แชร์

นางคือภูติผีหรือเทพธิดา

ผู้เขียน: ป่าดอกท้อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-04 15:33:26

มองสภาพบ้านใช่ให้คนอยู่หรือ หยากไย่หนาเตอะตื่นมาสำลักฝุ่นก่อนเลย เสี่ยวเถาถูกตีนางยังอุตส่าห์หาอาหารมาให้จนได้

จางซูฉีถอนหายใจ ลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกออก มองในกระจกทองเหลืองเก่าๆเห็นผู้หญิงคนหนึ่งทาหน้าหนายังกับคนเล่นงิ้วโรงเจเห้อทำไปได้

แต่นางสติไม่ดีนี่นาจะโทษใครล่ะ เสียงท้องร้องประท้วงจึงหันไปถามสาวใช้

"เสี่ยวเถา เสี่ยวจูมีอะไรกินไหมหิวจะตายอยู่แล้ว "

"ไม่มีเพคะ พระชายาท่านๆหายเป็นปัญญาอ่อนแล้วหรือ ดีๆจังเลยหากท่านอ๋องทรงทราบอาจจะๆ" เสี่ยวเถาเห็นนางพูดรู้เรื่องก็ดีใจ

"พอๆๆๆๆ รู้ไปก็เท่านั้นก็เท่านั้นไอ้หน้าโบทอกซ์นั่นชอบบุรุษไม่ได้ชอบสตรี ชายารองเขานางสวยหยาดเยิ้มขนาดนั้นเขายังไม่ชายตาแลเลย แม่นั่นก็กะไรอยากเป็นที่หนึ่งใจจะขาด อยากได้ยกให้เลยเหอะใครต้องการกันเลือดเย็นนัก ที่นี่ที่ไหนกันเสี่ยวเถา"

สองพี่น้องมองหน้ากันพระชายาพูดอะไรแปลกๆฟังไม่ค่อยเข้าใจสักนิด

"จวนด้านหลังเพคะ ห่างจากจวนใหญ่สองลี้ บ่าวจะไปขออาหารแต่มองไปทางไหนก็มีแต่หญ้าคาขึ้นสูงเต็มไปหมด ขออภัยนะเพคะ" เสี่ยเถาเอ่ยเสียงอ่อน

" ช่างเถอะ ลุกไปดูกันเถอะว่าพอหาอะไรใส่ท้องได้บ้าง"

เห็นเสี่ยวเถาถูกใบหญ้าคาบาดจนเลือดออกนางก็ปวดใจ เด็กเพียงนี้ยังจงรักภักดี

เดินออกมาจากกระท่อมถึงจะเป็นกระท่อมก็กระท่อมจวนอ๋องที่มีห้าห้องมุงกระเบื้องเชียวนะ

ถึงแม้ว่าจะเห็นแต่หญ้าคาสูงท่วมหัว มองเห็นรอยทางยาวที่พวกนางถูกลากมาโยนไว้ เฮ้อเดิมทีอีอ๋องนั่นก็ไม่ต้องการแต่งงาน แต่จวนจางดันจับเอาคนปัญญาอ่อนมาแต่งให้เขา

กว่าจะรู้เรื่องว่าไม่ใช่บุตรสาวบ้านใหญ่ก็กราบไหว้ฟ้าดินเสร็จแล้ว หนานกงเยี่ยตั้งใจจะไล่นางแต่พอเปิดผ้าคลุมหน้าก็เปลี่ยนใจเป็นอยากฆ่าทันที

สกุลจางตัวดีเห็นเขาเป็นตัวตลกหรือ หนานกงเยี่ยบีบคอจางซูฉีอย่างแรงจนเด็กนั่นตกใจอาการเลยหนักกว่าเดิม

ยังดีมีสาวใช้ตัวน้อยคอยดูแล

บ้านร้างนี้หลังบ้านเป็นกำแพงสูงด้านหลังเป็นภูเขา มีลำธารสายเล็กจากภูเขาไหลผ่านกระท่อม

"เสี่ยวเถา เสี่ยวจูไปดูลำธารกันเผื่อได้ปลาสักตัว หิวจะตายแล้ว"

