บทที่ 5
‘ทำดีไม่มีใครเห็น’
.
.
เย่ซูชางต้องพยายามอย่างมากที่จะข่มอารมณ์ของตนเองเอาไว้เพราะถ้าไปหาเรื่องนางเอกอีกคงกลายเป็นเรื่องใหญ่โต มีหวังพระเอกที่นอนรักษาตัวจากการถูกโทษโบยได้ลุกมาเอาเรื่องนางแบบลืมเจ็บลืมตายเป็นแน่
“เจ้าควรจะดีใจที่ข้าไม่ไปยุ่งกับหมิงซัวอีก จะได้ไม่ต้องไปตบตีหรือทะเลาะเบาะแว้งกับเจ้า”
“ท่านพี่ฉินเป็นคนดีไม่ควรมัวหมองเพราะเจ้า”
“งั้นควรมัวหมองเพราะเจ้าหรือ จะเอาผู้ใดก็เลือกสักคนไม่ ใช่จับปลาสองมือ”
“ข้ารักท่านพี่หมิงซัว แต่ก็เป็นห่วงท่านพี่ฉินในฐานะพี่ชายเท่านั้น”
“เจ้าเรียกทั้งสองคนว่าพี่ แต่กับข้าไยไม่เคารพบ้าง ข้าก็อายุเท่าพวกเขาเป็นพี่ของเจ้าและยังเป็นท่านหญิงด้วย ว่ากันตามตรงเจ้าควรนั่งลงกับพื้นแล้วคุกเข่าคุยกับข้าถึงจะถูก กล้าดียังไงมายืนค้ำหัวข้าแบบนี้”
“อึก!”
แต่แทนที่แม่นางเอกจะกลัวดันผลักนางจนหลังกระแทกผนัง นี่ขนาดมีมือเดียวนะเนี่ยยังร้ายไม่ใช่น้อยถ้ามีสองมือสองแขนจะขนาดไหน ใครก็ว่านางชอบรังแกนางเอก แต่ไม่มีใครมาเห็นตอนนางเอกรังแกนางร้ายเลย
“คนอย่างเจ้าไม่สมควรได้รับความเคารพ ไม่ควรเป็นท่านหญิง ไม่ควรให้ใครกราบไหว้ยกยอทั้งนั้น เจ้ามันก็แค่หญิงชั่ว!”
สุดท้ายเย่ซูชางก็หมดความอดทนเพราะหลายครั้งแล้วที่แม่นางเอกคนดีมาด่านางว่าคนชั่ว นางผลักตัวถังซีเยว่ออกไปก่อนจะง้างมือตบเข้าที่ใบหน้าหวานอย่างแรงจนอีกฝ่ายเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้นจนนางเองก็ตกใจว่าใช้แรงไปเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ เลยจะรีบเข้าไปดูแต่กลายเป็นว่ายื้อยุดกันไปมาจนนางเผลอไปโดนแขนที่ยังหักอยู่ของอีกฝ่ายทำให้ถังซีเยว่ร้องเสียงหลง
“เจ้าทำอะไร!”
เสียงเข้มดังขึ้นยังไม่ทันที่เย่ซูชางจะได้หันไปมองก็เหมือนถูกแรงผลักจนล้มก้นจ้ำเบ้าเจ็บร้าวไปทั้งสะโพก แต่พอเงยหน้ามองกลับยิ่งเจ็บปวดลึกไปถึงหัวใจเมื่อเห็นว่าหยวนฉินกำลังประคองถังซีเยว่อยู่อย่างสนิทสนมถึงเนื้อถึงตัวกันน่าดู
“ทำไมเจ้ายังมาทำร้ายเสี่ยวเยว่อีก เจ้าต้องการอะไรกันแน่!”
‘ตอนอดทนไม่มีใครเห็นเลย พอตอนหมดความอดทนคนดันเห็นทั้งแผ่นดิน เจริญจริง ๆ’
“ทำไมไม่ถามนางบ้างว่าก่อนหน้าที่ข้าจะทำอะไรนางมันเกิดสิ่งใดขึ้น ลองถามสิว่านางมายั่วยุข้าก่อนหรือเปล่า”
“คนอย่างเจ้าดีแต่รังแกเสี่ยวเยว่ นางแขนหัก ร่างบอบบางจะไปทำอะไรเจ้าได้ อย่ามาโยนความผิดให้นาง”
“บอกให้ข้าทำดีเป็นร้อยเป็นพันครั้งเจ้าก็ไม่มีวันมองเห็นหรอกหยวนฉิน เพราะในสายตาของเจ้าเวลามองข้ามมันมีแต่ความอคติ ผู้คนว่าข้าชั่วร้าย เจ้าก็ว่าข้าชั่วร้าย ผู้คนว่าข้าเป็นปีศาจ เจ้าก็ว่าข้าเป็นปีศาจ แต่จะมีผู้ใดบ้างที่มองให้ลึกเข้ามาในหัวใจของข้าว่าข้ามีความรู้สึกเช่นไร แล้วสิ่งที่ข้าต้องพยายามอดทนมาตลอดมันหนักหนาเพียงใด”
นางลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบเอาหมวกผ้ามาสวมใส่ปิดบังใบหน้าเช่นเดิม ไม่ใช่เพราะอับอายแต่เพราะนางกำลังจะร้องไห้ต่างหากเลยอยากปิดบังน้ำตาไม่ให้ผู้ใดเห็นถึงความอ่อนแอ
“ขนาดพระโพธิสัตว์ยังมีพลาดพลั้งแล้วตัวข้าที่เป็นปุถุชนจะพลาดไม่ได้เลยหรือ อดีตข้าเคยชั่วร้าย แต่ยามนี้จะกลับตัวเป็นคนดีไม่ได้เลยหรือ?”
“ขะ… ข้า”
“เจ้าอย่าถามเลยว่าข้ามีเหตุผลอันใด อย่าถามเลยว่าข้าทำไปทำไม ตราบใดที่หัวใจของเจ้ายังมีอคติต่อข้า มีร้อยหมื่นเหตุผลดี ๆ เจ้าก็มองว่ามันเลวทั้งนั้นเพราะในสายตาและหัวใจของเจ้าตัดสินข้าเป็นคนชั่วไปแล้ว”
ว่าจบนางก็หันตัวเดินออกมาจากตรอกนั้นทันทีทิ้งให้พระรองอยู่กับนางเอกในใจของเขาไป นางร้ายแบบนางต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ยังถูกตราหน้าว่าร้ายกาจอยู่ดี นางอดทนพยายามไม่ทำร้ายนางเอกอยู่ตั้งนานยอมให้โดนเหยียดหยามด่าว่า ชั่ว ชั่ว ชั่ว อยู่นั่นแหละ ไม่มีใครเห็นเลย แต่พอนางหมดความอดทนดันมีคนมาเห็นสมแล้วที่เป็นนางร้าย
‘ทำเรื่องดีไม่มีใครเห็น ทำเรื่องชั่วคนเห็นทั้งแผ่นดิน’
“ประเสริฐ ประเสริฐจริง ๆ!”
นางตะโกนจนเสียงดังลั่นโดยลืมไปว่าตนเองอยู่กลางตลาดทำให้ชาวบ้านชาวช่องหันมามองเป็นตาเดียว ดีนะใส่หมวกผ้าอยู่ไม่อย่างงั้นอับอายขายขี้หน้า ตอนนี้ต้องรีบออกจากที่นี่ก่อนเลยเตรียมจะหันตัววิ่งหนีแต่ยังไม่ทันจะก้าวเดินไปไหนก็มีกลุ่มทหารวิ่งเข้ามาขวางทางพร้อมกับใครสักคนที่เหมือนจะเป็นขันทีแต่ก็ไม่ใช่หวังกงกงหรอกนะ สีชุดที่ใส่ก็ไม่เหมือนกันอาจจะมีตำแหน่งต่ำกว่าหวังกงกง แต่ก็ดูเป็นคนที่น่าเกรงขามไม่น้อยเลยทีเดียวแล้วนางต้องทำยังไงล่ะ
"คารวะท่านหญิงเย่ขอรับ"
นางพยักหน้ารับเล็กน้อยเพราะตำแหน่งท่านหญิงของนางคงไม่ต้องก้มหัวคำนับกลับหรอกมั้ง
"มีเรื่องอันใดหรือ ทำไมต้องพาทหารมาด้วย?"
"ฮองเฮาทรงมีรับสั่งให้ท่านหญิงเข้าเฝ้า จึงให้ข้ามารับท่านขอรับ"
'ที่แท้ก็ขันทีข้างกายฮองเฮาฉีนี่เอง แต่ตามนิยายเจ๊ฮองเฮาไม่ใช่คนดีอะไร แถมยังเกลียดเย่ซูชางด้วยเพราะไม่ชอบที่นางได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้มากกว่าองค์หญิงสี่บุตรสาวตน เรียกเข้าวังไปเชือดทิ้งหรือเปล่านะ แต่ถ้าไม่ยอมไปก็โดนอาญาอยู่ดี มันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมไปแต่โดยดี ทำไมเวลาแบบนี้ไม่เห็นมีใครโผล่มาช่วยนางบ้างเลย เกิดเป็นนางร้ายก็ลำบากแบบนี้สินะ'
"ถ้าเช่นนั้นเชิญกงกงนำทางไปเถิด"
"ขอรับ เชิญทางนี้ขอรับ" ขันทีวัยกลางคนผายมือเชื้อเชิญเย่ซูชางให้เดินไปทางรถม้าหรูหราโอ่อ่าที่จอดอยู่อย่างสุภาพ นางเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมตามไป
ถ้าตามนิยายมันก็มีช่วงเวลาที่ฮองเฮาเรียกเย่ซูชางไปพบแหละ แต่มันไม่น่าจะไวขนาดนี้เพราะถ้าตามนิยายเย่ซูชางจะต้องไปตบตีกับองค์หญิงสี่ก่อนเลยโดนฮองเฮาเรียกไปสำเร็จโทษ แต่นี่ยังไม่ได้ไปตบลูกเจ๊เขาเลยแต่ทำไมเจ๊ถึงได้เรียกพบไวขนาดนี้หรือเผลอไปเดินเหยียบเท้าลูกเจ๊เขาแบบไม่รู้ตัวกันนะ แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะตั้งแต่ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างนี้ก็ยังไม่เคยพบองค์หญิงสี่เลยนะ
'ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจงั้นเลิกคิดดีกว่า ทำใจให้สงบเผื่อตายจะได้ตายแบบสงบ'