LOGINจีน่าจำใจขายตัวให้มาเฟียอัคนีเพื่อความอยู่รอด จากสัญญาบำเรอรักที่เริ่มต้นด้วยไฟปรารถนา กลับกลายเป็นรักแท้ที่หลอมละลายหัวใจอันเย็นชาของเขา แต่เมื่อความรักทำให้เขามีจุดอ่อน อันตรายจากแฟนเก่าหวนกลับมาทวงแค้น โดยมีชีวิตของเธอเป็นเดิมพัน
View Moreเสียงดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์เฮาส์ดังกระหึ่มจนแผ่นอกสั่นสะเทือน แสงเลเซอร์สีน้ำเงินและสีม่วงสาดส่ายไปมา ตัดกับความมืดสลัวของ ‘ONYX Club’ สถานบันเทิงระดับไฮเอนด์ที่เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นของเหล่าอภิสิทธิ์ชน เงินสำหรับคนพวกนั้นคงเป็นเพียงเศษกระดาษที่ใช้ซื้อความสำราญชั่วข้ามคืน แต่สำหรับ ‘จีน่า’ มันคือค่าเทอม ค่าหอพัก และค่าใช้จ่ายจิปาถะที่ประทังชีวิตนักศึกษาสาวต่างจังหวัดอย่างเธอไปได้อีกเดือน
หญิงสาวในชุดเดรสสั้นสีดำรัดรูปซึ่งเป็นยูนิฟอร์มของพนักงานเสิร์ฟสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามปรับสีหน้าให้เป็นมิตรและเป็นมืออาชีพที่สุด เธอเกลียดเสียงอึกทึก เกลียดกลิ่นแอลกอฮอล์ผสมบุหรี่ราคาแพงที่คละคลุ้งจนน่าเวียนหัว แต่ค่าตอบแทนที่นี่มันหอมหวานเกินกว่าจะปฏิเสธได้ โดยเฉพาะ ‘เงินติ๊บ’ ที่ร่ำลือกันว่าคืนเดียวอาจมากกว่าเงินเดือนทั้งเดือนของงานพาร์ทไทม์ทั่วไป “น้องสาว โต๊ะ 12 ขอแชมเปญเพิ่มอีกขวด” เสียงเรียกห้วนๆ ดังขึ้นจากผู้จัดการร้าน “ค่ะพี่” จีน่ารับคำ ขยับถาดในมือให้มั่นคงแล้วเดินหลบเลี่ยงร่างที่กำลังเมามันไปกับเสียงเพลงไปยังโต๊ะวีไอพีมุมในสุด กลุ่มชายวัยกลางคนในชุดสูทแบรนด์เนมนั่งอยู่รอบโต๊ะ บนนั้นเกลื่อนไปด้วยขวดเหล้าราคาแพงระยับ สายตาหื่นกระหายของหนึ่งในนั้นจ้องมองมาที่เธออย่างไม่ปิดบัง ตั้งแต่ช่วงอกที่ล้นทะลักออกมาตามดีไซน์ของชุด ไปจนถึงเรียวขาขาวภายใต้เดรสสั้นกุด จีน่ารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเนื้อกวางที่กำลังถูกฝูงหมาป่าจ้องตะครุบ “มาแล้วเหรอจ๊ะคนสวย” ชายพุงพลุ้ยที่มีนาฬิกาทองฝังเพชรบนข้อมือเอ่ยทัก รอยยิ้มของเขาทำให้จีน่าอยากจะเบือนหน้าหนี หญิงสาวฝืนยิ้มหวาน รินแชมเปญลงในแก้วทรงสูงอย่างคล่องแคล่ว พยายามทำตัวให้เหมือนอากาศธาตุ แต่ดูเหมือนว่าคืนนี้โชคจะไม่เข้าข้างเธอ หมับ! ฝ่ามือหยาบกร้านและชื้นเหงื่อตะปบลงบนบั้นท้ายของเธอเต็มๆ พร้อมกับออกแรงบีบเคล้นอย่างจาบจ้วง จีน่าสะดุ้งสุดตัว ขนลุกซู่ด้วยความขยะแขยงและความตื่นตระหนก ถาดในมือเกือบจะร่วงหล่น โลกของเธอเหมือนหยุดหมุนไปชั่วขณะ หัวใจเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก “ปล่อยนะคะ!” เธอตวัดเสียงแข็ง พยายามขยับตัวหนี แต่กลับถูกรวบเอวเข้าไปใกล้ “โถ่คนสวย เล่นตัวไปได้น่า คืนนี้ไปต่อกับพี่ไหม รับรองว่าให้ติ๊บหนักกว่าที่ได้จากทั้งร้านรวมกันอีก” เขากระซิบข้างหู ลมหายใจเหม็นกลิ่นเหล้าทำให้เธอแทบสำลัก