อุบัติเหตุคืนนั้น คือจุดเริ่มต้นระหว่างเขาและเธอ ความแค้นดั่งรากไม้ยึดเหนี่ยวใจ จะแปรเปลี่ยนเป็นรักได้หรือไม่ พรหมลิขิตเท่านั้นเป็นผู้กำหนด
ดูเพิ่มเติมเวลาตีหนึ่งครึ่งบนถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าไปประชาชื่นมีรถยนต์สัญจรไปมาไม่มากนัก รถแต่ละคันทำความเร็วค่อนข้างสูงไม่ต่ำกว่าหนึ่งกิโลเมตรต่อชั่วโมง รถยนต์ของพิมรดา ลูกสาวคนโตบรรพต คุณาสวัสดิ์ นักธุรกิจชื่อดังทางภาคเหนือ และเป็นเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางสุขุมวิท กำลังวิ่งอยู่บนถนนเส้นนี้ด้วยความเร็วหนึ่งร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง จุดหมายของเธอคือบ้านพักบิดาย่านนนทบุรี เธอกำลังขับรถไปขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน เสียเงินสิบห้าบาทตัดไปลงถนนงามวงค์วาน-แยกแคลาย
พิมรดาเปิดเพลงฟังในรถ ระหว่างขับรถเธอร้องเพลงไปด้วย ใบหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม วันนี้ถือเป็นวันดีหนึ่งของเธอ เป็นวันที่ณัฐกิตต์ คนรักคบหากันมานานกว่าสามปี หอบดอกกุหลาบช่อโตและทำเซอร์ไพร์สขอแต่งงาน ซึ่งเธอตอบรับทันที หลังจากการขอแต่งงานผ่านพ้นไป ณัฐกิตต์เลี้ยงฉลองความรักกับกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาและพิมรดาที่มาร่วมแสดงความยินดีเกือบห้าสิบคน กว่างานเลิกก็ล่วงเข้าไปเกือบตีหนึ่งสิบห้า
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขณะพิมรดาขึ้นสะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว พิมรดาหยิบเครื่องมือสื่อสารที่วางไว้ตรงช่องเล็กหลังเกียร์ เธอปรายตามองดูชื่อคนที่โทรเข้ามา ก่อนยิ้มและตั้งใจกดรับสายทว่าคงจับมือถือไม่แน่นพอ มันตกลงไปกระทบกับขาสาวก่อนกระเด้งลงไปบนพื้นรถ เธอทำในสิ่งที่ไม่ควรทำคือก้มลงเก็บมัน
ความที่คิดว่าไม่มีรถสัญจรมากนัก ก้มลงเก็บเดี๋ยวเดียวคงไม่มีปัญหาอะไร จังหวะที่พิมรดาก้มหยิบมือถือ รถกำลังแล่นลงจากสะพาน หลังจากเก็บมันได้แล้ว เธอยืดตัวหลังตั้งตรง ตามองถนน
“กรี๊ด...” เสียงกรีดร้องดังลั่นรถ
เมื่อมีรถยนต์วิ่งตัดหน้า พิมรดาหักรถหลบทันควัน หมายเหยียบเบรกรถ ทว่า...
เบรกไม่ได้...เนื่องจากรองเท้าส้นสูงเข้าไปอยู่ใต้เบรก
เธอไม่สามารถหยุดรถได้ รถขับมุ่งหน้าด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม เนื่องจากความตกใจ เธอกลับเหยียบคันเร่ง
กรี๊ด...เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียง
โครม...
