นางจิ้งจอกสาวบำเพ็ญตบะมาห้าร้อยปีจนกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ เพื่อให้คงความอมตะ จึงต้องดูดพลังชีวิตของบุรุษ นางจึงใช้ร่างกายงดงามของนางยั่วยวนเหยื่อ ให้หลงเสน่ห์ จนกลายเป็นทาสสวาท! (เป็นเรื่องราวของนางจิ้งจอกสาวสี่นาง กับบรรดาหนุ่มๆ ที่กลายเป็นทั้งเจ้านาย คนรัก จ้าวหัวใจ)
View More“หากเจ้ากล้าแลกทุกอย่างตามที่ท่านจิ้งจอกต้องการ เจ้าจะได้สมปรารถนา แต่ข้าขอเตือนไว้ก่อนนะ เจ้าต้องเลือกให้ดีๆ ว่าต้องการอะไร พรจากจิ้งจอกมันมาพร้อมกับคำสาป หากเจ้าเลือกผิดชีวิตก็จะพบกับความวิบัติ ข้าเตือนเจ้าได้เท่านี้”
จงเหลียงบอกกับหม่าจิ้งหยวน ก่อนจะนำทางสหายรักมายังถ้ำแห่งความลับซึ่งอยู่ด้านหลังศาลเทพธิดาจิ้งจอก ที่แห่งนี้เป็นที่กราบไหว้บูชาตั้งขึ้นโดยผู้ศรัทธาในเทพธิดาจิ้งจอก และผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะทำหน้าที่สื่อสารกับเทพธิดาจิ้งจอก
จงเหลียงเป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือก เขาได้รับโอกาสขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอก และได้รับพรนั้นจนทำให้ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนยากไร้เขาได้กลายมาเป็นคหบดีของเมือง ในที่สุดได้เป็นผู้ดูแลศาลเทพธิดาจิ้งจอก มีชีวิตที่สุขสบายและยังคงเก็บรักษาความลับเรื่องการขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอกเอาไว้ หม่าจิ้งหยวนเคยมีบุญเจ้าช่วยจงเหลียงไว้ครั้งหนึ่งในตอนที่อีกฝ่ายยากจน ดังนั้นเพื่อตอบแทนบุญเจ้าจงเหลียงจึงบอกความลับเรื่องเทพธิดาจิ้งจอกให้หม่าจิ้งหยวนรับรู้ จงเหลียงปล่อยให้สหายเข้ามาภายในถ้ำแห่งนี้ เพื่อขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอกด้วยตนเอง
“ข้าต้องได้ในสิ่งที่อยากได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ข้าจะแลกทุกอย่าง”
หม่าจิ้งหยวนบอกกับตัวเอง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืน ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาพาตัวเองเข้าไปด้านในลึกขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่รออยู่จะน่ากลัวแค่ไหน ขอเพียงมันสามารถทำให้เขาสมปรารถนา เขายินดีเผชิญหน้ากับมัน
เขาดั้นด้นมาที่นี่เพราะความปรารถนาส่วนตัวที่ไม่อาจไขว่คว้ามาได้ง่ายๆ หวังเพียงปาฏิหาริย์บางอย่างจากสิ่งที่อยู่ภายในถ้ำ จะช่วยให้เขาสมหวัง และเขาเคยเห็นคนที่สมหวังเพราะมันมาแล้ว นั่นก็คือจงเหลียงสหายของเขา