สามนายบ่าวเดินไปลำธารมีปลาแหวกว่ายอยู่มากมาย แต่ปัญหาคือจะจับยังไง

จางซูฉีกลับไปในกระท่อมรื้อข้าวของในลังไม้ มีมีดเก่าๆกับจอบเล็กๆอยู่จึงนำออกมา เหลาปลายไม้จนแหลมไล่แทงปลากันสนุกสนาน

นี่คืออิสระไล่ออกมาแล้วไงทางที่ดีอย่ามาตามกลับนะ ได้ปลามาสามตัวก็หากิ่งไม้มาก่อไฟโชคดีบ้านนี้มีห้องครัว

มื้อนี้เป็นอันเรียบร้อย ตะวันตกดินแล้วเสื้อผ้าถูกเอามาโยนไว้ให้ อนาถาแท้ๆฝนก็ทำท่าจะตก

"เสี่ยวเถา เสี่ยวจูเข้าบ้านเถอะ อย่างน้อยที่นี่ก็คุ้มฟ้าคุ้มฝนได้"

ทั้งสามจึงพากันเข้าบ้าน ทางด้านคนในจวนอย่างชายารองก็รอเวลาเก็บศพแห้งของนางอย่างเดียว

ใครก็รู้บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่มาสามสิบปีแล้ว จากหน้าบ้านไปถึงทางประตูหลังจวนใหญ่ยาวเกือบสองลี้

กว่าจะแหวกเอาพวกนางมาโยนทิ้งได้คงลำบากน่าดู อีกอย่างห่างขนาดนี้มีทางเดียวคืออดตาย

หลี่ม่านม่านคงสั่งทุกคนห้ามให้ข้าวให้น้ำนาง ตำแหน่งพระชายาเอกต้องเป็นของนางคนเดียวเหอะใครสนกันฉันต้องหาทางหนีจากที่นี่ให้ได้คอยดู อันดับแรกหาเงินก่อนเลย ไม่มีเงินจะไปไหนได้เล่า

จางซูฉีนอนไม่ค่อยหลับ นางเหนียวตัวมากฝนด้านนอกหยุดแล้ว จึงพยายามค่อยๆย่องกลัวเสี่ยวเถาและเสี่ยวจูจะตื่น

คืนนี้เดือนหงาย จางซูฉีนั่งลงข้างลำธารล้างหน้าเอาแป้งที่หนาเตอะเหล่านั้นออก

ก็มองเห็นใบหน้ากระจ่างใสงดงามของสตรีนางหนึ่ง ดวงตาสุกใสโครงหน้าปากคอคิ้วคางถือว่าสวยที่เดียว

นี่ถ้าไม่เป็นคนปัญญาอ่อนคงมีหนุ่มมาติดพันมากมาย จางซูฉีค่อยๆล้างเนื้อล้างตัว จากนั้นก็ถอดอาภรณ์ลงอาบน้ำในลำธารแหวกว่าย

ที่นี่คือตำหนักอ๋องมีกำแพงสูงกั้นไว้ ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้ อาบน้ำจนรู้สึกสะอาดผิวที่เคยกระดำกระด่างจากการไม่เคยดูแลตนเองถูกล้างจนนวลเนียน ร่างเดิมเป็นคนสวยมาก นางโชคดีที่ได้ร่างนี้มาครอง

สวมเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อยก็นั่งลงบนโขดหินใช้มือสยายผมที่เพิ่งจะสระเสร็จ ใบหน้าหวานงดงามราวเทพธิดามาลงเล่นน้ำ

หนานกงเยี่ยดีดตัวผ่านยอดไม้หลังจากตามจับสายลับชาวซ่งสำเร็จกำลังจะกลับตำหนัก แต่เขาไม่เคยจำว่าตรงนี้คือที่ไหน

จวนของเขาเป็นเสด็จพ่อประทานมาให้ตอนนี้เสด็จพี่ครองราชย์ อีกอย่างตำหนักอ๋องแห่งนี้กว้างขวางมากเขาเดินไม่เคยทั่ว

มีเพียงตำหนักหลักและเรือนรับรองอีกหลายหลัง มีสวนผลไม้และสวนดอกไม้ แต่ที่ดินตรงนี้ไกลออกมาจากตำหนังใหญ่ห้าลี้ห่างจากกำแพงจวนสองลี้

