แชร์

บทที่สี่ จับคู่

ผู้เขียน: Jtnpng
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-18 20:18:45

"ศิษย์ขอคาราวะท่านอาจารย์!!!"ทุกคนในห้องลุกขึ้นยืนทำความเคารพอาจารย์ประจำห้องนี้ที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน 

"นั่งลงเถอะ"อาจารย์หนุ่มเดินเข้าไปนั่งลงที่โต๊ะหน้าห้องเรียนด้วยท่าทีสงบ เมื่อทุกคนเห็นว่าท่านนั่งลงแล้ว ทุกคนก็นั่งลงกลับเข้าที่ของตนเอง 

ท่านอาจารย์กวาดสายตามองสำรวจศิษย์ทุกคนอย่างละเอียดก่อนจะหันหน้ากลับมาและเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมแต่แผ่ซ่านไปด้วยความอบอุ่นชวนให้อุ่นใจ 

"ข้ามีนามว่าลู่หมิง หนึ่งปีต่อจากนี้พวกเจ้าจะได้อยู่ฝึกกับข้า หากมีสิ่งใดให้ช่วยเหลือก็สามารถมาบอกกับข้าได้เสมอ" 

เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าใจแล้วลู่หมิงก็ยกยิ้มออกมา เด็กที่นี่ทุกคนล้วนมีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ จึงเป็นการง่ายที่จะสามารถกล่าวออกไปตรงๆตามวิถีนักรบได้ 

"ดีล่ะ! วินาทีนี้พวกเจ้าทุกคนจะต้องตั้งใจฝึกบ่มเพาะพลังให้มากขึ้น ทุกปี สำนักจะคัดสรรเลือกผู้มีพรสวรรค์ห้าคนของแต่ละสาขาเข้าไปอยู่ในเขตภายในชั้นต้นของนิกาย"

"โดยเขตภายในชั้นต้นนั้นจะมีทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังสูงกว่าเขตภายนอกหลายเท่าตัว"

"จำเอาไว้ หากอยากแข็งแกร่งขึ้นพวกเจ้าจะต้องหมั่นฝึกฝนเพื่อจะได้เป็นหนึ่งในผู้คัดเลือกให้ได้ และถึงแม้จะมีโอกาสทุกปีก็ตาม"

"แต่ว่าทุกปีก็จะมีศิษย์ใหม่ที่อาจจะมีพรสวรรค์มากกว่าพวกเจ้าเดินเข้ามาสู่ประตูนิกาย พวกเจ้าก็ควรคิดเก็บเอาไว้เลยว่าหากไม่ได้เป็นผู้คัดเลือกในปีนี้ ปีหน้าก็อาจจะไม่มีหวัง เพราะเช่นนั้นจงพยายามให้หนักเท่าที่จะหนักได้ เพราะเป้าหมายหากไม่พยายาม ก็จะไม่มีวันได้พบกับความสำเร็จ!" 

"ศิษย์น้อมรับคำสอนขอรับ/เจ้าค่ะ!!!"ศิษย์ทุกคนในห้องเอ่ยออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน 

หลี่ถงถงมองไปยังนอกหน้าต่าง เขตภายในงั้นหรือ ในเนื้อหานิยายได้บอกเอาไว้ว่าภายในเขตภายในของนิกาย ประกอบไปด้วยหอคอยสามชั้นนั่นก็คือชั้นต้น ชั้นกลาง และชั้นสูง 

โดยเขตภายในชั้นต้น จะรวมเหล่าศิษย์ที่มีพรสวรรค์จากสาขาต่างๆ การเรียนการสอนก็จัดว่าดีเยี่ยม และทรัพยากรในการใช้บ่มเพาะพลังเองก็มีเยอะมากเช่นกัน แต่ว่าภายในเขตภายในก็จะมีการคัดเลือกศิษย์เช่นเดิม แต่ว่าน้อยกว่าคัดเลือกรอบแรก เพราะการคัดเลือกของศิษย์ภายในชั้นต้นนั้นจะเลือกผู้ที่แข็งแกร่งยี่สิบอันดับแรกเข้าไปสู่เขตถัดไปเท่านั้น

เพื่อจะให้ได้เข้าสู่พื้นที่เขตภายในชั้นกลางที่มีทรัพยากรที่ดีกว่าเขตภายใน ทั้งยังได้รับการการสอนจากเหล่าอาจารย์ผู้มากไปด้วยฝีมือ ใครที่ได้รับคัดเลือกถือว่าเป็นโชคดียิ่งขึ้นไปแล้ว... 

