แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
อวิ๋นฝูหลิงจ้องลูกพี่อู๋หนึ่งครั้ง

เด็ดเดี่ยว กล้าหาญ อีกทั้งสามารถทำให้ลูกน้องเชื่อฟัง เชื่อใจ และทำตามได้

ถือเป็นคนเก่ง

คนที่มีความสามารถเช่นนี้หากยอมศิโรราบต่อนาง รับใช้นาง ต่อไปต้องเป็นผู้ช่วยที่ดี

อวิ๋นฝูหลิงที่ได้ลูกน้องใหม่สี่คน สั่งให้พวกเขาไปตามหาแหล่งน้ำและเก็บฟืนทันที

อวิ๋นฝูหลิงถือคติตบหัวแล้วลูบหลัง จึงแจกจ่ายถุงยาให้พวกเขาคนละหนึ่งอัน

ถุงยานี้อวิ๋นฝูหลิงปรุงขึ้นอย่างตั้งใจ เมื่อสวมใส่ติดตัวจะมีสรรพคุณขับไล่งูและแมลง เป็นสิ่งจำเป็นเมื่ออยู่ในป่าในเขา

ก่อนหน้านี้อวิ๋นฝูหลิงพาอวิ๋นจิงมั่วไปมาในป่าอย่างตามใจ เพราะมีถุงยานี้ติดตัวทั้งสอง

เมื่อพวกของลูกพี่อู๋รู้ว่าถุงยาสามารถขับไล่งูและแมลง รู้ว่านี่เป็นของดีจึงรีบสวมติดตัวทันที

ความขุ่นเคืองที่ต้องกินยาถอนพิษเพราะไม่มีทางเลือก จึงค่อยสลายไปบ้าง

เมื่อมีพวกลูกพี่อู๋ไปตามหาฟืนและแหล่งน้ำ มือหนึ่งของอวิ๋นฝูหลิงจูงอวิ๋นจิงมั่ว ส่วนอีกมือหนึ่งถือฟืนที่เพิ่งเก็บได้เมื่อครู่ จากนั้นย้อนกลับไปจุดที่ชาวบ้านรวมตัวกัน

หลังจากเซียวจิ่งอี้จัดการแผลบนร่างกายเสร็จแล้ว เขาแหวกพงหญ้าและมองเห็นแผ่นหลังของอวิ๋นฝูงหลิงพอดี

เขากำขวดยาที่อวิ๋นฝูหลิงให้เขาเอาไว้แน่น

เมื่อโรยยาผงลงไปบนบาดแผล เพียงไม่กี่อึดใจ เลือดพลันหยุดไหล

ฤทธิ์ในการห้ามเลือดดีกว่ายาของหมอหลวงที่เขาเคยใช้เสียอีก

หากในกองทัพมียาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะสามารถช่วยชีวิตทหารได้มากน้อยเพียงใด

เซียวจิ่งอี้ครุ่นคิดสักครู่ ทันใดนั้นฝืนลุกขึ้นยืน เขาเก็บกวาดร่องรอยของตัวเองให้เรียบร้อย จากนั้นจึงตามไปยังทิศทางที่อวิ๋นฝูหลิงจากไป

อวิ๋นฝูหลิงกลับไปจุดที่ชาวบ้านรวมตัวกัน จากนั้นหาที่ว่าง ตากฟืนที่นางไปเก็บกลับมา

นางกำลังยุ่งอยู่ ทันใดนั้นได้ยินเสียงกรีดร้องตกใจ

“เสียวเป่า เจ้าเป็นอะไรไป? อย่าทำให้แม่ตกใจเช่นนี้นะ”

อวิ๋นฝูหลิงหันมองตามเสียง เห็นหญิงที่มีอายุราวยี่สิบสี่ยี่สิบห้าคนหนึ่ง อุ้มเด็กชายอายุเจ็ดแปดขวบร้องตะโกนเสียงดัง

ชาวบ้านเห็นดังนั้น จึงรีบล้อมวงกันเข้ามาทันที

อวิ๋นฝูหลิงสั่งอวิ๋นจิงมั่วให้อยู่ที่เดิมอย่าไปไหน จากนั้นแหวกผู้คนให้แยกออกแล้วเข้าไปตรวจดู

