‘ส่งโลเคชันมา เดี๋ยวไปรับ’
‘จริงเหรอคะ!’ ลลิตาตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน ทำไมนะ แค่เขาบอกว่าจะมารับ เธอก็ตื่นเต้นได้ขนาดนี้ หลงผู้ชายแหละดูออก
‘อืม ว่าง’ หลังจากรับคำแล้วภาคีจึงวางสาย เขาเองก็สับสนในตัวเองว่าเพราะอะไรวันนี้ถึงอยากเห็นหน้าเธอ หรือเพราะลลิตาจะส่งรูปหน้าเธอมาให้เขาดูทุกวัน จนคุ้นชินที่ได้มองหน้าเธอ
หลังจากส่งโลเคชันไปให้ปู่เทกแล้ว หญิงสาวในวัยสิบแปดย่างสิบเก้าก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวทันที วันหยุดเธอจะรู้สึกเหงามากกว่าปกติ เพราะศศิตาเพื่อนคนเดียวของเธอต้องไปทำงาน ส่วนพ่อก็ต้องไปเดินสายหาเสียง
อยากมีแฟนสักครั้ง แฟนที่คู่ควรกับเธอก็น่าจะเป็นภาคีนี่แหละ ลูกชายคนโตของบริษัทผู้ผลิตและส่งออกอาหารรายใหญ่ของประเทศ
ถึงข่าวคาวเรื่องความเจ้าชู้ของเขาจะมีเยอะ แต่ลลิตาก็ไม่กลัว อยากได้ของดีก็ต้องเสี่ยงหน่อย เพียงไม่นานรถยนต์คันหรูก็มาจอดหน้าบ้านของเธอ
‘รอนานไหม’ คำถามแรกที่เขาถามเธอ
‘ไม่นานค่ะ’ ลลิตายิ้มหวานก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งบนรถ ซึ่งเขาเปิดประตูให้เธอ ภาคีเป็นสุภาพบุรุษอย่างไม่ต้องสงสัย
‘กินข้าวก่อนนะ แล้วค่อยไปดูหนังกัน’ คำพูดของชายหนุ่มเรียกรอยยิ้มจากหญิงสาวจนแก้มแทบปริ
‘ทำไมวันนี้พี่คีย์ว่างล่ะคะ’ ลลิตาถามพร้อมทั้งยิ้มให้เขาไม่หยุด เขาคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ก่อนจะขับรถออกจากบ้านหลังใหญ่
‘ก็วันหยุด’ คำตอบกวน ๆ จากคนหน้าดุ ๆ แต่หล่อ ขณะสายตาก็มองไปยังท้องถนน เพราะเขาอายุมากกว่าเธอ ไม่แปลกใจที่จะมีใบขับขี่และขับรถคล่องมากขนาดนี้
‘รู้ว่าเป็นวันหยุด แต่ไม่คิดว่าพี่จะว่างมารับไปกินข้าว’ ลลิตายิ้มหวานให้เขา มองด้านข้างของคนขับยิ่งหล่อ
‘เธอส่งข้อความกับหน้าบวม ๆ ของเธอมาทุกวัน อ้อนให้พี่เลี้ยงข้าวไม่ใช่เหรอ’
ใช่ เธอส่งข้อความไปหาเขาทุกวัน ขอให้เขาเลี้ยงข้าว พาไปดูหนัง แต่พยายามมาเดือนหนึ่งแล้ว คิดว่าเขาคงไม่ใจอ่อน ใครจะคิดว่าวันนี้เขาจะใจอ่อน
‘ก็ใช่ไง ไม่คิดว่าพี่จะใจอ่อน’
‘ไม่ดีเหรอ’ ภาคีหันมาถามตอนที่รถจอดติดไฟแดงอยู่กลางแยกหน้าห้างสรรพสินค้า
สิบสองปีตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน และสิบเอ็ดปีของการจากลา สุดท้ายก็เป็นเธอที่กลับมาหาเขา ไม่ว่าตอนไหน เมื่อไร เขาก็มีอิทธิพลกับเธอเสมอ
“แกรักเขามากเลยเหรอ” ศศิตาเอ่ยถาม