รถสองคันปะทะกันอย่างจัง
รถคันหนึ่งไม่ได้ตั้งใจ
อีกคันไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน
รถคันถูกชนเป็นรถตู้ใหม่ป้ายแดง ถูกชนท้ายจนรถเสียหลักพลิกคว่ำ ส่วนรถของพิมรดาหลังจากชนท้ายรถตู้ รถเธอเสียหลักไปชนกับขอบทางและนิ่งสนิทอยู่อย่างนั้น
ไม่นานนักหน่วยกู้ภัยมายังที่เกิดเหตุ พวกเขาต่างช่วยกันนำร่างผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล คนนั้นคือพิมรดากับนายสมชายคนขับรถตู้ และรัตน์ชนกที่หายใจรวยริน ส่วนอีกหนึ่งคนที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แม้ชนกนันท์เด็กน้อยวัยหนึ่งปีกว่าจะอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นแม่ ทว่าก็ไม่สามารถปกป้องลูกสาวอันเป็นที่รักยิ่งดวงใจได้
เป็นเรื่องเศร้า หลังจากทั้งสามถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในเวลาต่อมา รัตน์ชนกเสียชีวิตในเวลาต่อมา นำพาความเศร้าต่อครอบครัวผู้จากไปเป็นอย่างมาก ราวกับไฟเผาใจก็ว่าได้
ความตายของสองแม่ลูก คือชนวนแห่งความโกรธา ความแค้นระดับร้อยระดับพันในใจผู้เป็นสามี ที่สาบานว่า จะเอาคืนคนทำผิดมาลงโทษให้ได้...ลงโทษในแบบของเขา
2 ปีต่อมา
นานร่วมสองปีแล้ว ทว่าพิมรดาไม่เคยลืมเหตุการณ์คืนนั้น คืนที่ตนคิดว่ามีความสุขที่สุด แต่กลับเป็นวันเลวร้ายที่สุดในชีวิต เพราะเธอคร่าชีวิตคนสองคนด้วยความไม่ตั้งใจ ด้วยความประหม่า เสมือนฝันร้ายตามหลอกหลอน ความรู้สึกผิดแน่นในจิตใจ ไม่คลายลงเลยสักนิดเดียว
สิ่งหนึ่งที่พิมรดาทำมาตลอดนับจากคืนนั้นคือ ทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้สองแม่ลูก เธอใส่บาตรตอนเช้าทุกวัน วันพระใหญ่ก็ไปวัดถวายสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลา งานบุญไม่ว่าจะผ้าป่าสามัคคี งานกฐิน หากได้ซองเธอทำหมด และบางงานเป็นประธานอีกด้วย บุญกุศลทั้งหมดเธอยกให้รัตน์ชนกกับชนกนันท์ ถึงแม้รู้ว่ บุญไม่อาจล้างบาปที่ตนทำได้ ทว่าเธอตั้งใจทำเช่นนี้เรื่อยไปจนกว่าหมดลมหายใจ
วันนี้เป็นวันครบรอบสองปี พิมรดามาทำบุญที่วัด เธอเลี้ยงเพลพระภิกษุและสามเณรทั้งวัด และมีการเลี้ยงโรงทานที่มีคนมากินอาหารที่ตระเตรียมไว้ห้าอย่าง ผลไม้รวมทั้งขนมหวานกันมากกว่าสองร้อยคน ไม่เพียงแค่นี้ พิมรดายังแจกเงินให้คนที่มากินโรงทานอีกคนละห้าสิบบาทด้วย
สีหน้าเจ้าของงานบุญ ไม่ได้บอกถึงความสุขกับงานบุญสักนิดเดียว ใบหน้าพิมรดาเศร้าหมอง บางครั้งร้องไห้ มือปาดน้ำตาเหมือนเด็กๆ เพื่อนที่มาด้วยกันต้องยื่นผ้าเช็ดหน้าให้พิมรดาเช็ดน้ำตา หลังจากทำบุญเลี้ยงพระเสร็จ พิมรดาชวนเพื่อนไปให้อาหารปลาหลังวัด
