Share

บทที่แปด ฝากไว้ก่อน

Author: Jtnpng
last update Last Updated: 2025-11-18 10:56:01

"เจ้าไหวมั้ย!?"หลี่ถงถงหันไปถามกับฉีหานฟงที่กำลังถูกงูอสรพิษสีมรกตจำนวนหนึ่งไล่ต้อน 

"อึก!!!!"ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เพราะตอนนี้ไม่อาจที่จะต่อต้านการโจมตีของงูอสรพิษสีมรกตได้อีกแล้ว 

ฉึก!!! 

งูอสรพิษสีมรกตตัวหนึ่งใช้เกล็ดของมันเป็นอาวุธขนาดเล็กและได้คว้างเกล็ดนั้นใส่ที่ท้องของฉีหานฟงโดยที่ฉีหานฟงไม่สามารถหลบการโจมตีนั่นได้ 

เลือดไหลออกจากบาดแผลของชายหนุ่มเป็นจำนวนมาก แรงการโจมตีนั้นทำให้ฉีหานฟงไม่อาจที่จะพยุงตัวให้ลุกขึ้นมาได้อีกแล้ว

เหล่างูอสรพิษสีมรกตเมื่อเห็นว่าฉีหานฟงล้มลงแล้ว มันก็ได้รีบพุ่งเข้าไปจะโจมตีเขาทันที

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น หลี่ถงถงก็กระโดดเข้าไปขวางรับการโจมตีแทนฉีหานฟงที่พลาดพลั่ง หยาดเหงื่อไหลลงผสมกับเลือดสีแดงเปื้อนใบหน้างามแต่กลับไม่มีเวลาเช็ดออก 

เคร้ง!!! 

เสียงดาบกระทบกับหางเกล็ดสีมรกตที่งูอสรพิษสีมรกตฟาดเข้ามาโจมตี โชคดีที่พลังของดาบของหลี่ถงถงนั้นสามารถต่อต้านเอาไว้ได้ 

"เจ้ามีหินเคลื่อนย้ายมิติหรือไม่!?"หลี่ถงถงเอ่ยถามฉีหานฟงเสียงดังสองมือกุมดาบกวัดแกว่งป้องกันการโจมตีของเหล่าสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว 

ฉีหานฟงมีท่าทีลังเลครู่หนึ่งก่อนตะพยักหน้าเบาๆ นั่นเลยทำให้หลี่ถงถงรู้สึกดีขึ้น 

พลั่ก!!! 

หลี่ถงถงฟาดเท้าโจมตีใส่งูอสรพิษสีมรกตตัวข้างหน้าสุดจนกระเด็นออกไปหลายสิบเมตรก่อนจะกระโดดเข้าไปพยุงตัวของฉีหานฟงขึ้นจากพื้น 

"ไปกันเถอะ!" 

ฉีหานฟงเอาหินเคลื่อนย้ายมิติออกมาและรีบใช้งานมันในทันที ในชั่ววินาทีนั้นเหล่าอสรพิษก็ได้พยายามโจมตีเข้าหาทั้งสองไม่ยั้งมือ แต่ว่าทั้งสองก็ได้หายตัวไปแล้ว...

 

รู้สึกตัวอีกที ทั้งสองก็ได้อยู่ในกลางทุ่งดอกไม้ที่อยู่ใจกลางของป่าแห่งนี้...

"หา!? ทำไมถึงเป็นที่นี่ล่ะ!?"หลี่ถงถงมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจจนแทบสิ้นสติ 

ฉีหานฟงมองสตรีที่ยืนตกใจด้วยสายตาที่นิ่งเฉย พลางหอบเอาลมหายใจเข้าปอด 

"หินมิติของข้ามีปัญหานิดหน่อย ข้ายังไม่ได้ปรับแต่งก็เลยส่งมายังที่นี่..." 

"ห้ะ!? บ้าไปแล้วเหรอ!? แล้วทำไมไม่สั่งให้มันส่งไปใกล้ทางออกจากป่าเล่า!?"หลี่ถงถงกระชากคอของฉีหานฟงขึ้นมาถามอย่างเอาเรื่อง 

บ้าไปแล้วเหรอ!? แทนที่จะส่งไปอยู่ใกล้ๆกับชายขอบป่า แต่กลับส่งมาอยู่กลางป่าที่อันตรายยิ่งกว่าเดิมแทนเนี่ยนะ! 

