นางจิ้งจอกสาวบำเพ็ญตบะมาห้าร้อยปีจนกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ เพื่อให้คงความอมตะ จึงต้องดูดพลังชีวิตของบุรุษ นางจึงใช้ร่างกายงดงามของนางยั่วยวนเหยื่อ ให้หลงเสน่ห์ จนกลายเป็นทาสสวาท! (เป็นเรื่องราวของนางจิ้งจอกสาวสี่นาง กับบรรดาหนุ่มๆ ที่กลายเป็นทั้งเจ้านาย คนรัก จ้าวหัวใจ)
View More“หากเจ้ากล้าแลกทุกอย่างตามที่ท่านจิ้งจอกต้องการ เจ้าจะได้สมปรารถนา แต่ข้าขอเตือนไว้ก่อนนะ เจ้าต้องเลือกให้ดีๆ ว่าต้องการอะไร พรจากจิ้งจอกมันมาพร้อมกับคำสาป หากเจ้าเลือกผิดชีวิตก็จะพบกับความวิบัติ ข้าเตือนเจ้าได้เท่านี้”
จงเหลียงบอกกับหม่าจิ้งหยวน ก่อนจะนำทางสหายรักมายังถ้ำแห่งความลับซึ่งอยู่ด้านหลังศาลเทพธิดาจิ้งจอก ที่แห่งนี้เป็นที่กราบไหว้บูชาตั้งขึ้นโดยผู้ศรัทธาในเทพธิดาจิ้งจอก และผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะทำหน้าที่สื่อสารกับเทพธิดาจิ้งจอก
จงเหลียงเป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือก เขาได้รับโอกาสขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอก และได้รับพรนั้นจนทำให้ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนยากไร้เขาได้กลายมาเป็นคหบดีของเมือง ในที่สุดได้เป็นผู้ดูแลศาลเทพธิดาจิ้งจอก มีชีวิตที่สุขสบายและยังคงเก็บรักษาความลับเรื่องการขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอกเอาไว้ หม่าจิ้งหยวนเคยมีบุญเจ้าช่วยจงเหลียงไว้ครั้งหนึ่งในตอนที่อีกฝ่ายยากจน ดังนั้นเพื่อตอบแทนบุญเจ้าจงเหลียงจึงบอกความลับเรื่องเทพธิดาจิ้งจอกให้หม่าจิ้งหยวนรับรู้ จงเหลียงปล่อยให้สหายเข้ามาภายในถ้ำแห่งนี้ เพื่อขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอกด้วยตนเอง
“ข้าต้องได้ในสิ่งที่อยากได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ข้าจะแลกทุกอย่าง”
หม่าจิ้งหยวนบอกกับตัวเอง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืน ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาพาตัวเองเข้าไปด้านในลึกขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่รออยู่จะน่ากลัวแค่ไหน ขอเพียงมันสามารถทำให้เขาสมปรารถนา เขายินดีเผชิญหน้ากับมัน
เขาดั้นด้นมาที่นี่เพราะความปรารถนาส่วนตัวที่ไม่อาจไขว่คว้ามาได้ง่ายๆ หวังเพียงปาฏิหาริย์บางอย่างจากสิ่งที่อยู่ภายในถ้ำ จะช่วยให้เขาสมหวัง และเขาเคยเห็นคนที่สมหวังเพราะมันมาแล้ว นั่นก็คือจงเหลียงสหายของเขา
