ธารน้ำนั่งนิ่งหลังจากทุกคนทานอาหารเสร็จ หัวใจของเธอมันเต้นไม่เป็นจังหวะอีกทั้งยังมีความหวาดหวั่นกับผู้ชายตรงหน้าอยู่บ้าง
"อย่างที่ผมเคยแจ้งให้คุณอัคนีทราบ ตอนนี้ทางบริษัทของผมกำลังมีปัญหา เรื่องที่ผมเคยเอาบ้านกับบริษัทของภรรยาไปค้ำประกันในการกู้เงิน"ถ้อยคำที่ผู้เป็นพ่อเกริ่นออกมาในแววตาของชายวัยกลางคนไร้ซึ่งความรู้สึกผิด ทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างธารน้ำรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ ท่านทำราวกับว่าบริษัทและบ้านของมารดาจะสามารถเอาไปทำยังไงก็ได้โดยที่ไม่คิดถึงจิตใจของเธอเลยสักนิด "ผมอยากจะขอยื่นเวลาในการชดใช้หนี้" "แต่เงินที่คุณกู้ผมไปมันไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะครับ และไหนจะดอกเบี้ย..." "ธารน้ำจะมาเป็นดอกเบี้ยในระหว่างที่ผมหาเงินมาใช้หนี้ให้กับคุณครับ คุณอัคนี" ครืด "หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ"ธารน้ำไม่สามารถนั่งทนฟังคำพูดของพ่อตัวเองต่อไปไหวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปจากห้องทานอาหารส่วนตัวโดยมีสายตาคนเข้มซึ่งยากจะคาดเดามองตามแผ่นหลังเล็กที่กำลังเปิดประตูเดินออกไป ซ่า เสียงสายน้ำที่ดังขึ้นตรงอ่างล้างหน้าดังก้อง หญิงสาวในชุดเดรสสีสวยมองรูปหน้าของตัวเองผ่านเงาสะท้อนของกระจกบานใหญ่ คำพูดของบิดาเมื่อครู่ไหลผ่านเข้ามาในหัวสมองของเธออีกครั้ง เรี่ยวแรงละพละกำลังที่จะยื่นของเธอนั้นร่อยหรอเต็มที บิดาที่ตัดหางปล่อยวัดเธอมาตั้งหลายปีกำลังจะให้เธอแต่งงานกับผู้ชายที่เธอพึ่งรู้จักไม่ถึงชั่วโมงเพื่อแลกกับเงินนับหลายสิบล้านที่ท่านเอาไปเสวยจนสุกสบายอยู่กับภรรยาคนใหม่เมื่อหลายปีก่อน หนี้ก้อนใหญ่หลายสิบล้านที่เธอไม่ได้เป็นคนสร้าง เงินแม้แต่สตางค์แดงเดียวเธอก็ไม่ได้ใช้ แต่เธอต้องกลายมาเป็นคนที่จะต้องแต่งงานใช้หนี้แทนมันเหมาะสมแล้วใช่ไหม ธารน้ำใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานอยู่หลายนาที ก่อนที่เธอจะเรียกสติให้กลับคืนมาได้ ธารน้ำกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้งและเธอก็หวังว่ามารดาจะมองเห็นความตั้งใจของเธอจากที่ไหนสักที่ ครืด เสียงบานประตูห้องอาหารถูกเปิดออกอีกครั้ง ร่างของธารน้ำชะงักไปทันทีเมื่อเห็นว่ามีแต่ร่างของอัคนีนั่งอยู่ไร้เงาของบิดา "อะ...เอ่อ" "คุณเอกรินทร์กลับไปแล้วล่ะครับ"ชายหนุ่มบอกกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงโทนอ่อนโยนแต่มันกลับทำให้ธารน้ำรู้สึกใจไม่ดีกับการที่บิดาทิ้งเธอเอาไว้แบบนี้ "อยากจะนั่งคุยกันก่อนไหมครับ เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง" "กะ...ก็ได้ค่ะ"เธอรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปนั่งตรงตำแหน่งเดิม บรรยากาศภายในห้องทานอาหารแบบส่วนตัวเงียบสงัดเมื่อต่างคนต่างพากันนั่งเงียบ "ระ...เรื่องแต่งงาน เอ่อคือ" "คุณธารน้ำไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับผมตั้งแต่ทีแรก ผมพูดถูกใช่ไหมล่ะครับ" "มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ เพียงแต่ว่า" "อย่าโกหกกันเลยครับ"ริมฝีปากเรียวสวยเม้มเข้าหากันเมื่ออัคนีพูดเช่นนั้นออกมา "แววตาของคุณมันกำลังฟ้อง"ความละอายใจตีแสกใบหน้าของหญิงสาว เขาคงสังเกตเห็นแววตาและสีหน้าของเธอในก่อนหน้านี้ "ถ้าคุณธารน้ำไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับผม..." "พร้อมค่ะ"อัคนีจ้องหน้าหญิงสาวเมื่อเธอค่อย ๆ เงยหน้าช้อนสายตามองกลับมา "น้ำพร้อมที่จะแต่งงานกับคุณอัคนีค่ะ" "คิดดีแล้วใช่ไหมครับ"ชายหนุ่มในชุดสูทดูดีถามย้ำ "ค่ะ น้ำคิดดีแล้ว"น้ำเสียงหนักแน่นที่ออกจากปากของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มกระตุกยิ้มออกมาได้ ร่างสูงใหญ่หยัดตัวลุกขึ้นยืนทำให้ธารน้ำต้องดันกายลุกขึ้นยืนตาม "ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้คุณคือว่าที่เจ้าสาวของผมแล้วนะครับ คุณธารน้ำ" "..." "ยินดีที่ได้รู้จักกันนะครับว่าที่เจ้าสาวของผม" "ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกันค่ะ"แววตาลึกล้ำจับต้องอยู่ที่ดวงหน้างามตลอดเวลา อัคนียอมรับโดยตรงเลยว่าธารน้ำนั้นตรงกับสเปคของเขาทุกอย่าง ธารน้ำเธอทั้งน่ารักดูเป็นคนนิสัยดี "ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวผมขับรถไปส่ง" "ค่ะ" "เมื่อไหร่จะเปิดเครื่องวะ" ปึง "เหี้ยเอ๊ย"ชายหนุ่มเลือดร้อนสบทออกมาอย่างหัวเสียหลังจากไม่สามารถติดต่อหาแฟนสาวได้ จนทำให้เพื่อนในกลุ่มอีกสองคนต่างหันกันมามอง "เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะไอ้เพลิง" "นั่นดิ ชวนกูมาแดกเหล้าที่ห้องแต่เสือกทำตัวหัวเสียใส่"นักรบลูกชายนักการเมืองชื่อดัง กับ รันเวย์ทายาทเจ้าของสายการบินเพื่อนสนิทรุ่นเดียวกันต่างหันมาให้ความสนใจกับพระเพลิงที่เอาแต่นั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่เพียงคนเดียว "ก็ธารน้ำดิแม่ง ปิดเครื่องใส่กู"พ่อหนุ่มเลือดร้อนยังไม่หยุดหัวเสียใส่แฟนสาว เขาพยายามโทรและส่งข้อความไปง้อเธอแต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ โทรไปเมื่อตอนเย็นก็ตัดสายแถมปิดเครื่องใส่ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน "หึ ทำเวรทำกรรมกับเขาเอาไว้เยอะ สมควรแล้วล่ะที่จะถูกทิ้งผู้ชายอย่างมึง" "นั่นดิ แม่งคิดได้ยังไงวะไปเอากับเพื่อนเมีย" "ก็ตอนนั้นกูเมา ไม่สิยัยบ้านั่นตั้งใจมอมเหล้ากู เวรเอ๊ย"พระเพลิงตอบอย่างไม่ได้นึกสนใจหรือพิศวาสอะไรใบหม่อน คืนนั้นเขาก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็ตอนที่ใบหม่อนเดินเข้ามาขอชนแก้วแล้วนั่งลงตรงที่โต๊ะของเขาหลังจากเพื่อนทั้งสองคนหายไปกับสาว ๆ ของพวกมัน 'มาเที่ยวคนเดียวเหรอเพลิง' 'เปล่า มากับเพื่อน'ชายหนุ่มตอบเพื่อนแฟนสาวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและไม่คิดจะหันไปมองหน้าอีกฝ่าย ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าใบหม่อนพยายามจะเข้าใกล้และจงใจทอดสะพานให้กับเขา 'เย็นชาจังเลยนะ หรือเป็นเพราะว่าฉันไม่ใช่ธารน้ำนายเลยไม่สนใจ' 'จะไปไหนก็ไป ฉันอยากนั่งคนเดียว'ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสวยเม้มเข้าหากัน ใบหม่อนพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ในใจก่อนจะยื่นแก้วเหล้าไปให้กับชายหนุ่มตรงหน้า 'ถ้านายไม่อยากเห็นหน้าฉัน ก็ดื่มเหล้าแก้วนี้ให้หมดสิ แล้วฉันจะไป'พระเพลิงหรี่ตามองแก้วเหล้าในมือของหญิงสาวอย่างชั่งใจ 'ถ้านายไม่ดื่ม ฉันก็จะนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน' หมับ พระเพลิงรีบคว้าแก้วเหล้าจากมือของใบหม่อนขึ้นมาดื่มจนน้ำเมารินไหลลงไปในลำคอจนหมดสิ้น ปึก "ออกไป"ชายหนุ่มกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะพลางกระแทกเสียงใส่ไล่ให้อีกฝ่ายออกไปให้พ้น ๆ เพราะมันคงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ถ้าหากมีคนมาเห็นว่าเขานั่งใกล้กับเพื่อนแฟนสาว "ออกไปได้แล้ว" "หึ ได้สิ ไว้อีกเดี๋ยวเราค่อยเจอกันใหม่"หญิงสาวในชุดเดรสแสะยิ้มร้ายพลางเหลือบสายตามองแก้วเหล้าที่เธอจงใจนำมาให้ชายหนุ่มได้ดื่ม "แม่งเอ๊ย กูพลาดจนได้"ยิงคิดถึงเรื่องในคืนวันนั้นชายหนุ่มก็ยิ่งหัวเสียกับสิ่งที่เขาได้พลาดทำมันลงไป ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงอย่างใบหม่อนจะร้ายกาจได้ถึงขนาดนั้น "หล่อจนผู้หญิงอยากได้ก็ทำใจหน่อยนะ"นักรบหัวเราะแซวอย่างไม่จริงจังมากนัก น้อยครั้งที่พระเพลิงจะพลาดท่าให้กับผู้หญิง อันที่จริงแล้วตั้งแต่ธารน้ำยื่นคำขาดกับเรื่องเจ้าชู้ของพระเพลิง ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะตีสนิทกับผู้หญิงคนไหนจนเลยเถิดไปถึงขั้นเรื่องชู้สาว จะมาพลาดก็ตอนที่เพื่อนรักเพื่อนร้ายอย่างใบหม่อนคิดไม่ซื่อก็ตอนนั้น "อย่าให้กูเจอมันอีกครั้งนะ ผู้หญิงกูก็ไม่เว้น" "ก่อนคิดจะแก้แค้น คิดหาวิธีง้อธารน้ำก่อนไม่ดีกว่าเหรอ"คำพูดของรันเวย์ทำให้พระเพลิงชะงักพลางนึกคิดขึ้นมาได้ "ดูเหมือนว่าครั้งนี้แฟนมึงจะเอาจริงนะไอ้เพลิง" "หึ กูไม่มีวันปล่อยให้ธารน้ำเดินออกไปจากชีวิตของกูเด็ดขาด" "แล้วมึงจะทำยังไงคิดจะง้อธารน้ำด้วยวิธีไหน"ในเมื่อตอนนี้หญิงสาวได้ตัดขาดการติดต่อไม่คิดจะเปิดโอกาสให้เขาได้ง้อ "จะด้วยวิธีไหนก็ช่าง เพราะถึงยังไงกูไม่มีทางเลิกกับธารน้ำเด็ดขาด" "..." "ธารน้ำจะต้องเป็นเมียของกูคนเดียว""ธารต้องกราบขอโทษคุณพ่อด้วยนะคะสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น"เจ้าสัวหิรัญมองหญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงกลางโดยมีลูกชายของตัวเองนั่งขนาบข้างไม่ห่างไปไหนวันนี้คือวันที่ทั้งสามคนก้าวขาเข้ามาพบพร้อมกับอธิบายต้นสายปลายเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นซึ่งมันตรงกับสิ่งที่เขาได้สืบหามาตั้งแต่วันที่เขาได้เห็นภาพถ่ายซึ่งได้ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของลูกชายคนเล็กในวันนั้น"พ่อไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรหนูธารเลยสักนิดหนูไม่ต้องคิดมากนะลูก"เจ้าสัวผู้ใจดียังคงมองหน้าลูกสะใภ้คนดีด้วยแววตาโทนอบอุ่นธารน้ำเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความสามารถการเรียนก็ไม่เป็นสองรองใคร งานบ้านก็เรียกว่าใช้ได้ทั้งซักผ้ารีดผ้าและการทำอาหารคาวหวานที่เขาได้ชิมอยู่บ่อยครั้ง"พ่อดีใจนะที่ลูกชายของพ่อทั้งสองคนได้มีหนูมาช่วยดูแล"คำพูดของท่านเจ้าสัวเรียกรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของหญิงสาวได้"ส่วนน้องเล็ก""ครับ""เรื่องหนูลิลลี่ พ่อจัดการเคลียร์กับทางนั้นให้เรียบร้อยแล้วนะลูกทางนั้นเขาไม่ว่าอะไรอีกทั้งยังเข้าใจดี"เป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับธารน้ำและพระเพลิง เด็กหนุ่มซึ่งกำลังใกล้จะจบการศึกษายิ้มออกมาได้ด้วยความดีใจก่อนจะหันไปคว้าร่างสวยของหญ
หัวใจของธารน้ำในตอนนี้นั้นสั่นเต้นรัวเร็ว แม้เธอจะเคยสัมผัสของทั้งสองคนมาแล้ว แต่มันก็ครั้งละคนไม่ใช่พร้อมกันทั้งสองแท่งแบบนี้ เธอพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตื่นตระหนกมากเกินไป มันก็เหมือนครั้งก่อนเพียงแค่ตอนนี้เธอต้องควบสองเท่านั้นเองพรึ่บเมื่อคิดได้แล้วเธอก็คุกเข่านั่งลงบนพรมผืนหนานั่งอยู่ระหว่างกลางของชายทั้งสอง ฝ่ามือเล็ก ๆ ของเธอยื่นไปกอบกุมลำกายยาวใหญ่สีหวานของทั้งคู่ สายตาของเธอตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่กำลังอยากรู้อยากลิ้มลองกับของเล่นชิ้นใหม่ตรงหน้า"เต็มที่เลยนะครับธาร เพราะเฮียเองก็จะเต็มที่กับธารเหมือนกัน อ๊าส์""อย่างนั้นแหละธารน้ำ อืม แบบนั้นแหละคนดี"เสียงกระเส่าอย่างมีความสุขของทั้งสองถูกเปล่งออกมาด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำให้"อืม ดี แบบนั้น""เร็วอีก เมียจ๋า"ยิ่งพวกเขาเอ่ยชมด้วยสีหน้ามีความสุข เธอก็ยิ่งขยับฝ่ามือเร็วขึ้นจนพวกเขารู้สึกเกร็งแขม่วท้องเป็นลอนสวยของตัวเองยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเล็ก ๆ ขยับมัน ร่างของเขาทั้งสองก็สั่นสะท้าน ความทรมานกำลังเข้าครอบงำ"อืม ธารครับ""อ๊าส์ ธารน้ำ"หญิงสาวเงยหน้าเรียวเล็กมองหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างกล้าหาญ และยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเ
ธารน้ำหอบหายใจหนักเมื่อเห็นร่างกำยำของคนรักทั้งสองค่อย ๆ ใช้มือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างเชื่องช้า สายตาราวกับสัตว์ป่าหิวกระหายจ้องมองมายังเธอไม่วางตา พรึ่บซิกแพคอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวเป็นลอนสวยแสดงชัดอยู่ตรงหน้า ไหลหนาผายผึ่ง ท่อนแขนกำยำ กล้ามเนื้อเรียงตัวสวยงามทำเอาหญิงสาวต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก"อึก"ชะตาสวาทของเธอกำลังจะขาด ขนาดไซซ์บ้องข้าวหลามของทั้งสองเธอได้สัมผัสมันมาหมดแล้ว ของคนแรกทั้งยาวและใหญ่ ส่วนของอีกคนก็ไม่คิดจะน้อยหน้า คนน้องลีลาเด็ด เอวถี่พลิ้วไหวทำเอาเธอแทบขาดใจตายคาเตียงมาตั้งหลายครั้ง ความดุดันเร่าร้อนอย่างไม่บันยะบันยังทำเอสเธอสลบเหมือดคาเตียงมาตั้งหลายคนส่วนอีกคนแม้ภายนอกดูสุขุมนุ่มลึกของคุณหมอแต่แอบซ่อนลูกเล่นความเผ็ดร้อนเอาไว้ด้วยเม็ดมุกรอบลำกายทำเอาเธอขาสั่นจนเดินไม่ไหวนอนซมอยู่บนเตียงตั้งหลายหนถ้าหากพวกเขาสองคนเข้ามาพร้อมกันเธอจะรับมันได้ไหม จะไหวหรือเปล่า"ธะ...ธารว่าพวกเราสามคนอาบน้ำนอนกันดีกว่านะคะ"เธอยังคงพยายามหาทางเอาตัวรอดแม้เปอร์เซ็นต์ในการรอดจะมีน้อยนิดก็ตามเมื่อเทียบกับความต้องการที่พุ่งสูงเฉียบร้อยเปอร์เซ็นต์ของชายหนุ่มทั้งสอง
"อยากออกไปหาอะไรทานไหม หรืออยากจะไปเที่ยวที่ไหนไหม""ไม่อะ อยากนอนอยู่ห้องมากกว่า"ธารน้ำเงยหน้าตอบเจ้าของห้องซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับการแต่งตัวเพื่อเตรียมจะไปทำงาน "อยู่แต่ในห้องมาสองวันติดแล้วนะ ไม่เบื่อหรือไง"กอหญ้าถามเพื่อนรักในขณะที่หยิบแป้งฝุ่นเทลงบนฝ่ามือ ดวงตากลมโตจ้องมองเพื่อนสาวในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ ผ่านเงากระจกซึ่งกำลังนั่งหน้าหงอยอยู่บนเตียงนอนขนาดห้าฟุตของเธอ"เบื่อสิ แต่ไม่รู้จะออกไปเที่ยวที่ไหน"ไม่อยากออกไปเดินเพ่นพ่านกลัวว่าอัคนีจะรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ เธอยังไม่พร้อมจะกลับไปเจอหน้าใครในตอนนี้ มันยังไม่พร้อมที่จะเจอใครโชคยังดีที่สองวันนี้ไม่มีเรียน เธอไม่จำเป็นต้องพาร่างออกไปเดินเที่ยวเตร่ที่ไหน แต่ใจก็ย่อมรู้ดีว่าตัวเธอจะเอาแต่หลบซ่อนอยู่แต่ภายในห้องแบบนี้ไม่ได้ วันหนึ่งวันใดอัคนีก็ต้องตามหาเธอเจออยู่ดี และไม่แน่ก็อาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้"ฉันไม่อยู่ก็ล็อกประตูดี ๆ ด้วยล่ะ วันนี้เด็กเสิร์ฟที่ร้านลาสองคนฉันคงต้องทำงานหนักเพิ่มเป็นสองเท่า และคงต้องอยู่ช่วยเขาปิดร้านด้วย"กอหญ้าบอกธารน้ำก่อนจะหยิบกระเป๋าใบเก่าขึ้นมาสะพาย แต่สิ่งที่ธารน้ำหยิบยื่นมาทำให้กอหญ้าชะงักไป"อ
หมัดหนัก ๆ ของน้องชายซัดเข้าใส่ใบหน้าของพี่ชายอันเป็นที่รักอย่างหนักหน่วงจนอัคนีได้เลือดไหล และเมื่อพี่ชายตั้งตัวได้เขาเองก็ไม่คิดจะยอมให้น้องชายอย่างพระเพลิงกระทำต่อเขาแค่เพียงฝ่ายเดียว อัคนีปล่อยหมัดหนัก ๆ กลับไปให้น้องชายจนพระเพลิงเองก็ได้ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาของสองพี่น้องมีเลือดไหล ก่อนทั้งคู่จะพุ่งเข้าใส่กอดรัดฟัดเหวี่ยงปล่อยหมัดใส่ให้แก่กันผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ"เป็นผัวภาษาเหี้ยอะไรวะ เมียคนเดียวยังไม่มีปัญญาดูแลได้""นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอเพลิง""ใช่ ผมกำลังบ้า และผมจะบ้าได้มากกว่านี้อีกถ้าหากวันนี้ผมยังไม่เห็นธารกลับมาที่บ้าน"สองพี่น้องยื้อยุดฉุดดึงกันไปมา "อย่าทำอะไรให้มันเกินหน้าที่ของตัวเองเพลิง นายเป็นน้องชายของเฮียควรอยู่ในส่วนไหนหันเจียมตัวเอาไว้ซะ""แล้วเฮียแหละเป็นผัวภาษาอะไรวะ เมียคนเดียวยังดูแลไม่ได้ทำไมปล่อยให้ธารหนีไป"พระเพลิงพ่นวาจาหยาบคายใส่พี่ชายหลังจะได้รับหมัดหนัก ๆ ดวงตาของไฟทั้งสองดวงลุกโชนจนแทบจะเผาไหม้คฤหาสน์หลังใหญ่ให้วอดวายเพล้ง ผลัวะเสียงข้าวของหล่นแตกกระจาย เสียงดังเอะอะโวยวายทำให้สาวใช้ที่กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ต่างพากันกรีดร้องด้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งติดกันทำให้เจ้าของห้องต้องลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปเปิดประตูให้กับผู้มาใหม่ปังร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีขาวโทนสะอาดตาปรากฏอยู่ตรงหน้าของกอหญ้า และทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอจึงเปล่งเสียงแผ่วเรียกชื่อของเขาออกมา"คุณหมออัคนี""ผมมาหาธารน้ำ เธออยู่ที่นี่ไหมครับ"เสียงที่แผ่วเบาดังราวกับกระซิบของเขาดังขึ้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายหลังออกตามหาภรรยาตัวน้อยไปทั่วทุกพื้นที่ ที่ที่เขาคิดว่าเธอจะไปแต่กลับไม่พบ"ธารไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ"กอหญ้าตอบเขาด้วยท่าทีสงบนิ่งแววตาของเธอเหลือบมองเข้าไปในห้องพักของตัวเองอัคนีมองตามสายตาของเธอ กรอบดวงตาของเขาแดงก่ำของเขาทำเอาคนพบรู้สึกเห็นใจ แววตาของเขาในตอนนี้แม้จะมีแว่นตาหนาเตอะบดบังอยู่แต่ก็ไม่อาจปกปิดความเจ็บปวดนั้นได้"ถ้าคุณเจอธาร ฝากบอกเธอด้วยนะครับว่าผมรักเขามาก"อัคนีบอกเพื่อนรักของภรรยาสาว เขาก้มหน้าล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมา ธนบัตรสีเทาหลายสิบใบพร้อมกับบัตรสีดำวงเงินไม่จำกัดถูกส่งไปตรงหน้าของกอหญ้า เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความสงสารจับใจ'ฝากให้ธารด้วยครับ เผื่อเธอหิวอยากจะออกไปซื้ออะไร"กอหญ้าอ่านริมฝีป