“เข้าไม่ได้นะครับ ห้องนี้มีคนใช้บริการแล้วครับ”
“เด็กกูถูกมอมยาอยู่ในรถคันที่แล่นเข้าไปเมื่อกี้”
“เอ่อ...” พนักงานดูลังเล เพชรนิลจึงย้ำให้มันรู้ว่าถ้าไม่เปิดหายนะได้มาเยือนโรงแรมแน่
“ถ้าเด็กกูเป็นอะไรไปแม้แต่ปลายก้อย กูจะเผาโรงแรมนี้ทิ้ง” เพชรนิลผลักพนักงานโรงแรมออก แล้วเปิดม่านวิ่งเข้าไป เขาทันเห็นตอนที่ประตูปิดลง ไอ้หนุ่มนั่นอุ้มหนูจ๋าเข้าไปในห้องแล้ว
“เชี่ย!” เขาปรี่เข้าไปทั้งทุบทั้งถีบประตูด้วยความร้อนใจ
“เปิดประตู กูบอกให้เปิดประตู” เสียงทุบประตูและเสียงตะโกนดังลั่นของเขาทำให้คนในห้องเปิดประตูออกมา
“มีอะไรครับ” มันแง้มประตูโดยที่ไม่ปลดโซ่คล้อง
“หนูจ๋าล่ะ” เพชรนิลตะคอกถาม อีกฝ่ายทำหน้าตาเลิ่กลั่กไม่ตอบคำถาม แถมยังรีบปิดประตูใส่หน้าเขาด้วย เพชรนิลยิ่งโกรธเลือดขึ้นหน้า เขาทั้งทุบประตูทั้งตะโกนเรียกอีกหลายครั้งมันก็ไม่ยอมเปิด เขาจึงรีบวิ่งออกไปหาพนักงานโรงแรม
“เอากุญแจมา!”
“เอ่อ...ไม่ได้ครับ”
“กูบอกให้เอากุญแจห้องมา!” เมื่อขอดีๆไม่ให้ เขาก็ชักปืนที่เหน็บเอวออกมาขู่ เขาไม่อยากทำแบบนี้ แต่เขาไม่อยากรอเวลาแล้ว ยิ่งป
เพชรนิลมาถึงก่อน เขาเริ่มปิ้งย่างไปบางส่วนรอเธอแล้ว"กุ้ง!!!" หนูจ๋ามองกุ้งตัวโตที่วางอยู่ในจานบนโต๊ะอย่างตื่นเต้น"หนูกินได้เลยไหมคะ" เพราะกลัวเขาจะหาว่าพอลงมาก็กินทันทีโดยไม่ทำอะไรเลย หนูจ๋าเลยต้องถามคนย่างกุ้งก่อน"กินได้เลยครับพี่ ย่างไว้รอหนูจ๋านั่นแหละ"หนูจ๋ายิ้มดีใจ รีบนั่งลงแล้วเลื่อนจานกุ้งเข้ามาใกล้ หญิงสาวแกะกุ้งวางไว้ในจาน แต่ยังไม่ยอมกิน คนที่กำลังย่างอาหารทะเลอย่างอื่นอยู่บนเตาหันไปมองแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย"แกะแล้วทำไมไม่กินล่ะครับ""หนูรอพี่กระต่ายมากินพร้อมกันค่ะ" หนูจ๋าตอบแล้วยิ้มหวานให้เขา"กินก่อนพี่เลยครับไม่ต้องรอ พี่ย่างปูสุกแล้ว เดี๋ยวพี่ไปนั่งกินด้วย""ไม่เอาค่ะ รอกินพร้อมกันดีกว่า เมื่อกี้หนูแอบกินรองท้องไปแล้ว สองตัว พี่กระต่ายไม่ต้องห่วงกลัวว่าหนูจะหิวจนเป็นลมนะคะ"กระต่ายน้อยยิ้มเอ็นดูคนที่นั่งแกะกุ้งจนใกล้จะหมดจานแล้ว ปกติถ้าไปกับสาวๆ พวกนั้นมักจะรอให้เขาแกะกุ้งบริการพวกหล่อน อ้อนให้เขาทำนู่นทำนี่ให้สารพัด แต่หนูจ๋ากลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอทำเองทุกอย่าง และทำเผื่อเขาด้วย แฟนใครนะน่ารักจริง
“พี่กระต่ายว่าอะไรนะคะ” ที่จริงหนูจ๋าได้ยินเต็มสองหู เพียงแต่เธออยากได้ยินอีกครั้งให้แน่ใจว่า ที่เขาพูดมานั้นไม่ได้พูดมาเพราะต้องการให้หายงอน“พี่บอกว่า พี่รักหนู” เพชรนิลพูดยิ้มๆ เขาปรายตามองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปตั้งใจขับรถเหมือนเดิมคำบอกรักเต็มสองหูทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็ว ใบหน้าเนียนใสแดงก่ำ แดงไปถึงใบหูคนเพิ่งบอกรักสาวไปเหลือบมองแล้วยิ้มเอ็นดู