ริมฝีปากบางถูกประกบ ลิ้นหนาชอนไซเข้าไปในโพรงปากเกี่ยวกวัดลิ้นเล็ก ดวงตากลมโตเบิกตากว้างมองเขาอย่างตื่นตะลึง
“อืมมม์”
เสียงครางแหบพร่าพึมพำอย่างพอใจกับรสสัมผัสที่ได้รับ ปากร้อนบดขยี้ปากบางอย่างดุเดือด อิลยาสไม่สนท่าทีขัดขืนของคนตัวเล็กแต่อย่างใด บางทีวิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะใช้แก้ปัญหาผู้หญิงที่ดื้อดึงอย่างเธอได้
เนิ่นนานหลายนาทีกว่าชีคหนุ่มจะผละออกจากเรียวปากเล็ก ปากร้อนพรมจูบซับไปที่ซอกคอขาวผ่อง ไม่สนใจกับอาการดิ้นรนของหญิงสาวแต่อย่างใด มือหนาที่ลูบไล้อยู่บนสีข้างเลื่อนมาเกาะกุมเต้าอวบอิ่มล้นมือ ใบหน้าคมกล่ำแดงไปด้วยอารมณ์ปรารถนา มือใหญ่บีบเคล้นอกอวบอย่างรุนแรง ไม่สนสิ่งใดนอกจากอารมณ์ของความปวดหนึบที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกำยำ
“ปล่อยนะ กรี๊ดดดดดด!”
ธาริกาผงกศีรษะขึ้นจู่โจมด้วยฟันคมซี่เล็กฝังลงบนไหล่กว้างของเขา แต่ก็ไม่ทำให้เขาสะทกสะท้านแต่อย่างใด เสียงกรีดร้องของเธอดังลั่น แต่ทว่าเขากลับไม่ใส่ใจ มีแต่เพลิงปรารถนาที่ลุกโชนขึ้นมายากจะดับลง
ปลายลิ้นเขาโลมเลียไปที่ปลายถัน ดูด เม้ม ดุนดันปลายลิ้นรัวละเลงอยู่บนยอดอก ความอัดแน่นอันปวดร้าวทั่วร่างแกร่ง เตรียมพร้อมระเบิด เมื่อมือข้างที่เหลือพยายามปลดเข็มขัดและรุดซิปกางเกงและควักเจ้าดุ้นมังกรใหญ่ออกมา ตอนนี้มันชูชันแข็งตัวตอบรับอารมณ์ดิบเถื่อนของชีคหนุ่ม ความโกรธผสมกับความต้องการของบุรุษเพศ และอารมณ์ปรารถนาของเขาทะยานขึ้นตามลำดับ
“ร้องสิ! ทำไมไม่ร้องอีก! ร้องดังดังข้าชอบ!”
มือหนาจับเรียวขาสวยแยกออกจากกัน แต่หญิงสาวกลับหนีบเอาไว้แน่นไม่ยอมให้ชายหนุ่มทำได้สำเร็จ แรงหญิงหรือจะสู้แรงชายได้ เขาออกแรงกระชากเรียวขาของเธอจนแยกออกจากกัน พร้อมกับร่างใหญ่กดแทรกทันที
ปลายกระบอกใหญ่ไล้ไปมากับช่องทางรักของเธอ ก่อนที่จะกดพรวดเข้าไปอย่างรวดเร็วโดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ตั้งตัว
สวบ! ดุ้นมังกรใหญ่พรวดเข้ากับร่องรูอย่างใจร้อน โดยไม่สนความพร้อมใดๆ อีกต่อไป
“ฮึก!! ไม่นะ! กรี๊ดดดดดด!”