บรรยากาศภายในถ้ำจิ้งจอกแห่งนี้ ช่างวังเวงชวนขนลุกไม่น้อย หากจิตไม่แข็งก็ยากจะพาตัวเองก้าวเข้ามาด้านในไหว เมื่อเขาตัดสินใจแล้วว่าต้องขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอก เขาต้องไม่กลัวอะไร หม่าจิ้งหยวนสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ก้าวขาเดินต่อไปอย่างมุ่งมั่น
ในที่สุดเขาก็เดินมาถึงโถงถ้ำด้านใน ซึ่งกว้างขวางแตกต่างจากทางเข้ามากนัก ผนังถ้ำมีคบไฟติดไว้จนทั่ว ทำให้โถงถ้ำสว่างจนมองเห็นบริเวณนั้นชัดเจน ตรงมุมด้านในสุดมีม่านสีดำโปร่งบางกางกั้นไว้หลายชั้น แต่สายตาของเขาก็สามารถมองเห็นด้านในได้สลัวลาง หลังม่านกั้นมีเตียงวางไว้ บนเตียงมีร่างระหงของสตรีคนหนึ่งนั่งทอดกายเอนอิงหมอนใบใหญ่ นางสวมเสื้อผ้าโปร่งบางสีดำไม่ต่างกับผ้าม่าน ชุดของนางกรุยกรายยาวระพื้น ทว่าเจ้าตัวกับแหวกช่วงกระโปรงให้ผ่ากว้างอวดเรียวขาสวย จากที่เห็นลางๆ รูปร่างของคนที่นั่งอยู่บนเตียงงดงามไม่น้อย ขาขาวเรียวยาวเอวคอดกิ่ว ข้ายาวสลวยสีดำสนิทเงางามราวกับขนกายาวระแผ่นหลังบอบบาง หม่าจิ้งหยวนเขม้นมองลอดผ่านผ้าม่านโปร่งเข้าไป แต่ไม่อาจมองเห็นใบหน้าของสตรีผู้นั้นชัดเจนเพราะอีกฝ่ายใช้ผ้าคลุมหน้าไว้ครึ่งหน้า เขาดับคบไฟเมื่อเห็นว่าที่นี่สว่างมากพอ ร่างกำยำทรุดกายนั่งลงคุกเข่าด้านหน้าม่าน
“ท่านคือ ท่านเทพธิดาจิ้งจอกใช่หรือไม่ ข้าชื่อหม่าจิ้งหยวน เป็นเพื่อนของจงเหลียง ที่เคยมาขอพรจากท่านเทพธิดาจิ้งจอกเมื่อ สี่ปีก่อน จงเหลียงแนะนำให้ข้ามาขอพรจากท่านเทพธิดาจิ้งจอกขอรับ”
หม่าจิ้งหยวนค้อมศีรษะทำความเคารพเทพธิดาจิ้งจอกสาว ที่นั่งอยู่หลังม่าน เขาเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงกะพรวนดังกรุ๋งกริ๋งแว่วมา ร่างอรชรขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งจากนั่งเหยียดเท้า มาเป็นนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง กระโปรงผ่าคลุมเรียวขายาวขาวผ่องแทบไม่มิด คนเห็นลอบกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว ความหวั่นเกรงในตอนแรกเลือนหายไป เหลือเพียงความตื่นเต้นที่ได้พบกับเทพธิดาจิ้งจอกสาวตัวเป็นๆ ดวงตาคมจดจ้องเรือนร่างงามล่มเมืองนั้นแทบไม่วางตา
แม้ไม่ได้เห็นหน้าชัดๆ ไม่ได้มองเรือนร่างเต็มตาเพราะมีม่านกั้น เขาก็รู้สึกแข็งชันจนปวดร้าวไปหมด
แค่นางขยับตัวนิดเดียว คนเห็นแทบคุมตัวเองไว้ไม่ไหว ถ้าเห็นชัดๆ ได้จับตัวเป็นๆ สวรรค์คงลอยมาหาเขาแล้ว หม่าจิ้งหยวนกลืนน้ำลายหลายอึก สายตาจ้องมองเรือนร่างงดงามแทบไม่กะพริบตา