และสุดท้ายคือเขตภายในชั้นสูง การคัดเลือกศิษย์เข้าไปในเขตนี้จะมีระดับที่ยากขึ้นไปอีก เพราะทางสำนักจะเลือกแค่สามคนเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปภายในเขตภายในชั้นสูงได้ 

เขตภายในชั้นสูงไม่เพียงแค่มีทรัพยากรที่ดีกว่าชั้นต้นและชั้นกลาง เพราะว่าคนที่สามาถผ่านเข้าไปได้ จะสามารถเป็นลูกศิษย์ของหนึ่งในเสาหลักทั้งสามคนของนิกายได้ 

แม้จะเป็นเพียงความฝัน ก็ไม่สามารถเอื้อมมือไปยังจุดนั้นได้... 

หลี่ถงถงเหลือบสายตามองนกคุ่มสีหรือไก่นาตัวอ้วนปุกปุยที่กำลังเดินจิกกินอาหารตามพื้นดินบนลานหญ้ากว้างของสำนัก ขนาดตัวของมันอ้วนฉุ เวลาเดินตัวของมันก็โยกคลอนไปมา

...จับกินได้มั้ยนะ? 

"การฝึกขั้นแรก ข้าจะให้พวกหักท่อนเหล็กให้ได้ ข้าให้เวลาพวกเจ้าหนึ่งสัปดาห์ในการทำให้สำเร็จ มาหยิบเหล็กแท่งคนละหนึ่งตรงนี้" 

ทุกคนลุกขึ้นเดินไปหยิบแท่งเหล็กคนละหนึ่งแท่งที่หน้าชั้นเรียน 

"นี่ของเจ้า"ลู่หมิงยื่นแท่งเหล็กให้กับหลี่ถงถงเองต่างจากคนอื่นที่ต้องหยิบเอง 

แม้หลี่ถงถงจะสงสัย แต่นางก็ยื่นมือไปรับโดยไม่เอ่ยถามสิ่งใด

หลี่ถงถงสำรวจดูแท่งเหล็กในมือ แท่งเหล็กนี้มีขนาดยาวสามสิบเซ็นติเมตร และกว้างสองเซนติเมตร ส่วนน้ำหนักนั้นกลับหนักห้ากิโลกรัม 

ดูเหมือนว่าแท่งเหล็กนี้จะมีพลังลมปราณกดทับอยู่เป็นแน่...หลี่ถงถงเดินกลับเข้าไปนั่งที่ของตนเองพร้อมแท่งเหล็กในมือ

จะให้หักของพรรคนี้ด้วยพลังกายล้วนๆก็คงจะทำไม่ได้ แต่ต้องใช้พลังภายในด้วยงั้นสินะ... 

หลี่ถงถงหลับตาลงทำสมาธิ จดจำวิธีการมาจากที่ได้อ่านจากเนื้อหานิยาย วิธีเข้าไปดูห่วงพลังลมปราณของตัวเองนั้น ต่องทำสมาธิ และทำจิตใจให้ว่างเปล่า เพ่งเล็งหาจุดแสงสว่างของลมปราณของร่างกาย 

นั่นไงเห็นแล้ว! หลี่ถงถงเข้าไปสัมผัสพลังลมปราณสีแดงฉานขนาดใหญ่ที่อยู่ในห้วงวิญญาณ เมื่อมือสัมผัส พลังลมปราณก็แผ่ซ่านหลั่งไหลสู่ร่างกายของหลี่ถงถง 

หลี่ถงถงพยายามควบคุมลมปราณของตัวเองให้คงที่ ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมามองแท่งเหล็กที่อยู่ตรงหน้า 

มือบางเอื้อมไปหยิบแท่งหล็กหนักห้ากิโลขึ้นอย่างสบายๆก่อนจะหันไปมองคนอื่นในห้องว่ามีใครสามารถทำสำเร็จบ้างแล้ว

แต่กลับพบว่ายังไม่มีแม้แต่คนที่ทำให้แท่งแหล็กงอได้เลย... 

ให้ตายสิ ข้าจะลงมือหักแท่งเหล็กนี่ตอนนี้เลยก็ได้แท้ๆ แต่ว่าไม่อยากโดดเด่นเกินหน้าเกินตาของใครนี่สิ...

