“แล้วแกก็ได้จริงๆ ตามแผนแกหนะแหละ ว่าแต่อาการป่วยของแกเนี่ย อยู่ในแผนแกด้วยมั้ย” เพื่อนสาวชม พร้อมแขวะไป อย่างเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่ตัวเองมาเนี่ย อยู่ในแผนด้วยหรือเปล่า
“ถ้าอยู่ในแผน ฉันจะมีหน้าอย่างนี้เหรอแกกก” ฟ้าใสพูดออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน พร้อมทั้งไหลนอนพิงไปกับพนักโซฟา ลืมตามองเพดานอย่างไร้จุดหมาย
“เฮ้ย ฟ้า มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันไม่เคยเห็นแกเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ ไหนมีอะไรเล่ามาเดี๋ยวนี้”
“แม่บอกให้ฉันหมั้นกับเพื่อนลูกชายแม่.....” ฟ้าใสหลับตานั่งสักพัก ก่อนจะเริ่มเอ่ยปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น
“ก็ดีแล้วนี่แก เราก็อายุเยอะกันแล้วนะ อีกไม่กี่ปีจะเข้าเลขสามแล้ว ถ้าเราเริ่มหาคนรู้ใจตอนนี้ กว่าจะคบ กว่าจะทำความรู้จัก จนถึงแต่งงาน เหี่ยวพอดี แกโชคดีออก แม่หาให้ ข้ามขั้นแต่งไปเลย เหี่ยวน้อยกว่าคนอื่นในอายุเท่ากันไปสองถึงสามปี ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” แป้งพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี พร้อมแหย่เพื่อนสาวไปในตัว เพราะรู้ว่าเพื่อนของเธอไม่มีทางที่จะเริ่มเปิดใจให้ใครแน่นอน หากแม่อัญ คุณแม่ของฟ้าใส สามารถหาคนดีๆ มาเป็นคู่ให้กับเพื่อนเธอได้ก็คงดีไม่น้อย
“แกก็รู้ว่ามันไม่ได้อยู่ในแผนฉัน ฉันวางแผนชีวิตฉันไว้หมดแล้ว ช่วงอายุปีนี้ฉันจะตั้งใจทำงาน จนได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า ดูเหมือนน่าจะไม่เกินปีหน้า แล้วฉันจะขอเที่ยวสัก 1 ปี หลังจากนั้นค่อยเริ่มหาคู่ ในแผนชีวิตฉันจะแต่งอีก 5 ปีนะแก แต่นี่ ทุกอย่างผิดแผนหมดเลย” ฟ้าใสสาธยายตารางชีวิตของเธอให้เพื่อนสาวเข้าใจ นี่ถ้ายังไม่เข้าใจ จะเดินเข้าไปเอาหนังสือแผนชีวิตมาให้มันแล้วนะ
แป้งฟังไปแล้วก็งงไป ทีแรกนึกว่าเพื่อนสาวไม่คิดจะแต่งงานแต่ถ้าคิดอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นน่าจะมีปัญหานี่นาเลยถามออกไป “ในเมื่อแกคิดว่าจะแต่งอยู่แล้ว แต่งตอนนี้ กับแต่งอีก 5 ปีก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เหมือนแก” ฟ้าใสหันมาพูดกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แกคิดดูนะ ช่วงเวลานี้ ฉันควรจะโฟกัสที่การทำงาน เพื่อให้ได้ตำแหน่งที่ตั้งใจ แต่ถ้าฉันมีใครตอนนี้ ไม่ว่าจะหมั้น จะทำความรู้จัก หรือจะแต่ง มันจะทำให้ฉันต้องแบ่งเวลาในการทำงานไปให้เขาคนนั้นด้วย อย่างน้อยๆ ก็เกือบครึ่งนึงของเวลาที่ฉันควรจะให้กับงาน มันอาจจะทำให้ฉันไม่ได้ตำแหน่งตามที่ฉันคิด และในเวลาที่ฉันกำหนด ดังนั้นฉันยอมไม่ได้” ฟ้าใสพูดออกมาอย่างไม่ยอมให้แผนชีวิตต้องพังเพราะอะไรก็ตามที่เข้ามาโดยที่ไม่อยู่ในแผน
