Masukชีวิตเดิมบัดซบอยู่แล้ว ไฉนสววรค์ยังส่งมาให้อยู่ในร่างของหญิงสาวที่ต้องแต่งเข้าจวนชินอ๋องตัวร้ายอย่างไม่มีทางขัดขืน เขาได้ฉายาว่าเป็นชายมักมากในกาม มัวเมาในกามารมย์วัน ๆ เอาแต่เข้าหอนางโลม
Lihat lebih banyakบทนำ
อี้เหยาหญิงสาวในยุคปัจจุบันไปร้านเหล้าดื่มและบ่นเรื่องชีวิตให้กับเพื่อนสนิทฟัง ใครจะคิดว่าเธอจะเมาหลับตื่นขึ้นมาอีกทีดันทะลุมิติไปอยู่ในร่างงของบุตรสาวคนรองของใต้เท้าตกอับ แม้ว่าจะโชคดีที่ไม่ต้องทำงานแต่เธอกลับต้องมีเรื่องทุกข์ใจเพราะต้องแต่งเข้าจวนอ๋อง ที่ขึ้นชื่อว่ามักมากในกาม บ้าตัณหา โหดเหี้ยมอยากได้อันใดก็ต้องได้ เพื่อให้ตระกูลของตนเองไม่ตกต่ำไปมากกกว่านี้ ท่านพ่อของนางจึงขอร้องให้นางแต่งไปเป็นอนุหรือพระชายารองของชินอ๋องหวังหมิง นางไม่สามารถขัดขืนได้จึงยอมแต่งเข้าจวนทว่าหลัวจตากที่นางเหยียบเข้าจวนอ๋องทุกวันนางคิดหาหนทางออก แต่ไม่ได้ง่ายอย่างที่นางคิดเอาไว้ ไหนจะพระชายาเอกเสวี่ยหมิ่นที่เหมือนจะดีกับนางแต่ก็แอบร้ายอยู่ลึก ๆ นางจึงคิดหาหนทางหนีจากชินอ๋องเพื่อเอาชีวิตรอดไม่สนใจแล้วว่าตระกูลของนางจะเป็นเช่นไร ทว่าสวรรค์ไร้ความเมตตาจะหนีเช่นไรก็ไม่มีทางจะหนีเขาพ้นเสียทีและนางได้ไปล่วงรู้เรื่องที่ไม่สมควรรู้อีกด้วย
คำเตือน
***นิยายเรื่องนี้แต่งตามความเข้าใจของนักเขียนเท่านั้น ไม่ได้อ้างอิงตามประวัติศาสตร์โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อ่านเพื่อความบันเทิง
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ตอนที่ 1 ฉันไม่ใช่คุณหนู
‘ดรุณีน้อยเอ๋ย ถึงเวลาที่เจ้าสมควรตื่นเสียทีต่อจากนี้ถึงเวลาที่เจ้าจะได้ใช้ชีวิตอย่างที่เจ้าต้องการ ชะตาชีวิตของเจ้าต่อจากนี้เจ้าจงกำหนดเองว่าเจ้าจะเดินไปหนทางใด ขอให้เจ้ามีความสุขอย่างที่เจ้าต้องการ’ เสียงกระซิบข้างหูทำเอาสตรีร่างบางที่นอนอุดอู้อยู่บนเตียงใช้มือปิดหูดึงผ้าห่มมาคุมศีรษะของตนเองพร้อมเปล่งเสียงไม่ให้ผู้ใดมารบกวนเวลานอนของตน
“คนจะนอนมาเสียงดังไม่มีมารยาทจริง ๆ ชิอย่ามาพูดอยู่แถวนี้ไปไหนก็ไป” ทว่าเมื่อนึกขึ้นได้ตนเองอยู่ในห้องเพียงผู้เดียวจะมีผู้ใดเสียงดังอยู่แถวนี้ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ แต่ว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาต้องตกใจมากกว่าเดิม เพราะเธอไม่ได้ลืมตาขึ้นมาในห้องของตนเอง แต่ตื่นขึ้นมาในเตียงไม้แกะสลักลวดลายโบราณ เธอใช้สายตากวาดมองไปจนทั่ว ขยี้ตาครั้งแล้วครั้งเล่าคิดว่าตนเองเพียงแค่ฝันไปเท่านั้น เมื่อลืมตามาอีกครั้งกลับพบว่าตัวเองยังนั่งอยู่บนเตียงไม้เช่นเคย
