ด้านฟรานติโน่ก็เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยที่ภรรยาของของเพื่อนสนิทเขาสอนอยู่ก็ถอนหายใจดังเฮือก ก่อนจะก้าวลงรถไปเมื่อลูกน้องมาเปิดประตูรถให้ ก่อนจะเดินตามเข้าไปในตึกพร้อมกับเมทีที่ตามมาด้วย
“สาวๆมองใหญ่เลยนะครับ ไม่สนสักคนเหรอครับคุณฟรานเดี๋ยวผมจะไปติดต่อให้” เมทีเอ่ยถามออกไป เพราะตั้งแต่เขาเดินเข้ามาสาวๆนักศึกษาพากันมองเจ้านายของเขาแล้วกร๊ดกร๊าดกันอย่างดี้ด้า แถมบางคนยังยิ้มอ่อยมาอย่างเปิดเผยเลยด้วยซ้ำ
“หุบปากแล้วรีบเดินเมที ฉันเบื่อสายตาพวกนี้เต็มที” ฟรานติโน่เอ่ยพูดบอกไป เพราะใครๆก็อยากเข้าหาเขากันทั้งนั้น ถ้าไม่เพราะเขาหล่อก็เพราะอยากจะได้เงินจากเขา จนเขาคิดว่าชาตินี้เขาคงหาผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกเขาไม่ได้แล้ว ขนาดปาลมีที่เป็นคู่หมั้นของเขา เขายังไม่เคยสนใจเธอเลยด้วยซ้ำและไม่เคยคิดว่าผู้หญิงแบบนั้น จะมาเป็นแม่ของลูกเขาเลยสักนิด
“อ่าวคุณฟราน มาแล้วเหรอคะ เดี๋ยวไปนั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนนะคะ ยังไม่ถึงเวลาเลยค่ะ” พระพายเดินมารับฟรานติโน ก่อนจะเอ่ยเชิญเขาให้ตามเธอไปที่ห้องรับรองของคณะ
“แล้วพายจะให้ผมแนะนำอะไรกับเด็กๆ” ฟรานติโน่เอ่ยถามออกไปอย่างสนิทสนม เพราะพระพายเป็นภรรยาของเพื่อนสนิทของเขา เขาจึงรู้จักพระพายมานานหลายปีแล้ว
“ก็แนะนำเกี่ยวกับแนวคิด แล้วก็เรื่องการออกแบบตึกอะไรพวกนี้อ่ะค่ะ เพราะเด็กส่วนใหญ่เรียนออกแบบทั้งนั้นค่ะ จะมีแค่ไม่กี่สิบคนที่เรียนการออกแบบแฟชั่น แต่รับรองว่าไม่เป็นปัญหหาแน่นอนค่ะ เพราะเด็กของพายคงเข้าใจในสิ่งที่คุณจะสอนพวกเขาแน่นอนค่ะ” พระพายเอ่ยพูดไปก็ยิ้มให้ฟรานติโน่ ขณะพาเขาเดินไปที่ห้องรับแขก
พอเดินไปตรงมุมตึกพิชชาภาที่กำลังออกมาจากห้องน้ำก็รีบเดินไปที่ห้องอบรมเนื่อจากใกล้ถึงเวลาแล้ว จนถึงมุมตึกเธอก็เดินเลี้ยวไปแต่ก็ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่จนล้มไปด้วยกัน
“ตุ๊บ” ฟรานติโน่ที่เดินตามพระพายไปก็มีคนเข้ามาชนเข้าอย่างจังจนล้มไป แต่เขาก็โอบกอดไว้ตามสัญชาตญาณเมื่อรู้ว่าคนที่ชนเขาเป็นผู้หญิง ก่อนจะมองว่าใครกันที่มาชนเขา ฟรานติโน่มองหน้าเด็กสาวที่เดินมาชนเขาด้วยสายตาอึ้งๆ เพราะผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างสวยเลยทีเดียว เธอมีหน้ารูปไข่ ตาโต ปากก็จิ้มลิ้มน่าจูบเป็นบ้า