“แกก็เป็นเอามากนะ ฟ้า” แป้งฟังแล้วก็ทึ่งกับความเคร่งของเพื่อนมาก จริงๆ แป้งชื่นชมฟ้าใสมาก เพื่อนของเธอมีเป้าหมายและแผนที่ชัดเจนในการดำเนินชีวิตมาตลอด ทำให้เมื่อหันมามองกับตัวเอง แป้งแค่คิดว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด และใช้ชีวิตให้มีความสุข แต่ก็ยอมรับบางครั้งก็รู้สึกเคว้งเหมือนกัน เพราะเมื่อเป้าหมายไม่ชัดเจน ทำให้เมื่อต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง เธอไม่แน่ใจว่ามันถูกต้อง หรือไม่ แต่กับฟ้าใสไม่ใช่ พอมีเป้าหมายในชีวิต เพื่อนจะวางแผนและเมื่อต้องตัดสินใจ เพื่อนจะมีการประเมินเพื่อเช็คผลลัพธ์เบื้องต้นว่ามันกำลังพาเธอไปที่เป้าหมาย หรือพาเธอห่างจากเป้าหมาย ซึ่งมันดูดีมากกก แต่...........มากไปมั้ยเพื่อนถึงขั้นไม่สบายเลยเหรอ
“แล้วแกตัดสินใจจะทำอย่างไรต่อไป” เพื่อนสาวมองหน้าฟ้าใสถามออกไปอย่างไม่รู้ว่าจะแสดงสีหน้าอย่างไรดี
“แม่อยากให้ฉันทำความรู้จักกับเขา ฉันขัดไม่ได้ แต่ฉันก็บอกแม่ไปเหมือนกันว่าหากเราเข้ากันไม่ได้ แม่ก็ห้ามฝีนใจ” แป้งพูดออกมาอย่างขุ่นเคือง
“อ้าว ก็ดีแล้วนี่ ฉันนึกว่าแม่แกจะบังคับมากสะอีก นี่ก็ให้โอกาสแกศึกษาดูใจกับผู้ชายคนนั้น” แป้งยิ่งงงใหญ่ แล้วปัญหามันอยู่ตรงไหนกันเนี่ย
“แต่แม่บอกว่าตานั้นยอมแต่ง ฉันกลัวว่าทางนั้นจะพยายามทำให้ได้แต่ง” ฟ้าใสเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกังวลที่จริงจัง
“เอ่อ แกคิดเกินไปหรือเปล่าฟ้า” มันน่ากังวลยังไงเนี่ย ใครเข้าใจช่วยบอกหน่อย แป้งคิดในใจ ไม่กล้าพูดออกมา
“แล้วถ้าเขาไม่ยอมยกเลิกงานหมั้น งานแต่งจริงๆ ชีวิตฉัน แผนฉันก็พังหนะสิ” ฟ้าใสพูดพลางส่ายหัวไปพลาง “ยังไงฉันก็ยอมไม่ได้”
“คิดมากไปมั้ยแก เรื่องมันไม่ถึงไหนเลย แกคิดมากไปเปล่า หรือแกจะไปคุยกับเขาเพื่อโน้มน้าวและหาทางยกเลิกงานหมั้นหละ” แป้งพูดออกมาอย่างประชดเพื่อน ที่คิดมากเกินเหตุ
“เฮ้ย ความคิดแกดีมากเลย แต่ฉันจะติดต่อเขาได้ยังไงหละ” ฟ้าใสพูดขึ้นมาอย่างมีความหวัง พร้อมกับจับที่ไหล่เพื่อนทั้งสองข้างเขย่าเบาๆ อย่างดีใจที่หาทางออกได้
“เอ่อ แก เอาจริงดิ” แป้งพูดไปสั่นไป เพราะแรงเขย่าของเพื่อน
“จริง ฉันเอาจริง ฉันต้องกำจัดสิ่งที่จะเข้ามาขัดขวางแผนชีวิตฉันออกไปให้ได้”
“เฮ้อ เป็นเอามากนะ แก แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่” แป้งพูดออกมาอย่างปลงๆ ด้วยความรีบมาหาเพื่อน และตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว อาการง่วงเริ่มเข้ามาเยือนหลังจากสบายใจไปเปราะหนึ่งว่าเพื่อนไม่ได้เจ็บป่วย หรือมีปัญหาร้ายแรงอะไรเลยเริ่มชิวๆ
“พรุ่งนี้เลย” มีฟ้าใสคนเดียวที่ยังตื่นตัวอยู่กับแผนในหัวว่าจะทำอย่างไรต่อไป เดี๋ยวต้องรีบไปร่างแผนออกมาแล้ว มันต้องได้ผลสิหน่า
