Share

บทที่ 58

Penulis: จี้เวยเวย
ณ จวนสกุลซ่ง

ซ่งรั่วเจินได้ยินข่าวนี้ก็ดีใจมาก แม้แต่ซ่งอี้อันก็กินข้าวมื้อกลางวันมากขึ้นอีกหนึ่งชาม

“ฝ่าบาทตรัสว่าครั้งนี้ทำให้เจ้าต้องเสียใจแล้ว รางวัลพระราชทานเหล่านี้ล้วนมอบให้เจ้า” ซ่งจืออวี้วางผ้าไหมสูจิ่นและปิ่นมุกลงตรงหน้าซ่งรั่วเจิน ทั้งยังพูดกับหลิ่วหรูเยียน “ฝ่าบาทยังรับสั่งว่าท่านพ่อไม่รู้เป็นหรือตาย พระองค์ทรงจำทุกเรื่องที่ท่านพ่อทำเพื่อราชสำนักไว้หมดแล้ว จะต้องไม่ปล่อยให้คนรังแกสกุลซ่งของพวกเราแน่นอน”

หลิ่วหรูเยียนขอบตาแดงเรื่อ “ฝ่าบาทยังจำนายท่านได้...”

“ท่านแม่ ไม่ช้าก็เร็วท่านพ่อจะต้องกลับมาแน่นอนเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปลอบ “ท่านดูผ้าไหมสูจิ่นเหล่านี้ ข้าดูแล้วสีดอกไม้นี้เหมาะกับท่านมาก ยังมีปิ่นมุกดอกโบตั๋นนี้อีก เหมาะกับท่านยิ่งนัก”

หลิ่วหรูเยียนมองผ้าไหมและเครื่องประดับ อารมณ์ดีขึ้นหลายส่วน “นี่ล้วนเป็นฝ่าบาทพระราชทานให้เจ้า เจ้านำไปตัดชุดสวย ๆ มากหน่อยเถอะ”

“ฝ่าบาทพระราชทานให้มากเพียงนี้ ท่านแม่ก็เลือกเอามากหน่อยเถิด ที่เหลือข้าค่อยนำไปตัดเสื้อผ้าก็ยังนับว่าพอเหลือ”

“ได้ แม่รู้ว่าเจ้ากตัญญู”

หลิ่วหรูเยียนสั่งให้บ่าวรับใช้ถือผ้าไหมสูจิ่น ก่อนจะออกไปพร้อมรอย
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1506

    ในเมื่อซ่งรั่วเจินสามารถพูดออกมาได้มากถึงเพียงนั้น เขาเองก็ย่อมต้องทำได้ หาไม่แล้ววันนี้จะไม่กลายเป็นเรื่องตลกหรอกหรือ?“ข้าย่อมรู้ความสามารถของอาจารย์เจ้าดี เว้นแต่เรื่องใหญ่หลวงมากเกินไปที่ไม่อาจเปิดเผยได้ นอกนั้นก็มีอีกไม่น้อยที่สามารถพูดได้ เจ้าวางใจพูดออกมาเถอะ”ไต้ซือชิงเฟิง “…”นั่นเขาไม่อยากพูดหรือ? แต่เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่างหาก!เมื่อครู่ตอนอยู่ต่อหน้าจิ้งอินซือไท่ เขาเอาแต่พูดจาคลุมเครือก็เพื่อจับสังเกตท่าทีตอบสนองของนาง อยากฉวยโอกาสสืบหาข่าวออกมาให้มาก นี่เป็นกลอุบายที่พวกเขาใช้จนเคยชินแล้ว ขอเพียงใช้เล่ห์กลมากหน่อย อีกฝ่ายก็มักเผลอเผยพิรุธออกมาเสมอแต่ใครจะคาดคิดเล่าว่าจิ้งอินซือไท่ไม่พูดกับเขาแม้ประโยคเดียว นี่ทำให้เขากุเรื่องขึ้นมาโดยไร้มูลเหตุ แล้วจะให้หลอกอย่างไร?ตอนนี้กลับถูกองค์ชายทั้งสองจับจ้อง หากเขาไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา ก็เท่ากับจะทำให้ตนล่วงเกินเหลียงอ๋องและพระชายาเหลียงอ๋อง ครู่ต่อมา ไต้ซือชิงเฟิงพรูลมหายใจยาวเหยียดพลางพูดว่า“เดิมทีข้าเพียงอยากเกลี้ยกล่อมให้จิ้งอินซือไท่ยอมพูดความจริงออกมาด้วยตนเอง เพื่อให้บาปกรรมของนางทุเลาลงบ้าง แต่ใครจะคาดคิดว่านางกลั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1505

