“ไอ้ดาวรอฉันด้วยดิวะ ฉันยิ่งขาสั้น ๆ อยู่” จันทร์เจ้ารีบส่งเสียงร้องบอกเมื่อปลาดาวไม่มีทีท่าว่าจะหยุดวิ่ง
นี่เธอออกตัววิ่งมานานแล้วนะยังตามปลาดาวไม่ทันเลย ไม่ได้แข่งวิ่งโอลิมปิกสักหน่อย ทำไมต้องวิ่งเร็วด้วยก็ไม่รู้ ไม่เห็นใจคนขาสั้นที่เร่งวิ่งตามมาเอาซะเลย
“แล้วแกจะตามฉันมาทำไมจันทร์เจ้า ตอนนี้ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก”
“ฉันก็เป็นห่วงแกนะสิ นี่มันก็มืดแล้วกลับโรงแรมกันเถอะนะ” จันทร์เจ้าที่เห็นว่าเพื่อนหยุดวิ่งแล้วหันมาพูดกับตนแบบนั้น ก็ถอนหายใจก่อนจะบอกออกไป
จะให้เธอปล่อยเพื่อนไว้คนเดียวได้ยังไง ปลาดาวเวลาโกรธหรือเสียใจยิ่งชอบหายตัวไปอยู่เงียบ ๆ คนเดียวอยู่เรื่อย นั่นทำให้เพื่อนในกลุ่มค่อนข้างเป็นห่วงอย่างมาก แล้วยิ่งวันนี้มีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจด้วยแล้ว ถ้าเธอไปตามมาแล้วปลาดาวคิดทำอะไรบ้า ๆ ขึ้นมาก็แย่น่ะสิ ด้านมารินยังมีกอหญ้าอยู่ยังไงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่ เธอถึงได้ตัดใจวิ่งมาเพื่ออยู่เป็นเพื่อนกับปลาดาวแทน ที่ตอนนี้ดูท่าจะบอบช้ำทางใจที่สุด
ปลาดาวได้ยินจันทร์เจ้าพูดออกมาแบบนั้นก็ระบายยิ้มบาง ๆ รู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่อย่างน้อยเพื่อนคนนี้ก็อยู่ข้าง ๆ เธอ หญิงสาวจึงได้แต่ตอบจันทร์เจ้ากลับไปว่าไม่ต้องเป็นห่วง ถึงยังไงเธอคงตัดใจได้ไวแน่ จันทร์เจ้าที่ได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยปากตอบว่าจะเลี้ยงเหล้าปลอบใจ สุดท้ายสองสาวจึงไปนั่งอยู่ที่บาร์กันเพียงสองคน
บีชบาร์
บีชบาร์ คือบาร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมที่แก๊งรวมดาวพักอยู่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน ที่เหล่าผีเสื้อราตรีมักออกมาโยกย้ายส่ายสะโพกกัน
หญิงสาวสองคนนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้านที่ไม่เป็นที่สะดุดตานัก ถึงจะบอกว่าไม่เป็นที่สะดุดตาก็คงไม่ได้ แม้โต๊ะที่หญิงสาวเลือกนั่งจะเป็นมุมอับ แต่หน้าตาและความสวยของคนทั้งสองก็เรียกเหล่าหมู่มวลภมรเข้ามาหาได้ไม่ยาก
จันทร์เจ้าได้แต่ส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้กับผู้ชายเหล่านั้นทั้งยังกล่าวปฏิเสธไปโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูด ด้วยถ้อยคำที่ใครได้ยินก็ต่างคิดเช่นเดียวกันว่าอยากจะสั่งสอนหญิงสาวตรงหน้าให้สิ้นฤทธิ์ ที่พวกเขารู้สึกเช่นนั้นก็คงไม่แปลก แล้วจะไม่ให้พวกเขารู้สึกอย่างนั้นได้อย่างไรในเมื่อเธอพูดว่า
‘มารยาทรู้จักไหม นั่งมุมอับขนาดนี้ยังจะหน้าด้านเข้ามาทักอีก ออกไปเลยนะ ไม่ต้องชวน ไม่ต้องจีบ น่ารำคาญ’