เอาไว้อีกประมาณสองสามวันก่อนแล้วกัน หลี่ถงถงเอ่ยในใจก่อนจะแสร้งทำเป็นพยายามหักท่อนเหล็กอย่างสุดแรง 

"อึก..."จู่ๆก็มีเสียงกลืนน้ำลายลงคอดังขึ้นข้างหู หลี่ถงถงหันไปมองคนข้างกายก็พบว่าฉีหานฟงสามารถทำให้แท่งเหล็กงอได้แล้วนิดหน่อย 

โอ้! ใช้ได้เลยนะเนี่ย...หลี่ถงถงเอ่ยชื่นชมชายหนุ่มในใจ 

ดูเหมือนฉีหานฟงจะเป็นอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะทั้งหลายงั้นสินะ...

ไม่นานหลังจากนั้นอวี้ซือเหลียงที่นั่งข้างหน้าสุดข้างๆมีหนิงอันนั่งคู่กัน อวี้ซือเหลียงก็สามารถทำให้แท่งเหล็กงอได้อีกคน

สมกับเป็นพระเอก ตบมือๆ...หลี่ถงถงยกมือขึ้นตบเบาๆอวยอวี้ซือเหลียงที่เป็นพระเอกนิยาย ทำให้ฉีหานฟงที่นั่งอยู่ข้างๆเกิดไม่พอใจขึ้นมา 

เขารู้ว่าหลี่ถงถงแอบรักอวี้ซือเหลียง แต่การที่ไปตบมือชื่นชมคนที่ทำได้หลังจากตนมันก็รู้สึกรำคาญอย่างกล่าวไม่ถูก 

จริงสิ หากว่าข้าใช้เรื่องนี้หลอกใช้นางล่ะ? ฉีหานฟงกล่าวในใจก่อนจะยกริมฝีปากขึ้นสูง

"เจ้ารักอวี้ซือเหลียงใช่หรือไม่?" 

หลี่ถงถงหยุดชะงักก่อนจะหันไปมองฉีหานฟงที่นั่งส่งยิ้มให้ตน 

"ข้าไม่ได้รักเขา แต่ว่าข้าแค่ชื่นชมเขาเท่านั้น"หลี่ถงถงเอ่ย 

ฉีหานฟงยิ้มไม่หุบ "ข้าสามารถทำให้เจ้าได้เข้าใกล้ชิดกับอวี้ซือเหลียงได้นะ สนใจหรือไม่?" 

เอาแล้วสินะ บทพูดในนิยาย หลี่ถงถงยกยิ้มขำฉีหานฟงก่อนจะกล่าวออกมา 

"ไม่ล่ะ ข้าไม่ต้องการ หนิงอันนางชอบพอกับอวี้ซือเหลียง ก็อย่างที่เจ้าเห็นข้ากับหนิงอันเป็นสหายกัน ข้ามีหน้าที่เป็นแม่สื่อส่งให้ทั้งสองครองรักกัน"

"..."ฉีหานฟงเงียบ 

หึๆ นี่คือเหตุผลที่ข้ายอมสนิทกับแม่นางเอกหนิงอันนั่น เพราะมันสามารถทำให้คนตรงนี้ไม่อยากผูกมิตรกับข้าอย่างไรล่ะ หลี่ถงถงเอ่ยในใจ 

ฉีหานฟงผ่อนลมหายใจออกเบาๆก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง "เจ้ารักอวี้ซือเหลียงมิใช่รึ? เจ้าจะสามารถหลีกทางให้คนอื่นได้คนรักของเจ้าไปหรือ?" 

"หึ!"หลี่ถงถงแค่นหัวเราะ นี่เขายังไม่คิดยอมแพ้งั้นสินะ... 

งั้นก็ดี! แล้วแบบนี้ล่ะเป็นไง!

"เจ้ามองผิดแล้วล่ะฉีหานฟง ข้าไม่ได้หลงรักอวี้ซือเหลียงเลยแม้แต่น้อย ข้าบอกไปแล้วว่าข้าแค่ชื่นชมในตัวของเขา ที่โดดเด่นเหลือผู้ใด ข้ายึดอวี้ซือเหลียงเป็นเหมือนแบบอย่างให้ข้าได้ปฏิบัติเดินตาม ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ"

"..."ฉีหานฟงเงียบ 

"และก็นะ ข้ายินดีมากเลยล่ะที่จะได้เห็นอวี้ซือเหลียงได้ครองรักกับหนิงอัน หนิงอันนางเป็นคนดี เหมาะกับอวี้ซือเหลียงที่เป็นคนดีเช่นกัน เป็นคู่รักฟ้าประทานเลยใครเล่าจะไม่ยินดีน่ะจริงรึไม่?"หลี่ถงถงเอ่ยต่ออย่างนึกสนุก

เห็นใบหน้าที่ยับยู่ยี่ของฉีหานฟงแล้วรู้สึกบันเทิงใจยิ่งนัก!