ก็น่ารัก น่าฟัดขนาดนี้ใครจะอดใจไหว เขาคิดว่า เขาตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจังแล้วล่ะ“ขี้แกล้งตลอดเลย” หนูจ๋าอุบอิบว่าแล้วขยับตัวนั่งตรง หญิงสาวเม้มปาก ปรายตามองเขาเป็นระยะ“ชอบว่าพี่แกล้งดีนัก เดี๋ยวก็แกล้งจริงๆซะหรอก” กระต่ายน้อยขู่สาว“นี่ยังไม่เรียกว่าแกล้งอีกหรือคะ” หนูจ๋าว่างอนๆ“ยังครับ เพราะถ้าพี่แกล้ง พี่ไม่แกล้งแบบเด็กๆหรอก พี่จะแกล้งแบบผู้ใหญ่แกล้งกัน”ตาคมปลาบเหลียวมองเธอแวบหนึ่ง เป็นช่วงเวลาที่หนูจ๋าหันไปมองเขาพอดี หญิงสาวร้อนวาบไปทั้งใบหน้า เธอพอเข้าใจความหมายของการแกล้งแบบผู้ใหญ่ที่เขาว่า“ก็ลองแกล้งดูสิคะ หนูจ๋าจะฟ้องพ่อจ๋า”คนที่ต่อว่าต่อข
ณ คอนโดหรูแห่งหนึ่งกลางเมืองกรุง คนที่เพิ่งขอคบสาวเป็นแฟนครั้งแรกในชีวิตนอนยิ้มกับเพดาน โคมไฟ ประตู หน้าต่าง ผ้าม่านนัยน์ตาเลื่อนลอยมองเห็นอะไรก็ยิ้มไปหมดใบหน้าสวยหวานวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึงกลิ่นอายหอมละมุนยังผลให้เผลอสูดลมหายใจยาว แล้วพริ้มตาหลับลงอย่างสุขใจ“มีแฟนแล้วนะโว้ย! ไอ้กระต่ายน้อย” เพชรนิลบอกตัวเองยิ้มๆแต่...มีแฟนแล้ว งั้น...ต่อไปนี้ก็ห้ามไปกุ๊กกิ๊กกับใครต้องเคลียร์ตัวเองเพื่อน้องสิ แล้วเตียงนี้ผ่านสมรภูมิมาโชกโชนเกินไปไม่คู่ควรกับหนูจ๋าเลย ซื้อคอนโดใหม่เลยดีไหมวะ หรือจะรื้อที่นี่ทำใหม่ทั้งหมด ควรบอกพ่อกับแม่ให้ไปขอหมั้นน้องไว้ก่อนดีไหม หรือควรปิดเป็นความลับไปก่อน ไม่ได้สิต้องให้เกียรติน้อง แล้วเราต้องไปแนะนำตัวเองกับพ่อแม่น้องไหม ฉิบหายล่ะ...แก่กว่าน้องตั้งหลายปี แบบนี้พ่อกับแม่เขาจะไม่แจ้งความจับข้อหาพรากผู้เยาว์เหรอวะ เฮ้อ!...มีแฟนเป็นตัวเป็นตนทั้งทีทำไมมันดูยากเย็นอย่างนี้วะหลังจากนอนคิดโน่นคิดนี่กังวลใจเรื่องโน้นเรื่องนี้หลายอย่าง ทุกเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับหนูจ๋าทั้งนั้น กระทั่งคิดไปถึงเรื่องที่เธอจะต้องกลับไปอยู่บ้านช่วงปิดเทอม เพชรนิล
หนูจ๋ายืนนิ่งตัวแข็งทื่อ หญิงสาวเบิกตากว้าง หัวใจเต้นระรัวแรง กระต่ายน้อยยิ้มกรุ้มกริ่มใส่นัยน์ตาที่เบิกกว้าง เขาใช้นิ้วหัวแม่มือไล้กลีบปากอิ่มสีเรื่อไปมา “ที่จริงอยากจูบ แต่ยังดีกว่า พี่ให้เวลาหนูจ๋าทำใจอีกหน่อย แล้วค่อยสอนวิธีจูบ” หนูจ๋าเม้มปากแน่น มองค้อนคนอยากตั้งตัวเป็นอาจารย์สอนจูบ แต่เมื่อเขายังมองปากเธอด้วยสายตาปรือปรอย หญิงสาวก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ ก่อนพูดเสียงอู้อี้ว่า “ใครเขาอยากเรียนวิธีจูบกันเล่า” หนูจ๋ายิ้มเขินเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อช่วงหัวค่ำ หญิงสาวเผลอยกนิ้วขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเองเบาๆ ตอนที่พี่กระต่ายจุ๊บปากเธอนั้น เธอรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้น ปากของเขานุ่มและร้อนผ่าว ตอนถูกหอมแก้มไม่เห็นจะวูบวาบเท่าโดนจุ๊บปากเลย นี่ถ้าเขาจูบเธอขึ้นมาจริงๆ มันจะรู้สึกดีเท่าจุ๊บปากกันเฉยๆไหมนะ เมื่อคิดถึงตอนนี้หนูจ๋าก็เอาหมอนมาปิดหน้าตัวเองอีกครั้ง ก่อนกรีดร้องด้วยความขัดเขิน แม้เธอจะจำได้เลือน
