Home / โรแมนติก / นที (โปรด) รัก / บทที่ 12 แมวจับหนู

Share

บทที่ 12 แมวจับหนู

Author: 23.19น.
last update Last Updated: 2025-10-22 01:15:24

“เอาไปสิ”

เสียงทุ้มดังขึ้น แล้วยื่นถุงยาส่งให้คนป่วยที่ยังคงนั่งตัวสั่นอยู่เบา ๆ เพราะยังไม่หายไข้ดี แม้จะได้ยาฉีดจากหมอไปแล้วก็ตาม แต่ถึงจะดูไม่ค่อยไหวนักเธอก็ยื่นมือออกมารับไปอย่างไม่อิดออด

“ขอบคุณนะคะ”

น้ำเสียงของอัจฉราแผ่วเบา แฝงไปด้วยความรู้สึกเกรงใจอย่างอดไม่ได้ ทั้งการอยู่ใกล้เขายังรู้สึกประหม่ามากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ

“ไม่ต้อง… ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

นทีปฏิเสธคำขอบคุณของเจ้าหล่อน น้ำเสียงราบเรียบอย่างไม่ใส่ใจ แต่สายตาของเขาที่มองหญิงสาวกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบาย ความหงุดหงิดในตอนแรกเริ่มลดน้อยลงแล้ว

นึกตำหนิตัวเองเสียด้วยซ้ำที่ปล่อยให้ความรู้สึกสั่นคลอนอารมณ์ตัวเองจนพลั้งปากพูดจาไม่ดีใส่เธอไปเสียขนาดนั้น ทั้งที่เห็นอยู่ว่าอัจฉราไม่ได้ตั้งใจโชว์เรือนร่างให้ใครต่อใครได้เห็น ริมฝีปากหยักได้รูปเผลอเม้มเข้าหากันอย่างแผ่วเบา เขารู้ว่าเขาควรจะขอโทษเธอ... แต่เขาไม่อยากทำ

นทีเมินเฉยความรู้สึกผิดนั้นในใจของเขาออกไปซะ เขาไม่เข้าใจเอาเสียเลยว่าทำไมต้องมาคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องพลันนั้น ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนที่ร่างสูงจะหันให้คนตัวเล็กที่ยังคงนั่งก้มหน้า ไม่พูดไม่จาอะไรอีก

“กลับ” พูดจบเจ้าของขายาวก็ก้าวสามขุมออกไปทันที ไม่หันกลับไปมองด้วยซ้ำ แต่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเล็ก ๆ ที่ตามหลังมาอย่างทันท่วงทีอยู่ดี

อัจฉราลุกพรวดออกจากเก้าอี้ แม้ยังจะสับสนอยู่กับท่าทางที่กะทันหันของร่างสูงที่นำลิ่วอยู่ข้างหน้าแค่ไหนก็ตาม แต่คำว่า ‘กลับ’ คำเดียวสั้น ๆ กลับมีน้ำหนักมหาศาลจนเธอไม่กล้าที่จะปฏิเสธ ร่างเล็กเดินจ้ำอ้าวอย่างไม่หยุดพัก ถึงจะเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทันแล้วก็ตาม

“คุณนที... แฮ่ก... รอด้วยค่ะ”

ในที่สุดกลีบปากอิ่มก็ยอมปริปากพูดบางอย่างออกไป หล่อนหยุดเดินฉับพลัน เหนื่อยจนตามคนตัวสูงไม่ไหว ในที่สุดนทีก็ยอมหยุดลงเสียทีหลังจากที่เคยเดินไม่รอใครเลย

ร่างสูงใหญ่ค่อย ๆ หันกลับมามองคนป่วยที่ยืนหอบตัวโยนอยู่ข้างหลังเขา พวงแก้มอิ่มแดงก่ำ ขณะที่กลีบปากแย้มออกช่วยหายใจ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความรู้สึกขัดใจในความอ่อนแอของเธอ ของผู้หญิงที่คอยเอาแต่จะวิ่งเข้าหาเขาทุกเมื่อ แต่ตอนกลับเอ่ยปากร้องขอให้เขารอเธอ