บรรยากาศภายในถ้ำจิ้งจอกแห่งนี้ ช่างวังเวงชวนขนลุกไม่น้อย หากจิตไม่แข็งก็ยากจะพาตัวเองก้าวเข้ามาด้านในไหว เมื่อเขาตัดสินใจแล้วว่าต้องขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอก เขาต้องไม่กลัวอะไร หม่าจิ้งหยวนสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ก้าวขาเดินต่อไปอย่างมุ่งมั่น
ในที่สุดเขาก็เดินมาถึงโถงถ้ำด้านใน ซึ่งกว้างขวางแตกต่างจากทางเข้ามากนัก ผนังถ้ำมีคบไฟติดไว้จนทั่ว ทำให้โถงถ้ำสว่างจนมองเห็นบริเวณนั้นชัดเจน ตรงมุมด้านในสุดมีม่านสีดำโปร่งบางกางกั้นไว้หลายชั้น แต่สายตาของเขาก็สามารถมองเห็นด้านในได้สลัวลาง หลังม่านกั้นมีเตียงวางไว้ บนเตียงมีร่างระหงของสตรีคนหนึ่งนั่งทอดกายเอนอิงหมอนใบใหญ่ นางสวมเสื้อผ้าโปร่งบางสีดำไม่ต่างกับผ้าม่าน ชุดของนางกรุยกรายยาวระพื้น ทว่าเจ้าตัวกับแหวกช่วงกระโปรงให้ผ่ากว้างอวดเรียวขาสวย จากที่เห็นลางๆ รูปร่างของคนที่นั่งอยู่บนเตียงงดงามไม่น้อย ขาขาวเรียวยาวเอวคอดกิ่ว ข้ายาวสลวยสีดำสนิทเงางามราวกับขนกายาวระแผ่นหลังบอบบาง หม่าจิ้งหยวนเขม้นมองลอดผ่านผ้าม่านโปร่งเข้าไป แต่ไม่อาจมองเห็นใบหน้าของสตรีผู้นั้นชัดเจนเพราะอีกฝ่ายใช้ผ้าคลุมหน้าไว้ครึ่งหน้า เขาดับคบไฟเมื่อเห็นว่าที่นี่สว่างมากพอ ร่างกำยำทรุดกายนั่งลงคุกเข่าด้านหน้าม่าน
“ท่านคือ ท่านเทพธิดาจิ้งจอกใช่หรือไม่ ข้าชื่อหม่าจิ้งหยวน เป็นเพื่อนของจงเหลียง ที่เคยมาขอพรจากท่านเทพธิดาจิ้งจอกเมื่อ สี่ปีก่อน จงเหลียงแนะนำให้ข้ามาขอพรจากท่านเทพธิดาจิ้งจอกขอรับ”
หม่าจิ้งหยวนค้อมศีรษะทำความเคารพเทพธิดาจิ้งจอกสาว ที่นั่งอยู่หลังม่าน เขาเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงกะพรวนดังกรุ๋งกริ๋งแว่วมา ร่างอรชรขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งจากนั่งเหยียดเท้า มาเป็นนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง กระโปรงผ่าคลุมเรียวขายาวขาวผ่องแทบไม่มิด คนเห็นลอบกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว ความหวั่นเกรงในตอนแรกเลือนหายไป เหลือเพียงความตื่นเต้นที่ได้พบกับเทพธิดาจิ้งจอกสาวตัวเป็นๆ ดวงตาคมจดจ้องเรือนร่างงามล่มเมืองนั้นแทบไม่วางตา
แม้ไม่ได้เห็นหน้าชัดๆ ไม่ได้มองเรือนร่างเต็มตาเพราะมีม่านกั้น เขาก็รู้สึกแข็งชันจนปวดร้าวไปหมด
แค่นางขยับตัวนิดเดียว คนเห็นแทบคุมตัวเองไว้ไม่ไหว ถ้าเห็นชัดๆ ได้จับตัวเป็นๆ สวรรค์คงลอยมาหาเขาแล้ว หม่าจิ้งหยวนกลืนน้ำลายหลายอึก สายตาจ้องมองเรือนร่างงดงามแทบไม่กะพริบตา
“เจ้าชื่อหม่าจิ้งหยวนหรือ”
เสียงหวานใส ดั่งระฆังแก้วเอ่ยถาม คนฟังขนลุกซู่ จินตนาการไปถึงริมฝีปากจิ้มลิ้มของคนพูด นึกถึงรสหวานของมันทั้งที่ยังไม่ได้เห็นของจริง
“ขอรับ ท่านเทพธิดาจิ้งจอก” หม่าจิ้งหยวนพยักหน้ารับ
“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะเรียกเจ้าว่าจิ้งหยวน ข้าชื่อหูหลินหลินเจ้าก็เรียกข้าว่าแม่นางหู ห้ามเรียกท่านเทพธิดาจิ้งจอกอีก ข้าเพิ่งได้รับตำแหน่งได้เพียงเดือนเดียว และเจ้าคือคนแรกที่มาขอพรกับข้า”
จิ้งจอกสาวหัวเราะเสียงใส เมื่อนึกถึงท่านเทพธิดาจิ้งจอกคนก่อน ซึ่งถูกปลดจากการเป็นเทพธิดาจิ้งจอกเมื่อสองเดือนก่อนตามพันธสัญญา ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกมาเป็นเทพธิดาจิ้งจอกต้องทำหน้าที่นี้ครบหนึ่งร้อยปีถึงจะปลดระวาง จิ้งจอกสาวที่ได้รับตำแหน่งเทพธิดาจิ้งจอก สามารถให้พรมนุษย์ที่มาขอพรได้เพียงเก้าคนเท่านั้น ผู้ที่ได้รับพรก็จะได้สมปรารถนาในสิ่งที่ขอเป็นเวลาสี่ปี พรจะเสื่อมไปเมื่อมีคนใหม่มาขอพร ซึ่งจงเหลียงคือคนที่เก้าที่มาขอพรเทพธิดาจิ้งจอกคนก่อน เขาส่งหม่าจิ้งหยวนมาเป็นคนแรกที่จะได้รับพรจากนาง เขาจะได้รับสิ่งที่เขาปรารถนาสองข้อเป็นเวลาสี่ปี
“นับเป็นเกียรติกับข้าขอรับ แม่นางหู”
หม่าจิ้งหยวนเรียกชื่อจิ้งจอกสาวตามที่นางบอกให้เรียก เขาไม่กล้าขัดใจนางเพราะยังไม่ได้ขอพร
“เจ้าอยากขอสิ่งใด ข้าจะได้บอกวิธีขอพรให้เจ้ารู้ว่า ต้องแลกกับสิ่งใดเพื่อพรข้อนั้น”
หูหลินหลินเอ่ยถาม พลางจ้องมองบุรุษหนุ่มผ่านม่านบาง พินิจพิจารณาเขาอย่างสนใจ หม่าจิ้งหยวนรูปร่างสูงใหญ่กำยำราวกับนักรบ จิ้งจอกสาวเขม้นมองใบหน้าของเขาอย่างพอใจ เขารูปงามทีเดียวหล่อเหลากว่าพวกจิ้งจอกหนุ่มในดินแดนของนางเสียอีก
มนุษย์หล่อแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าหนอ ข้าชักอยากเห็นมนุษย์คนอื่นๆ บ้างแล้ว
มนุษย์จะมีความสามารถบางอย่างเทียบเท่าจิ้งจอกหนุ่มหรือเปล่า หรือว่ามีมากกว่าน้อยกว่า ชักอยากลองเสียแล้วสิ
หูหลินหลินรู้สึกเสียววูบในช่องท้อง กายสาวเต้นตุบกระหายบางสิ่งที่ร้างรามานับเดือน ตั้งแต่ถูกส่งตัวมาที่ที่ดินแดนของมนุษย์แห่งนี้
หนึ่งเดือนที่ผ่านมานางต้องนั่งๆนอนๆ อยู่ในถ้ำรอคอยคนมาขอพร ช่างน่าเบื่ออะไรเช่นนี้ จะหนีกลับหุบเขาหูเทียนก็ทำไม่ได้ หากให้พรคนขอคนแรกสำเร็จ นางจะมีโอกาสได้หลอกล่อให้เขา กลายเป็นเหยื่อของนาง
