“เอาเถอะ...ถึงแม้จะไปด้วยกัน แต่ค่าตัวไม่เท่ากันนะ ของหนูโมนาค่าตัวแพงที่สุด ส่วนสองคนนี่ก็น่าจะน้อยสุดแล้ว แต่ว่าน้อยสุดนี่ก็ตั้งสามล้านเลยนะ คิดดูของหนูโมนาจะขนาดไหน”
กัญญาวีร์พยายามเบี่ยงเบนความสนใจด้วยเงิน ซึ่งงานที่เธอรับมานี้ มันก็เยอะจริงๆ เยอะที่สุดตั้งแต่เธอจัดตั้งบริษัทมาเลยก็ว่าได้ เป็นเหมือนส้มหล่นมาที่บริษัทของเธอเลย
“ว่าแต่งานที่เจ้จะให้ไปมันไกลหรือเปล่าคะ และคงไม่หักค่าเดินทางจากค่าตัวของพวกเราหรอกนะคะ”
“ไม่หรอกจ้าหนูโมนา ค่าเดินทาง ที่พักต่างๆ ทางผู้จัดออกให้ทั้งหมด ส่วนแบ่งของเจ้ก็ไม่ต้องหักจากพวกเราหรอกค่ะ งานนี้เศรษฐีกระเป๋าหนักเปย์น่าดูเลยนะจ๊ะ ได้ข่าวว่าเขารวยเป็นอันดับหนึ่งของประเทศเชียวนะ เรื่องที่จะจ่ายให้พวกเรามันแค่เศษฝุ่นของเขาเท่านั้นจ้า...”
“นี่ไงคะ...โมนาถึงบอกให้เลือกแต่มืออาชีพไป ทำไมเอาเด็กใหม่ไป...จะทำให้งานของเราเสียนะคะเจ้...เจ้ลองคิดดีๆ นะคะ”
อริสาอยากให้พรรคพวกของเธอไป เลยพยายามที่จะกำจัดเด็กใหม่ทั้งคู่
“ผู้จัดเขาเป็นคนเลือกค่ะ เจ้ไม่ได้เลือก”
“แล้วทำไมเจ้ถึงเอารูปของเด็กใหม่ พึ่งจะมาแคสงานวันนี้ ไปให้เขาเลือกด้วยคะ เด็กคนนี้ยังแคสงานไม่ผ่านเลยนะคะ”
อริสาหันไปจิกกัดธาริกา ที่กำลังมองบทสนทนาอย่างมึนงง
“เจ้ก็แค่ติดไปเฉยๆ ไม่คิดว่าผู้จัดเขาจะเลือกไง”
“แต่เจ้...”
“โมนา...เมื่อไหร่เธอจะเลิกถามซะที ฉันต้องไปทำงานต่อนะเธอรู้มั้ย! ให้เจ้เค้าคุยเรื่องงานต่อเหอะ...จะได้จบๆ”
ปรางทิพย์หันมาจวกอริสาอย่างอดไม่ได้ เธอกับอริสานั้นเข้าวงการมาพร้อมกัน แต่อริสากลับดังกว่าเธอ ซึ่งเรื่องนี้เธอเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรนัก วงการมายามีขึ้นมีลง มีเด่นและมีดับ สิ่งสำคัญสำหรับเธอคือช่วงขาขึ้นต้องกอบโกยเงินให้ได้มากที่สุด
“อะไรยัยปราง! ฉันก็แค่ห่วงเจ้ ห่วงบริษัทหรอกย่ะ”
“เอาล่ะๆ อย่าทะเลาะกันเลย เจ้จะเริ่มอธิบายคอนเซ็ปต์งานก่อนล่ะกันนะ...คืองานที่เราจะไปมันคืองานเดินแบบและเป็นพรีเซนเตอร์หรือเป็นทูตแห่งเอเชียที่ต่างประเทศ...คือโซนแถบทะเลทราย ทางตะวันออกกลาง ประเทศซาเลวีเนียร์...”