    “ใต้เท้า! เหตุใดจึงปล่อยให้คนร้ายทั้งสองจากไปได้เล่า?”ฉีชิงอีเห็นว่าไต้ซือชิงเฟิงยังซักถามไม่เสร็จ เสนาบดีศาลต้าหลี่กลับอนุญาตให้จิ้งอินซือไท่และจิ้งอวิ๋นซือไท่จากไป นางจึงร้อนใจอย่างอดไม่ได้“พระชายาเหลียงอ๋อง ท่านมีหลักฐานว่าพวกนางคือคนร้ายหรือไม่?”ฉีชิงอีชะงักไปครู่หนึ่ง พูดว่า “ไต้ซือชิงเฟิงได้ทำนายจนรู้ความจริงแล้ว เพียงแต่เพื่อรักษาชีวิตรอด พวกนางจึงไม่ยอมเปิดปากก็เท่านั้น”“เท่าที่ข้าเห็น ซือไท่ทั้งสองเสแสร้งทำเป็นผู้มีเมตตา แต่แท้จริงแล้วกลับจิตใจอำมหิตดุจอสรพิษ โครงกระดูกมากมายฝังอยู่ที่นี่ เป็นไปไม่ได้ที่พวกนางจะไม่รู้เรื่อง!”“พวกท่านตัดสินคดีเช่นนี้ อาศัยเพียงฝีมือของตนหาหลักฐานนั้นยากเกินไป ไม่สู้จับมาทรมานสอบสวนเสียยังจะดีกว่า จะต้องบอกความจริงออกมาแน่!”เสนาบดีศาลต้าหลี่ “...พระชายาจะทรมานให้สารภาพหรือ?”ฉีชิงอีหันสายตาคมกริบไปทางเหลียงอ๋อง “ท่านอ๋อง ท่านว่าสิ่งที่หม่อมฉันกล่าวถูกหรือไม่?”“คำที่ชิงอีเอ่ยก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผล สำนักเทียนฉือเกิดเรื่องใหญ่หลวงถึงเพียงนี้ เหล่าซือไท่จะไม่รู้เรื่องเลยเป็นไปไม่ได้”“ต่อให้พวกนางมิใช่ผู้ลงมือฆ่า แต่ก็ย่อมมีความผิดฐานปก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1504