และก็อีกหลายคำที่หลุดออกจากปากสวยของเธอ ด้านคนที่ได้ยินคำพูดนี้ก็ได้แต่ถอยกลับไปคนแล้วคนเล่า ทั้งก่อนจากยังมองใบหน้าของจันทร์เจ้าอีกครั้งก่อนจะหลุดคำพูดที่ทำให้หญิงสาวอดรู้สึกหัวร้อนไม่ได้
‘หน้าตารึก็สวยดี ไม่น่าปากเสียเลย’ หลายครั้งที่ได้ยินคำพูดนี้ จันทร์เจ้าแม่สาวสุดแสบก็แทบถลาไปซัดหน้าคนพูดเข้าให้สักหลายที ติดก็แต่เพื่อนสาวคนสนิทอย่างปลาดาวที่คอยห้ามปรามไว้
“เบา ๆ ก็ได้แก นี่อะไรพอมาถึงก็กระดกเลย” จันทร์เจ้าเอ่ยเตือนเพื่อน ทั้งยังมองด้วยความเป็นห่วง
จะไม่ให้เอ่ยห้ามยังไงไหว ก็แม่เจ้าประคุณเล่นดื่มเอา ๆ ตั้งแต่มาถึงด้วยเครื่องดื่มสุดโปรดอย่าง Long Island ที่เจ้าตัวชื่นชอบ จนตอนนี้ใบหน้าของเพื่อนสนิทคนนี้แดงก่ำบ่งบอกความเมาอย่างเห็นได้ชัด
“จะทำไมล่ะ ก็ฉันอยากจะเมานี่”
‘ฟังซะที่ไหน’ จันทร์เจ้าส่ายหัวไปมาพูดในใจด้วยความปลดปลง ก่อนจะปรายสายตาไปบนโต๊ะของพวกเธออีกครั้ง กวาดสายตามองบรรดาแก้วเหล้าและเครื่องดื่มที่ถูกสั่งมาแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจให้กับตัวเอง
‘เงินฉันทั้งนั้น รถ คอนโดฯ ยังผ่อนไม่หมด ยังจะกล้าพูดว่าเลี้ยงอีกนะ จันทร์เจ้านะจันทร์เจ้า! พูดออกไปได้ยังไงเนี่ย ฮือ... เงินฉัน เงินที่รัก’
ประโยคดังกล่าว เป็นประโยคที่หญิงสาวพูดในใจกับตัวเองเท่านั้น ไม่ได้พูดให้อีกคนได้ยิน ในเมื่อออกปากพูดออกไปแล้วว่าจะเลี้ยงเธอก็จะเลี้ยง คนอย่างจันทร์เจ้าพูดคำไหนคำนั้น ไม่มีวันคืนคำหรอก เพียงแต่ว่าพอมองรายการเครื่องดื่มที่สั่งมาแล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะเจ็บปวดและเสียดายเงินที่ต้องถูกควักจ่ายออกไป
“แกนั่งรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง ปวดฉี่ว่ะ” หลังจากที่ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกายหลายแก้ว ผลข้างเคียงของคนดื่มเครื่องดื่มก็เริ่มออกฤทธิ์ ตอนนี้จันทร์เจ้าปวดฉี่มากและต้องการเข้าห้องน้ำที่สุด เท่านั้นยังไม่พอ ใบหน้าของเธอยังเห่อร้อนและรู้สึกตึง ๆ จากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป หลังจากบอกเพื่อนและเห็นเพื่อนรับปากดีแล้วว่าจะไม่ไปไหน เธอจึงได้ลุกออกจากโต๊ะและตรงไปเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวทันที
“อืม... คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้น ลมทะเลปะทะหน้าสักหน่อยเราน่าจะสดชื่นขึ้น กลับมาไอ้ดาวคงไม่ไปไหน” หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จ จันทร์เจ้าก็อยากไปเดินรับลมทะเล เพื่อที่ร่างกายจะได้สดชื่นปัดเป่าความร้อนแรงของแอลกอฮอล์ออกไป เธอเดินออกมามองไปยังจุดที่ปลาดาวนั่งอยู่เพียงเล็กน้อย แล้วตัดใจออกไปเดินรับลมที่ชายหาดแทน