“ไม่รู้สิ” ลลิตาเองก็ไม่แน่ใจว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ระหว่างเขากับเธอเรียกว่า ‘ความรัก’ ไหมนะ
“ฉันไม่เคยเห็นแกสนใจใคร ตอนเลิกกับเขาก็เอาแต่เรียน ตอนเรียนจบก็เอาแต่ทำงาน” ศศิตาเห็นทุกช่วงเวลาของเพื่อน เหมือนจะเปิดใจกับคนใหม่ แต่สุดท้ายลลิตาก็บอกเลิกอีกฝ่ายทั้งที่คบกันเพียงไม่กี่เดือน ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่ดูจะจริงจังขึ้นอีกขั้นเมื่อไร ลลิตาจะบอกเลิกกับอีกฝ่ายทันที
“ฉันกลัวจะเสียใจ” ลลิตาพูดแล้วก็ยิ้มให้เพื่อน
“แกกลัวเสียใจกับคนอื่น แต่ไม่กลัวเสียใจกับคุณคีย์เนี่ยนะ” ศศิตาอดโมโหไม่ได้ ภาพที่ลลิตาเอาแต่ร้องไห้เพราะคิดถึงภาคียังคงอยู่ในความทรงจำอันแสนเจ็บปวดของเธอทั้งสองคน
“มันคงเป็นกรรมของฉันมั้ง” ลลิตายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกครั้ง มันคงเป็นกรรมของเธอ จริง ๆ อยากให้เจ็บมากกว่านี้ เจ็บเยอะ ๆ เผื่อเธอจะตัดใจได้บ้าง เดินไปให้สุดทาง ถ้าไม่มีทางเดินแล้วก็คงต้องกลับมาทางเดิม
“เอาเถอะ ในเมื่อแกตัดสินใจแล้ว เราก็คงมีทางเลือกเดียวคือไปให้สุด เอาเขามาเป็นของแกให้ได้” ศศิตาปลอบเพื่อน รู้ว่าเพื่อนเลือกทางนี้เพราะหวังลึก ๆ ว่าจะสามารถทำให้ภาคีกลับมาคืนดีกับเธอได้อีกครั้ง
“ผู้ชายมีเยอะแยะ ทำไมต้องเป็นคนนี้ ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเอง” ลลิตาบ่นออกมาพร้อมทั้งปาดน้ำตาทิ้ง
“ถ้าเราควบคุมได้ เขาก็คงไม่เรียกว่าหัวใจ คงไม่เรียกว่าความรักหรอกแก เพราะเราควบคุมมันไม่ได้ยังไงล่ะ ในเมื่อใจเรียกร้องก็ต้องไปให้สุดสิลิตา” ทั้งสองยกแก้วไวน์ขึ้นชนกันจนเกิดเสียงกิ๊ง แล้วต่างกรอกไวน์เข้าปากจนหมดแก้ว
“อะไรที่ได้มาง่ายมันก็ไม่ท้าทายจริงไหมศิตา” ลลิตากอดคอเพื่อนพร้อมทั้งยิ้มอ่อน
“ใช่ ง่าย ๆ เราไม่ แต่ยาก ๆ เราต้องเอาให้ได้” ศศิตายิ้มตาหยีให้เพื่อน
ในเมื่อเธอทั้งสองคนไม่มีครอบครัวอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ก็ขอใช้ชีวิตให้เต็มที่ ให้สมกับที่เกิดมาเป็นคน ต้องลองสักครั้งในชีวิต ในเมื่อใจมันเรียกร้องว่าเป็นเขาเท่านั้น เธอก็จะใช้โอกาสนี้ทำให้เขากลับมาเป็นของเธอให้ได้