เขาไม่เคยรู้มีมันอยู่และที่สำคัญมันอยู่ติดเชิงเขา ครั้งก่อนที่ไท่ซ่างหวงยังเป็นรัชทายาทก็สั่งล้อมกำแพงอิฐทั้งจวน จนมาถึงที่นี่เพราะด้านหลังติดภูเขาเพราะ กลัวว่าอาจมีสัตว์ป่าบนเขาลงมาทำร้ายคนในเรือนได้

ตอนนั้นฮองเฮาชอบมาพักกับบุตรชายคนเล็ก หนานกงเยี่ยสั่งองครักษ์ให้โยนพวกนางที่เรือนท้ายจวน

เขาหมายถึงตำหนักเล็กทิศตะวันตกที่เรียกว่าจวนท้ายเรือน ไม่ใช่เรือนท้ายสวน

แต่สือห่าวกับสืออินเข้าใจผิดนำนางมาโยนเรือนท้ายสวนที่ติดเชิงเขาที่คนทั้งจวนลืมไปแล้วว่ามีมันอยู่ หนานกงเยี่ยไม่รู้เรื่องที่คนของเขารับคำสั่งผิดพลาด

หนานกงเยี่ยที่กำลังดีดตัวจากยอดไม้เพื่อจะกลับตำหนักของเขา เผลอมองลงมาก็เห็นสตรีงดงามนั่งอยู่บนโขดหินกลางแสงจันทร์นวลผ่อง

นางเงยหน้ามองท้องฟ้าเขาสบตานางพอดีแต่เหมือนนางไม่เห็นเขา หนานกงเยี่ยเหมือนถูกมนต์สะกด

กลับคิดไปว่าเสมือนนางมองเขาต้องการให้เขาเข้าไปหา นี่คือสิ่งที่หนานกงเยี่ยนเห็นและคิด

"งามยิ่งนัก นางเป็นเทพธิดาหรือว่าภูตผีกันแน่"

ความจริงแล้วจางซูฉีที่เงยหน้ามองท้องฟ้าอยู่นั้นที่จริงนางกำลังด่าสวรรค์อยู่รวมถึงตัวเขาด้วย

"เฮ้อชีวิตเฮงซวย สวรรค์ท่านจะเฮงซวยไปถึงเมื่อไหร่ ตัวช่วยมีมั้ยมิติหรือซูเปอร์มาเก็ต หรือมิติเก็บของอะไรแบบนี้ ส่งมาเกิดใหม่ทั้งทีก็เจอคนประสาท หน้าฉีดโบท็อกซ์มาหรือไงก็ไม่รู้ สงสัยจะทอกซ์ทั้งตัวเลยมั้งตึงเกิน ข้าอาภัพเรื่องผู้ชายก็จริงแต่ท่านก็ควรหาคนดีกว่านี้ ไม่ใช่ดีแค่หน้าตา เจ๊อยากตายฮือๆๆ"

จากนั้นก็ด่าไปเดินไปกลับมาตามทางนางแหวกดงหญ้าคากลับบ้าน ที่บริเวณนี้คงถูกทิ้งมานานหญ้าคาสูงเกือบสองจั้ง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   ครองรักทุกพบชาติ

    แดนเซียนควันสวีทองลอยขึ้นมายังด้านบนก่อนจะลอยเข้าสู่หว่างคิ้วของหนานกงเยี่ยเทพสงครามที่นั่งรอพระชายาตนอยู่ปากถ้ำ ทันทีที่ดวงจิตเข้าสู่ร่างเขาก็รู้ทันทีว่ามหาเทพถือกำเนิดในแดนมนุษย์แล้วชายาของเขานางกำลังจะออกมาจากการกักตนเพื่อหนีหน้าเขาแล้ว ประตูหินค่อยเลื่อนออกควันสีทองลอยเข้าไปยังด้านในเข้าสู่กลางหว่างคิ้วของเทพบุปผา ไม่นานชิงเหลียนที่หน้าตาเหมือนกันกับจางซูฉีที่แดนมนุษย์ก็เดินออกมาจากด้านใน นางเห็นสวามียืนรอก็เดินตรงมาหา เทพสงครางกางแขาออกให้ชายารักเดินเข้ามาสู่อ้อมกอดเทพบุปผาซบหน้ากับอกกว้าของเขาพร้อมเอ่ยเบาๆ"ฝ่าบาท หม่อมฉันผิดไปแล้ว ที่ผ่านมาหนีหน้าพระองค์ ไร้เหตผลต่อจากนี้จะไม่ทำอีกแล้วเพคะ ตอนอยู่แดนมนุษย์เคยเกือบเสียพระองค์ไปหม่อมฉันรู้แล้วว่าความเจ็บปวดนั้นเป็นเช่นไร""ข้าไม่โกรธเจ้า คนงามของข้าๆเตรียมเรือเรียบร้อยแล้ว รอเจ้าออกมาจากด่านเราจะไปล่องเรือกัน เราจะล่องจากตำหนักเหลียนฮวาาจนไปถึงดินแดนประจิม แล้วจากนั้นข้าจะพาเจ้าไปทะเลตะวันออกดีหรือไม่ หืม""เพคะ หม่อมฉันตามใจพระองค์ ฝ่าบาทชิงเหลียนรักพระองค์เพคะ""คนงามข้าก็รักเจ้า ชิงเหลียนคนดีของข้า"ทั้งคู่ล่องเรือไปตามสระบั