“ฉันว่าแกไปบวชชีลบล้างความผิดให้รู้แล้วรู้รอดเลยดีไหม แกทำบุญทีไรแทนที่หน้าตาจะสดชื่น กลับเหมือนคนแบกทุกข์ของคนทั้งโลกไว้กับตัวเอง เห็นแล้วเซ็ง” ยุพาพรรณเพื่อนสนิทพิมรดาอดพูดไม่ได้ ก่อนโยนขนมปังให้ปลาสวายหลายร้อยตัวที่แย่งกันกินอาหาร
“ฉันรู้ว่าแกรู้สึกผิดที่ทำให้สองแม่ลูกตาย แต่แกก็ไม่ตั้งใจให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น สองปีที่แกทุกข์ทรมานใจ ทำบุญไม่เว้นวันเพื่อชดใช้ความผิดของตัวเอง ฉันก็ว่ามันมากแล้วนะ แกน่าจะให้อิสระกับตัวเอง ปล่อยเรื่องนั้นออกจากใจได้แล้ว” วิรัญญาเห็นเพื่อนเศร้าพลอยเศร้าตามไปด้วย
Chapter9ในทางกลับกัน ถ้าไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดคิด พิมรดาอาจไม่รู้สึกอะไร คิดว่าเป็นการชดเชยความผิดที่ตัวเองกระทำ ณคุณถือว่า การลงทัณฑ์นับตั้งแต่วันนี้ คือบทเรียนที่เธอจำไปจนวันตาย เธอต้องเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจ จนกว่าลูกของเขาถือกำเนิดในตัวเธอ ก่อนณคุณเดินไปห้องพิมรดา เขาเดินไปหยุดยืนหน้าตู้โชว์ หยิบบางอย่างในลิ้นชักออกมา มันคือหลอดเจลหล่อลื่นสำหรับกิจกรรมทางเพศห้องที่พิมรดาใช้หลับนอน ประตูห้องณคุณเปิดประตูห้องอย่างไม่เกรงใจคนในห้องด้วยการใช้เท้าถีบ ซึ่งเขาออกแรงไปเพียงสองครั้ง เหตุผลที่มันเปิดง่ายเป็นเพราะ ที่จับประตูเป็นแบบมือจับขาบัว และล็อคด้วยกลอนประตูธรรมดา เมื่อณคุณรู้ว่า ประตูล็อคจากทางด้านใน ความไม่พอใจพุ่งพรวด เขาไม่คิดเคาะประตูเรียกคนในห้อง แต่กลับใช้เท้ากระแทกประตูสองครั้ง ประตูก็เปิดกว้าง นายหัวสุดโหดเดินเข้าไปในห้อง มองร่างพิมรดาที่หลับสนิทบนฟูก ประกายตาลุกวาวโชติช่วงจากเพลิงแค้นผ้าขาวม้าถูกปลดออกจากกาย มือซ้ายโยนเจลหล่อลื่นลงไปบนฟูก มือขวากุมความเป็นบุรุษเพศ รูดขึ้นลงคล้ายปลุกให้ตื่น น่าแปลกที่ว่า มันตื่นตัวเร็วกว่าปกติมาก ราวกับว่าเตรียมพร้อมสำหรับเกมสวาท เข
Chapter823.30 น. เกาะนพเก้า จ.ตรัง อากาศทางภาคใต้แปรปรวนมาก ในหนึ่งวันอาจมีสองถึงสามฤดู ตลอดทั้งวันอากาศดี แดดเปรี้ยง หากนักท่องเที่ยวต้องการดำน้ำ ถือว่าอากาศเป็นใจมาก แสงแดดจัดผ่านผืนน้ำทะเลทำให้ภาพใต้น้ำเพิ่มความสวยงามมากขึ้น แต่พอตกเย็นฟ้าครึ้ม ตกค่ำฝนตกและลมแรง ฝนตกตั้งแต่หนึ่งทุ่มกว่าจะหยุดก็ราวสามทุ่มกว่า เหมือนมันจะไม่หยุดสนิท มีฟ้าคะนองเป็นช่วงๆ ลมกรรโชกแรงเป็นสัญญาณว่า จะมีฝนตกหนักอีกรอบ แล้วอาจหนักกว่าครั้งแรกด้วยซ้ำไป คนงานบนเกาะต่างพากันเข้านอนในบ้านพักกันหมดเช่นเดียวกับเชลยสาวที่นอนหลับสนิทบนฟูกจากความอ่อนเพลีย โดยมีผ้าห่มกลางเก่ากลางใหม่ทว่าถูกซักอย่างสะอาดคลุมกายไว้ สาเหตุของความอ่อนเพลียเป็นเพราะ ครึ่งวันหลังเที่ยงพิมรดาทำงานตามคำสั่งณคุณ ที่แม้ว่าไม่มาคุมเธอด้วยตัวเองแต่ก็มีตัวแทนคือบัญชา คุมเธอไม่คลาดสายตาเริ่มจากทำความสะอาดภาชนะใช้แล้วในครัว งานที่สองคือไปขุดดินเพื่อเพาะปลูกพืชผักสวนครัวไว้บริโภคภายในไร่ ตอนแรกก็สงสัยว่าบนเกาะแห่งนี้ปลูกผักได้หรือ เธอเคยดูสารคดีเกี่ยวกับเกาะรังนกซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่หินที่เป็นถ้ำไว้สำหรับให้นกนางแอ่นทำรัง พิมรด