เห็นเพียงเด็กชายคนนั้นใบหน้าขาวซีด อ้าปากกว้างแต่พูดไม่ได้ ลมหายใจอ่อนแรง

ตรงขาของเขามีพุทราเขียวหลายลูกกระจัดกระจาย

ตอนกินพุทราเด็กคนนี้คงไม่ระวัง พุทราจึงไปติดอยู่ในลำคอ ทำให้เขาขาดอากาศหายใจ

หากไม่รีบนำสิ่งที่ติดอยู่ในลำคอออกมา ขาดอากาศหายใจแค่ไม่กี่นาทีก็อาจตายได้

อวิ๋นฝูหลิงกำลังจะเข้าไปช่วย พอเหลือบมองกลับเห็นชายผ้าแพรชุดดำคนหนึ่ง ชายหนุ่มดูเหมือนคนอายุยี่สิบกว่าปี

ชายคนนั้นเบียดอวิ๋นฝูหลิงออก จากนั้นรีบเข้าไปตรวจดูอาการของเด็กชาย

ด้านหลังเขามีแม่นางน้อยอายุสิบสี่สิบห้าปีตามหลัง นางสวมชุดสีชมพูอมแดง ตรงหน้าอกสวมสร้อยอิงลั่วทอง ดูแล้วมีสง่าราศีสูงส่ง

แม่นางน้อยตะโกนเสียงดัง “หลีกทางหน่อย พี่ชายข้าเป็นหมอ ให้พี่ชายข้าดูอาการของเขา”

เมื่อทุกคนได้ยินว่าชายหนุ่มคนนั้นคือหมอ ต่างหลีกทางให้เขาจนกลายเป็นพื้นที่กว้าง

ครอบครัวของเด็กชายเสมือนมองเห็นความหวัง ต่างมองชายหนุ่มอย่างคาดหวัง

เมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นว่ามีหมอรักษา จึงไม่คิดจะลงมือ เดินไปดูเหตุการณ์อยู่ด้านข้าง

ชายหนุ่มคนนั้นทั้งรักษาทั้งสอบถามอาการ หลังจากผ่านไปสักครู่จึงเอ่ยขึ้น “น่าจะกินพุทราแล้วไปติดอยู่ที่ลำคอ เมื่อหายใจไม่สะดวก ทำให้พูดไม่ออก”

พูดจบเขาก็กางฝ่ามือออก จากนั้นออกแรงตบลงไปที่หลังเด็กชาย

“ไอแรงๆ ถ้าพุทราหลุดออกมาก็จะดีขึ้นเอง”

ทำอยู่เช่นนี้สามสี่ครั้งก็ไม่เห็นผล

จากหมอหนุ่มได้ให้พ่อของเด็กชายช่วยเหลือ โดยการจับขาทั้งคู่ของเด็กชาย แล้วกลับหัวห้อยลงมา

อยากใช้วิธีนี้ทำให้พุทราหลุดออกมา

ทว่ายังคงไม่เห็นผล

อวิ๋นฝูหลิงมองดูจนต้องขมวดคิ้ว

โดยทั่วไปการขาดอากาศเพียงห้าหกนาที จะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ต่อให้ช่วยกลับมาได้ ก็ส่งผลกระทบทางร่างกาย

เวลาช่วยเหลือที่ดีที่สุดคือห้านาทีแรก

เมื่อถูกหมอหนุ่มกระทำการเช่นนั้น ได้เสียเวลาไปมากกว่าครึ่งแล้ว

หากไม่รีบช่วยเหลือ อาจพลาดเวลาที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือ ถึงตอนนั้นทำสิ่งใดก็ไร้ประโยชน์

ขณะนี้ใบหน้าของเด็กชายเปลี่ยนจากขาวซีดเป็นเขียวอมม่วง ลมหายใจยิ่งอ่อนแรงลง

ดูเหมือนหมอหนุ่มจะหยุดการรักษาแล้ว เขาส่ายหน้า พร้อมเอ่ยอย่างหนักหน่วง “ช่วยไม่ได้แล้ว”

ได้ยินดังนั้น พ่อแม่และย่าของเด็กชายอุ้มเด็กเอาไว้แล้วร้องไห้เสียใจ

เมื่อแม่ของเด็กชายเสียใจ ทันใดนั้นจึงหันไปทุบตีเด็กหญิงอีกคนที่อายุสิบกว่าปี

“เป็นเพราะเจ้า หากเจ้าไม่เอาพุทราให้เสียวเป่ากิน เสียวเป่าจะตายได้อย่างไร?”

เด็กหญิงร้องไห้พร้อมอธิบาย “เขาแย่งพุทราของข้าไปเอง...”

