/ โรแมนติก / ท่านชายแวมไพร์ / บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

공유

บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

last update 최신 업데이트: 2025-02-02 11:13:08

เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้ว

ทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่า

ถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี

เมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะ

และมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ

“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”

ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็มีข้อสงสัยผุดขึ้นมาอีกครั้ง นั่นคือ แล้วทำไมชาร์ลถึงยังอยู่ที่คฤหาสน์เล่า เพราะหากว่ากันตามตรง ตำแหน่งในบริษัทของเขาคงไม่ต่างจากเลขาของท่านประธานอย่างเจย์เดนด้วยซ้ำ

“พอดี ท่านชายต้องการความเป็นส่วนตัวกับคู่ค้าท่านนี้ กระผมจึงไม่ได้ไปด้วยขอรับ” ชาร์ลแอบหาข้ออ้างให้ท่านชายของเขาอีกครั้ง ด้วยความที่เจย์เดนสั่งให้ตนมาคอยจับตาดูลินินแทนช่วงที่เขาไม่อยู่ จึงลงเอยด้วยการพูดบอกออกไปเช่นนั้น

“ส่วนตัวอย่างนั้นเหรอ?” ลินินเท้าคางครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่อาจเป็นไปได้ แต่แทนที่เธอจะเข้าใจ กลับกลายเป็นยิ่งคิดมากเข้าไปใหญ่เนี่ยสิ

คู่ค้าทางธุรกิจที่เขาไปร่วมประชุมด้วยคือใครกัน ทำไมเขาถึงต้องคุยเป็นส่วนตัวถึงต้องการความเป็นส่วนตัวน่ะ! คงจะเป็นสาวสวยล่ะสิท่า!

และดูเหมือนว่ายิ่งคิดลินินก็จะยิ่งว้าวุ่นใจมากขึ้นเท่านั้น เธอจึงตัดสินใจหยิบส้อมขึ้นมาจิ้มเนื้อเสต๊กชั้นดีตรงหน้าเข้าปากเพื่อคลายความกังวลแทน แต่เหมือนจะไม่ค่อยช่ยอะไรเท่าไหร่

อะไรกัน..งของกินก็ยังไม่ช่วยอีกเหรอเนี่ย! โธ่เอ๊ยลินิน...ทำไมอยู่ ๆ ก็อยากเจอเขาอย่างไม่มีเหตุผลขึ้นมาแบบนี้ล่ะ ราวกับมีบางอย่างในชีวิตเธอหายไปอย่างไรก็ไม่รู้ เพราะหากว่ากันตามตรงแล้ว เธอไม่ได้เจอหน้าเขามาสองวันติดแล้วนะ!

แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำได้เพียงถอนหายใจและอยู่กับความว้าวุ่นนี้ไปตลอดทั้งเช้า

ลินินนั่งอ่านหนังสือเล่มใหญ่อยู่ในห้องสมุดตลอดทั้งบ่าย แต่ไม่ใช่หนังสือเรียนแต่อย่างใด เป็นหนังสือชีวประวัติเกี่ยวกับแวมไพร์ในแต่ละยุค เธอไปขอหยิบยืมมาจากท่านโหรหลงเพื่อที่ตัวเองจะได้เข้าใจความเป็นเจย์เดนมากยิ่งขึ้น

ชาร์ลก็คอยแอบจับตาดูเธอเพื่อเก็บรายงานให้กับเจ้านายของตนอยู่ไม่ขาด จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา...

ชาร์ลกดรับสายโทรศัพท์ก่อนจะได้ยินเสียงเจย์เดนเล็ดลอดออกมา บอกให้เตรียมเสื้อผ้าไปให้ตนที่โรงแรม ลินินเงยหน้าขึ้นจากหนังงสือที่เธอตั้งใจอ่านมาตลอดทั้งช่วงบ่ายทันที พร้อมอาสาว่าจะเตรียมและนำไปให้ด้วยตัวเอง โดยอ้างว่าเธอมีเรื่องจะคุยกับเจย์เดน