ด้านพิชชาพาที่หลับตาปี๋เพราะกลัวจะล้มลงไปจะเจ็บ แต่พอรุ้ว่าเธอล้มบนตัวใครสักนก็ลืมตาขึ้นมองอย่างอึ้งๆ เพราะผู้ชายที่เธอล้มใส่เป็นฝรั่งที่หน้าหล่อมาก ตาสีฟ้าน้ำทะเล โอ้แม่เจ้า พ่อของลูกชัดๆ พิชชาภามองสบตากับหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่อาจละสายตาได้ ยิ่งเขามองเธอแบบนี้มันก็ยิ่งละสายตาไปจากเขาไม่ได้
“พิชชาภา เธอนี่ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะ ลุกไหวไหมนั่น” พระพายที่เห็นลูกศิษย์ของตัวเองล้มใส่ฟรานติโน่ก็ต่อว่าออกไปเบาๆ พร้อมกับนั่งยองๆไปช่วยเด็กสาวให้ลุกขึ้น
“อ่อ ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ” พิชชาภาได้สติก็รีบลุกขึ้น เธอจึงเอามือยันหน้าอกของชายตรงหน้าให้ตัวเองลุกขึ้น ก่อนจะมองสบตากับเขาอย่างอายๆ เพราะตอนนี้ก้นของเธอมันเบียดกับเจ้านั่นของเขาแบบจังๆ จนเธอรับรู้ได้ว่าเจ้านั่นของเขามันใหญ่เอาการเลยทีเดียว พิชชาภาบดก้นใส่ท่อนเอ็นของเขาอย่างไม่ตั้งใจเพราะเธอใส่ทรงเอสั้นมากเธอจึงต้องถอยตัวไปเพื่อให้ท้าวของเธอถึงพื้นก่อนลุกออกจากตัวของชายตรงหน้าได้เมื่อมีอาจารย์ของเธอช่วยพยุงเธอขึ้นมา
“เป็นอะไรไหมครับคุณฟราน” เมทีเข้าไปช่วยเจ้านายของตัวเองให้ลุกขึ้น ก่อนจะดูความเรียบร้อยให้เจ้านายอย่างเป็นห่วง
“ฉันไม่เป็นไร” ฟรานติโน่พูดกับเมที แต่สายตาของเขาก็มองเด็กสาวคนนี้ไม่คาดสายตา เพราะเด็กคนนี้เล่นบดก้นใส่น้องชายของเขาจนมันเริ่มจะตอบสนองขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจมาอ่อยเขาหรือว่ามันเป็นอุบัติเหตุกันแน่ ฟรานติโน่คิดไปก็มองเด็กสาวอย่างสำรวจ ก็เห็นเสื้อที่เธอใส่รัดตัวจนเห็นสัดส่วนและขนาดหน้าอกหน้าใจที่ดูจะใหญ่พอดีตัว และกระโปรงที่สั้นจนเห็นเนินขาอ่อนขาวๆ ฟรานติโน่มองสำรวจจนพิชชาภาที่มองเขาอยู่ถึงกลับตัวเกร็ง เพราะไม่เคยมีใครมองเธอแบบนี้จังๆมาก่อน ไม่รู้จะมองหรือจะกินเธอกันแน่ น่ากลัวจริงๆผู้ชายคนนี้
“ขอโทษค่ะอาจารย์ ขอโทษคุณด้วยนะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจ” พิชชาภายกมือไหว้ออกไป เพราะเธอเองที่รีบเดินจนทำให้มาชนกับแขกของอาจารย์ที่สอนเธอเข้า น่าขายหน้าชะมัดเลยที่เธอดันมาซุ่มซ่ามแบบนี้ พิชชาภาคิดไปก็ก้มหน้าหลบสายตาของฝรั่งตรงหน้าที่มองเธออยู่