นทีขบกรามแน่น ความรู้สึกผิดในตอนแรกเปลี่ยนผันกลายเป็นความรู้สึกขุ่นมัว เขากระชากลมหายใจเข้าปอดเบาแต่ลึก พยายามระงับความรู้สึกคุกรุ่นในอก แต่แล้วเมื่อเห็นว่าสายตาของหล่อนมองมาที่เขา วินาทีที่ดวงตาคู่สวยของอัจฉราสะท้อนแววตาของเขา อารมณ์ของนทีก็ขาดผึงทันที

เขาไม่เคยเป็นแบบนี้... ความรู้สึกที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ดั่งใจ

“สำออย...”

ชายหนุ่มย่างสามขุมเข้าไปหยุดยืนประจันหน้ากับหญิงสาวทันที นัยน์ตาสีนิลจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่บัดนี้เบิกกว้าง ความตกใจและความหวาดหวั่นของเธอชัดเจนจนรู้สึกขัดใจ

“เดินเองก็ยังไม่ได้แล้ว... จะเงียบปากทำไมวะ”

“คุณนที... ว้าย!”

อัจฉราตาโตด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเป็นคนพูดจาแบบนั้น ปากร้ายยังพอทนแต่เขาขึ้น ‘วะ’ กับเธอ มันเป็นด้านที่อัจฉราไม่เคยเห็นจากเขามาก่อน ทว่าก่อนที่จะทันได้ตั้งตัว วงแขนแกร่งก็ช้อนร่างของเธอขึ้นอย่างง่ายดายจนลอยหวือ

“คุณนที! อุ้มเนยทำไมคะ!”

หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวด้วยความหวาดหวั่น ร่างเล็กสั่นระริกในอ้อมอกของเขา ดวงหน้าหวานซีดเผือด ความหุนหันของชายหนุ่มทำให้คนทั้งโรงพยาบาลต้องมองมาเป็นตาเดียวกัน

“อยากโวยวายให้เสียงแห้งก็ไม่ว่ากัน แต่ที่อุ้มเนี่ยเพราะเห็นว่าเป็นง่อยไง เหนื่อยจนตัวโยนขนาดนั้น”

ดวงตาคู่คมกดต่ำมองเห็นความตื่นตระหนกบนหน้าของอัจฉรา แถมยังสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากผิวกายของเธอที่แนบชิดกับเขาอีกต่างหาก

“ตัวร้อนขนาดนี้ หมอมันเอาน้ำเปล่าฉีดเข้าเส้นเธอหรือไงวะ”

นทีสบถออกมาอย่างนึกขัดใจ เขามองดวงสวยจัดของคนในอ้อมอกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพาเธอออกไปจากโรงพยาบาลทันที โดยไม่สนเสียงซุบซิบและสายตาของใครหน้าไหนทั้งนั้น

รปภ. ที่ยืนเฝ้าประตูทางเข้าออกอยู่เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มเดินมาใกล้ ก็ปรี่มาเปิดประตูบริการให้อย่างไม่ช้า ทว่านทีหาได้สนใจไม่ เขาอุ้มร่างของหญิงสาวออกไปสู่ความร้อนอบอ้าวของสภาพอากาศในยามสายจัด แต่พระอาทิตย์ที่ว่าร้อนตอนนี้มันยังไม่เท่ากับความรู้สึกที่โหมอยู่ในอกของเขาเลยสักนิด

เมื่อเดินมาจนถึงรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ในลานโล่ง ร้อนจัด มือใหญ่ข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกุญแจรถ โดยยังคงประคองร่างของคนตัวเล็กเอาไว้ นทีแทบไม่ต้องระวังอะไรเลย เพราะตอนนี้อัจฉรากอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตกอย่างกับลูกลิง เสียง ‘คลิก’ ดังขึ้นเขาก็เอื้อมไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารออกทันที

“จะเกาะอีกนานไหม แม่คุณ?”

ใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงเรียบเฉยก้มมอง แต่แววตาวาววับอย่างน่ากลัวจากอารมณ์ที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ในใจเขา ทำให้หัวใจของอัจฉราเต้นระรัว... ด้วยความกลัว กลัวจริง ๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“นั่งเฉย ๆ และคาดเข็มขัดให้เรียบร้อยด้วย”

นทีไม่ใส่ใจเอาคำตอบ เมื่อสัมผัสได้ว่าแรงของแขนเล็กที่คล้องอยู่รอบคอคลายลงแล้ว เขาก็วางร่างที่ยังคงร้อนผ่าวลงบนเบาะทันทีอย่างไม่ออกแรงเท่าไหร่นัก จนเธอคิ้วขมวดแต่ก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไรออกมา

อัจฉรากลืนน้ำลายอย่างเหนียวคอ สายตามองตามร่างสูงที่เดินอ้อมรถยนต์ จนเขาเข้ามานั่งประจำที่คนขับพร้อมกับสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที ดวงตาคู่คมตวัดมองอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยังนั่งนิ่งไม่ยอมคาดเข็มขัด เขาเตรียมใจจะจัดการเอง ทว่าก่อนที่จะได้ลงมือทำอย่างที่คิด ดูเหมือนว่าคนข้างกายจะรู้ตัวเองเสียก่อน

อัจฉราคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็ว มือบางสั่นเล็กน้อย นัยน์ตาที่ฉ่ำคลอไปด้วยพิษไข้รีบหลบสายตา หันหน้าหนีไปทางอื่นทันที กลีบปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น หัวใจยังคงเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความหวาดหวั่นที่ยังไม่เจือจาง หล่อนนั่งนิ่ง ๆ เหมือนตุ๊กตาที่มีชีวิต ไม่กล้าต่อปากต่อคำ

“นี่ ดื่มน้ำซะ แล้วก็กินยาลดไข้เข้าไปด้วยล่ะ”

นทียื่นน้ำขวดใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดฝาขวดไปให้คนที่นั่งหันหน้าหนีเขา อัจฉราที่เคยชอบแอบมอง ทว่าตอนนี้กลับไม่คิดที่จะหันมาด้วยซ้ำ มันทำให้เขาหงุดหงิด แต่พอเห็นสีหน้าที่ซีดเผือด และอาการหนาวสั่นของเธอ เขาก็เหมือนจะได้สติกลับมาบ้างเล็กน้อย

ตุ้บ เขาเปลี่ยนจากการยื่นให้เฉย ๆ เป็นการโยนลงบนตักของเธอ ส่งผลให้ร่างบางสะดุ้งเบา ๆ เธอหันกลับมามองเขาแค่แวบเดียวเท่านั้น แล้วก็หลบตาไปเหมือนเดิม แต่ดวงตาคู่คมยังคงมองอยู่ รอจนกว่าจะแน่ใจว่าเธอหยิบขวดน้ำขึ้นมาแล้ว เมื่อเห็นมือที่สั่นเทาคู่นั้นยอมเคลื่อนไปกุมรอบขวดเอาไว้แล้ว เขาถึงได้ยอมละสายตาไป

นทีถอนหายใจออกมาผิดไปจากบุคลิกที่สุขุม เยือกเย็นและควบคุมได้ในยามปกติ เขาไม่พูดอะไรอีกแล้วในเมื่อเธอไม่ยอมพูดหรือว่าตอบอะไร เขาก็จะปล่อยให้ความเงียบกดดันเธอด้วยตัวของมันเองไปแบบนั้น สายตาคมกริบตวัดมองออกไปเบื้องหน้า เข้าเกียร์และบังคับพวงมาลัยออกไปจากลานจอดในที่สุด

อัจฉราเหลือบตามองคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้ไม่ได้สนใจเธออีกแล้วเพียงแค่สั้น ๆ แล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเหมือนเดิม หญิงสาวกลืนน้ำลาย บีบขวดน้ำในมือแน่นขึ้นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกกดดัน

บรรยากาศในรถเงียบจนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจ และมันก็ยิ่งทำให้ความคิดตีรวนวุ่นวายไปหมด พอ ๆ กับหัวใจที่ถูกความรู้สึกหลากหลายเข้าเล่นงาน หญิงสาวทั้งสับสน ทั้งกลัว และที่สำคัญคือความไม่แน่ใจ... ไม่แน่ใจอีกแล้วว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอรู้จักผู้ชายที่เฝ้าหลงรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว อย่าง ‘นที’ ดีพอแล้วหรือยัง

การกระทำและคำพูดของเขาในวันนี้มันเล่นงานเธออย่างจัง ผู้ชายที่เคยมองว่าแสนดี สุภาพ หายไปไหน คนที่อยู่พ่นคำต่อว่าร้ายกาจใส่เธอคือใคร คือนทีตัวจริงหรือเปล่า ทำไมเขาถึงได้ร้ายนักนะ หรือว่าที่ผ่านมาเขารู้อะไร... ถึงได้ร้ายใส่กันขนาดนี้

อัจฉราผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ หล่อนไม่ยอมดื่มน้ำ หรือว่ากินยาลดไข้เลยสักอย่าง ไม่ใช่ว่าไม่รู้ตัวว่าตัวเองไข้ขึ้นสูงอีกแล้ว การไปหาหมอไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก พอฤทธิ์ยาหมดก็กลับมาเป็นใหม่ ทว่าการจะฝืนตัวเองให้เคลื่อนไหวในพื้นที่คับแคบแห่งนี้ ทำให้เธอรู้ไม่สบายใจเลยสักนิด เหมือนทำอะไรก็ถูกจับจ้องไปหมด

ทุกอย่างมันติดขัดไปหมด นทีเปลี่ยนความชื่นชมของเธอไปแทบไม่มีหลงเหลือ เขาทำให้มันมีตำหนิและมองเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ส่วนนทีเองนั้น เขาก็ไม่สนใจอัจฉราอีกแล้วเช่นกัน ไม่บังคับให้เธอดื่มน้ำหรือว่ากินยา ในเมื่อเธอเลือกที่จะทรมานตัวเองเขาก็คงทำอะไรไม่ได้ อีกอย่างเขาไม่อยากจะเสียความควบคุมที่ตอนนี้เหลือน้อยเต็มที

เขาไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงได้แสดงอาการออกไปขนาดนั้น ตอนแรกก็แค่คิดว่าเพราะรำคาญ แต่เหมือนว่ามันจะไม่ใช่อย่างนั้นอีกต่อไปแล้ว เขาใช้ความเงียบตกตะกอนความรู้สึกของตัวเอง มันไม่ใช่ความรู้สึกดี ๆ หรือว่าความหวั่นไหวพอที่จะเรียกว่าชอบได้

แต่มันคือความสนใจ... สนใจมากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนราชสีห์ที่เห็นหนูอยู่ตรงหน้า สิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ที่ไม่น่าสนใจ ไม่มีอะไรดี แถมยังน่ารำคาญด้วยซ้ำไป

แต่พอเห็นว่ามันเหมือนจะละทิ้งความสนใจไป เพราะคิดว่าตัวเองไม่คู่ควร ยิ่งเห็นความอ่อนแอ ยิ่งเห็นว่าพยายามตีตัวออกห่าง ทั้งที่เคยสนใจยิ่งกว่าสิ่งใด มันทำให้นทีรู้สึกเหมือนโดนดูถูก เขาต้องการให้อัจฉรามองเขาเหมือนที่เคยเป็น ไล่ตามเขาเหมือนที่เคยทำ

ยิ่งกว่านั้นคือเขาอยากตะปบหล่อนเอาไว้ใต้อุ้งมือ... กดและเล่นกับหนูตัวเล็ก ๆ ที่กล้าคิดจะหันหลังให้เขาอย่างหนำใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 25 เจ้าของและผู้ถูกครอบครองที่อยากบินหนี [2/2]