“ทะเลทรายเหรอคะเจ้...โอย...โมนาขอถอนตัวได้มั้ยคะเจ้ ถ้าไปก็คงมีแต่ความแห้งแล้ง และแสงแดด...ไม่เอาด้วยหรอกค่ะร้อนก็ร้อน ผิวของโมนาต้องไหม้แน่ๆ เลยค่ะ”
“เธอจะไม่ไปก็ได้นะโมนา ค่าตัวเธอตั้งเจ็ดหลัก และได้เยอะกว่าใคร เธอไปทำงานครั้งเดียวหลักล้าน ถ้าเธอไม่รับเดี๋ยวฉันจะขอให้เจ้เอาเพื่อนฉันไปแทน”
ปรางทิพย์พูดด้วยความหมั่นไส้ยัยเบอร์หนึ่งเรื่องมากชะมัด
“อุ้ย! ทันทีเลยนะยัยปรางทิพย์ จ้องอยู่แล้วสิ งั้นไม่ได้แล้วฉันต้องไป...ไม่งั้นจะมีคนอยากคาบไป...”
“เออ...เจ้...คิดว่าค่าตอบแทนมันมากขนาดนี้ ทุกคนก็คงต้องอดทนหน่อยนะ จริงๆ ประเทศของเขาร่ำรวยมากเลยนะ เศรษฐีแต่ละคนระดับเจ้าของบ่อน้ำมัน อัญมณีเครื่องเพชรต่างๆ มากมาย และก็ไม่ได้แห้งแล้งอย่างที่หนูโมนาคิดหรอกนะคะ ที่เราจะไปเนี่ยเป็นใจกลางเมืองหลวงของประเทศเลยนะคะ”
“เมื่อไหร่คะเจ้ แล้วเค้าจะจ่ายค่าตัวก่อนหรือเปล่าคะ ถ้าไม่จ่ายก่อนโมนาคงต้องคิดดูก่อนนะคะ”
“จ่ายก่อนจ้า และจ่ายหมดด้วย ไม่จ่ายแค่ครึ่งเหมือนทุกรายนะคะ เพราะฉะนั้นทุกคนก็จะมีเงินไว้เที่ยว ซื้อเพชรพลอยกลับมาค่ะ อุ้ย! พูดแล้วเจ้ตื่นเต้นจัง”
“จะไปกี่วันคะเจ้...” รินลดาเปิดปากครั้งแรก สิ่งที่เธอกังวลก็คือ รินลดาห่วงแม่ของเธอนั่นเอง
“น่าจะประมาณสิบวันแหละค่ะ เพราะเดินทางอีกรวมๆ แล้วงานนี้ก็ใช้เวลาเกือบยี่สิบวันเลยนะ...”
“แหม...เป็นแค่เด็กใหม่...ไม่ควรที่ประเจ๋อถามแบบนี้นะ”
อริสามีโอกาสก็เหน็บทันทีด้วยความหมั่นไส้ นังเด็กนี่เข้ามาไม่นาน มันสามารถที่จะเข้าตาผู้จัดแล้ว ต่อไปมันคือตัวอันตรายสำหรับอริสาเป็นแน่
“โอเค...เจ้ส่งรายละเอียดของงานให้ทุกคนไปศึกษานะ ส่วนเรื่องค่าตอบแทน คงไม่กี่วัน ผู้จัดเขารอเจ้คอนเฟิร์มไปอีกที มีใครที่ไม่สะดวกจะไปหรือเปล่า หรือถอนตัวบอกเจ้ได้นะ...เอ่อ ส่วนข้าวฟ่างกับเพื่อนรอคุยกับเจ้ก่อนนะ...มีมั้ยคะ ถ้าไม่มีเจ้ปิดประชุมนะคะ ไว้เจอกันค่ะ”
“ค่ะเจ้...สวัสดีค่ะ”
“เธอสองคนมาคุยกับเจ้หน่อย”
“ค่ะเจ้”
“เอาล่ะ...เจ้ขอพูดเรื่องค่าตัวก่อนนะ ก่อนที่เธอสองคนจะตัดสินใจ เพราะเจ้คิดว่าเธอสองคนจะต้องปฏิเสธเจ้และถอนตัวอย่างแน่นอน”
“เจ้คะ...นับดาวขอถอนตัวก่อนเลยได้ไหมคะ เพราะนับดาวยังไม่ได้แคสงานเลยค่ะ อีกอย่างนับดาวก็ทำไม่เป็นด้วยค่ะเดินแบบหรือโพสต์ท่าอะไรแบบนั้นค่ะ”
“เอางี้...ฟังเจ้ก่อนนะคะ ถ้าทางผู้จัดไม่เลือกหนูสองคนล่ะก็ ป่านนี้เจ้คงเลือกคนอื่นไปแล้ว เรื่องนี้เจ้ก็พยายามทักท้วงทางผู้จัดไปแล้ว แต่เขายืนยันว่าจะเลือกหนูสองคนโดยเฉพาะ เจ้เลยปฏิเสธเขาไปไม่ได้”
“แต่...”