“อืม จะให้ฉันช่วยอะไรก็บอกแล้วกัน แต่ตอนนี้ฉันง่วงแล้วอะ ฉันเข้าไปนอนก่อนนะ” แป้งหาวออกมาอย่างไม่อาจทนได้ แล้วลุกจากโซฟาเดินตรงไปยังห้องนอนเพื่อนที่มาค้างด้วยกันบ่อยๆ
“เอาสิ ขอบใจมากเพื่อนที่มานอนเป็นเพื่อน เดี๋ยวฉันขอไปเขียนแผนการยกเลิกงานหมั้นนี่ให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะรีบเข้าไปนอน” ฟ้าใสพูดออกมาอย่างตื่นเต้น พร้อมรีบเดินไปที่ห้องทำงาน เพื่อร่างแผนงาน
“ตอนนี้เนี่ยนะ ยัยฟ้า” แป้งหันมาตะโกนตามหลังฟ้าใส หลังจากได้ยินประโยคนั้น เมื่อเห็นเพื่อนไม่ตอบกลับพร้อมเดินหายเข้าไปในห้องทำงาน ก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย พร้อมบ่นเพื่อนเบาๆ “ยัยจอมวางแผนเอ้ย”
ขณะเดียวกัน @ คลับ S คลับหรูใจกลางเมือง
หนุ่มร่างสูงโปร่ง ตาเรียวมีเสน่ห์ ปากหยักได้รูป กำลังเดินตรงไปยังห้อง VIP ชั้น 2 ท่ามกลางสายตา และความสนใจจากสาวๆ ในคลับ ธันวา เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ระดับประเทศ รวมถึงคอนโดหรูใจกลางเมืองที่ฟ้าใสอยู่ด้วย เปิดประตูห้อง VIP เข้าไปเพื่อพบ ปกรณ์ เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยชั้นประถม ถึงแม้ปกรณ์จะไปอยู่ต่างประเทศหลายปี แต่ก็ยังคอยติดต่อกับธันวาตลอด ทำให้ความเป็นเพื่อนสนิทไม่ลดหายไปแม้แต่น้อย
“ทำอะไรกันนะ”เสียงทุ้มดังขึ้นมา ทำให้ทั้งสองสะดุ้งทันที ฟ้าใสหันมาเจอกับปกรณ์ที่มีสีหน้าทะมึงถึงพร้อมกับสายตาของเขาที่จ้องไปที่มือทั้งสองที่ยังคงจับกันอยู่ ในขณะที่พีทก้มหัวทักทายปกรณ์เล็กน้อย แต่เมื่อมองตามสายตาของปกรณ์ไปก็ตกใจรีบปล่อยมือตัวเองออกจากแฟนสาวของท่านประธานทันที“ตกใจหมดเลยกรณ์ ทำไมต้องเสียงดังด้วย เบาหน่อยสิค่ะ เดี๋ยวเรื่องก็แตกหรอก” ฟ้าใสบ่นไปยังแฟนตัวเอง แล้วยกนิ้วชี้ปิดที่ปากของตัวเอง พร้อมกับส่งเสียง จุ๊ ๆ พลางมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นออยออกมาจากห้องก็ถอนหายใจออกมา แล้วหันไปทำตางอนๆ ใส่แฟนตัวเอง“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้ แล้วนี่ทำอะไรกัน ทำไมมาอยู่กันสองคน พร้อมจับไม้จับมือกันอยู่ ไม่อยากให้คนเข้าใจผิดก็ไม่ควรทำ” ปกรณ์เอ่ยออกมาอย่างตำหนิ น่าหยิกแฟนตัวเองดีนัก“ขอโทษครับ พอดีผมตื่นเต้นและดีใจเกินไปหน่อย” พีทขอโทษออกมาอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้ทั้งสองคนตรงหน้ากำลังเข้าใจผิดซึ่งกันและกันปกรณ์เหลือบมองฝ่ายชายอย่างไม่ค่อยใส่ใจ ถึงแม้เขาพอจะรู้แล้วว่าเพื่อนคนนี้ของแฟนสาวมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็เคยช
