“ข้าอยากขอ ให้ข้าลงทุนทำค้าขายหรือการงานสิ่งใดไปแล้ว ขอให้ผลกำไรกลับคืนมาสิบเท่าทุกครั้ง”
หม่าจิ้งหยวนขอพรข้อแรก เขาคิดมาล่วงหน้าแล้วว่าอยากร่ำรวย และสี่ปีนี้เขาจะทำให้ตัวเองร่ำรวยได้อย่างไรไปตลอดชีวิต เมื่อพรเสื่อมเขาก็จะร่ำรวยอยู่
“ได้สิ แต่ขอสิ่งแลกเปลี่ยนก่อนถึงจะให้พรได้”
หูหลินหลินโบกมือไปมาเตรียมร่ายเวทย์ นางซ่อนสีหน้าสมใจไว้ เมื่อกำลังได้เหยื่อคนแรก
“ข้าขอแลกพรข้อนี้ กับอายุขัยสิบปีของข้า”
แค่ตายเร็วหน่อยสักสิบปี คงไม่เป็นอะไร เขาเชื่อว่าเขาน่าจะอายุยืนถึงเจ็ดสิบปี
“ได้ ข้าจะให้พรข้อนี้กับเจ้า มานี่สิ มาใกล้ๆ ข้าจะขอเก็บพลังวิญญาณของเจ้าสิบปี” จิ้งจอกสาวกวักมือเรียก
หม่าจิ้งหยวนขยับลุกขึ้นยืน เขาสูดลมหายใจแรงๆ ขณะใช้มือแหวกม่านกั้นร่วมสิบชั้นนั้นแล้วเดินผ่านเข้าไปด้านใน ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นเรือนร่างอรชรของจิ้งจอกสาววัยกำดัด
สวรรค์ประทานพร ทำไมนมนางใหญ่เช่นนี้ !
สายตาเพ่งเป้าไปยังโนมเนื้อขนาดน้องส้มโออย่างตื่นตะลึง มองไกลๆ ก็ว่านางอวบอิ่มแต่พอเห็นชัดๆ มันอวบเกินอิ่มเสียแล้ว เสื้อผ้าที่นางนุ่งห่มแทบปกปิดเรือนกายขาวผุดผ่องราวกับไข่มุกเนื้อดีไม่มิด
หม่าจิ้งหยวนกลืนน้ำลายฝืดคอเมื่อเห็นตุ่มนูนเล็กบนปลายยอดเต่งตูมของนาง ยามนี้เจ้าของยืดตัวนั่งตัวตรง ก้อนกลมสองก้อนไหวกระเพื่อมไปตามแรงขยับ เมื่อนางจิ้งจอกสาวโบกมือของตัวเองวนไปมาในอากาศ ขณะหลับตาพริ้มท่องคาถาฮึมฮัมในคอฟังไม่ได้ศัพท์ มืออีกข้างถือขวดใบเล็กทรงกลมไว้
“เข้ามาใกล้ๆ ข้าสิ”
หูหลินหลินสั่งเสียงหวาน ดวงตาของนางพราวระยับน่าหลงใหล
หม่าจิ้งหยวนขยับเข้าไปหาอย่างว่าง่าย กลิ่นหอมๆ ราวกับกลิ่นของบุปผาสักอย่างหนึ่งโชยชายออกมาจากร่างงาม ทำให้คนได้กลิ่นเผลอสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ
“หลับตา อย่าลืมตาขึ้นมาจนกว่าข้าจะสั่ง”
นางบอกเขา ขณะเคลื่อนกายยั่วยวนใจชายเข้ามาใกล้อีกนิด
หม่าจิ้งหยวนหลับตาลง เขารู้สึกร้อนวาบที่โพรงจมูกหากลืมตาจ้องส้มโอสองลูกนี้ต่อ บางทีอาจมีเสียเลือดได้
“หม่าจิ้งหยวน ยินดีมอบพลังชีวิตสิบปีของเขาเพื่อแลกกับพรวิเศษ เขาจะได้รับพรนั้นสมดังใจเป็นเวลาสี่ปี”
หูหลินหลินส่งเสียงหวานประกาศก้อง ราวกับบอกกล่าวให้ใครสักคนรับรู้
คนขอพรซึ่งกำลังหลับตา ไม่อาจมองเห็นร่างโปร่งแสงของเซียนจิ้งจอก ซึ่งกำลังร่ายเวทย์โบกไม้เท้าวิเศษอยู่เหนือศีรษะของเขา ทันใดนั้นเองก็เกิดประกายแวบวาบของลำแสงสีรุ้งพุ่งลงมาที่กลางกระหม่อมของหม่าจิ้งหยวน เขาตัวร้อนวูบกระตุกเกร็งไปทั่วร่าง แต่อดทนฝืนไว้ไม่ยอมลืมตาขึ้นมองด้วยเกรงพิธีจะเสีย
เพียงครู่เดียวหม่าจิ้งหยวน ก็รู้สึกเย็นไปทั้งตัวราวกับแช่อยู่ในห้องเย็น เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว โดยไม่รู้ว่าพลังชีวิตของตัวเองถูกไม้เท้าวิเศษในมือของหูหลินหลินดูดออกมาจากกระหม่อม และนำมันไปใส่ไว้ในขวดแก้วกลมในมืออีกข้าง นางปิดฝามันไว้แล้วส่งมอบให้เซียนจิ้งจอก ก่อนที่ร่างโปร่งแสงนั้นจะเลือนหายไป
“ลืมตาได้แล้ว เจ้าได้รับพรนั้นแล้ว” เสียงหวานใสของนางจิ้งจอกสาว ปลุกเรียกคนที่หลับตาอยู่
หม่าจิ้งหยวนค่อยลืมตาขึ้น เขารู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว ราวกับมีเกล็ดหิมะเกาะอยู่ทั่วร่าง
“ข้าหนาว... เกิดอะไรขึ้นกับข้า” เขาถามเสียงสั่น ริมฝีปากสั่นกึกๆ กระทบกันไปมา
หูหลินหลินยิ้มกว้าง เข้าใจอาการของคนสูญเสียพลังชีวิต
“เจ้าแค่อ่อนแรงเพราะสูญเสียพลังวิญญาณ พรุ่งนี้อาการจะดีขึ้น ไม่เป็นไรหรอกอย่ากลัวไปเลย”
นางเดินไปหยิบขวดแก้วบรรจุน้ำสีอำพันมารินใส่แก้วส่งให้เขาดื่ม
“กินน้ำอัคคีนี่ ก็จะหายหนาว”
หม่าจิ้งหยวนรับมาดื่มอย่างไม่เกี่ยงงอน
“รสชาติเยี่ยมมาก เหมือนสุรานารีแดง ขออีกได้หรือไม่”
เขาบอกแล้วแย่งขวดน้ำมาเทจนเต็มแก้ม ยกขึ้นดื่มอักๆ จนเกลี้ยง โดยที่นางจิ้งจอกสาวร้องห้ามไม่ทัน
“ว๊าย อย่ากินเยอะ โอย เจ้ารู้หรือไม่ว่าน้ำอัคคีนั่น มันมีฤทธ์แรงมาก เจ้าจะร้อน จะทุรนทุราย ไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งคืน” หูหลินหลินแย่งขวดคืนมาได้รีบเอาไปวางไว้ห่างๆ
ไม่ทันขาดคำน้ำอัคคีก็ออกฤทธิ์ หม่าจิ้งหยวนร้อนวูบวาบไปทั้งตัวอาการหนาวสั่นเมื่อครู่เลือนหายไปกลายมาเป็นร้อนราวกับมีเพลิงสุมอยู่ข้างใน มันไม่ได้ร้อนแบบอากาศร้อน แต่มันร้อนวูบวาบอยู่ภายใน บางอย่างในกายลุกชันความรู้สึกอย่างหนึ่งตื่นโพลงขึ้นมา ชายหนุ่มจ้องมองจิ้งจอกสาวด้วยแววตาวาววาม
“อยู่เฉยๆ เดี๋ยวข้าหาวิธีแก้ไขก่อน”
หูหลินหลินขยับถอยห่างเมื่อรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย จิ้งจอกสาวรีบวิ่งไปเปิดลิ้นชักในโต๊ะเล็กข้างเตียง หยิบตำราจิ้งจอกออกมาอ่าน หาวิธีแก้ไขฤทธิ์น้ำอัคคี
“คนที่ดื่มน้ำอัคคีเข้าไปเกินขนาด จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต เห้อ ค่อยโล่งอกหน่อย”
นางถอนหายใจเมื่ออ่านถึงตอนนี้ แต่ใบหน้างามต้องเหยเก เมื่ออ่านเจออย่างอื่น
“แต่ฤทธิ์ของน้ำอัคคี จะทำให้ร้อนรุ่มไปทั้งกาย เกิดกำหนัดจนทนไม่ไหว ต้องการปลดปล่อยจนกว่าความร้อนในกายจะทุเลาลง หากไม่ได้ปลดปล่อยจะคลุ้มคลั่งอาละวาด บางทีอาจจะถึงขั้นทำร้ายผู้อื่นได้ ตายแล้วอันตราย”
นางจิ้งจอกสาวหันไปมองคนต้องฤทธิ์น้ำอัคคี แต่จิ้งจอกสาวต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อหันไปเจอใบหน้าหล่อเหลาพอดี เขาเข้ามายืนข้างหลังนางตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดแผ่วหลังใบหูขาวสะอาด ใบหน้าของเขาแดงก่ำทีเดียว
“ถอยออกไปก่อน เดี๋ยวข้าจะหาวิธีแก้ให้”
นางผลักร่างของเขาออกห่าง รีบกวาดตาอ่านวิธีแก้ไข ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อวิธีแก้ไขคือ
“วิธีทำให้ผู้ที่ดื่มน้ำอัคคีสงบลง คือ หากเป็นชายให้หาสตรีให้เขาร่วมรักด้วย หากเป็นหญิงให้หาชายหนุ่มให้เขาร่วมรักกับนาง เมื่อบรรลุจุดสุดยอดจึงจะหาย ตายแล้ว อ๊ะ เจ้าทำอะไรน่ะ”
หูหลินหลินหันขวับไปมองหน้าคนที่กำลังลูบไล้เนื้อตัวนางอยู่ จิ้งจอกสาวหวีดร้องเมื่อร่างอรชรของนาง ถูกเขาช้อนอุ้มจนตัวลอยจากพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว บุรุษผู้ตกอยู่ในฤทธิ์น้ำอัคคีไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาร้อนไปทั้งตัวความปรารถนาครอบงำความคิด บวกกับพึงพอใจร่างงามของจิ้งจอกสาวอยู่ก่อนหน้า จึงไม่รั้งจิตใจตัวเองให้ทนต่อได้
เขาวางนางลงบนเตียง มือหนาของเขากระชากดึงทึ้งเสื้อผ้านางออก ผ้าโปร่งบางง่ายต่อการฉีกขาด เสียงดังแคว่ก แคว่ก ดังเจ้าโถงถ้ำ ดวงตาของเขาฉายแววหื่นกระหาย เมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของจิ้งจอกสาวเต็มตา แก่นกายปวดหนึบตั้งชัน เขาปลดเสื้อผ้าออกจากตัวแทบจะฉีกให้ขาดคามือด้วยความใจร้อน โหยหิวอยากกลืนกินร่างอวบอัดของสาวงามสะพรั่งตรงหน้า
“โม่ชาง ดูดแรงๆ ข้าชอบ”หว่านอิงร้องคราง แอ่นอกให้เขาดื่มกินอย่างลืมตัว“ท่านหวานเหลือเกิน”โม่ชางดูดดื่มทรวงอวบจนหนำใจก็คายริมฝีปากออก ขยับเลื่อนลงไปด้านล่าง ปาดลิ้นไล้เลียไปบนผิวนุ่มจนไปถึงบุปผาสาวที่กำลังฉ่ำเยิ้ม ปลายลิ้นร้อนตวัดไล้บนกลีบบุปผางามสีชมพูสวย กวาดน้ำหวานเข้าไปในปากดื่มกินอย่างหื่นกระหาย จนเจ้าของกุหลาบถึงกับครางฮือ ยกสะโพกลอยจากพื้นให้เขาดื่มกินเต็มที่ จิ้งจอกหนุ่มห่อปลายลิ้นจุ่มจ้วงเข้าไปค้นหาน้ำผึ้งหวาน ละเลงลิ้นจนจิ้งจอกสาวบิดกายไปมาด้วยความซ่านสยิว“อ๊ะ โม่ชาง เจ้าหื่นมากไปแล้วนะ ไหนว่าไม่เคยเสพสมมาก่อน ทำไมถึงเก่งแบบนี้”หว่านอิงสูดปากครางครวญด้วยความเสียว ยามเมื่อปลายลิ้นร้อนๆ แหย่แยงเข้ามาภายใน มันทั้งเสียวทั้งขนลุกเกรียวไปทั้งตัว จนนางต้องแอ่นกายกดศีรษะเขาให้เข้ามาแนบชิดมากขึ้น“โม่ชาง ข้าทนไมไหวแล้ว ซี๊ดดด”ดวงตาหรี่ปรือ กัดริมฝีปากแน่น เสียงหวานครางครวญเร้ารัญจวน ท่าทางของนางเร่งเร้าให้เขาเร่าร้อนเพิ่มขึ้นจนปวดหนึบไปทั้งแท่งหยก“จิ้งจอกสาวของข้า เจ้าต้องการข้าหรือไม่”เขาถามเสียงกระเส่า ปลายจมูกถูไถบนปุ่มเกสรสาว ขณะตวัดปลายลิ้นละเลงรัวถี่ยิบ“ข้าต้องการเจ้า
“ข้าจะหันไป เมื่อท่านตั้งชื่อให้ข้าแล้วเท่านั้น” เขาไม่ยอมหันมา“เจ้าอย่ามาเล่นตัว โยกโย้ให้เสียเวลาเลย ข้าไม่มีอารมณ์เล่นสนุกนะ”หว่านอิงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา อีกฝ่ายยักท่าน่ารำคาญ ไม่สนใคร่รู้อยากจะเสพสมกับนางเหมือนจิ้งจอกหนุ่มน้อยคนอื่นๆ ที่นางเคยสั่งสอน“ข้าจะไม่ตั้งชื่อให้เจ้า และจะไม่เปิดพรหมจรรย์ให้เจ้าด้วย จงเปิดพรหมจรรย์กับหูเจียวเถอะ”หว่านอิงหมดอารมณ์จะต่อความ นางไม่ปรารถนาทำหน้าที่นี้อีกแล้ว ฝืนใจก็ทำไม่ได้ นางควรบอกเซียนจิ้งจอกตามตรงดีกว่าฝืนใจทำ แล้วจะเกิดผลกระทบต่อจิ้งจอกหนุ่มที่นางต้องเปิดพรหมจรรย์ แทนที่เขาจะชอบการเสพสมเขาอาจจะเกลียดการเสพสมไปเลย“ท่านหูเจียวเคยมาเปิดพรหมจรรย์ให้ข้า แต่ข้าไม่ปรารถนาให้นางเปิดพรหมจรรย์ให้ ข้าต้องการให้ท่านเป็นผู้เปิดพรหมจรรย์และสั่งสอนให้ข้าเรียนรู้การเสพสม ในฐานะจิ้งจอกหนุ่มแห่งหุบเขาหูเทียน”จิ้งจอกหนุ่มหันกลับมาแล้วส่งยิ้มให้จิ้งจอกสาว หว่านอิงนิ่งงันเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มตา บุรุษที่อยู่ตรงหน้าของนางทำไมถึงคล้ายกับโม่ชางราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงเหมือนโม่ชางของข้า”หว่านอิงถามเสียงสั่น หัวใจเต้นรัวด้วยควา
“ข้าเพิ่งรู้ว่า รสสวาทที่ไม่ได้มาจากความรัก มันไม่มีความหมายต่อข้า ข้าเสพสมกับบุรุษร้อยพันครั้ง ก็ไม่มีความสุขเท่ากับอยู่กับเจ้าเพียงคืนเดียว”หว่านอิงคร่ำครวญถึงความรักที่นางเพิ่งรู้จัก เมื่อก่อนนางคิดว่าการได้เสพสมกับบุรุษคนไหนล้วนไม่ต่างกัน มีความสุขเร่าร้อนในรสสวาทก็เพียงพอแล้ว แต่ความสุขสมจากรสรักที่มีความรักรวมอยู่ด้วย มีความอิ่มเอมสุขล้นทั้งร่างกายและหัวใจ“อีกนานแค่ไหน ที่ข้าจะหายจากความทรมานนี้ โม่ชางข้ารักเจ้า ข้าอยากให้เจ้ามาอยู่ข้างกายข้า”หว่านอิงร้องไห้ด้วยความทุกข์ทนจนหลับใหลไป โดยไม่รู้ว่าเซียนจิ้งจอกหนุ่มกับเซียนจิ้งจอกสาวได้ปรากฎกายขึ้นข้างเตียงของนาง“หว่านอิงอาการหนักมาก นางทุกข์ทนจากการสูญเสียโม่ชาง จนนางไม่ต้องการอะไรอีกต่อไป”เซียนจิ้งจอกสาวรู้สึกสงสารและเห็นใจหว่านอิงมาก อีกฝ่ายเพิ่งรู้จักความรักเป็นครั้งแรก แต่ก็สูญเสียชายคนรักไปโดยไม่ทันได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข“ข้าเคยบอกว่าจะมอบสิ่งที่นางปรารถนาให้ หากนางรู้จักความรัก ตอนนี้ข้าคิดว่าหว่านอิงได้รู้จักความรักที่แท้จริงแล้ว”เซียนจิ้งจอกหนุ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย ทำให้เซียนจิ้งจอกสาวรู้สึกสงสัย ก่อนจะยิ้มออกเมื
เซียนจิ้งจอกสาวพาหว่านอิงกลับมายังปราสาทในหุบเขาหูเทียน จิ้งจอกสาวยังคงมีท่าทางอ่อนล้าใบหน้าหมองเศร้า“อย่าลืมว่าเจ้ายังทำหน้าที่ของเจ้าไม่เสร็จ จงนำอัญมณีทั้งห้าไปมอบให้เซียนจิ้งจอกหนุ่มเสียเถิดหว่านอิง”เซียนเตือนจิ้งจอกสาวให้รู้จักหน้าที่ของตนเอง หว่านอิงสูดลมหายใจแรงๆ เรียกกำลังใจให้คืนกลับมา แล้วเดินตามเซียนจิ้งจอกสาวไปเฝ้าเซียนจิ้งจอกหนุ่ม“เซียนจิ้งจอกข้านำอัญมณีทั้งห้า มามอบให้ท่านตามคำบัญชาแล้วเจ้าค่ะ”หว่านอิงถวายคฑาวิเศษให้เซียนจิ้งจอกเซียนรับคฑาพร้อมอัญมณีวิเศษมาเก็บไว้ ก่อนจะเอ่ยว่า“หว่านอิง เจ้าทำภารกิจสำเร็จตามที่ข้าบัญชา ดังนั้นข้าจะมอบวิเศษให้เจ้าหนึ่งข้อ และทำตามความปรารถนาของเจ้า” เซียนจิ้งจอกหนุ่มเดินมาแตะไหล่ของจิ้งจอกสาว ยิ้มให้นางอย่างใจดี “เจ้าเคยปรารถนาจะครองคู่กับจิ้งจอกหนุ่มหูอวี้ ข้าจึงมอบภารกิจให้เจ้าทำ แต่ตอนนี้จิ้งจอกหนุ่มหูอวี้ได้มีคู่ครองแล้ว เขากลับมาพร้อมกับผู้วิเศษสาวนามว่าเซี่ยหลิน ตามกฎของหุบเขาหูเทียน จิ้งจอกหนุ่มจิ้งจอกสาวสามารถครองคู่ได้แค่ครั้งเดียว ข้าคงทำตามความปรารถนานี้ของเจ้าไม่ได้แล้ว จงเลือกจิ้งจอกหนุ่มตนอื่นหรื