“แล้วนี่ใส่สั้นแบบนี้มาได้ยังไง ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าจะเข้าอบรมต้องแต่งตัวให้ถูกระเบียบ เธอนี่แหกกฎได้ตลอดเลยนะพิชชาภา สงสัยฉันต้องหักคะแนนเธอบ้างจะได้หลาบจำ” พระพายเอ่ยบ่นลูกศิษย์ของเธออกไป เพราะเธอเคยสอนพิชชาภาหลายครอสแล้ว และเธอก็จำพิชชาภาได้แม่นเมื่อเด็กคนนี้เรียนค่อนข้างเก่งในรายวิชาที่เธอสอน
“โฮ่ อาจาร์ยพายอย่าหักคะแนนพิชเลยนะคะ ครั้งหน้าพิชจะใส่กระโปรงให้ยาวกว่านี้แน่นอนค่ะ” พิชชาภาพูดตอบอาจารย์สาวออกไปก็ทำหน้าเว้าวอนอย่างน่ารัก
“ทำให้ได้อย่างที่พูดด้วยล่ะ ไปได้แล้วไป เดี๋ยวจะเริ่มอบรมแล้ว” พระพายเอ่ยบอกไปก็มองเด็กสาวอย่างระอา ก่อนจะหันไปมองฟรานติโน่ที่ยืนมองลูกศิษย์ของเธออยู่
“ค่ะอาจารย์ ขอทางหน่อยค่ะคุณ” พิชชาภาบอกไปก็มองหน้าของชายตรงหน้า เพราะเขาและผู้ชายอีกคนยืนบังอยู่ เธอจึงเดินออกไปจากตรงนี้ไม่ได้ ฟรานติโน่ไม่ตอบแต่ก็เอียงตัวหลบไปด้านข้าง เพื่อให้ร่างบางออกไปได้ จากนั้นเธอก็เดินออกไปและเขาก็มองตามอย่างสนใจ
“ลูกศิษย์พายยังเรียนไม่จบเลยนะคะฟราน อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะคะ” พระพายเอ่ยเตือนเพื่อนหนุ่มออกไปอย่างรู้ทัน เพราะสายตาของฟรานติโน่มันปิดไม่มิดว่าเขาสนใจในตัวของพิชชาภา
“ผมก็แค่มอง เด็กๆแบบนี้ผมไม่ใช่สเปคผมหรอกน่า ไปกันเถอะใกล้ถึงเวลาแล้วไม่ใช่เหรอ” ฟรานติโน่ตอบไปก็มองหน้าของเพื่อนสาวแล้วยิ้มมุมปาก
“ค่ะ งั้นก็ตามพายมาเลยค่ะ” พระพายยิ้มตอบก็เดินออกไปแล้วปล่อยให้ฟรานติโน่เดินตามเธอมา
ด้านแฟรงก์และพลอยลดาก็นั่งแอบอยู่ที่ห้องของแฟรงก์ เพราะว่าห้องนอนของแฟรงก์มันมีระเบียงมองไปที่สระว่ายน้ำแบบชัดเจน และพวกเขาก็เชื่อมสายไฟต่างๆให้มาอยู่ในห้องของแฟรงก์ เพื่อสะดวกต่อการเซอร์ไพร์สครั้งนี้ ส่วนคนที่แฟรงก์ให้มันจัดการ เขาก็ให้กลับตั้งแต่ครึ่งช่วโมงก่อนหน้านี้ไปหมดแล้วด้านฟรานติโน่ก็พาพิชชาภาเดินออกมาแล้วคอยพยุงเธอมาจนถึงสระว่ายน้ำที่ถูกตกแต่งไปด้วยลูกโป่งพร้อมมีแสงสีหลากสีสวยงามอยู่รอบๆ ก่อนจะส่งสัญญาณบอกกับน้องชายที่อยู่กับพลอยลดาให้ทำตามแผน ด้วยการปิดไฟที่สระว่ายน้ำทั้งหมดเพื่อเขาจะเปิดตาของพิชชาภา“พี่ฟรานจะทำอะไรคะ เมื่อไหร่จะถึงสักที” พิชชาภาที่ถูกปิดตาเอ่ยถามออกไปอย่างตื่นเต้นว่าฟรานติโน่กำลังจะทำอะไรเธอถึงพาเธอปิดตาแล้วเดินมานานขนาดนี้“เดี๋ยวก่อนนะคนดี ยืนตรงนี้แปปนึงนะครับ” ฟรานติโน่พูดเสียงเพราะก็ยิ้มมุมปากก่อนจะมองไปรอบๆที่ไฟทั้งหมดถูกปิดแล้วจนมันมืด เขาก็เอามือเอื้อมไปปลดผ้าปิดตาของพิชชาภาออกมา“ลืมตาได้แล้วคนดี” ฟรานติโน่บอกไป พิชชาภาก็ค่อยลืมตามาก็เห็นฟรานติโน่ยืนยิ้มใส่เธออยู่“มีอะไรกันคะ ทำไมต้องปิดตาพิชด้วย” พิชชาภาเอ่ยถามอย่างสงสัย ก่อนจะเห็นว่ามันมืดมาก
