แชร์

บทที่เก้า อุ้ม

ผู้เขียน: Jtnpng
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-18 11:06:15

หลังจากที่ทำแผลให้ฉีหานฟงเสร็จ หลี่ถงถงก็ได้พยุงร่างชายหนุ่มขึ้นเพื่อที่จะพาออกไปจากป่า

ขนาดตัวของฉีหานฟงนั้นไม่ใช่เล็กๆ ทั้งยังหนักมากจนหลี่ถงถงต้องลำบากไม่น้อย

"ให้ตายสิ! ปกติฉากแบบนี้มีแต่บุรุษช่วยพยุงร่างสตรีที่ได้รับบาดเจ็บมิใช่รึ? แล้วเหตุใดข้าจึงได้ต้องมาแบกบุรุษอกสามซอกเช่นนี้ด้วย? โลกช่างไม่ยุติธรรม!"ร่างบางบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดนัยตาทับทิมหันมองทางข้างหน้าอย่างเบื่อหน่าย

"ข้าก็ไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากสตรีที่ไร้เสน่ห์เช่นเจ้าเหมือนกันนั่นแหละ!"ฉีหานฟงเอ่ยตอบกลับอย่างไม่พอใจ

"กล่าวเช่นนี้เดินเองเลยมั้ย?"หลี่ถงถงเหลือบสายตาไปมองตัวภาระอย่างฉีหานฟงที่ถูกพยุงอยู่พลางเอ่ยเสียงเรียบ

"ชิ!"ชายหนุ่มหันหน้าหนีเพราะไม่สามารถตอบโต้อะไรกลับไปได้

"ถ้าเปลี่ยนจากข้าเป็นหนิงอัน ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำเช่นไร?"หลี่ถงถงหันหน้ากลับมามองทางและพาฉีหานฟงเดินต่อไปอย่างช้าๆเพราะกลัวว่าบาดแผลของเขาจะฉีกขาดเพิ่มอีก

ชายหนุ่มคิดตามคำกล่าวของหลี่ถงถง หากตอนนี้เป็นหนิงอัน ตนคงไม่ยอมให้นางมาแบกข้าเช่นนี้แน่ และคงจะฝืนตนอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้นางมาลำบาก...

"แล้วที่เจ้าบอกว่าจะช่วยให้ข้าได้ใกล้ชิดกับหนิงอัน เจ้าจะทำอย่างไร?"ฉีหานฟงเปลี่ยนเรื่องและเอ่ยถามถึงข้อตกลงที่หลี่ถงถงได้ให้กับตนเอาไว้ก่อนหน้านี้

หญิงสาวเบ้ปากก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิด"บุรุษเช่นพวกเจ้าเนี่ย สนใจแต่เรื่องไร้สาระซะจริง..."

"รีบบอกมาอย่าเปลี่ยนเรื่อง!"เสียงทุ่มดังขึ้นอย่างขัดใจ ที่หลี่ถงถงเอาแต่เอ่ยเหน็บแนมตน

"เฮ้อ...พ่อแม่ส่งให้มาเรียนแท้ๆ วันๆเอาแต่คิดเรื่องรักๆใคร่ๆไม่ตั้งใจเรียน..."หลี่ถงถงแสร้งทำเป็นเหนื่อยใจก่อนจะรีบเอ่ยต่อเมื่อจู่ๆก็มีรังสีอำมหิตส่งมาจากร่างของชายหนุ่มร่างแกร่ง

"ข้าจะช่วยเจ้าแค่ครั้งเดียวนะ ไม่มีครั้งที่สอง"

เมื่อได้ยินว่าจะช่วยฉีหานฟงก็รีบพยักหน้าตอบรับทันทีอย่างเร่งรีบ จนหลี่ถงถงอดส่ายหน้าอย่างเอือมระอาไม่ได้

"รีบกล่าวมา!"

"เจ้าจะรีบร้อนไปทำไม หืม!? นั่นมันดอกเบญจมาศสีทองนี่!!!"หลี่ถงถงที่กำลังพูดจู่ๆสายตาก็เหลือบไปเห็นดอกเบญจมาศสีทองที่กำลังชูช่ออยู่หลายดอกหลายต้น

โชคดีชะมัด!!!