ชาร์ลที่เห็นแบบนั้นก็ไม่คัดค้านแต่อย่างใด เพราะสิ่งนี้หากพูดกันตามตรงก็เป็นสิ่งที่ภรรยาควรเป็นธุระให้กับสามีอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าในตอนนี้ทั้งสองจะยังไม่ใช่สามีภรรยากันอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่จากรูปการณ์ในตอนนี้แล้ว คาดว่าคงอีกไม่ช้าแน่นอน

เมื่อไปถึงโรงแรม ชาร์ลก็เดินพาลินินตรงไปยังห้องพักที่เจย์เดนเปิดเอาไว้ ภายในโรงแรมนั้นหรูหรามาก แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะระดับเจย์เดนจะมาเปิดห้องในที่แบบนี้ก็ย่อมได้อยู่แล้ว

แต่สิ่งที่ลินินสงสัยมันไม่ใช่เรื่องความหรูของโรงแรมหรอก มันกลับเป็นความคิดที่ว่า ‘ประชุมงานต้องเปิดห้องในโรงแรมเชียวเหรอ?’ นั่นแหละ

และเมื่อมาถึงหน้าประตูห้อง ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าก็ทำให้เธอถึงกับชะงัก เมื่อเห็นคนที่ตัวเองเฝ้ามองหามาตลอดตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า กำลังนั่งอยู่บนโซฟาในชุดคลุมอาบน้ำ และสนทนากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกัน ทั้งบุคลิกและการแต่งกายของเธอช่างสง่างามเป็นยิ่งนัก

ว่าแต่...ทำไมเขาถึงอยู่ในชุดแบบนั้นกับผู้หญิงคนนี้ล่ะ...มันทำให้เธออดคิดถึงเรื่องอย่างว่าไม่ได้เลยทีเดียว

“สวัสดีครับคุณหนูเฟย์” ชาร์ลที่เดินตามเข้ามาในห้องก็เอ่ยทักทายหญิงสาวตรงหน้าด้วยท่าทางนอบน้อมทันที ก่อนจะเดินตรงไปพูดคุยกับพวกเขาด้วยความเป็นกันเอง

“ไง ชาร์ล มาแล้วเหรอ...” จากคำพูดคำจาแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคงสนิทกันพอตัว หรือว่าเธอคนนี้จะเป็นคนที่เจย์เดนชอบ...ลินินคิดแบบนั้น เพราะดูจากรอยยิ้มและท่าทางเป้นกันเองของเจย์เดน ทุกอย่างที่เธอเฝ้าหวังจะให้เกิดขึ้นเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ล้วนไปอยู่กับปู้หญิงคนนี้หมดเลย

ร่างบางยังยืนอยู่ตรงหน้าประตูที่เปิดค้างเอาไว้ รู้สึกใจหวิวอย่างไรพิกล พลางสายตาก็จับจ้องมองไปที่แวมไพร์หนุ่มและหญิงสาวตรงหน้าที่ดูจะเหมาะสมกันยิ่งนัก จนอดคิดไม่ได้ว่าเธอนั้นอาจเป็นเพียงหญิงสาวที่เพียงบังเอิญไปเก็บกุหลาบนั้นมา จึงคิดไปว่าตัวเองอาจเป็นเพียงว่าที่ชายาที่เขาจำใจเลือก บางทีเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยด้วยซ้ำ

เจย์เดนหันมองเธอก่อนจะกวักมือเรียกให้เดินตรงไปหา ลินินที่เห้นแบบนั้นก็เดินเข้าไปอย่างว่าง่าย แต่ภายในใจก็ยังครุ่นคิดเรื่องนั้นวนเวียนอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หลังจากส่งถุงกระดาษที่ใส่เสื้อผ้าไปให้แวมไพร์หนุ่มตรงหน้าแล้ว ลินินก็ก้าวถอยหลังออกไป ราวกับว่าเธอไม่อยากยืนอยู่ข้างเขา โดยเฉพาะเมื่อมีคุณหนูเฟย์คนนี้อยู่ด้วย เพราะมันทำให้เธอรู้สึกเป็นจุดด้อยอย่างไรก็ไม่รู้