​​​​​

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่เก้า อุ้ม

    หลังจากที่ทำแผลให้ฉีหานฟงเสร็จ หลี่ถงถงก็ได้พยุงร่างชายหนุ่มขึ้นเพื่อที่จะพาออกไปจากป่า ขนาดตัวของฉีหานฟงนั้นไม่ใช่เล็กๆ ทั้งยังหนักมากจนหลี่ถงถงต้องลำบากไม่น้อย "ให้ตายสิ! ปกติฉากแบบนี้มีแต่บุรุษช่วยพยุงร่างสตรีที่ได้รับบาดเจ็บมิใช่รึ? แล้วเหตุใดข้าจึงได้ต้องมาแบกบุรุษอกสามซอกเช่นนี้ด้วย? โลกช่างไม่ยุติธรรม!"ร่างบางบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดนัยตาทับทิมหันมองทางข้างหน้าอย่างเบื่อหน่าย "ข้าก็ไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากสตรีที่ไร้เสน่ห์เช่นเจ้าเหมือนกันนั่นแหละ!"ฉีหานฟงเอ่ยตอบกลับอย่างไม่พอใจ "กล่าวเช่นนี้เดินเองเลยมั้ย?"หลี่ถงถงเหลือบสายตาไปมองตัวภาระอย่างฉีหานฟงที่ถูกพยุงอยู่พลางเอ่ยเสียงเรียบ "ชิ!"ชายหนุ่มหันหน้าหนีเพราะไม่สามารถตอบโต้อะไรกลับไปได้ "ถ้าเปลี่ยนจากข้าเป็นหนิงอัน ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำเช่นไร?"หลี่ถงถงหันหน้ากลับมามองทางและพาฉีหานฟงเดินต่อไปอย่างช้าๆเพราะกลัวว่าบาดแผลของเขาจะฉีกขาดเพิ่มอีก ชายหนุ่มคิดตามคำกล่าวของหลี่ถงถง หากตอนนี้เป็นหนิงอัน ตนคงไม่ยอมให้นางมาแบกข้าเช่นนี้แน่ และคงจะฝืนตนอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้นางมาลำบาก... "แล้วที่เจ้าบอกว่าจะช่วยให

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่แปด ฝากไว้ก่อน

    "เจ้าไหวมั้ย!?"หลี่ถงถงหันไปถามกับฉีหานฟงที่กำลังถูกงูอสรพิษสีมรกตจำนวนหนึ่งไล่ต้อน "อึก!!!!"ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เพราะตอนนี้ไม่อาจที่จะต่อต้านการโจมตีของงูอสรพิษสีมรกตได้อีกแล้ว ฉึก!!! งูอสรพิษสีมรกตตัวหนึ่งใช้เกล็ดของมันเป็นอาวุธขนาดเล็กและได้คว้างเกล็ดนั้นใส่ที่ท้องของฉีหานฟงโดยที่ฉีหานฟงไม่สามารถหลบการโจมตีนั่นได้ เลือดไหลออกจากบาดแผลของชายหนุ่มเป็นจำนวนมาก แรงการโจมตีนั้นทำให้ฉีหานฟงไม่อาจที่จะพยุงตัวให้ลุกขึ้นมาได้อีกแล้วเหล่างูอสรพิษสีมรกตเมื่อเห็นว่าฉีหานฟงล้มลงแล้ว มันก็ได้รีบพุ่งเข้าไปจะโจมตีเขาทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น หลี่ถงถงก็กระโดดเข้าไปขวางรับการโจมตีแทนฉีหานฟงที่พลาดพลั่ง หยาดเหงื่อไหลลงผสมกับเลือดสีแดงเปื้อนใบหน้างามแต่กลับไม่มีเวลาเช็ดออก เคร้ง!!! เสียงดาบกระทบกับหางเกล็ดสีมรกตที่งูอสรพิษสีมรกตฟาดเข้ามาโจมตี โชคดีที่พลังของดาบของหลี่ถงถงนั้นสามารถต่อต้านเอาไว้ได้ "เจ้ามีหินเคลื่อนย้ายมิติหรือไม่!?"หลี่ถงถงเอ่ยถามฉีหานฟงเสียงดังสองมือกุมดาบกวัดแกว่งป้องกันการโจมตีของเหล่าสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว ฉีหานฟงมีท่าทีลังเลครู่หนึ่งก่อนตะพยักหน้าเบาๆ นั่นเลยทำใ