จันทร์เจ้าอึ้งของจริงแล้วตอนนี้ ก็ว่าอยู่ทำไมเขามีท่าทางจริงจังผิดปกติ และเหมือนว่าจะทำเรื่องสำคัญ แต่เธอไม่คิดว่าเรื่องสำคัญที่ว่าคือการขอเธอแต่งงานแบบนี้ หญิงสาวพูดไม่ออกตั้งตัวไม่ทัน ได้แต่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้นจนคนที่เพิ่งพูดว่าขอแต่งงานใจเสีย“จันทร์ครับ พี่รักจันทร์นะ รักจันทร์คนเดียว เรายังไม่ต้องแต่งกันตอนนี้ก็ได้ แต่จันทร์อย่าปฏิเสธพี่เลยนะครับ” พูดแล้วก็จะร้อง ใบหน้าของชลธีเหยเก ชายหนุ่มรับไม่ได้ถ้าเขาจะถูกคนที่รักปฏิเสธ มาถึงตอนนี้จันทร์เจ้าเรียกสติคืนกลับมาได้แล้ว“พี่ชลใจเย็น ๆ นะคะ จันทร์ไม่ได้จะปฏิเสธสักหน่อย”“จริงนะครับ”“จริงสิคะ”ชลธีได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ“แต่จันทร์ขอเวลาหน่อยนะคะ จันทร์ไม่อยากให้เราด่วนตัดสินใจ ทุกวันนี้ที่เราอยู่และเข้าใจกันมันก็ดีอยู่แล้ว ให้ความสัมพันธ์ของเราเป้นแบบนี้ไปก่อนนะคะ”“เรายังมีหลายเรื่องที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน โดยเฉพาะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามองข้ามอาจจะกลายเป็นปัญหาในอนาคตได้ ถึงแม้ตอนนี้เราสองคนจะยังไม่แต่งงานกันแต่เราก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอคะ พี่ชลอย่ารีบไปเลยนะคะ และก็อย่ากังวลด้วย ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหนก
วันนี้จันทร์เจ้าและชลธีมาร่วมแสดงความยินดีกับฟองคลื่น รุ่นน้องสาวคนนี้กำลังเข้าพิธีแต่งงานกับภาสกรเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาบรรยากาศงานแต่งงานยามเย็นที่จัดริมทะเลเป็นอะไรที่ลงตัวมาก จันทร์เจ้าชื่นชอบซุ้มดอกไม้ทางเข้างานที่สุด เพราะว่านอกจากจะหอมแล้วยังสวยด้วยแต่ที่สวยที่สุดเห็นที่จะเป็นเจ้าของอย่างเจ้าสาวป้ายแดงที่ชื่อว่า ฟองคลื่นคนนี้นี่แหละจันทร์เจ้ารู้สึกยินดีกับรุ่นน้องสาวมาก เห็นคนที่ตัวเองรักและเอ็นดูมีความสุขกับคู่ชีวิตและสิ่งที่เจ้าตัวเลือก ตัวเธอเองก็ดีใจและมีความสุขไปด้วยส่วนเพื่อน ๆ ในกลุ่มก็เอ่ยทักทายกันตามปกติก่อนจะแยกไปอยู่ที่คู่ใครคู่มันจันทร์เจ้าไม่ได้ร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวจนจบงาน ไม่ได้อยู่สนุกในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี เพราะเพียงแค่เจ้าสาวโยนช่อดอกไม้มาแล้วปลาดาวรับได้ เธอก็ถูกชลธีพาตัวกลับมาที่เกาะทันทีชายหนุ่มพูดกับเธอว่า วันนี้เธอสวยแปลกตาจึงไม่อยากให้ผู้ชายที่มาร่วมงานมองเธอเยอะเกินไป เขาหึงหวงเกินกว่าจะเห็นเธอยิ้มให้คนอื่นได้ แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนที่เธอรู้จักก็ตามตอนแรกก็ตั้งใจจะต่อว่าเขาอยู่หรอกที่เขาพาเธอกลับออกจากงานก่อนงานเลิก ครั้นพอได้ยินคำพูดของ