ระหว่างที่พวกแวมไพร์กำลังพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลิน มนุษย์สาวอย่างลินินก็ทำเพียงค่อย ๆ เดินย่องออกจากห้องไป

เจย์เดนลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อโดยไม่ได้เอะใจในความว้าวุ่นใจของลินินเลยสักนิด สำหรับเขาแล้วที่มาอยู่ในห้องนี้ นั่นเป็นเพราะเสื้อผ้าของเจย์เดนโดนกาแฟหกใส่ และคุณหนูเฟย์ที่เป็นสหายของเขาก็เพียงแค่มาอยู่รอด้วยเท่านั้นเอง

“ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะ ดูตาซุ่มซ่ามนี่ให้ดีด้วยล่ะชาร์ล” หลังจากพูดจาเย้าแหย่แล้ว เฟย์ก็เดินออกจากห้องไป

เจย์เดนพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะหันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาหญิงสาวอีกคนที่ควรจะอยู่ในห้องนี้ด้วยกัน “นางไปไหนแล้วล่ะ”

เพราะมัวแต่นั่งคุยกับสหาย เขาจึงแทบไม่ทันสังเกตว่า ลินินหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ชาร์ลเองก็หันมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงไม่แพ้กัน ก่อนจะส่ายศีรษะแล้วบอกกล่าวตรงกัน “ไม่ทราบขอรับ”

“เอาเถอะ อยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ เจ้ากลับไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวข้าไปหานางเอง” ว่าจบ แวมไพร์หนุ่มที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เริ่มออกไปตามหาว่าที่ชายาของตน

จนในที่สุดเขาก็จับกระแสพลังงานของเธอได้ นี่คงเป็นข้อดีของการที่เขาใส่พลังของตนลงไปในกุหลาบดอกนั้น เนื่องจากมันช่วยให้เขาเชื่อมโยงกระแสจิตกับเธอได้มากกว่าผู้ใด

ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่บริเวณหน้าโบสถ์คริสตจักรแห่งหนึ่ง ‘นางอยู่ในนี้ เข้าไปทำอะไรในที่แบบนี้กัน’ ว่าพลางนั่งกอดอกรออยู่หน้าโบสถ์

ในตอนนั้นเอง เขาก็ใช้พลังเพ่งตรงไปยังจิตใจของเธออย่างนึกสนุก ก่อนจะได้ยินเสียงอธิษฐานของลินินดังสะท้อนในโสตประสาทอย่างชัดเจน “หาแฟนให้หนูสักคนได้ไหมคะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีแฟนเลย”

คำขอของลินินทำให้ใบหน้าของเจย์เดนกระตุกหัวคิ้วขมวดมุ่นทันควัน ‘นี่เจ้าอยากได้คนอื่นมาแทนข้าอย่างนั้นเหรอ!?’ อยู่ ๆ ความหวงของก็ปะทุขึ้นมาจนล้นอก เจย์เดนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและชี้นิ้วมุ่งตรงไปยังแท่นบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ภายในโบสถ์ด้วยท่าทางจริงจัง

“อย่าได้ทำตามคำขอนางเชียว หากเจ้ารับคำขอเรื่องนี้ ข้าจะมาชำระบัญชีกับพวกเจ้าให้หมด!” แวมไพร์หนุ่มเอ่ยตะโกนเอ่ยตะโกนอยู่ตรงหน้าโบสถ์โดยไม่สนสายตาของคนที่เดินผ่านไปมาแม้แต่น้อย

ผู้คนแถวนั้นต่างหันมองและเอาแต่ส่ายศีรษะด้วยความขนขัน พลางคิดไปว่าน่าเสียดายที่หน้าตาหล่อเหลาอย่างกับเทพบุตร แต่กลับไม่เต็มบาทเสียอย่างนั้น

ผ่านไปสักพัก ลินินก็เดินออกมาจากโบสถ์พร้อมแววตาเหม่อลอย แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องสะดุ้งเมื่อพบว่าเจย์เดนยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาขรึมจัด สายตากรุ่นไปด้วยอารมณ์ไม่พอใจอย่างชัดเจน

