“ข้าอยากขอ ให้ข้าลงทุนทำค้าขายหรือการงานสิ่งใดไปแล้ว ขอให้ผลกำไรกลับคืนมาสิบเท่าทุกครั้ง”
หม่าจิ้งหยวนขอพรข้อแรก เขาคิดมาล่วงหน้าแล้วว่าอยากร่ำรวย และสี่ปีนี้เขาจะทำให้ตัวเองร่ำรวยได้อย่างไรไปตลอดชีวิต เมื่อพรเสื่อมเขาก็จะร่ำรวยอยู่
“ได้สิ แต่ขอสิ่งแลกเปลี่ยนก่อนถึงจะให้พรได้”
หูหลินหลินโบกมือไปมาเตรียมร่ายเวทย์ นางซ่อนสีหน้าสมใจไว้ เมื่อกำลังได้เหยื่อคนแรก
“ข้าขอแลกพรข้อนี้ กับอายุขัยสิบปีของข้า”
แค่ตายเร็วหน่อยสักสิบปี คงไม่เป็นอะไร เขาเชื่อว่าเขาน่าจะอายุยืนถึงเจ็ดสิบปี
“ได้ ข้าจะให้พรข้อนี้กับเจ้า มานี่สิ มาใกล้ๆ ข้าจะขอเก็บพลังวิญญาณของเจ้าสิบปี” จิ้งจอกสาวกวักมือเรียก
หม่าจิ้งหยวนขยับลุกขึ้นยืน เขาสูดลมหายใจแรงๆ ขณะใช้มือแหวกม่านกั้นร่วมสิบชั้นนั้นแล้วเดินผ่านเข้าไปด้านใน ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นเรือนร่างอรชรของจิ้งจอกสาววัยกำดัด
สวรรค์ประทานพร ทำไมนมนางใหญ่เช่นนี้ !
สายตาเพ่งเป้าไปยังโนมเนื้อขนาดน้องส้มโออย่างตื่นตะลึง มองไกลๆ ก็ว่านางอวบอิ่มแต่พอเห็นชัดๆ มันอวบเกินอิ่มเสียแล้ว เสื้อผ้าที่นางนุ่งห่มแทบปกปิดเรือนกายขาวผุดผ่องราวกับไข่มุกเนื้อดีไม่มิด
หม่าจิ้งหยวนกลืนน้ำลายฝืดคอเมื่อเห็นตุ่มนูนเล็กบนปลายยอดเต่งตูมของนาง ยามนี้เจ้าของยืดตัวนั่งตัวตรง ก้อนกลมสองก้อนไหวกระเพื่อมไปตามแรงขยับ เมื่อนางจิ้งจอกสาวโบกมือของตัวเองวนไปมาในอากาศ ขณะหลับตาพริ้มท่องคาถาฮึมฮัมในคอฟังไม่ได้ศัพท์ มืออีกข้างถือขวดใบเล็กทรงกลมไว้
“เข้ามาใกล้ๆ ข้าสิ”
หูหลินหลินสั่งเสียงหวาน ดวงตาของนางพราวระยับน่าหลงใหล
หม่าจิ้งหยวนขยับเข้าไปหาอย่างว่าง่าย กลิ่นหอมๆ ราวกับกลิ่นของบุปผาสักอย่างหนึ่งโชยชายออกมาจากร่างงาม ทำให้คนได้กลิ่นเผลอสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ
“หลับตา อย่าลืมตาขึ้นมาจนกว่าข้าจะสั่ง”
นางบอกเขา ขณะเคลื่อนกายยั่วยวนใจชายเข้ามาใกล้อีกนิด
หม่าจิ้งหยวนหลับตาลง เขารู้สึกร้อนวาบที่โพรงจมูกหากลืมตาจ้องส้มโอสองลูกนี้ต่อ บางทีอาจมีเสียเลือดได้
“หม่าจิ้งหยวน ยินดีมอบพลังชีวิตสิบปีของเขาเพื่อแลกกับพรวิเศษ เขาจะได้รับพรนั้นสมดังใจเป็นเวลาสี่ปี”
หูหลินหลินส่งเสียงหวานประกาศก้อง ราวกับบอกกล่าวให้ใครสักคนรับรู้
