูสิครับ”

ซูลิ่วหลางยัดเนื้อไก่เข้าไปในปากของนางหลี่ และรสชาติของเนื้อก็แพร่กระจายอยู่ในปาก ทันใดนั้น ใบหน้าที่ซีดเซียวของนางก็พร่ามัวไปด้วยน้ำตา

จะเอาไปให้ทำไมกัน!

นี่คือสิ่งที่ลูกสาวของนางจับมาและปรุงนะ บ้านใหญ่แบบนั้น จะเอาไปประเคนให้ทำไมกัน!

“ท่านแม่ ท่านแม่ร้องไห้ทำไมครับ?”

“แม่แค่รู้สึกว่าพ่อของพวกเจ้าไม่ได้กิน แม่ก็เลยไม่สบายใจขึ้นมานิดหน่อยน่ะ”นางหลี่ปาดน้ำตา และยัดเนื้อไก่ใส่ไปในปากของซูลิ่วหลางและซูหวั่นอีกด้วย“พวกเจ้าก็กินเถอะนะ อย่ามัวมองอยู่เลย กินเยอะๆ พวกเจ้าจะได้โตไวๆ”

และทั้งสามคนก็กินเนื้อไก่และซุปจนหมด อิ่มและอึดอัดแล้วในตอนนี้

ก๊อกๆ!

มีคนมาเคาะประตู และสามคนแม่ลูกก็หยุดพูดทันที

“ใคร?”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status