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   กำเนิดบุตรชาย2

    ท้องฟ้าเหนือแคว้นอู๋มีสายรุ้งปรากฎถึงเก้าสาย อีกยังมีเหล่านกน้อยบินวนรอบตำหนักเหมยฮวา ท้องฟ้าเป้นสีทองก้อนเมฆสีรุ้งงามตานัก จากนั้นด้านในจางซูฉีก็คลอดเด็กกออกมา อุแว้ๆๆๆๆ ไม่นานก็มีเสียงทารกดังออกมา"ท่านอ๋อง ไท่จื่อเป็นซื่อจื่อน้อยเพคะ หน้าตาละม้ายท่านอ๋องยิ่งนักเพียงแต่ว่า" แม่นมพูดค้างไว้จนทุกคนมองหน้ากัน หนานกงเยี่ยร้อนใจจึงเอ่ยถาม"แต่ว่าอะไรแม่นมเฟิ่ง ท่านพูดออกมาให้หมด""แต่ว่าเส้นผมของซื่อจื่อน้อยไม่ได้ดกดำเพคะ แต่เป็นสีเงินยวงราวกับหิมะเลยเพคะ เสียงร้องดังมากแปลว่าแข็งแรงดี""ทันทีที่แม่นมเอ่ยจบหนานกงเยี่ยก็รู้ทันทีว่าหน้าที่ของพวกเขาในแดนมนุษย์นั้นสมบูรณ์แล้ว รอเวลาจิตวิญญาณเขาและนางกลับแดนเซียนเท่านั้นหนึ่งชั่วยามต่อมาทุกคนจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปดูจางซูฉีกับบุตรชายได้ หนานกงเยี่ยเห็นหน้าบุตรชายก็ถอนหายใจ เขาต้องเป็นบิดาของคนที่เอาแต่ใจที่สุดในแดนสวรรค์จริงๆหรือ จากนั้นก็ก้มลงไปจุมพิตหน้าผากน้อยๆเบาก่อนจะกระซิบ"ฝ่าบาท อย่างไรก็เป็นบุตรกระหม่อม ดื้อรั้นให้น้อยลงหน่อยนะพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันมีสิทธิ์ตีก้นพระองค์ได้นะพ่ะย่ะค่ะ"ก่อนที่ทารกน้อยจะลืมตาทันทีจ้องหน้าคนที่เพิ่งข่มขู่เ

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   กำเนิดบุตรชาย 1

    หนานกงเช่อไปแล้วบรรดาสาวนั่งจับกลุ่มคุยกันไม่หยุด แต่ละคนอุ้ยอ้ายจนดูน่ารักไปหมด เฉินลี่จูที่ถูกเยี่ยผิงอันอุ้มลงจากรถม้าเดินมาส่งที่ด้านในตำหนักก็อายหน้าแดง"ท่านอาปล่อยข้าลงเดินเองก็ได้นะเจ้าคะ ไม่ได้ไกลสักนิด""เมียจ๋า ดูพื้นสิขรุขระขนาดนี้ หากไม่ระวังอาจหกล้มได้ ไม่รู้ว่าเยี่ยอ๋องทรงคิดเช่นไรถึงได้ปูหินให้มีร่องห่างกัน พื้นไม่เสมอพระชายาก็กำลังตั้งครรภ์ไม่รู้จักระวังเลย"จางซูฉีขำกับความห่วงเมียคลั่งรักเมียของเยี่ยผิงอันหากบอกว่าท่านอาลู่จงได้เมียเด็กก็ไม่ถูกนัก อาลู่อายุสี่สิบ จูชุ่ยชุ่ยอายุย่างสิบแปด แต่เยี่ยผิงอันสี่สิบห้าย่างสี่สิบหก ส่วนเฉินลี่จูอายุสิบหก นางเด็กที่สุดในบรรดาเมียๆของเหล่าบุรุษแห่งวังหลวงเลยล่ะ"ใต้เท้าเยี่ย หากพื้นปูติดๆกันไม่มีร่อง ยามหิมะตก หรือฝนตกพื้นจะลื่น ร่องช่วยให้เวลาเดินไม่ลื่นน่ะ ลี่จูมานั่งกับพี่ก่อน เสี่ยวหรันกับชิงชิงน่าจะกำลังมา""เพคะพระชายา อ้อพี่ผู่เย่วท่านตั้งครรภ์อีกแล้วหรือเจ้าคะ ใต้เท้าสวีจะขยันเกินไปหรือไม่ คนโตยังไม่ได้ขวบเลย คิกๆๆ"ในบรรดาเด็กรุ่นน้องสามสาวแห่งสกุลจิน สกุลเฉินและสกุลว่านนี่คือแสบที่สุด ต่อยตีกับบุรุษไม่เว้นแต่ละวัน"พ

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   เตรียมให้กำเนิด

    เมืองหลวงที่ไม่เคยหลับไหล โคมไฟเรียงรายห้อยเต็มหน้าร้านหน้าบ้านที่ปลูกติดกันยามลมพัดแกว่งไกวไปมาบรรยากาศในเมืองหลวงมีแต่ความสุข ฮ่องเต้กำเนิดพระธิดาสองพระองค์ อีกทั้งตอนนี้ฮองเฮาก็กำลังทรงพระครรภ์ได้สามเดือนแล้วตั้งแต่มาถึงเมืองหลวง ตระกูลหลักหลายตระกูล ตระกูลหลี่ ตระกูลว่าน ตระกูลสวี ตระกูลจิน และตำหนักอ๋องทั้งสอง รวมถึงตำหนักบูรพาขององค์รัชทายาท ต่างจัดเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ เพราะพระชายาไท่จื่อ พระชายาเยี่ยอ๋อง และชินอ๋องรวมถึงบรรดาฮูหยินของใต้เท้าทั้งหลายนั้นตั้งครรภ์พร้อมกันตำหนักบูรพารัชทายาทหนานกงอินกำลังรักเมียสาวอยู่อย่างนุ่มนวลอ่อนโยน เสียวครางแสนหวานของเจียงฟางซินทำให้เขายิ่งรักนางยิ่งขึ้น"ไท่จื่อ เมียไม่ไหวแล้วเพคะพอเถอะ อื้อ ลูกดิ้นอีกแล้วพระองค์ก็ไม่ยอมเลิกสักที ลูกในท้องงอแงแล้วนะเพคะ อร๊าย หนานกงอินเสียวนะ อย่างัดแบบนี้สิคนบ้าข้าตั้งครรภ์อยู่นะ""บอกมาก่อนว่ารักพี่เด็กดีพูดเร็ว ตั้งแต่เข้าหอมาจนถึงวันนี้ยังไม่บอกว่ารักพี่เลย พูดมาคนดี อืม เสียวจริงๆเมียจ๋า อยากให้ผัวเลิกต้องบอกรักผัวก่อน อ่าา""อื้อ รักเพคะ หม่อมฉันเจียงฟางซินรักหนานกงอิน อร๊าย หม่อมฉันเสร็จอีกแล้ว