หลี่ถงถงวางร่างของฉีหานฟงลงพิงกับต้นไม้ใหญ่ข้างๆก่อนจะรีบไปเก็บเกี่ยวเอาดอกไม้ใส่แหวนมิติที่ใช้เก็บของแทนกระเป๋าได้

ขนาดดอกของดอกเบญจมาศสีทองนั้นใหญ่เท่าฝ่ามือสองข้าง ลักษณะกลม กลีบดอกจะซ้อนๆ กันหลายชั้น

"เจ้าจะเอาไปแบ่งผู้อื่นด้วยหรือไม่?"ฉีหานฟงเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัย พลางมองหลี่ถงถงเด็ดดอกเบญจมาศสีทองอร่ามใส่แหวนมิติอย่างร่าเริง

"จะแบ่งทำไม ข้าไม่ใช่จิตอาสาเสียหน่อย"หลี่ถงถงเอ่ยตอบตามที่ตนคิด

เมื่อได้ยินคำตอบอันแสนเถรตรงของหลี่ถงถงฉีหานฟงก็หัวเราะออกมา หากเป็นคนอื่น ก็คงจะตอบอ้อมโลกไปเสียแล้ว ไม่มีทางกล่าวเช่นหลี่ถงถงแน่

"ช่างเป็นคนที่น่าอิจฉาเสียจริง ที่สามารถเอ่ยตามอารมณ์ความรู้สึกโดยไม่คิดปิดบังเอาไว้ได้"ฉีหานฟงทิ้งแรงพิงต้นไม้อย่างผ่อนคลาย

หลี่ถงถงที่กำลังเก็บเกี่ยวดอกไม้อยู่ก็เอ่ยตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจ

"เพราะว่าข้าเป็นอันธพาลที่มีอำนาจยังไงเล่า ไม่เหมือนพวกเจ้าที่มีอำนาจแต่วันๆไม่คิดจะใช้ แล้วก็เอาแต่เสแสร้งแกล้งทำจนไม่สามารถแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาได้อีกแล้ว สมน้ำหน้า!"

ฉีหานฟงหัวเราะออกมาอย่างรู้สึกขบขันกับคำกล่าวของสตรีตรงหน้า จะมีสักกี่คนกันเชียวที่จะกล้าเอ่ยออกมาตามตรงเช่นนี้

"บนโลกนี้คงมีแต่เจ้าคนเดียวแล้วมั้งที่คิดเช่นนี้"ฉีหานฟงเอ่ยถากถางแต่ไม่สามารถทำให้หลี่ถงถงรู้สึกอะไรเลย

"แน่นอนสิ ก็มีข้าแค่คนเดียวบนโลกนี้นี่ ข้าเก็บเสร็จแล้วไปกันเถอะ"หลี่ถงถงปัดมือของตนเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปพยุงร่างของฉีหานฟงขึ้นมาจากพื้นเพื่อจะเดินทางต่อ

ทั้งสองเร่งเดินทางกันต่อ โดยเลี่ยงทางที่ใช้ต่อสู้เมื่อครู่ให้มากที่สุด

เมื่อเดินทางมาถึงขอบชายป่า ทั้งสองก็หยุดลงเพราะมีแม่น้ำขวางทางเอาไว้

"จะเอาอย่างไรต่อ? เลี่ยงทางอื่นมีหวังเจองูอสรพิษสีมรกตอีกแน่"หลี่ถงถงหันไปถามฉีหานฟงอย่างสงสัย

"..."ชายหนุ่มเงียบ

ทางเดียวที่จะสามารถข้ามผ่านไปได้คือการเหาะข้ามไปเพราะไม่สามารถแหวกว่ายน้ำข้ามไปได้

ปกติก็ทำได้แหละ แต่ว่าเจ้าตัวร้ายนี่ดันมีบาดแผลขนาดใหญ่ที่จะให้ถูกน้ำไม่ได้นี่สิ...หลี่ถงถงถอนหายใจ

แกร๊บ...!

"!?"จู่ๆก็มีเสียงกิ่งไม้หักใกล้ๆ ดูเหมือนว่าต้องรีบแล้ว!

หลี่ถงถงไม่พูดพร่ำทำเพลงก้มลงสอดแขนข้างหนึ่งหลังเข่าของฉีหานฟง แขนอีกข้างประคองหลังของร่างแกร่งก่อนที่จะออกแรงยกอุ้มชายหนุ่มขึ้นมาในท่าเจ้าสาว

"หลี่ถงถงนี่เจ้า!!!!"ฉีหานฟงตกใจกับสิ่งที่หญิงสาวทำพลางพยายามดิ้นรนให้หลี่ถงถงปล่อยตนลงจากท่าที่น่าอายนี้!

