แชร์

บทที่สาม ก้าวแรก

ผู้เขียน: Jtnpng
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-18 20:17:59

"คุณหนูหลี่...คุณหนูหลี่เจ้าคะ..."แรงสะกิดอันอ่อนโยนจากเรียวมือบางของหนิงอัน ปลุกให้หลี่ถงถงในร่างของนางร้ายในนิยายรู้สึกตัวและค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา 

อา...ช่างเป็นสัมผัสที่อ่อนนุ่มและอ่อนโยนยิ่งนัก...กับผีน่ะสิ!!! หลี่ถงถงหันไปมองคนปลุกด้วยสายตาที่เย็นชาก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงแข็ง 

"มีสิ่งใด?"น้ำเสียงราบเรียบดังขึ้นอย่างนึกรำคาญ 

วันนี้เป็นวันว่างก่อนเข้าเรียนอย่างเป็นทางการ หลี่ถงถงจึงอยากจะนอนพักให้เต็มที่ก่อนจะเข้าไปสู้ 

เพราะว่าการไปร่ำเรียนในครานี้คือเส้นทางความเป็นความตายของนาง! 

"คะ...คือว่า...ข้าออกไปทำอาหารมา...เห็นตั้งแต่ที่ท่านมา ท่านก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย ถ้าไม่รังเกียจ...มา...มากินด้วยกันรึไม่?"หนิงอันเอ่ยถามด้วยท่าทีหวาดๆพลางยกกล่องข้าวขนาดใหญ่ขึ้นมา 

นัยตาสีแดงทับทิมหลุบมองกล่องข้าวขนาดใหญ่นิ่งๆ ทำมาเยอะขนาดนี้คงจะต้องการเอามาให้ทุกคนในห้องนี้กินสินะ?

หลี่ถงถงหันไปมองเตียงของสองสาวที่หายไปไหนไม่ก็อาจรู้ได้ และคาดการณ์เอาไว้ว่าสองคนนั้นคงจะปฏิเสธเป็นแน่

ตอนนี้คงเหลือแค่ข้าคนเดียวนั่นสินะ

...ทำมาเยอะขนาดนี้หากจะให้นางฝืนกินคนเดียวก็กระไรอยู่...หลี่ถงถงเอ่ยในใจ 

หนิงอันที่เห็นว่าอีกฝ่ายเงียบก็รู้สึกใจเสีย

เพราะข้ามันคนชั้นต่ำเลยไม่มีใครอยากผูกมิตรไมตรีด้วยงั้นสินะ ท่านแม่...ดูเหมือนข้าจะไร้สหายเสียแล้ว...หนิงอันเอ่ยในใจอย่างรู้สึกเศร้าหมอง

"เอาสิ" 

"!?"หนิงอันเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าอย่างตกใจ 

"หรือเจ้าไม่อยากให้ข้าได้กินแล้ว?"เมื่อเห็นท่าทีของหนิงอัน หลี่ถงถงก็เอ่ยถามอย่างสงสัย 

หนิงอันที่ได้ยินคำถามของหลี่ถงถงก็ส่ายหน้าไปมาอย่างแรงหลายครั้งก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างดีใจ 

คุณหนูหลี่...เป็นคนดีต่างจากข่าวลือจริงๆ...หนิงอันเอ่ยในใจ 

เมื่อเห็นใบหน้าที่อ่อนลงของสาวงามตรงหน้า หลี่ถงถงก็เบนสายตาออกห่างจากนาง 

นางคงคิดว่าข้าเป็นคนดีอยู่เป็นแน่ แต่ก็ช่างเถอะ ไม่ได้เสียหายอะไร...หลี่ถงถงคิดในใจ 

"งะ...งั้นข้าจะไปหยิบตะเกียบนะเจ้าคะ..."หนิงอันวางกล่องข้าวลงบนเตียงของหลี่ถงถงก่อนจะหันหลังไปหยิบตะเกียบที่ตนเตรียมเอามายื่นให้หลี่ถงถงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนจะชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าเป็นชนชั้นสูงอาจจะนึกรังเกียจตนอยู่ก็ได้...

หลี่ถงถงหยิบตะเกียบจากมือบางของหนิงอันอย่างไม่นึกรังเกียจพลางเอ่ยออกมาเมื่อสายตาเบนเห็นโต๊ะหินอ่อนข้างนอกหน้าต่างที่อยู่ตรงสนามหญ้า"ออกไปกินข้างนอกกันเถอะ ข้าอยากนั่งกินใต้ร่มไม้" 

หนิงอันมองตามที่หลี่ถงถงออกไป ก่อนจะพยักหน้าตอบรับอย่างเชื่อฟัง 

"แต่เจ้าลงไปรอข้าก่อนได้เลยนะ ข้าเพิ่งตื่น ต้องไปล้างหน้าล้างตาก่อน"หลี่ถงถงหันไปพูดกับหนิงอันเสียงเรียบ 

"หืม? ระ...เรื่องนั้น... ข้าเตรียมน้ำล้างหน้ามาให้ท่านแล้วเจ้าค่ะ อยู่ตรงนี้เจ้าค่ะ!"หนิงอันหยิบอ่างใบเล็กที่มีน้ำแร่สะอาดที่ถูกตั้งไว้บนโต๊ะข้างๆเตียงของทั้งสองคนมายื่นให้หลี่ถงถง 

คิ้วงามเรียวของหลี่ถงถงขมวดเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา 

"เจ้าเตรียมไว้ให้ข้าทำไม? เจ้ามิใช่คนรับใช้ของข้าเสียหน่อย คราวหลังให้ข้าทำเอง เจ้าไม่ต้องมายุ่ง"

หนิงอันเบิกตากว้างมองหลี่ถงถงอย่างตกใจก่อนจะวางอ่างน้ำลงที่เดิม 

"ขออภัยเจ้าค่ะ..." 

"อีกอย่างนะ ที่นี่ไม่ใช่โลกภายนอกที่ข้าจะมีอำนาจเหนือกว่าเจ้า ที่นี่คือสำนักศึกษา ศิษย์ทุกคนล้วนมีฐานะเท่าเทียมกัน เจ้าจะมาเรียกแทนข้าว่าท่านหรือแทนตนเป็นทาสผู้อื่นมันไม่ได้หรอกนะ"หลี่ถงถงเอ่ยจบก็เดินไปล้างหน้าในอ่างที่หนิงอันเตรียมเอาไว้ให้เพื่อรับน้ำใจของนาง 

หนิงอันมองหลี่ถงถง ขอบตาแดงผ่าวน้ำตาคลอเบ้า นี่คือครั้งแรกที่มีคนพูดเช่นนี้กับนาง ช่างเป็นความสุขที่หาใดเปรียบยิ่งนัก... 

เมื่อหลี่ถงถงล้างหน้าเสร็จก็เดินออกจากห้องพร้อมกับหนิงอัน โดยให้หนิงอันถือกล่องข้าว ส่วนตนถือขวดน้ำดื่มสองกระบอกเพราะไม่อยากมือว่าง 

"จะว่าไปคุณหนูหลี่..." 

"เรียกข้าว่าหลี่ถงถงเถอะ และก็ไม่ต้องพูดมีหางเสียงกับข้าก็ได้"หลี่ถงถงเอ่ยออกมาเสียงเรียบ 

"เอ๋!? จะ...จะดีหรือเจ้าคะ...?!"หนิงอันมีท่าทีตกใจและลังเลใจเป็นอย่างมาก

อืม...นางสมกับเป็นนางเอกในนิยายจริงๆ ด้วยท่าทีเช่นนี้ของนางคงจะตกเหล่าบุรุษผู้มากหน้าหลายตาให้ตกหลุมรักนางได้ง่ายๆเป็นแน่...หลี่ถงถงคิดในใจ 

สายตานิ่งเรียบหันไปเห็นหนิงอันมีท่าทีกังวลใจและมีท่าทีเคร่งเครียดก็เบนออกก่อนที่หลี่ถงถงจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ"เลิกกังวลใจไร้สาระเถอะ ข้าบอกให้เรียกได้ก็คือเรียกได้" 

"อา...อื้ม! ขอบคุณนะ...ละ...หลี่...หลี่ถงถง..."หนิงอันเอ่ยอย่างเกร็งๆ ใบหน้างามขึ้นสีแดงฉ่าส่องประกายความน่ารักออกมาจนใครที่เห็นก็ต่างพากันอดกุมอกซ้ายของตนไม่ได้ 

หลี่ถงถงมองแก้มขึ้นสีแดงชมพูของใบหน้างามนิ่งๆก่อนจะเบนหันไปทางอื่นอีกครั้ง...

"เหมือนกระต่ายเลย..."เสียงราบเรียบดังออกมาจากปากของหลี่ถงถงอย่างไม่ได้ตั้งใจ

"หืม?"หนิงอันหันมองหลี่ถงถงอย่างสงสัย 

"..." 

ให้ตายเถอะ... 

วันต่อมา... 

หลี่ถงถงกับหนิงอันเร่งตื่นเช้าไปเข้าเรียน และตามคาด หลี่ถงถงได้นั่งโต๊ะหลังห้อง โดยมีร่างๆหนึ่งนั่งรอข้างๆอยู่แล้ว 

หลี่ถงถงมองคนที่นั่งข้างตนอย่างละเอียด รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลา ตาเฉี่ยวคม นัยตาสีทองที่เป็นเอกลักษณ์ของสายเลือดตระกูลฉี ตระกูลสายเลือดมังกรและผู้ได้รับพรจากมังกรมานานช้านาน ตกทอดมายังรุ่นสู่รุ่น 

ถึงจะหล่อบาดตาบาดใจขนาดไหน แต่ว่าเขาก็เป็นตัวร้ายที่จะสังหารข้าในอนาคต ตอนนี้ก็ควรห่างๆเข้าหน่อยดีกว่า...หลี่ถงถงหันหน้าไปทางอื่นเพื่อเลี่ยงจะสานสัมพันธ์อันดีกับคนข้างกาย 

"เจ้า...ยังใจดีเหมือนเดิมเลยนะหลี่ถงถง"จู่ๆเสียงทุ่มของบุรุษก็ดังขึ้นข้างหูของหลี่ถงถง ใบหน้าหล่อคมคายหันมองสตรีที่นั่งเท้าคางหันหน้าเลี่ยงตนอยู่ ก่อนจะหันไปมองสตรีร่างบางอันเป็นรักเดียวของตนนั่นก็คือหนิงอัน สาวงามผู้เป็นดั่งดวงใจของเขา 

เมื่อวานนี้ฉีหานฟงได้เห็นว่าหลี่ถงถงได้นั่งกินข้าวคุยเล่นกับหนิงอันอย่างสนิทสนม ทั้งๆที่หนิงอันกับนางชนชั้นหาได้ไกล้เคียงกันไม่ 

นั่นก็แสดงให้เห็นว่าหลี่ถงถงนั้นมิได้สนใจฐานะของหนิงอัน ซ้ำยังผูกมิตรไมตรีต่อกันอย่างสนิทสนมไร้ความรังเกียจ 

ข่าวลือที่เล่าขานกันมาว่าหลี่ถงถงนั้นนิสัยแย่จิตใจทรามนั่นหาใช่เรื่องจริงไม่ ฉีหานฟงรู้ดี นางเพียงแค่เป็นคนตรงๆขวานผ่าซากเท่านั้น 

"..."หลี่ถงถงเงียบ 

เหมือนเดิมหรือ? พูดเหมือนรู้จักข้าดีอย่างนั้นแหละ...หลี่ถงถงคิดในใจ 

เมื่อเห็นว่าสตรีที่นั่งข้างกายไม่ตอบกลับมา ฉีหานฟงก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาที่ถูกเมินเฉย ตั้งแต่อดีตแล้วที่หลี่ถงถงมักจะหลบเลี่ยงตนเพราะไม่ชอบหน้ากัน ฉีหานฟงเองก็เช่นกัน 

แต่ว่าแผนการของข้าจำเป็นต้องมีเจ้า หลี่ถงถง...ฉีหานฟงเอ่ยในใจก่อนจะเอ่ยชวนอีกฝ่ายคุยอีกครั้ง 

"ใครๆต่างก็บอกว่าเจ้ามันชั่วร้าย เป็นอันธพาลก่อเรื่องไปทั่ว แต่ว่าข้าคิดต่างนะ เจ้าออกจะเป็นคนดีมีน้ำใจต่อผู้อื่น..." 

"หุบปากหน่อยมิได้รึไง?"หลี่ถงถงเอ่ยออกมาอย่างรำคาญ 

ฉีหานฟงหุบยิ้มลงและมองหลี่ถงถงอย่างหงุดหงิดแต่ก็ยังที่จะเอ่ยออกไปเพื่อผูกสัมพันธไมตรี 

"เจ้าเป็นคนดีนะ ข้าเองก็รู้ว่าเจ้า..." 