คนขอพรซึ่งกำลังหลับตา ไม่อาจมองเห็นร่างโปร่งแสงของเซียนจิ้งจอก ซึ่งกำลังร่ายเวทย์โบกไม้เท้าวิเศษอยู่เหนือศีรษะของเขา ทันใดนั้นเองก็เกิดประกายแวบวาบของลำแสงสีรุ้งพุ่งลงมาที่กลางกระหม่อมของหม่าจิ้งหยวน เขาตัวร้อนวูบกระตุกเกร็งไปทั่วร่าง แต่อดทนฝืนไว้ไม่ยอมลืมตาขึ้นมองด้วยเกรงพิธีจะเสีย
เพียงครู่เดียวหม่าจิ้งหยวน ก็รู้สึกเย็นไปทั้งตัวราวกับแช่อยู่ในห้องเย็น เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว โดยไม่รู้ว่าพลังชีวิตของตัวเองถูกไม้เท้าวิเศษในมือของหูหลินหลินดูดออกมาจากกระหม่อม และนำมันไปใส่ไว้ในขวดแก้วกลมในมืออีกข้าง นางปิดฝามันไว้แล้วส่งมอบให้เซียนจิ้งจอก ก่อนที่ร่างโปร่งแสงนั้นจะเลือนหายไป
“ลืมตาได้แล้ว เจ้าได้รับพรนั้นแล้ว” เสียงหวานใสของนางจิ้งจอกสาว ปลุกเรียกคนที่หลับตาอยู่
หม่าจิ้งหยวนค่อยลืมตาขึ้น เขารู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว ราวกับมีเกล็ดหิมะเกาะอยู่ทั่วร่าง
“ข้าหนาว... เกิดอะไรขึ้นกับข้า” เขาถามเสียงสั่น ริมฝีปากสั่นกึกๆ กระทบกันไปมา
หูหลินหลินยิ้มกว้าง เข้าใจอาการของคนสูญเสียพลังชีวิต
“เจ้าแค่อ่อนแรงเพราะสูญเสียพลังวิญญาณ พรุ่งนี้อาการจะดีขึ้น ไม่เป็นไรหรอกอย่ากลัวไปเลย”
นางเดินไปหยิบขวดแก้วบรรจุน้ำสีอำพันมารินใส่แก้วส่งให้เขาดื่ม
“กินน้ำอัคคีนี่ ก็จะหายหนาว”
หม่าจิ้งหยวนรับมาดื่มอย่างไม่เกี่ยงงอน
“รสชาติเยี่ยมมาก เหมือนสุรานารีแดง ขออีกได้หรือไม่”
เขาบอกแล้วแย่งขวดน้ำมาเทจนเต็มแก้ม ยกขึ้นดื่มอักๆ จนเกลี้ยง โดยที่นางจิ้งจอกสาวร้องห้ามไม่ทัน
“ว๊าย อย่ากินเยอะ โอย เจ้ารู้หรือไม่ว่าน้ำอัคคีนั่น มันมีฤทธ์แรงมาก เจ้าจะร้อน จะทุรนทุราย ไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งคืน” หูหลินหลินแย่งขวดคืนมาได้รีบเอาไปวางไว้ห่างๆ
ไม่ทันขาดคำน้ำอัคคีก็ออกฤทธิ์ หม่าจิ้งหยวนร้อนวูบวาบไปทั้งตัวอาการหนาวสั่นเมื่อครู่เลือนหายไปกลายมาเป็นร้อนราวกับมีเพลิงสุมอยู่ข้างใน มันไม่ได้ร้อนแบบอากาศร้อน แต่มันร้อนวูบวาบอยู่ภายใน บางอย่างในกายลุกชันความรู้สึกอย่างหนึ่งตื่นโพลงขึ้นมา ชายหนุ่มจ้องมองจิ้งจอกสาวด้วยแววตาวาววาม
“อยู่เฉยๆ เดี๋ยวข้าหาวิธีแก้ไขก่อน”
หูหลินหลินขยับถอยห่างเมื่อรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย จิ้งจอกสาวรีบวิ่งไปเปิดลิ้นชักในโต๊ะเล็กข้างเตียง หยิบตำราจิ้งจอกออกมาอ่าน หาวิธีแก้ไขฤทธิ์น้ำอัคคี
“คนที่ดื่มน้ำอัคคีเข้าไปเกินขนาด จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต เห้อ ค่อยโล่งอกหน่อย”