“ค่าตัวหนูสองคนสูงที่สุดเลยนะ แต่ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะเจ้ไม่อยากให้โมนากับคนอื่นรู้ มันไม่ใช่เรื่องดีกับหนูสองคนแน่นอน ตัวเลขที่เขาเสนอมาคือ คนละสิบล้าน เจ้ว่ามันเยอะมากไม่เคยมีประวัติแบบนี้มาก่อน ส่วนโมนาได้หกล้าน คนอื่นได้คนละห้าล้าน หนูสองคนคิดดู สิบล้านนี่หนูหาเกือบทั้งชีวิตเลยนะกับแค่ไปทำงาน 20 วันเจ้ว่าไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่เป็นแบบนี้”
“สิบล้าน!! เหรอคะ? ทำไมมันเยอะขนาดนี้คะ”
ธาริกาตกใจกับตัวเลขที่เธอได้ยิน ‘เงินก้อนนี้เธอสามารถที่จะซื้อบ้าน ซื้อรถ และเปิดร้านได้เลยนะเนี่ย’
“นั่นสิคะเจ้...สิบล้านเหรอคะ...ข้าวว่าคนจ้างเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลยค่ะที่ทุ่มเงินขนาดนี้”
รินลดาคิดว่าเงินมากมายขนาดนี้ ตัวเธอเองหาทั้งชีวิตก็คงไม่ได้เยอะอย่างที่เจ้มีญ่าพูดจริงๆ
“นั่นน่ะสิ...เจ้ถึงต้องคุยกับหนูสองคนนี่ไง และที่สำคัญจ่ายก่อนไปทำงานด้วยนะ โอย! เป็นเจ้จะไม่เสียเวลาคิดนานเลยนะคะหนู...ส่วนนับดาวถ้าคิดว่าทำไม่ได้ และยังไม่ได้แคสงานก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เจ้มีทีมงานสอนหนูโดยเฉพาะจ้า หลักสูตรแบบเร่งด่วน ไม่ต้องกังวลอะไรมาก เราสองคนสวยอยู่แล้ว ปรับนิดแต่งหน่อยเจ้ว่าโอเคแล้วจ้า”
“...”
“เอาเป็นว่าเจ้ตัดสินใจให้นะคะไปเถอะ มีเวลาเตรียมตัวเกือบยี่สิบวัน ถือว่าไปเที่ยวเล่นๆ อีกอย่างกลับมาคุณภาพชีวิตพวกหนูดีขึ้นเลยนะคะ...ข้าวเองก็มีบ้าน มีรถ มีเงินเก็บเลยนะคะ ไม่ต้องรอเก็บอีกหลายปีกว่าจะได้”
“ค่ะเจ้” รินลดาคิดตามในสิ่งที่เจ้มีญ่าพูด ถ้าเธอได้เงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ เธอเองก็คงสบายจริงๆ และแม่ของเธอก็จะหลุดพ้นความลำบากจากทุกอย่างแน่นอน
[เมืองไบยาร์...ประเทศซาเลวีเนียร์] “ข้าจะส่งคนไปรับครอบครัวของเจ้าในวันพรุ่งนี้...เจ้าได้นัดหมายครอบครัวของเจ้าไว้หรือไม่โมนา”ฮาซีฟมองร่างอวบอิ่มที่กำลังเลือกเครื่องประดับเพชรนิลจินดา กับเหล่าบรรดาสาวใช้ที่ล้อมหน้าล้อมหลัง “ค่ะ...โมนาได้โทรไปบอกเรียบร้อยแล้วค่ะ...ที่รักคะ...โมนา อยากจะขออะไรคุณหน่อยได้ไหมคะ” “อืม...ได้สิ” “ถ้าโมนาต้องอยู่ที่นี่กับคุณตลอดไป โมนาอยากจะขอให้พ่อแม่ของโมนามาอยู่ด้วยกับโมนาที่นี่ได้มั้ยคะ” “ได้สิ...ข้าคิดว่าก็ดีเหมือนกัน เจ้าจะได้ไม่กังวลเป็นห่วงพ่อกับแม่ของเจ้า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้เป็นปัญหากับข้าเลย บ้านออกกว้างขวางใหญ่โต มีห้องเป็นร้อยๆ ห้อง มีบ่าวรับใช้มากมาย และอีกอย่างท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าก็พึงใจเจ้าอยู่ไม่น้อย ที่รู้ว่าเจ้าอาจจะตั้งครรภ์ลูกของข้าในไม่ช้า”ฮาซีฟมองหญิงสาวอันเป็นที่รัก ถึงแม้เธออาจไม่ใช่คนที่เขาเลือกตั้งแต่แรก แต่เมื่อเขาได้สัมผัสทุกอย่างจากเธอแล้ว เธอเหมาะสมกับเขาอย่างที่สุด ทั้งบทรักร้อนแรงทุกค่ำคืน เธอคนนี้สนองให้เขาโดยไม่ขาดตกบกพร่อง โดยไม่ต้องพึ่งสตรีสาวงามคนอื่นเลย เธอร้อน
ความกระสันเข้าครอบงำร่างงาม เมื่อริมฝีปากหนาไล้ลงมาจนถึงเนินอกสวย มือของเขาปลดชุดนอนนุ่มลื่นของเธอออกพร้อมกับปลายลิ้นสากกำลังลากไล้ตามมา มืออีกข้างหนึ่งดึงชุดของเธอพ้นออกจากร่างของเธออย่างรวดเร็ว ร่างอวบอิ่มปรากฎแก่สายตาของชีคหนุ่ม เขาจับจ้องไปที่อกอวบใหญ่ที่มีลูกเชอรี่สีแดงสดปรากฏอยู่ตรงกลาง“เจ้าสวยเหลือเกิน...ข้าอยากกินเจ้าทุกวันเลยรู้ไหม”สายตาคมเข้มจับจ้องไปที่เรือนร่างขาวโพลนที่สะท้อนแสงไฟบนหัวเตียงสาดส่องร่างงามอรชร ราวกับต้องมนต์สะกด “อุ้ย! คุณปิดไฟสิคะ...ฉันอายนะ”ธาริกายกมือขึ้นมาปิดอกอวบของเธอ แต่ทว่าก็ยังไม่ทันกับมือหนาที่มาคว้ามือของเธอออก สายตาคมจ้องอย่างไม่กระพริบราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน “ข้าอยากเห็นเจ้าทั้งตัว เจ้าไม่ต้องอาย ข้าคือสามีของเจ้า ข้าจะแต่งงานกับเจ้า เจ้าจงเชื่อใจข้าเถิด...”พูดจบปากร้อนของชายหนุ่มก็ฉกลงมาที่ปลายถันสีชมพูสด ลิ้นสากลากไล้วนเม็ดทับทิมระเรื่อที่แข็งชัน ดุนดัน ดูดเม้มเข้าไปในปากอย่างหิวกระหาย “อาร์...” ร่างบางเอ่ยครางอย่างรัญจวนในสัมผัส เสียงเต้นของหัวใจของเธอถี่รัว มือบางคว้าร่างหนาเอาไว้ “อื้ม...” ปลายลิ้
[อีกด้านหนึ่ง...]บรรยากาศยามเย็นบนโต๊ะรับประทานอาหารมื้อค่ำ... “ทาน-ได้มั้ย-พ่อหนุ่ม”เสียงของหญิงสาววัยกลางคนกำลังสนทนาด้วยภาษามือกับลูกเขยชาวต่างชาติ ที่กำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่กำลังจ้องมอง เพื่อคอยลุ้นผล “ขะ-ขอรับ” อิลยาสส่งสัญญาณเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาเข้าใจประโยคคำถามนั้น “แม่คะ...แม่ลืมลูกสาวคนนี้ไปแล้วเหรอคะ”ธาริกาอดไม่ได้ที่จะแซะ ตอนนี้ทั้งบ้านกำลังเห่อลูกเขยกันยกใหญ่จนลืมเธอคนนี้จนหมดสิ้น “พี่นับดาวพูดเหมือนตัวเองอิจฉาเลยครับ”ภัคพลน้องชายคนรองเอ่ยแซวพี่สาว “อะไรเต้...พี่ไม่ได้อิจฉาซะหน่อย ก็แค่เตือนคนบางคนก็เท่านั้น ได้ลูกเขยลืมลูกสาวตัวเองซะงั้น” “พ่อว่าที่น้องพูดก็ถูกนะนับดาว ลูกทำไมต้องคอยต่อว่าเขานัก พ่อก็เห็นว่าเขาไม่เคยโต้แย้งอะไรลูกเลยสักครั้ง ลูกต้องปรับตัวนะนับดาว เราเป็นเมียเค้า ก็ต้องคอยเอาใจสามี” “พ่อก็อีกคน...สรุปไม่มีใครอยู่ข้างนับดาวเลยสิคะเนี่ย” “เมย์ไงคะพี่นับดาว จะอยู่ข้างพี่เองค่ะ”เมวิกาน้องสาววัยสิบหกปีเอ่ยขึ้นอย่างเอาใจ “พ
“อ๊ะ!” ร่างบางสะท้านตกใจกับสัมผัสนั้น ปากหนาทำงานอย่างหนัก ความเสียวซ่านก่อวนทั่วร่างบาง มือเล็กขยุ้มกลุ่มผมเอาไว้แน่น เมื่อความซาบซ่านเล่นงานร่างงามราวกับผีเสื้อนับล้านบินวนตรงช่องท้องของเธอ รินลดารู้สึกราวกับว่าร่างของเธอกำลังล่องลอยไปในอากาศ “ข้ารักเจ้า เจ้าต้องเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว อื้ม...”เสียงทุ้มแหบพร่าครางกระเส่า บทรักเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ มือหนาแยกเรียวขาสวยออกจากกัน แก่นกายใหญ่ผงาดตั้งชันปวดหนึบ ร่างกำยำแทรกเข้าหาร่างบาง กดดุ้นใหญ่ไล้ไปมากับร่องกุหลาบสวยที่มีน้ำหวานเคลือบชื้นแฉะเต็มร่องรู “อ๊ะ! คุณ! อ๊าร์!!”ความเสียวซ่านเล่นงานร่างบางอย่างหนักจนทำให้ร่างของเธอเบียดเด้งโหนกนูนเข้าหาแท่งร้อนอย่างอัตโนมัติ ใบหน้าสวยแดงกล่ำเพราะความก๋ากั่นของตัวเอง รินลดาต้องการเขา เธออยากให้เขาเข้าไปอยู่ในร่างกายเธอ “โอวว์ เจ้า! ช่างร้อนแรงนัก!! อ่าร์!!!” เสียงครางของชายหนุ่มมาพร้อมกับแท่งใหญ่โตกดดันเข้ากับช่องทางรักของเธอ เอวหนาเด้งเข้า เพื่อดันดุ้นใหญ่ให้ลึกจนสุดลำ! ความคับแน่นโอบรัดแท่งร้อนจนร่างกำยำสั่นเทา! “อาร์...อื้อ...”ความเสียวซ
“แต่งงานกันหรือ? แล้วเขาจะอยู่บ้านของเราได้มั้ยนับดาว เขาทำงานอะไร?”อดุลย์มองว่าที่ลูกเขยอย่างพินิจพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า “เขามีธุรกิจอยู่ที่ประเทศเขาค่ะพ่อ” “ธุรกิจอะไรช่วยขยายความให้พ่อฟังหน่อย” “น่าจะเยอะค่ะพ่อ นับดาวพูดตรงๆ นะคะ เขารวยระดับมหาเศรษฐีพันล้านหมื่นล้านเลยค่ะพ่อ บ้านของเขาก็เป็นปราสาทคฤหาสน์มีคนรับใช้เป็นร้อยค่ะ นับดาวก็อธิบายไม่ถูกค่ะ แต่ประมาณนี้แหละค่ะ” “แล้วเขาจะมาอยู่บ้านหลังเล็กๆ ของเราได้เหรอนับดาว ครอบครัวเราพ่อแม่ และน้องอีกสามคน พ่อว่าเขาจะอึดอัดเอานะ” “นับดาวก็ไม่ทราบค่ะพ่อ ถ้าเขาอยากอยู่กับนับดาวจริงๆ เขาก็คงจะซื้อบ้านอยู่ที่นี่ค่ะ เขาจะซื้อคฤหาสน์ยังได้เลย พ่อไม่ต้องห่วงเขาหรอก นับดาวบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องมา เขาก็ไม่เชื่อยังดื้อดึงที่จะมาอีก”ธาริกาหันไปทำตาเขียวใส่ชีคหนุ่ม ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เรื่องวุ่นวายเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน และเธอก็คงไม่ต้องยุ่งยากมาอธิบายพ่อกับแม่เธออีก “ลูกจะพูดแบบนั้นได้ยังไง...นับดาว แม่ว่าเขาต้องชอบลูกมากเลยแหละ ถึงได้ตามมาขนาดนี้ คนนี้เป็นน้องชายคนเล็ก และคนกลางก็เป
“ฉันจะบอกแม่ฉันยังไงดีคะ?”รินลดาหันไปถามเขา เธอรู้สึกเก้อเขินเป็นอย่างมากที่จะต้องบอกความเป็นจริงกับแม่ของเธอ “ก็บอกว่าข้าเป็นสามีของเจ้า กำลังจะแต่งงานกับเจ้าสิ” “แล้วแม่ฉันจะไม่ตกใจเหรอคะ” “ข้าว...ลูกพูดอะไรกัน จะบอกแม่ได้หรือยังว่าพ่อหนุ่มนี่เป็นใคร และไหนจะคนที่ยืนคุมข้างนอกนั่นอีก บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ” “เอ่อ...แม่ฟังข้าวให้จบก่อนนะคะ...คือว่าคุณคนนี้ชื่อ คาริสค่ะแม่...เขา...เอ่อ...เขาเป็นแฟนของข้าวค่ะแม่ และเขาจะมาสู่ขอข้าวกับแม่ เราจะแต่งงานกันค่ะ” “อะไรนะ! แฟนของข้าว! และจะแต่งงานกัน! ข้าวไปเจอเขายังไง และทำไมแม่ไม่เคยรู้เลย...โอย...นี่แม่งงไปหมดแล้วข้าว”วรีรัตน์ยกมือทาบอกราวกับจะเป็นลมหมดสติลงตรงนั้น “คือ...คุณคาริสเป็นเจ้าของงานที่จ้างข้าวกับนับดาวไปทำงานค่ะแม่...และ...เอ่อ...เขาชอบข้าว ก็เลยตามข้าวมา และจะมาขอข้าวแต่งงานค่ะแม่”รินลดาจำเป็นต้องกุเรื่องของเขากับเธอ ถ้าแม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์ที่เธอโดนลักพาตัวไปล่ะก็ คงต้องเป็นเรื่องใหญ่อีกแน่นอน “ข้าวไปทำงานยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ ไปชอบกันตอนไหนลูก...มันเร็