"โอ้ย! อยู่เฉยๆก่อนได้มั้ย!? พวกสัตว์อสูรมันแห่มากันแล้วเจ้าสัมผัสไม่ได้หรือ!?"หลี่ถงถงตวาดใส่หน้าของคนที่ถูกอุ้มก่อนจะเรียกดาบของตนให้ลอยขึ้นระดับเข่า

ฉีหานฟงหันไปมองข้างหลังของหลี่ถงถงเห็นว่ามีเงาของงูขนาดใหญ่อยู่จึงยอมอยู่เฉยๆตามคำสั่งของหลี่ถงถง

"เกาะข้าแน่นๆนะ"หลี่ถงถงเอ่ยจบก็กระโดดขึ้นบนดาบทันทีและสั่งให้ดาบบินหาตนข้ามฝั่งของแม่น้ำไป

ฉีหานฟงที่ไม่มีทางเลือกก็ได้คล้องคอของหลี่ถงถงเพื่อยึดเกาะไม่ให้ตนตก

ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของข้า มันแปดเปี้อนซะแล้ว! ฉีหานฟงเอ่ยคร่ำครวญในใจ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่เก้า อุ้ม

    หลังจากที่ทำแผลให้ฉีหานฟงเสร็จ หลี่ถงถงก็ได้พยุงร่างชายหนุ่มขึ้นเพื่อที่จะพาออกไปจากป่า ขนาดตัวของฉีหานฟงนั้นไม่ใช่เล็กๆ ทั้งยังหนักมากจนหลี่ถงถงต้องลำบากไม่น้อย "ให้ตายสิ! ปกติฉากแบบนี้มีแต่บุรุษช่วยพยุงร่างสตรีที่ได้รับบาดเจ็บมิใช่รึ? แล้วเหตุใดข้าจึงได้ต้องมาแบกบุรุษอกสามซอกเช่นนี้ด้วย? โลกช่างไม่ยุติธรรม!"ร่างบางบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดนัยตาทับทิมหันมองทางข้างหน้าอย่างเบื่อหน่าย "ข้าก็ไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากสตรีที่ไร้เสน่ห์เช่นเจ้าเหมือนกันนั่นแหละ!"ฉีหานฟงเอ่ยตอบกลับอย่างไม่พอใจ "กล่าวเช่นนี้เดินเองเลยมั้ย?"หลี่ถงถงเหลือบสายตาไปมองตัวภาระอย่างฉีหานฟงที่ถูกพยุงอยู่พลางเอ่ยเสียงเรียบ "ชิ!"ชายหนุ่มหันหน้าหนีเพราะไม่สามารถตอบโต้อะไรกลับไปได้ "ถ้าเปลี่ยนจากข้าเป็นหนิงอัน ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำเช่นไร?"หลี่ถงถงหันหน้ากลับมามองทางและพาฉีหานฟงเดินต่อไปอย่างช้าๆเพราะกลัวว่าบาดแผลของเขาจะฉีกขาดเพิ่มอีก ชายหนุ่มคิดตามคำกล่าวของหลี่ถงถง หากตอนนี้เป็นหนิงอัน ตนคงไม่ยอมให้นางมาแบกข้าเช่นนี้แน่ และคงจะฝืนตนอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้นางมาลำบาก... "แล้วที่เจ้าบอกว่าจะช่วยให

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่แปด ฝากไว้ก่อน

    "เจ้าไหวมั้ย!?"หลี่ถงถงหันไปถามกับฉีหานฟงที่กำลังถูกงูอสรพิษสีมรกตจำนวนหนึ่งไล่ต้อน "อึก!!!!"ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เพราะตอนนี้ไม่อาจที่จะต่อต้านการโจมตีของงูอสรพิษสีมรกตได้อีกแล้ว ฉึก!!! งูอสรพิษสีมรกตตัวหนึ่งใช้เกล็ดของมันเป็นอาวุธขนาดเล็กและได้คว้างเกล็ดนั้นใส่ที่ท้องของฉีหานฟงโดยที่ฉีหานฟงไม่สามารถหลบการโจมตีนั่นได้ เลือดไหลออกจากบาดแผลของชายหนุ่มเป็นจำนวนมาก แรงการโจมตีนั้นทำให้ฉีหานฟงไม่อาจที่จะพยุงตัวให้ลุกขึ้นมาได้อีกแล้วเหล่างูอสรพิษสีมรกตเมื่อเห็นว่าฉีหานฟงล้มลงแล้ว มันก็ได้รีบพุ่งเข้าไปจะโจมตีเขาทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น หลี่ถงถงก็กระโดดเข้าไปขวางรับการโจมตีแทนฉีหานฟงที่พลาดพลั่ง หยาดเหงื่อไหลลงผสมกับเลือดสีแดงเปื้อนใบหน้างามแต่กลับไม่มีเวลาเช็ดออก เคร้ง!!! เสียงดาบกระทบกับหางเกล็ดสีมรกตที่งูอสรพิษสีมรกตฟาดเข้ามาโจมตี โชคดีที่พลังของดาบของหลี่ถงถงนั้นสามารถต่อต้านเอาไว้ได้ "เจ้ามีหินเคลื่อนย้ายมิติหรือไม่!?"หลี่ถงถงเอ่ยถามฉีหานฟงเสียงดังสองมือกุมดาบกวัดแกว่งป้องกันการโจมตีของเหล่าสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว ฉีหานฟงมีท่าทีลังเลครู่หนึ่งก่อนตะพยักหน้าเบาๆ นั่นเลยทำใ

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่เจ็ด พวกคนดี

    หลี่ถงถงเดินกลับไปที่จุดนัดรวมตัวพร้อมกับฟางซูที่เดินอยู่ข้างๆ "ถงถง!!!"หนิงอันที่เห็นว่าหลี่ถงถงเดินกลับมาแล้วก็รีบลุกขึ้นจากม้านั่งที่มีสองหนุ่มนั่งประกบซ้ายขวาทันที ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาหลี่ถงถงดูเหมือนจะอึดอัดมากเลยสินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ มันคือชะตากรรมของนางเอกนี่นา...หลี่ถงถงเอ่ยในใจ "ฟางซูเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"อวี้ซือเหลียงเอ่ยถามฟางซูอย่างสงสัยทันทีที่เห็นร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของฟางซู ฟางซูส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอ่ยตอบไป"ไม่มีอะไร แค่พลาดตกบันไดเท่านั้น" "เจ้าไม่เป็นอะไรแน่หรือ?"หนิงอันเอ่ยถามฟางซืออย่างเป็นห่วง "ไม่เป็นไร พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป"ฟางซูตอบหนิงอันเสียงแผ่วเบา "งั้นก็ไปกันเถอะ สายแล้ว"หลี่ถงถงเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอึมครึมที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของตัวเอกทั้งสองผู้แสนดี ทั้งห้าออกเดินทางไปในทันทีโดยไม่รีรอเวลา กำหนดการทำภารกิจคือการเก็บดอกเบญจมาศสีทอง เวลาทำภารกิจคือสองวันหนึ่งคืนห้ามล่วงเลยเวลากำหนดเด็ดขาด ที่ทางสำนักได้ตั้งข้อกำหนดนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าหากศิษย์คนใดไปทำภารกิจเกินเวลากำหนดจะตีความว่าพวกเขาเสียชีวิตหรือกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ เช่นเมื่อเกินเวลาไป

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่หก บาดเจ็บ

    เมื่อตกลงรวมกลุ่มกันเสร็จ ทั้งห้าก็แยกย้ายกันไปเตรียมของเพื่อใช้ในการเดินทางทำภารกิจ หลี่ถงถงได้อาสาเป็นคนทำเรื่องยื่นขอทำภารกิจเพราะมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับคนผู้หนึ่งด้วย "...เจ้า?" "ยินดีที่ได้พบนะ..." หลี่ถงถงเอ่ยกับคนที่นั่งหันหน้ามามองตนอย่างตกใจ หลายชั่วยามผ่านไป... ถึงเวลาเดินทางออกทำภารกิจ หลี่ถงถงกับหนิงอันเดินมาจุดนัดรวมตัวกัน ที่นั่นมีอวี้ซือเหลียงยืนรออยู่ก่อนแล้ว ด้านข้างมีฉีหานฟงที่ยืนหน้านิ่งมองไปรอบๆ "ฟางซูล่ะ?"หลี่ถงถงเอ่ยถามทั้งสองคนทันทีที่มาถึง สายตาเหลือบมองหาคนกะล่อนที่ไม่ได้อยู่ด้วย "คงกำลังมา"อวี้ซือเหลียงตอบพลางหันมองไปที่หนิงอันที่ยืนหลบอยู่หลังของหลี่ถงถง อา...ก็นางเป็นผู้หญิงนี่นะ(...) "รออีกสักครู่แล้วกัน"หลี่ถงถงพาหนิงอันไปนั่งตรงม้านั่งข้างๆ อวี้ซือเหลียงหันไปเห็นว่าข้างที่นั่งของหนิงอันว่างตนก็รีบไปนั่งทันที "!?"หนิงอันมีท่าทีเขินอายหนักกว่าเดิม พวงแก้มนวลขึ้นสีแดงก่ำมือบางทั้งสองจับแขนของหลี่ถงถงแน่น เฮ้อ...ทำไมผู้หญิงต้องเขินเวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบแบบนี้กันด้วยนะ "หลี่ถงถง..." "หืม?"หลี่ถงถงเงยหน้าขึ้นมองฉีหานฟงที่เมื่อครู่เอ่ยเรียกตน "คือว