    คำถามด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่นนั่นร้ายกาจไม่ใช่เล่น คำพูดของเธอในครั้งนี้กระทบใจนทีอย่างจัง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะตั้งใจพูดหรือไม่ก็ตาม รอยยิ้มเลือนหายไปจากใบหน้า บรรยากาศที่เคยร้อนระอุเย็นเยียบขึ้นถนัดตา“หึ... กล้าถามขนาดนี้ แสดงว่ายังไม่สิ้นฤทธิ์”น้ำเสียงทุ้มกดต่ำลงอย่างอันตราย เรียบเหมือนผิวน้ำที่กำลังโหมคลื่นใหญ่อยู่ก้นบึ้ง ปลายนิ้วโป้งกดลงบนริมฝีปากอิ่มของอัจฉราด้วยแรงที่ทำให้กลีบเนื้ออ่อนนุ่มนั้นเผยอออกและอุทาน ‘โอ๊ย’ ออกมาด้วยความเจ็บก่อนจะพลิกร่างเล็กกลับขึ้นมาและคร่อมเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว โดยไม่สนว่าทั้งคู่จะเปลือยเปล่า โน้มหน้าลงไปจนปลายจมูกชนกัน ผสานลมหายใจที่ร้อนระอุเข้ากับจังหวะหายใจที่ขาดห้วงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นของอัจฉรา“เธอมองว่าฉันเป็นคนดีมาตลอดเหรอ? หึ... นั่นแหละที่ทำให้เธอไม่แตกต่างจากคนอื่น... มองแค่ผิวเผิน... ใจง่ายไปเอง ทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรให้ด้วยซ้ำ”นัยน์ตาสีนิลแข็งกร้าว แต่ก็มีชั่วแวบหนึ่งที่มันฉายประกายอย่างซับซ้อน คล้ายกับความเจ็บปวดจากบางอย่าง ทว่าก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว นทีกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นความหวาดหวั่

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 25 เจ้าของและผู้ถูกครอบครองที่อยากบินหนี [1/2]

    “อึก... อื้ออ...” สองมือยึดสะโพกเอาไว้มั่น ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาแหงนหน้าขึ้นฟ้า ปล่อยธารรักอุ่นร้อนพุ่งเป็นสายหนาเคลือบแผ่นหลังเนียนที่บัดนี้เต็มไปตราประทับกลีบกุหลาบและรอยขบกัด สะท้านสะเทือนเพราะแรงรักที่เขาปรนเปรอให้ใจจริงนทีอยากที่จะปลดปล่อยเคลือบผนังกำมะหยี่ แต่เขาก็รักษาคำพูดของตัวเองพอที่จะไม่ลดตัวลงไปฝากน้ำรักของเขาในกายของหล่อน... ถ้าเกิดพลาด อัจฉราท้องขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่“อ่าห์... โคตรดี... เธอเป็นของฉันแล้วนะ เนย”เสียงทุ้มพร่ากระซิบชิดกับใบหูที่ร้อนผ่าวของคนใต้ร่าง หลังจากที่ปลดปล่อยจนสุดทางรัก ทรุดตัวลงนอนทับเธอ โดยระวังน้ำหนักไม่ให้ทับคนตัวเล็กกว่าจนร่างแหลกไปเสียก่อนเขายกยิ้มอย่างพึงพอใจ พลางเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นไปตามแนวสีข้างของเธอ จนมาถึงข้างแก้มที่ถูกปกคลุมด้วยเส้นผมสีแดงบดบังใบหน้าของคนที่เขาอยากเห็นสีหน้าที่สุดจนมองไม่เห็น“พูดอะไรบ้างสิ... หรือว่าโดนของฉันไปเลยจุกพูดไม่ออก”นทีถามเสียงเย้าแหย่ แต่แฝงความเป็นเจ้าของที่เพิ่มพูนขึ้นกว่าเดิม รู้สึกพึงพอใจที่สามารถยึดครองร่างกายเธอมาเป็นของเขาได้ด้วย