หญิงสาวส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น ไม่ใช่เพราะแรงยุจากเขา แต่เป็นเพราะความเจ็บจากแท่งร้อนที่กดแทรกเข้ามาอย่างไม่ปราณีทำเอาหญิงสาวปวดร้าวอย่างที่สุด
“โอวว์”เสียงครางของชีคหนุ่มหลุดออกมาเพราะความคับแคบและการดีดดิ้นของเธอ ความใจร้อนที่ไม่รอความพร้อมของเธอเสียก่อน จนทำให้เจ้าดุ้นมังกรของเขาเจ็บปวดจากการถูกช่องทางรักของเธอโอบรัดเอาไว้
“อย่านะ!” เสียงห้ามอันเบาหวิว เธอพยายามดิ้นเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากสิ่งที่ชายหนุ่มกระทำอยู่ ร่างกำยำหนักหน่วง ทับทาบลงมาที่เรือนกายของเธอ
“อื้มม์ ซีสส์”
เสียงครางของอิลยาสดังขึ้น เมื่อความคับแคบของเธอได้บีดรัดเจ้าดุ้นเอ็นใหญ่เขาเอาไว้ ความกระสันแผ่ซ่านทั่วร่างกายใหญ่ แท่งร้อนเริ่มขยับอย่างเนิ่บนาบเพื่อวอร์มเครื่องให้ร้อน จากช้าและเร็วขึ้นตามลำดับ
ดุ้นเอ็นใหญ่กระแทกลงมาอย่างระรัว
“โอ๊ะ!! เจ้า!! อึ้ม...”
ร่างกายของชีคหนุ่มร้อนรุ่มด้วยไฟราคะ แววตาเย็นชาของเขาจ้องมองเธออย่างหื่นกระหายอย่างไม่ปิดบัง เขาคิดว่านี่คือทางออกสำหรับเขาที่จะปราบพยศของเธอได้
“อึก! ไม่! ฮึก!”
ดุ้นเอ็นใหญ่กระแทกเข้ากับช่องทางรักของเธออย่างรุนแรง ความคับแน่นเมื่อครู่เริ่มลื่นไหลขึ้นเมื่อมีน้ำหวานของเธอถูกปล่อยออกมาเพื่อเคลือบเจ้าแท่งร้อนนี้เอาไว้
“อืมมม์ ซีสสสส์” เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มดังออกมา เจ้าดุ้นมังกรใหญ่ถาโถมเข้าใส่ระรัวอย่างบ้าคลั่งบนโซฟาตัวใหญ่ที่ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเขาเลยสักนิด ร่างบางโยกคลอนไปตามแรงกระแทกกระทั้นนั้น
“ไม่! อ๊ะ!! ปล่อย!!”
เสียงธาริการ้องแทบขาดใจ เธอพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นแต่ทว่าก็สู้แรงเขาไม่ได้ มือหนาของชายหนุ่มจับไปที่ลำคอระหงของเธอเอาไว้พลางพยับสะโพกสอบถาโถมแก่นกายใหญ่เล่นงานที่ใจกลางความเป็นสาวทันที
เสียงเนื้อกระทบเนื้อ
“อ๊ะ!” เสียงร้องของธาริกาดังขึ้น เมื่อมือของเขาฟ่อนเฟ้นอกอวบของเธออย่างรุนแรง พร้อมกับช่วงล่างของเธอถูกกระแทกเข้ามาอย่างหนัก ร่างบางถูกโจมตีทุกรูปแบบ ข้อมือเล็กถูกมัดเอาไว้ทำให้ไม่สามารถที่จะต่อต้านเขาได้
“โอวว์ ซีสส์ โอ๊ะ! เจ้าช่าง...โอวว์”
เสียงครางกระเส่าพร้อมกับร่างที่โยกไปมาตามแรงกระแทกของคนที่คร่อมอยู่บนเรือนร่างของหญิงสาว สะโพกสอบกระแทกเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า
เสียงกรีดร้องเงียบลงเมื่อความเจ็บปวดนั้นเริ่มซา แต่ทว่าความเสียวซ่านกลับเข้าแทรกร่างบาง ริมฝีปากบางอดกลั้นกับความรู้สึกนั้นไว้ ‘ทำไมมันถึงหวาบหวิวแบบนี้’
เสียงเจ้ามังกรกระแทกกระทั้นต่อเนื่อง! เรียวขาสวยทั้งสองข้างที่พาดผ่านลำแขนแกร่งของชายหนุ่มนั้นสั่นสะท้านสะเทือน!