"ข้าไม่สามารถควบคุมหินมิติได้ ก็บอกแล้วไงว่ายังไม่ได้ปรับแต่ง"ฉีหานฟงเอ่ยอย่างรำคาญ 

"ไม่ได้ปรับก็ควรบอกกันก่อนไม่ใช่รึไง!?"หลี่ถงถงเอ่ยออกมาเสียงดังอย่างโมโห 

แต่ว่าจู่ๆฉีหานฟงก็กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ทำให้หลี่ถงถงตกใจและเข้าไปรับตัวของฉีหานฟง

"อึก! แค่กแค่กแค่ก!!!" 

เลือดสีแดงสดไหลออกจากปากหนาเป็นจำนวนมากจนทำให้หลี่ถงถงรู้สึกตกใจ 

นัยตาสีแดงทับทิมหันสบไปเห็นบาดแผลขนาดใหญ่ตรงท้องของชายหนุ่มก่อนจะถอดชุดคลุมสีแดงของตนออกไปซับเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลของเขาทันที 

"เจ้านอนพักตรงนี้ก่อน ข้าจะไปหาสมุนไพรมาทำแผลให้เจ้า"หลี่ถงถงค่อยๆวางร่างของฉีหานฟงนอนลงกับพื้นก่อนจะรีบวิ่งออกไปหาสมุนไพรทันที 

ใบสาบเสือคือสมุนไพรชนิดแรกที่วิ่งแล่นผ่านสมองของข้า แต่ว่า... 

ที่นี่ไม่มีสมุนไพรนั่นเลยนะสิ! 

เช่นนั้นยังมีสมุนไรอะไรอีกนะ?

"หืม? นั่นไง!"หลี่ถงถงรีบก้มลงไปเด็ดใบบัวบกจากพื้นดินที่อุดมไปด้วยความชุ่มชื่นและอุดมสมบูรณ์ 

ใบบัวบกเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณยาเยอะมาก หนึ่งในนั้นคือสามารถช่วยรักษาบาดแผลให้หายได้เร็วยิ่งขึ้นและยังช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้ดี ทั้งนี้ยังสามารถช่วยห้ามเลือดได้อีกด้วย 

ตอนเด็กๆข้าเคยเข้าไปเล่นในป่าใกล้ๆบ้านอยู่บ่อยๆ และมักจะมีแผลติดตัวกลับบ้านเป็นประจำ แม่ที่ไม่ได้มีเงินเยอะอะไรมากมายก็ได้หาสมุนไพรจากป่าแถวนั้นมารักษาข้า 

หนึ่งในสมุนไพรนั่นคือใบบัวบก... 

วิธีการนำมารักษาบาดแผลคือนำไปล้างให้สะอาด จากนั้นก็นำไปโขลกสับให้ละเอียด และนำไปพอกแผลสักพัก 

ไม่นานหลี่ถงถงก็กลับไปหาฉีหานฟงที่นอนรออยู่ 

ฉีหานฟงมองสตรีที่ค่อยๆถอดชุดท่อนบนของตนออกอย่างหน้าตาเฉย มือบางบรรจงเช็ดขอบบาดแผลอย่างเบามือก่อนจะนำสมุนไพรที่ถูกบดละเอียดมาทาทับบนบาดแผล 

"อึก!"ฉีหานฟงกัดฟันอดทน รู้สึกปวดแสบที่บาดแผลเป็นอย่างมาก แต่ก็ยอมที่จะอยู่เฉยๆให้คนรักษา 

"จะร้องก็ร้องออกมาได้เลยนะ ถึงเจ้าจะถึกทนเหมือนโคกระบือ แต่ว่าการถูกรักษาแผลสดๆเช่นนี้ก็ส่งผลให้เจ็บปวดหนักเหมือนกัน"หลี่ถงถงเอ่ยหยอกล้อคนตรงหน้าอย่างติดตลกพลางบรรจงทำแผลให้เขาอย่างเบามือ 

"เจ้า! โอ้ย!!!"ฉีหานฟงที่เลือกขึ้นหน้าจะลุกขึ้นมาด่าหลี่ถงถงกลับแต่ก็ต้องฟุบนอนลงอีกครั้งเพราะถูกมือบางกดบาดแผลอย่างแรง 

หลี่ถงถงแสยะยิ้มส่งให้ชายหนุ่มอย่างมีชัย 

"แหมๆ เมื่อครู่เจ้าจะลุกทำไม หรืออยากให้ข้าทำแรงกว่านี้?" 

ฉีหานฟงมองหลี่ถงถงอย่างเคียดแค้นแต่ก็ยอมอยู่นิ่งๆเพราะไม่อยากเจ็บตัวอีก 

"ฝากไว้ก่อนเถอะ!"ปากหนักเอ่ยออกมาเสียงเย็นอย่างอาฆาตสายตาคมดุหันมองไปทางอื่นอย่างยอมรับความพ่ายแพ้ 

"ไม่รับฝากจ้าาา" หลี่ถงถงเอ่ยพลางกดบาดแผลให้แรงลงกว่าเดิม 

"โอ้ย! นี่เจ้า!!!!" 

"ฮ่าๆๆๆ!"

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่เก้า อุ้ม

    หลังจากที่ทำแผลให้ฉีหานฟงเสร็จ หลี่ถงถงก็ได้พยุงร่างชายหนุ่มขึ้นเพื่อที่จะพาออกไปจากป่า ขนาดตัวของฉีหานฟงนั้นไม่ใช่เล็กๆ ทั้งยังหนักมากจนหลี่ถงถงต้องลำบากไม่น้อย "ให้ตายสิ! ปกติฉากแบบนี้มีแต่บุรุษช่วยพยุงร่างสตรีที่ได้รับบาดเจ็บมิใช่รึ? แล้วเหตุใดข้าจึงได้ต้องมาแบกบุรุษอกสามซอกเช่นนี้ด้วย? โลกช่างไม่ยุติธรรม!"ร่างบางบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดนัยตาทับทิมหันมองทางข้างหน้าอย่างเบื่อหน่าย "ข้าก็ไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากสตรีที่ไร้เสน่ห์เช่นเจ้าเหมือนกันนั่นแหละ!"ฉีหานฟงเอ่ยตอบกลับอย่างไม่พอใจ "กล่าวเช่นนี้เดินเองเลยมั้ย?"หลี่ถงถงเหลือบสายตาไปมองตัวภาระอย่างฉีหานฟงที่ถูกพยุงอยู่พลางเอ่ยเสียงเรียบ "ชิ!"ชายหนุ่มหันหน้าหนีเพราะไม่สามารถตอบโต้อะไรกลับไปได้ "ถ้าเปลี่ยนจากข้าเป็นหนิงอัน ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำเช่นไร?"หลี่ถงถงหันหน้ากลับมามองทางและพาฉีหานฟงเดินต่อไปอย่างช้าๆเพราะกลัวว่าบาดแผลของเขาจะฉีกขาดเพิ่มอีก ชายหนุ่มคิดตามคำกล่าวของหลี่ถงถง หากตอนนี้เป็นหนิงอัน ตนคงไม่ยอมให้นางมาแบกข้าเช่นนี้แน่ และคงจะฝืนตนอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้นางมาลำบาก... "แล้วที่เจ้าบอกว่าจะช่วยให

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่แปด ฝากไว้ก่อน

    "เจ้าไหวมั้ย!?"หลี่ถงถงหันไปถามกับฉีหานฟงที่กำลังถูกงูอสรพิษสีมรกตจำนวนหนึ่งไล่ต้อน "อึก!!!!"ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เพราะตอนนี้ไม่อาจที่จะต่อต้านการโจมตีของงูอสรพิษสีมรกตได้อีกแล้ว ฉึก!!! งูอสรพิษสีมรกตตัวหนึ่งใช้เกล็ดของมันเป็นอาวุธขนาดเล็กและได้คว้างเกล็ดนั้นใส่ที่ท้องของฉีหานฟงโดยที่ฉีหานฟงไม่สามารถหลบการโจมตีนั่นได้ เลือดไหลออกจากบาดแผลของชายหนุ่มเป็นจำนวนมาก แรงการโจมตีนั้นทำให้ฉีหานฟงไม่อาจที่จะพยุงตัวให้ลุกขึ้นมาได้อีกแล้วเหล่างูอสรพิษสีมรกตเมื่อเห็นว่าฉีหานฟงล้มลงแล้ว มันก็ได้รีบพุ่งเข้าไปจะโจมตีเขาทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น หลี่ถงถงก็กระโดดเข้าไปขวางรับการโจมตีแทนฉีหานฟงที่พลาดพลั่ง หยาดเหงื่อไหลลงผสมกับเลือดสีแดงเปื้อนใบหน้างามแต่กลับไม่มีเวลาเช็ดออก เคร้ง!!! เสียงดาบกระทบกับหางเกล็ดสีมรกตที่งูอสรพิษสีมรกตฟาดเข้ามาโจมตี โชคดีที่พลังของดาบของหลี่ถงถงนั้นสามารถต่อต้านเอาไว้ได้ "เจ้ามีหินเคลื่อนย้ายมิติหรือไม่!?"หลี่ถงถงเอ่ยถามฉีหานฟงเสียงดังสองมือกุมดาบกวัดแกว่งป้องกันการโจมตีของเหล่าสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว ฉีหานฟงมีท่าทีลังเลครู่หนึ่งก่อนตะพยักหน้าเบาๆ นั่นเลยทำใ

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่เจ็ด พวกคนดี

    หลี่ถงถงเดินกลับไปที่จุดนัดรวมตัวพร้อมกับฟางซูที่เดินอยู่ข้างๆ "ถงถง!!!"หนิงอันที่เห็นว่าหลี่ถงถงเดินกลับมาแล้วก็รีบลุกขึ้นจากม้านั่งที่มีสองหนุ่มนั่งประกบซ้ายขวาทันที ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาหลี่ถงถงดูเหมือนจะอึดอัดมากเลยสินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ มันคือชะตากรรมของนางเอกนี่นา...หลี่ถงถงเอ่ยในใจ "ฟางซูเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"อวี้ซือเหลียงเอ่ยถามฟางซูอย่างสงสัยทันทีที่เห็นร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของฟางซู ฟางซูส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอ่ยตอบไป"ไม่มีอะไร แค่พลาดตกบันไดเท่านั้น" "เจ้าไม่เป็นอะไรแน่หรือ?"หนิงอันเอ่ยถามฟางซืออย่างเป็นห่วง "ไม่เป็นไร พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป"ฟางซูตอบหนิงอันเสียงแผ่วเบา "งั้นก็ไปกันเถอะ สายแล้ว"หลี่ถงถงเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอึมครึมที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของตัวเอกทั้งสองผู้แสนดี ทั้งห้าออกเดินทางไปในทันทีโดยไม่รีรอเวลา กำหนดการทำภารกิจคือการเก็บดอกเบญจมาศสีทอง เวลาทำภารกิจคือสองวันหนึ่งคืนห้ามล่วงเลยเวลากำหนดเด็ดขาด ที่ทางสำนักได้ตั้งข้อกำหนดนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าหากศิษย์คนใดไปทำภารกิจเกินเวลากำหนดจะตีความว่าพวกเขาเสียชีวิตหรือกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ เช่นเมื่อเกินเวลาไป

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่หก บาดเจ็บ

    เมื่อตกลงรวมกลุ่มกันเสร็จ ทั้งห้าก็แยกย้ายกันไปเตรียมของเพื่อใช้ในการเดินทางทำภารกิจ หลี่ถงถงได้อาสาเป็นคนทำเรื่องยื่นขอทำภารกิจเพราะมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับคนผู้หนึ่งด้วย "...เจ้า?" "ยินดีที่ได้พบนะ..." หลี่ถงถงเอ่ยกับคนที่นั่งหันหน้ามามองตนอย่างตกใจ หลายชั่วยามผ่านไป... ถึงเวลาเดินทางออกทำภารกิจ หลี่ถงถงกับหนิงอันเดินมาจุดนัดรวมตัวกัน ที่นั่นมีอวี้ซือเหลียงยืนรออยู่ก่อนแล้ว ด้านข้างมีฉีหานฟงที่ยืนหน้านิ่งมองไปรอบๆ "ฟางซูล่ะ?"หลี่ถงถงเอ่ยถามทั้งสองคนทันทีที่มาถึง สายตาเหลือบมองหาคนกะล่อนที่ไม่ได้อยู่ด้วย "คงกำลังมา"อวี้ซือเหลียงตอบพลางหันมองไปที่หนิงอันที่ยืนหลบอยู่หลังของหลี่ถงถง อา...ก็นางเป็นผู้หญิงนี่นะ(...) "รออีกสักครู่แล้วกัน"หลี่ถงถงพาหนิงอันไปนั่งตรงม้านั่งข้างๆ อวี้ซือเหลียงหันไปเห็นว่าข้างที่นั่งของหนิงอันว่างตนก็รีบไปนั่งทันที "!?"หนิงอันมีท่าทีเขินอายหนักกว่าเดิม พวงแก้มนวลขึ้นสีแดงก่ำมือบางทั้งสองจับแขนของหลี่ถงถงแน่น เฮ้อ...ทำไมผู้หญิงต้องเขินเวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบแบบนี้กันด้วยนะ "หลี่ถงถง..." "หืม?"หลี่ถงถงเงยหน้าขึ้นมองฉีหานฟงที่เมื่อครู่เอ่ยเรียกตน "คือว