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 24 กายพิพากษา NC🔞

    พรึ่บ! นทีไม่สนท่าทีที่กลับมาขัดขืนงอัจฉรา เขากระชากกางเกงยีนและกางเกงในตัวจิ๋วลงไปกองรวมกันอยู่ที่ข้อเท้าเล็กอย่างไม่ปรานี เผยให้เห็นเงาสามเหลี่ยมที่ซ่อนอยู่หว่างขาขาว เท่านั้นยังไม่พอใจ กวาดสายตามองร่างเปลือยเปล่าตั้งแต่หัวจรดเท่าสายตาจวบจ้วงนั่นทำให้หญิงสาวหัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวและความอายอย่างถึงที่สุด เธอพยายามถดตัวหนี ปิดบังตัวเองด้วยมือและแขนอย่างน่าสมเพช แต่มันกลับดูยั่วยวน กระตุ้นความอยากของนทีอย่างร้ายกาจคว้าข้อเท้าเล็กทั้งสองข้างเอาไว้มั่น รับรู้ได้ถึงแรงต้านที่พยายามจะหนีบขาเข้าหากัน แต่พละกำลังที่มากกว่าก็สามารถจับเรียวขาสวยของเธอแยกออกจากกันได้ไม่ยาก เผยให้เห็นกลีบเนื้ออวบอูมที่บัดนี้ฉ่ำวาวแล้ว“ไม่นะ! อย่ามอง!”“แฉะแล้ว... อย่าหลอกตัวเองเลยเนย...”.นทีเลียกลืนน้ำลาย สายตาจับจ้องส่วนรับของอัจฉราอย่างกระหาย ความงามของเธอเกือบทำให้ลืมหายใจ นัยน์ตาสีนิลวาวโรจน์ รีบแทรกกายเข้าไประหว่างขาของเธอ รับรู้ถึงความปวดร้าวของตัวเองที่ร้องหาปลดปล่อยใต้เนื้อผ้า“คุณนที... ฮึก...”น้ำตาของเธอ... ร้องไห้อีกแล้ว ความปรารถ

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 24 กายพิพากษา NC🔞

    “คุณนทีอย่า!”อัจฉราประท้วงเสียงเครือ ดวงตาคู่ฉ่ำน้ำใส ไหวสั่นระริก ความร้อนซ่านประดับพวงแก้มใสราวกับผลตำลึงสุก ทั้งอายและอัปยศอย่างถึงที่สุด หลังจากที่นทีเปิดเผยร่างกายท่อนบนของเธอ มองเขาด้วยสายตาที่อ้อนวอน ผิดจากความดื้อรั้นก่อนหน้า“อย่านะคะ... ฮึก... เนยขอร้อง”เธอขอร้องทั้งน้ำตา ปลายจมูกรั้นแดงเรื่อ หายใจติดขัด ภาพตรงหน้าของนทีช่างดูน่าสงสาร เขากำลังทำร้านอัจฉราย่อมรู้ดี แต่ความต้องการของเขามันบดบังความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไปหมด สำคัญเขากำลังมองว่าความอ่อนแอของเธอมันน่าขย้ำให้จมเขี้ยว เหมือนสัตว์ตัวน้อย ๆ อ่อนแอ หวาดกลัว... สิ้นหวังแต่ก็ยังดิ้นรนที่จะขอร้อง“อย่าร้องไห้...”เขายื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่อาบหน้าคนใต้ร่างอย่างแผ่วเบา สัมผัสเย็นเยียบไม่ใกล้เคียงกับคำว่าปลอบใจเลยแม้แต่น้อย ซึ่งใช่... นทีไม่ได้กำลังปลอบประโลม“คุณนที... เนยขอร้องนะ... อย่าทำแบบนี้เลย”ร่างเล็กตัวสั่น สัมผัสของปลายนิ้วที่เฉียดผ่านแก้มเนียนยามที่เขาเช็ดน้ำตาให้ แม้รู้ดีว่ามันคือการกระทำเสแสร้งที่สุด ทว่ากลับรู้สึกสะท้านใจอย่างอดไม่ได้ ยิ่งเปิดเปลือ

