ขณะนั่งหิวพิมรดานึกถึงชะตาชีวิตตัวเองไปด้วย มาถึงเกาะวันแรกเธอเกือบตาย ถูกกดหัวให้จมอยู่ในน้ำ ให้เป็นแม่บ้านทำความสะอาด และงดให้อาหาร ทำราวกับว่าเธอไม่มีหัวใจ ไม่มีความรู้สึก คิดไปน้ำตาก็ไหลไป หิวจนแสบท้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
คนกำลังหิวมองประตูห้อง อึดใจต่อมามันถูกเปิดกว้าง บุรุษสองคนยืนอยู่หน้าห้อง พิมรดารู้จักแค่บัญชา ส่วนอีกคนรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับณคุณ
“เธอคงหิวแล้ว ฉันจะพาเธอไปกินข้าว” ยศวินบอกเชลยสาว น้ำเสียงเขาไม่มีความโกรธแค้นกลับนุ่มนวลเป็นมิตร “ฉันเตือนไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าทำให้เพชรโกรธมากกว่านี้ เพราะฉันกลัวว่ามันจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ มันยิ่งอยากฆ่าเธอทุกวินาทีด้วย”
“ฉันรู้ค่ะ ฉันเข้าใจความเกลียด ความแค้นของคุณเพชร”
“ไปกันได้แล้ว ระหว่างทางที่ไปโรงครัว ฉันจะบอกเรื่องที่เธอต้องทำ” พิมรดาลุกเดินตามยศวินกับบัญชาอย่างว่าง่าย ยศวินบอกงานในแต่ละวันที่พิมรดาต้องทำ แต่ละอย่างเป็นเรื่องที่หญิงสาวไม่เคยทำ ทว่าก็ต้องทำไม่เช่นนั้น เธอจะได้รับบทลงโทษจากเจ้าของเกาะที่เวลานี้ขึ้นฝั่งเพื่อจัดการเรื่องด่วน ยศวินจึงทำหน้าที่เป็นผู้คุมดูแลเชลยสาวชั่วคราว
ขึ้นชื่อว่าเป็นเชลยและเป็นคนที่เจ้าของเกาะเกลียดแสนเกลียด แค้นสุดประตูใจ คงได้กินข้าวพร้อมกับคนงานราวสามสิบคนที่ยืนต่อแถวรับอาหารจากแม่ครัว พิมรดานั่งอยู่บนแคร่ไม้ใต้ต้นมะพร้าวข้างโรงครัว เธอจะกินข้าวได้ต่อเมื่อคนงานกินข้าวอิ่มท้อง พูดง่ายๆ คือ เธอกินข้าวเป็นคนสุดท้าย
เดิมทีหลังจากคนงานกินอิ่มจะต้องล้างจานชามและช้อนที่ตัวเองใช้ ทว่าต่อจากนี้เป็นหน้าที่ของพิมรดา เธอต้องทำความสะอาดภาชนะที่ใช้แล้วไม่ว่าจะเป็นของคนงานหรือในครัว ซึ่งเจ้าของเกาะเลี้ยงอาหารคนงานสามมื้อ พิมรดาก็ต้องทำสามรอบ
เป็นช่วงเวลาแสนทรมาน กลิ่นแกงส้มโชยเข้ามาในจมูกคนหิว ท้องก็ยิ่งร้องหนักขึ้น นำลายสอขึ้นมาทันใดยามมองคนงานกินข้าว แต่ก็ต้องหลบสายตาคนงานหลายคนแทบไม่ทัน เพราะแววตาของแต่ละคนบ่งบอกถึงความไม่พอใจ บางคนมองเธอราวกับอยากฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ โดยเฉพาะสายตาชายร่างสูงโปร่งผิวคล้ำ เขามองเธอด้วยประกายตาน่ากลัว บ่งบอกถึงพลังความโกรธชังเต็มที่