“โธ่...เมียจ๋า ชื่อนี้ก็เพราะนะครับ เข้ากับพี่ ๆ ทุกคน มีความหมายของชื่อด้วยนะ” ภาคีผู้นำเสนอชื่อลูกตามสถานที่การทำลูก ความตั้งใจจะให้ลูกชื่อยอช์ตตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่บังเอิญไม่ติด ก็เลยมาแก้ตัวในคนที่สาม ได้สมใจอย่างที่พ่อตั้งใจลลิตาได้แต่กลอกตามองบน สุดแท้แต่เขาก็แล้วกัน ถ้าเขาตั้งชื่อว่าน้องหิมะ เธออาจจะอายกว่านี้ เอาชื่อนี้ก็ได้ อย่างน้อยคงน่าอายน้อยกว่าน้องออนเซ็น น้องซาวน่า น้องหิมะ“ตามใจค่ะ”“เมียพี่น่ารักที่สุดเลย” ภาคีหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ พร้อมทั้งจูบนัวเนียอีกหนึ่งครั้ง“แต่ลิตามีข้อแม้”“อะไรครับ”“พี่คีย์ต้องทำหมัน ไม่อย่างนั้นลิตาจะไม่ให้พี่คีย์เข้าใกล้อีก” ลลิตาขู่คนชอบทำลูกแล้วหลอกเธอว่าจะป้องกันเอง สุดท้ายเธอก็ท้องอีกจนได้“ได้เลยเมียจ๋า เรื่องนี้พี่ไม่ขัด พี่ไม่กลัวเข็มเหมือนไอ้สองคนนั้นหรอก อะไรกัน ทำทั้งโรงพยาบาลเขาวุ่นวาย” ภาคียิ้มเยาะอย่างภูมิใจ“ไปว่าพี่ภาคกับพี่ทีปทำไมเนี่ย” ลลิตาบ่นสามีที่ไปว่าสองหนุ่ม“ก็มันอ่อน”“สมแล้วที่พี่ภาคว่าพี่คีย์ ‘ไอ้คีย์นาทีละล้าน’ ”“หนูเข้าข้างมันเหรอ มานี่เลย คนท้องพี่ก็จะไม่เว้นแล้ว” ภาคีพูดแล้วก็ทำท่าทีขึงขัง เรียกเสียงหัวเราะจ
สองปีต่อมาหลังจากแต่งงานไม่นานลลิตาก็ท้องลูกสาวคนแรก หน้าตาน่ารัก ภาคีอยากให้ลูกสาวชื่อน้องสกายที่แปลว่าท้องฟ้า แต่ลลิตาไม่เห็นด้วย“พี่คีย์แน่ใจนะคะว่าจะให้ลูกชื่อนี้?”“ทำไมล่ะ น่ารักดีออก” ภาคีเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมลลิตาดูเป็นกังวลกับชื่อนี้“ก็น่ารักค่ะ แต่พี่คีย์คิดจะตั้งชื่อลูกตามสถานที่ที่ทำลูกหรือไงคะ” เธออายเพราะอย่างนี้นี่แหละ ใครใช้ให้เขาทำลูกบนเครื่องบิน แล้วดูสิ ยังตั้งชื่อบอกสถานที่ทำลูกอีก“ก็ตอนนั้นนั่งเครื่องนานมาก ใครจะอดใจไหว” นั่นไง พ่อคนหื่น ถ้าตั้งชื่อนี้รับรองโดนเพื่อนเขารุมล้อแน่“พี่คีย์ไม่กลัวพี่ชวีจะล้อเหรอคะ”“เออใช่ว่ะ ไอ้นี่ยิ่งฉลาด มันต้องรู้แน่เลย หรือจะเปลี่ยนเป็นชื่ออื่นดี” ภาคีดูหน้าตาเป็นกังวลขึ้นมาทันที ลลิตารู้สึกสบายใจขึ้น อย่างน้อยเป็นชื่ออื่นที่ไม่บ่งบอกสถานที่ทำลูกก็ยังดี“แล้วตกลงเอาชื่ออะไรดีคะ”“ชื่อน้องรักคุณ” ภาคียิ้มอย่างภาคภูมิใจในชื่อใหม่ของลูก ลลิตาพยายามคิดว่าทำไมชื่อถึงได้คุ้น ๆ เดี๋ยวนะ“อีพี่คีย์!!!” เสียงแหวของเธอดังจนภาคีตกใจ พร้อมทั้งพ่นเสียงหัวเราะออกมา“ไม่ดีเหรอ รักคุณเท่าฟ้า” สโลแกนของสายการบินชื่อดัง ถ้าชื่อน้องรักคุณ นอกจ
ยิ่งชุดราตรีไม่ต้องพูดถึง ราคาเจ็ดหลักกลาง ๆ นอกจากนี้ดอกไม้ทุกดอกในงานใช้ดอกไม้จริง เป็นกุหลาบหลากสายพันธุ์หลายพันดอก นี่แหละง่าย ๆ สไตล์ภาคี และคนที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับภาคีไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือคุณหญิงจริยา คุณภิรมย์ และท่านพายุ เพราะนาตาลีบอกความดีความชอบของทั้งคู่ให้ท่านพายุฟัง ท่านพายุจึงอาสาขอร่วมด้วยช่วยกันกับงานแต่งแสนเรียบง่ายสไตล์ภาคี ลลิตาเคยบอกเขาว่าเสียดายเงิน เอาเงินจัดงานมาให้เธอดีกว่า ใช่ เขาโอนเงินระดับเก้าหลักเข้าบัญชีเธอในวันต่อมา แต่เขาก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาจัดการงานแต่งงานง่าย ๆ สไตล์ภาคีต่อไป หลังจากนั้นลลิตาไม่เคยห้ามเขาอีกเลย คิดเสียว่าแต่งครั้งเดียว เขาคงอยากให้ออกมาดีที่สุด ก็สมใจคุณ ๆ ทั้งหลายที่งานออกมาได้ดั่งใจ แขกเหรื่อก็ชื่นชอบ ถ่ายรูปและแชร์ภาพออกไปจนดังกันเกือบทั้งครอบครัว ลลิตามองภาพเจ้าสาว รอยยิ้มของตัวเองในตอนนั้นบอกได้ถึงความสุขที่มีจนล้น แก้มทั้งสองข้างแทบปริ นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่ายิ้มแก้มปริ “หนูสวยมาก” ภาคีชี้รูปที่เธอยิ้มให้เขา กล้องจับภาพตอนที่เธอมองเขาด้วยหัวใจพองโต “คนม
“พี่รอง เขินนะ” ศศิตายิ้มหวานด้วยความเขินอาย “ปลอมมากศิตา” ลลิตาได้ทีแขวะเพื่อน “แหม แกก็ให้ฉันรักษาภาพลักษณ์นางเอกแสนหวานหน่อย คนอื่นอยู่เต็มเรือ” ศศิตากระซิบบอกเพื่อนรัก “ไม่ทันแล้วค่ะพี่ศิตา พวกเรารู้หมดแล้ว” พลอยใสแกล้งแซวเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน ทั้งหมดถ่ายรูปกลุ่มใหญ่เป็นที่ระลึก จากนั้นก็ดำน้ำดูปะการังในบริเวณที่ไม่ไกลจากที่จอดเรือเมื่อคืนก่อน เสียงหัวเราะและรอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนบ่งบอกว่าพวกเขามีความสุขแค่ไหนกับวันพักผ่อนนี้ แต่คนที่ดูมีความสุขที่สุดน่าจะเป็นภาคีและลลิตา คำอวยพรและคำยินดีมากมายหลั่งไหลมาไม่หยุด หลังจากที่ทั้งคู่ได้ลงภาพการขอแต่งงานเมื่อคืนและเมื่อเช้า “ขอบคุณนะคะ” ลลิตาขอบคุณเขาอีกครั้งในตอนที่เธอกับเขากำลังอยู่กลางฝูงปลาตัวเล็กที่รายล้อมตัวเธอและเขา ฝูงปลาก็กำลังอวยพรพวกเขาอยู่เช่นกัน “รักมาก” ภาคีพูดพร้อมทั้งกดริมฝีปากแนบชิดกับริมฝีปากนุ่ม ภาพหวานถูกบันทึกไว้ด้วยเหล่าเพื่อน ๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดีไม่ต่างจากฝูงปลาทั้งสองยืนอยู่หน้าที่เก็บอัฐิของพ่อแม่ลลิตา หลังจากที่พ่อเสียชีวิต เธอก็นำอัฐิบาง
