“ปะ ปะ เป็นความจริงขอรับท่านแม่” เติ้งชุนเชายอมรับกับมารดาว่าเป็นเรื่องจริง“นี่เจ้า เจ้า เจ้าลูกไม่ได้เรื่องข้าไม่นะ…ตุบ!!!” ฮูหยินผู้เฒ่าพูดยังไม่ทันจบก็เป็นลมหมดสติไปเสียแล้ว“ท่านแม่!!! ท่านแม่!! พวกเจ้ารีบพาแม่ข้าเข้าไปพักด้านใน ส่วนคนอื่นก็ไปเก็บของให้หมด”ความวุ่นวายนี้ชาวบ้านที่ยืนฟังอยู่หน้
“พวกเราทุกคนขอดื่มแสดงความยินดีให้กับผู้ช่วยผู้ตรวจการทั้งสามด้วยเช่นกันขอรับ”งานเลี้ยงยินดีที่หอพักฝูหรงช่างเต็มไปด้วยความสุขและความยินดี แต่มันช่างแตกต่างกับบรรยากาศของจวนตระกูลเติ้งเสียจริง หลังจากฮ่องเต้ประกาศลดขั้นขุนนางของเติ้งชุนเชาในท้องพระโรงพร้อมทั้งสั่งให้ออกเดินทางจากเมือวหลวงภายในวันน
สามบัณฑิตผู้ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้กลับมาถึงหอพักฝานหรง ก็พบว่าด้านหน้ามีการจัดซุ้มประตูด้วยดอกไม้ มีลูกจ้างของหอพักมายืนรอโปรยดอกไม้เพื่อแสดงความยินดี รวมถึงบัณฑิตคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้เดินทางกลับบ้านยังคงอยู่ร่วมงานเลี้ยงเล็ก ๆ ร่วมกับพวกเขาสามคนซินเยว่ให้พ่อครัวแม่ครัวทำอาหารหลายอย่าง
ปัง!!! “เติ้งชุนเชาเจ้าเอาส่วนไหนคิดว่าปัญหามันเหมือนเดิมอยู่ตลอดเวลา ตำแหน่งของเจ้าที่ได้มาเพราะใช้เงินติดสินบนมางั้นรึ คำตอบของเจ้าทำให้เจิ้นได้รู้ว่าขุนนางที่อยู่มานานอย่างพวกเจ้า ไม่มีความคิดที่จะช่วยแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง เอาแต่คิดถึงประโยชน์ของตนเองเท่านั้น” ฮ่องเต้ที่ได้ฟังคำตอบของใต้เท้าเติ้
เพราะกลัวว่าจะมีคนเข้ามารุมพวกเขาเสียก่อน และในตอนนั้นเองมีทหารเดินออกจากประตูวังหลวงประมาณห้าคน ตรงมาที่กระดานประกาศผลสอบเพื่อดูชื่อสามอันดับแรกว่ามีใครบ้าง ลู่ซือคงที่ชอบพูดคุยและเข้ากับคนได้ง่ายจึงเลียบ ๆ เคียง ๆ เข้าไปถามทหารทั้งห้าคน“เอ่อ ขออภัยขอรับพี่ชายไม่ทราบว่าพวกท่านกำลังจะไปตามหาผู้ใดหร
เช้าวันถัดมาทหารได้นำกระดานไม้ ที่ติดรายชื่อของบัณฑิตที่สอบผ่านออกมาวางด้านหน้าประตูวังหลวง ซึ่งมีบัณฑิตมารออยู่ก่อนหน้านี้มากมาย เมื่อเห็นกระดานประกาศรายชื่อ ต่างพากันรุมเข้าไปดูว่ามีชื่อของตนหรือไม่ส่วนผู้สอบได้อันดับหนึ่งถึงสามรายชื่อของพวกเขาถูกเขียนด้วยอักษรตัวโต อยู่ด้านบนสุดเหนือรายชื่ออื่นส