“โม่ชาง ดูดแรงๆ ข้าชอบ”หว่านอิงร้องคราง แอ่นอกให้เขาดื่มกินอย่างลืมตัว“ท่านหวานเหลือเกิน”โม่ชางดูดดื่มทรวงอวบจนหนำใจก็คายริมฝีปากออก ขยับเลื่อนลงไปด้านล่าง ปาดลิ้นไล้เลียไปบนผิวนุ่มจนไปถึงบุปผาสาวที่กำลังฉ่ำเยิ้ม ปลายลิ้นร้อนตวัดไล้บนกลีบบุปผางามสีชมพูสวย กวาดน้ำหวานเข้าไปในปากดื่มกินอย่างหื่นกระหาย จนเจ้าของกุหลาบถึงกับครางฮือ ยกสะโพกลอยจากพื้นให้เขาดื่มกินเต็มที่ จิ้งจอกหนุ่มห่อปลายลิ้นจุ่มจ้วงเข้าไปค้นหาน้ำผึ้งหวาน ละเลงลิ้นจนจิ้งจอกสาวบิดกายไปมาด้วยความซ่านสยิว“อ๊ะ โม่ชาง เจ้าหื่นมากไปแล้วนะ ไหนว่าไม่เคยเสพสมมาก่อน ทำไมถึงเก่งแบบนี้”หว่านอิงสูดปากครางครวญด้วยความเสียว ยามเมื่อปลายลิ้นร้อนๆ แหย่แยงเข้ามาภายใน มันทั้งเสียวทั้งขนลุกเกรียวไปทั้งตัว จนนางต้องแอ่นกายกดศีรษะเขาให้เข้ามาแนบชิดมากขึ้น“โม่ชาง ข้าทนไมไหวแล้ว ซี๊ดดด”ดวงตาหรี่ปรือ กัดริมฝีปากแน่น เสียงหวานครางครวญเร้ารัญจวน ท่าทางของนางเร่งเร้าให้เขาเร่าร้อนเพิ่มขึ้นจนปวดหนึบไปทั้งแท่งหยก“จิ้งจอกสาวของข้า เจ้าต้องการข้าหรือไม่”เขาถามเสียงกระเส่า ปลายจมูกถูไถบนปุ่มเกสรสาว ขณะตวัดปลายลิ้นละเลงรัวถี่ยิบ“ข้าต้องการเจ้า
“ข้าจะหันไป เมื่อท่านตั้งชื่อให้ข้าแล้วเท่านั้น” เขาไม่ยอมหันมา“เจ้าอย่ามาเล่นตัว โยกโย้ให้เสียเวลาเลย ข้าไม่มีอารมณ์เล่นสนุกนะ”หว่านอิงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา อีกฝ่ายยักท่าน่ารำคาญ ไม่สนใคร่รู้อยากจะเสพสมกับนางเหมือนจิ้งจอกหนุ่มน้อยคนอื่นๆ ที่นางเคยสั่งสอน“ข้าจะไม่ตั้งชื่อให้เจ้า และจะไม่เปิดพรหมจรรย์ให้เจ้าด้วย จงเปิดพรหมจรรย์กับหูเจียวเถอะ”หว่านอิงหมดอารมณ์จะต่อความ นางไม่ปรารถนาทำหน้าที่นี้อีกแล้ว ฝืนใจก็ทำไม่ได้ นางควรบอกเซียนจิ้งจอกตามตรงดีกว่าฝืนใจทำ แล้วจะเกิดผลกระทบต่อจิ้งจอกหนุ่มที่นางต้องเปิดพรหมจรรย์ แทนที่เขาจะชอบการเสพสมเขาอาจจะเกลียดการเสพสมไปเลย“ท่านหูเจียวเคยมาเปิดพรหมจรรย์ให้ข้า แต่ข้าไม่ปรารถนาให้นางเปิดพรหมจรรย์ให้ ข้าต้องการให้ท่านเป็นผู้เปิดพรหมจรรย์และสั่งสอนให้ข้าเรียนรู้การเสพสม ในฐานะจิ้งจอกหนุ่มแห่งหุบเขาหูเทียน”จิ้งจอกหนุ่มหันกลับมาแล้วส่งยิ้มให้จิ้งจอกสาว หว่านอิงนิ่งงันเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มตา บุรุษที่อยู่ตรงหน้าของนางทำไมถึงคล้ายกับโม่ชางราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงเหมือนโม่ชางของข้า”หว่านอิงถามเสียงสั่น หัวใจเต้นรัวด้วยควา