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่เจ็ด พวกคนดี

    หลี่ถงถงเดินกลับไปที่จุดนัดรวมตัวพร้อมกับฟางซูที่เดินอยู่ข้างๆ "ถงถง!!!"หนิงอันที่เห็นว่าหลี่ถงถงเดินกลับมาแล้วก็รีบลุกขึ้นจากม้านั่งที่มีสองหนุ่มนั่งประกบซ้ายขวาทันที ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาหลี่ถงถงดูเหมือนจะอึดอัดมากเลยสินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ มันคือชะตากรรมของนางเอกนี่นา...หลี่ถงถงเอ่ยในใจ "ฟางซูเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"อวี้ซือเหลียงเอ่ยถามฟางซูอย่างสงสัยทันทีที่เห็นร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของฟางซู ฟางซูส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอ่ยตอบไป"ไม่มีอะไร แค่พลาดตกบันไดเท่านั้น" "เจ้าไม่เป็นอะไรแน่หรือ?"หนิงอันเอ่ยถามฟางซืออย่างเป็นห่วง "ไม่เป็นไร พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป"ฟางซูตอบหนิงอันเสียงแผ่วเบา "งั้นก็ไปกันเถอะ สายแล้ว"หลี่ถงถงเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอึมครึมที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของตัวเอกทั้งสองผู้แสนดี ทั้งห้าออกเดินทางไปในทันทีโดยไม่รีรอเวลา กำหนดการทำภารกิจคือการเก็บดอกเบญจมาศสีทอง เวลาทำภารกิจคือสองวันหนึ่งคืนห้ามล่วงเลยเวลากำหนดเด็ดขาด ที่ทางสำนักได้ตั้งข้อกำหนดนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าหากศิษย์คนใดไปทำภารกิจเกินเวลากำหนดจะตีความว่าพวกเขาเสียชีวิตหรือกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ เช่นเมื่อเกินเวลาไป

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่หก บาดเจ็บ

    เมื่อตกลงรวมกลุ่มกันเสร็จ ทั้งห้าก็แยกย้ายกันไปเตรียมของเพื่อใช้ในการเดินทางทำภารกิจ หลี่ถงถงได้อาสาเป็นคนทำเรื่องยื่นขอทำภารกิจเพราะมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับคนผู้หนึ่งด้วย "...เจ้า?" "ยินดีที่ได้พบนะ..." หลี่ถงถงเอ่ยกับคนที่นั่งหันหน้ามามองตนอย่างตกใจ หลายชั่วยามผ่านไป... ถึงเวลาเดินทางออกทำภารกิจ หลี่ถงถงกับหนิงอันเดินมาจุดนัดรวมตัวกัน ที่นั่นมีอวี้ซือเหลียงยืนรออยู่ก่อนแล้ว ด้านข้างมีฉีหานฟงที่ยืนหน้านิ่งมองไปรอบๆ "ฟางซูล่ะ?"หลี่ถงถงเอ่ยถามทั้งสองคนทันทีที่มาถึง สายตาเหลือบมองหาคนกะล่อนที่ไม่ได้อยู่ด้วย "คงกำลังมา"อวี้ซือเหลียงตอบพลางหันมองไปที่หนิงอันที่ยืนหลบอยู่หลังของหลี่ถงถง อา...ก็นางเป็นผู้หญิงนี่นะ(...) "รออีกสักครู่แล้วกัน"หลี่ถงถงพาหนิงอันไปนั่งตรงม้านั่งข้างๆ อวี้ซือเหลียงหันไปเห็นว่าข้างที่นั่งของหนิงอันว่างตนก็รีบไปนั่งทันที "!?"หนิงอันมีท่าทีเขินอายหนักกว่าเดิม พวงแก้มนวลขึ้นสีแดงก่ำมือบางทั้งสองจับแขนของหลี่ถงถงแน่น เฮ้อ...ทำไมผู้หญิงต้องเขินเวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบแบบนี้กันด้วยนะ "หลี่ถงถง..." "หืม?"หลี่ถงถงเงยหน้าขึ้นมองฉีหานฟงที่เมื่อครู่เอ่ยเรียกตน "คือว