“คุณหนูเจ้าคะถึงเวลาที่ต้องลุกแต่งกายเตรียมตัวไปจวนท่านชินอ๋องหวังหมิงแล้วเจ้าค่ะ หากชักช้านายท่านจะเข้ามาตามด้วยตนเองนะเจ้าคะ” ไม่ทันได้ให้เจ้าตัวได้คิดอะไรต่อเสียงดังขึ้นมาจากด้านนอก ร่างเล็กสะดุ้งจ้องมองไปตามต้นเสียงครั้นนั้นมีหญิงสาวเดินมาเปิดผ้าคุมเตียงไปมัดเอาไว้ที่เสาเตียงสองข้าง หญิงสาวอีกสี่คนเดินเข้ามาพร้อมกะละมังน้ำเพื่อล้างหน้าและอีกสองคนถือเสื้อผ้ามาเตรียมแต่งตัวให้เธอ ร่างเล็กลุกพรวดถอยหลังยื่นมือไปด้านหน้าไม่ให้คนพวกนี้เข้ามาใกล้ตัวเอง
“อย่าเข้ามานะ พวกเธอเป็นใครที่นี่ที่ไหนออกไปไกล ๆ เลยนะไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกตำรวจ” หญิงสาวหลายคนมองหน้ากันด้วยความสงสัย เหตุใดจู่ ๆ คุณหนูของพวกนางถึงได้เอ่ยวาจาพิลึกเช่นนี้
“คุณหนูท่านเอ่ยอันใดพวกข้าไม่เข้าใจสักนิดรีบลงมาจากเตียงเถอะเจ้าค่ะ คุณหนูก็รู้มิใช่หรือเจ้าคะว่าท่านชินอ๋องหวังหมิงจิตใจโหดเหี้ยมไร้ความเมตตา หากให้รอนานกว่านี้มีหวังพวกข้า มิใช่สิตระกูลซูทั้งตระกูลอาจจะถูกบั่นคอได้นะเจ้าคะ” ตอนนี้สมองของเธอเริ่มสับสนและงวยงง เพราะเธอไม่ใช่คุณหนูของคนเหล่านี้แต่เธอคืออี้เหยาหญิงสาวที่อยู่ในทศวรรษ 2024
‘อะไรของคนพวกนี้ฉันไม่ใช่คุณหนูสักหน่อย มีทางไหนจะพาฉันกลับบ้านได้มั้ยนะ ฉันไปดื่มเหล้ากับเพื่อนเพื่อปรับทุกข์ปัญหาชีวิตทำไมตื่นมาถึงมาอยู่ที่นี่หรือว่านี่อาจจะเป็นรายการเรียลลิตี้โชว์หรือยังไงกัน ไม่แน่ฉันวิ่งออกไปหน้าประตูอาจจะมีคนถ่ายทำอยู่ข้างนอกแน่ ๆ’ อี้เหยาเห็นช่องโหว่นางรีบกระโดดลงจากเตียงวิ่งหน้าตั้งไปข้างนอกทว่าเมื่อสองเท้าวิ่งไปหน้าเรือนสิ่งที่น่าตกใจมากกว่าเดิมคือ ไม่ง่าจะมองไปทางใดไม่มีผู้กับกับไม่มีกล้องหรือแม้ผู้คนที่แต่งตัวด้วยชุดสมัยใหม่ จะมีเพียงเหล่าคนรับใช้ที่แต่งกายตามยุคสมัย ต่างก้มโค้งให้นางไม่ว่านางจะวิ่งไปทางใด หญิงรับใช้ในห้องเมื่อครู่ตกใจรีบพากันวิ่งตามจับตัวนาง
"คุณหนูอย่าวิ่งสิเจ้าคะ เดี๋ยวจะได้รับบาดเจ็บ"
"ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่คุณหนูของพวกเธอ นี่มันรายการอะไรกัน ฉันไม่ยินดีถ่ายรายการนะฉันจะไปเรียกร้อง" อี้เหยาเหลียวมองไปด้านหลังพร้อมตะโดนบอกสาวใช้ที่กำลังวิ่งไล่ตามเธออยู่ ทว่าตอนนั้นนั่นเองเธอไม่ทันได้มองทางทำให้เธอวิ่งชนเข้ากับเสาเรือนด้านหน้าล้มหงายหลังสลบลงคาที่