แม่ของเด็กหญิงรีบปกป้องนาง “น้องสะใภ้ เรื่องนี้จะโทษต้ายาได้อย่างไร เจ้าไร้เหตุผลเกินไปแล้ว”

ชั่วขณะนั้น เสียงทะเลาะกันดังสนั่น เหตุการณ์ชุลมุนไปหมด

อวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าจะเสียเวลาช่วยเหลือไม่ได้แล้ว ทันใดนั้นจึงก้าวไปข้างหน้า อุ้มเด็กชายมาจากอ้อมกอดของผู้เป็นย่า

ย่าของเด็กชายรีบห้ามปราม “เจ้าจะทำอะไร?”

อวิ๋นฝูหลิงสายตาเยือกเย็น “หากไม่อยากให้หลานเจ้าตาย อย่าขัดขวางข้า”

ย่าของเด็กชายตกใจกับท่าทางของอวิ๋นฝูหลิง จึงลืมห้ามไปชั่วขณะ

อวิ๋นฝูหลิงรีบสอดแขนเข้าใต้รักแร้ทั้งสองข้างของเด็กชาย แล้วโอบกอดเขาไว้

จากนั้นมือซ้ายกำเป็นหมัด จากนั้นวางนิ้วโป้งและนิ้วชี้เอาไว้ในตำแหน่งเหนือสะดือเด็กชายสองนิ้ว มือขวาจับข้อมือซ้ายไว้

จากนั้นกระชับวงแขน ใช้กำปั้นตรงนิ้วชี้และนิ้วโป้งกดลงไปบนท้องของเด็กชาย

นี่เป็นวิธีหัตถการไฮม์ลิคช์ที่อวิ๋นฝูหลิงเห็นได้ทั่วไปในชาติที่แล้ว ซึ่งเป็นวิธีช่วยเหลือยามฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในลำคอ

ผู้ใหญ่บ้านโจวได้ข่าว จึงรีบเข้ามาห้ามคนตระกูลเฉินที่กำลังทะเลาะกัน

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ไม่อยากช่วยชีวิตเด็กแล้วหรือ แม้แต่คนบ้านเดียวกันยังทะเลาะกันอยู่ได้”

ผู้ใหญ่บ้านโจวเห็นอวิ๋นฝูหลิงกำลังให้การช่วยเหลือ แม้จะไม่รู้ว่าวิชาแพทย์ของนางเป็นอย่างไร แต่เห็นนางควบคุมสถานการณ์ได้จึงไม่ให้ใครรบกวน

สะใภ้รองเฉินแม่ของเด็กชายนั่งลงบนพื้น แล้วตบขาร้องไห้เสียงดัง “เสียวเป่าของข้า เสียวเป่าที่น่าสงสารของข้า แม้แต่หมอยังบอกว่าช่วยไม่ได้แล้ว...”

หมอหนุ่มติงหมิงรุ่ยเห็นว่าคนที่เขาบอกว่าช่วยไม่ได้แล้วยังมีคนเข้าไปช่วย หนำซ้ำคนผู้นั้นยังทำทรงผมอย่างหญิงที่ออกเรือนแล้ว

วิธีการช่วยคนก็ประหลาดมาก เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

แม้ปากเขาจะไม่พูดสิ่งใด แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและไม่เห็นด้วย

ลมหายใจของเด็กชายถูกอุดตัน สิ่งแปลกปลอมในลำคอไม่หลุดออกมา อย่างมากในเวลาหนึ่งถ้วยชาต้องตายแน่นอน

อาการเช่นนี้ เมื่อก่อนเขาเคยเห็นมาหลายครั้ง สุดท้ายต้องขาดอากาศหายใจตายทุกคน

เขาไม่เชื่อว่าหญิงสาวที่ออกเรือนแล้วจะมีปัญญาช่วยให้รอดมาได้

ติงหมิงรุ่ยมองดูอย่างเงียบเชียบ ทว่าหญิงสาวข้างกายเขากลับเอ่ยขึ้น

“พี่ชายข้าเป็นหมอเทวดาหนุ่มที่มีชื่อเสียง อายุสิบห้าก็ออกตรวจที่สำนักได้แล้ว แม้แต่เขายังบอกว่าช่วยไม่ได้ หญิงบ้านนอกคนหนึ่งจะช่วยได้อย่างไร”

“นี่ เจ้าอย่าเสียแรงเปล่าเลย!”