เพชรนิลไม่รั้งคนเขินไว้ เขามองเธอลุกเดินเข้าไปในครัว ก่อนลุกเดินตามไป“หนูจ๋า”“คะ” หนูจ๋าสะดุ้งตกใจ วางเหยือกน้ำและแก้วในมือลง แล้วรีบหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนที่ตามเธอเข้ามาถึงในห้องครัว“พะ…พี่กระต่ายอยากได้อะไรหรือเปล่าคะ”กระต่ายน้อยยิ้มกรุ้มกริ่ม ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ หนูจ๋าถอยหลังหนี จนสะโพกชนกับเคาน์เตอร์ ไม่มีที่ให้เธอขยับหนีได้อีก หญิงสาวจึงยืนนิ่งสองแขนแนบลำตัว จ้องหน้าเขาด้วยดวงตาตื่น หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามกระต่ายน้อยค้ำสองมือกับขอบเคาน์เตอร์กักกันคนตัวเล็กไว้ หนูจ๋าหันซ้ายขวาหาทางหนีที่ไล่ แต่เมื่อเขายังคงยืนนิ่งและเธอก็ไม่สามารถพาตัวเองออกจากการกักกันของเขาได้ หญิงสาวจึงหันมาจ้องมองตาเขาในระยะประชิด เพราะใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนจากจมูกโด่งเป่ารดหน้าผาก“พี่จะอยากได้หนูจ๋า”สิ่งที่เขาบอกว่าอยากได้ทำให้หนูจ๋าเข่าอ่อนแทบทรุด เธอเขินจะตายอยู่แล้ว เขายังมาพูดล้อเล่นให้เธอเขินอีกอยู่ได้ หญิงสาวจึงโอดครวญเสียงเบา“พี่กระต่ายขี้แกล้ง แกล้งแบบนี้หนูไม่อยู่ด้วยแล้ว ถอยไปนะคะ หนูจะกลับแล้ว” หนูจ๋ายกมือ
ลูกจ้างสาวสวยหอบหิ้วของพะรุงพะรังเข้ามาในห้องของนายจ้างตอนเวลาเกือบห้าโมงเย็น หนูจ๋าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่าในห้องน่าจะมีคนอยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวหอบของไปเก็บไว้ในครัว แล้วเดินไปเคาะประตูห้องนอนใหญ่ ครู่เดียวเจ้าของห้องก็เปิดประตูออกกว้าง เขาต้อนรับเธอด้วยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม“สวัสดีค่ะพี่กระต่าย” หนูจ๋าแก้อาการขัดเขินเพราะรอยยิ้มของเขาด้วยหารประนมมือไหว้ทักทายกระต่ายน้อยถอนหายใจผิดหวัง ที่จริงเธอควรจะโผมากอดเขา แล้วจุ๊บแก้มสองข้าง พร้อมกับบอกว่า หนูคิดถึงพี่กระต่ายที่สุดในโลกเลยค่ะ สิ“พี่กระต่ายทำไมไม่บอกว่าจะกลับเร็ว หนูจะได้รีบมาให้เร็วกว่านี้ แบบนี้คงต้องกินอะไรรองท้องก่อนแล้วล่ะค่ะ เพราะกว่าหนูจะทำกับข้าวครบตามที่พี่สั่งก็อีกนานเลย”“เมื่อกี้หิวมาก แต่พอเห็นหน้าหนูจ๋าแล้วอิ่มขึ้นมาทันทีเลยครับ อิ่มไปทั้งใจ” เจ้าพ่อวงการหยอดสาวได้ทีก็หยอดให้สาวเจ้าได้เขินอาย“ถ้าอิ่มแล้ว งั้นหนูก็คงไม่ต้องทำอะไรแล้วใช่ไหมคะ” หนูจ๋าชักหมั่นไส้คนขี้หยอด แรกๆเธอก็ขัดเขินอยู่หรอก แต่พอถูกเขาหยอดผ่านไลน์บ่อยๆก็ชักจะชิน หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแม้ไม่ได้เจอหน้ากัน แต