"ข้าบอกว่าให้หุบปากไง แค่นี้มองไม่รู้รึว่าข้าไม่อยากคุยกับเจ้า"หลี่ถงถงเอ่ยขัดคำของฉีหานฟงอย่างรู่สึกรำคาญ 

นี่คือก้าวแรก หากทำให้ฉีหานฟงไม่สามารถพูดคุยกับข้าได้อย่างสนิทสนม และหากข้าแสดงท่าทีเกลียดชังต่อเขา เขาก็จะไม่สามารถดึงข้าให้ไปอยู่ในแผนการของเขาได้...หลี่ถงถงเอ่ยในใจพลางเหลือบมองฉีหานฟงที่มีใบหน้ามืดครึ้มขึ้น 

เป็นไปได้ดี...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่เก้า อุ้ม

    หลังจากที่ทำแผลให้ฉีหานฟงเสร็จ หลี่ถงถงก็ได้พยุงร่างชายหนุ่มขึ้นเพื่อที่จะพาออกไปจากป่า ขนาดตัวของฉีหานฟงนั้นไม่ใช่เล็กๆ ทั้งยังหนักมากจนหลี่ถงถงต้องลำบากไม่น้อย "ให้ตายสิ! ปกติฉากแบบนี้มีแต่บุรุษช่วยพยุงร่างสตรีที่ได้รับบาดเจ็บมิใช่รึ? แล้วเหตุใดข้าจึงได้ต้องมาแบกบุรุษอกสามซอกเช่นนี้ด้วย? โลกช่างไม่ยุติธรรม!"ร่างบางบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดนัยตาทับทิมหันมองทางข้างหน้าอย่างเบื่อหน่าย "ข้าก็ไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากสตรีที่ไร้เสน่ห์เช่นเจ้าเหมือนกันนั่นแหละ!"ฉีหานฟงเอ่ยตอบกลับอย่างไม่พอใจ "กล่าวเช่นนี้เดินเองเลยมั้ย?"หลี่ถงถงเหลือบสายตาไปมองตัวภาระอย่างฉีหานฟงที่ถูกพยุงอยู่พลางเอ่ยเสียงเรียบ "ชิ!"ชายหนุ่มหันหน้าหนีเพราะไม่สามารถตอบโต้อะไรกลับไปได้ "ถ้าเปลี่ยนจากข้าเป็นหนิงอัน ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำเช่นไร?"หลี่ถงถงหันหน้ากลับมามองทางและพาฉีหานฟงเดินต่อไปอย่างช้าๆเพราะกลัวว่าบาดแผลของเขาจะฉีกขาดเพิ่มอีก ชายหนุ่มคิดตามคำกล่าวของหลี่ถงถง หากตอนนี้เป็นหนิงอัน ตนคงไม่ยอมให้นางมาแบกข้าเช่นนี้แน่ และคงจะฝืนตนอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้นางมาลำบาก... "แล้วที่เจ้าบอกว่าจะช่วยให

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่แปด ฝากไว้ก่อน

    "เจ้าไหวมั้ย!?"หลี่ถงถงหันไปถามกับฉีหานฟงที่กำลังถูกงูอสรพิษสีมรกตจำนวนหนึ่งไล่ต้อน "อึก!!!!"ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เพราะตอนนี้ไม่อาจที่จะต่อต้านการโจมตีของงูอสรพิษสีมรกตได้อีกแล้ว ฉึก!!! งูอสรพิษสีมรกตตัวหนึ่งใช้เกล็ดของมันเป็นอาวุธขนาดเล็กและได้คว้างเกล็ดนั้นใส่ที่ท้องของฉีหานฟงโดยที่ฉีหานฟงไม่สามารถหลบการโจมตีนั่นได้ เลือดไหลออกจากบาดแผลของชายหนุ่มเป็นจำนวนมาก แรงการโจมตีนั้นทำให้ฉีหานฟงไม่อาจที่จะพยุงตัวให้ลุกขึ้นมาได้อีกแล้วเหล่างูอสรพิษสีมรกตเมื่อเห็นว่าฉีหานฟงล้มลงแล้ว มันก็ได้รีบพุ่งเข้าไปจะโจมตีเขาทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น หลี่ถงถงก็กระโดดเข้าไปขวางรับการโจมตีแทนฉีหานฟงที่พลาดพลั่ง หยาดเหงื่อไหลลงผสมกับเลือดสีแดงเปื้อนใบหน้างามแต่กลับไม่มีเวลาเช็ดออก เคร้ง!!! เสียงดาบกระทบกับหางเกล็ดสีมรกตที่งูอสรพิษสีมรกตฟาดเข้ามาโจมตี โชคดีที่พลังของดาบของหลี่ถงถงนั้นสามารถต่อต้านเอาไว้ได้ "เจ้ามีหินเคลื่อนย้ายมิติหรือไม่!?"หลี่ถงถงเอ่ยถามฉีหานฟงเสียงดังสองมือกุมดาบกวัดแกว่งป้องกันการโจมตีของเหล่าสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว ฉีหานฟงมีท่าทีลังเลครู่หนึ่งก่อนตะพยักหน้าเบาๆ นั่นเลยทำใ