เด็กสาวสีหน้าโอหัง แววตาที่หันมองอวิ๋นฝูหลิงไม่ยี่หระสักนิด
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 656

    เมื่อหลิงโหยวมองหนังสือสัญญาตรงหน้าให้ชัดเจนแล้ว มือทั้งสองก็สั่นระริกขึ้นมาในชั่วพริบตา จนเกือบจะถือกระดาษบาง ๆ แผ่นนั้นไม่อยู่นี่เป็นหนังสือสัญญาที่อวิ๋นฝูหลิงมอบให้เขา ในหนังสือสัญญาเขียนไว้ว่าต่อไปผลกำไรจากสำนักช่วยชีพในทุก ๆ ปีจะเป็นของเขาหนึ่งส่วนอย่าเห็นว่ามีเพียงแค่หนึ่งส่วน ว่ากันตามรายรับของสำนักช่วยชีพแล้ว เงินจำนวนนี้เป็นตัวเลขไม่น้อยเลยค่าจ้างสิบปีของหลิงโหยวในยามนี้ ยังมีมากไม่เท่าเงินหนึ่งส่วนนี้เลยหลิงโหยวตาแดงระเรื่ออย่างอดไม่ได้ ความรู้สึกปั่นป่วนไปมา ในลำคอก็เหมือนมีก้อนสำลีอัดแน่น พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะผ่านไปพักหนึ่ง เขาถึงหาเสียงของตนเองเจอในที่สุด“คุณหนูใหญ่ นี่มันมีค่ามากเกินไป บ่าวรับไว้ไม่ได้หรอกขอรับ!” หลิงโหยวดันหนังสือสัญญากลับไปอวิ๋นฝูหลิงห้ามเขาไว้ แล้วนำหนังสือสัญญาไปวางไว้ด้านหน้าหลิงโหยวอีกครั้ง“ท่านลุงหลิง นี่เป็นสิ่งที่ท่านลุงควรได้รับ”“ถ้าไม่ใช่ว่ามีท่านคอยช่วยข้าจัดการดูแลสำนักช่วยชีพ ตัวข้าคนเดียวจะไปทำได้อย่างไร?”“อีกทั้งที่กิจการสำนักช่วยชีพรุ่งเรืองได้อย่างในทุกวันนี้ ก็เป็นความดีความชอบท่านลุงหลิงด้วย!”การที่สำนักช่วยชีพที

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 655

    ปีนี้ได้อาศัยวาสนาของพระชายาอี้อ๋อง หลาย ๆ ครัวเรือนจึงมีเงินเก็บอยู่ในมือขึ้นมาบ้างเมื่อมีเงินเหลืออยู่ในมือ กอปรกับมาถึงสิ้นปีแล้ว ย่อมอยากฉลองปีใหม่ดี ๆ สักหนขณะที่ทุกคนกำลังคิดวางแผนว่าปีนี้จะซื้อของอะไรมาเตรียมสำหรับวันปีใหม่ อยู่ ๆ ผู้ดูแลที่ดินก็ตีฆ้องเรียกให้ทุกคนไปรวมตัวกันที่หน้าหมู่บ้านมีคนรั้งตัวผู้ดูแลที่ดินไว้ แล้วเอ่ยถาม “จะให้พวกเราไปทำอะไร?”ผู้ดูแลที่ดินหัวเราะพลางกล่าว “พวกเจ้าไปถึงก็จะรู้เอง”ทุกคนเห็นว่าใบหน้าของผู้ดูแลที่ดินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จึงคาดเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องดีทุกคนเกาะกลุ่มกันเดินไปยังหน้าหมู่บ้าน แล้วจึงได้เห็นว่าที่หน้าหมู่บ้านมีรถเข็นจอดอยู่หลายคัน ทั้งมีคนกำลังขนของลงจากรถเมื่อได้มองดูให้ดี ก็มีทั้งเนื้อ ทั้งสุรา ทั้งผ้าทุกผู้คนยืนจับกลุ่มกันเป็นกระจุก ๆ ขณะที่กำลังกระซิบกระซาบพูดคุยกันอยู่ ทันใดนั้นเสียงตีฆ้องก็ดังขึ้น บุรุษรูปร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่งเดินออกมาครั้นทุกคนเงยหน้าขึ้นมา ก็จำได้ทันทีว่าบุรุษผู้นี้คือผู้ดูแลที่อยู่ใต้บัญชาของพระชายาอี้อ๋อง แซ่อู๋กิจธุระของสวนสมุนไพรบนเขาทุกอย่าง ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของเขาลูกพี่อู๋เดินฝ่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 654