“มานั่งสิครับ จันทร์บ่นว่าอยากกินซูชิไม่ใช่เหรอ นี่พี่สั่งให้คนงานซื้อมาให้เลยนะ เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เอง”‘นั่นไง ว่าแล้วเชียว นี่คงจะสั่งตั้งแต่เช้าก่อนที่คนงานจะเอารังนกที่เพิ่งเก็บใหม่ออกไปส่งสินะ บวกลบเวลากลับมาถึงเกาะก็น่าจะเวลาประมาณนี้พอดี ซื้อหวยทำไมไม่ถูกนะ’ เธอพูดคนเดียวในใจ ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้เงียบ ๆชลธีจัดการส่งจานซูชิและสลัดต่าง ๆ ให้เธอ ส่วนเขานั่งทานข้าวสวยกับต้มยำแทน ระหว่างทานชลธีก็บริการจันทร์เจ้าอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง“ไวน์ไหมครับ”“จะมอม?”“เปล่าครับเปล่า ไวน์นี้มีกลิ่นหอม จันทร์น่าจะดื่มได้พี่เลยลองชวนน่ะครับ ถ้าจันทร์ไม่สนใจก็ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มพูดกลบเกลื่อนความเสียดายเอาไว้เขาอุตส่าห์วางแผนนี้ไว้ในใจ ตั้งใจให้เธอดื่มไวน์ เธอจะได้เมา หลังจากนั้นจะได้คุยกันง่ายขึ้น ไม่คิดเลยว่าเธอจะไม่ยอมดื่ม“คิดนานไหมแผนนี้”“แผน?”“อย่ามาทำหน้าซื่อตาใส มันไม่เนียน แล้วก็เอาไปไกล ๆ คนไม่ถูกโฉลกกับไวน์ยังจะเอาเข้ามาใกล้อีก” ได้ยินหญิงสาวพูดด้วยความไม่พอใจ ชลธีก็รีบหยิบแก้วไวน์ออกห่างจากหญิงสาวทันที“จันทร์ครับ ดีกันเถอะนะ อย่างอนเลยนะครับ พี่ไม่รู้จะง้อจันทร์ยังไงแล้ว” ชายหน
วันเวลาขับเคลื่อน หมุนเวียนผ่านไป ตอนนี้ก็ผ่านมาได้หลายเดือนแล้ว นับตั้งแต่ที่จันทร์เจ้าและชลธีกลับมาจากกรุงเทพฯ ตลอดเวลาที่จันทร์เจ้าอยู่กับชลธีที่เกาะรังนกแห่งนี้ทั้งคู่ก็ได้เรียนรู้นิสัยกันมากขึ้น ได้ปรับตัวเข้าหากัน ความรู้สึกที่มีให้กันก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันทว่าสุขมักคู่กับทุกข์ คนเราจะมีสุขเพียงอย่างเดียวหรือทุกข์เพียงอย่างเดียวไม่ได้มันต้องคละเคล้ากันไปเพื่อเป็นสีสันของชีวิต จันทร์เจ้าและชลธีก็เช่นกัน พวกเขาทะเลาะกันบ้างในบางครั้ง งอนบ้างในบางคราตามปกติของคู่รักทั่วไปทว่าวันนี้ดูจะต่างออกไป เพราะเหมือนว่าจันทร์เจ้าจะงอนชลธีหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ส่วนเรื่องอะไรนั้นเป็นเพราะว่า ชลธีแอบดูหนังโป๊! แถมยังเป็นหนังโป๊ญี่ปุ่นซะด้วย เรื่องนี้ทำเอาจันทร์เจ้าที่น้อยนักจะงอนชายหนุ่มสักครั้งถึงกับงอนไปเลยสองวันเต็ม และวันนี้ก็เป็นวันที่สามแล้วที่เธอไม่ยอมคุยกับเขาแต่จะพูดว่าเธองอนเขาก็ไม่ถูกนัก จันทร์เจ้าไม่ได้งอนเสียทีเดียว เธอแค่ไม่พอใจและหึงหวงเขามากกว่า หึงที่เขาดูผู้หญิงคนอื่น หึงที่เขาไปนั่งดูหนังรักผู้ใหญ่ที่ผู้หญิงสวย ๆ ลีลาเร่าร้อนนำแสดงเธอหึง หึงมากด้วย!“จันทร์ครับ ไม่คุยก