“หว่านอิง ขอเพียงเจ้าสมปรารถนา ข้ายินดีทำเพื่อเจ้า”โม่ชางเหาะตรงไปหาร่างของเว่ยเช่า เขารวบรวมพลังเวทย์สร้างเกราะแก้วกำบังความร้อน แล้วลอยพุ่งเข้าไปในปากของปีศาจร้าย ความร้อนจากลาวาภายในกายของปีศาจภูเขาไฟ กำลังค่อยๆ ทำลายเกราะทีละน้อย ลาวาเพลิงสีแดงร้อนจัดเกิดจากอำนาจของอัญมณีแห่งเพลิง สามารถทำลายล้างทุกสิ่งบนโลกนี้ได้ ถึงเขาจะมีร่างกายทำจากดินเหนียว เพลิงก็สามารถเผาผลาญทำลายจนสิ้นซากได้ โม่ชางเข้าไปในในร่างของเว่ยเช่าลึกลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงกลางร่างของมัน ตรงหัวใจของปีศาจร้ายมีอัญมณีสีแดงเกาะติดอยู่ นั่นคืออัญมณีแห่งเพลิงนั่นเอง“หว่านอิง ข้าเจออัญมณีแห่งเพลิงแล้ว”โม่ชางเหาะตรงไปแล้วใช้คฑาวิเศษดูดอัญมณีแห่งเพลิงเอาไว้ เมื่ออัญมณีหลุดออกจากหัวใจ ร่างกายของเว่ยเช่าก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ลาวาเพลิงระเบิดเป็นไฟแผดเผาร่างของมันจนกลายเป็นเถ้า และได้ทำลายร่างของโม่ชางไปด้วย เขาทนฝืนเก็บพลังชีวิตเฮือกสุดท้ายเหาะหนีออกมาหาจิ้งจอกสาว“หว่านอิง… ข้าทำสำเร็จแล้ว”โม่ชางหายเข้ามาในลูกบอลแก้วด้วยสภาพร่างกายมีรอยไหม้ทั้งตัว เขาร่ายเวทย์ปลดปล่อยจิ้งจอกสาวให้ขยับตัว ก่อนจะทรุดลงไปกองกับพื้น หว่านอ
“มันไม่สะเทือนเลย”หว่านอิงพยายามใช้พลังเวทย์ พุ่งเข้าใส่ปีศาจร้ายอีกครั้งแต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น“ร่างกายของมันเป็นภูเขาหิน พลังเวทย์ทำอะไรมันไม่ได้หรอกขอรับนายหญิง เราต้องหาวิธีอื่นทำลายมัน”โม่ชางมองเจ้าปีศาจภูเขาไฟอย่างครุ่นคิด ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก“นายหญิงลองใช้พลังจากอัญมณีแห่งโชคชะตา ดึงเอาเรื่องราวของมันออกมา บางทีเราอาจจะรู้จุดอ่อนของมันก็ได้”“ได้ ข้าจะลองดู ด้วยอำนาจของอัญมณีแห่งโชคชะตา จงบันดาลให้ข้าเห็นทุกสรรพสิ่งในชีวิตของเจ้าปีศาจภูเขาไฟเว่ยเช่า บัดเดี๋ยวนี้”หว่านอิงยกคฑาขึ้นร่ายเวทย์ ช้พลังอำนาจจากอัญมณีแห่งโชคชะตา ลำแสงสีฟ้าจากไพลินก็พุ่งเข้าใส่ร่างของปีศาจภูเขาไฟ แล้วดูดดึงทุกเรื่องราวในชีวิตของมันให้รวมเป็นดวงแก้วสีฟ้าใส ลอยกลับมาหาจิ้งจอกสาว หว่านอิงแตะมือที่ดวงแก้วพลัน! ภาพต่างๆ ในอดีตของเว่ยเช่าก็ปรากฎขึ้นในหัวในอดีตเว่ยเช่าคือน้องชายฝาแฝดของเว่ยหยางผู้ครองดินแดนเตี้ยน เว่ยหยางได้รับอัญมณีแห่งเพลิงจากฮ่องเต้องค์เก่า และได้ครองบัลลังก์ดินแดนเตี้ยน โดยเว่ยเช่าได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพคอยปกป้องราชบัลลังก์ สองพี่น้องรักใคร่กันดี จนกระทั่งองค์หญิงผิงอันได้เข้ามา นาง