พอเช้าของอีกวันฟรานติโน่และแฟรงก์ก็พาพิชชาภาเดินทางไปส่งพลอยลดาที่บ้านของอลิซ่าผู้ดูแลพลอยลดาที่นี่โดยรถสปอตคันหรู เพื่อเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับการย้ายที่อยู่ของพลอยลดาให้มาอยู่ในความดูแลของฟรานติโน่ แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น กว่าฟรานติโน่และแฟรงก์จะเคลียร์ปัญหากับอดัมและอลิซ่าเสร็จก็นานเป็นชั่วโมง จากนั้นก็ช่วยกันขนของใช้ส่วนตัวของพลอยลดาออกมาบางส่วน แล้วก็กลับมาที่บ้านของฟรานติโน่“ช่วงที่พี่ยังอยู่ที่นี่พลอยก็พักห้องนั้นไปก่อนนะ เดี๋ยวถ้าพี่กับพิชกลับไทยไป พลอยก็ค่อยย้ายมาอยู่ห้องนี้ก็แล้วกันนะ ส่วนเรื่องที่พักเดี๋ยวพี่จะให้ไอ้แฟรงก์มันจัดการให้ ไม่ต้องห่วงนะ พิชพาน้องเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ” ฟรานติโน่บอกทั้งสองสาวไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เพราะวันนี้เด็กสาวเจอแต่เรื่องไม่ดี เขาจึงพยายามพูดดีกับเธอให้เหมือนพี่ชายคนหนึ่งควรจะทำ“ไปกันเถอะยัยพลอย มาพี่ช่วยถือ” พิชชาภาเอ่ยพูดไปเสียงอ่อน ก็ช่วยน้องสาวที่ใบหน้าเศร้าเดินเข้าไปที่ห้องของน้องสาว พอแฟรงก์เห็นสองสาวเดินเข้าไปให้ห้องแล้ว เขาก็เอ่ยถามพี่ชายทันที“อ่าวเฮีย ทำไมเฮียไม่ไปจัดการเองอ่ะ ผมก็มีงานต้องทำนะครับ ไม่ได้มีเวลาไปทำอะไรให้ใคร โ
หลังจากนั้นทั้งสองก็หลับพักผ่อนจนเกือบเย็น ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะหกโมงเย็นกว่าทั้งสองจะออกมาหาแฟรงก์และพลอยลดาที่ในบ้านหลังนี้ด้วย“อ่าวยัยพลอยทำไมมานั่งคนเดียว แล้วพี่แฟรงก์ล่ะ” พิชชาภาเดินออกมาจากห้องแล้วเดินไปที่ห้องโถงกลางบ้านก็เจอน้องสาวกำลังนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ จึงเอ่ยถามออกไป“ไม่รู้สิคะ ป่านนี้คงนอนอืดตายแล้วมั้งคะ” พลอยลดาเอ่ยบอกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะยิ่งเธอนึกถึงตอนที่เขามาแอบมองเธอเล่นน้ำ แล้วเขาก็เล่นกับเจ้านั่นของเขา ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายเธอก็อดโมโหไม่ได้“ยัยพลอย พี่แฟรงก์เขาแก่กว่าเราตั้งกี่ปี เคารพเขาบ้างสิเราน่ะ อีกอย่างต่อไปเราต้องอยู่กับพี่แฟรงก์ที่นี่ เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวดีๆกับพี่เขา เข้าใจไหม” พิชชาภาเอ่ยดุน้องสาวไปอย่างเตือนๆ เพราะยังไงแฟรงก์ก็อายุมากกว่าน้องสาวของเธอ“เคารพคนแบบนั้นไปทำไมล่ะคะ พี่พิชรู้ไหมว่าอีตานั่นมัน” พลอยลดาที่โมโหอยุ่พูดออกไปอย่างลืมตัว ก่อนจะหยุดพูดไปเพราะกลัวว่าพี่สาวจะเป็นห่วงมากกว่าเดิม“ทำไม พี่แฟรงก์ทำอะไรเรา บอกพี่มานะ” พิชชาภาเริ่มทำหน้าเครียดแบบจริงจัง พร้อมกับจ้องมองน้องสาวอย่างจับผิด“เปล่าค่ะ เขาก็แค่ชอบพูดกวนพลอย
ด้านฟรานติโน่ที่เขามารอพิชชาภาในห้องก็กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเขาคิดแผนอะไรดีๆออกแล้ว ว่าเขาควรจะเอาเวลาที่อยู่ที่นี่ทำอะไรดี แต่ก่อนที่เขาจะโทรหาเมที เขาจึงแอบส่งข้อความให้น้องชายช่วยดูแลน้องสาวของพิชชาภาระหว่างที่พวกเขาจะพักผ่อน จากนั้นเขาก็เดินไปล็อคประตูห้องแล้วเลือกที่จะโทรหาเมทีทันที“ว่าไงครับคุณแฟรงก์ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” เมทีรับสายแล้วกรอกเสียงพูดไปอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะคิดในใจว่าเจ้านายของเขาคงจะมีงานด่วนให้เขาทำแน่ๆถึงโทรมาเร็วขนาดนี้ ทั้งที่พึ่งจะกำลังถึงอเมริกา“มีแน่ๆ ฉันจะเซอร์ไพร์สขอเมียฉันแต่งงานที่นี่” ฟรานติโน่เอ่ยบอกออกไปก็คิดไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายออกมาอย่างอดไม่ได้ว่าพิชชาภาจะมีความสุขขนาดไหนถ้าเขาทำอะไรมุ้งมิ้งแบบนี้ให้เธอ“อะไรนะครับ นี่คุณฟรานจะขอคุณพิชแต่งงานที่นั่นเหรอครับ แต่คุณฟรานกับคุณพิชแต่งงานกันแล้วนิครับจะขอแต่งงานกันไปทำไมล่ะครับ ยังไงก็จดทะเบียนกันแล้วนิครับ” เมทีเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะทั้งสองก็จดทะเบียนสมรสกันไปแล้ว ทำไมต้องมาทำเซอร์ไพร์สอะไรอีก“ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงไม่มีเมียจนถึงอายุปูนนี้ ไม่มีความโรแมนติกเลยนะแกเนี่ย ถึงฉันกับพิชจะจดท
หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็นั่งรถเดินทางไปยังบ้านของฟรานติโน่ที่อยู่ในเมืองฮอลลีวูดซึ่งมันเป็นเมืองที่อยู่ในลอสแองเจลิสอีกที แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน นั่งรถมาครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านที่อยู่ริมทะเล“นี่บ้านเหรอคะเนี่ย