“เจ้าชื่อหม่าจิ้งหยวนหรือ”
เสียงหวานใส ดั่งระฆังแก้วเอ่ยถาม คนฟังขนลุกซู่ จินตนาการไปถึงริมฝีปากจิ้มลิ้มของคนพูด นึกถึงรสหวานของมันทั้งที่ยังไม่ได้เห็นของจริง
“ขอรับ ท่านเทพธิดาจิ้งจอก” หม่าจิ้งหยวนพยักหน้ารับ
“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะเรียกเจ้าว่าจิ้งหยวน ข้าชื่อหูหลินหลินเจ้าก็เรียกข้าว่าแม่นางหู ห้ามเรียกท่านเทพธิดาจิ้งจอกอีก ข้าเพิ่งได้รับตำแหน่งได้เพียงเดือนเดียว และเจ้าคือคนแรกที่มาขอพรกับข้า”
จิ้งจอกสาวหัวเราะเสียงใส เมื่อนึกถึงท่านเทพธิดาจิ้งจอกคนก่อน ซึ่งถูกปลดจากการเป็นเทพธิดาจิ้งจอกเมื่อสองเดือนก่อนตามพันธสัญญา ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกมาเป็นเทพธิดาจิ้งจอกต้องทำหน้าที่นี้ครบหนึ่งร้อยปีถึงจะปลดระวาง จิ้งจอกสาวที่ได้รับตำแหน่งเทพธิดาจิ้งจอก สามารถให้พรมนุษย์ที่มาขอพรได้เพียงเก้าคนเท่านั้น ผู้ที่ได้รับพรก็จะได้สมปรารถนาในสิ่งที่ขอเป็นเวลาสี่ปี พรจะเสื่อมไปเมื่อมีคนใหม่มาขอพร ซึ่งจงเหลียงคือคนที่เก้าที่มาขอพรเทพธิดาจิ้งจอกคนก่อน เขาส่งหม่าจิ้งหยวนมาเป็นคนแรกที่จะได้รับพรจากนาง เขาจะได้รับสิ่งที่เขาปรารถนาสองข้อเป็นเวลาสี่ปี
“นับเป็นเกียรติกับข้าขอรับ แม่นางหู”
หม่าจิ้งหยวนเรียกชื่อจิ้งจอกสาวตามที่นางบอกให้เรียก เขาไม่กล้าขัดใจนางเพราะยังไม่ได้ขอพร
“เจ้าอยากขอสิ่งใด ข้าจะได้บอกวิธีขอพรให้เจ้ารู้ว่า ต้องแลกกับสิ่งใดเพื่อพรข้อนั้น”
หูหลินหลินเอ่ยถาม พลางจ้องมองบุรุษหนุ่มผ่านม่านบาง พินิจพิจารณาเขาอย่างสนใจ หม่าจิ้งหยวนรูปร่างสูงใหญ่กำยำราวกับนักรบ จิ้งจอกสาวเขม้นมองใบหน้าของเขาอย่างพอใจ เขารูปงามทีเดียวหล่อเหลากว่าพวกจิ้งจอกหนุ่มในดินแดนของนางเสียอีก
มนุษย์หล่อแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าหนอ ข้าชักอยากเห็นมนุษย์คนอื่นๆ บ้างแล้ว
มนุษย์จะมีความสามารถบางอย่างเทียบเท่าจิ้งจอกหนุ่มหรือเปล่า หรือว่ามีมากกว่าน้อยกว่า ชักอยากลองเสียแล้วสิ
หูหลินหลินรู้สึกเสียววูบในช่องท้อง กายสาวเต้นตุบกระหายบางสิ่งที่ร้างรามานับเดือน ตั้งแต่ถูกส่งตัวมาที่ที่ดินแดนของมนุษย์แห่งนี้
หนึ่งเดือนที่ผ่านมานางต้องนั่งๆนอนๆ อยู่ในถ้ำรอคอยคนมาขอพร ช่างน่าเบื่ออะไรเช่นนี้ จะหนีกลับหุบเขาหูเทียนก็ทำไม่ได้ หากให้พรคนขอคนแรกสำเร็จ นางจะมีโอกาสได้หลอกล่อให้เขา กลายเป็นเหยื่อของนาง