ลินินก้าวถอยหลังเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำท่าทางเหมือนกำลังเก็บกดอารมณ์อะไรบางอย่างไว้เต็มที่ เขายืนนิ่งอยู่เช่นนั้น ราวกับกำลังรอคำอธิบายจากเธอ อะไรกัน แค่ออกมาข้างนอกเพียงไม่นาน ทำให้เขาโกรธขนาดนี้เลยหรือ

“ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหนีออกมานะ แค่อยากมาขอพร...” ลินินคิดว่าเขาไม่พอใจที่เธอแอบออกมาโดยไม่บอกกล่าว แต่เปล่าเลย ไม่ใช่เรื่องนั้นเลยสักนิด

“อย่างนั้นเหรอ แล้วเจ้าขอพรว่าอะไรล่ะ?” น้ำเสียงดูไม่น่าภิรมย์เลยสักนิด ทำเอาหญิงสาวถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความกระอักกระอ่วน นอกจากนี้เธอก็ไม่อยากนึกถึงคำอธิษฐานสักเท่าไหร่หรอก ด้วยกลัวว่าเจย์เดนจะทราบว่าเธอขอเรื่องน่าอายเพียงใด

“แล้วนาย...นายมาทำอะไรที่นี่เหรอ?” ลินินพยายามเปลี่ยนเรื่องแล้วปรายสายตาไปทางอื่น

แต่ดูเหมือนว่าคำถามนี้จะไม่ค่อยปลอบประโลมอารมณ์ของเจย์เดนเลยแม้แต่น้อย แววตายังคงเต็มไปด้วยความน้อยใจปนความหงุดดหงิดหน่อย ๆ แต่ก็พยายามเลี่ยงไม่ให้พูดถึงสิ่งที่เป็นต้นเหตุ ด้วยความที่ไม่กล้าพูด...

ส่วนลินินก็ยังน้อยใจเรื่องผู้หญิงคนนั้นไม่หาย แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาตามตรงเช่นกัน

“เฮ้อ...เจ้านี่...กลับ!” เจย์เดนหันหลังละสายตาจากลินิน ทำเหมือนว่าต้องการเมินเธอ แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ยอมเดินตาม เขาก็ต้องก้าวถอยหลังมาอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วคว้าจับข้อมือของเธอให้เดินไปขึ้นรถพร้อมกัน

ถึงจะโกรธเธอมากขนาดไหน แต่เขาก็ไม่กล้าใจร้ายใส่เธอโดยการทิ้งให้เธอหาทางกลับไปที่คฤหาสน์ด้วยตัวเอง

ทำไมกันนะ อยู่ ๆ ก็ไม่กล้าทำอะไรที่จะเสี่ยงให้เธอไปหาชายอื่นโดยเสียอย่างนั้น ยิ่งหวนนึกถึงคำอธิษฐานก็ยิ่งสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ระหว่างที่เดินตามเจย์เดนไปที่รถของเขานั้น ลินินก็แอบเหลือบมองเขาไปพลาง เหตุใดเขาจึงทำตัวเหมือนแวมไพร์ผีเข้าผีออกเช่นนี้เล่า เมื่อครู่ยังหงุดหงิดจนแทบจะเมินใส่ แต่ตอนนี้กลับจับมือเธอแน่นเสียอย่างนั้น

‘ชาตินี้เจ้าไม่มีวันได้แต่งกับคนอื่นนอกจากข้าหรอก!’ เจย์เดนประกาศกร้าวในใจ แต่มนุษย์อย่างลินินไม่มีทางที่จะพินิจใจของเขาได้อยู่แล้ว เธอจึงไม่รู้อะไรเสียบ้างเลย

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 8 อยู่บ้านกับท่านพ่อ 2

    ในเช้าวันหนึ่งหลังมื้ออาหาร อยู่ๆ ลินินก็ได้รับสายจากบริษัทว่ามีธุระเร่งด่วนต้องเข้าไปเจรจากับทางโรงงานฝ่ายผลิต ด้วยแบบเสื้อผ้าที่โรงงานจัดทำตัวอย่างรุ่นแรกออกมามันผิดไปจากแบบที่เธอคาดหวังเอาไว้มากคิ้วสวยขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจ ก่อนจะจัดการบอกเลขาว่าเดี๋ยวจะเข้าไปที่โรงงานด้วยตัวเอง“ดูเหมือนต้องไปที่โรงงานเองแล้วล่ะ แบบที่ส่งมามันไม่ตรงกับที่สั่งไว้เลย” เธอบ่นให้สามีฟังขณะที่เตรียมตัวจะออกไปข้างนอกเจย์เดนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ทำหน้าฉงน “เจ้าสั่งเลขาไปแทนก็ได้หนิลินิน ไม่เห็นต้องไปเองเลย ทำไมต้องเหนื่อยเองด้วย?” น้ำเสียงบ่งบอกชัดเจนว่าคัดค้านสุดตัวลินินจึงหยุดมือจากการเตรียมเอกสารแล้วหันมามองมาทางเขาอย่างไม่เข้าใจนักว่าทำไมสามีเธอจึงมีทีท่าเช่นนั้น“ก็เพราะเป็นแบรนด์ของฉันไง ฉันก็เลยอยากเข้าไปดูเอง”ได้ยินแบบนั้นเจ้าแวมไพร์ก็เริ่มขยับตัวเหมือนอยู่ไม่สุข สีหน้าของเขาเริ่มออกอาการกังวล ส่วนภรรยาตัวน้อยของเขาก็จับจ้องมองตามท่าทีนั้นอย่างไม่วางตา ด้วยสงสัยว่าสามีเป็นอะไรไป“แต่เจ้าไม่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองก็ได้นี่นา ข้าแค่…แค่คิดว่าเจ้าควรพักบ้าง” ว่าจบก็ส่งมือหนาเข้ามากอบกุมมือเรียวของเธออ

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 7 คำชมจากแม่สามี

    ในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ท่านพ่อและท่านแม่ของเจย์เดนมาถึงพร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากเด็ก ๆ ทั้งสี่ที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วจนผู้ใหญ่ในครอบครัวอดตกใจเสียไม่ได้“ลินิน เจ้านี่เก่งเหลือเกิน” ท่านแม่เอ่ยชมขณะมองดูหลาน ๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ “ของข้าแค่คนเดียวก็ลมแทบจับแล้ว” ลินินยิ้มตอบ ขณะเดียวกันนั้นเจย์เดนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เริ่มขมวดคิ้วขึ้นในทันทีเมื่อได้ฟังคำพูดของแม่ตัวเอง “อะไรกันท่านแม่ ข้าเลี้ยงยากเหรอ?” ถามด้วยน้ำเสียงจริงจังไลเรนได้ยินก็หัวเราะขึ้น “เลี้ยงยากมาก เจ้าดื้อมากตั้งแต่ยังเล็ก ๆ แล้ว” “ดื้อเหรอคะ?” ลินินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ “ไม่เห็นเคยรู้เลย” เธอนึกภาพเจย์เดนผู้มีท่าทีสงบนิ่งกลายเป็นเด็กดื้อไม่ออกเลยจริง ๆ แต่ถ้าหากเรื่องความขี้แกล้ง อันนี้พอจะรู้อยู่บ้างแล้วล่ะเจย์เดนขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม “ข้าไม่ได้ดื้ออะไรสักหน่อย ท่านแม่น่ะพูดเกินไป”“งั้นเหรอ?” ท่านแม่ส่งยิ้มพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์มาทางเจย์เดน ก่อนจะหลับตาลงแล้วเล่าเรื่องสมัยที่เจย์เดนยังเป็นเด็กขึ้น “แล้วใครกันที่ปีนต้นไม้หนีออกจากบ้านเพร