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่เจ็ด พวกคนดี

    หลี่ถงถงเดินกลับไปที่จุดนัดรวมตัวพร้อมกับฟางซูที่เดินอยู่ข้างๆ "ถงถง!!!"หนิงอันที่เห็นว่าหลี่ถงถงเดินกลับมาแล้วก็รีบลุกขึ้นจากม้านั่งที่มีสองหนุ่มนั่งประกบซ้ายขวาทันที ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาหลี่ถงถงดูเหมือนจะอึดอัดมากเลยสินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ มันคือชะตากรรมของนางเอกนี่นา...หลี่ถงถงเอ่ยในใจ "ฟางซูเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"อวี้ซือเหลียงเอ่ยถามฟางซูอย่างสงสัยทันทีที่เห็นร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของฟางซู ฟางซูส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอ่ยตอบไป"ไม่มีอะไร แค่พลาดตกบันไดเท่านั้น" "เจ้าไม่เป็นอะไรแน่หรือ?"หนิงอันเอ่ยถามฟางซืออย่างเป็นห่วง "ไม่เป็นไร พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป"ฟางซูตอบหนิงอันเสียงแผ่วเบา "งั้นก็ไปกันเถอะ สายแล้ว"หลี่ถงถงเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอึมครึมที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของตัวเอกทั้งสองผู้แสนดี ทั้งห้าออกเดินทางไปในทันทีโดยไม่รีรอเวลา กำหนดการทำภารกิจคือการเก็บดอกเบญจมาศสีทอง เวลาทำภารกิจคือสองวันหนึ่งคืนห้ามล่วงเลยเวลากำหนดเด็ดขาด ที่ทางสำนักได้ตั้งข้อกำหนดนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าหากศิษย์คนใดไปทำภารกิจเกินเวลากำหนดจะตีความว่าพวกเขาเสียชีวิตหรือกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ เช่นเมื่อเกินเวลาไป

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่หก บาดเจ็บ

    เมื่อตกลงรวมกลุ่มกันเสร็จ ทั้งห้าก็แยกย้ายกันไปเตรียมของเพื่อใช้ในการเดินทางทำภารกิจ หลี่ถงถงได้อาสาเป็นคนทำเรื่องยื่นขอทำภารกิจเพราะมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับคนผู้หนึ่งด้วย "...เจ้า?" "ยินดีที่ได้พบนะ..." หลี่ถงถงเอ่ยกับคนที่นั่งหันหน้ามามองตนอย่างตกใจ หลายชั่วยามผ่านไป... ถึงเวลาเดินทางออกทำภารกิจ หลี่ถงถงกับหนิงอันเดินมาจุดนัดรวมตัวกัน ที่นั่นมีอวี้ซือเหลียงยืนรออยู่ก่อนแล้ว ด้านข้างมีฉีหานฟงที่ยืนหน้านิ่งมองไปรอบๆ "ฟางซูล่ะ?"หลี่ถงถงเอ่ยถามทั้งสองคนทันทีที่มาถึง สายตาเหลือบมองหาคนกะล่อนที่ไม่ได้อยู่ด้วย "คงกำลังมา"อวี้ซือเหลียงตอบพลางหันมองไปที่หนิงอันที่ยืนหลบอยู่หลังของหลี่ถงถง อา...ก็นางเป็นผู้หญิงนี่นะ(...) "รออีกสักครู่แล้วกัน"หลี่ถงถงพาหนิงอันไปนั่งตรงม้านั่งข้างๆ อวี้ซือเหลียงหันไปเห็นว่าข้างที่นั่งของหนิงอันว่างตนก็รีบไปนั่งทันที "!?"หนิงอันมีท่าทีเขินอายหนักกว่าเดิม พวงแก้มนวลขึ้นสีแดงก่ำมือบางทั้งสองจับแขนของหลี่ถงถงแน่น เฮ้อ...ทำไมผู้หญิงต้องเขินเวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบแบบนี้กันด้วยนะ "หลี่ถงถง..." "หืม?"หลี่ถงถงเงยหน้าขึ้นมองฉีหานฟงที่เมื่อครู่เอ่ยเรียกตน "คือว