“จะไปอาบน้ำแล้วค่ะ หิวแล้ว คนอื่นออกมากันแล้วมั้งคะ” นัดกันไว้กับสาว ๆ ว่าจะถ่ายรูปชุดว่ายน้ำสวย ๆ ถ้าสายกว่านี้กลัวว่าอากาศจะร้อนจนถ่ายรูปไม่ไหว “ไปอาบน้ำทั้งแบบนี้แหละ คาไว้อย่างนี้ก็เสียวดี” “อ๊า อีพี่คีย์ แกล้งลิตาทำไม” ลลิตาโวยวายเมื่อเขาลุกขึ้นพร้อมทั้งพาเธอลุกด้วย จากนั้นก็กระแทกเสยพร้อมทั้งยกเธอขึ้นให้ส่งแรงกระแทกเข้ามาหาเขา ข้อดีที่เขาตัวใหญ่และแข็งแรง ท่านี้เธอจึงไม่ต้องกังวลว่าจะล้มไปกองที่พื้น “แกล้งอะไร หนูชอบจะตายท่านี้ น้ำแตกแล้วเห็นไหม” ก็เป็นอย่างที่เขาพูด เธอแตกอีกรอบ สั่นสะท้านไปทั้งร่าง เช้านี้เธอเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด เพราะตั้งใจจะรีดน้ำเขาตั้งแต่เช้า สุดท้ายได้จากเขาแค่น้ำเดียว ส่วนเธอเสียให้เขาไปกี่น้ำแล้วเนี่ย มากกว่าสามแล้วนะเท่าที่นับได้ส่วนที่นับไม่ได้ก็ปล่อยไป ถือว่าเป็นการมอบกำไรให้ตัวเองแล้วกัน “พี่คีย์ขา พี่คีย์แตกเป็นเพื่อนลิตาหน่อยนะ” เธอขย่มสะโพกเข้าหาเขา “ไม่ พอแล้วยายหื่น ลิตา อ๊า บอกให้พอไง อ๊า”ลลิตายังขย่มใส่เขา ไม่สนใจคำห้ามปรามที่แสนไม่จริงจังของเขา ร่างหนากลับมานั่งบนเตียงนุ่มอีกครั้ง ปล่อยให้ยา
ค่ำคืนแสนเร่าร้อนผ่านไปด้วยบทรักร้อนแรง บนเรือยอชต์ที่แทบไม่มีความรู้สึกโคลงเคลง แต่ลลิตากลับเหมือนล่องลอยไม่หยุด เพราะความเสียวซ่านที่ได้รับตั้งแต่ทั้งสองกลับมาถึงห้องนอนส่วนตัว ส่วนคู่อื่นก็ต่างแยกย้ายไปยังเรือของตัวเองที่จอดไม่ห่างกันลลิตาตื่นขึ้นมาตอนเช้าเพราะสิ่งที่ตอดมือของเธออยู่ วันหยุดแบบนี้ไม่ต้องคิดอะไรมาก เธอต้องตอบแทนการขอแต่งงานสุดโรแมนติกนี้ วันนี้อย่างน้อยเธอต้องตอบแทนเขาสักสองสามน้ำ หรือจะมากกว่านั้นดีแค่คิดร่องรักก็ชื้นแฉะแล้ว นี่ใช่ไหมที่เขาว่า แค่คิดก็น้ำเดินแล้ว ให้มันได้อย่างนี้สิ เธอชอบเซ็กซ์ของเขาเหลือเกิน ไม่ใช่แค่เซ็กซ์เท่านั้น สำหรับภาคีแล้วเธอชอบทุกอย่างที่รวมเป็นตัวเขาผู้ชายหน้าดุแสนใจดีคนนี้ ไม่รู้จะชอบทำหน้าดุทำไมกัน‘ปู่เทกแกหน้าดุมาก’ คำพูดของศศิตาในวันนั้นเธอยังจำได้ดี ทำไมทุกคนมองว่าเขาหน้าดุ ทั้ง ๆ ที่เธอเห็นแต่คนน่ารัก ‘น่ารักออก’ เธอบอกเพื่อนไปอย่างที่ตัวเองคิด‘น่ารักกะผีน่ะสิ ถ้าบอกว่าหล่อน่ะใช่ แต่หล่อแบบดุ ๆ’ “ดุจริงด้วย” ลลิตาพึมพำกับตัวเองในขณะที่มองหน้าคนที่นอนหลับ แต่บางสิ่งบางอย่างกลับไม่หลับ บางสิ่งกำลังตื่นและสู้มือเธอกลับ ยิ่งเธอบ