Share

บทที่ 7

บทที่ 5

‘ทำดีไม่มีใครเห็น’

.

.

เย่ซูชางต้องพยายามอย่างมากที่จะข่มอารมณ์ของตนเองเอาไว้เพราะถ้าไปหาเรื่องนางเอกอีกคงกลายเป็นเรื่องใหญ่โต มีหวังพระเอกที่นอนรักษาตัวจากการถูกโทษโบยได้ลุกมาเอาเรื่องนางแบบลืมเจ็บลืมตายเป็นแน่

“เจ้าควรจะดีใจที่ข้าไม่ไปยุ่งกับหมิงซัวอีก จะได้ไม่ต้องไปตบตีหรือทะเลาะเบาะแว้งกับเจ้า”

“ท่านพี่ฉินเป็นคนดีไม่ควรมัวหมองเพราะเจ้า”

“งั้นควรมัวหมองเพราะเจ้าหรือ จะเอาผู้ใดก็เลือกสักคนไม่ ใช่จับปลาสองมือ”

“ข้ารักท่านพี่หมิงซัว แต่ก็เป็นห่วงท่านพี่ฉินในฐานะพี่ชายเท่านั้น”

“เจ้าเรียกทั้งสองคนว่าพี่ แต่กับข้าไยไม่เคารพบ้าง ข้าก็อายุเท่าพวกเขาเป็นพี่ของเจ้าและยังเป็นท่านหญิงด้วย ว่ากันตามตรงเจ้าควรนั่งลงกับพื้นแล้วคุกเข่าคุยกับข้าถึงจะถูก กล้าดียังไงมายืนค้ำหัวข้าแบบนี้”

“อึก!”

แต่แทนที่แม่นางเอกจะกลัวดันผลักนางจนหลังกระแทกผนัง นี่ขนาดมีมือเดียวนะเนี่ยยังร้ายไม่ใช่น้อยถ้ามีสองมือสองแขนจะขนาดไหน ใครก็ว่านางชอบรังแกนางเอก แต่ไม่มีใครมาเห็นตอนนางเอกรังแกนางร้ายเลย

“คนอย่างเจ้าไม่สมควรได้รับความเคารพ ไม่ควรเป็นท่านหญิง ไม่ควรให้ใครกราบไหว้ยกยอทั้งนั้น เจ้ามันก็แค่หญิงชั่ว!”

สุดท้ายเย่ซูชางก็หมดความอดทนเพราะหลายครั้งแล้วที่แม่นางเอกคนดีมาด่านางว่าคนชั่ว นางผลักตัวถังซีเยว่ออกไปก่อนจะง้างมือตบเข้าที่ใบหน้าหวานอย่างแรงจนอีกฝ่ายเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้นจนนางเองก็ตกใจว่าใช้แรงไปเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ เลยจะรีบเข้าไปดูแต่กลายเป็นว่ายื้อยุดกันไปมาจนนางเผลอไปโดนแขนที่ยังหักอยู่ของอีกฝ่ายทำให้ถังซีเยว่ร้องเสียงหลง

“เจ้าทำอะไร!”

เสียงเข้มดังขึ้นยังไม่ทันที่เย่ซูชางจะได้หันไปมองก็เหมือนถูกแรงผลักจนล้มก้นจ้ำเบ้าเจ็บร้าวไปทั้งสะโพก แต่พอเงยหน้ามองกลับยิ่งเจ็บปวดลึกไปถึงหัวใจเมื่อเห็นว่าหยวนฉินกำลังประคองถังซีเยว่อยู่อย่างสนิทสนมถึงเนื้อถึงตัวกันน่าดู

“ทำไมเจ้ายังมาทำร้ายเสี่ยวเยว่อีก เจ้าต้องการอะไรกันแน่!”

‘ตอนอดทนไม่มีใครเห็นเลย พอตอนหมดความอดทนคนดันเห็นทั้งแผ่นดิน เจริญจริง ๆ’

“ทำไมไม่ถามนางบ้างว่าก่อนหน้าที่ข้าจะทำอะไรนางมันเกิดสิ่งใดขึ้น ลองถามสิว่านางมายั่วยุข้าก่อนหรือเปล่า”

“คนอย่างเจ้าดีแต่รังแกเสี่ยวเยว่ นางแขนหัก ร่างบอบบางจะไปทำอะไรเจ้าได้ อย่ามาโยนความผิดให้นาง”

“บอกให้ข้าทำดีเป็นร้อยเป็นพันครั้งเจ้าก็ไม่มีวันมองเห็นหรอกหยวนฉิน เพราะในสายตาของเจ้าเวลามองข้ามมันมีแต่ความอคติ ผู้คนว่าข้าชั่วร้าย เจ้าก็ว่าข้าชั่วร้าย ผู้คนว่าข้าเป็นปีศาจ เจ้าก็ว่าข้าเป็นปีศาจ แต่จะมีผู้ใดบ้างที่มองให้ลึกเข้ามาในหัวใจของข้าว่าข้ามีความรู้สึกเช่นไร แล้วสิ่งที่ข้าต้องพยายามอดทนมาตลอดมันหนักหนาเพียงใด”

นางลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบเอาหมวกผ้ามาสวมใส่ปิดบังใบหน้าเช่นเดิม ไม่ใช่เพราะอับอายแต่เพราะนางกำลังจะร้องไห้ต่างหากเลยอยากปิดบังน้ำตาไม่ให้ผู้ใดเห็นถึงความอ่อนแอ

“ขนาดพระโพธิสัตว์ยังมีพลาดพลั้งแล้วตัวข้าที่เป็นปุถุชนจะพลาดไม่ได้เลยหรือ อดีตข้าเคยชั่วร้าย แต่ยามนี้จะกลับตัวเป็นคนดีไม่ได้เลยหรือ?”

“ขะ… ข้า”

“เจ้าอย่าถามเลยว่าข้ามีเหตุผลอันใด อย่าถามเลยว่าข้าทำไปทำไม ตราบใดที่หัวใจของเจ้ายังมีอคติต่อข้า มีร้อยหมื่นเหตุผลดี ๆ เจ้าก็มองว่ามันเลวทั้งนั้นเพราะในสายตาและหัวใจของเจ้าตัดสินข้าเป็นคนชั่วไปแล้ว”

ว่าจบนางก็หันตัวเดินออกมาจากตรอกนั้นทันทีทิ้งให้พระรองอยู่กับนางเอกในใจของเขาไป นางร้ายแบบนางต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ยังถูกตราหน้าว่าร้ายกาจอยู่ดี นางอดทนพยายามไม่ทำร้ายนางเอกอยู่ตั้งนานยอมให้โดนเหยียดหยามด่าว่า ชั่ว ชั่ว ชั่ว อยู่นั่นแหละ ไม่มีใครเห็นเลย แต่พอนางหมดความอดทนดันมีคนมาเห็นสมแล้วที่เป็นนางร้าย

‘ทำเรื่องดีไม่มีใครเห็น ทำเรื่องชั่วคนเห็นทั้งแผ่นดิน’

“ประเสริฐ ประเสริฐจริง ๆ!”

นางตะโกนจนเสียงดังลั่นโดยลืมไปว่าตนเองอยู่กลางตลาดทำให้ชาวบ้านชาวช่องหันมามองเป็นตาเดียว ดีนะใส่หมวกผ้าอยู่ไม่อย่างงั้นอับอายขายขี้หน้า ตอนนี้ต้องรีบออกจากที่นี่ก่อนเลยเตรียมจะหันตัววิ่งหนีแต่ยังไม่ทันจะก้าวเดินไปไหนก็มีกลุ่มทหารวิ่งเข้ามาขวางทางพร้อมกับใครสักคนที่เหมือนจะเป็นขันทีแต่ก็ไม่ใช่หวังกงกงหรอกนะ สีชุดที่ใส่ก็ไม่เหมือนกันอาจจะมีตำแหน่งต่ำกว่าหวังกงกง แต่ก็ดูเป็นคนที่น่าเกรงขามไม่น้อยเลยทีเดียวแล้วนางต้องทำยังไงล่ะ

"คารวะท่านหญิงเย่ขอรับ"

นางพยักหน้ารับเล็กน้อยเพราะตำแหน่งท่านหญิงของนางคงไม่ต้องก้มหัวคำนับกลับหรอกมั้ง

"มีเรื่องอันใดหรือ ทำไมต้องพาทหารมาด้วย?"

"ฮองเฮาทรงมีรับสั่งให้ท่านหญิงเข้าเฝ้า จึงให้ข้ามารับท่านขอรับ"

'ที่แท้ก็ขันทีข้างกายฮองเฮาฉีนี่เอง แต่ตามนิยายเจ๊ฮองเฮาไม่ใช่คนดีอะไร แถมยังเกลียดเย่ซูชางด้วยเพราะไม่ชอบที่นางได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้มากกว่าองค์หญิงสี่บุตรสาวตน เรียกเข้าวังไปเชือดทิ้งหรือเปล่านะ แต่ถ้าไม่ยอมไปก็โดนอาญาอยู่ดี มันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมไปแต่โดยดี ทำไมเวลาแบบนี้ไม่เห็นมีใครโผล่มาช่วยนางบ้างเลย เกิดเป็นนางร้ายก็ลำบากแบบนี้สินะ'

"ถ้าเช่นนั้นเชิญกงกงนำทางไปเถิด"

"ขอรับ เชิญทางนี้ขอรับ" ขันทีวัยกลางคนผายมือเชื้อเชิญเย่ซูชางให้เดินไปทางรถม้าหรูหราโอ่อ่าที่จอดอยู่อย่างสุภาพ นางเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมตามไป

ถ้าตามนิยายมันก็มีช่วงเวลาที่ฮองเฮาเรียกเย่ซูชางไปพบแหละ แต่มันไม่น่าจะไวขนาดนี้เพราะถ้าตามนิยายเย่ซูชางจะต้องไปตบตีกับองค์หญิงสี่ก่อนเลยโดนฮองเฮาเรียกไปสำเร็จโทษ แต่นี่ยังไม่ได้ไปตบลูกเจ๊เขาเลยแต่ทำไมเจ๊ถึงได้เรียกพบไวขนาดนี้หรือเผลอไปเดินเหยียบเท้าลูกเจ๊เขาแบบไม่รู้ตัวกันนะ แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะตั้งแต่ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างนี้ก็ยังไม่เคยพบองค์หญิงสี่เลยนะ

'ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจงั้นเลิกคิดดีกว่า ทำใจให้สงบเผื่อตายจะได้ตายแบบสงบ'

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 45

    บทที่ 20‘ตอนจบของนิยาย’..เย่ซูชางเปิดกล่องเครื่องประดับออกก่อนจะหยิบเอาปิ่นปักผมสีทองอร่ามออกมาทาบลงบนผมเพื่อดูว่าปิ่นอันไหนเหมาะสมกับตนเอง ของเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องประดับที่หยวนฉินซื้อให้นางซะเป็นส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อเองนักหรอก เวลาเขาเห็นเครื่องประดับสวย ๆ งาม ๆ ก็มักจะซื้อมาฝากนางเสมอ ยิ่งต

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 44

    บทที่ 20‘ตอนจบของนิยาย’..เย่ซูชางดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เจ้าแฝดที่ตอนนี้นอนหลับปุ๋ยไปแล้วเพราะวันทั้งวันเอาแต่วิ่งเล่นตกกลางคืนเลยอ่อนเพลียหลับง่ายเป็นธรรมดา นางหันตัวเดินออกมานอกห้องก่อนจะปิดประตูแผ่วเบาเพื่อไม่ให้รบกวนลูกทั้งสองสายตามองไปยังห้องตำราก็เห็นมีแสงสว่างอยู่ แปลว่าหยวนฉินยังไม่กลับเร

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 43

    บทที่ 19'พระกระโดดกำแพง'..“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”“เจ้าไม่รู้อะไร การมีฝูอ๋องอยู่ในเมืองหลวงคอยช่วยงานฮ่องเต้ นอกจากจะคอยค้านอำนาจฝ่ายองค์รัชทายาทแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนองค์รัชทายาทให้เอางานเอาการสนใจงานบ้านเมืองด้วย เพราะถ้าไม่สร้างผลงานไม่ทำให้ฮ่องเต้พอใจก็อาจจะถูกแย่งตำแหน่งองค์รัชทายาทไปก็ได้

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 42

    บทที่ 19'พระกระโดดกำแพง'..เสียงมีดหั่นลงบนเขียงดังก้องภายในโรงครัวที่มีควันลอยฟุ้งจากเตาถ่านที่ถูกจุดเอาไว้ บนเตามีหม้อที่กำลังตุ๋นเนื้อหมูสามชั้นให้นุ่มจนเข้าเนื้อ เย่ซูชางหันไปหยิบปลิงทะเลและหอยเป่าฮื้อมาหันเป็นชิ้นพอดีคำ“พี่หญิงรองทำสิ่งใดอยู่เจ้าคะ?” เย่ซูเจินเดินเข้ามาภายในครัวเมื่อได้กลิ่

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 41

    บทที่ 18'ฉีฉีชิงชิง'..“เจ้านี่ยังปากร้ายเสมอต้นเสมอปลาย”หยวนฉินโน้มลงไปจูบริมฝีปากเอิบอิ่มด้วยความมันเขี้ยวจนเย่ซูชางตกใจจะดันเขาออกแต่ก็ถูกมือใหญ่รวบแขนเอาไว้จนไร้ทางขัดขืนได้แต่จ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าถมึงทึง“เจ้าทำบ้าอะไร สติเพี้ยนไปแล้วหรือ ถึงกล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้”“เรื่องบัดสีอะไรกัน ข้า

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 40

    บทที่ 18'ฉีฉีชิงชิง'..ห้าปีต่อมาเมืองหนานตูเสียงเด็ก ๆ วิ่งกันเจื้อยแจ้วไปตามถนนของเมืองที่ครึกครื้นไปด้วยผู้คนมากมายที่แวะเวียนมาค้าขายตามประสาของเมืองท่าติดทะเลที่มีเรือขนส่งมากมายมาจอดเทียบท่า ผู้คนล้วนมีความสุขกับการใช้ชีวิตภายใต้เมืองที่เงียบสงบไร้เหตุร้ายเพราะทุกคนล้วนมีงานทำมีเงินใช้จึง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status