“คนงานที่นี่รักเดือนมาก เดือนเป็นคนดี มีจิตใจเมตตา ช่วยเหลือคนงานที่เดือดร้อนบ่อยๆ ความเกลียดชังและไม่พอใจที่มีต่อเธอ ไม่ได้มีแค่เพชรคนเดียว คนอื่นก็ด้วย ถ้าเธอถูกพวกนั้นแกล้งบ้าง ต่อว่าบ้างหรือพูดจาไม่ดีใส่ เธอก็ต้องทำใจและยอมรับมันนะ แต่ฉันรับรองว่า จะไม่มีใครทำร้ายเธอ นอกจากเพชรคนเดียว” ยศวินบอกให้พิมรดารู้ คนอื่นที่เขาพูดถึง เธอไม่มีความกลัวสักเท่าไหร่ แต่คนหลังนี่สิ กลัวจับจิตจับใจ
“แล้วคุณล่ะคะ เกลียดโกรธฉันหรือเปล่า” พิมรดาถามตรงๆ
“แน่นอนอยู่แล้ว” ยศวินตอบกลับทันที “แต่ไม่ต้องห่วง ฉันก็เหมือนคนงานทุกคนที่นี่ ถึงไม่พอใจ ไม่ชอบหน้ามากแค่ไหนก็ไม่ทำร้ายเธอ จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือเพชร เธอเตรียมตัวรับมือล่ะกัน”
เป็นการเตือนที่บอกให้รู้ว่า งานนี้พิมรดาต้องเจอบทลงทัณฑ์เปี่ยมล้นไปด้วยความโหดร้าย ใจสาวสั่นหนักมาก กลัวจับจิตจับใจ ทว่าอีกใจก็ต้องยอมรับชะตากรรมตัวเอง เพื่อเธอจะได้พ้นจากความรู้สึกผิดฝังแน่นในอุราเสียที
ยี่สิบนาทีต่อมาคนงานทยอยเดินออกจากโรงครัว โดยวางภาชนะไว้บนโต๊ะ รอให้พิมรดาเก็บไปทำความสะอาด สองคนสุดท้ายที่เดินออกจากโรงครัวคือ ยศวินกับบัญชา ทั้งคู่เดินมาหาพิมรดาที่นั่งกลืนน้ำลายจากความหิว
“เธอเข้าไปกินข้าวได้แล้ว จานชามและหม้อต้องล้างให้สะอาดนะ ไม่ใช่ทิ้งคราบสกปรกไว้ ถ้าทำไม่สะอาด ฉันจะให้เธอล้างใหม่” ยศวินกำชับ พิมรดาพยักหน้ารับรู้
“คุณพิมทำอะไรเสร็จแล้วมานั่งรอผมตรงนี้นะครับ ผมจะพาไปทำงานอื่นต่อ”
บัญชาพูดสุภาพ เขาทำใจเกลียดพิมรดาไม่ลง แม้ว่าใจรักและภักดีกับรัตน์ชนกมากแค่ไหน เพราะรู้นิสัยใจคอพิมรดาดีว่าเป็นอย่างไร เป็นคนดีมากแค่ไหน
“จ้ะพี่ชา” พิมรดาเป็นเจ้านายแต่ก็เรียกบัญชาว่าพี่ เนื่องจากเขาอายุมากกว่า เธอก้าวเดินเข้าไปในโรงครัว ยืนอยู่หน้าโต๊ะตัวยาวที่มีหม้อแกงหม้อใหญ่สามหม้อตั้งอยู่ หม้อแรกใส่ข้าวสวยที่เหลือเพียงทัพพีเดียว หม้อที่สองมีน้ำแกงส้มนอนอยู่ก้นหมอ ส่วนหม้อที่สามมีไข่เจียวที่หั่นเป็นชิ้นอยู่สองชิ้น
“เหลืออยู่แค่นี้แหละ คุณหนูอย่างแกจะกินได้ไหม” ป้าหวายแม่ครัวบนเกาะบอกด้วยเสียงไม่เป็นมิตรนัก มองพิมรดาตาขวาง
“กินได้จ้ะ” ป้าหวายตักข้าวสวยที่เหลือใส่จาน ก่อนราดด้วยน้ำแกงส้มที่มีเพียงมะละกอหนึ่งชิ้น และไข่เจียวที่พูดได้ว่า เศษไข่เจียววางลงไปในจาน จากนั้นก็ส่งให้พิมรดา
“กินเสร็จแล้วเอาจานชามคนงานไปล้าง หม้อไหในครัวก็เอาไปล้างให้หมดด้วย ที่ล้างอยู่ตรงโน้น ล้างเสร็จก็เอามาเก็บในครัว ตอนบ่ายสามฉันต้องทำกับข้าว” ป้าหวายคนที่ใหญ่ที่สุดในห้องครัวสั่ง
“จ้ะป้า” เชลยสาวรับคำเสียงเบา เดินไปกินข้าวมื้อแรกของวันบนโต๊ะอาหาร แม้ว่าข้าวในจานจะน้อย กับข้าวก็มีเพียงน้ำแกงกับไข่เจียวชิ้นเล็ก ทว่ากลับเป็นอาหารที่ดีที่สุดของพิมรดา คนหิวใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีจัดการกับข้าวจนไม่เหลือสักเม็ด จากนั้นก็ไปทำความสะอาดภาชนะใช้แล้วทั้งหมดตามคำสั่งนายหัวผู้เคียดแค้น
Chapter544 ปี 6 เดือนต่อมา “คุงพ่อฮะ คุงพ่อ” เสียงดังมาก่อนตัว ตามด้วยเสียงเท้าวิ่งบนพื้นดังตึงๆ “คุงพ่อ คุงพ่อฮะ” เจ้าของชื่อสะลึมสะลือตื่น ผงกหัวมองคนกำลังวิ่งเข้ามาในห้อง เขาขยับตัวเล็กน้อยคล้ายตั้งรับ ไม่กี่วินาทีต่อมา ร่างตุ้ยนุ้ยนำหนักตัวกว่ายี่สิบกิโลกรัมกระโดดมาทับตัวณคุณที่เจ็บจนจุก แต่ก็อดทนและชิน เนื่องจากเกิดขึ้นเป็นประจำ “คุงพ่อฮะตื่นฮะ ปิกนิกกัน คุงแม่ทำของกินเพียบเลย” พอพูดถึงของกิน ณภัทรหรือภีม ลูกชายคนโตของณคุณกับพิมรดาวัยสองขวบครึ่ง ตาโตเท่าไข่ห่าน เลียริมฝีปากช้าๆ คนเป็นพ่อเห็นอดยิ้มกับความน่ารักไม่ได้ แต่มาฉุกใจตรงประโยคท้าย “คุณแม่ทำของกินเองหรือครับน้องภีม” ณคุณถาม “ฮะ คุงแม่ทำเอง” ได้ยินคำตอบ ณคุณยันตัวลุกขึ้นนั่ง ไม่คณาน้ำหนักตัวลูกชาย อุ้มเดินออกไปจากห้อง ไปยังชั้นล่างของบ้าน เมื่อเดินเข้าไปในครัวก็เห็นพิมรดายืนทำอาหารหน้าเตา โดยมีนงค์กับผิวยืนขนาบข้าง “พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ทำอะไร ทำไมถึงไม่เชื่อกันบ้าง พี่ไม่น่าเผลอหลับเลย” น้ำเสียงดุๆ ของนายหัวทำให้ลูกน้องหญิงสองคนถึงกับหดหัวจากความกลัว พิมรดาห
Chapter53 ณคุณตระเวนหาบ้านหลายวัน แต่ก็ยังไม่มีถูกใจทั้งหมด บางหมู่บ้านทำเลถูกใจ แต่ตัวบ้านไม่ถูกใจ อีกหมู่บ้านบ้านถูกใจ ทว่าทำเลกลับไม่ดี สิ่งแวดล้อมใช้ไม่ได้ ต้องขอบคุณยศวินที่บอกข่าวให้เขารู้เรื่องบ้านหลังนี้ ญาติของยศวินประสบปัญหาเรื่องธุรกิจต้องการนำเงินไปหมุน ยศวินช่วยไปแล้วครั้งหนึ่งเป็นจำนวนเงินสามสิบล้านแต่ก็ยังไม่พอ จึงตัดสินใจขายบ้านหลังนี้ นายหัวหนุ่มไปดูบ้านครั้งแรกเกิดถูกใจ สิ่งที่เขาต้องการมีครบ อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ ล้วนแล้วแต่แบรนด์เนมทั้งสิ้น แค่โคมไฟระย้าที่สั่งตรงมาจากฝรั่งเศสก็ปาเข้าไปสองล้านสามแสนบาท ยังไม่รวมอื่นๆ ณคุณจึงตอบตกลงซื้อในราคาสี่สิบล้านบาท ซึ่งถือว่าถูกมากหากเทียบกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงของตกแต่งบ้าน ณคุณจึงเพิ่มเงินให้อีกสิบล้านเป็นห้าสิบล้าน ถือว่าช่วยๆ กัน ณคุณใช้เวลากว่าหนึ่งเดือนครึ่งตกแต่งเพิ่มเติม เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนที่เขาตั้งใจอยู่กับพิมรดา เขารื้อออกทั้งหมด ซื้อของใหม่เข้าไปแทนที่ เบ็ดเสร็จค่าใช้จ่ายของเขาไม่ต่ำกว่าสี่ล้านบาท เงินที่เสียไปคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้มา ก่อนสั่งให้ช่างทำป้ายทำป้ายสวยๆ ติดเหนือที่