ใหญ่เวอร์วังไปอีก” พลอยลดาลงจากรถคันหรูก็มองบ้านของพี่เขยอย่างอึ้งๆ เพราะมันเรียกว่าบ้านไม่ได้ มันต้องเรียกว่าคฤหาสน์แล้ว ยิ่งอยู่ติดทะเลแบบนี้พี่เขยเธอคงจะรวยน่าดู เพราะคนที่นี่ถ้าไม่รวยจริงอยู่ติดทะเลแบบนี้ไม่ได้แน่“นี่บ้านของพี่ฟรานจริงๆเหรอคะ” พิชชาถาเองก็อึ้งไม่ต่างจากน้องสาว เพราะบ้านของเขาที่ไทยก็ใหญ่มากแล้ว แต่พอเจอที่นี่ไปบ้านที่ไทยดูธรรมดาไปเลย“ พี่กับไอ้แฟรงก์พึ่งซื้อได้ไม่นานเท่าไหร่ มันสวยดีพี่ก็เลยซื้อเก็บไว้เผื่อมาทำงานที่นี่จะได้มีบ้านนอนสบายๆ ” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก็จูงมือของพิชชาภาเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ริมทะเล เขาเลือกซื้อที่นี่ไว้เพราะทำงานที่อเมริกาแต่ละครั้งก็หลายเดือน ซื้อบ้านไว้น่าจะสะดวกกว่า“จะไม่เข้าบ้านเหรอ มัวแต่ยืนยิ้มอยู่ได้ ไม่ร้อนไง” แฟรงก์พูดไปก็มองหน้าของเด็กสาวอย่างกวนๆ ก่อนจะเดินตามฟรานติโน่และพิชชาภาเข้าไปในบ้าน“หืม ไอ้บ้
ด้านพิชชาภาก็เดินทางมาถึงอเมริกาก็เกือบสิบโมงเช้า พอได้เห็นเมืองที่น้องสาวอยู่ก็รู้สึกดีใจที่น้องสาวได้มาเรียนที่นี่ นั่นก็คือเมืองลอสแองเจลิสที่อยู่ในรัฐแคลิฟอเนียซึ่งอยู่ในแทบทะเลถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่มากๆเมืองหนึ่งในอเมริกา“ไงเราตื่นเต้นละสิ ตาลุกวาวเลยนะ” แฟรงก์เอ่ยพูดกับพิชาภาอย่างแซวๆ เมื่อเธอยิ้มหน้าบานแถมยังทำท่าตื่นเต้นจนออกนอกหน้า ซึ่งต่างจากเขาและพี่ชายที่มาที่นี่บ่อยแล้วเพราะมีธุรกิจอยุ่ที่นี่เป็นส่วนใหญ่“เมืองนี้สวยมากเลยอ่ะพี่แฟรงก์ ตอนเครื่องลงพิชมองดูวิวแล้วนะ เริสมาก เดี๋ยวต้องไปอ้อนพี่ฟรานให้พาเที่ยวหน่อยแล้วล่ะค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะหันไปหาฟรานติโน่ที่ยืนส่ายหัวใส่เธออยู่ข้างๆแฟรงก์“นี่มาหาน้องสาวไม่ใช่เหรอเรา ยังไม่ทันไรก็จะให้พี่พาเที่ยวเหรอ เคลียร์เรื่องน้องสาวเราให้จบก่อนเถอะ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดบอกไปพร้อมกับเก็กท่าหล่อใส่พิชชาภาจนพิชชาภามองเขาอย่างเบะปากแบบหมั่นไส้“เคลียร์แน่ค่ะ นี่ก็บอกว่าถ้าส่งงานอาจารย์แล้วจะมารอรับที่สนามบิน ทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้” พิชชาภาพูดบอกไปก็แลสายตามองหาน้องสาว เพราะน้องสาวของเธอบอกจะมารอรับ เพราะไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว