Share

นางร้ายเหนื่อยแล้ว
นางร้ายเหนื่อยแล้ว
Penulis: ไฉ่เฉิน / หลานจิง / ราตรีฝนพรำ / เกนไลซี / ไนยาดา

บทที่ 1

บทที่ 1

‘ผู้ถูกเลือก’

.

.

“ท่านหญิงอย่าเจ้าค่ะ!”

“ท่านหญิงลงมาเถิดเจ้าค่ะ!”

เสียงของเหล่าสาวใช้ร้องตะโกนกันสุดเสียงพยายามจะขอร้องให้สตรีในอาภรณ์นอนสีขาวสะอาดก้าวลงมาจากราวระเบียงที่นางกำลังยืนอยู่ ถ้าเป็นชั้นหนึ่งคงไม่เท่าไหร่แต่ผู้เป็นท่านหญิงผู้นี้กลับยืนอยู่บนราวระเบียงชั้นสองอย่างน่าหวาดเสียว

“ฉันไม่ลง ฮึก… ฮือ… ฮือ ที่นี่ที่ไหน!”

“พ่อแม่จ๋าหนูอยากกลับบ้าน!”

สำเนียงและคำพูดของหญิงสาวนั้นแปลกประหลาดคล้ายว่าไม่ใช่ภาษาของยุคนี้ นั่นนับว่าถูกต้องเพราะแม้นว่าสตรีที่ยืนอยู่บนราวระเบียงชั้นสองจะเป็นท่านหญิงของจวนหลังนี้แต่ดวงวิญญาณกลับเป็นคนผู้อื่นที่ทะลุมิติเข้ามาสิงในร่างกายงดงามนี้

ปลายฟ้า หญิงสาวชาวไทยที่ปุ๊บปั๊บรับโชคทะลุมิติเข้ามาในนิยายแปลจีนเรื่องลิขิตปรารถนาบัญชาสวรรค์ที่เพิ่งอ่านไปก็งงเป็นไก่ตาแตก จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เธอยังหายใจที่โลกด้านนอกคือเข้านอนบนเตียงหนานุ่มสบายจากนั้นกลับลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกของนิยายเรื่องนี้เสียแล้ว

ตอนนี้เลยทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องห่มร้องไห้ออกมาแล้วคิดว่านี่คือความฝันเท่านั้นจะกระโดดลงจากระเบียงชั้นสองเพราะคิดว่าคนเราตกจากที่สูงในความฝันแล้วจะตื่นได้ แต่ก็ไม่กล้าเพราะมันสูงเกินไปหัวใจมันจะวายก่อนกระโดดเสียอีก

“พี่หญิงรองท่านอย่าทำเช่นนี้!”

เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมใครบางคนที่พุ่งเข้ามาหาปลายฟ้าจนเธอตกใจก้าวถอยหลังหนีแต่ลืมไปว่าตนเองอยู่บนระเบียงชั้นสองเลยพลาดท่าหงายหลังตกลงสู่พื้นเบื้องล่างทันทีท่ามกลางความตกใจของทุกคนจนเสียงกรี๊ดดังสนั่น

ปลายฟ้าหลับตาปี๋ได้แต่ภาวนาในใจว่าลืมตาอีกครั้งเธอคงตื่นจากความฝันบ้าบอคอแตกประสาทแดกแบบนี้แล้วจึงไม่ได้รู้สึกกลัวมากนักแม้นว่ารอบตัวจะเต็มไปด้วยเสียงกรี๊ดสนั่นอย่างกับคอนเสิร์ตนักร้องดังก็ตาม

แต่ยังไม่ทันที่ร่างกายอันงดงามและสูงส่งของท่านหญิงเย่จะถึงพื้นก็มีใครบางคนพุ่งตัวขึ้นมารับนางจากพื้นด้านล่าง วงแขนใหญ่โอบกอดร่างบอบบางเอาไว้แล้วกระชับให้แน่นขึ้นจนปลายฟ้าตกใจรีบลืมตามองจึงได้ประสานสายตากับบุรุษรูปงามผู้หนึ่งเข้าเต็มตา

‘ดวงตาเมล็ดซิ่งสีน้ำตาลเข้มของเขาสวยจัง’

‘เรือนผมสีดำขลับที่ปลิวไสวไปตามสายลมของเขามันช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก’

‘สุดท้ายคงอดจะชื่นชมปากเขาไม่ได้ ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อมันน่าจูบมาก ๆ’

กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ร่างกายของเธอถูกโยนลงบนพื้นถึงจะไม่ได้สูงนักแต่แรงกระแทกก็ทำให้เจ็บร้าวไปทั้งตัว ไอ้ผู้ชายบ้าตรงหน้ามันโยนเธอแบบไม่ไยดีเลย ทำอย่างกับเธอเป็นตัวเชื้อโรคที่ต้องรีบสะบัดทิ้งไปได้

“ถ้านายจะโยนฉันแบบนี้แล้วจะลำบากขึ้นไปช่วยทำไม ก็ปล่อยให้ร่วงลงมาตายเถอะ!”

คำพูดของนางทำให้เขาแปลกใจเพราะถ้อยคำแปลกยิ่งนัก “เมื่อครู่หัวเจ้าก็ไม่ได้กระแทกพื้นไยถึงพูดจาแปลกประหลาดนัก”

ปลายฟ้านึกขึ้นได้ว่าตัวเธออยู่ในนิยายจีนโบราณ ไอ้บางคำพูดในยุคปัจจุบันมันเลยดูเป็นคำไม่คุ้นหูของคนที่นี่ จะพูดเธอฉันไอเลิฟยูไม่ได้เด็ดขาด

“ขะ… ข้าหัวกระแทกนิดหน่อย แล้ว จะ… เจ้าทำข้า” เธอชี้นิ้วใส่หน้าเขาทันทีแสร้งทำเป็นจับหัวตนเองสีหน้าเจ็บปวดแสนสาหัสเหมือนหัวแตกต้องเย็บสักร้อยเข็ม

“ข้าช่วยเจ้าไว้แท้ ๆ ยังไม่รู้จักสำนึกบุญคุณสมแล้วที่เจ้าเป็นท่านหญิงเย่ผู้เหี้ยมโหด ลูกเล็กเด็กแดงเห็นยังร้องไห้จ้าละหวั่น”

“ฉันเนี่ยนะ!” ปลายฟ้าชี้นิ้วเข้าหาตนเองหน้าเหลอหลา

แต่เมื่อคิดไตร่ตรองดี ๆ ก็เหมือนจะพึ่งนึกได้ว่าเธอทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของ เย่ซูชาง คุณหนูรองสกุลเย่ที่ได้รับสถาปนายศศักดิ์จากองค์ฮ่องเต้ให้ขึ้นเป็นท่านหญิงเพียงคนเดียวในสกุล เลยทำให้ตัวละครนี้กลายเป็นนางร้ายโคตรโหดเหี้ยม เอาแต่ใจตนเอง และใช้เงินมือเติบสุรุ่ยสุร่ายไปวัน ๆ ตามประสาคุณหนูบ้านรวยที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด

“ท่านพี่ฉินพอเถิดเจ้าค่ะ” หญิงสาวหน้าตาแช่มช้อยนางหนึ่งเดินเข้ามา ใบหน้าคล้ายท่านหญิงเย่ไปแล้วถึงแปดส่วน

“เจินเอ๋อร์เจ้าอย่าเข้าข้างนางนัก นางเป็นพี่สาวเจ้าก็จริงแต่นางร้ายกาจผู้ใดก็รู้ เรื่องกระโดดจากระเบียงคงจะไม่พ้นเรื่องที่นางจะเรียกร้องความสนใจอีก”

ปลายฟ้าที่ได้ฟังก็ลมออกหูที่คนผู้นี้มาคิดว่าเธอจะกระโดดระเบียงเรียกร้องความสนใจ คนเรามันจะเอาชีวิตไปเสี่ยงขนาดนั้นเพื่อให้ผู้คนมาสนใจทำไมเกิดพลาดพลั้งแค่วินาทีเดียวก็อาจจะตายหรือพิกลพิการได้เลยเหมือนเมื่อครู่ที่เธอตกใจที่ เย่ซูเจิน น้องสาวของเย่ซูชางวิ่งพรวดพราดเข้ามาจนพลัดตกระเบียงถ้าไม่ได้ผู้ชายตรงหน้ามาช่วยคงหัวกระแทกพื้นตายคาที่ไปแล้ว

แต่ถ้าจะมาช่วยกันแล้วพูดจาเหยียดหยามกันทีหลังเช่นนี้จะมาช่วยทำไม ในเมื่อดูแล้วเหมือนว่าผู้ชายคนนี้จะมีอคติกับเย่ซูชางมากเขาดูเกลียดชังนางจนไม่อยากจะแตะเนื้อต้องตัวด้วยซ้ำไป แล้วทำไมถึงยังมาช่วยก็ควรปล่อยให้ตกลงมาตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยจะได้สาสมกับความเกลียดชังที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน

หน้าตาก็หล่อเหลาตรงสเปกของเธอเลย แต่ทำไมปากถึงได้เพาะพันธุ์หมาได้ดีขนาดนี้ก็ไม่รู้ เขาหล่อเกินต้านแต่ปากเขาเป็นตาย่านเกินไป

“ขอบคุณคุณชายหยวนที่ช่วยค่ะ แต่อยากบอกว่าฉันไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ฉันอยากกระโดดลงมาตายจริง ๆ แต่ก็ได้คุณชายหยวนสอดมือสอดขาเข้ามาช่วยเอาไว้ ก็ไม่ได้ร้องขอเลยนะคะ แต่ไม่เป็นไรเข้าใจว่าบางคนก็อยากโอ้อวดว่าตนเป็นคนดีต่อหน้าผู้อื่น เรื่องนี้ให้มันจบแค่นี้เถอะ ฉันไม่ได้มีเวลามากพอมายืนถกเถียงกับใคร ต้องไปหาวิธีตายรูปแบบใหม่ต่อ”

ว่าจบปลายฟ้าในร่างของเย่ซูชางก็สะบัดตัวจนผมปลิวเดินหนีออกไปทิ้งให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นยืนอึ้งพูดอะไรไม่ออกเพราะฝีปากของท่านหญิงเย่ช่างกระแทกหน้ายิ่งนัก แต่ที่ทำให้ทุกคนมึนงงคือสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้ ถ้อยคำที่แข็งกระด้าง ภาษาแปลก ๆ ที่ไม่คุ้นหู สิ่งเหล่านี้มันคืออะไรกัน ทำไมเหมือนมีอะไรผิดพลาดหรือก่อนหน้านี้ท่านหญิงเย่ซูชางจะคิดวิธีการฆ่าตัวตายจนหัวไปกระแทกพื้นที่ไหนมาหรือเปล่า สมอง สติสัมปชัญญะถึงได้ผิดเพี้ยนเลอะเลือนเหมือนคนผีเข้าแบบนี้

“ท่านพี่ฉิน ท่านอย่าถือสาพี่หญิงรองเลยเจ้าค่ะ ตั้งแต่นางฟื้นไข้ข้าก็รู้สึกว่านิสัยของนางเปลี่ยนไปมาก คอยแต่จะโวยวาย หรือบางทีก็ร้องไห้แล้วหาเรื่องจะฆ่าตัวตายตลอดเวลา ข้ากับคนรับใช้ต้องคอยตามเฝ้าตลอดเวลา”

“ลำบากเจ้าแล้วเจินเอ๋อร์”

“ไม่ลำบากหรอกเจ้าค่ะ นางเป็นพี่สาวของข้าเลี้ยงดูข้ามาย่อมต้องทดแทนบุญคุณ ให้ข้าทำมากกว่านี้ย่อมทำได้เพื่อนางเจ้าค่ะ”

“เจ้าเป็นน้องสาวของนาง แต่ประเสริฐมากกว่านางเสียอีก ไยนางไม่มีนิสัยดีงามเหมือนเจ้าบ้าง”

ปลายฟ้าที่ไม่ได้เดินไปไหนไกลเลยแต่มาหลบมุมแอบมองคนทั้งสองก็ได้แต่เบะปากจนแทบจะเบี้ยวแล้วเมื่อเห็นทั้งสองคนคุยกันอย่างสนิทสนม น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานเชียว ผู้ชายตรงหน้าของเธอถ้าเดาไม่ผิดจะต้องเป็น หยวนฉิน พระรองผู้อาภัพรักของนิยายเรื่องนี้แน่นอน เพราะตามที่อ่านมาจากนิยายพระรองผู้นี้มีความสนิทสนมกับท่านอาของเย่ซูชางจึงมาที่จวนนี้บ่อยครั้งและมักจะทะเลาะเบาะแว้งกับเย่ซูชางเป็นประจำด้วย

นางร้ายก็คือนางร้ายสินะ ถึงตอนนี้เธอจะมาอยู่ในร่างของเย่ซูชางแล้วแต่ก็ยังถูกตราหน้าว่าเป็นนางร้ายอยู่ดีเพราะตำแหน่งในนิยายเรื่องนี้มันเป็นเช่นนั้น สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าตัวเองทะลุมิติเข้ามาในนิยายเรื่องลิขิตปรารถนาบัญชาสวรรค์จริง ๆ และตอนนี้ก็กลายเป็นเย่ซูชางแล้วด้วย

แต่มันไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยหรือไง เธอเป็นผู้หญิงไทยที่ไม่ได้มีความรู้มากมายเกี่ยวกับจีนแผ่นดินใหญ่เลยไม่ได้รู้วัฒนธรรมประเพณีอะไรขนาดนั้น แค่อยากจะหานิยายแปลจีนสักเรื่องที่กำลังเป็นกระแสฮอตฮิตอยู่ตอนนี้มองไปทางไหนคนก็อ่านนิยายแปลจีนก็เลยไปหาหยิบยืมจากห้องสมุดมาลองอ่านบ้าง แต่ใครจะไปคาดคิดว่านิยายแปลจีนยุคเก่าก่อนหน้าปกเก่ากึกจนฝุ่นเกาะเล่มนั้นที่หยิบมาได้จากห้องสมุดเพื่อประชาชนจะดูดเธอเข้ามาในนี้จนได้สัมผัสกับคำว่าทะลุมิติจริง ๆ

ก็เคยได้ยินคำนี้อยู่หรอกนะตามพวกอนิเมะหรือมังงะญี่ปุ่นแนวฉันทะลุมิติไปต่างโลกเพื่อทำฟาร์ม เพื่อสร้างฮาเร็ม เพื่อเป็นจอมเวท เป็นนักสู้ บลา ๆ พวกนั้น แต่ไม่คิดเลยว่าตัวเธอเองจะได้ทะลุมิติเหมือนกันแต่ไม่ได้ไปปลูกผักสร้างฮาเร็มหรือเป็นจอมเวท ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นนางร้ายในนิยายที่มีชะตาชีวิตอาภัพต้องตายตอนจบไปซะอีก งั้นขอตายตอนนี้เลยได้ไหมเผื่อว่าจะกำลังฝันอยู่จะได้ตื่นกลับไปโลกความจริงสักที

แต่มันก็น่าแปลกเธอพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วสามครั้ง ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในร่างนี้ ครั้งแรกพยายามจะแทงที่หัวใจของตัวเองแต่มีดดันหักจนแทงไม่ได้ ครั้งที่สองพยายามแขวนคอตัวเองแต่เชือกดันขาดตกลงมากระแทกพื้นดังตุ๊บเป็นลูกขนุนตกจากต้นเลย พอครั้งที่สามก็ได้หยวนฉินมาช่วยเอาไว้อีก หรือไอ้พระเจ้าแห่งโลกนิยายนี้จะไม่อยากให้เธอตายแต่ให้อยู่ใช้เวรใช้กรรมในนิยายเรื่องนี้ต่อไป

“แล้วทำไมต้องเป็นฉันที่ถูกเลือกด้วย!”

เธอเผลอตะโกนออกไปจนเสียงดังลั่นพร้อมกางแขนเงยหน้ามองฟ้าเพื่อถามไถ่สวรรค์เบื้องบนจนลืมไปว่าตนเองไม่ได้อยู่ผู้เดียวเมื่อนึกได้เลยหันไปมองด้านข้างก็ปะทะเข้ากับสายตาสงสัยและประหลาดใจในเวลาเดียวกันจากน้องสาวและพ่อพระรองจนต้องรีบหุบแขนแล้วยกยิ้มแห้งทันที

“อากาศดีเนอะ น่าเต้นรำ” ว่าจบเธอก็แก้เขินด้วยการเต้นรำหมุนไปรอบ ๆ ด้วยท่วงท่าที่น่าจะเหมือนนกเพนกวินเดินด๊องแด๊งอะ

‘นางจิญจมาณวิกายังโดนธรณีสูบ ทำไมตอนนี้เธอถึงไม่โดนบ้าง สูบฉันให้หายไปจากตรงนี้ทีพระแม่ธรณีเจ้าขา!’