“โอวว์ ซีสส์ โอ๊ะ! โอวว์ อ่าร์!!!”
ชีคหนุ่มครางกระเส่าเขาพอใจกับร่างกายของเธอเป็นอย่างมาก สิ่งนี้กระจ่างแล้ว ‘ร่างกายเขาต้องการเธอ ไม่ว่าเธอจะเต็มใจหรือไม่ เธอจะต้องเป็นของเขาตลอดไป’
“ฮึก! อื้อ...”
“อืมมม์ โอววว์ ซีสสส์”
เอวสอบหนาเร่งจังหวะขึ้นจากรัวเร็วเป็นรุนแรงตามลำดับ ยิ่งได้สัมผัสเรือนร่างและกลิ่นกายของเธอ พายุอารมณ์ของเขาก็โหมกระหน่ำขึ้นจนฉุดไม่อยู่ อิลยาสตักตวงความสุขจากเรือนกายอวบอิ่มของเธอหลายครั้ง เสียงครวญครางของเขาดังระงมไปทั่วห้องกว้างเมื่อชายหนุ่มทะยานขึ้นไปถึงชั้นความสุขระเบิดน้ำรักออกมาหลายต่อหลายครั้ง
ร่างบางถูกพลิกคว่ำกับที่นอนทั้งที่ข้อมือยังถูกพันธนาการไว้มือหนาจับสะโพกสวยแอ่นขึ้นรับดุ้นเอ็นใหญ่ยาวที่ส่งเข้ามาจากด้านหลัง มือเขาจับเอวคอดทั้งสองข้างเอาไว้ กระแทกตอกตรึงแก่นกายใหญ่แน่นหนักอย่างไม่ปราณี เสียงเนื้อกระทบกระทั่งผสมผสานเสียงร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่าน
“ฮึก! อ๊ะ!”
“อืมมม ซีสสส์”
แม้ว่าเสียงประท้วงของธาริกาจะดังขึ้นสักกี่ครั้ง ชีคหนุ่มก็ไม่เคยสนใจกลับตอกตรึงเธออย่างหิวกระหายราวกับหมาป่าที่หิวโซมาแรมปีเสียงครวญครางของเขาระงม เกือบทั้งคืนที่เขากระทำกับเรือนกายของเธอ จากโซฟาสู่ที่นอนใหญ่ ร่างบางของเธอยังคงถูกพลิกคว่ำพลิกหงายสลับสับเปลี่ยนอีกหลายท่วงท่า จนกระทั่งพายุร้ายในร่างของชีคหนุ่มจบลงเขาถึงยอมปล่อยเรือนร่างของเธอออกจากกาย
ริมฝีปากบางถูกประกบ ลิ้นหนาชอนไซเข้าไปในโพรงปากเกี่ยวกวัดลิ้นเล็ก ดวงตากลมโตเบิกตากว้างมองเขาอย่างตื่นตะลึง“อืมมม์”เสียงครางแหบพร่าพึมพำอย่างพอใจกับรสสัมผัสที่ได้รับ ปากร้อนบดขยี้ปากบางอย่างดุเดือด อิลยาสไม่สนท่าทีขัดขืนของคนตัวเล็กแต่อย่างใด บางทีวิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะใช้แก้ปัญหาผู้หญิงที่ดื้อดึงอย่างเธอได้เนิ่นนานหลายนาทีกว่าชีคหนุ่มจะผละออกจากเรียวปากเล็ก ปากร้อนพรมจูบซับไปที่ซอกคอขาวผ่อง ไม่สนใจกับอาการดิ้นรนของหญิงสาวแต่อย่างใด มือหนาที่ลูบไล้อยู่บนสีข้างเลื่อนมาเกาะกุมเต้าอวบอิ่มล้นมือ ใบหน้าคมกล่ำแดงไปด้วยอารมณ์ปรารถนา มือใหญ่บีบเคล้นอกอวบอย่างรุนแรง ไม่สนสิ่งใดนอกจากอารมณ์ของความปวดหนึบที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกำยำ“ปล่อยนะ กรี๊ดดดดดด!”