“ข้าเพิ่งรู้ว่า รสสวาทที่ไม่ได้มาจากความรัก มันไม่มีความหมายต่อข้า ข้าเสพสมกับบุรุษร้อยพันครั้ง ก็ไม่มีความสุขเท่ากับอยู่กับเจ้าเพียงคืนเดียว”หว่านอิงคร่ำครวญถึงความรักที่นางเพิ่งรู้จัก เมื่อก่อนนางคิดว่าการได้เสพสมกับบุรุษคนไหนล้วนไม่ต่างกัน มีความสุขเร่าร้อนในรสสวาทก็เพียงพอแล้ว แต่ความสุขสมจากรสรักที่มีความรักรวมอยู่ด้วย มีความอิ่มเอมสุขล้นทั้งร่างกายและหัวใจ“อีกนานแค่ไหน ที่ข้าจะหายจากความทรมานนี้ โม่ชางข้ารักเจ้า ข้าอยากให้เจ้ามาอยู่ข้างกายข้า”หว่านอิงร้องไห้ด้วยความทุกข์ทนจนหลับใหลไป โดยไม่รู้ว่าเซียนจิ้งจอกหนุ่มกับเซียนจิ้งจอกสาวได้ปรากฎกายขึ้นข้างเตียงของนาง“หว่านอิงอาการหนักมาก นางทุกข์ทนจากการสูญเสียโม่ชาง จนนางไม่ต้องการอะไรอีกต่อไป”เซียนจิ้งจอกสาวรู้สึกสงสารและเห็นใจหว่านอิงมาก อีกฝ่ายเพิ่งรู้จักความรักเป็นครั้งแรก แต่ก็สูญเสียชายคนรักไปโดยไม่ทันได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข“ข้าเคยบอกว่าจะมอบสิ่งที่นางปรารถนาให้ หากนางรู้จักความรัก ตอนนี้ข้าคิดว่าหว่านอิงได้รู้จักความรักที่แท้จริงแล้ว”เซียนจิ้งจอกหนุ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย ทำให้เซียนจิ้งจอกสาวรู้สึกสงสัย ก่อนจะยิ้มออกเมื
เซียนจิ้งจอกสาวพาหว่านอิงกลับมายังปราสาทในหุบเขาหูเทียน จิ้งจอกสาวยังคงมีท่าทางอ่อนล้าใบหน้าหมองเศร้า“อย่าลืมว่าเจ้ายังทำหน้าที่ของเจ้าไม่เสร็จ จงนำอัญมณีทั้งห้าไปมอบให้เซียนจิ้งจอกหนุ่มเสียเถิดหว่านอิง”เซียนเตือนจิ้งจอกสาวให้รู้จักหน้าที่ของตนเอง หว่านอิงสูดลมหายใจแรงๆ เรียกกำลังใจให้คืนกลับมา แล้วเดินตามเซียนจิ้งจอกสาวไปเฝ้าเซียนจิ้งจอกหนุ่ม“เซียนจิ้งจอกข้านำอัญมณีทั้งห้า มามอบให้ท่านตามคำบัญชาแล้วเจ้าค่ะ”หว่านอิงถวายคฑาวิเศษให้เซียนจิ้งจอกเซียนรับคฑาพร้อมอัญมณีวิเศษมาเก็บไว้ ก่อนจะเอ่ยว่า“หว่านอิง เจ้าทำภารกิจสำเร็จตามที่ข้าบัญชา ดังนั้นข้าจะมอบวิเศษให้เจ้าหนึ่งข้อ และทำตามความปรารถนาของเจ้า” เซียนจิ้งจอกหนุ่มเดินมาแตะไหล่ของจิ้งจอกสาว ยิ้มให้นางอย่างใจดี “เจ้าเคยปรารถนาจะครองคู่กับจิ้งจอกหนุ่มหูอวี้ ข้าจึงมอบภารกิจให้เจ้าทำ แต่ตอนนี้จิ้งจอกหนุ่มหูอวี้ได้มีคู่ครองแล้ว เขากลับมาพร้อมกับผู้วิเศษสาวนามว่าเซี่ยหลิน ตามกฎของหุบเขาหูเทียน จิ้งจอกหนุ่มจิ้งจอกสาวสามารถครองคู่ได้แค่ครั้งเดียว ข้าคงทำตามความปรารถนานี้ของเจ้าไม่ได้แล้ว จงเลือกจิ้งจอกหนุ่มตนอื่นหรื