"คะ....คุณหนู " สาวใช้ใบหน้าแตกตื่นตกใจรีบเข้าไปประคองร่างของคุณหนูด้วยความเป็นห่วง บ่าวรับใช้ในเรือนเห็นรีบพากันมาช่วยยกร่างของคุณหนูไปที่ห้องของนาง
'ซูอี้หานพ่อผู้นี้ละอายแก่เจ้าจริง ๆ แต่ถ้าเจ้าไม่ทำเรือนของเราอาจจะตกต่ำล้มสลาย นั่นน่าละอายใจต่อบรรพบุรุษมากกว่าเดิม ได้โปรดช่วยเหลือตระกูลเราด้วยเถิด ถือว่าเจ้าได้ทำเพื่อเป็นการตอบแทนตระกูลซู " ชายชรานั่งคุกเข่าต่อหน้าบุตรสาวอ้อนวอนด้วยสีหน้าลำบากใจ ไม่ต่างจากเจ้าตัวที่ทุกข์ใจในคำขอของท่านพ่อครั้งนี้ มิใช่ว่านางดื้อรั้นหรือหัวแข็งทว่าบุรุษที่ท่านพ่อกล่าวมาคือบุรุษที่ไม่สมควรเข้าไปยุ่งด้วยอย่างยิ่ง เหตุใดท่านพ่อถึงจะส่งนางเข้าไปในกรงของเสือร้ายเช่นเขา นางย่อตังลงจับแขนของท่านพ่อให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ท่านพ่อ เรื่องทั้งหมดข้าเข้าใจในเจตนาของท่าน ทว่าท่านพ่อไม่คิดห่วงข้าหรือรักข้าบ้างหรือเจ้าคะ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าชินอ๋องหวังหมิงนิสัยเป็นเช่นไร ชื่อเสียงของท่านผู้นั้นเลื่องลือไปทั่วใต้หล้า บุตรชายเหล้าใต้เท้าตระกูลอื่นหรือแม้แต่บัณฑิตมากมายที่สามารถช่วยเหลือตระกูลเราได้ เหตุใดท่านพ่อถึงไม่ลองไปให้ผู้อื่นช่วยเหลือ ให้ข้าแต่งกับบ่าวรับใช้ยังดีกว่าแต่งเข้าจวนชินอ๋องหวังหมิงอีกเจ้าค่ะ”
“ซูอี้หานเจ้าเสียสติไปแล้วหรือไงที่ยอมลดศักดิ์ศรีไปแต่งกับบ่าวรับใช้ แม้ว่าชินอ๋องหวังหมิงจะมักมากบ้าตัณหาสิ่งนั้นก็ไม่ได้แย่มิใช่หรือ ? เจ้าเข้าไปอยู่ในจวนในฐานะชายารอง วัน ๆ เจ้าแสนสบายเหตุใดต้องทุกข์ใจด้วยเล่า” ซูเสี่ยวมี่พี่สาวของซูอี้หานเอ่ยขึ้นพร้อมอุ้มเด็กชายตัวน้อยในอ้อมแขน
“ท่านพี่พูดได้นี่เจ้าคะ เพราะท่านได้ออกเรือนกับคนที่ท่านรัก ไม่เหมือนกับข้า ทั้งท่านพี่ทั้งท่านพ่อไม่มีผู้ใดเข้าใจข้าเพียงสักคน ข้ามิได้ต้องการสามีที่มีฮูหยินหรืออนุภรรยาหลายคน ข้าต้องการสามีที่มีเพียงข้าเพียงผู้เดียว ต่อให้ข้าแต่งกับชาวนาข้าว่ายังดีกว่าหากเขาพร้อมมีข้าเพียงผู้เดียวศักดิ์ศรีข้าไม่ต้องการ”
เพี้ยะ !! เสียงมือฟาดลงกระทบเนื้อดังสนั่นห้องโถง ใบหน้าของร่างบางสะบัดตามแรงมือของบิดา ดวงตาเริ่มเอ่อแดง