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่ห้า รวมกลุ่ม

    ในนิกายเป่ยซาน เงินที่ใช้จะเป็นแกนพลังในการแลกเปลี่ยน โดยที่ทองหรือเงินจากโลกภายนอกนั้นใช้กับที่นี่ไม่ได้ เพราะที่นี่ใช้แกนพลังในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น เพื่อความเท่าเทียมกันของศิษย์ในนิกาย และแกนพลังนั้นยังสามารถใช้ในการบ่มเพาะพลังได้อีกด้วย วันนี้หลี่ถงถงจึงได้ไปที่กระดานภารกิจเพื่อจะหางานทำเงินมาใช้บ่มเพาะพลังและใช้แลกเปลี่ยนของอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ แต่ว่าภารกิจง่ายๆกลับถูกเหล่าศิษย์ใหม่เก็บเรียบไปหมดแล้ว เหลือแต่ภารกิจยากๆที่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ชีวิตก็มีแค่ครั้งเดียว ใครมันจะไปกล้าเสี่ยงกัน? "เฮ้อ...มีแต่ภารกิจยากๆเลย..."หนิงอันเอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ หนิงอันเองก็ออกมาพร้อมกับหลี่ถงถง และก็ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเริ่มจะใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว "เอาภารกิจนี้ดีรึไม่?"หลี่ถงถงชี้ไปที่ป้ายภารกิจหนึ่ง หนิงอันหันไปอ่านทันที "เก็บดอกเบญจมาศทองหรือ? แต่มันอันตรายนะถงถง ที่นั่นมีสัตว์อสูรที่มีพลังแข็งแกร่งเยอะมาก" หลี่ถงถงคิดตาม ลำพังแค่ข้าตัวคนเดียวมันก็ทำได้สะดวกอยู่หรอกนะ แต่ว่าหนิงอันนางคงจะอยากไปด้วยแน่ๆ..."เอาเช่นนี้ เรามาหาสมาชิกเพิ่มดีหรือไม่? สักสองสามคน รวมกลุ่มกันไว้ก็ได้ม

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่สี่ จับคู่

    "ศิษย์ขอคาราวะท่านอาจารย์!!!"ทุกคนในห้องลุกขึ้นยืนทำความเคารพอาจารย์ประจำห้องนี้ที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน "นั่งลงเถอะ"อาจารย์หนุ่มเดินเข้าไปนั่งลงที่โต๊ะหน้าห้องเรียนด้วยท่าทีสงบ เมื่อทุกคนเห็นว่าท่านนั่งลงแล้ว ทุกคนก็นั่งลงกลับเข้าที่ของตนเอง ท่านอาจารย์กวาดสายตามองสำรวจศิษย์ทุกคนอย่างละเอียดก่อนจะหันหน้ากลับมาและเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมแต่แผ่ซ่านไปด้วยความอบอุ่นชวนให้อุ่นใจ "ข้ามีนามว่าลู่หมิง หนึ่งปีต่อจากนี้พวกเจ้าจะได้อยู่ฝึกกับข้า หากมีสิ่งใดให้ช่วยเหลือก็สามารถมาบอกกับข้าได้เสมอ" เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าใจแล้วลู่หมิงก็ยกยิ้มออกมา เด็กที่นี่ทุกคนล้วนมีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ จึงเป็นการง่ายที่จะสามารถกล่าวออกไปตรงๆตามวิถีนักรบได้ "ดีล่ะ! วินาทีนี้พวกเจ้าทุกคนจะต้องตั้งใจฝึกบ่มเพาะพลังให้มากขึ้น ทุกปี สำนักจะคัดสรรเลือกผู้มีพรสวรรค์ห้าคนของแต่ละสาขาเข้าไปอยู่ในเขตภายในชั้นต้นของนิกาย""โดยเขตภายในชั้นต้นนั้นจะมีทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังสูงกว่าเขตภายนอกหลายเท่าตัว""จำเอาไว้ หากอยากแข็งแกร่งขึ้นพวกเจ้าจะต้องหมั่นฝึกฝนเพื่อจะได้เป็นหนึ่งในผู้คัดเลือกให้ได้ และถึ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status