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่ห้า รวมกลุ่ม

    ในนิกายเป่ยซาน เงินที่ใช้จะเป็นแกนพลังในการแลกเปลี่ยน โดยที่ทองหรือเงินจากโลกภายนอกนั้นใช้กับที่นี่ไม่ได้ เพราะที่นี่ใช้แกนพลังในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น เพื่อความเท่าเทียมกันของศิษย์ในนิกาย และแกนพลังนั้นยังสามารถใช้ในการบ่มเพาะพลังได้อีกด้วย วันนี้หลี่ถงถงจึงได้ไปที่กระดานภารกิจเพื่อจะหางานทำเงินมาใช้บ่มเพาะพลังและใช้แลกเปลี่ยนของอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ แต่ว่าภารกิจง่ายๆกลับถูกเหล่าศิษย์ใหม่เก็บเรียบไปหมดแล้ว เหลือแต่ภารกิจยากๆที่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ชีวิตก็มีแค่ครั้งเดียว ใครมันจะไปกล้าเสี่ยงกัน? "เฮ้อ...มีแต่ภารกิจยากๆเลย..."หนิงอันเอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ หนิงอันเองก็ออกมาพร้อมกับหลี่ถงถง และก็ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเริ่มจะใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว "เอาภารกิจนี้ดีรึไม่?"หลี่ถงถงชี้ไปที่ป้ายภารกิจหนึ่ง หนิงอันหันไปอ่านทันที "เก็บดอกเบญจมาศทองหรือ? แต่มันอันตรายนะถงถง ที่นั่นมีสัตว์อสูรที่มีพลังแข็งแกร่งเยอะมาก" หลี่ถงถงคิดตาม ลำพังแค่ข้าตัวคนเดียวมันก็ทำได้สะดวกอยู่หรอกนะ แต่ว่าหนิงอันนางคงจะอยากไปด้วยแน่ๆ..."เอาเช่นนี้ เรามาหาสมาชิกเพิ่มดีหรือไม่? สักสองสามคน รวมกลุ่มกันไว้ก็ได้ม

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่สี่ จับคู่

    "ศิษย์ขอคาราวะท่านอาจารย์!!!"ทุกคนในห้องลุกขึ้นยืนทำความเคารพอาจารย์ประจำห้องนี้ที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน "นั่งลงเถอะ"อาจารย์หนุ่มเดินเข้าไปนั่งลงที่โต๊ะหน้าห้องเรียนด้วยท่าทีสงบ เมื่อทุกคนเห็นว่าท่านนั่งลงแล้ว ทุกคนก็นั่งลงกลับเข้าที่ของตนเอง ท่านอาจารย์กวาดสายตามองสำรวจศิษย์ทุกคนอย่างละเอียดก่อนจะหันหน้ากลับมาและเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมแต่แผ่ซ่านไปด้วยความอบอุ่นชวนให้อุ่นใจ "ข้ามีนามว่าลู่หมิง หนึ่งปีต่อจากนี้พวกเจ้าจะได้อยู่ฝึกกับข้า หากมีสิ่งใดให้ช่วยเหลือก็สามารถมาบอกกับข้าได้เสมอ" เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าใจแล้วลู่หมิงก็ยกยิ้มออกมา เด็กที่นี่ทุกคนล้วนมีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ จึงเป็นการง่ายที่จะสามารถกล่าวออกไปตรงๆตามวิถีนักรบได้ "ดีล่ะ! วินาทีนี้พวกเจ้าทุกคนจะต้องตั้งใจฝึกบ่มเพาะพลังให้มากขึ้น ทุกปี สำนักจะคัดสรรเลือกผู้มีพรสวรรค์ห้าคนของแต่ละสาขาเข้าไปอยู่ในเขตภายในชั้นต้นของนิกาย""โดยเขตภายในชั้นต้นนั้นจะมีทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังสูงกว่าเขตภายนอกหลายเท่าตัว""จำเอาไว้ หากอยากแข็งแกร่งขึ้นพวกเจ้าจะต้องหมั่นฝึกฝนเพื่อจะได้เป็นหนึ่งในผู้คัดเลือกให้ได้ และถึ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status