“อี้หานเจ้าเลิกฝันเฟื่องหาความรักที่เจ้าหวังเถอะ นั่นไม่ได้ทำให้ชีวิตเจ้าสุขสบายหรอกนะ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าต้องแต่งงานเข้าไปอยู่ในจวนของชินอ๋องในอีกสามวัน เชื่อข้าเถอะต่อจากนี้ชีวิตของเจ้าจะสุขสบายยิ่งกว่าตอนนี้เสียอีก วันหนึ่งเจ้าจะขอบคุณข้าที่ข้าส่งเจ้าเข้าจวนชิงอ๋อง มิใช่แค่ส่งไปเพื่อให้เขาช่วยเหลือตระกูลซูแต่เป็นการช่วยให้เจ้าสุขสบายอีกด้วย” ใต้เท้าซูโมโหที่บุตรสาวไม่เชื่อฟังบันดาโทสะใช้มือตบเข้าที่ใบหน้าทว่าในใจของผู้เป็นบิดาก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน แต่จะให้นางไปใช้ชีวิตอยู่อย่างที่นางต้องการ ร่างกายอ่อนแอเช่นนางมีหวังได้ตายตั้งแต่ไปอยู่ได้เพียงไม่กี่วันเป็นแน่ เรื่องนั้นก็ไม่อาจทำให้เขาวางใจ และหากตระกูลนางตกต่ำไปกว่านี้ ตนเองและอี้หานต้องไปทำงานให้เหล่าใต้เท้าที่มาซื้อตัวไปเป็นข้ารับใช้ ใบหน้าและเรือนร่างอย่างนางมิหวังได้ถูกตาต้องใจของเหล่าใต้เท้า นางอาจจะถูกขืนใจและถูกบังคับให้เป็นอนุเป็นแน่ สู้ให้นางเป็นพระชายารองชินอ๋องหวังหมิงมีหน้ามีตา แถมยังสุขสบายไปทั้งชาติไม่ดีกว่าหรือ ?
“การส่งข้าเข้าไปที่จวนชินอ๋องหวังหมิงเป็นสิ่งที่ท่านพ่อประสงค์ข้าก็มิอาจจะทำตามได้ ทว่าต่อจากนี้ข้าซูอี้หานจะขอทำตามใจท่านพ่อเพื่อเป็นการตอบแทนเป็นครั้งสุดท้ายต่อจากนี้ข้าจะไม่ช่วยเหลือหรือค้างคาบุญคุณต่อท่านอีกถือว่าข้าได้ชดใช้ให้ตระกูลซูแล้ว” ดวงตาเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตาพยายามไม่ให้ไหลเอ่ยวาจาไร้เยื่อใยกับท่านพ่อก่อนจะวิ่งหนีไปด้วยความน้อยใจ เสี่ยวมี่จ้องมองตามแผ่นหลังน้องสาวพรางมองท่านพ่อและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ข้าไม่เข้าใจท่านพ่อเลยเจ้าค่ะ เหตุใดไม่บอกความจริงแก่นางล่ะเจ้าค่ะ ว่าเส้นทางที่ท่านพ่อเลือกมันต่อนางเพียงใดจะให้นางเข้าใจผิดเช่นนี้หรือ”
“ปล่อยให้นางเข้าใจไปเช่นนี้ดีแล้ว วันหนึ่งเมื่อนางโตมากกว่านี้นางจะเข้าใจในสิ่งที่ข้ากระทำลงไปในวันนี้” ใต้เท้าซูมองตามแผ่นหลังบุตรสาวคนรองด้วยความเจ็บร้าวในใจ ก่อนจะก้มมองมือที่ร้อนผ่าวสั่นเทานึกเสียใจที่กระทำรุนแรงกับอี้หาน แต่ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้เขาทำได้เพียงส่ายหน้าไปมาพร้อมเดินกลับเข้าห้องกักขังตัวเองอยู่ในความรู้สึกผิด
ตอนที่ 27 เลือกชินอ๋องเพียงไม่เกินครึ่งชั่วยาม แม่ทัพจัดการเหล่าทหารของใต้เท้าจางจนหมดสิ้นทุกคน หน้าวังหลวงเต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้ง ทหารจัดการเก็บซากศพไปโยนทิ้งให้แร้งให้กากิน ส่วนหลางอี้ถูกจับตายเช่นเดียวกัน ตระกูลจางถูกจับทุกคนรวมถึงใต้เท้าที่เข้าร่วมก่อการกบฏครั้งนี้ทุกตระกูล สายของชินอ๋องหวังหมิงพาแม่ทัพบุกทลายที่ซุกซ่อนของใต้เท้าจางเสวี่ยหมิ่นไม่ทันได้ตั้งตัวหนีจึงถูกจับกุมมาที่คุกหลวง การตัดสินโทษของใต้เท้าจางคือการประหารเจ็ดชั่วโคตรเสวี่ยหมิ่นมิอาจจะหลบหลีกได้ นางกรีดร้องเสียสติเมื่อเห็นท่านพ่อถูกประหารนำหัวไปเสียบประจานอยู่หน้าวังหลวง ผู้คนชั่วช้าได้รับโทษที่ตนเองกระทำเอาไว้ ตอนนี้ทุกอย่างในวังหลวงคลี่คลายไร้ใต้เท้าชั่วช้าคิดไม่ดีต่อราชวงศ์อีก3 วันต่อมาจวนชินอ๋องหวังหมิงหลังจากที่จับกุมใต้เท้าจางได้ชินอ๋องแต่งตั้งให้ซูอี้หานขึ้นมาเป็นพระชายาเอก เหม่ยหนิงได้รับความเมตตาจากหวังหมิงให้กลับมาทำงานในจวนเช่นอย่างเคย ตอนนี้นางอยู่ห้องเครื่องแรก ๆ ทุกคนในจวนต่างพากันรังเกียจนางเพราะเสวี่ยหมิ่นเจ้านายของนางเป็นคนโหดเหี้ยมหักหลังได้แม้กระทั่งสวามีของตน
ตอนที่ 26 เริ่มเคลื่อนไหวเสวี่ยหมิ่นไม่หยุดนางลูบไล้บนอกแกร่งอย่างลืมตัว ร่างกายของหลางอี้สั่นสะท้านรีบจับมือของเสวี่ยหมิ่นให้หยุดกระทำก่อนที่ทุกอย่างจะเกินเลยไปมากกว่านี้“ข้าบอกให้ท่านหยุดได้แล้ว ทำไมถึงไม่หยุดเล่ายามนี้ข้ามิใช่เด็กชายตัวน้อยที่คอยให้ท่านหยอกเล่นเหมือนเมื่อก่อนและนะขอรับ”“ข้าก็ไม่ได้มองเจ้าเป็นเด็กชายตัวน้อยที่เมื่อก่อนถูกข้ารังแกเสียหน่อย ” หลางอี้มิอาจจะทนได้อีกต่อไปจับปลายคางของนางให้เผยอขึ้นก่อนจะบดจูบลงที่ริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วงด้วยความถวิลหา ร่างบางสั่นสะท้านไปทั้งตัวสมองขาวโพลนอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เลือดในร่างกายเริ่มพลุ่งพล่านโอบกอดคอของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว เคลิบเคลิ้มกับรสจุมพิตที่เขามอบให้ทั้งสองแลกสัมผัสกันอย่างลึกซึ้งท่ามกลางเสียงน้ำที่ไหลไปตามกระแสน้ำ เหล่าแมลงปอเป็นพยานรักในครั้งนี้ เสวี่ยหมิ่นรู้สึกดีมาก ๆ จนแปลกใจว่าวันนั้นที่นางนอนกับชินอ๋องหวังหมิงใช่เรื่องจริงหรือไม่? จนกระทั่งความเจ็บปวดกับความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามาพร้อม ๆ กันทำให้นางรู้ตัวทันทีว่านางถูกชินอ๋องหลอกลวงเข้าแล้ว และนี่คือครั้งแรกที่นางนอนกับบุรุษ ยิ่งทำให้นางแค้นชินอ๋องมากกว่า
ตอนที่ 25 เสวี่ยหมิ่นหนีไปฝั่งด้านอี้หาน นางกลับมาที่ตำหนักด้วยความผ่อนคลาย คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่นางเปิดโปงความผิดของเสวี่ยหมิ่น“หม่อมฉันไม่คิดเลยนะเพคะว่าพระชายาเสวี่ยหมิ่นจะโหดร้ายโยนความผิดให้แก่สาวใช้ที่จงรักภักดีต่อนางเช่นนั้น ”“เพราะนางไม่เคยรักใครมากกว่าตนเองนะสิ เอาล่ะตอนนี้ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายต่อจากนี้ข้าคงได้อยู่ที่นี่อย่างสุขสบาย วันนี้อากาศช่างดีเสียจริง” อี้หานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนยกภูเขาออกจากอก ยามราตรีมาเยือนหวังหมิงกลับเข้ามาจากข้างนอกค่ำคืนนี้เขาก็ไปที่ตำหนักของซูอี้หานเช่นเดิม ทั้งสองนั่งกอดกันอยู่บนเตียงในห้องที่มีเพียงแสงเทียนริบหรี่ กลิ่นกำยานคละคลุ้งเต็มอากาศ“ต่อจากนี้ท่านจะทำเช่นไรต่อไปเพคะ ”“เรื่องของเสวี่ยหมิ่นนะหรือ? ข้าคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วนางไม่ยอมให้ตนเองถูกลงโทษแน่ ๆ ข้าให้คนของข้าเฝ้าจับตามอง นางจ้างวานให้สาวใช้นำจดหมายไปมอบให้แก่ใต้เท้าจางค่ำคืนนี้ในจวนของข้าคงจะมีหนูแอบซ่อนตัวเข้ามาขโมยของ เรารีบเข้านอนกันเถอะคนพวกนั้นจะได้ทำตามแผน”“เดี๋ยวสิเพคะ ท่านจะยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือได้อย่างไรกัน”“ซูอี้หานเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลข้ามิได้
ตอนที่ 24 โยนความผิด เขาได้อ่านและยอดที่จ่ายคนงานในจวนอีกทั้งซื้อของเข้าห้องเครื่องไม่ตรงกับที่ลงบันทึกเอาไว้ ยอดเงินในคลังหายไปทุกครั้งที่ทำการเบิกจ่าย ยิ่งตรวจสอบยิ่งเห็นว่าระยะเวลาที่หายไปคือช่วงที่พระชายาเสี่ยวหมิ่นดูแล เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อพระชายาเอกเขาได้ตรวจสอบลายมือของทั้งสองมันไม่มีตรงใดที่เหมือนกันสักนิด“ทูลท่านชินอ๋องข้าน้อยได้ตรวจสอบแล้วมีการหายไปและจำนวนของที่เข้ามาไม่ตรงกับจำนวนเงินที่ออกไปจริง ๆ และการตรวจสอบลายมือทั้งสองไม่เหมือนกันด้วยพะย่ะค่ะ พร้อมทั้งหมึกในบันทึกกระหม่อมตรวจสอบแล้วเป็นหมึกที่เขียนมานาน หากจะเกิดการเขียนใหม่จากพระชายารองคงมิใช่ เพื่อความเป็นธรรมกระหม่อมอยากให้พระชายาทั้งสองเขียนลายมือตนเองลงใส่กระดาษต่อหน้าทุกคนเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์พะย่ะค่ะ” เจิงหลงเดินเข้ามาพร้อมหมึกและพู่กันวางลงบนโต๊ะซูอี้หานเดินมาหยิบพู่กันอย่างมั่นใจเขียนลงบนกระดาษเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ลายมือของนางเหมือนที่นางส่งให้ใต้เท้าทุกตัวอักษร เสวี่ยหมิ่นเริ่มสั่นกลัว นางสั่นเทาค่อย ๆ เดินไปหยิบพู่กันเขียนลงบนกระดาษครานั้นนางก็คิดได้‘แม้จะตรวจสอบว่าเป็นข้าที่เขียนลงข้
