เข้าสู่ระบบในนิกายเป่ยซาน เงินที่ใช้จะเป็นแกนพลังในการแลกเปลี่ยน โดยที่ทองหรือเงินจากโลกภายนอกนั้นใช้กับที่นี่ไม่ได้ เพราะที่นี่ใช้แกนพลังในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น เพื่อความเท่าเทียมกันของศิษย์ในนิกาย และแกนพลังนั้นยังสามารถใช้ในการบ่มเพาะพลังได้อีกด้วย
วันนี้หลี่ถงถงจึงได้ไปที่กระดานภารกิจเพื่อจะหางานทำเงินมาใช้บ่มเพาะพลังและใช้แลกเปลี่ยนของอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ แต่ว่าภารกิจง่ายๆกลับถูกเหล่าศิษย์ใหม่เก็บเรียบไปหมดแล้ว เหลือแต่ภารกิจยากๆที่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ชีวิตก็มีแค่ครั้งเดียว ใครมันจะไปกล้าเสี่ยงกัน? "เฮ้อ...มีแต่ภารกิจยากๆเลย..."หนิงอันเอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ หนิงอันเองก็ออกมาพร้อมกับหลี่ถงถง และก็ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเริ่มจะใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว "เอาภารกิจนี้ดีรึไม่?"หลี่ถงถงชี้ไปที่ป้ายภารกิจหนึ่ง หนิงอันหันไปอ่านทันที "เก็บดอกเบญจมาศทองหรือ? แต่มันอันตรายนะถงถง ที่นั่นมีสัตว์อสูรที่มีพลังแข็งแกร่งเยอะมาก" หลี่ถงถงคิดตาม ลำพังแค่ข้าตัวคนเดียวมันก็ทำได้สะดวกอยู่หรอกนะ แต่ว่าหนิงอันนางคงจะอยากไปด้วยแน่ๆ... "เอาเช่นนี้ เรามาหาสมาชิกเพิ่มดีหรือไม่? สักสองสามคน รวมกลุ่มกันไว้ก็ได้มิใช่หรือ?"หลี่ถงถงออกความเห็น หนิงอันพยักหน้าเห็นด้วย แต่ในตอนนั้นเองก็มีบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาทักทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มร่าเริง ผมสีบลอนด์ทอง นัยตาสีเขียวมรกตบ่งบอกว่าคนตรงหน้ามาจากเชื้อสายตระกูลฟางเป็นแน่ และคนคนนี้ถ้าจำไม่ผิด... คงจะเป็นหนึ่งในสามเสาหลักของนิกายในอนาคต 'ฟางซู'งั้นสินะ...หลี่ถงถงคิดในใจ "ยินดีที่ได้พบนะสาวๆ ข้ามีนามว่าฟางซู! เมื่อครู่ข้าได้ยินว่าพวกเจ้าจะตั้งกลุ่มไปทำภารกิจ ไม่ทราบว่าข้าขอเข้าร่วมด้วยได้หรือไม่?"ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกล่าวพลางหันไปขยิบตาให้หนิงอันเพื่อโปรยเสน่ห์ ช่างแพรวพราวไม่ผิดจากเนื้อหานิยายเลย...หลี่ถงถงเอ่ยในใจ "นี่ถงถง...เจ้าคิดว่าอย่างไร? รับเขาเข้าร่วมด้วยดีหรือไม่?"หนิงอันหันมากระซิบถามหลี่ถงถงพลางมองไปที่ฟางซูอย่างเกร็งๆ หลี่ถงถงมองฟางซูอย่างละเอียด ถึงเขาจะติดเล่น ดูตลกเฮฮา และดูขาดความจริงจังกับชีวิต แต่เขาก็มีฝีมือซ่อนเร้นอยู่มาก อีกทั้งเขาก็กำลังปกปิดพลังและตัวตนที่แท้จริงของตนอยู่... น่าสนใจแฮะ "ได้สิ... ข้าหลี่ถงถงเจ้าคงเคยได้ยินชื่อเสียงของข้ามาบ้างแล้ว"หลี่ถงถงตอบตกลงพลางกล่าวแนะนำตัวเองกลับ ฟางซูมองหลี่ถงถงอย่างวิเคราะห์ครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนท่าทีแสร้งทำเป็นคนร่าเริง "ยินดีที่ได้รู้จัก! ชื่อเสียงของเจ้าไม่ใช่เล่นๆจริงๆนั่นล่ะฮ่าๆๆ! ส่วนแม่นางคนนี้...