Chapter7 ขณะนั่งหิวพิมรดานึกถึงชะตาชีวิตตัวเองไปด้วย มาถึงเกาะวันแรกเธอเกือบตาย ถูกกดหัวให้จมอยู่ในน้ำ ให้เป็นแม่บ้านทำความสะอาด และงดให้อาหาร ทำราวกับว่าเธอไม่มีหัวใจ ไม่มีความรู้สึก คิดไปน้ำตาก็ไหลไป หิวจนแสบท้อง ก๊อก ก๊อก ก๊อก...คนกำลังหิวมองประตูห้อง อึดใจต่อมามันถูกเปิดกว้าง บุรุษสองคนยืนอยู่หน้าห้อง พิมรดารู้จักแค่บัญชา ส่วนอีกคนรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับณคุณ “เธอคงหิวแล้ว ฉันจะพาเธอไปกินข้าว” ยศวินบอกเชลยสาว น้ำเสียงเขาไม่มีความโกรธแค้นกลับนุ่มนวลเป็นมิตร “ฉันเตือนไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าทำให้เพชรโกรธมากกว่านี้ เพราะฉันกลัวว่ามันจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ มันยิ่งอยากฆ่าเธอทุกวินาทีด้วย” “ฉันรู้ค่ะ ฉันเข้าใจความเกลียด ความแค้นของคุณเพชร” “ไปกันได้แล้ว ระหว่างทางที่ไปโรงครัว ฉันจะบอกเรื่องที่เธอต้องทำ” พิมรดาลุกเดินตามยศวินกับบัญชาอย่างว่าง่าย ยศวินบอกงานในแต่ละวันที่พิมรดาต้องทำ แต่ละอย่างเป็นเรื่องที่หญิงสาวไม่เคยทำ ทว่าก็ต้องทำไม่เช่นนั้น เธอจะได้รับบทลงโทษจากเจ้าของเกาะที่เวลานี้ขึ้นฝั่งเพื่อจัดการเรื่องด่วน ยศวินจึงทำหน้าที่เป็นผู้
Chapter6เหตุผลที่ณคุณไม่อุทรณ์คำสั่งศาล ให้ทุกคนเข้าใจว่า ทุกอย่างจบลงแล้ว ต่างคนต่างใช้ชีวิต แต่ไม่เลย ณคุณบ่มเพาะไฟแค้น คอยจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด รอเวลาเอาคืนอย่างสาสม“คุณพิมอย่าดื้อ อย่าขัดขืนคำสั่งนายหัวนะครับ นายหัวใจดีกับบางคนเท่านั้น สำหรับคนที่นายหัวเกลียด นายหัวฆ่าได้ทุกเมื่อ และจะเดือดร้อนถึงครอบครัวคุณพิมด้วย” บัญชาพูดเชิงเตือน รูดซิปกระเป๋าด้านข้าง หยิบสิ่งหนึ่งออกมา ก่อนยื่นให้เชลยสาวนายหัว “โทรไปหาคุณพ่อครับ แล้วบอกว่าคุณพิมอยากพักใจ เลยมาเที่ยวทะเลแถวภาคใต้แบบไม่มีกำหนดกลับ สบายใจเมื่อไหร่จะกลับเอง ผมเชื่อว่าคุณท่านคงไม่ถามอะไรมากมาย” พิมรดามองมือถือของตนในมือบัญชา ยื่นมือไปรับมันไว้ “นายหัวรอบคอบดีนะ ทำแบบนี้ก็ไม่มีใครสงสัย” “ทุกอย่างเตรียมการไว้ดีครับ ผมก็เช่นกัน” ในส่วนของบัญชา เขาต้องกลับไปทำงานเป็นคนขับรถตามเดิม เพื่อดูความเคลื่อนไหวของบรรพตกับครอบครัว หากถูกซักไซ้ถาม เขาก็มีคำตอบ เป็นคำตอบที่จะไม่มีคำถามตอบกลับมา‘ผมขับรถไปส่งคุณพิมที่สนามบินครับ คุณพิมให้ส่งแค่นั้น แล้วให้ผมกลับบ้านเลยครับ’ เพียงแค่นี้บรรพตก็จะไม่สงสัยกับ
