“อีตาบ้า!! นายมันชอบทำให้ฉันอาย”มือเล็กยกขึ้นทุบอกแกร่งชายหนุ่มรัว ๆ เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง “อายอะไร คนเป็นแฟนกันแสดงความรัก มันน่าอายตรงไหนนิว อีกอย่างฉันก็อยากทำแบบนี้กับเธอมาตั้งนานแล้ว ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่แต่ในคอนโด มันน่าตื่นเต้นดีออกนะ เธอว่าไหม” “ตื่นเต้นกับผีนะสิ นู่นนายเห็นไหม พ่อกับแม่ฉันก็ออกมายืนมองอยู่ด้วย อีกอย่างพวกท่านก็ยังไม่รู้เลยว่าฉันมีแฟน” ออสตินมองไปด้านหลังของนินิว เห็นพ่อกับแม่ของเธอยืนอยู่ตรงหน้าบ้านจริงและกำลังมองมาทางนี้พอดี เขาเลยรีบยกมือไหว้ท่านทั้งสองคนเพื่อฝากตัวเป็นลูกเขยทันที “ไม่เข้ามาคุยกันในบ้านล่ะนิว” เป็นนิสาที่เดินเข้ามาถาม เพราะไม่อยากให้ลูกสาวยืนพูดคุยกับผู้ชายตรงหน้าบ้าน ถึงยังไงนินิวก็เป็นดารามีคนรู้จักหน้าตาไม่น้อย "แล้วพ่อหนุ่มคนนี้เป็นใครล่ะ" ประโยคนี้เธอหันมาถามชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี ที่ยืนยิ้มแป้นมองเธออยู่ การแต่งตัวและรถที่ขับบ่งบอกถึงฐานะทางบ้านที่ไม่ธรรมดา "ผมเป็นแฟนนิวครับ" "ตายแล้ว!! จริงเหรอนิว" นิสายกมือขึ้นทาบอก ด้วยไม่อยากเชื่อว่าลูกสาวของเธอจะเปิดใจยอมรับผู้ชายคนไหนเป็นแฟน โดยเฉพาะผู้ชายที่หน้าตาแล
นินิวขับรถมาถึงบ้านพ่อกับแม่ตอนสิบโมงเช้า ก่อนที่จะมาเธอได้โทรมาบอกแม่เอาไว้แล้ว เมื่อมาถึงท่านเลยทำอาหารไว้รอเธอหลายอย่าง วันนี้โชคดีหน่อยที่น้องสาวของเธอก็อยู่ที่บ้านด้วย เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว “โอ้โห อาหารเยอะขนาดนี้จะกินหมดเหรอจ๊ะ” อาหารน่าตาหน้ากินหลายอย่างวางเรียงรายบนโต๊ะอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมนูที่เธอชอบทานทั้งสิ้น เห็นทีวันนี้เธอคงต้องพับเก็บการไดเอ็ทลงกล่องไปก่อน ขอเกเรทานอาหารตามใจปากสักวัน “แม่ไม่รู้ว่านิวอยากกินอะไร เลยทำทุกเมนูเลย กินเยอะ ๆ นะ พักนี้นิวดูผอมไปหน่อยนะลูก” นิสาคนเป็นแม่ยิ้มกริ่ม ดีใจที่ลูกสาวคนโตกลับบ้าน แต่ก็ไม่วายบ่นเรื่องที่ลูกสาวชอบอดข้าวลดน้ำหนัก ปกติถ้ามีเวลาเธอก็จะชวนคนเป็นสามีไปหาลูกสาวที่คอนโดอยู่บ่อย ๆ แต่ช่วงนี้รู้ว่าลูกถ่ายละครทุกวัน กลัวว่าจะไปกวนเวลาพักผ่อนของลูก เลยตัดสินใจไม่ไปหา “จริงพี่นิว วันนี้รินเป็นลูกมือของแม่เองเลยนะ อันไหนอร่อยแม่ทำ อันไหนไม่อร่อยรินทำ ฮ่า! ฮ่า!” นิรินน้องสาวของเธอพูดออกมาเชิงหยอกล้อ โดยนินิวได้หันไปมองด้วยความเอ็นดู คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ตัดสินใจกลับบ้านวันนี้ เพราะหากไม่ใช่วันหยุดยาว เธอก็จะไม่ได้เห็นหน้านิ
"พรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้านนะ" นินิวเอ่ยบอกออสตินขณะที่กำลังนอนกอดก่ายกันบนที่นอน หลังจากเธอโดนเขารังแกในห้องน้ำไปหลายยก "เธอพักกองเหรอ?" "อืม สามวัน" "ฉันก็เหงานะสิ เธอไม่อยู่"กิจวัตรประจำวันของเขาตอนนี้คือทำงานที่บริษัท เลิกงานหรือมีเวลาว่างไปกองถ่าย ตอนเย็นก็มาขลุกอยู่คอนโดนินิว เป็นแบบนี้จนเขารู้สึกชินไปแล้ว พอรู้ว่าจะไม่ได้เจอหน้าเธอสามวัน ไม่ได้นอนกอดกันแบบนี้ ก็รู้สึกใจโหวง ๆ ทันที "งานนายก็มีให้ทำ อีกอย่างกองถ่ายไม่ได้หยุดเสียหน่อย คนอื่นยังมีคิวถ่าย" "ที่ฉันไปกองถ่ายทุกวัน ไม่ได้ไปเพราะเป็นสปอนเซอร์ ฉันไปเพราะอยากเห็นหน้าเธอ" "แหวะ!! หยุดพูดอะไรเลี่ยน ๆ สักทีเหอะ" "เลี่ยนตรงไหน เธอยังไม่ชินที่ฉันพูดแบบนี้อีกเหรอ ฉันเลี่ยนได้กว่านี้อีกนะ ถ้าเธออยากฟัง" เขาเอาหน้าไปซุกตรงอกอวบของเธอ"ถ้าทนคิดถึงไม่ไหว ขอไปหาได้หรือเปล่า" "นายกล้าไปเหรอ อีกอย่างบ้านฉันก็ไม่ได้สบายเหมือนที่นี่ด้วย เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ แถวชานเมืองเองนะ คงไม่เหมาะกับฐานะเศรษฐีรวยล้นฟ้าแบบนายหรอก" นินิวเอ่ยบอกเขาไปตรง ๆ ถึงเธอจะทำงานหาเงินได้มากแค่ไหน แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ต้องการบ้านหลังใหญ่โต เธอเสนอจะซื้อให้ท่า
“ไปกันใหญ่แล้วนิว” นินิวสะบัดแขนแกร่งของออสตินที่รีบลุกขึ้นเดินมาจับเธอ ตอนที่เธอกำลังจะเดินเข้าห้อง“ปล่อยติน ฉันจะไปอาบน้ำ” “แต่เธอกินข้าวไม่หมดเลยนะ” "ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าไม่อยากงี่เง่า แต่นายก็ยังทำให้ฉันเป็นแบบนี้" คนตัวสูงเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลังทันที เขาวางคางเกยไว้กับไหล่บางของเธอพลางพูดเสียงอ้อน "ขอโทษ ต่อไปฉันจะบอกเธอทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ฉันจะไม่โกหกเธออีก" ฟอด!! เขาฉวยโอกาสหอมแก้มป่องฟอดใหญ่ เธอเองก็ไม่ได้อิดออดอะไร เพราะไม่ได้โกรธเขาขนาดนั้น "ฉันจะให้โอกาสนายแก้ตัว แต่หากหลังจากนี้นายยังมีอะไรปิดบังอีก ฉันจะไม่ทนแล้วนะ" "ไม่มี หลังจากนี้ไม่มีอีกแล้ว ฉันขาดเธอไม่ได้ เธอก็รู้" นินิวอมยิ้มเหลือบตามองคนขี้อ้อน ที่กำลังคลอเคลียเธอไม่ห่าง "อาบน้ำด้วยกันไหม" "อาบน้ำอย่างเดียวนะ" คนตัวเล็กเอ่ยดักทางคนหื่นที่จ้องจะจับเธอกินตลอดเวลา เห็นสีหน้าเซ็ง ๆ ของเขาก็เดาได้ทันทีว่าเขาคิดไม่ซื่อกับเธอจริง ๆ อ่างน้ำอุ่นที่เต็มไปด้วยฟองสีขาวลอยละล่อง ส่งไอร้อนระเหยปกคลุมไปทั่วห้องน้ำหรูหรา แสงไฟสลัวสะท้อนกับผิวกระเบื้องเงางาม ออสตินเอนกายลงในอ่างน้ำขนาดใหญ่ ข้า