    นี่ก็เป็นโอกาสที่จะดึงคนใต้บังคับบัญชามาเป็นพวก และซื้อใจคนเช่นกันหากไม่มอบประโยชน์ในเรื่องทรัพย์สินเงินทองให้ แล้วใครจะไปยอมถวายชีวิตให้เจ้าสุดหัวใจเล่า?นอกจากเงินค่าจ้างที่ได้รับตามปกติแล้ว ยังได้รับสวัสดิการพิเศษอีกก้อนหนึ่ง ใครบ้างจะไม่ดีใจ?ครั้นได้รับประโยชน์อันจับต้องได้ เข้าใจแล้วว่าอยู่กับนางแล้วทำงานได้เงิน ทั้งมีเนื้อให้กิน ย่อมทุ่มทำงานกับนางสุดหัวจิตหัวใจแน่หลังจากอวิ๋นฝูหลิงไตร่ตรองคร่าว ๆ อยู่ในใจ และเมื่อเซียวจิ่งอี้กลับมาในยามเย็นแล้ว อวิ๋นฝูหลิงจะหารือกับเขาเรื่องมอบสวัสดิการให้คนใต้บังคับบัญชาเมื่อก่อนเซียวจิ่งอี้ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลยเรื่องยิบย่อยเช่นนี้ ล้วนมีพ่อบ้านฝูคอยจัดการเขาขบคิดเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ข้าจำได้ราง ๆ ว่าช่วงวันปีใหม่จะมีการมอบเงินเบี้ยเลี้ยงจำนวนหนึ่งเดือนให้”อวิ๋นฝูหลิงทราบเรื่องนี้มาจากพ่อบ้านฝูแล้ว จึงพยักหน้าพลางกล่าว “เมื่อก่อนเป็นเช่นนี้จริง”“แต่ปีนี้ไม่เหมือนกัน ท่านแต่งข้าเข้ามา ทำให้ในจวนอ๋องมีนายหญิงแล้ว แน่นอนว่าต้องมีบรรยากาศอะไรใหม่ ๆ บ้าง”“มิเช่นนั้นก็จะไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของข้า จะมีข้าอยู่ในจวนอ๋องหรือไม่ล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 653

    ตรวจฎีกามาตลอดทั้งเช้า ฮ่องเต้จิ่งผิงทรงกำลังเหนื่อยอยู่บ้างพอดียิ่งไปกว่านั้นเมื่อลองดูชั่วยามแล้ว อีกไม่นานก็ถึงยามกินข้าวกลางวันเซียวจิงมั่วมาหาในยามนี้ ก็จะได้ร่วมกินข้าวกลางวันกับเขาพอดีหลังเซียวจิงมั่วเข้ามาในตำหนัก ก็ทำการคารวะและถวายพระพรตามธรรมเนียมฮ่องเต้จิ่งผิงแย้มสรวลพลางโบกมือให้เซียวจิงมั่ว “ไม่ต้องมากพิธีไป เข้ามาให้เสด็จปู่ดูหน่อยเร็ว”เซียวจิงมั่วก้าวไปด้านหน้าตามพระกระแสรับสั่งยิ่งมองดูเซียวจิงมั่วพระราชนัดดาผู้นี้ ฮ่องเต้จิ่งผิงก็ยิ่งทรงรักใคร่รูปโฉมของเซียวจิงมั่วนั้นเป็นการรวมเอาข้อดีของเซียวจิ่งอี้กับอวิ๋นฝูหลิงเข้าด้วยกัน แม้จะอายุน้อย ก็ดูออกว่าวันข้างหน้าจะต้องกลายเป็นคุณชายรูปงามสง่าผู้หนึ่งแน่นอนอีกทั้งเด็กน้อยผู้นี้ก็ไม่มีดีเพียงแค่รูปโฉมเท่านั้น ทว่ายังฉลาดเฉลียวอีกด้วย หลายวันมานี้ยามที่เข้าไปในห้องทรงพระอักษร ฮ่องเต้จิ่งผิงก็มักจะได้ยินเหล่าอัครมหาเสนาบดีที่มาสอนวิชาแก่เหล่าองค์ชายและพระราชนัดดาเอ่ยปากชมเซียวจิงมั่วอยู่หลายครั้งอายุน้อยเพียงเท่านี้ ก็โดดเด่นกว่าลูกผู้พี่ที่อายุมากกว่าเขาเสียแล้วมีพระราชนัดดาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ในใจฮ่อ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 652