“หว่านอิง ขอเพียงเจ้าสมปรารถนา ข้ายินดีทำเพื่อเจ้า”โม่ชางเหาะตรงไปหาร่างของเว่ยเช่า เขารวบรวมพลังเวทย์สร้างเกราะแก้วกำบังความร้อน แล้วลอยพุ่งเข้าไปในปากของปีศาจร้าย ความร้อนจากลาวาภายในกายของปีศาจภูเขาไฟ กำลังค่อยๆ ทำลายเกราะทีละน้อย ลาวาเพลิงสีแดงร้อนจัดเกิดจากอำนาจของอัญมณีแห่งเพลิง สามารถทำลายล้างทุกสิ่งบนโลกนี้ได้ ถึงเขาจะมีร่างกายทำจากดินเหนียว เพลิงก็สามารถเผาผลาญทำลายจนสิ้นซากได้ โม่ชางเข้าไปในในร่างของเว่ยเช่าลึกลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงกลางร่างของมัน ตรงหัวใจของปีศาจร้ายมีอัญมณีสีแดงเกาะติดอยู่ นั่นคืออัญมณีแห่งเพลิงนั่นเอง“หว่านอิง ข้าเจออัญมณีแห่งเพลิงแล้ว”โม่ชางเหาะตรงไปแล้วใช้คฑาวิเศษดูดอัญมณีแห่งเพลิงเอาไว้ เมื่ออัญมณีหลุดออกจากหัวใจ ร่างกายของเว่ยเช่าก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ลาวาเพลิงระเบิดเป็นไฟแผดเผาร่างของมันจนกลายเป็นเถ้า และได้ทำลายร่างของโม่ชางไปด้วย เขาทนฝืนเก็บพลังชีวิตเฮือกสุดท้ายเหาะหนีออกมาหาจิ้งจอกสาว“หว่านอิง… ข้าทำสำเร็จแล้ว”โม่ชางหายเข้ามาในลูกบอลแก้วด้วยสภาพร่างกายมีรอยไหม้ทั้งตัว เขาร่ายเวทย์ปลดปล่อยจิ้งจอกสาวให้ขยับตัว ก่อนจะทรุดลงไปกองกับพื้น หว่านอ
“มันไม่สะเทือนเลย”หว่านอิงพยายามใช้พลังเวทย์ พุ่งเข้าใส่ปีศาจร้ายอีกครั้งแต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น“ร่างกายของมันเป็นภูเขาหิน พลังเวทย์ทำอะไรมันไม่ได้หรอกขอรับนายหญิง เราต้องหาวิธีอื่นทำลายมัน”โม่ชางมองเจ้าปีศาจภูเขาไฟอย่างครุ่นคิด ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก“นายหญิงลองใช้พลังจากอัญมณีแห่งโชคชะตา ดึงเอาเรื่องราวของมันออกมา บางทีเราอาจจะรู้จุดอ่อนของมันก็ได้”“ได้ ข้าจะลองดู ด้วยอำนาจของอัญมณีแห่งโชคชะตา จงบันดาลให้ข้าเห็นทุกสรรพสิ่งในชีวิตของเจ้าปีศาจภูเขาไฟเว่ยเช่า บัดเดี๋ยวนี้”หว่านอิงยกคฑาขึ้นร่ายเวทย์ ช้พลังอำนาจจากอัญมณีแห่งโชคชะตา ลำแสงสีฟ้าจากไพลินก็พุ่งเข้าใส่ร่างของปีศาจภูเขาไฟ แล้วดูดดึงทุกเรื่องราวในชีวิตของมันให้รวมเป็นดวงแก้วสีฟ้าใส ลอยกลับมาหาจิ้งจอกสาว หว่านอิงแตะมือที่ดวงแก้วพลัน! ภาพต่างๆ ในอดีตของเว่ยเช่าก็ปรากฎขึ้นในหัวในอดีตเว่ยเช่าคือน้องชายฝาแฝดของเว่ยหยางผู้ครองดินแดนเตี้ยน เว่ยหยางได้รับอัญมณีแห่งเพลิงจากฮ่องเต้องค์เก่า และได้ครองบัลลังก์ดินแดนเตี้ยน โดยเว่ยเช่าได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพคอยปกป้องราชบัลลังก์ สองพี่น้องรักใคร่กันดี จนกระทั่งองค์หญิงผิงอันได้เข้ามา นาง
Comments