ในหัวของจีน่าขาวโพลน ความกลัวและความโกรธตีรวนกันจนปวดหนึบ เธอจะกรีดร้องโวยวายก็ไม่ได้ เพราะนั่นหมายถึงการตกงานและอาจจะต้องเจอกับปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม เธอต้องใช้สติ ต้องมีไหวพริบ หญิงสาวเหลือบไปเห็นแก้วไวน์แดงที่เกือบหมดของชายอีกคนบนโต๊ะ ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง แผนการเอาตัวรอดก็ผุดขึ้นมาในหัว “อุ๊ย!” จีน่าแสร้งทำเป็นสะดุดขาตัวเอง โผเข้าไปข้างหน้าเล็กน้อย ใช้จังหวะนั้นเบี่ยงตัวหลุดจากการเกาะกุม พร้อมกับ ‘บังเอิญ’ ปัดมือไปโดนแก้วไวน์ใบนั้นพอดี ซ่า! ไวน์แดงที่เหลืออยู่ก้นแก้วสาดกระจายใส่เป้ากางเกงสแล็คสีครีมของชายหื่นกามคนนั้นเต็มๆ “เฮ้ย! อะไรวะเนี่ย!” เขาผงะถอยหลัง ปล่อยมือจากเอวเธอโดยอัตโนมัติ สีหน้าตกใจระคนหงุดหงิดเมื่อเห็นรอยด่างสีแดงคล้ำบนกางเกงราคาแพงของตัวเอง “ขอโทษค่ะ! ขอโทษจริงๆ นะคะคุณลูกค้า!” จีน่าแสร้งทำหน้าตื่น ยกมือไหว้ปลกๆ “พอดีหนูตกใจที่คุณลูกค้าจับ... เลยเสียหลักน่ะค่ะ ต้องขอโทษจริงๆ นะคะ” เธอจงใจเน้นคำว่า ‘จับ’ เพื่อให้คนอื่นๆ บนโต๊ะได้ยินและเข้าใจสถานการณ์ เพื่อนของเขาหันมามองด้วยสายตากึ่งตำหนิกึ่งขบขัน ชายคนนั้นหน้าเจื่อนลงทันทีที่ถูกจับได้ การลวนลามเด็กเสิร์ฟในคลับแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การถูกจับได้ต่อหน้าเพื่อนฝูงมันคือความน่าอาย “ชิ! ซวยจริงโว้ย!” เขาทำได้แค่สบถอย่างหัวเสีย แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรเธอต่อหน้าธารกำนัล “หนูขอตัวไปเอาผ้ามาเช็ดให้นะคะ!” จีน่ารีบฉวยโอกาสนั้นปลีกตัวออกมาทันที เธอเดินจ้ำอ้าวด้วยหัวใจที่ยังเต้นไม่เป็นส่ำ ความรู้สึกขยะแขยงยังติดอยู่ที่ผิวเนื้อจนอยากจะอาบน้ำให้รู้แล้วรู้รอด เธอต้องรีบไปจากตรงนี้ ไปตั้งสติที่หลังร้านสักครู่... หญิงสาวมัวแต่จมอยู่กับความคิดและความรู้สึกของตัวเอง ดวงตาที่พร่ามัวจากความตื่นตระหนกมองไม่เห็นเงาร่างสูงใหญ่ที่ก้าวออกมาจากมุมมืดของโถงทางเดินซึ่งเป็นเขตส่วนตัว โครม! ร่างบางของจีน่าปะทะเข้ากับกำแพงมนุษย์อย่างจัง แรงกระแทกส่งผลให้ถาดในมือของเธอเอียงวูบ และขวดไวน์แดงราคาแพงระยับที่เพิ่งเปิดใหม่เพื่อเตรียมนำไปเสิร์ฟให้ลูกค้าอีกโต๊ะก็หลุดจากถาด... เวลาเหมือนจะเคลื่อนที่ช้าลง จีน่าเบิกตากว้างอย่างสยดสยอง มองของเหลวสีเลือดที่ลอยคว้างกลางอากาศ ก่อนที่มันจะสาดซัดลงบนเสื้อเชิ้ตสีขาวและสูทสั่งตัดเข้ารูปสีเทาเข้มของชายผู้เพิ่งถูกเธอชน... กลิ่นไวน์ชั้นเลิศฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เสียงทุกอย่างรอบตัวพลันเงียบกริบราวกับมีคนกดปุ่มปิดเสียง บรรดาการ์ดในชุดดำที่ยืนอยู่ห่างๆ มีสีหน้าตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด จีน่าตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้เป็นหิน เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของร่างสูงสง่าที่บัดนี้อาบไปด้วยไวน์ ‘Romanée-Conti’ ปีล่าสุด...ไวน์ที่ราคาขวดหนึ่งแพงกว่าค่าเทอมสี่ปีของเธอรวมกันเสียอีก ชายคนนั้นไม่ได้เกรี้ยวกราด ไม่ได้ตวาด แต่กลับนิ่งสงบจนน่าขนลุก เขาก้มลงมองรอยด่างสีแดงเข้มขนาดใหญ่บนอกเสื้อและสูทของตัวเองด้วยแววตาเรียบเฉย ก่อนจะปรายสายตาเย็นเยียบมาที่เธอ และในวินาทีนั้นเอง จีน่าก็จำได้... เขาคือ ‘อัคนี’ เจ้าของอาณาจักรสีเทาแห่งนี้ ชายผู้มีฉายาว่า ‘พญาราชสีห์แห่งรัตติกาล’ ผู้ที่เพียงแค่กระดิกนิ้วก็สามารถชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้ ดวงตาคมกริบดุจเหยี่ยวคู่นั้นจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ มันไม่ได้มีความโกรธ แต่เต็มไปด้วยอำนาจที่กดดันจนเธอแทบหยุดหายใจ ความร้อนแรงที่แฝงอยู่ในความเยียบเย็นนั้นน่ากลัวเสียยิ่งกว่าเปลวเพลิงใดๆ สมกับชื่อ ‘อัคนี’ ของเขา “ขะ... ขอ... ขอโทษค่ะ... ดิ... ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ” เสียงของเธอสั่นเครือจนแทบไม่เป็นคำพูด แข้งขาสั่นพั่บๆ จนแทบจะยืนไม่อยู่ อยากจะทรุดลงไปกับพื้นให้มันรู้แล้วรู้รอด อัคนีไม่ตอบ เขายังคงจ้องเธอเขม็ง ราวกับกำลังประเมินค่าความเสียหายและ...ประเมินค่าตัวเธอไปพร้อมๆ กัน เขาปลดกระดุมสูทที่เปรอะเปื้อนออกช้าๆ ยื่นส่งให้การ์ดคนสนิทที่รีบก้าวเข้ามา ก่อนจะก้าวเข้ามาประชิดร่างของจีน่าจนปลายเท้าแทบจะชิดกัน กลิ่นน้ำหอมผู้ชายราคาแพงผสมกับกลิ่นไวน์คละคลุ้งอยู่รอบตัวจนทำให้เธอแทบมึนงง “เธอรู้ไหมว่าไวน์ขวดนั้น... กับสูทตัวนี้ ราคารวมกันเท่าไหร่” น้ำเสียงทุ้มต่ำและเย็นเยียบของเขาดังขึ้นข้างหูราวกับเสียงกระซิบของพญามัจจุราช มันไม่ได้ดัง แต่กลับก้องกังวานไปทั่วโสตประสาทของจีน่า “...” หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ ไม่มีแรงแม้แต่จะเปล่งเสียงออกมา เขาแค่นยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ไปถึงดวงตา “มากกว่าชีวิตของเด็กเสิร์ฟอย่างเธอ... หลายเท่า” ความหวังทั้งหมดของจีน่าพังทลายลงในพริบตา นี่มันเลวร้ายยิ่งกว่าการถูกลูกค้าลวนลามนับร้อยนับพันเท่า หนี้ก้อนนี้... เธอไม่มีปัญญาชดใช้ให้เขาได้หมดทั้งชาติแน่ “ดิฉัน... ดิฉันจะพยายามหาเงินมาใช้คืนให้นะคะ...” เธอบอกเสียงแผ่ว รู้ดีว่าเป็นคำพูดที่โง่เง่าสิ้นดี อัคนียกมือขึ้น เชยคางมนของเธอให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาตรงๆ ปลายนิ้วเย็นเฉียบของเขาสัมผัสกับผิวแก้มร้อนผ่าวของเธอแผ่วเบา แต่กลับทำให้เธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง “เงินของเธอ... ฉันไม่ต้องการ” แววตาของเขาเปลี่ยนไป มันมีความพึงพอใจบางอย่างฉายวาบขึ้นมา เหมือนราชสีห์ที่เจอเหยื่อชิ้นงามถูกใจ “แต่ความผิด... ยังไงก็ต้องมีคนชดใช้” เขากระซิบเสียงพร่า “และดูเหมือนว่า... เธอจะมีบางอย่างที่พอจะเอามา ‘ขัดดอก’ หนี้ก้อนนี้ได้”ความเจ็บปวดจากการถูกรุกล้ำครั้งแรกค่อยๆ จางหายไป... ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทั้งทรมานและซ่านสยิวในเวลาเดียวกัน ธามเริ่มขยับกายอย่างเชื่องช้า ทะนุถนอมราวกับกลัวว่าเธอจะแหลกสลายไป แต่ทุกจังหวะที่เขาขยับเข้าออก... มันกลับยิ่งโหมกระพือไฟปรารถนาที่เกิดจากฤทธิ์ยาให้ลุกโชนรุนแรงขึ้นภาพเบื้องหน้าของพริ้งที่เคยพร่าเลือนด้วยน้ำตาและความเจ็บปวด เริ่มกลับมาโฟกัสได้ชัดเจนขึ้น... ผู้ชายที่กำลังครอบครองร่างกายของเธอ... ผู้ชายที่กำลังมอบความรู้สึกที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนพอพริ้งมองชัดๆ... ว่าเป็นเขาจริงๆ ธาม... เจ้าชายรัตติกาลที่เธอเฝ้าแอบมองจากมุมไกลๆ มาโดยตลอด...หัวใจของเธอกระตุกวูบ! นี่มันไม่ใช่ความฝัน!ความรู้สึกที่ซับซ้อนถาโถมเข้าใส่เธออย่างจัง ความกลัว... ความตื่นเต้น... และความสมหวังที่ไม่ได้ตั้งใจ... มันตีรวนกันจนปั่นป่วนไปหมดสัญชาตญาณบางอย่างที่อยู่เหนือเหตุผลบอกให้เธอไขว่คว้าช่วงเวลานี้ไว้... เธอปล่อยมือจากผ้าปูที่นอนที่กำจนยับยู่ยี่... แล้วยกแขนทั้งสองข้างขึ้นโอบรอบลำคอของเขา...เธอกอดเขาไว้แน่นราวกับกลัวว่าถ้าหากเธอปล่อยเขาจะหายไปธามรู้สึกได้ถึงการยอมรับนั้น เขารับรู้ได้ถึงอ้
จูบของธามไม่ได้มีความอ่อนหวานเลยแม้แต่น้อยความต้องการครอบครองที่เขาพยายามกดข่มไว้ แต่ตอนนี้มันได้ระเบิดออกมาจนหมดสิ้น เขารังเกียจคำพูดของเธอที่ยอมไปกับผู้ชายหน้าไหนก็ได้... แต่ไม่ใช่เขา เขาบดขยี้ริมฝีปากของเธออย่างรุนแรง ดูดดึงและขบเม้มราวกับจะลงโทษเธอให้สาสมกับคำพูดบาดใจนั้นพริ้งกลัวจนน้ำตาไหลพรากภาพลักษณ์ของชายที่เธอเฝ้าแอบมองในมุมมืด บัดนี้ได้กลายเป็นปีศาจร้ายที่น่ากลัวที่สุด! สัมผัสของเขามันรุนแรง... ดุดัน... และเต็มไปด้วยโทสะที่ทำให้เธอตัวสั่นไปทั้งร่างแต่... ร่างกายของเธอกลับทรยศหัวใจอย่างสิ้นเชิงเปลวไฟจากฤทธิ์ยาที่แผดเผาเธออยู่ มันโหมกระพือรุนแรงขึ้นเมื่อได้สัมผัสกับความร้อนจากร่างกายของเขา ความร้อนแล่นปราดไปทั่วทุกอณู... และมันไปกระจุกตัวอยู่ที่จุดกึ่งกลางของความเป็นสาวตรงนั้นของเธอเปียกซึมจนชุ่มแฉะ...มันคือปฏิกิริยาตอบสนองที่ควบคุมไม่ได้ยิ่งเป็นชายที่เธอแอบชอบมาตลอด... มันยิ่งกระตุ้นความรู้สึกของเธอไปอีก สมองของเธอกรีดร้องให้ผลักไสเขาออกไป... แต่ร่างกายกลับโหยหาสัมผัสของเขาอย่างน่าสมเพช“อื้อ... ปล่อย ปล่อยฉันเถอะ” เธอละล่ำละลักพูดผ่านจูบที่รุนแรงของเขา พยายามใช้เรี่ยวแรง