    พระราชนัดดาองค์อื่นที่ได้รับเกียรติเช่นนี้ มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นครั้นหันมองครอบครัวตนเอง ก่อนหน้านี้ไม่นานองค์ชายสามเพิ่งถูกฮ่องเต้จิ่งผิงติเตียนไป ทั้งยังกักตัวเขาไว้ในจวนอ๋องพระชายาองค์ชายสามรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจมากเป็นพิเศษในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ หากมิใช่เพราะต้องการเลี่ยงมิให้ผู้อื่นจับผิด แล้วกุมจุดอ่อนของจวนองค์ชายสามไว้ได้อีก วันนี้พระชายาองค์ชายสามคงไม่เหยียบย่างมาถึงที่นี่แน่ก็แค่งานเลี้ยงวันเกิดของเด็กคนหนึ่งเท่านั้นอีกทั้งมิใช่งานเลี้ยงใหญ่โตที่มีความหมายพิเศษอันใด ควรค่าแก่การที่นางซึ่งเป็นถึงผู้อาวุโสมากกว่าต้องมาร่วมงานถึงที่นี่เชียว?จนใจที่ยามนี้สถานการณ์ของจวนองค์ชายสามมิสู้ดี กอปรกับเจ้าเด็กน่าชังอย่างเซียวจิงมั่วได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้จิ่งผิง หลายครั้งหลายคราวก่อนหน้านี้ถึงขั้นพาเขาไปท้องพระโรงด้วย หลังจากพระชายาองค์ชายสามหารือกับองค์ชายสามแล้ว จึงตัดสินใจพาบุตรชายมาเยี่ยมเยือนถึงที่นี่สักครั้งเป็นการดีที่จะได้แสดงให้ฮ่องเต้จิ่งผิงเห็นถึงความรักความเมตตาที่พวกเขามีต่อหลานชายงานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ เซียวจิงมั่วเฉลิมฉลองอย่างสุขใจเป็นพิเศษ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 651

    ผู้คนส่งเสียงจอแจ พูดคุยกันสนุกสนานครื้นเครงเซียวคังถูกเบียดไปยังอีกฝั่งฟาก ครั้นเห็นเซียวจิงมั่วจูงเสือตัวหนึ่งออกมาจริง ใบหน้าก็ประเดี๋ยวดำประเดี๋ยวแดงด้วยความอับอายแม้เสือขาวตัวนี้จะเป็นเพียงเสืออ่อนวัย ทว่าก็เป็นเสือจริงๆ!เซียวลี่เห็นเซียวคังสีหน้าดูไม่ได้ พลันก็เหมือนจะรู้สึกยินดีปรีดาขึ้นมาก็ไม่ปาน เขาเท้าเอวพลางกล่าวว่า“ใครกันนะที่บอกว่าจิงมั่วของพวกเราพูดโกหกหลอกลวงผู้อื่น?”ว่าจบ เขาก็แค่นเสียงร้องเฮอะแรง ๆ ไปทางเซียวคัง จากนั้นจึงทำหน้าทะเล้นเซียวคังโมโหจนใบหน้าแดงเถือกเขาลอบกัดฟันกรอด ในใจทั้งเดือดดาลทั้งเกลียดชังเลื่อนสายตาไปอยู่ที่เสือขาวน้อยตัวนั้น ในดวงตาพลันประกายแววอาฆาตเคียดแค้นทำไมเซียวจิงมั่วถึงเลี้ยงเสือขาวให้เชื่องได้?ทำไมกัน ไม่เพียงแค่บิดาของเซียวจิงมั่วเท่านั้นที่เหนือกว่าท่านพ่อของตน กระทั่งวันนี้มันก็ยังเหนือกว่าตนด้วย?เขาไม่ยอม!ทุกคนล้วนเข้าไปมุงดูเจ้าเสือขาวตัวน้อยด้วยความประหลาดใจ ไม่มีใครเลยที่สนใจความรู้สึกของเซียวคังหลังจากเหล่าพระราชนัดดาไม่กี่คนที่มีความสัมพันธ์ดี ๆ กับเซียวจิงมั่วได้รับคำอนุญาตจากเขา ก็ยังได้รับเกียรติให้ได้ล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status