ด้วยความช่วยเหลือของอ๋องต้วน ทำให้เซียวเหวินอี้สามารถแย่งชิงบัลลังก์กลับคืนมาได้ เสนาบดีหลิงฟานพร้อมลูกสมุนถูกนำตัวมาลงโทษตัดหัวเสียบประจานไว้ที่กำแพงเมือง ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนที่คิดทรยศในภายหน้าฮ่องเต้เซียวเหวินอี้ได้ตอบแทนผู้เป็นลุงด้วยการส่งนางบำเรอทั้งหมดไปเป็นเครื่องบรรณาการ แคว้นจ้าวจึงไร้นางสนมมีเพียงฮองเฮาเป็นหญิงเดียวในดวงใจของฮ่องเต้เวลาแห่งความสุขผ่านไปราวสามเดือน หูไป่ฮวาได้รับแต่งตั้งเป็นฮองเฮาแห่งแคว้นจ้าว ครองคู่อยู่กับเซียวเหวินอี้อย่างมีความสุข จนลืมเลือนไปว่าตัวเองมีโทษทัณฑ์ติดตัวอยู่ จนกระทั่งวันหนึ่งเซียนจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของทั้งสอง“หูไป่ฮวา ถึงเวลาที่เจ้าต้องกลับไปรับโทษทัณฑ์ของเจ้าแล้ว”หูไป่ฮวาตกใจและหวาดกลัวจนตัวสั่น รีบคุกเข่าลงตรงหน้าเซียนจิ้งจอก ขณะที่เซียวเหวินอี้หยิบดาบมาขวางไว้ไม่ยอมให้ เซียนจิ้งจอกได้เข้ามาหาหูไป่ฮวา“ข้าไม่ยอมให้เจ้าพาตัวหูไป่ฮวาไป หากจะพานางไปจงข้ามศพข้าไปก่อน”“เจ้ามนุษย์ไร้น้ำยา คิดว่าดาบในมือเจ้าจะทำอะไรข้าได้”เซียนจิ้งจอกยิ้มหยันก่อนจะโบกมือ พลัน ! ดาบในมือของเซียวเหวินอี้ก็กลายเป็นงูตัวใหญ่“เฮ้ย งู!”เซียวเหวิ
เซียวเหวินอี้รู้ดีว่าอ๋องต้วนผู้เป็นลุงโปรดปรานสตรีเหมือนกับตน จึงคิดจะมอบนางสนมให้อ๋องต้วนเป็นการตอบแทน จะได้ไม่มีปัญหากับหูไป่ฮวาเมื่อยกตำแหน่งฮองเฮาให้นางแล้ว เขาปรารถนานางเพียงคนเดียว หญิงอื่นไม่มีความสำคัญต่อเขาอีกต่อไป“เจ้าช่างรู้ใจลุงจริงๆ เซียวเหวินอี้ หากเจ้าจะมอบนางบำเรอของเจ้าให้ลุง ลุงก็ขอนางบำเรอชื่อหูไป่ฮวาเพียงนางเดียวก็พอ นางบำเรอคนอื่นในวังของเจ้าก็เก็บไว้บำเรอเจ้าเถอะ เจ้ายังหนุ่มมีความต้องการมากกว่าลุง”อ๋องต้วนถือโอกาสขอนางบำเรอที่หมายตาไว้ โดยไม่รู้ว่านางบำเรอคนนี้คือคนที่หลานชายรักและคิดยกตำแหน่งฮองเฮาให้“ข้ายกหูไป่ฮวาให้ท่านลุงไม่ได้ นางเป็นหญิงที่ข้ารัก” เซียวเหวินอี้ปฏิเสธอ๋องต้วนขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าจะได้รับคำปฏิเสธจากหลานชาย“ลุงต้องการหูไป่ฮวาคนเดียว หากเจ้าอยากให้ลุงช่วยเหลือก็จงยกนางให้ลุง เจ้าคิดดูสินางบำเรอของเจ้าก็มีมากมาย และคงสวยงามไม่แพ้หูไป่ฮวา เจ้ายังมีเวลาเสพสุขอีกยาวนาน จะหาสตรีที่สวยกว่าหูไป่ฮวาอีกกี่คนก็ได้ ยกนางให้ลุงเสียเถอะแล้วลุงจะช่วยเจ้าชิงบัลลังก์กลับคืน”ข้อเสนอของผู้เป็นลุงทำให้เซียวเหวินอี้นิ่งงันไปชั่วครู่ ในสมองคิดตามทุกคำพูดเปรียบ