ตอนที่ 23 เอาคืนซูซูประคองอี้หานเข้าตำหนักสำรวจร่างกายไม่เห็นร่องรอยบาดเจ็บนางสบายใจขึ้นมาพร้อมสงสัยว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของผู้ใดกันแน่“พระชายาเพคะ คนพวกนั้นไม่ได้ทำอันใดแล้วจับตัวพระชายาไปทำไมเพคะ หรือว่าต้องการเบี้ยอัฐ”“คนพวกนั้นถูกพระชายาเสวี่ยหมิ่นสั่งการมาให้จับตัวข้า ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่านางไม่เคยหวังดีกับข้าและเรื่องการยักยอกเงินนางต้องมีแผนใส่ร้ายข้าแน่นอน ในเมื่อร้ายมาข้าก็จะร้ายกลับจะเล่นงานข้าหรือ? ข้าจะเอาคืน”“แต่ว่าพระชายาเอกมีอำนาจมากนะเพคะ ไหนจะท่านพ่อของนางอีก คงไม่มีทางปล่อยให้พระชายชายารองใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายแน่นอน”“ข้าไม่กลัวหากเรายอมนาง นางก็คิดจะรังแกเราฝ่ายเดียว รุ่งเช้าข้าจะนำเรื่องที่นางยักยอกเงินแจ้งกับทุกคนได้ทราบอย่างทั่วถึง คอยดูว่านางจะทำหน้าเช่นไรในเมื่อต้องการใช้แผนนี้จัดการข้าแต่ข้าชิงลงมือก่อน”“ข้าเป็นห่วงพระชายาจริง ๆ นะเพคะ อยู่อย่างสงบไม่ดีกว่าหรือ”“ใจของข้าปรารถนาอยากอยู่อย่างสงบแต่อีกฝ่ายระรานข้าก่อน ข้าต้องปกป้องตนเองให้นางได้เห็นว่าข้าไม่ใช่สตรีโง่เขลาที่รังแกได้ง่าย ๆ อีกอย่างตั้งแต่วันนี้ชินอ๋องสั่งการให้องครักษ์เงาคอยปกป้องดูแลข้า เจ้
ตอนที่ 22 ไม่มีวันได้ใจ ฝั่งด้านเสวี่ยหมิ่นนางกลับมาที่ตำหนักเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ ก่อนหน้านี้นางไปดูการแสดงละครกับอี้หานตอนนั้นความโกรธเกรี้ยวที่มีต่ออี้หานยิ่งเห็นสายตาของหวังหมิงจ้องมองนางไม่กระพริบสายตาแถมยังถูกหวังหมิงตำหนิยิ่งทำให้นางอิจฉา จึงบอกแก่อี้หานว่านางเจ็บท้องขอเวลาสักครู่ อี้หานไม่ได้คิดอันใดคิดว่าเสวี่ยหมิ่นเจ็บท้องจริง ๆ และตอนนั้นนางกำลังสนุกสนานกับการแสดงจึงไม่ได้ตามเสวี่ยหมิ่นไป นางเดินไปเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังนั่งดื่มสุราจึงว่าจ้างให้ไปจับตัวอี้หานและทำให้เกิดความวุ่นวาย พานางไปให้ไกลที่าสุดหรือในป่าลึกและปล่อยนางทิ้งไปเสียสตรีอ่อนแอเช่นนางคงไม่มีทางหาทางออกจากป่าได้ ชายฉกรรจ์รับคำว่าจ้างเพราะเห็นเบี้ยอัฐที่เสวี่ยหมิ่นโยนมาให้มากจนตนตาโตเพราะความโลภ นางจึงบอกรูปลักษณ์ของอี้หานพร้อมสีผ้าอาภรณ์ที่นางสวมใส่มาวันนี้ งานนี้มิใช่เรื่องยากชายฉกรรจ์จึงรับปากจะทำทันที เสวี่ยหมิ่นเดินกลับมายืนข้างกายของอี้หานเพื่อให้คนกลุ่มนั้นได้เห็นว่าสตีนางใดที่เขาต้องจับตัวไป แคร่ก!!'เสียงประตูเปิดเข้ามาเสวี่ยหมิ่นตกใจเล็กน้อยแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเหม่ยหนิงนางโล่งอกขึ้นมาทั


















Komen