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่ห้า รวมกลุ่ม

    ในนิกายเป่ยซาน เงินที่ใช้จะเป็นแกนพลังในการแลกเปลี่ยน โดยที่ทองหรือเงินจากโลกภายนอกนั้นใช้กับที่นี่ไม่ได้ เพราะที่นี่ใช้แกนพลังในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น เพื่อความเท่าเทียมกันของศิษย์ในนิกาย และแกนพลังนั้นยังสามารถใช้ในการบ่มเพาะพลังได้อีกด้วย วันนี้หลี่ถงถงจึงได้ไปที่กระดานภารกิจเพื่อจะหางานทำเงินมาใช้บ่มเพาะพลังและใช้แลกเปลี่ยนของอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ แต่ว่าภารกิจง่ายๆกลับถูกเหล่าศิษย์ใหม่เก็บเรียบไปหมดแล้ว เหลือแต่ภารกิจยากๆที่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ชีวิตก็มีแค่ครั้งเดียว ใครมันจะไปกล้าเสี่ยงกัน? "เฮ้อ...มีแต่ภารกิจยากๆเลย..."หนิงอันเอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ หนิงอันเองก็ออกมาพร้อมกับหลี่ถงถง และก็ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเริ่มจะใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว "เอาภารกิจนี้ดีรึไม่?"หลี่ถงถงชี้ไปที่ป้ายภารกิจหนึ่ง หนิงอันหันไปอ่านทันที "เก็บดอกเบญจมาศทองหรือ? แต่มันอันตรายนะถงถง ที่นั่นมีสัตว์อสูรที่มีพลังแข็งแกร่งเยอะมาก" หลี่ถงถงคิดตาม ลำพังแค่ข้าตัวคนเดียวมันก็ทำได้สะดวกอยู่หรอกนะ แต่ว่าหนิงอันนางคงจะอยากไปด้วยแน่ๆ..."เอาเช่นนี้ เรามาหาสมาชิกเพิ่มดีหรือไม่? สักสองสามคน รวมกลุ่มกันไว้ก็ได้ม

  • นางร้ายคนนี้ขอเป็นตัวประกอบ   บทที่สี่ จับคู่

    "ศิษย์ขอคาราวะท่านอาจารย์!!!"ทุกคนในห้องลุกขึ้นยืนทำความเคารพอาจารย์ประจำห้องนี้ที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน "นั่งลงเถอะ"อาจารย์หนุ่มเดินเข้าไปนั่งลงที่โต๊ะหน้าห้องเรียนด้วยท่าทีสงบ เมื่อทุกคนเห็นว่าท่านนั่งลงแล้ว ทุกคนก็นั่งลงกลับเข้าที่ของตนเอง ท่านอาจารย์กวาดสายตามองสำรวจศิษย์ทุกคนอย่างละเอียดก่อนจะหันหน้ากลับมาและเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมแต่แผ่ซ่านไปด้วยความอบอุ่นชวนให้อุ่นใจ "ข้ามีนามว่าลู่หมิง หนึ่งปีต่อจากนี้พวกเจ้าจะได้อยู่ฝึกกับข้า หากมีสิ่งใดให้ช่วยเหลือก็สามารถมาบอกกับข้าได้เสมอ" เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าใจแล้วลู่หมิงก็ยกยิ้มออกมา เด็กที่นี่ทุกคนล้วนมีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ จึงเป็นการง่ายที่จะสามารถกล่าวออกไปตรงๆตามวิถีนักรบได้ "ดีล่ะ! วินาทีนี้พวกเจ้าทุกคนจะต้องตั้งใจฝึกบ่มเพาะพลังให้มากขึ้น ทุกปี สำนักจะคัดสรรเลือกผู้มีพรสวรรค์ห้าคนของแต่ละสาขาเข้าไปอยู่ในเขตภายในชั้นต้นของนิกาย""โดยเขตภายในชั้นต้นนั้นจะมีทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังสูงกว่าเขตภายนอกหลายเท่าตัว""จำเอาไว้ หากอยากแข็งแกร่งขึ้นพวกเจ้าจะต้องหมั่นฝึกฝนเพื่อจะได้เป็นหนึ่งในผู้คัดเลือกให้ได้ และถึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status