“สวยจังเลยนะคะ” จันทร์เจ้าพูดขึ้นมาท่ามกลางเสียงคลื่นทะเลกระทบฝั่งสุดสายตาของหญิงสาวกำลังมองดวงอาทิตย์ที่กำลังโผล่พ้นขอบน้ำ ตั้งแต่อยู่ที่เกาะรังนกนี้ หญิงสาวจะชอบดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกมาก ทว่าถึงจะชอบเธอก็ไม่ได้มีโอกาสดูบ่อยนักนั่นก็เพราะว่าหญิงสาวมักจะถูกชายหนุ่มรบกวนทุกที บางครั้งก็ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินจนมดค่ำ บางครั้งก็รบกวนเธอยามเช้า ทำให้หญิงสาวพลาดภาพสวย ๆ นี้ทุกนี้ดังนั้นทุกครั้งที่เธอเห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดินเธอจะชมว่าสวยอยู่เสมอ“ใช่สวย สวยมาก” คนพูดไม่ได้มองไปที่พระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นแต่อย่างใด สายตาของชายหนุ่มจับจ้องไปยังใบหน้าใสไร้เครื่องสำอางเนียนนุ่มนั่นต่างหากวันนี้เป็นวันสบาย ๆ ของเขาและเธอ งานในเกาะก็มีคนคอยดูแลอยู่แล้ว พวกเขามาที่เกาะรังนกแห่งนี้ก็เหมือนกับปลีกวิเวกมาพักผ่อนเสียมากกว่า อ้อ ถึงจะปลีกวิเวกแต่ก็ยังสามารถติดต่อได้เช่นเคยจันทร์เจ้าหันหน้ากลับมามองชลธีก่อนจะเห็นว่าเขามองเธออยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวยิ้มให้บาง ๆ ในใจของเธอกำลังรู้สึกมีความสุขอย่างมาก นอกจากแม่ที่จากไปและเพื่อน ๆ ในกลุ่มยังจะมีใครดีกับเธอเท่าเขาอีก“ขอบคุณนะคะ” เธอพูดออกมาโด
3 วันต่อมา“สรุปพี่ชลจะบอกจันทร์ได้หรือยังคะ ว่าเราจะไปไหนกัน” จันทร์เจ้าหันไปถามชลธีที่กำลังขับรถ ซึ่งเธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าเขาจะพาเธอไม่ไหนตั้งแต่เช้าตื่นขึ้นมาชลธีก็ให้เธออาบน้ำแต่งตัวจากนั้นก็ขับรถออกมาโดยที่ไม่บอกอะไรเธอเลย พอถามก็ไม่ตอบ“ถึงแล้วเดี๋ยวก็รู้ครับ” ชลธีตอบก่อนจะหันกลับไปขับรถต่อหนึ่งชั่วโมงต่อมาจันทร์เจ้าก็เห็นรั้วบ้านหลังใหญ่รั้วหนึ่ง ชลธีขับรถไปยังรั้วหน้าบ้านนั้นช้า ๆ รอไม่นานก็มีคนเปิดประตูรถให้แล้วเขาก็ขับเข้าไปภายในพร้อมทั้งขับไปจอดยังโรงจอดรถอย่างคุ้นเคย“สรุปที่นี่คือ?”“บ้านพี่เองครับ”“หา!!!”“ไม่หาครับ ไปครับลงพ่อแม่พี่รอแล้ว”“เดี๋ยวสิพี่ชล หมายความว่ายังไงที่บอกพ่อแม่พี่รอ นี่อย่าบอกนะว่า”“ใช่แล้วครับ พี่พาจันทร์เจ้ามาเปิดตัวกับที่บ้าน ไปครับ ลงรถ” ไม่พูดเปล่าชลธีเปิดประตูรถลงไปอย่างรวดเร็ว ส่วนจันทร์เจ้าที่ยังไม่หายตกจเธอยังนั่งนิ่งอยู่ เดือดร้อนชายหนุ่มต้องเปิดประตูปลดเข็มขัดนิรภัยและประคองเธอลงจากรถ“ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ” จันทร์เจ้าพูดพร้อมยึดประตูรถไว้แน่น“ไม่ได้ครับ อย่าให้พ่อแม่พี่รอนาน ไปเร็ว”“แต่ว่า”“ไม่มีแต่แล้วครับ จันทร์อย่าลืมสิว่าเราไม่ได