นางถอนหายใจเมื่ออ่านถึงตอนนี้ แต่ใบหน้างามต้องเหยเก เมื่ออ่านเจออย่างอื่น
“แต่ฤทธิ์ของน้ำอัคคี จะทำให้ร้อนรุ่มไปทั้งกาย เกิดกำหนัดจนทนไม่ไหว ต้องการปลดปล่อยจนกว่าความร้อนในกายจะทุเลาลง หากไม่ได้ปลดปล่อยจะคลุ้มคลั่งอาละวาด บางทีอาจจะถึงขั้นทำร้ายผู้อื่นได้ ตายแล้วอันตราย”
นางจิ้งจอกสาวหันไปมองคนต้องฤทธิ์น้ำอัคคี แต่จิ้งจอกสาวต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อหันไปเจอใบหน้าหล่อเหลาพอดี เขาเข้ามายืนข้างหลังนางตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดแผ่วหลังใบหูขาวสะอาด ใบหน้าของเขาแดงก่ำทีเดียว
“ถอยออกไปก่อน เดี๋ยวข้าจะหาวิธีแก้ให้”
นางผลักร่างของเขาออกห่าง รีบกวาดตาอ่านวิธีแก้ไข ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อวิธีแก้ไขคือ
“วิธีทำให้ผู้ที่ดื่มน้ำอัคคีสงบลง คือ หากเป็นชายให้หาสตรีให้เขาร่วมรักด้วย หากเป็นหญิงให้หาชายหนุ่มให้เขาร่วมรักกับนาง เมื่อบรรลุจุดสุดยอดจึงจะหาย ตายแล้ว อ๊ะ เจ้าทำอะไรน่ะ”
หูหลินหลินหันขวับไปมองหน้าคนที่กำลังลูบไล้เนื้อตัวนางอยู่ จิ้งจอกสาวหวีดร้องเมื่อร่างอรชรของนาง ถูกเขาช้อนอุ้มจนตัวลอยจากพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว บุรุษผู้ตกอยู่ในฤทธิ์น้ำอัคคีไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาร้อนไปทั้งตัวความปรารถนาครอบงำความคิด บวกกับพึงพอใจร่างงามของจิ้งจอกสาวอยู่ก่อนหน้า จึงไม่รั้งจิตใจตัวเองให้ทนต่อได้
เขาวางนางลงบนเตียง มือหนาของเขากระชากดึงทึ้งเสื้อผ้านางออก ผ้าโปร่งบางง่ายต่อการฉีกขาด เสียงดังแคว่ก แคว่ก ดังเจ้าโถงถ้ำ ดวงตาของเขาฉายแววหื่นกระหาย เมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของจิ้งจอกสาวเต็มตา แก่นกายปวดหนึบตั้งชัน เขาปลดเสื้อผ้าออกจากตัวแทบจะฉีกให้ขาดคามือด้วยความใจร้อน โหยหิวอยากกลืนกินร่างอวบอัดของสาวงามสะพรั่งตรงหน้า
ด้วยความช่วยเหลือของอ๋องต้วน ทำให้เซียวเหวินอี้สามารถแย่งชิงบัลลังก์กลับคืนมาได้ เสนาบดีหลิงฟานพร้อมลูกสมุนถูกนำตัวมาลงโทษตัดหัวเสียบประจานไว้ที่กำแพงเมือง ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนที่คิดทรยศในภายหน้าฮ่องเต้เซียวเหวินอี้ได้ตอบแทนผู้เป็นลุงด้วยการส่งนางบำเรอทั้งหมดไปเป็นเครื่องบรรณาการ แคว้นจ้าวจึงไร้นางสนมมีเพียงฮองเฮาเป็นหญิงเดียวในดวงใจของฮ่องเต้เวลาแห่งความสุขผ่านไปราวสามเดือน หูไป่ฮวาได้รับแต่งตั้งเป็นฮองเฮาแห่งแคว้นจ้าว ครองคู่อยู่กับเซียวเหวินอี้อย่างมีความสุข จนลืมเลือนไปว่าตัวเองมีโทษทัณฑ์ติดตัวอยู่ จนกระทั่งวันหนึ่งเซียนจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของทั้งสอง“หูไป่ฮวา ถึงเวลาที่เจ้าต้องกลับไปรับโทษทัณฑ์ของเจ้าแล้ว”หูไป่ฮวาตกใจและหวาดกลัวจนตัวสั่น รีบคุกเข่าลงตรงหน้าเซียนจิ้งจอก ขณะที่เซียวเหวินอี้หยิบดาบมาขวางไว้ไม่ยอมให้ เซียนจิ้งจอกได้เข้ามาหาหูไป่ฮวา“ข้าไม่ยอมให้เจ้าพาตัวหูไป่ฮวาไป หากจะพานางไปจงข้ามศพข้าไปก่อน”“เจ้ามนุษย์ไร้น้ำยา คิดว่าดาบในมือเจ้าจะทำอะไรข้าได้”เซียนจิ้งจอกยิ้มหยันก่อนจะโบกมือ พลัน ! ดาบในมือของเซียวเหวินอี้ก็กลายเป็นงูตัวใหญ่“เฮ้ย งู!”เซียวเหวิ
เซียวเหวินอี้รู้ดีว่าอ๋องต้วนผู้เป็นลุงโปรดปรานสตรีเหมือนกับตน จึงคิดจะมอบนางสนมให้อ๋องต้วนเป็นการตอบแทน จะได้ไม่มีปัญหากับหูไป่ฮวาเมื่อยกตำแหน่งฮองเฮาให้นางแล้ว เขาปรารถนานางเพียงคนเดียว หญิงอื่นไม่มีความสำคัญต่อเขาอีกต่อไป“เจ้าช่างรู้ใจลุงจริงๆ เซียวเหวินอี้ หากเจ้าจะมอบนางบำเรอของเจ้าให้ลุง ลุงก็ขอนางบำเรอชื่อหูไป่ฮวาเพียงนางเดียวก็พอ นางบำเรอคนอื่นในวังของเจ้าก็เก็บไว้บำเรอเจ้าเถอะ เจ้ายังหนุ่มมีความต้องการมากกว่าลุง”อ๋องต้วนถือโอกาสขอนางบำเรอที่หมายตาไว้ โดยไม่รู้ว่านางบำเรอคนนี้คือคนที่หลานชายรักและคิดยกตำแหน่งฮองเฮาให้“ข้ายกหูไป่ฮวาให้ท่านลุงไม่ได้ นางเป็นหญิงที่ข้ารัก” เซียวเหวินอี้ปฏิเสธอ๋องต้วนขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าจะได้รับคำปฏิเสธจากหลานชาย“ลุงต้องการหูไป่ฮวาคนเดียว หากเจ้าอยากให้ลุงช่วยเหลือก็จงยกนางให้ลุง เจ้าคิดดูสินางบำเรอของเจ้าก็มีมากมาย และคงสวยงามไม่แพ้หูไป่ฮวา เจ้ายังมีเวลาเสพสุขอีกยาวนาน จะหาสตรีที่สวยกว่าหูไป่ฮวาอีกกี่คนก็ได้ ยกนางให้ลุงเสียเถอะแล้วลุงจะช่วยเจ้าชิงบัลลังก์กลับคืน”ข้อเสนอของผู้เป็นลุงทำให้เซียวเหวินอี้นิ่งงันไปชั่วครู่ ในสมองคิดตามทุกคำพูดเปรียบ
เซียวเหวินอี้กับหูไป่ฮวาเดินทางมากับขบวนคาราวานจนถึงแคว้นหยาง เมื่อไปถึงเซียวเหวินอี้ได้เข้าไปพบฮ่องเต้โดยการพาไปของหูไป่ฮวา ซึ่งเพิ่งนึกได้ว่านางมีลูกแก้วล่องหนสามารถหายตัวไปที่ไหนก็ได้ จิ้งจอกสาวลืมไปสนิทว่าหากใช้ลูกแก้วนี้คงเดินทางมาถึงได้ ตั้งแต่วันแรกๆ แล้ว แต่ก็ไม่สายเกินไปที่จะใช้มัน“หูไป่ฮวา เจ้าช่างน่าตีนัก เหตุใดไม่บอกข้าว่าเจ้ามีลูกแก้วล่องหนสามารถพาข้าไปที่ใดก็ได้ ถ้าข้ารู้เราคงไม่ต้องทนลำบากนับสิบวันแบบนี้หรอก”เซียวเหวินอี้บ่นเสียงขรม แต่ไม่ได้ตำหนิจริงจังนัก เมื่อช่วงเวลาสิบกว่าวันที่เดินทางมาพร้อมหูไป่ฮวาเขามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดนาง เรียนรู้นิสัยใจคอของกันและกัน จนมั่นใจว่านางเหมาะสมจะเป็นราชินีของตนในอนาคต และมั่นใจว่าความรักที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความรู้สึกชั่วครู่ชั่วยามเมื่อยิ่งได้อยู่ใกล้นางมากเท่าใดยิ่งรักนางเพิ่มขึ้นทุกวัน จนขาดนางไม่ได้“ข้าขอโทษก็ข้าลืมนี่ ท่านเข้าไปหาลุงของท่านเถอะ ข้าจะดูต้นทางให้”หูไป่ฮวาเอ่ยขอโทษ ขณะพาเขาหายตัวเข้ามาในอุทยานหลวงของแคว้นหยาง นางกับเซียวเหวินอี้แอบอยู่จนแน่ใจว่าไม่มีทหารอยู่แถวนี้ จึงพากันเดินไปยังตำหนักของอ๋องต้วนลุงของเซีย
เซียวเหวินอี้ก้มลงจูบจิ้งจอกสาว ปลอบประโลมนางให้คลายความกังวลใจ ปลุกปลอบนางด้วยรสเสน่หาให้ลืมเลือนความหวาดหวั่นใจไปให้หมดสิ้น มือหนาค่อยจับร่างงามเอนตัวลงบนที่นอนปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างจนเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่“เจ้างามมาก งามจนข้าอยากกลืนกินเข้าไปทั้งตัว”เซียวเหวินอี้กวาดสายตามองสำรวจร่างขาวผ่องอย่างหลงใหล จิ้งจอกสาวตนนี้คือปฏิมากรรมชั้นเยี่ยมที่ถูกสร้างมายั่วยวนผู้ชาย เรือนร่างของนางงดงามราวกับนางฟ้า ดวงตาคู่สวยปรือปรอยเผยอปากนิดๆ ดูน่ารักเย้ายวนใจ ผิวกายขาวผ่องราวกับน้ำนมสด ปทุมถันอวบใหญ่ปลายยอดสีชมพูสวยเด่นเด้งอวดโฉมยั่วน้ำลาย ดวงตาคมมองเลยมายังหน้าท้องแบนราบ เลื่อนสายตาลงไปยังเนินสามเหลี่ยมอวบอูมเกลี้ยงเนียน บุปผาสาวเบ่งบานด้วยฝีมือของเขา ทำเอาคนมองร้อนผ่าวกลืนน้ำลายฝืดคอ นางแยกขากว้างเผยตัวตนรอคอยให้เขาลงไปดื่มกิน“กินสิ ข้าไม่ได้ห้ามท่านนี่”หูไป่ฮวายิ้มหวาน มองเขาอย่างท้าทาย มือน้อยลูบแผงอกหนาปลายนิ้วคีบจุกหัวนมของเขาคลึงขยี้เบาๆ หยอกเย้าเขาก่อน“ข้าจะกินเจ้าทั้งตัว กินจนกว่าเจ้าจะร้องวอนขอให้ข้าพอ”อีกฝ่ายสิ้นความอดทนก้มลงประกบปากจุมพิตจนนางครางเสียงสั่น ก่อนจะหันมาก