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 6 อยู่บ้านกับท่านพ่อ

    บังเอิญว่าในวันนี้ลินินจะต้องไปตรวจงานออกแบบเสื้อผ้าที่บริษัทของเธอ หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วก็พร้อมจะออกเดินทางเจย์เดนในเสื้อเชิ้ตที่พับแขนขึ้นเล็กน้อยก็เดินตรงเข้ามาหาเธอด้วยมาดเข้ม "เจ้าจะไปนานไหม?" เขาถามลินินพร้อมย่อตัวนั่งลงตรงหน้าก่อนจะยื่นมือหนาออกไปช่วยสวมรองเท้าให้เธอ"ไม่นานหรอก นายอยู่ดูเด็ก ๆ ไหวใช่ไหม?" ลินินหันมายิ้มให้เล็กน้อยเจย์เดนพยักหน้ามั่นใจ "ข้าเป็นแวมไพร์นะ เลี้ยงเด็กแค่นี้จะไปยากอะไร" ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มขึ้นด้วยความมั่นใจลินินเห็นแบบนั้นก็แอบหัวเราะนิดหน่อย "งั้นฝากด้วยนะ อย่าให้พวกเขาทำบ้านพังล่ะ""บ้านทนจะตาย เจ้าอย่ากังวลไปเลย" เขาพูดติดตลก พร้อมยกมือโบกให้ลินินก่อนที่เธอจะเดินออกไปตอนแรกทุกอย่างดูสงบเรียบร้อย เด็ก ๆ นั่งวาดรูปอยู่ในห้องโถงใหญ่ แต่ไม่นานนัก เรย์เน่เริ่มบ่นว่าเบื่อและอยากเล่นซ่อนแอบ"ท่านพ่อ เล่นซ่อนแอบกับพวกเราไหมคะ" ไม่เพียงแค่เอ่ยถาม ยังส่งสายตาแวอย่างออดอ้อนมาให้เจย์เดนอีกต่างหากร่างสูงที่นั่งเฝ้าลูก ๆ พร้อมทำงานไปด้วยก็ชายตาขึ้นจากกองงาน ก่อนจะตอบรับ "ได้สิ นับสิบนะ"ยังไม่ทันจะเริ่มนับ เด็ก ๆ ทั้งห้าก็วิ่งวุ่นหาที่ซ่อนไปทั่วคฤหาสน์

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 5 ข้าวกล่องหรรษา

    เช้าวันหนึ่งลินินตื่นขึ้นมา และเมื่อเห็นว่าลูก ๆ ยังหลับอยู่ เธอก็ตั้งใจว่าจะทำข้าวกล่องไปให้สามีที่บริษัท จึงรีบเร่งเตรียมวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน“ทำเสต๊กแล้วกัน” เธอว่าพลางตัดชื้นเนื้อแล้วจับมันพลิกใส่เตาย่าง เมื่อสุกได้ที่แบบกลาง ๆ แล้ว ก็นำมาตัดเป็นชิ้นพอดีคำ และพร้อมเริ่มเตรียมอย่างอื่นต่อไปแต่ก่อนที่จะทันได้ลงมือ ลูก ๆ ทั้งสี่ เจย์เนส เรย์เน่ เคย์ลิส และไลเอนน์ ก็ตื่นขึ้นมาได้ยินเข้าเสียก่อน"ท่านแม่ทำอะไรเหรอครับ/คะ?" เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ย ถามอย่างตื่นเต้น และเมื่อทราบว่าท่านแม่ของพวกเขากำลังจะทำรู้ข้าวกล่องไปให้ท่านพ่อที่บริษัท ทุกคนก็ดูเหมือนอยากจะช่วยกันคนละไม้คนละมือขึ้นมาในทันทีแต่แทนที่การช่วยจะทำให้งานเสร็จเร็วขึ้นกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิมเสียอย่างนั้นเจย์เนสที่เป็นพี่ใหญ่สุดพยายามช่วยลินินหั่นผลไม้ แต่ด้วยความที่ยังมือใหม่จึงหั่นออกมาได้ไม่ค่อยเท่ากันนัก บางชิ้นก็ใหญ่เกินกว่าจะยัดลงปากได้ ส่วนบางชิ้นก็บางเฉียบจนแทบไม่ไต้องเตี้ยวกันเลย จนลินินต้องเข้ามาแก้ให้ส่วนเรย์เน่ คนนี้ชื่นชอบความสวยงามเป็นชีวิตจิตใจ จึงได้รับหน้าที่ยืนแต่งจานสลัด แต่ด้วยความที่เป็นเด็ก จึงใส่ใ

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 4 ศึกชิงนางจากผู้ท้าชิงห้าคน