คงจะเป็นแม่นางหนิงผู้งดงามอันดับหนึ่งของเหล่าศิษย์รุ่นใหม่งั้นสินะ"ฟางซูหันไปเอ่ยทักทายหนิงอันพลางหยอดวาจาแสนหวานให้นาง หนิงอันถอยห่างจากฟางซูอย่างหวาดระแวงพลางเอ่ยตอบรับ"อื้ม...ข้าหนิงอัน ยินดีที่ได้รู้จักนะ" "ทีนี้ก็เหลืออีกสองคนงั้นสินะ เจ้าพอจะมีคนแนะนำรึไม่คุณชายฟาง?"หลี่ถงถงหันไปถามฟางซูอย่างสุภาพ ฟางซูคิ้วกระตุกก่อนจะเอ่ยออกมากลบเกลื่อนอาการประหม่า"แหม...แม่นางหลี่! เจ้าก็สุภาพกับข้าเกินไป เรียกข้าว่าฟางซูเถอะ" นางรู้งั้นสินะว่าข้ามาจากตระกูลฟางที่หายสิ้นไปแล้ว เป็นไปได้อย่างไร...จะประมาทไม่ได้...ฟางซูเอ่ยในใจพลางมองไปที่หลี่ถงถงอย่างระมัดระวัง "ได้สิ เจ้าก็เรียกข้าว่าหลี่ถงถงเถอะ"หลี่ถงถงแสยะยิ้มออกมาอย่างสงบ "ส่วนข้า เจ้าเรียกว่าหนิงอันได้เลยนะฟางซู"หนิงอันเอ่ยต่อจากหลี่ถงถง "โอ้! ขอบคุณยิ่งนักหนิงอัน! แล้วก็...ข้าไม่มีคนแนะนำหรอกนะเพราะตั้งแต่เข้าเรียนมาข้าก็ไม่มีคนคบเลย..." "ข้าขอเข้าร่วมด้วยได้หรือไม่?"อวี้ซือเหลียงเดินเข้ามาหาทั้งสามพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม หืม? อวี้ซือเหลียงด้วยหรือ? งั้นก็ดีเลย...หลี่ถงถงเอ่ยในใจพลางมองไปที่หนิงอันที่หันหน้าไปมองอวี้ซือเหลียงด้วยท่าทีเอียงอาย "..."เอิ่ม...ก็นางเป็นผู้หญิงนี่นะ...(เจ้าก็เป็นผู้หญิงเฟ้ย!) "ถะ...ถงถง..."หนิงอันกอดแขนของหลี่ถงถงพลางเอียงหน้ามองอวี้ซือเหลียง ท่าทางของนางทำให้คนแถวนั้นรับดาเมจไม่ไหวจนต้องทรุดตัวลงกุมหัวใจของตนแน่น หลี่ถงถงถอนหายใจก่อนจะหันไปกล่าวกับอวี้ซือเหลียงเสียงเรียบ"ในเมื่อหนิงอันต้องการเช่นนั้นข้าก็ขอรับท่านเข้าร่วมกลุ่มด้วย ท่านคงจะรู้จักข้าอยู่แล้ว เรียกข้าว่าหลี่ถงถงเจ้าคะ" "ขอบคุณนะหลี่ถงถง เจ้าเองก็ไม่ต้องสุภาพกับข้าหรอกนะ เรียกข้าว่าอวี้ซือเหลียงได้เลย"อวี้ซือเหลียงเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มๆ "อืม...งั้นเราก็ตั้งกลุ่มเพียงแค่นี้แล้ว..." "ช้าก่อน! ข้าขอร่วมด้วย!"จู่ๆฉีหานฟงก็เดินเข้ามาขอเข้าร่วมด้วยอีกคน หลี่ถงถงมองไปที่ชายหนุ่มด้วยสายตาเย็นชา ถ้ามีฉีหานฟงเข้าร่วมด้วยเรื่องคงได้วุ่นวายมากเป็นแน่... แต่ว่าจู่ๆก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของหลี่ถงถงทำให้หลี่ถงถงเผลอแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาครู่หนึ่งก่อนจะหุบหายไปอย่างรวดเร็ว "หนิงอัน...เจ้าคิดว่าอย่างไร ให้เขาเข้าร่วมด้วยดีรึไม่?"หลี่ถงถงหันไปถามคนกอดแขนของตนเสียงเบา "เอ่อ...ข้า..."หนิงอันหันไปมองฉีหานฟงอย่างนึกลังเล ท่าทีเช่นนั้นของนางทำให้ฉีหานฟงรู้สึกใจเสียเป็นอย่างมาก หลี่ถงถงยกมือขึ้นปิดปากที่กลั่นรอบยิ้มของตนเอาไว้ ฟางซูที่รู้ทันหลี่ถงถงก็แอบหันหน้าไปหัวเราะออกมาเบาๆอย่างตลกขบขัน "ดะ...ได้สิฉีหานฟง เจ้าจะเข้าร่วมด้วยก็ได้"ในที่สุดหนิงอันที่ลังเลใจอยู่นานก็เอ่ยตอบรับ ทำเอาฉีหานฟงยิ้มร่าขึ้นมาทันที "จริงหรือ!? ขอบคุณนะหนิงอัน!"