ธามเดินหายเข้าไปในห้องนอน... ทิ้งให้พริ้งนอนบิดเร่าอยู่บนโซฟาหนังสีดำตามลำพังกับความทรมานที่แผดเผาไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย เขาไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำ... แต่เขากำลังต่อสู้กับตัวเองอย่างหนัก เขายืนพิงกำแพงห้องที่เย็นเฉียบ พยายามข่มอารมณ์ดิบที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ในกาย... ภาพของผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างนอกมันยังคงติดตาเขาไม่หาย... เขานึกถึงร่างอันอวบอัดของเธอ... สัดส่วนโค้งเว้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าตอนนี้มันรัดรึงจนแทบปริ... ใบหน้าที่แดงก่ำและดวงตาที่ฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์ยา... เสียงครางหวิวที่อ้อนวอนขอความช่วยเหลือ... ภาพเหล่านั้นมันปลุกสัญชาตญาณดิบของผู้ชายในตัวเขาขึ้นมาอย่างรุนแรง! ข้างในของเขามันร้อนรุ่มไม่ต่างจากเธอเลย! เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อเห็นผู้หญิงที่เขาสนใจอยู่ในสภาพยั่วยวนไร้สติขนาดนี้ มันคือบททดสอบที่โหดร้ายที่สุด เขาอยากจะเดินออกไป... กดร่างของเธอลงกับโซฟา... แล้วปลดปล่อยเธอจากความทรมานด้วยวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาที่สุด... เขาอยากจะทำให้เธอเป็นของเขา... ที่นี่... เดี๋ยวนี้! แต่เขาก็ทำไม่ได้... การทำแบบนั้นมันไม่ต่างอะไรจากไอ้เดนนรกคนนั้นเลย... มันคือการฉวยโอกาส... แล
สติของพริ้งเลือนรางเต็มที... ภาพสุดท้ายที่เธอจำได้คือใบหน้าที่เย็นชาของธามที่ย่อตัวลงมาตรงหน้า... ก่อนที่ทุกอย่างจะหมุนคว้าง และเธอก็ถูกอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนที่แข็งแรงของเขาธามอุ้มร่างที่สั่นเทาของเธอเดินตรงไปยังลิฟต์ส่วนตัวที่ซ่อนอยู่หลังกำแพงอย่างเงียบเชียบ ประตูลิฟต์สแตนเลสสีดำขลับเปิดออกอย่างไร้เสียง เขาก้าวเข้าไปข้างใน... โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงและความวุ่นวายถูกตัดขาดออกไปในทันที... เหลือเพียงความเงียบที่น่าอึดอัด... และเสียงหอบหายใจของพริ้งที่ดังระรัวในพื้นที่ปิดแคบๆ ของลิฟต์... ฤทธิ์ยาที่แล่นพล่านอยู่ในกายของเธอดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว!ความร้อนที่เคยร้อนวูบวาบ บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นเปลวไฟที่แผดเผาเธอจากภายในสู่ภายนอก... เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่กลายเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ... ผิวของเธอแดงก่ำ... เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดซึมออกมาตามไรผมและหน้าผาก...“ร้อน... ฉันร้อน...” เธอเริ่มพึมพำออกมาอย่างควบคุมไม่ได้“ฟังฉันนะ”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นใกล้หู“สิ่งที่เธอรู้สึกอยู่ตอนนี้ มันไม่ใช่เธอ”พริ้งหัวเราะเบา ๆ ทั้งน้ำตา“คุณไม่รู้หรอก… มันเหมือนจะขาดใจ… เหมือนจะบ้า…”แขนของเขากระชั
reviews