หลังจากถ่ายละครเสร็จ วันนี้เลิกกองถ่านค่อนข้างดึก ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว นินิวเลยบอกคนขับรถตู้ของพี่แจงที่มารับเธอให้แวะร้านข้าวต้มเจ้าประจำข้างทาง เพราะถ่ายละครลากยาวตลอดช่วงบ่าย ทำให้เธอรู้สึกหิวมากกว่าทุกวัน "เอาเหมือนเดิมนะคะเฮีย” เฮียเจ้าของร้านพยักหน้าเข้าใจ แต่ทว่ายังคงจ้องหน้าเธอไม่หยุด เหมือนมีอะไรอยากจะพูดกับเธอ “มีอะไรหรือเปล่าคะ เห็นเฮียมองหน้าหนูแปลก ๆ" เฮียเจ้าของร้านทำสีหน้าหนักใจ เพราะไม่รู้ว่าเรื่องนี้ควรถามออกไปหรือเปล่า แต่เพราะไม่อยากให้ลูกค้าประจำที่เขาเอ็นดูเหมือนลูกหลานอย่างนินิวต้องถูกอีกฝ่ายหลอกเลยตัดสินถามออกไป “ผู้ชายที่มากับเราครั้งก่อน เขาเป็นแฟนเราหรือเปล่า” “เฮียถามทำไมคะ มีอะไรบอกหนูได้เลยค่ะ หรือว่าเขามาค้างค่าอาหารเฮีย เดี๋ยวหนูจ่ายให้เองค่ะ”นินิวรีบหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสะพาย เพราะคิดว่าออสตินมาทานข้าวแล้วไม่มีเงินสดจ่ายเฮียเจ้าของร้าน “ไม่ใช่หนู วันก่อนเขามาทานข้าวที่นี่ดึกแล้ว น่าจะเกือบห้าทุ่ม เขามากับผู้หญิงท่าทางดูดี แต่นิสัยน่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่” นินิวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ“เป็นเพื่อนร่วมงานกันค่ะ” “อ๋อเห
“นี่พี่ได้ยินที่ฉันคุยกับพยาบาลเหรอ ไม่มีมารยาทเอาซะเลย” “ถึงฉันไม่แอบฟัง เธอพูดดังขนาดนั้น ใครเดินผ่านไปมาก็ได้ยินทั้งนั้นแหละ” อัญชันเม้มปากแน่น สายตาโฟกัสไปตรงสวนของโรงพยาบาล ที่ตอนนี้มีผู้ป่วยหลายคนกำลังนั่งรับลมยามเย็น เธอรู้สึกอายที่ขุนเขาต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ของเธอ “พี่ห้ามบอกนิวเด็ดขาด ไม่ว่าเรื่องที่แม่ฉันกำลังรักษาตัวอยู่ที่นี่หรือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ของฉัน ตอนนี้นิวเองมันก็เพิ่งได้กลับเข้าวงการมา ฉันไม่อยากเอาความทุกข์ของฉันไปใส่หัวมันอีก” “เธอคิดว่าเพื่อนเธอเห็นเรื่องของเธอเป็นความทุกข์ใจเหรอ เธอประเมินเพื่อนเธอต่ำไปหรือเปล่าอัญชัน” “เพราะฉันรู้ว่านิวมันคงไม่นิ่งเฉย มันต้องช่วยฉันแน่นอนถ้ารู้ ยิ่งเป็นแบบนั้น ฉันยิ่งไม่อยากให้เพื่อนรู้" ขุนเขาหันไปมองเสี้ยวหน้าของอัญชันตอนนี้ ทั้งน้ำเสียงและแววตาเธอดูเศร้าเหมือนคนทุกข์ใจอย่างหนัก แสดงว่าที่ผ่านมาทำเป็นเข้มแข็งเพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนแอของตัวเอง "แล้วเธอจะหาเงินจากที่ไหน" "ฉันยังไม่รู้เลยค่ะ ตอนนี้ก็ทำทุกทางแล้วเหมือนกัน แต่ดาราตัวประกอบอย่างฉัน นอกจากเล่นละคร งานอื่นก็ไม่มีเข้ามาหรอกค่ะ" "เท่าไหร่?"