“ฟ้ารู้ใช่มั้ยว่าพีทรักฟ้า” พีทไม่ตอบคำถามหญิงสาว แต่กลับถามกลับไปแทน“ฟ้าไม่รู้ เพิ่งรู้วันนั้นแหล่ะ แต่วันนี้ฟ้าจะพูดให้ชัด ฟ้าไม่ได้มองพีทเป็นอย่างอื่น นอกจากเพื่อน” เสียงหญิงสาวอ่อนลงแต่หนักแน่นเพื่อให้เพื่อนของตัวเองรู้ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน“หึหึ พีทรู้อยู่แล้วหล่ะ พีทผิดเองที่พึ่งรู้ใจตัวเอง เมื่อมันสายไป แต่เราสองคนยังเป็นเพื่อนกันได้ใช่มั้ย” พีทหันไปจ้องที่หญิงสาวที่ตัวเองหลงรักมานานหลายปี“ได้สิ ถ้าพีทไม่คิดกับเราเกินเพื่อนเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม” ฟ้าใสยิ้มบางๆ ให้กับคนตรงหน้า“อืม” พีทฝีนยิ้มออกมา เขาต้องทำให้ได้เพราะตอนนี้เขามีอีกสองชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ“แล้วออยหล่ะ พีทจะทำยังไง” ฟ้าใสถามออกมาอีกครั้ง“พีทจะรับผิดชอบออยกับลูก พีทว่าพีทก็เริ่ม...” พีทยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงแหบแห้งพูดออกมา“ไม่ต้อง ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เราไม่ใช่ตัวสำรองของใคร” เสียงออยดังขึ้นมา จริงๆ แล้วหญิงสาวรู้สึกตัวตั้งแต่ไ
“แล้วแกไม่โกรธมันเหรอ” ออยถามหยั่งเชิงนิดๆ อยากรู้ว่าเพื่อนรักรู้สึกอะไรกับนายนั่นหรือเปล่า“อืม จะพูดยังไงดีหล่ะ รู้นะว่ามันเมา มันไม่ได้ตั้งใจ แต่แค่ไม่คิดว่ามันจะคิดกับฉันแบบนั้น”“แกไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันเลยเหรอ” ออยถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง“ไม่ได้คิดอะไรเลย คิดเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น อีกอย่าง...”“อีกอย่างอะไร” เสียงอยากรู้ออกมาทันที จนฟ้าใสนึกเอ็นดูเพื่อน“อีกอย่างตอนนี้ฉันกับคุณกรณ์ก็ตกลงเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการแล้ว”“หา! ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขายอมบอกรักแกแล้วเหรอ”“อืม เมื่ออาทิตย์ที่แล้วหล่ะ” ฟ้าใสตอบไปด้วยมีริ้วแดงขึ้นบนหน้าไปด้วย แสดงออกถึงความเขินอายเล็กน้อย“เฮ้ย ยินดีด้วยนะ” ออยจับมือฟ้าใสขึ้นมาแล้วยิ้มออกมาอย่างจริงใจ“ว่าแต่แกยังไม่บอกเลย ว่าโกรธอะไรกับมัน”“เอ่อ มีเรื่องทะเลาะกับมันนิดหน่อย ตอนนี้ยังไม่อยากคุยกับมัน ฟ้าอย่าสนใจเลย เดี๋ยวพออะไรๆ ดีขึ้น เรากับมันก็คุยกันเ
“ฟ้า ทบทวนเรื่องของเราสองคนอีกรอบได้มั้ย”ฟ้าใสหันไปมองหน้าชายหนุ่มอย่างงุนงง ทบทวนอะไรเหรอ“ทบทวนเรื่องความรู้สึกของเราสองคนไงหล่ะ เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้กรณ์ไม่อยากรอถึงสองปีแล้ว ถ้าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับฟ้า กรณ์คงอยู่ไม่ได้แน่ๆ กรณ์อยากจะสามารถปกป้องฟ้าได้อย่างเต็มที่ ฟ้าเป็นแฟนกับกรณ์นะ”พูดจบก็ยิ่งกระชับไหล่ที่โอบไว้แน่นขึ้นร่างบางเมื่อได้ยินร่างสูงพูดความในใจออกมาก็เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ หากเมื่อคืน เธอโดนพีทล่วงเกิน แม้จะแค่จูบ เธอก็คงจะรู้สึกกับเขาเช่นกันตอนนี้เธอค่อนข้างจะมั่นใจตัวเองแล้วว่าเธอรักเขามากจริงๆ แต่เขาหล่ะ“กรณ์แน่ใจแล้วเหรอว่า กรณ์รักฟ้า ไม่ใช่แค่ความใกล้ชิด”ร่างหนาพยักหน้าอย่างแรงจนเธอนึกเอ็นดู“จริง ตอนนี้กรณ์รู้ใจตัวเองแล้ว ว่ากรณ์รักฟ้า กรณ์ไม่อาจเสียฟ้าไปได้ เราแต่งงานกันนะฟ้า”เพี๊ยะ เสียงตีดังขึ้น พร้อมกับรอยแดงที่แขน แต่แปลก หน้าคนตีก็แดงด้วย“เร็วไปแล้วค่ะ เป็นแฟนกันก่อนก็พอ”“อ้าวเหรอ ก็อยากข้ามขั้นอ
“มึง ไอ้พีท”พีทโดนกระชากออกจากตัวฟ้าใสทันที ปกรณ์ตามเข้าไปต่อยชายหนุ่มที่บังอาจทำกับคนของเขาแบบนั้น ส่วนฟ้าใสก็ตัวสั่นอยู่ภายในอ้อมกอดของแป้ง โดยมีมิ้นท์ยืนอยู่ข้างๆออยวิ่งเข้ามาดูเป็นคนสุดท้ายเพราะออกไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียงมา เมื่อเห็นเพื่อนโดนปกรณ์ทั้งต่อย ทั้งเตะ และมองไปเห็นฟ้าใสตัวสั่นด้วยความกลัว ก็พอจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออยเดินเข้าไปหาฟ้าใสแล้วถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“ฟ้า เป็นยังไงบ้าง เกิดอะไรขึ้น”เหมือนฟ้าจะได้สติขึ้นมา จึงรีบเดินเข้าไปจับมือปกรณ์ที่กำลังง้างเพื่อต่อยเขาอีก“พอเถอะกรณ์ พีทไม่ได้ตั้งใจหรอก เขาเมาหนะ” ฟ้าพูดด้วยเสียงที่สั่นเทาปกรณ์หันหน้ามาหาหญิงสาวแล้วโอบกอดเธอไว้ พร้อมมองไปที่ร่างของชายหนุ่มที่นอนกองอยู่กับพื้น ไม่ถึงกับสลบแต่ก็น่าหายเมาพอสมควร“ยังจะไปแก้ตัวแทนมันอีก” ปกรณ์ดันหัวฟ้าเข้าหาตัวเอง แล้วพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเช่นกัน เขาคิดไม่ออกว่าถ้าหญิงสาวเป็นอะไรไป เขาจะทำยังไงพีทเมื่อเริ่มได้สติ หันไปเห็นคนที่ตัวเองแอบรักมาหลายปี มีอา
ฟ้าใสรีบเดินออกมาจากห้องครัวอย่างเร็วเพื่อเดินไปเปิดประตูทันทีแกร๊ก“สวัสดีพี่ฟ้าใส” เสียงใสดังขึ้นหน้าประตูทันที“สวัสดีจ๊ะ น้องมิ้นท์ คุณเจมส์” ฟ้าใสยิ้มทักทายทั้งสองคนมิ้นท์ชูของขวัญให้กับว่าที่พี่สะใภ้ หันไปส่งให้เจมส์เป็นคนถือ จากนั้น ก็รีบควงแขนพี่สะใภ้คนโปรดเข้าไปในห้องทันที“อ้าวสวัสดีค่ะ พี่กรณ์ และก็พี่ๆ ทุกคนค่ะ”มิ้นท์ทักทายทุกคนอย่างไม่ถือตัว“เอาหละค่ะ ในเมื่อทุกคนมากันครบแล้ว งั้นเราเริ่มตั้งหม้อเลยมั้ย” ฟ้าใสยิ้มบอกกับทุกคน“เย้ เอาเลย หิวแล้ว” ทุกคนเอ่ยพร้อมกันฟ้าใสรีบเข้าไปในครัวเพื่อจัดการเทน้ำซุปที่ต้มไว้แล้ว เมื่อกำลังจะยก ปกรณ์รีบมาช่วยยกแทนหญิงสาวเอง แต่ก่อนเดินออกไปก็แอบหอมแก้มร่างบางตอนเผลอแล้ววิ่งออกไปทันทีฟ้าใสยืนจับแก้มตัวเอง แต่ก็แอบอมยิ้มเขินๆ ไปด้วยปกรณ์เมื่อยกเตาชาบูมาวางบนโต๊ะกินข้าว ก็เดินเข้าไปเตะขาเพื่อนสนิท กับมือขวาตัวเอง ที่นั่งอยู่บนโซฟาเล่นโทรศัพท์อยู่“เฮ้ย อยากกินก็ไปช่วยกันดิ”