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   ถึงเมืองหลวง

    ขบวนเดินทางมาได้ครึ่งเดือนแล้ว แวะพักบางจุดเนื่องจากทำผักดองแบะเนื้อรมควันไว้มากมาย อาหารการกินจึงไม่ลำบากมมากนักจางซูฉีไม่ต้องการให้หนานกงเยี่ยไปล่าสัตว์บนเขา ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้คืนนี้พวกเขาแวะพักตรงริมน้ำใกล้เชิงเขา แต่จางซูฉีสั่งเดินทางต่อ หนานกงเช่อจึงไม่เข้าใจเหตุผลของนาง"ฉีเอ๋อร์ พ่อไม่เข้าใจที่เจ้าให้พวกเราเดินทางต่อ นี่ยามเซินแล้วกว่าจะสร้างกระโจมอีก ตรงนี้มีลำธารด้วยสะดวกสบายกว่าไม่ใช่หรือ""เสด็จพ่อ หากเป็นแม่น้ำลำธารที่ไม่อยู่ใกล้เชิงเขาลูกคงไม่ขัดหรอกเพคะ แต่ว่าลำธารนี้ทรงทอดพระเนตรสิเพคะ มีรอยเท้าสัตว์เต็มไปหมด แปลว่านี่เป็นแหล่งน้ำของพวกมัน อีกทั้งยังมีคราบเลือดเป็นจุดๆทั้งรอยเก่ารอยใหม่ แปลว่ามีสัตว์นักล่าด้วย ในขบวนมีคนท้องถึงเจ็ดคน แม้ว่าเหล่าบุรุษจะมีวรยุทธ แล้วนางกำนัลเหล่านั้นเล่าเพคะพวกนางอ่อนแอ เราเสียเวบาเดินทางอีกหน่อยก็ไม่ต้องเสี่ยง ลูกแค่ห่วงความปลอดภัยของทุกคน"เมื่อจางซูฉีชี้แจงเหตุผลจบ ทุกคนก็ยิ่งรีบเดินให้พ้นลำธารไวขึ้น ไม่นานก็เลยเชิวเขามาห้าลี้และเจอเข้ากับแม่น้ำเล็กๆสายหนึ่ง แม่น้ำสายนี้เรือเล็กสามารถสัญจรได้ จึงพากันหยุดพักที่ตรงนั้น"ฉีเอ๋อร์เหนื

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   กลับเมืองหลวง

    ผ่านไปเดือนกว่ารถม้าที่สั่งทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนี้กำลังฝึกม้าที่จะนำมาใช้กับรถม้าอยู่ ใช้เวลาฝึกนานประมาณเกือบเดือน เพราะบรรดาคนที่นั่งในรถม้าคือเหล่าสตรีที่กำลังตั้งครรภ์จินเสี่ยวหรันที่ตอนนี้ไม่ต้องดูแลสวีไค่ไหยุนแล้ว เพราะเขาเริ่มไม่มีอาการแพ้ท้องแบบที่อาเจียนไม่หยุดแล้ว เหลือเพียงแค่ความอยากอาหารเท่านั้นส่วนว่านชิงชิงทุกวันนี้นางกลุ้มใจมาก ว่านอันสุ่ยไม่ยอมห่างนางเลยไม่ยอมให้เดิน ไปไหนก็อุ้มตลอดเวลา บางครั้งเขาก็งอแงเป็นเด็กน้อยห่างนางไม่ถึงชั่วยามก็ตามหาอีกแล้ว จนถูกฮ่องเต้เรียกไปต่อว่าหลายครั้งเพราะเสียงานเสียการ"ใต้เท้าว่าน เราว่าท่านรักเมียเกินไปหรือไม่ งานการมีไม่สนใจทำงานอยู่ดีๆหาเมียไม่เจอก็ทิ้งงาน เจ้ามันตาแก่หลงเมียเด็กจริงๆ""ฝ่าบาท กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ต่อไปจะไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้อีกพ่ะย่ะค่ะ"ว่านอันสุ่ยเสียงอ่อย แต่ฮ่องเต้ตรัสถูกต้องเขาหลงเมียจริงๆแต่แค่ไม่อยากยอมรับ"ใต้เท้าว่าน ข้าเองก็รักเมียไม่แพ้ท่าน แต่งานส่วนงานท่านต้องแยกแยะสักหน่อยนะ"หนานกงอินเยาะว่านอันสุ่ย เขาเถียงไม่ได้เพราะหนานกงอินเป็นถึงรัชทายาท ได้แต่บ่นอุบอิบๆเท่านั้น"ไท่จื่อ ทรงหลงพระ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status