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 23 เจ็บกว่าที่ใจไหว [2/2]

    “น่ารำคาญมากไหมคะ... ฮึก... เนยน่ารำคาญในสายคุณนทีมากไหมคะ?”นทีชะงักจริง ๆ ในครั้งนี้ ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย ไม่ตอบคำถามแต่กลับจ้องใบหน้าที่เปื้อนหยาดน้ำใสจากตาของเธอ ก่อนที่รอยยิ้มร้ายกาจจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง น้ำตาของเธอ... ทำให้รู้สึกเดือดในใจอย่างประหลาดพร้อมด้วยเสียงหัวเราะต่ำ เขาปล่อยมือออกจากคางของเธอ ปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มนุ่มอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะตอบคำถามของหล่อนด้วยน้ำเสียงเย็นจัดตรงข้ามกับสัมผัส“มาก... จนอยากปิดปากเธอให้เงียบเลยล่ะ”พูดจบก็ก้มลงประกบจูบอัจฉราอย่างแรง แบบไม่ให้เธอทันได้ตั้งตัว ดวงตาชุ่มน้ำเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงด้วยความตกใจท่ามกลางความรู้สึกเจ็บปวด ขณะที่นทีเลื่อนมือมาล็อกกรามของเธอเอาไว้ บังคับให้เงยหน้ารับจูบได้ถนัดมากขึ้น“อืม...”เสียงทุ้มคำรามในลำคออย่างขัดใจเล็กน้อย ที่กลีบปากนุ่มของหญิงสาวเม้มแน่น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เขาบีบกรามเธอแน่นขึ้นจนอัจฉราแย้มริมฝีปากออกด้วยความเจ็บ นทีใช้จังหวะนั้นสอดลิ้นร้อนเข้าไปลิ้มรสความเค็มของน้ำตาผสมกับความหวานหอมของคนใต้ร่างอย่างดุเดือดกวาดต้อนลิ้นเ

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 23 เจ็บกว่าที่ใจไหว [1/2]

    อัจฉราหยุดฝีเท้าที่ปลายบันได แผ่นหลังบางตั้งตรงแม้จะสั่นไหวจากการร้องไห้ก็ตาม ดวงตาคู่สวยคมกล้าขึ้นเหนือความบอบบางที่เจ็บลึกสุดใจ “เนยไม่ได้หนี... แต่ถ้าจะหนีแล้วมันเรื่องอะไรของคุณนทีคะ?” เสียงหวานเครือย้อนถามคนข้างหลังโดยไม่หันไปมอง พูดจบหล่อนไม่รอคำตอบรับ หญิงสาวก็เคลื่อนไหวลงบันไดไปอีกครั้ง ทว่าเร็วไม่พอ ไม่ง่ายอย่างที่คิดนทีกล่าวไว้ไม่มีผิด “กล้าดีนี่!” หมับ! มือใหญ่ยื่นออกมาคว้าข้อมือเล็กของอัจฉราได้อย่างแม่นยำ พร้อมกันนั้นก็รวบร่างบางด้วยแขนอีกข้างที่ว่างเข้ามาหา ก่อนจะปล่อยมือออกจากข้อมือของหญิงสาว แล้วยกเธอขึ้นอุ้มทันที โดยไม่สนใจเสียงร้องห้ามหรือแรงขัดขืน “คุณนที! ปล่อยเนยนะ!” “ปล่อยเหรอ?! จะให้ปล่อยไปไหนล่ะ? ไปเสนอตัวให้ไอ้เจ้าหนี้ของเธอทำเมียหรือไง” น้ำเสียงทุ้มต่ำอันตรายยิ่งกว่าครั้งไหน เขาจับร่างเล็กพาดบ่าอย่างมั่นคง ก่อนจะหันกลับขึ้นบันได ตรงไปยังห้องนอนที่ประตูยังคงเปิดอ้าอยู่จากเมื่อครู่ ดวงตาสีนิลมืดครึ้มลงอย่างน่ากลัว ส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status