ธาริกาผงกศีรษะขึ้นจู่โจมด้วยฟันคมซี่เล็กฝังลงบนไหล่กว้างของเขา แต่ก็ไม่ทำให้เขาสะทกสะท้านแต่อย่างใด เสียงกรีดร้องของเธอดังลั่น แต่ทว่าเขากลับไม่ใส่ใจ มีแต่เพลิงปรารถนาที่ลุกโชนขึ้นมายากจะดับลงปลายลิ้นเขาโลมเลียไปที่ปลายถัน ดูด เม้ม ดุนดันปลายลิ้นรัวละเลงอยู่บนยอดอก ความอัดแน่นอันปวดร้าวทั่วร่างแกร่ง เตรียมพร้อมระเบิด เมื่อมือข้างที
[อีกด้านหนึ่ง(ในเวลาเดียวกัน)] “ห้องนี้คุณยกให้ฉันแล้วนี่คะ”ธาริกามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่กลางห้องใหญ่ “ข้าเข้ามาเพื่อที่จะคุยกับเจ้าเท่านั้น”เอาเข้าจริงๆ เวลาเจอหน้าเธอแล้ว อิลยาสกลับพูดไม่ออก อุตส่าห์วางแผนกับพี่ชายของเขา และเขาจะต้องทำแบบเดียวกับที่พี่ชายเขาบอก “ฉันไม่มีเรื่องอะไรที่จะคุยกับคุณแล้วค่ะ”ธาริกาไม่เข้าใจในตัวของชายหนุ่มเลย ว่าทำไมเขาถึงยังไม่จบเรื่องนี้ซะที เขาน่าจะดีใจด้วยซ้ำที่เธอไม่เอาความ และไม่วุ่นวายกับเขาอีก “เจ้านั่งลงเถิด ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก”อิลยาสมองร่างบางที่กำลังยืนในท่าเตรียมพร้อมวิ่งอยู่ข้างโซฟาใหญ่ นี่เขาจะเริ่มต้นเจรจากับเธออย่างไรดี “โอเค...ถ้าคุณทำฉันอีกล่ะก็ รอบนี้คุณอาจจะสิ้นชีพแน่นอน...คอยดู”ร่างบางขู่ฟ่อพร้อมกับทิ้งร่างบางลงบนโซฟานุ่ม “แผลเก่าข้ายังไม่หาย ข้าคงไม่คิดที่จะสร้างแผลใหม่หรอกนะ”อิลยาสอดครวญนึกถึงบาดแผลที่เกิดจากฝีมือของเธอ ทั้งกัดและโดนทึ้งทุบจนเป็นรอยไปตามร่างกายและศีรษะบวมปูด “อืม...รู้ไว้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่กล้าทำอีก มีอะไรว่ามาเลยค่ะ ฉันจะนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่
ชีคหนุ่มเอ่ยคำหวานเว้าวอนหญิงสาว มือเขาปลดชุดยาวบางเบานั้นออกจากร่างอวบอิ่มอย่างเบามือ ไร้การต้านทานจากหญิงสาว ใบหน้าหวานแดงกล่ำ หลบสายตาคมกริบอย่างเอียงอาย “ค่ะ...” เสียงตอบรับปนหายใจหอบแรงระรัว กายสาวเบียดเข้ากับร่างกำยำ แสดงให้ชายหนุ่มรับรู้ว่าเธอยินยอมพร้อมใจ ยอมศิโรราบแก่เขาแล้ว รินลดาไม่อาจปฏิเสธสิ่งนี้ได้อีกต่อไป เพราะความปรารถนาที่ก่อขึ้นในกายสาวขดม้วนวนอยู่ตรงช่องท้องของเธอ ผีเสื้อนับล้านตัวบินร่อนไปมา กระแสความอบอุ่นไหลวนอยู่ในใจ... “โอวว์...” เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้น ดวงตาคมเข้มคู่นั้นเจิดจ้าเต็มไปด้วยประกายแห่งความรักใคร่ อารมณ์ของชีคหนุ่มกระเพื่อมไหวเพราะคนตรงหน้า ร่างเล็กสมส่วนปรากฎแก่สายตาของชายหนุ่ม ผิวของเธอช่างเนียนละเอียดดุจแพรไหม สองเต้าอวบอิ่มขาวโพลนที่มีเม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อพุ่งชูชันรอรับความร้อนจากริมฝีปากชายหนุ่ม ชีคหนุ่มไม่รอช้าใช้ปากร้อนดูดงับเม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อ นั้นไว้ในปากอย่างหิวกระหาย ลิ้นใหญ่ดุนดันดูดเม้ม สลับไปมา มืออีกข้างหนึ่งเคล้นคลึงอกอวบอิ่มอย่างหนักหน่วง “อ๊ะ!!!” เสียงครางเบาๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง มื
“ข้าไม่อยากบังคับเจ้าหรอกนะ เพียงแต่ข้าอยากขอให้เจ้าใจเย็นรับฟังข้าก่อน...ข้ารู้ว่ามันเร็วเกินที่เจ้าจะตั้งตัวได้ทัน แต่ข้าก็อยากจะบอกให้เจ้ารู้ไว้...ว่าข้าพร้อมที่จะไปกับเจ้าเพื่อไปหาแม่ของเจ้า...ขอเจ้าแต่งงาน...” “...” รินลดานิ่ง เธอจนมุมกับเรื่องทุกอย่างที่เขาเอ่ยมา สิ่งที่เธอสูญเสียไปมันไม่สามารถที่จะเรียกคืนกลับมาได้อีกแล้ว เธอจะเชื่อใจเขาได้หรือเปล่า เขาจะรักและดูแลเธอไปตลอดชีวิตอย่างที่เขาบอกกับเธอมั้ย...รินลดาจะตัดสินใจอย่างไรดี “เจ้าเงียบ...สำหรับข้ามันคือคำตอบ เอาเป็นว่าเจ้าจะอยู่กับข้าที่นี่ก่อน แล้วเราค่อยกลับประเทศของเจ้าไปด้วยกัน”คาริสยืนขึ้นเต็มความสูง พร้อมกับเดินไปยังห้องอาบน้ำทันที โดยไม่รอคำตอบจากหญิงสาว ปล่อยเวลาให้เธอทบทวนสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง คาริสพูดไปหมดทุกอย่าง เขาพยายามใจเย็น และไม่อยากที่จะบังคับเธอเลย แต่ถ้าเธอเองยังคงดื้อดึงต่อ คาริสก็คงจะต้องใช้วิธีอื่นต่อไป “...” รินลดามองร่างสูงเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ สิ่งที่เขาพูดมานั้นมีเหตุและผลทุกอย่าง รินลดาจะลองเสี่ยงกับเรื่องนี้ดูไหม? ถ้าเขาคิดที่จะจริงจังอย่างที่เขาพูดจริงๆ รินลดาก็พ