Chapter5“โอ๊ย!” เธอร้องเจ็บ นำมือไปคลำสะโพก เงยหน้ามองณคุณ ชายหน้ายักษ์ที่แยกเขี้ยวใส่ “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” “พามาลงโทษไงล่ะ กฎหมายทำอะไรเธอไม่ได้ ฉันก็เลยจับเธอมาลงโทษในแบบของฉัน” พิมรดากลัวใบหน้าขึงขังเขาไม่พอ เธอยังกลัวคำพูดเขาอีกด้วย “ทั้งที่ฉันอยากฆ่าเธอให้ตายตามเดือนและลูกแก้ว ให้ครอบครัวเธอได้รับรู้ถึงความสูญเสีย แต่ฉันมาคิดๆ ดู ความตายมันไม่ทำให้เธอเจ็บปวด เท่ากับบทเรียนที่ฉันจะมอบให้เธอ” หนาวสั่นทั้งตัว หัวใจสั่นหนักมากขึ้นไปอีก แววตา น้ำเสียงและใบหน้าเข้มขึงของณคุณน่ากลัวมาก ราวกับซาตานหลุดออกมาจากนรก ทว่าเธอกลับเห็นความเจ็บปวดในแววตาคู่นี้ “แล้วคุณจะลงโทษฉันยังไง คุณถึงพอใจ คุณถึงอภัยให้ฉัน”พิมรดาเข้าใจความรู้สึกคนสูญเสีย การจากไปของภรรยาและลูกสร้างความเจ็บปวดให้ณคุณมาก เสมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจ เป็นเรื่องไม่คาดฝันไม่ทันตั้งตัว ความโกรธแค้นในตัวคนกระทำย่อมเกิดขึ้น พิมรดารับรู้ถึงพลังนั้น ขนาดเธอยังไม่ให้อภัยตัวเอง แล้วเขาล่ะ จะให้อภัยเธอได้อย่างไร “เธอพูดแบบนี้ ทำให้ฉันคิดว่า เธอยอมทำตามทุกอย่างที่ฉันบอกใช่ไหม” “ไม่ใช่แค่คุณ
Chapter4สองวันต่อมาเสียงเครื่องยนต์เรือและจังหวะการกระแทกของเรือกับผืนน้ำ ส่งผลให้หญิงสาวที่นอนสลบอยู่บนเรือรู้สึกตัว เธอลืมตาขึ้นมาเชื่องช้า มึนหัวเบาๆ ร่างสาวยันตัวลุกขึ้นนั่งมองไปรอบๆ อย่างมึนงง แต่ยังไม่ทันที่เธอได้ทวนความจำดี หรือคิดอ่านสิ่งใด พิมรดารู้สึกราวกับว่าร่างตัวเองลอย ก่อนกระทบกับผืนน้ำในขณะที่เรือกำลังจอดตูม...แคกๆพิมรดาทะลึ่งตัวขึ้นมาเหนือน้ำ เธอสำลักหลายครั้ง ยังไม่ทันได้ลืมตา ศีรษะเธอเหมือนมีบางอย่างกดลงไปใต้น้ำ เธอดิ้นรนพยายามดันร่างให้พ้นน้ำเพื่อหายใจ เพราะเธอเป็นมนุษย์หายใจในน้ำไม่ได้ พิมรดาดึงตัวเองหลายครั้งหลายหน แต่ก็มีบางอย่างกดไว้เช่นเดิม หญิงสาวสำลักน้ำไปแล้วหลายอึก คิดในใจว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไปมีหวังได้วายชีวาตรงนี้แน่ มือเล็กจับสิ่งที่กดอยู่หัว เพิ่งรู้ว่าคือมือใครบางคนที่หมายเอาชีวิต เรี่ยวแรงน้อยนิดออกแรงปัด แต่ไม่เลย มือยังยึดมั่นตามเดิม กดหัวไว้ไม่ปล่อย“ไอ้เพชรพอ ไอ้เพชร เดี๋ยวเธอก็ตายหรอก” ยศวินหรือวินที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องห้าม ไม่ห้ามแค่ปาก ยังจับมือคนกำลังโกรธให้พ้นศีรษะเชลยสาว“เออ กูอยากให้เธอตาย ตายตามเมียกับลูกกู”“ถ้าเธอตาย มึงก็ไม
ความคิดเห็น