ฉีหานฟงเอ่ยออกมาอย่างดีใจ ท่าทีเช่นนั้นของฉีหานฟงทำให้หลี่ถงถงขำออกมาเบาๆอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ ส่วนฟางซูก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างปิดไว้ไม่มิด ทำเอาทั้งสองคนโดนฉีหานฟงมองค้อนตาเขียวปัดเลยทีเดียว น่าตลกยิ่งนักให้ตายสิ ฮ่าๆๆๆ! หลี่ถงถงกล่าวในใจหลังจากที่ทำแผลให้ฉีหานฟงเสร็จ หลี่ถงถงก็ได้พยุงร่างชายหนุ่มขึ้นเพื่อที่จะพาออกไปจากป่า ขนาดตัวของฉีหานฟงนั้นไม่ใช่เล็กๆ ทั้งยังหนักมากจนหลี่ถงถงต้องลำบากไม่น้อย "ให้ตายสิ! ปกติฉากแบบนี้มีแต่บุรุษช่วยพยุงร่างสตรีที่ได้รับบาดเจ็บมิใช่รึ? แล้วเหตุใดข้าจึงได้ต้องมาแบกบุรุษอกสามซอกเช่นนี้ด้วย? โลกช่างไม่ยุติธรรม!"ร่างบางบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดนัยตาทับทิมหันมองทางข้างหน้าอย่างเบื่อหน่าย "ข้าก็ไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากสตรีที่ไร้เสน่ห์เช่นเจ้าเหมือนกันนั่นแหละ!"ฉีหานฟงเอ่ยตอบกลับอย่างไม่พอใจ "กล่าวเช่นนี้เดินเองเลยมั้ย?"หลี่ถงถงเหลือบสายตาไปมองตัวภาระอย่างฉีหานฟงที่ถูกพยุงอยู่พลางเอ่ยเสียงเรียบ "ชิ!"ชายหนุ่มหันหน้าหนีเพราะไม่สามารถตอบโต้อะไรกลับไปได้ "ถ้าเปลี่ยนจากข้าเป็นหนิงอัน ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำเช่นไร?"หลี่ถงถงหันหน้ากลับมามองทางและพาฉีหานฟงเดินต่อไปอย่างช้าๆเพราะกลัวว่าบาดแผลของเขาจะฉีกขาดเพิ่มอีก ชายหนุ่มคิดตามคำกล่าวของหลี่ถงถง หากตอนนี้เป็นหนิงอัน ตนคงไม่ยอมให้นางมาแบกข้าเช่นนี้แน่ และคงจะฝืนตนอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้นางมาลำบาก... "แล้วที่เจ้าบอกว่าจะช่วยให
"เจ้าไหวมั้ย!?"หลี่ถงถงหันไปถามกับฉีหานฟงที่กำลังถูกงูอสรพิษสีมรกตจำนวนหนึ่งไล่ต้อน "อึก!!!!"ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เพราะตอนนี้ไม่อาจที่จะต่อต้านการโจมตีของงูอสรพิษสีมรกตได้อีกแล้ว ฉึก!!! งูอสรพิษสีมรกตตัวหนึ่งใช้เกล็ดของมันเป็นอาวุธขนาดเล็กและได้คว้างเกล็ดนั้นใส่ที่ท้องของฉีหานฟงโดยที่ฉีหานฟงไม่สามารถหลบการโจมตีนั่นได้ เลือดไหลออกจากบาดแผลของชายหนุ่มเป็นจำนวนมาก แรงการโจมตีนั้นทำให้ฉีหานฟงไม่อาจที่จะพยุงตัวให้ลุกขึ้นมาได้อีกแล้วเหล่างูอสรพิษสีมรกตเมื่อเห็นว่าฉีหานฟงล้มลงแล้ว มันก็ได้รีบพุ่งเข้าไปจะโจมตีเขาทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น หลี่ถงถงก็กระโดดเข้าไปขวางรับการโจมตีแทนฉีหานฟงที่พลาดพลั่ง หยาดเหงื่อไหลลงผสมกับเลือดสีแดงเปื้อนใบหน้างามแต่กลับไม่มีเวลาเช็ดออก เคร้ง!!! เสียงดาบกระทบกับหางเกล็ดสีมรกตที่งูอสรพิษสีมรกตฟาดเข้ามาโจมตี โชคดีที่พลังของดาบของหลี่ถงถงนั้นสามารถต่อต้านเอาไว้ได้ "เจ้ามีหินเคลื่อนย้ายมิติหรือไม่!?"หลี่ถงถงเอ่ยถามฉีหานฟงเสียงดังสองมือกุมดาบกวัดแกว่งป้องกันการโจมตีของเหล่าสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว ฉีหานฟงมีท่าทีลังเลครู่หนึ่งก่อนตะพยักหน้าเบาๆ นั่นเลยทำใ
หลี่ถงถงเดินกลับไปที่จุดนัดรวมตัวพร้อมกับฟางซูที่เดินอยู่ข้างๆ "ถงถง!!!"หนิงอันที่เห็นว่าหลี่ถงถงเดินกลับมาแล้วก็รีบลุกขึ้นจากม้านั่งที่มีสองหนุ่มนั่งประกบซ้ายขวาทันที ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาหลี่ถงถงดูเหมือนจะอึดอัดมากเลยสินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ มันคือชะตากรรมของนางเอกนี่นา...หลี่ถงถงเอ่ยในใจ "ฟางซูเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"อวี้ซือเหลียงเอ่ยถามฟางซูอย่างสงสัยทันทีที่เห็นร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของฟางซู ฟางซูส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอ่ยตอบไป"ไม่มีอะไร แค่พลาดตกบันไดเท่านั้น" "เจ้าไม่เป็นอะไรแน่หรือ?"หนิงอันเอ่ยถามฟางซืออย่างเป็นห่วง "ไม่เป็นไร พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป"ฟางซูตอบหนิงอันเสียงแผ่วเบา "งั้นก็ไปกันเถอะ สายแล้ว"หลี่ถงถงเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอึมครึมที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของตัวเอกทั้งสองผู้แสนดี ทั้งห้าออกเดินทางไปในทันทีโดยไม่รีรอเวลา กำหนดการทำภารกิจคือการเก็บดอกเบญจมาศสีทอง เวลาทำภารกิจคือสองวันหนึ่งคืนห้ามล่วงเลยเวลากำหนดเด็ดขาด ที่ทางสำนักได้ตั้งข้อกำหนดนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าหากศิษย์คนใดไปทำภารกิจเกินเวลากำหนดจะตีความว่าพวกเขาเสียชีวิตหรือกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ เช่นเมื่อเกินเวลาไป
เมื่อตกลงรวมกลุ่มกันเสร็จ ทั้งห้าก็แยกย้ายกันไปเตรียมของเพื่อใช้ในการเดินทางทำภารกิจ หลี่ถงถงได้อาสาเป็นคนทำเรื่องยื่นขอทำภารกิจเพราะมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับคนผู้หนึ่งด้วย "...เจ้า?" "ยินดีที่ได้พบนะ..." หลี่ถงถงเอ่ยกับคนที่นั่งหันหน้ามามองตนอย่างตกใจ หลายชั่วยามผ่านไป... ถึงเวลาเดินทางออกทำภารกิจ หลี่ถงถงกับหนิงอันเดินมาจุดนัดรวมตัวกัน ที่นั่นมีอวี้ซือเหลียงยืนรออยู่ก่อนแล้ว ด้านข้างมีฉีหานฟงที่ยืนหน้านิ่งมองไปรอบๆ "ฟางซูล่ะ?"หลี่ถงถงเอ่ยถามทั้งสองคนทันทีที่มาถึง สายตาเหลือบมองหาคนกะล่อนที่ไม่ได้อยู่ด้วย "คงกำลังมา"อวี้ซือเหลียงตอบพลางหันมองไปที่หนิงอันที่ยืนหลบอยู่หลังของหลี่ถงถง อา...ก็นางเป็นผู้หญิงนี่นะ(...) "รออีกสักครู่แล้วกัน"หลี่ถงถงพาหนิงอันไปนั่งตรงม้านั่งข้างๆ อวี้ซือเหลียงหันไปเห็นว่าข้างที่นั่งของหนิงอันว่างตนก็รีบไปนั่งทันที "!?"หนิงอันมีท่าทีเขินอายหนักกว่าเดิม พวงแก้มนวลขึ้นสีแดงก่ำมือบางทั้งสองจับแขนของหลี่ถงถงแน่น เฮ้อ...ทำไมผู้หญิงต้องเขินเวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบแบบนี้กันด้วยนะ "หลี่ถงถง..." "หืม?"หลี่ถงถงเงยหน้าขึ้นมองฉีหานฟงที่เมื่อครู่เอ่ยเรียกตน "คือว
ในนิกายเป่ยซาน เงินที่ใช้จะเป็นแกนพลังในการแลกเปลี่ยน โดยที่ทองหรือเงินจากโลกภายนอกนั้นใช้กับที่นี่ไม่ได้ เพราะที่นี่ใช้แกนพลังในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น เพื่อความเท่าเทียมกันของศิษย์ในนิกาย และแกนพลังนั้นยังสามารถใช้ในการบ่มเพาะพลังได้อีกด้วย วันนี้หลี่ถงถงจึงได้ไปที่กระดานภารกิจเพื่อจะหางานทำเงินมาใช้บ่มเพาะพลังและใช้แลกเปลี่ยนของอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ แต่ว่าภารกิจง่ายๆกลับถูกเหล่าศิษย์ใหม่เก็บเรียบไปหมดแล้ว เหลือแต่ภารกิจยากๆที่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ชีวิตก็มีแค่ครั้งเดียว ใครมันจะไปกล้าเสี่ยงกัน? "เฮ้อ...มีแต่ภารกิจยากๆเลย..."หนิงอันเอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ หนิงอันเองก็ออกมาพร้อมกับหลี่ถงถง และก็ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเริ่มจะใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว "เอาภารกิจนี้ดีรึไม่?"หลี่ถงถงชี้ไปที่ป้ายภารกิจหนึ่ง หนิงอันหันไปอ่านทันที "เก็บดอกเบญจมาศทองหรือ? แต่มันอันตรายนะถงถง ที่นั่นมีสัตว์อสูรที่มีพลังแข็งแกร่งเยอะมาก" หลี่ถงถงคิดตาม ลำพังแค่ข้าตัวคนเดียวมันก็ทำได้สะดวกอยู่หรอกนะ แต่ว่าหนิงอันนางคงจะอยากไปด้วยแน่ๆ..."เอาเช่นนี้ เรามาหาสมาชิกเพิ่มดีหรือไม่? สักสองสามคน รวมกลุ่มกันไว้ก็ได้ม
"ศิษย์ขอคาราวะท่านอาจารย์!!!"ทุกคนในห้องลุกขึ้นยืนทำความเคารพอาจารย์ประจำห้องนี้ที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน "นั่งลงเถอะ"อาจารย์หนุ่มเดินเข้าไปนั่งลงที่โต๊ะหน้าห้องเรียนด้วยท่าทีสงบ เมื่อทุกคนเห็นว่าท่านนั่งลงแล้ว ทุกคนก็นั่งลงกลับเข้าที่ของตนเอง ท่านอาจารย์กวาดสายตามองสำรวจศิษย์ทุกคนอย่างละเอียดก่อนจะหันหน้ากลับมาและเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมแต่แผ่ซ่านไปด้วยความอบอุ่นชวนให้อุ่นใจ "ข้ามีนามว่าลู่หมิง หนึ่งปีต่อจากนี้พวกเจ้าจะได้อยู่ฝึกกับข้า หากมีสิ่งใดให้ช่วยเหลือก็สามารถมาบอกกับข้าได้เสมอ" เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าใจแล้วลู่หมิงก็ยกยิ้มออกมา เด็กที่นี่ทุกคนล้วนมีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ จึงเป็นการง่ายที่จะสามารถกล่าวออกไปตรงๆตามวิถีนักรบได้ "ดีล่ะ! วินาทีนี้พวกเจ้าทุกคนจะต้องตั้งใจฝึกบ่มเพาะพลังให้มากขึ้น ทุกปี สำนักจะคัดสรรเลือกผู้มีพรสวรรค์ห้าคนของแต่ละสาขาเข้าไปอยู่ในเขตภายในชั้นต้นของนิกาย""โดยเขตภายในชั้นต้นนั้นจะมีทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังสูงกว่าเขตภายนอกหลายเท่าตัว""จำเอาไว้ หากอยากแข็งแกร่งขึ้นพวกเจ้าจะต้องหมั่นฝึกฝนเพื่อจะได้เป็นหนึ่งในผู้คัดเลือกให้ได้ และถึ





![ภรรยาซาตาน [PWP] + [SM25+] #จบแล้ว](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