“แล้วท่านพี่จะทำอย่างไรขอรับ”อิลยาสไม่คิดว่าตัวเองจะต้องตกที่นั่งเดียวกับพี่ชายของเขาเลยตอนนี้ “พี่ชอบนาง...ถูกใจนางตั้งแต่พี่เจอครั้งแรกแล้ว...”คาริสอดรำพึงนึกถึงวันที่เธอนั้นเดินอยู่บนเวที ความงดงามเย้ายวนของ เธอมีเสน่ห์ตรึงใจเขาเหลือเกิน ‘คาริสจะทำอย่างไร...ที่จะได้ครอบครองเธอทั้งร่างกายและจิตใจ’ “นางเองก็ไม่ได้สนใจท่านพี่นี่ขอรับ...ตอนนี้เพื่อนของนางมาแล้ว...นางทั้งสองคงจะกลับไปพร้อมกับเพื่อนของนางนะขอรับ...แต่จะมีเพื่อนของนางอีกคน ที่จะอยู่กับท่านพี่ฮาซีฟ นางผู้นั้นช่างแปลกนะขอรับ ทำไมนางไม่คิดที่จะกลับไปประเทศของนาง” “เห็นว่าท่านพี่ฮาซีฟจะแต่งงานกับนาง...ท่านพี่คงคิดที่จะจริงจังกับนางแล้ว...” “และเรื่องของท่านพี่จะทำอย่างไรต่อไปขอรับ...” “%#@!&*$##@” คาริสกระซิบข้างหูน้องชาย “จริงหรือขอรับ!!!” “อืม...ถ้าเจ้าไม่ทำคืนนี้...พรุ่งนี้เจ้าอาจจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป...อิลยาสน้องพี่”คาริสนึกถึงแผนการบางอย่างที่เขาบอกน้องชายเขา ‘เธอจะหนีไปจากเขาได้อย่างไรกัน...เมื่อเขายังไม่อนุญาต!!’ “เอ่อ...ท่านพี่แน่ใจนะขอร
“ปรางยังดวงดีอยู่ค่ะเจ้ อีกอย่างปรางรักเมืองไทยค่ะ” “ข้าวกับนับดาวเราคุยกันแล้วค่ะ ว่าพวกเราจะกลับพร้อมกับเจ้เลยค่ะ”รินลดายังคงยืนยันคำเดิม และไม่สนใจว่าเขาจะคิดเช่นไรกับเรื่องนี้ “อืม...ไหนๆ ก็พูดมาแล้ว เจ้ก็อยากจะคุยกับข้าวและ นับดาวสักหน่อย ถึงเรื่องของหล่อนสองคน” “เจ้เปิดพอดี ปรางก็อยากจะคุยกับน้องอยู่เหมือนกันค่ะ” “อย่าบอกนะว่าพี่ปรางจะไม่ให้นับดาวกับข้าวกลับด้วย” “ใจเย็นๆ ก่อนนะนับดาว ข้าวฟ่าง ฟังเจ้ให้ดีๆ และคิดตามด้วยเหตุและผลนะ...เจ้แนะนำให้หนูสองคนลองพิจารณาตัวเองให้รอบคอบนะ และอยากให้หนูให้โอกาสคุณคาริสและคุณอิลยาส เจ้ว่าเขาสองคนเป็นสุภาพบุรุษเต็มตัวเลยนะ ที่รับผิดชอบเราสองคน” “แต่ข้าวไม่ต้องการค่ะเจ้ ข้าวอยากกลับบ้าน ที่นี่ไม่ใช่บ้านของข้าว...อาหารการกิน วัฒนธรรม ภาษาไม่เหมือนกับที่บ้านของเรานะคะเจ้” “ใช่ค่ะเจ้...นับดาวก็เหมือนกัน ไหนจะพ่อกับแม่ที่ห่วงพวกเราอีกนะคะ สิ่งที่เราสองคนเสียไป เราถือว่ามันคืออุบัติเหตุค่ะ ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรแล้ว พอเรากลับไปพวกเขาก็ลืม และเราก็จะลืมเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ”