ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวในชุดเดรสสีหวานให้ความสนใจ เธอเหลือบตาตาไปมองนาฬิกาก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าในสวยขึ้นมาสะพายไหล่ แกรก "คุณท่านให้หนูขึ้นมาตามคุณธารน้ำค่ะ"หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยพยักหน้า ก่อนธารน้ำจะเดินออกมาจากห้องพักซึ่งเป็นห้องนอนเก่าของเธอ ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้ายามเมื่อเธอก้าวขาลงบันไดดังขึ้น เสียงพูดคุยของบิดากับผู้มาใหม่ดังแว่วหูมาแต่ไกล "นั่นไงครับธารน้ำ มาพอดีเลย"ธารน้ำเดินเข้าไปหาเธอไม่สนใจสายตาของสองแม่ลูกที่มองมาด้วยความไม่พึงพอใจตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาอยู่ภายในบ้านหลังนี้ได้หนึ่งอาทิตย์พอดิบพอดี "สวัสดีค่ะคุณอัคนี" "สวัสดีครับ"ชายหนุ่มในชุดสูทดูดียิ้มรับเมื่อเห็นว่าที่เจ้าสาวเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มรับ "ลูกรู้แล้วใช่ไหมธารน้ำว่าวันนี้คุณอัคนีจะพาลูกไปดูชุดกับเลือกการ์ดแต่งานและของขวัญ" "ค่ะ หนูทราบแล้ว"เพราะเมื่อคืนชายหนุ่มได้ส่งข้อความมาบอกเธอแล้วว่าเช้าของวันนี้จะมารับเพื่อไปดูชุดแต่งงานซึ่งการแต่งงานระหว่างเธอกับอัคนีจะถูกจัดขึ้นภายในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากแม้ธารน้ำจะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอจะต้องแต่งงานแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วทันใจขนาดนี้ ชนิดที่เธอเองยังตั้งตัวรับแทบไม่ทัน "ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยดีกว่านะครับ เผื่อรถติด" "ก็ได้ค่ะ" "ไม่ทานอาหารเช้าที่บ้านของเราก่อนเหรอคะ"เสียงหวานของเขมจิราในชุดนักศึกษาดังขึ้นทำให้ทุกคนต่างหันไปมองหน้าของเธอเป็นสายตาเดียวกัน จนหญิงสาวนั้นที่ได้พลั้งปากออกมาชะงักไป "เราไปกันดีกว่าครับคุณธารน้ำ"อัคนีละสายตาจากร่างสวยในชุดนักศึกษาก่อนคุณหมอหนุ่มจะหันไปให้ความสนใจกับว่าที่เจ้าสาวในอนาคตก่อนทั้งสองคนจะเดินขึ้นรถแล้วขับมันออกไป ซึ่งการกระทำของอัคนีคล้ายกับการหักหน้าเขมจิรา เพราะการที่เธอพยายามสร้างตัวตนเพื่อเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเขานั้นมันช่างเป็นการกระทำที่โง่เขลา ทั้งที่ก่อนหน้านี้หญิงสาวเป็นฝ่ายยืนกรานปฏิเสธการแต่งงานกับเขาเอง แล้วตอนนี้เธออยากจะมาสร้างบทบาทในชีวิตของเขาทำไมกัน "คุณหมอไม่ทำงานเหรอคะวันนี้" "วันนี้ผมมีเข้าเวรตอนบ่ายครับ แล้ววันนี้คุณธารน้ำไม่มีเรียนเหรอครับ" "ธารมีเรียนอีกทีก็วันจันทร์หน้าเลยค่ะ"เธอตอบชายหนุ่มอย่างตรงไปตรงมาหญิงสาวให้ความสนใจกับชายหนุ่มในตำแหน่งคนขับไม่คิดแม้จะคว้าโทรที่กำลังสั่นในกระเป๋าสะพายขึ้นมากดรับสาย "อีกไม่กี่วันก็เรียนจบแล้วใช่ไหมล่ะครับ" "ใช่ค่ะ" เธอยอมรับเลยว่าตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอพยายามทำความรู้จักตัวตนของอัคนีมากขึ้น แม้เขาจะมีอายุที่มากกว่าเธอแต่การพูดคุยหรือการวางตัวนั้นมันไม่ได้เข้มงวดเหมือนกับคุณหมอมาดขรึมเหมือนในละครหลังข่าว และก็ดูเหมือนว่าเขาเองก็พยายามปรับตัวเข้าหาเธอเช่นเดียวกัน ซึ่งมันก็ดีต่อการพัฒนาต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองซึ่งต่อไปในภายภาคหน้าเธอและเขาต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่แม้ว่าธารน้ำจะพยายามก้าวพาชีวิตของตัวเองให้เดินไปข้างหน้าแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายเมื่อนิติหอพักที่เธอพักอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ได้โทรมาบอกว่าอดีตแฟนหนุ่มยังคงตามมาเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องตลอดทั้งหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้า อัคนีพาธารน้ำมายังห้างสรรพสินค้าสุดหรูใจกลางเมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์รวบรวมสินค้าและของใช้แบรนด์มากมายไม่เว้นแม้แต่ร้านขายชุดคู่บ่าวสาวซึ่งมีทั้งเซเล็บไฮโซต่างพากันมาใช้บริการของทางร้านนี้ "สวัสดีค่ะคุณอัคนี สวัสดีค่ะคุณธารน้ำ"พนักงานของร้านกล่าวสวัสดีทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อว่าที่บ่าวสาวก้าวขาเข้ามาภายในร้าน "ที่ผมนัดเอาไว้" "เชิญทางนี้ได้เลยค่ะ"ธารน้ำที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากเดินตามแรงจูงมือของชายหนุ่มเข้าไปยังห้องรับรองลูกค้า "ไม่ทราบว่าคุณอัคนีกับคุณธารน้ำต้องการการ์ดเชิญในโทนสีอะไรและแบบไหนดีคะ ทางร้านของเรามีให้เลือกตามความต้องการของคุณลูกค้า"พนักงานนำเฉดสีและตัวอย่างการ์ดวางลงบนโต๊ะเพื่อให้มั้งสองนั้นได้เลือก "เรื่องแบบนี้ผมคงต้องให้ทางเจ้าสาวเป็นคนเลือกแล้วล่ะครับ ผมไม่ถนัดเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่"อัคนีผู้ที่ไม่ค่อยจะมีความรู้ในเรื่องนี้พูดติดเสียงหัวเราะก่อนจะหันไปมองหน้าของว่าที่เจ้าสาวข้างกาย หญิงสาวส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้เพราะเธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าการ์ดแต่งงานควรเลือกแบบไหน แต่สุดท้ายเธอก็ต้องจำใจยื่นมือไปหยิบแบบตัวอย่างการ์ดขึ้นมามอง ตัวอักษรสีทองบนการ์ดแผ่นเรียบมีลวดลายประดับขอบข้างอย่างเรียบหรูมันดูเรียบและหรูหราแบบที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรให้มันมากเกินไป "เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะ" "แบบนี้เลยนะคะ"พนักงานสาวยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าที่เจ้าสาวพยักหน้า หลังจากเลือกการ์ดแต่งงานเสร็จก็ถึงเวลาเลือกของชำร่วยซึ่งอัคนีเองก็ให้ธารน้ำว่าที่เจ้าสาวของเขาเป็นคนตัดสินใจ ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้เขาได้ผิดหวัง แม้ทั้งคู่จะไม่ได้แต่งงานด้วยกันเพราะความรักแต่หญิงสาวก็ยังเอาใจใส่ถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นเทียนหอมคู่รักที่ได้กลิ่นหอมมาจากน้ำหอมประจำตัวของทั้งสอง อัคนีมองหน้าธารน้ำอย่างไม่ละสายตา แม้เธอจะดูเด็กมากกว่าเขาหลายปีแต่ก็มีบางมุมที่ดูดีมีความคิดเหมือนกับผู้ใหญ่ หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกของทั้งสองอย่างก็ถึงเวลาในการเลือกและลองชุดที่จะใส่ภายในงาน "ที่เลขาของคุณอัคนีแจ้งมานั้นมีทั้งหมดสามชุดนะคะ" "สะ...สามชุดเลยเหรอคะ"ธารน้ำหันไปมองหน้าว่าที่เจ้าบ่าวซึ่งชายหนุ่มเองก็กำลังจ้องมองมาที่เธอ "ชุดไทยในพิธีตอนเช้า ชุดเลี้ยงฉลองในตอนค่ำและชุดที่จะใส่อาฟเตอร์ปาร์ตี้ครับ" "มันไม่เยอะเกินไปใช่ไหมคะ"ธารน้ำกระซิบกับชายหนุ่มให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน "ราคาของชุดแต่ละชุดมันไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะคะ"อัคนีอมยิ้มกับความประหม่าของหญิงสาว เธอเป็นผู้หญิงที่ผิดแปลกแบบที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น ๆ ได้สวมชุดเจ้าสาวราคาแพง ๆ แบบนี้พวกเธอคงไม่รีรอที่จะกระโจนเข้าใส่ชี้นิ้วสั่งตามความต้องการที่อยากจะได้ แต่ธารน้ำลูกสาวของเจ้าหนี้รายนี้กลับไม่ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดูหิวกระหายในเงินตราเหมือนกับพวกผู้หญิงพวกนั้น "เอาแค่ชุดไทยกับชุดฉลองงานกลางคืนก็ได้ครับ"ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มออกมาได้ทันที แม้ในใจจะยังมีความกังวลกับราคาของชุดเจ้าสาวทั้งสองชุดซึ่งดูเหมือนว่าราคาของมันจะแพงไม่ต่างกัน "เชิญคุณธารน้ำมาเดินเลือกชุดทางนี้ได้เลยค่ะ"หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะเดินตามหลังพนักงานไป โดยมีร่างสูงใหญ่ของอัคนีเดินตามแรงชักจูงของหญิงสาว ทั้งเขาและเธอต่างเดินดูชุดแต่งงานภายในร้ายโดยมีพนักงานคอยอำนวยให้ความสะดวกอย่างเต็มที่ ชุดนั้นก็ดูดี ชุดนี้ก็สวยสง่าจนธารน้ำละลานตาเลือกไม่ถูก อีกทั้งราคาของชุดแต่งงานแต่ละชุดทำเอาเธอแทบเป็นลมล้มจับไป ซึ่งสีหน้าตื่นตระหนกของเธอนั้นทำให้คุณหมอผู้เงียบขรึมยิ้มหัวเราะออกมาได้ กระจกภายในร้านเป็นแบบใสทำให้คนภายนอกสามารถมองผ่านทะลุเข้ามาเห็นถึงภาพทุกอย่างภายในร้านได้ ซึ่งทำให้คนที่กำลังเดินผ่านไปมาซึ่งได้มองเข้ามาภายในต่างพากันอิจฉาคู่บ่าวสาวซึ่งกำลังเลือกชุดเพื่อเข้าพิธีวิวาห์ภายในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าแต่กลับมีสายตาคู่หนึ่งที่มองภาพนั้นด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นว่าคนที่เขารู้จักถึงสองคนกำลังยืนเลือกชุดแต่งงานด้วยกันอย่างมีความสุข "ฉิบหายแล้วไง ไอ้เพลิง""ธารต้องกราบขอโทษคุณพ่อด้วยนะคะสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น"เจ้าสัวหิรัญมองหญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงกลางโดยมีลูกชายของตัวเองนั่งขนาบข้างไม่ห่างไปไหนวันนี้คือวันที่ทั้งสามคนก้าวขาเข้ามาพบพร้อมกับอธิบายต้นสายปลายเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นซึ่งมันตรงกับสิ่งที่เขาได้สืบหามาตั้งแต่วันที่เขาได้เห็นภาพถ่ายซึ่งได้ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของลูกชายคนเล็กในวันนั้น"พ่อไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรหนูธารเลยสักนิดหนูไม่ต้องคิดมากนะลูก"เจ้าสัวผู้ใจดียังคงมองหน้าลูกสะใภ้คนดีด้วยแววตาโทนอบอุ่นธารน้ำเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความสามารถการเรียนก็ไม่เป็นสองรองใคร งานบ้านก็เรียกว่าใช้ได้ทั้งซักผ้ารีดผ้าและการทำอาหารคาวหวานที่เขาได้ชิมอยู่บ่อยครั้ง"พ่อดีใจนะที่ลูกชายของพ่อทั้งสองคนได้มีหนูมาช่วยดูแล"คำพูดของท่านเจ้าสัวเรียกรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของหญิงสาวได้"ส่วนน้องเล็ก""ครับ""เรื่องหนูลิลลี่ พ่อจัดการเคลียร์กับทางนั้นให้เรียบร้อยแล้วนะลูกทางนั้นเขาไม่ว่าอะไรอีกทั้งยังเข้าใจดี"เป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับธารน้ำและพระเพลิง เด็กหนุ่มซึ่งกำลังใกล้จะจบการศึกษายิ้มออกมาได้ด้วยความดีใจก่อนจะหันไปคว้าร่างสวยของหญ
หัวใจของธารน้ำในตอนนี้นั้นสั่นเต้นรัวเร็ว แม้เธอจะเคยสัมผัสของทั้งสองคนมาแล้ว แต่มันก็ครั้งละคนไม่ใช่พร้อมกันทั้งสองแท่งแบบนี้ เธอพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตื่นตระหนกมากเกินไป มันก็เหมือนครั้งก่อนเพียงแค่ตอนนี้เธอต้องควบสองเท่านั้นเองพรึ่บเมื่อคิดได้แล้วเธอก็คุกเข่านั่งลงบนพรมผืนหนานั่งอยู่ระหว่างกลางของชายทั้งสอง ฝ่ามือเล็ก ๆ ของเธอยื่นไปกอบกุมลำกายยาวใหญ่สีหวานของทั้งคู่ สายตาของเธอตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่กำลังอยากรู้อยากลิ้มลองกับของเล่นชิ้นใหม่ตรงหน้า"เต็มที่เลยนะครับธาร เพราะเฮียเองก็จะเต็มที่กับธารเหมือนกัน อ๊าส์""อย่างนั้นแหละธารน้ำ อืม แบบนั้นแหละคนดี"เสียงกระเส่าอย่างมีความสุขของทั้งสองถูกเปล่งออกมาด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำให้"อืม ดี แบบนั้น""เร็วอีก เมียจ๋า"ยิ่งพวกเขาเอ่ยชมด้วยสีหน้ามีความสุข เธอก็ยิ่งขยับฝ่ามือเร็วขึ้นจนพวกเขารู้สึกเกร็งแขม่วท้องเป็นลอนสวยของตัวเองยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเล็ก ๆ ขยับมัน ร่างของเขาทั้งสองก็สั่นสะท้าน ความทรมานกำลังเข้าครอบงำ"อืม ธารครับ""อ๊าส์ ธารน้ำ"หญิงสาวเงยหน้าเรียวเล็กมองหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างกล้าหาญ และยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเ
ธารน้ำหอบหายใจหนักเมื่อเห็นร่างกำยำของคนรักทั้งสองค่อย ๆ ใช้มือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างเชื่องช้า สายตาราวกับสัตว์ป่าหิวกระหายจ้องมองมายังเธอไม่วางตา พรึ่บซิกแพคอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวเป็นลอนสวยแสดงชัดอยู่ตรงหน้า ไหลหนาผายผึ่ง ท่อนแขนกำยำ กล้ามเนื้อเรียงตัวสวยงามทำเอาหญิงสาวต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก"อึก"ชะตาสวาทของเธอกำลังจะขาด ขนาดไซซ์บ้องข้าวหลามของทั้งสองเธอได้สัมผัสมันมาหมดแล้ว ของคนแรกทั้งยาวและใหญ่ ส่วนของอีกคนก็ไม่คิดจะน้อยหน้า คนน้องลีลาเด็ด เอวถี่พลิ้วไหวทำเอาเธอแทบขาดใจตายคาเตียงมาตั้งหลายครั้ง ความดุดันเร่าร้อนอย่างไม่บันยะบันยังทำเอสเธอสลบเหมือดคาเตียงมาตั้งหลายคนส่วนอีกคนแม้ภายนอกดูสุขุมนุ่มลึกของคุณหมอแต่แอบซ่อนลูกเล่นความเผ็ดร้อนเอาไว้ด้วยเม็ดมุกรอบลำกายทำเอาเธอขาสั่นจนเดินไม่ไหวนอนซมอยู่บนเตียงตั้งหลายหนถ้าหากพวกเขาสองคนเข้ามาพร้อมกันเธอจะรับมันได้ไหม จะไหวหรือเปล่า"ธะ...ธารว่าพวกเราสามคนอาบน้ำนอนกันดีกว่านะคะ"เธอยังคงพยายามหาทางเอาตัวรอดแม้เปอร์เซ็นต์ในการรอดจะมีน้อยนิดก็ตามเมื่อเทียบกับความต้องการที่พุ่งสูงเฉียบร้อยเปอร์เซ็นต์ของชายหนุ่มทั้งสอง
"อยากออกไปหาอะไรทานไหม หรืออยากจะไปเที่ยวที่ไหนไหม""ไม่อะ อยากนอนอยู่ห้องมากกว่า"ธารน้ำเงยหน้าตอบเจ้าของห้องซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับการแต่งตัวเพื่อเตรียมจะไปทำงาน "อยู่แต่ในห้องมาสองวันติดแล้วนะ ไม่เบื่อหรือไง"กอหญ้าถามเพื่อนรักในขณะที่หยิบแป้งฝุ่นเทลงบนฝ่ามือ ดวงตากลมโตจ้องมองเพื่อนสาวในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ ผ่านเงากระจกซึ่งกำลังนั่งหน้าหงอยอยู่บนเตียงนอนขนาดห้าฟุตของเธอ"เบื่อสิ แต่ไม่รู้จะออกไปเที่ยวที่ไหน"ไม่อยากออกไปเดินเพ่นพ่านกลัวว่าอัคนีจะรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ เธอยังไม่พร้อมจะกลับไปเจอหน้าใครในตอนนี้ มันยังไม่พร้อมที่จะเจอใครโชคยังดีที่สองวันนี้ไม่มีเรียน เธอไม่จำเป็นต้องพาร่างออกไปเดินเที่ยวเตร่ที่ไหน แต่ใจก็ย่อมรู้ดีว่าตัวเธอจะเอาแต่หลบซ่อนอยู่แต่ภายในห้องแบบนี้ไม่ได้ วันหนึ่งวันใดอัคนีก็ต้องตามหาเธอเจออยู่ดี และไม่แน่ก็อาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้"ฉันไม่อยู่ก็ล็อกประตูดี ๆ ด้วยล่ะ วันนี้เด็กเสิร์ฟที่ร้านลาสองคนฉันคงต้องทำงานหนักเพิ่มเป็นสองเท่า และคงต้องอยู่ช่วยเขาปิดร้านด้วย"กอหญ้าบอกธารน้ำก่อนจะหยิบกระเป๋าใบเก่าขึ้นมาสะพาย แต่สิ่งที่ธารน้ำหยิบยื่นมาทำให้กอหญ้าชะงักไป"อ
หมัดหนัก ๆ ของน้องชายซัดเข้าใส่ใบหน้าของพี่ชายอันเป็นที่รักอย่างหนักหน่วงจนอัคนีได้เลือดไหล และเมื่อพี่ชายตั้งตัวได้เขาเองก็ไม่คิดจะยอมให้น้องชายอย่างพระเพลิงกระทำต่อเขาแค่เพียงฝ่ายเดียว อัคนีปล่อยหมัดหนัก ๆ กลับไปให้น้องชายจนพระเพลิงเองก็ได้ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาของสองพี่น้องมีเลือดไหล ก่อนทั้งคู่จะพุ่งเข้าใส่กอดรัดฟัดเหวี่ยงปล่อยหมัดใส่ให้แก่กันผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ"เป็นผัวภาษาเหี้ยอะไรวะ เมียคนเดียวยังไม่มีปัญญาดูแลได้""นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอเพลิง""ใช่ ผมกำลังบ้า และผมจะบ้าได้มากกว่านี้อีกถ้าหากวันนี้ผมยังไม่เห็นธารกลับมาที่บ้าน"สองพี่น้องยื้อยุดฉุดดึงกันไปมา "อย่าทำอะไรให้มันเกินหน้าที่ของตัวเองเพลิง นายเป็นน้องชายของเฮียควรอยู่ในส่วนไหนหันเจียมตัวเอาไว้ซะ""แล้วเฮียแหละเป็นผัวภาษาอะไรวะ เมียคนเดียวยังดูแลไม่ได้ทำไมปล่อยให้ธารหนีไป"พระเพลิงพ่นวาจาหยาบคายใส่พี่ชายหลังจะได้รับหมัดหนัก ๆ ดวงตาของไฟทั้งสองดวงลุกโชนจนแทบจะเผาไหม้คฤหาสน์หลังใหญ่ให้วอดวายเพล้ง ผลัวะเสียงข้าวของหล่นแตกกระจาย เสียงดังเอะอะโวยวายทำให้สาวใช้ที่กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ต่างพากันกรีดร้องด้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งติดกันทำให้เจ้าของห้องต้องลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปเปิดประตูให้กับผู้มาใหม่ปังร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีขาวโทนสะอาดตาปรากฏอยู่ตรงหน้าของกอหญ้า และทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอจึงเปล่งเสียงแผ่วเรียกชื่อของเขาออกมา"คุณหมออัคนี""ผมมาหาธารน้ำ เธออยู่ที่นี่ไหมครับ"เสียงที่แผ่วเบาดังราวกับกระซิบของเขาดังขึ้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายหลังออกตามหาภรรยาตัวน้อยไปทั่วทุกพื้นที่ ที่ที่เขาคิดว่าเธอจะไปแต่กลับไม่พบ"ธารไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ"กอหญ้าตอบเขาด้วยท่าทีสงบนิ่งแววตาของเธอเหลือบมองเข้าไปในห้องพักของตัวเองอัคนีมองตามสายตาของเธอ กรอบดวงตาของเขาแดงก่ำของเขาทำเอาคนพบรู้สึกเห็นใจ แววตาของเขาในตอนนี้แม้จะมีแว่นตาหนาเตอะบดบังอยู่แต่ก็ไม่อาจปกปิดความเจ็บปวดนั้นได้"ถ้าคุณเจอธาร ฝากบอกเธอด้วยนะครับว่าผมรักเขามาก"อัคนีบอกเพื่อนรักของภรรยาสาว เขาก้มหน้าล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมา ธนบัตรสีเทาหลายสิบใบพร้อมกับบัตรสีดำวงเงินไม่จำกัดถูกส่งไปตรงหน้าของกอหญ้า เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความสงสารจับใจ'ฝากให้ธารด้วยครับ เผื่อเธอหิวอยากจะออกไปซื้ออะไร"กอหญ้าอ่านริมฝีป