    แท้จริงแล้ว จิ้งอินซือไท่ก็เป็นดั่งที่ซ่งรั่วเจินคาดไว้ไม่มีผิด คราแรกที่ได้เห็นไต้ซือชิงเฟิง สายตานางก็ทอประกายเย้ยหยันวูบหนึ่งไต้ซือแห่งเมืองฉีหยางผู้นี้ นางเคยพบเจอมาแล้วก่อนหน้านี้หลังลูกของนางเกิดเรื่อง นางสิ้นหวังจนคิดสั้น ต่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากซือไท่อาวุโสและจิ้งเฉิน นางเลือกอยู่ต่อที่สำนักเทียนฉือ แต่ใจของนางกลับยังไม่อาจสงบลงได้ต่อมา นางได้ยินเรื่องความสามารถอันแก่กล้าของไต้ซือชิงเฟิง จึงลอบปลอมตัวไปพบเขาทว่าเพียงได้พบนางก็รู้ทันทีว่าไต้ซือผู้นี้เป็นเพียงนักต้มตุ๋น ไม่อาจทำนายอันใดได้ อีกทั้งยังช่วยนางไม่ได้ตรงกันข้ามกัน ถ้อยคำที่พระชายาฉู่อ๋องเอ่ยออกมากลับทำให้นางตกตะลึง ทุกสิ่งที่นางพูดล้วนถูกต้อง จนถึงตอนนี้ยังใคร่ครวญอยู่ภายในสมองไม่หยุดพระชายาฉู่อ๋องผู้นี้ หรือว่านางจะสามารถทำนายออกมาได้จริง?ฉีชิงอีเห็นซ่งรั่วเจินพาฉู่อ๋องออกไปก็นึกดีใจขึ้นมา จากนั้นหันไปฝากความหวังไว้ที่ไต้ซือชิงเฟิงบัดนี้ซ่งรั่วเจินเป็นฝ่ายถอนตัวเอง อีกทั้งฉู่อ๋องยังเอาแต่ตามใจนาง หากสุดท้ายคดีนี้ถูกพวกตนไขออกมาได้จริง ถึงเวลานั้นต่อให้ทั้งสองร่ำไห้คร่ำครวญก็ไร้ผล!“จิ้งอินซือไท่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1503

    ฉู่จวินถิงเห็นว่าพระชายาของตนมีสีหน้าสนอกสนใจ เขาพยักหน้าตอบรับ “ทุกอย่างล้วนฟังฮูหยิน”เซียวอ๋องและเสนาบดีศาลต้าหลี่เห็นว่าฉู่อ๋องกับพระชายาฉู่อ๋องถูกก่อกวนจนถึงขั้นละทิ้งการสืบสวนไป ก็พลันรู้สึกกระวนกระวายอยู่ในใจคดีที่สำนักเทียนฉือครั้งนี้แปลกประหลาดอย่างมาก ต่อให้จะรีบเร่งสั่งปิดกั้นข่าวสารได้ทันเวลา แต่ไฉนเลยจะปิดได้มิดเดิมทีที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่ผู้คนมาสักการะมากมาย บัดนี้เพียงล้อมไว้สั่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้าออก ข่าวลือกลับแพร่สะพัดไปและเกิดการหยั่งเดาขึ้นมาหากยังปิดกั้นไว้ต่อไป คาดว่าผลสำเร็จกลับไม่มาก มีเพียงเร่งไขคดีให้ได้โดยเร็ว ถึงจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุด“ฉู่อ๋อง พวกท่าน นี่...”ฉู่จวินถิงหันไปมองท่านเสนาบดีศาลต้าหลี่ พูดเสียงเรียบว่า “เจ้าเองก็เห็นสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว เดิมทีพระชายาของข้าก็พยายามช่วยอย่างสุดกำลัง กลับมีผู้มากล่าวหานางว่าพูดเหลวไหลไร้สาระ”“นางตั้งใจมาช่วยสืบคดี ก็เพราะมีน้ำใจ ย่อมไม่อาจให้นางทางหนึ่งช่วยเหลือ อีกทางหนึ่งพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนหรอกกระมัง?”“หากเป็นท่าน ท่านจะอึดอัดใจหรือไม่?”เสนาบดีศาลต้าหลี่ฟังแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ ใคร่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1502