Chapter52 “เอางั้นเลยเหรอ” “ค่ะ ตามนี้ค่ะ” คำพูดพรแก้วเหมือนบทสรุป บรรพตไม่ได้โต้แย้ง ส่งยิ้มให้ภรรยา “นอนเถอะค่ะคุณพี่ พรุ่งนี้เรามีนัดไปทำบุญให้พี่ดานะคะ” ในวันครบรอบการเสียชีวิตของพิมพร มารดาพิมรดาในแต่ละปี บรรพตกับครอบครัวจะไปทำบุญเลี้ยงอาหารเพลที่วัด พร้อมกับตั้งโรงทาน โดยจ้างร้านอาหารเจ้าประจำเป็นคนจัดการให้ เดินทางไปแต่ตัวกับเงินทำบุญใส่ซองให้พระและสามเณรเท่านั้น คืนนี้เป็นคืนแรกในรอบสองปีกว่าที่บรรพตคิดว่า ตัวเองหลับสนิท คล้ายไม่มีความกังวลใดใดในจิตใจ นับต่อจากนี้ความหมองเศร้าของพิมรดาถูกกำจัดไปจนสิ้น แทนที่ด้วยความสุขที่เขาเชื่อมั่นว่า ได้เห็นทุกวันไปตลอดชั่วชีวิต วันที่รอคอยของณคุณมาถึงแล้ว วันนี้ครบสามเดือนตามข้อตกลงไว้กับบรรพต ณคุณมาบ้านบรรพตตามเวลานัดหมายคือ เก้านาฬิกา เมื่อก้าวลงจากรถและกำลังเดินเข้าบ้าน เขาแปลกใจที่เห็นกระเป๋าเดินทางสามใบวางอยู่หน้าประตู ราวกับว่ากำลังมีการเดินทาง “มาแล้วเหรอคะพี่เพชร เข้าไปในบ้านเร็วๆ ค่ะ เข้าไปเลย”คนพูดคือพิมรพี เธอจับข้อมือใหญ่ ก่อนจูงเดินเข้าไปในบ้าน ในห้องรับแขกมีบรรพ พรแ
Chapter51พรแก้วชิงพูด ณคุณยิ้มกว้างที่มีพรแก้วเป็นพวก จะว่าไปขาดสมาชิกในบ้านคนสำคัญอีกหนึ่งคนคือ พิมรพี เธอไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน “ไปชวนเพชรทำไม” บรรพตเสียงเข้มใส่ภรรยา “แล้วทำไมแก้วถึงชวนไม่ได้ล่ะคะ ทีเอ็มคุณพี่ยังชวนได้เลย อย่างที่แก้วบอกไปว่า มื้อนี้แก้วสั่งให้พี่หวินทำกับข้าวไว้หลายอย่าง กินสี่คนไม่หมดค่ะ แก้วถึงชวนเพชรกับวินกินข้าวด้วยกัน” พรแก้วตอบกลับเสียงเรียบ ทว่ามีรอยยิ้มบนใบหน้า “ขอบคุณครับคุณน้า” ณคุณยกมือไหว้พรแก้ว “สำคัญที่สุดคือ คุณพี่พูดเมื่อกี้ว่า หมดเวลาที่คุณพี่กำหนดให้เพชร นั่นหมายความว่า เวลาต่อจากนี้ไปเพชรไม่ได้อยู่ในการควบคุมของคุณพี่ แก้วถือว่าเพชรเป็นแขกของแก้วค่ะ ซึ่งแก้วชวนแขกกินข้าวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก จริงไหมคะคุณพี่” พรแก้วพูดต่อ “คุณพี่หิวไม่ใช่หรือคะ ไปกินข้าวกันดีกว่าค่ะ” บรรพตใหญ่ในบ้านที่สุดก็จริง ทว่าบางครั้งก็ไม่กล้าขัดใจภรรยา ออกจะกลัวๆ ไม่กล้าโต้เถียง ครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาลุกขึ้นยืน เดินไปยังห้องกินข้าวที่อยู่ห่างไม่ถึงสิบเมตร โดยมีอีกห้าชีวิตเดินตามไปพรแก้วเปรียบเสมือนกามเทพแสนสวยทำให้ณคุณไ