ความรักทำให้สองหนุ่มสาวมีแรงใจในการเดินทางไปยังแคว้นหยาง ทั้งสองเลือกเดินทางในเวลากลางคืนและหาที่พักในช่วงกลางวัน จนผ่านไปสามวันก็เดินทางมาถึงเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง เซียวเหวินอี้นำเครื่องประดับที่ติดตัวมาไปขาย ได้เงินมาซื้อม้าและเสบียงในการเดินทาง ทำให้สบายกว่าเดินด้วยเท้าอย่างเมื่อสามวันก่อน ทั้งสองได้ขอร่วมเดินทางไปกับกองคาราวานสินค้าที่กำลังมุ่งตรงไปยังแคว้นหยาง หัวหน้ากองคาราวานเป็นชาวแคว้นจ้าวเพิ่งเดินทางมาถึงที่นี่ ได้เล่าให้เซียวเหวินอี้ฟังว่าตอนนี้เสนาบดีหลิงฟานได้สถาปนาตัวเองเป็นฮ่องเต้แทนฮ่องเต้องค์เดิม และประกาศให้ชาวเมืองรู้ว่าฮ่องเต้องค์เดิมได้สิ้นพระชนม์ลงด้วยโรคสตรีจากการมั่วกาม ไม่มีรัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ เสนาบดีหลิงฟานจึงขึ้นครองบัลลังก์แทน“ไอ้เสนาบดีหลิงฟานมันช่างเลวนัก แย่งชิงบัลลังก์ข้าไปไม่พอ ยังกล่าวหาว่าข้าตายเพราะโรคสตรี หากข้าจับมันได้ข้าจะจับมันสับเป็นหมื่นๆ ชิ้น”เซียวเหวินอี้กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ได้แต่ก่นด่าคนทรยศอย่างเจ็บแค้น มันจะประกาศว่าเขาตายเพราะสาเหตุอื่นที่ดูดีกว่านี้ก็ไม่ได้ มายัดเยียดให้เขาตายด้วยโรคจากสตรี ช่างกล่าวหากันได้อย่างน่าอดสูนัก“ฮ
“มันร้อนและแข็งมาก ตอนนี้มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แล้ว โอ๊ะ มันมีน้ำซึมออกมาตรงส่วนปลายด้วย ข้าเลียมันได้ไหม”จิ้งจอกสาวทำตามคนสอน แล้วเริ่มสังเกตเห็นส่วนปลายของลำกายของเขามีน้ำซึมออกมา ในความรู้สึกของนางเกิดอยากจะเลียมันขึ้นมา อยากทำแบบเดียวกับที่เขาไล้เลียนางบ้าง ไม่รอให้เขาตอบหูไป่ฮวาก็ตวัดปลายลิ้นเล็กของตัวเองเลียส่วนปลายสีชมพูเข้มของเขาไปมา รสชาติของน้ำรักที่ติดอยู่ตรงส่วนปลาย ช่างให้ความรู้สึกแปลกๆนางเคยได้ยินพวกจิ้งจอกรุ่นพี่เล่าว่า น้ำรักของเซียนจิ้งจอกจะทำให้อำนาจเวทมนตร์เพิ่มขึ้น น้ำรักของจ้าวปีศาจก็เช่นเดียวกันทำให้มีฤทธิ์อำนาจมากมาย แต่น้ำรักของมนุษย์ผู้ชายจะทำให้มีเรี่ยวแรงมากขึ้นและทำให้จิ้งจอกสาวผุดผ่องสวยเปล่งปลั่งกว่าเดิม ปากเล็กค่อยๆ อมความใหญ่โตเข้าไปในโพรงปากทีละน้อย ดูดมันแรงๆ จนแก้มตอบแล้วก็รูดมันขึ้นลง ปลายลิ้นห่อรัดไปบนปลายยอดบานๆ ราวดอกเห็ดนั้น“อู้ว เอามันเข้าไปในปากสวยๆ ของเจ้า อ่าซ์... ยอดเยี่ยมมาก ดูดแรงๆ เลย โอ้ว...”เซียวเหวินอี้เอ่ยชมจิ้งจอกของเขาด้วยความพอใจ นางช่างหัวไวและเก่งขึ้นเรื่อยๆ เขาแทบไม่ต้องสอนมากนางก็ทำเป็นและทำเก่งจนเขาแทบขาดใจคาปากร้อนๆ ของนา