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 45

    บทที่ 20‘ตอนจบของนิยาย’..เย่ซูชางเปิดกล่องเครื่องประดับออกก่อนจะหยิบเอาปิ่นปักผมสีทองอร่ามออกมาทาบลงบนผมเพื่อดูว่าปิ่นอันไหนเหมาะสมกับตนเอง ของเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องประดับที่หยวนฉินซื้อให้นางซะเป็นส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อเองนักหรอก เวลาเขาเห็นเครื่องประดับสวย ๆ งาม ๆ ก็มักจะซื้อมาฝากนางเสมอ ยิ่งต

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 44

    บทที่ 20‘ตอนจบของนิยาย’..เย่ซูชางดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เจ้าแฝดที่ตอนนี้นอนหลับปุ๋ยไปแล้วเพราะวันทั้งวันเอาแต่วิ่งเล่นตกกลางคืนเลยอ่อนเพลียหลับง่ายเป็นธรรมดา นางหันตัวเดินออกมานอกห้องก่อนจะปิดประตูแผ่วเบาเพื่อไม่ให้รบกวนลูกทั้งสองสายตามองไปยังห้องตำราก็เห็นมีแสงสว่างอยู่ แปลว่าหยวนฉินยังไม่กลับเร

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 43

    บทที่ 19'พระกระโดดกำแพง'..“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”“เจ้าไม่รู้อะไร การมีฝูอ๋องอยู่ในเมืองหลวงคอยช่วยงานฮ่องเต้ นอกจากจะคอยค้านอำนาจฝ่ายองค์รัชทายาทแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนองค์รัชทายาทให้เอางานเอาการสนใจงานบ้านเมืองด้วย เพราะถ้าไม่สร้างผลงานไม่ทำให้ฮ่องเต้พอใจก็อาจจะถูกแย่งตำแหน่งองค์รัชทายาทไปก็ได้

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 42

    บทที่ 19'พระกระโดดกำแพง'..เสียงมีดหั่นลงบนเขียงดังก้องภายในโรงครัวที่มีควันลอยฟุ้งจากเตาถ่านที่ถูกจุดเอาไว้ บนเตามีหม้อที่กำลังตุ๋นเนื้อหมูสามชั้นให้นุ่มจนเข้าเนื้อ เย่ซูชางหันไปหยิบปลิงทะเลและหอยเป่าฮื้อมาหันเป็นชิ้นพอดีคำ“พี่หญิงรองทำสิ่งใดอยู่เจ้าคะ?” เย่ซูเจินเดินเข้ามาภายในครัวเมื่อได้กลิ่

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 41

    บทที่ 18'ฉีฉีชิงชิง'..“เจ้านี่ยังปากร้ายเสมอต้นเสมอปลาย”หยวนฉินโน้มลงไปจูบริมฝีปากเอิบอิ่มด้วยความมันเขี้ยวจนเย่ซูชางตกใจจะดันเขาออกแต่ก็ถูกมือใหญ่รวบแขนเอาไว้จนไร้ทางขัดขืนได้แต่จ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าถมึงทึง“เจ้าทำบ้าอะไร สติเพี้ยนไปแล้วหรือ ถึงกล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้”“เรื่องบัดสีอะไรกัน ข้า

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 40

    บทที่ 18'ฉีฉีชิงชิง'..ห้าปีต่อมาเมืองหนานตูเสียงเด็ก ๆ วิ่งกันเจื้อยแจ้วไปตามถนนของเมืองที่ครึกครื้นไปด้วยผู้คนมากมายที่แวะเวียนมาค้าขายตามประสาของเมืองท่าติดทะเลที่มีเรือขนส่งมากมายมาจอดเทียบท่า ผู้คนล้วนมีความสุขกับการใช้ชีวิตภายใต้เมืองที่เงียบสงบไร้เหตุร้ายเพราะทุกคนล้วนมีงานทำมีเงินใช้จึง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status