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่ห้า รวมกลุ่ม

    ในนิกายเป่ยซาน เงินที่ใช้จะเป็นแกนพลังในการแลกเปลี่ยน โดยที่ทองหรือเงินจากโลกภายนอกนั้นใช้กับที่นี่ไม่ได้ เพราะที่นี่ใช้แกนพลังในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น เพื่อความเท่าเทียมกันของศิษย์ในนิกาย และแกนพลังนั้นยังสามารถใช้ในการบ่มเพาะพลังได้อีกด้วย วันนี้หลี่ถงถงจึงได้ไปที่กระดานภารกิจเพื่อจะหางานทำเงินมาใช้บ่มเพาะพลังและใช้แลกเปลี่ยนของอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ แต่ว่าภารกิจง่ายๆกลับถูกเหล่าศิษย์ใหม่เก็บเรียบไปหมดแล้ว เหลือแต่ภารกิจยากๆที่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ชีวิตก็มีแค่ครั้งเดียว ใครมันจะไปกล้าเสี่ยงกัน? "เฮ้อ...มีแต่ภารกิจยากๆเลย..."หนิงอันเอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ หนิงอันเองก็ออกมาพร้อมกับหลี่ถงถง และก็ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเริ่มจะใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว "เอาภารกิจนี้ดีรึไม่?"หลี่ถงถงชี้ไปที่ป้ายภารกิจหนึ่ง หนิงอันหันไปอ่านทันที "เก็บดอกเบญจมาศทองหรือ? แต่มันอันตรายนะถงถง ที่นั่นมีสัตว์อสูรที่มีพลังแข็งแกร่งเยอะมาก" หลี่ถงถงคิดตาม ลำพังแค่ข้าตัวคนเดียวมันก็ทำได้สะดวกอยู่หรอกนะ แต่ว่าหนิงอันนางคงจะอยากไปด้วยแน่ๆ..."เอาเช่นนี้ เรามาหาสมาชิกเพิ่มดีหรือไม่? สักสองสามคน รวมกลุ่มกันไว้ก็ได้ม

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่สี่ จับคู่

    "ศิษย์ขอคาราวะท่านอาจารย์!!!"ทุกคนในห้องลุกขึ้นยืนทำความเคารพอาจารย์ประจำห้องนี้ที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน "นั่งลงเถอะ"อาจารย์หนุ่มเดินเข้าไปนั่งลงที่โต๊ะหน้าห้องเรียนด้วยท่าทีสงบ เมื่อทุกคนเห็นว่าท่านนั่งลงแล้ว ทุกคนก็นั่งลงกลับเข้าที่ของตนเอง ท่านอาจารย์กวาดสายตามองสำรวจศิษย์ทุกคนอย่างละเอียดก่อนจะหันหน้ากลับมาและเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมแต่แผ่ซ่านไปด้วยความอบอุ่นชวนให้อุ่นใจ "ข้ามีนามว่าลู่หมิง หนึ่งปีต่อจากนี้พวกเจ้าจะได้อยู่ฝึกกับข้า หากมีสิ่งใดให้ช่วยเหลือก็สามารถมาบอกกับข้าได้เสมอ" เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าใจแล้วลู่หมิงก็ยกยิ้มออกมา เด็กที่นี่ทุกคนล้วนมีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ จึงเป็นการง่ายที่จะสามารถกล่าวออกไปตรงๆตามวิถีนักรบได้ "ดีล่ะ! วินาทีนี้พวกเจ้าทุกคนจะต้องตั้งใจฝึกบ่มเพาะพลังให้มากขึ้น ทุกปี สำนักจะคัดสรรเลือกผู้มีพรสวรรค์ห้าคนของแต่ละสาขาเข้าไปอยู่ในเขตภายในชั้นต้นของนิกาย""โดยเขตภายในชั้นต้นนั้นจะมีทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังสูงกว่าเขตภายนอกหลายเท่าตัว""จำเอาไว้ หากอยากแข็งแกร่งขึ้นพวกเจ้าจะต้องหมั่นฝึกฝนเพื่อจะได้เป็นหนึ่งในผู้คัดเลือกให้ได้ และถึ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status