Chapter50“ขอบคุณมากที่รัก ผมรักคุณ” คราวนี้เขาเปลี่ยนสรรพเรียกแทนตัวเพราะขึ้น ยิ้มให้สามเจ้าอันเป็นที่รัก หอมแก้มนวลฟอดใหญ่ “หมดเวลาแล้ว” เสียงบรรพตดังมาก่อนตัว สองร่างผละออกจากกัน “กลับไปได้แล้ว อีกหนึ่งเดือนค่อยมาเจอหน้าพิม” “ครับคุณลุง” ณคุณจำใจกลับ ก่อนกลับไม่วายหอมแก้มพิมรดาต่อหน้าบรรพต ณคุณยกมือไหว้บรรพจากนั้นก็เดินคอตกออกไปจากห้อง โดยมียศวินเดินตามไป “พ่อตกลงกับเพชรแล้ว พิมต้องทำตามเงื่อนไขของพ่อ” บรรพตบอกลูกสาว “เพชรต้องได้รับบทลงโทษบ้าง ซึ่งพ่อคิดว่า บทลงโทษนี้เบามาก”“พิมเข้าใจคุณพ่อค่ะ” “งั้นพิมพักผ่อนนะ พ่อจะอยู่ที่นี่กับพิมจนกว่าพิมจะออกจากโรงพยาบาล แล้วเราจะกลับบ้านพร้อมกัน” พิมรดาไม่ขัดบรรพต เพราะไม่อยากให้เรื่องยุ่งยากมากกว่านี้ คงทรมานใจแค่เดือนแรกที่ไม่ได้เจอหน้ากัน อดทนหน่อย หนึ่งเดือนไม่นานเลย นับตั้งแต่นั้นเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มที่ณคุณไม่ได้เจอหน้าพิมรดา ต่างฝ่ายต่างทรมานใจ ทว่าก็ต้องอดทนทำตามข้อตกลงของบรรพต แม้ว่าบางครั้งพิมรพีสงสารทั้งพี่สาวและว่าที่พี่เขย ยื่นมือเข้าช่วย ด้วยการพาพิมรดาออกไปห้างสรรพสินค้า เพื่อให้พิมรดาได้เจอกับณคุณนอกรอบ เหมือนบรรพตรู
Chapter49“ผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นบนเกาะของคุณ” ณคุณไม่ได้ตกใจมากนัก เขาพอเดาออกว่า บรรพตรู้เรื่องนี้จากใคร ณคุณไม่กล่าวคำใด เขาคุกเข่าลงตรงหน้าบรรพต ก้มกราบเท้าอีกฝ่าย ยกตัวขึ้นหลังตั้งตรง“ผมขอโทษคุณลุงครับ ตอนนั้นผมอาจขาดสติ คิดและทำทั้งหมดเพราะความแค้น แต่ตอนนี้ความโกรธแค้นไม่มีหลงเหลือแล้ว ผมรักพิม เราตั้งใจเริ่มต้นกันใหม่ ผมพร้อมชดเชยความผิดทุกอย่างที่ผมทำกับพิม ด้วยความรัก ด้วยความเอาใจใส่ดูแลพิมไปตลอดชีวิตครับ” ณคุณพูดจากใจบรรพตหลุบตามองณคุณ ประทับใจกับคำขอโทษที่ไม่กลัวเสียหน้า ก้มกราบเขาด้วยความรู้สึกจากใจ อีกทั้งคำพูดณคุณหนักแน่น ราวกับอยากให้เขารู้ว่า พูดจริงทำจริง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจลบความโกรธในใจคนเป็นพ่อได้ “ผมรู้ว่าคุณผ่านความเจ็บปวดมามากและนานร่วมสองปี ผมเข้าใจความสูญเสียของคุณ รู้ถึงเหตุผลที่คุณทำกับลูกผมแบบนี้ แม้ว่าพิมยินยอมให้คุณลงโทษก็เถอะ ยิ่งข้อแม้ของคุณ ผมก็รับไม่ได้ คุณคิดหรือว่าการที่พิมตั้งท้องลูกคนใหม่ของคุณมันจะไม่เกิดปัญหา มันมีแน่ เพราะคุณไม่รู้จักนิสัยพิมดีพอ พิมรักเด็ก แล้วผมก็เชื่อว่าพิมต้องรักลูกตัวเองด้วย มันจะยิ่งเป็นปัญหาไม่จ