    นานวันเข้า เจย์เนสและเรย์เน่ก็เริ่มโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็เหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบเข้าแล้ว ส่วนน้องน้อยของพวกเขาตอนนี้ก็คล้ายกับเด็กมนุษย์ในช่วงวัยห้าขวบ และใช่ ทั้งมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงปีเป็นอย่างที่ท่านหมอเคยกล่าวว่าพวกเขาจะโตไวและเรียนรู้เร็วมาก เจย์เดนกับลินินจึงจ้างครูมาคอยสอนพวกเขาที่บ้านด้วย เนื่องจากเล็งเห็นว่าพวกเขาอาจยังไม่พร้อมที่จะไปเข้าเรียนร่วมกับเด็กคนอื่น ๆนอกจากนี้ เมื่อเริ่มโตขึ้น การติดแม่ก็เริ่มน้อยลง กลายเป็นน้อง ๆ เข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนั้นแทนเจย์เนสในวัยหนุ่มน้อยเริ่มสนใจการอ่านหนังสือในห้องเงียบ ๆ หรือออกไปฝึกศิลปะการต่อสู้กับอาจารย์ที่ท่านพ่อของเขาจ้างมาฝึกส่วนตัวเสียมากกว่ามาขลุกอยู่ในห้องกับน้อง ๆ และนอกเหนือจากนั้นนิสัยก็เริ่มเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนผู้เป็นพ่ออย่างไม่ทิ้งห่างส่วนเรย์เน่ก็เริ่มมีความสนใจในเรื่องศิลปะและดนตรี บ่อยครั้งเธอจะเก็บตัวฝึกซ้อมเปียโนหรือวาดภาพในมุมของตัวเอง "ช่วงนี้ส่งไม้ต่อให้น้อง ๆ แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าแม่จะเหงาเลย"ลินินได้ฟังเช่นนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา แต่ถึงก็ยังมีสมาชิกตัวโตที่ดูเหมือนจะคอยมาแย่งแม่ของพวกเขาอยู่ตลอด

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 3 เกิดเรื่องไม่คาดฝันอีกแล้ว

    และแล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้งเข้าจนได้ เมื่อลินินส่องกระจกและเริ่มเห็นหน้าท้องที่ดูเหมือนจะอวบอิ่มขึ้น“นี่เราไม่ได้ออกกำลังกายจนลงพุงหรือยังไงกันเนี่ย” เธอพึมพำ แต่แล้วก็นึกถึงตอนที่ตั้งท้องสองแฝดขึ้นมาได้ ว่ามันก็เริ่มต้นเช่นนี้นอกจากนี้เมื่อสังเกตอาการไปนานวันเข้า ยังมีอาการพะอืดพะอมร่วมด้วยอีกต่างหาก อาการนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเจย์เดนต้องตัดสินใจพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลในที่สุด“ซูบผอมลงอีกแล้วนะขอรับท่านหญิง” ท่านหมอเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้ม"ตอนแรกฉันคิดว่าอาจจะกินเยอะไป อาหารก็เลยอาจจะไม่ย่อย แต่พอเห็นว่าผอมลงแล้วท้องป่องเหมือนครั้งที่แล้ว ก็เลยคิดว่าคงจะ..." ลินินพูดเสียงเบาขณะที่ท่านหมอก็อัลตร้าซาวน์บริเวณหน้าท้องของเธอไปพลาง“ขอรับ ตั้งครรภ์อีกแล้ว..." ท่านหมอยืนยันความคิดของเธอเจย์เดนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ พลันหยุดนิ่งราวกับถูกหยุดเวลา ดวงตาสีแดงของเขาจับจ้องไปยังหมอหลวงราวกับอยากจะให้แน่ใจว่าตัวเองฟังไม่ผิดไป "ปกติแล้วแวมไพร์จะตั้งครรภ์ได้ครั้งเดียวไม่ใช่หรือ?"“นั่นน่ะสิ” แววตาคู่สวยของลินินก็จับจ้องใบหน้าของท่านหมอด้วยความฉงนเช่นกัน พร้อมกับหันมองสามีของตน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status