    ถ้อยคำนี้ไม่ต่างอันใดกับการลากความขัดแย้งออกมาเปิดเผยต่อหน้าผู้คนเซียวอ๋องรู้จักนิสัยของฉู่จวินถิงดี แท้จริงแล้วเรื่องในวันนี้เป็นความผิดของคนจวนเหลียงอ๋อง แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเหลียงอ๋องจะเอาเรื่องนี้ขึ้นมาตอบโต้เสียเองพระชายาเหลียงอ๋องไร้สติปัญญาก็ช่างเถอะ แต่เหลียงอ๋องเป็นอันใดไป?“น้องสี่ เวลาน้องสามตรวจสอบคดีความก็มักจะรอบคอบถี่ถ้วนเสมอ เดิมทีก็ไม่มีใครเชิญพวกเจ้ามา มาแล้วยังทำให้เรื่องยุ่งยากกว่าเดิม บัดนี้เขาโกรธก็พอเข้าใจได้ เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องถือสาจริงจังถึงเพียงนั้น” เซียวอ๋องเอ่ยขึ้นเหลียงอ๋องหัวเราะเบาๆ “ข้าถือสาจริงจังหรือ? ข้ารู้ว่าร่างกายข้าอ่อนแอ ในสายตาของพวกท่านก็เป็นเพียงคนเจ็บป่วย แต่ที่ข้าไม่คาดคิดก็คือเสด็จพี่สามไม่คิดจะไว้หน้าพวกเราเลยสักนิด”“ในเมื่อเจ้ารู้ว่าตนเองเป็นเพียงคนป่วย เช่นนั้นก็จงกลับไปพักรักษาตัวให้ดี เรื่องใดไม่ควรเอาใจไปใส่ก็อย่าได้ใส่ใจ พวกเจ้าจะมาวุ่นวายใจที่นี่ทำอันใดเล่า?”ฉู่จวินถิงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ใส่ใจความหมายแฝงใดๆ ในคำพูดของเหลียงอ๋องเลยแม้แต่น้อย“หากเจ้าอยากสืบคดี เหตุใดไม่ไปทูลขอคดีจากเสด็จพ่อมาสืบเอง เช่นนี้พวกคนโง่ข้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1501

    เมื่อเห็นท่าทีของจิ้งอินซือไท่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ซ่งรั่วเจินจึงหันมองคนหลอกลวงตรงหน้ากับฉีชิงอีที่เพิ่งฟื้นคืนสติ สายตาเยียบเย็น ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเย้ยหยัน“ช่างเป็นพวกทำเรื่องไม่สำเร็จ สร้างแต่ปัญหาโดยแท้!”ฉีชิงอีและถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งมาถึงได้ยินคำพูดของนางพอดี สีหน้าแข็งกระด้างไป จากนั้นโทสะลุกโชนขึ้นภายในอก“พระชายาฉู่อ๋อง ไต้ซือชิงเฟิงคือปรมาจารย์ศาสตร์ลี้ลับผู้มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองฉีหยาง ไม่ว่าทำนายดวงชะตาหรือดูฮวงจุ้ยล้วนเป็นหนึ่ง ข้าได้ยินว่าเรื่องของสำนักเทียนฉือมีเงื่อนงำมากมาย จึงตั้งใจเชิญไต้ซือชิงเฟิงมาช่วยเหลือ นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเย้ยหยัน “ก็หมายความว่าเจ้าพาตัวโง่งมไร้ประโยชน์มาสร้างความยุ่งยากอย่างไรเล่า จะต้องให้พูดชัดเจนถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”ฉีชิงอีไม่อยากเชื่อว่าซ่งรั่วเจินจะกล้าด่านางตรงๆ เช่นนี้ ดวงตาของนางเบิกกว้าง “เจ้ากล้าด่าคนต่อหน้าเช่นนี้เชียวหรือ?”“ข้าด่าเจ้าแล้วอย่างไร? เจ้าพาตัวเองเข้ามาให้ด่าไม่ใช่หรือ เรามาที่นี่ก็เพื่อสืบคดีไม่ใช่มาเล่น เจ้าโง่เขลามีเงินแล้วอยากถูกคนหลอกก็เรื่องของเจ้า เหตุใดต้องวิ่งมาสร้างควา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status