เซียวเหวินอี้กับหูไป่ฮวาเดินทางมากับขบวนคาราวานจนถึงแคว้นหยาง เมื่อไปถึงเซียวเหวินอี้ได้เข้าไปพบฮ่องเต้โดยการพาไปของหูไป่ฮวา ซึ่งเพิ่งนึกได้ว่านางมีลูกแก้วล่องหนสามารถหายตัวไปที่ไหนก็ได้ จิ้งจอกสาวลืมไปสนิทว่าหากใช้ลูกแก้วนี้คงเดินทางมาถึงได้ ตั้งแต่วันแรกๆ แล้ว แต่ก็ไม่สายเกินไปที่จะใช้มัน“หูไป่ฮวา เจ้าช่างน่าตีนัก เหตุใดไม่บอกข้าว่าเจ้ามีลูกแก้วล่องหนสามารถพาข้าไปที่ใดก็ได้ ถ้าข้ารู้เราคงไม่ต้องทนลำบากนับสิบวันแบบนี้หรอก”เซียวเหวินอี้บ่นเสียงขรม แต่ไม่ได้ตำหนิจริงจังนัก เมื่อช่วงเวลาสิบกว่าวันที่เดินทางมาพร้อมหูไป่ฮวาเขามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดนาง เรียนรู้นิสัยใจคอของกันและกัน จนมั่นใจว่านางเหมาะสมจะเป็นราชินีของตนในอนาคต และมั่นใจว่าความรักที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความรู้สึกชั่วครู่ชั่วยามเมื่อยิ่งได้อยู่ใกล้นางมากเท่าใดยิ่งรักนางเพิ่มขึ้นทุกวัน จนขาดนางไม่ได้“ข้าขอโทษก็ข้าลืมนี่ ท่านเข้าไปหาลุงของท่านเถอะ ข้าจะดูต้นทางให้”หูไป่ฮวาเอ่ยขอโทษ ขณะพาเขาหายตัวเข้ามาในอุทยานหลวงของแคว้นหยาง นางกับเซียวเหวินอี้แอบอยู่จนแน่ใจว่าไม่มีทหารอยู่แถวนี้ จึงพากันเดินไปยังตำหนักของอ๋องต้วนลุงของเซีย
เซียวเหวินอี้ก้มลงจูบจิ้งจอกสาว ปลอบประโลมนางให้คลายความกังวลใจ ปลุกปลอบนางด้วยรสเสน่หาให้ลืมเลือนความหวาดหวั่นใจไปให้หมดสิ้น มือหนาค่อยจับร่างงามเอนตัวลงบนที่นอนปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างจนเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่“เจ้างามมาก งามจนข้าอยากกลืนกินเข้าไปทั้งตัว”เซียวเหวินอี้กวาดสายตามองสำรวจร่างขาวผ่องอย่างหลงใหล จิ้งจอกสาวตนนี้คือปฏิมากรรมชั้นเยี่ยมที่ถูกสร้างมายั่วยวนผู้ชาย เรือนร่างของนางงดงามราวกับนางฟ้า ดวงตาคู่สวยปรือปรอยเผยอปากนิดๆ ดูน่ารักเย้ายวนใจ ผิวกายขาวผ่องราวกับน้ำนมสด ปทุมถันอวบใหญ่ปลายยอดสีชมพูสวยเด่นเด้งอวดโฉมยั่วน้ำลาย ดวงตาคมมองเลยมายังหน้าท้องแบนราบ เลื่อนสายตาลงไปยังเนินสามเหลี่ยมอวบอูมเกลี้ยงเนียน บุปผาสาวเบ่งบานด้วยฝีมือของเขา ทำเอาคนมองร้อนผ่าวกลืนน้ำลายฝืดคอ นางแยกขากว้างเผยตัวตนรอคอยให้เขาลงไปดื่มกิน“กินสิ ข้าไม่ได้ห้ามท่านนี่”หูไป่ฮวายิ้มหวาน มองเขาอย่างท้าทาย มือน้อยลูบแผงอกหนาปลายนิ้วคีบจุกหัวนมของเขาคลึงขยี้เบาๆ หยอกเย้าเขาก่อน“ข้าจะกินเจ้าทั้งตัว กินจนกว่าเจ้าจะร้องวอนขอให้ข้าพอ”อีกฝ่ายสิ้นความอดทนก้มลงประกบปากจุมพิตจนนางครางเสียงสั่น ก่อนจะหันมาก
ความรักทำให้สองหนุ่มสาวมีแรงใจในการเดินทางไปยังแคว้นหยาง ทั้งสองเลือกเดินทางในเวลากลางคืนและหาที่พักในช่วงกลางวัน จนผ่านไปสามวันก็เดินทางมาถึงเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง เซียวเหวินอี้นำเครื่องประดับที่ติดตัวมาไปขาย ได้เงินมาซื้อม้าและเสบียงในการเดินทาง ทำให้สบายกว่าเดินด้วยเท้าอย่างเมื่อสามวันก่อน ทั้งสองได้ขอร่วมเดินทางไปกับกองคาราวานสินค้าที่กำลังมุ่งตรงไปยังแคว้นหยาง หัวหน้ากองคาราวานเป็นชาวแคว้นจ้าวเพิ่งเดินทางมาถึงที่นี่ ได้เล่าให้เซียวเหวินอี้ฟังว่าตอนนี้เสนาบดีหลิงฟานได้สถาปนาตัวเองเป็นฮ่องเต้แทนฮ่องเต้องค์เดิม และประกาศให้ชาวเมืองรู้ว่าฮ่องเต้องค์เดิมได้สิ้นพระชนม์ลงด้วยโรคสตรีจากการมั่วกาม ไม่มีรัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ เสนาบดีหลิงฟานจึงขึ้นครองบัลลังก์แทน“ไอ้เสนาบดีหลิงฟานมันช่างเลวนัก แย่งชิงบัลลังก์ข้าไปไม่พอ ยังกล่าวหาว่าข้าตายเพราะโรคสตรี หากข้าจับมันได้ข้าจะจับมันสับเป็นหมื่นๆ ชิ้น”เซียวเหวินอี้กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ได้แต่ก่นด่าคนทรยศอย่างเจ็บแค้น มันจะประกาศว่าเขาตายเพราะสาเหตุอื่นที่ดูดีกว่านี้ก็ไม่ได้ มายัดเยียดให้เขาตายด้วยโรคจากสตรี ช่างกล่าวหากันได้อย่างน่าอดสูนัก“ฮ
“มันร้อนและแข็งมาก ตอนนี้มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แล้ว โอ๊ะ มันมีน้ำซึมออกมาตรงส่วนปลายด้วย ข้าเลียมันได้ไหม”จิ้งจอกสาวทำตามคนสอน แล้วเริ่มสังเกตเห็นส่วนปลายของลำกายของเขามีน้ำซึมออกมา ในความรู้สึกของนางเกิดอยากจะเลียมันขึ้นมา อยากทำแบบเดียวกับที่เขาไล้เลียนางบ้าง ไม่รอให้เขาตอบหูไป่ฮวาก็ตวัดปลายลิ้นเล็กของตัวเองเลียส่วนปลายสีชมพูเข้มของเขาไปมา รสชาติของน้ำรักที่ติดอยู่ตรงส่วนปลาย ช่างให้ความรู้สึกแปลกๆนางเคยได้ยินพวกจิ้งจอกรุ่นพี่เล่าว่า น้ำรักของเซียนจิ้งจอกจะทำให้อำนาจเวทมนตร์เพิ่มขึ้น น้ำรักของจ้าวปีศาจก็เช่นเดียวกันทำให้มีฤทธิ์อำนาจมากมาย แต่น้ำรักของมนุษย์ผู้ชายจะทำให้มีเรี่ยวแรงมากขึ้นและทำให้จิ้งจอกสาวผุดผ่องสวยเปล่งปลั่งกว่าเดิม ปากเล็กค่อยๆ อมความใหญ่โตเข้าไปในโพรงปากทีละน้อย ดูดมันแรงๆ จนแก้มตอบแล้วก็รูดมันขึ้นลง ปลายลิ้นห่อรัดไปบนปลายยอดบานๆ ราวดอกเห็ดนั้น“อู้ว เอามันเข้าไปในปากสวยๆ ของเจ้า อ่าซ์... ยอดเยี่ยมมาก ดูดแรงๆ เลย โอ้ว...”เซียวเหวินอี้เอ่ยชมจิ้งจอกของเขาด้วยความพอใจ นางช่างหัวไวและเก่งขึ้นเรื่อยๆ เขาแทบไม่ต้องสอนมากนางก็ทำเป็นและทำเก่งจนเขาแทบขาดใจคาปากร้อนๆ ของนา
Comments