บทร้ายที่ตอนนี้กำลังมีอารมณ์เดือดพล่านจากไอ้แก่หัวหงอกเสี่ยชาติที่มันบังอาจบุกเข้ามาวางเพลิงบ่อนคาสิโนของเขา พร้อมกับที่เขาโมโหเจ้าหญิงเด็กน้อยที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา เพราะเขาสั่งให้เธอรอเขาอยู่บนห้อง แต่เธอดันกลับเดินออกมาเสียดื้อๆ
ตอนนี้ร่างสูงใหญ่กำลังเดินก้าวขาฉับๆพร้อมกับที่เขาทุบประตูบ้านหลังเล็กสีขาวของเจ้าหญิงอย่างแรงจนเกิดเสียงดังลั่นบ้านไปหมด ปั้งงงงง! ปั้งงงงง! " เปิด!! " เขาทุบประตูอย่างแรงจนเจ้าหญิงที่กำลังจะงีบหลับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจดวงน้อยๆของเธอตอนนี้แทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อเธอได้ยินเสียงของคุณบทร้ายที่มีน้ำเสียงเหมือนจะฆ่าเธอให้ได้ในตอนนี้ " ฉันบอกให้เปิด!! เจ้าหญิง!! " บทร้ายตะโกนออกมาเสียงดังลั่นไปทั่วด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังจนทำให้บรรดาเหล่าบอดี้การ์ดที่อยู่แถวนั้นถึงกับหวาดกลัวไปกันหมดและรวมถึงเจ้าหญิงที่กำลังเปิดประตูห้องนอนออกมาเพื่อที่จะเดินมาเปิดประตูนอกบ้านบานอีกด้วย แกร๊กกกกกก เจ้าหญิงที่อยู่ในชุดนอนตัวเดิมเปิดประตูออกมาด้วยท่าทางสั่นระริกไปหมดทั้งตัว พร้อมกับดวงตากลมโตของเธอตอนนี้แทบจะปิดลง และอย่างเห็นได้ชัดว่าตอนนี้เด็กน้อยอายุ 17 ปี กำลังง่วงนอน " คะ " เสียงใสเอ่ยขึ้นประโยคแรกพร้อมกับปิดปากหาวหวอดออกมาทันที เมื่อบทร้ายที่ตอนนั้นมีอารมณ์ที่เดือดพล่านราวกับจะแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ให้ได้ แต่เพียงแค่พอเขาเห็นท่าทางของเด็กน้อยที่เดินออกมาด้วยท่าทางละอ้อนละแอ้นพร้อมกับดวงตากลมโตที่เปลือกตาแทบจะปิดลงและแถมยังยืนหาวต่อหน้าของเขาอีก เขาถึงกับเปลี่ยนสีหน้าจากที่จะมาด่าและกล่าวโทษเด็กน้อยที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขากลายเป็นสีหน้านิ่งเรียบขึ้นมาทันที " เจ้าหญิงขอโทษนะคะ พอดีเจ้าหญิงง่วงนอนมากๆเลย เจ้าหญิงก็เลยถือวิสาสะเดินลงมาก่อนที่คุณบทร้ายจะขึ้นมา " เสียงใสของเด็กน้อยบอกเขาไปพร้อมกับหาวหวอดไปอีกครั้งด้วยท่าทางน่ารัก จนเขาที่ยืนมองอยู่ถึงกับเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ส่วนบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่รอบๆบ้านถึงกับตกใจในท่าทีของนายท่านของพวกเขา ที่อยู่ๆอารมณ์ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือซะอย่างนั้น ท่าทางของนายท่านหนุ่มหล่อของเขาเมื่อครู่ยังเหมือนกับมัจจุราชอยู่เลยแต่ตอนนี้ทำไมนายท่านของเขากลายเป็นเทพบุตรขี่ม้าขาวไปแล้วล่ะ " ... " ชายหนุ่มไม่ได้ตอบกลับอะไรเด็กน้อย เพียงแต่เขาเดินเข้าไปในบ้านหลังเล็กสีขาวของเธอทันที พร้อมกับที่เขาถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องนอนของเธอ พร้อมกับที่เขากวาดสายตามองไปรอบๆห้องของเด็กสาว จากที่เมื่อก่อนเป็นห้องเรียบๆ มีเฟอร์นิเจอร์นิดหน่อย แต่ตอนนี้ห้องของเธอกลายเป็นห้องเปรียบเสมือนห้องนอนของเจ้าหญิงในนิทานอย่างไงอย่างงั้นแหล่ะ เพราะห้องนอนของเธอตอนนี้ได้ติดวอลเปเปอร์รูปเจ้าหญิงในการ์ตูนหลากหลายเรื่องเต็มผนังไปหมด พร้อมกับผ้าปูที่นอนลายเจ้าหญิงสโนไวท์ แถมยังมีมุ้งสีขาวที่อยู่บนเตียงนอนของเธอ ที่น่าจะจัดทำขึ้นด้วยฝีมือของเจ้าของห้องนั่นเอง " คุณบทร้ายเข้ามาในห้องนอนของเจ้าหญิงทำไมคะ " เด็กน้อยที่ตอนนี้เปลือกตาแทบจะปิดลงอยู่แล้วเอ่ยถามเขาไปด้วยน้ำเสียงงัวเงียจากการง่วงนอน " ขึ้นไปนอนบนเตียง " ชายหนุ่มเอ่ยปากบอกกับเด็กน้อยไป เมื่อเห็นท่าทางของเด็กน้อยแล้วเขาก็นึกสงสารขึ้นมา เด็กง่วงนอนขนาดนี้เขาก็ยังเข้ามากวนเธออีก " ค่ะ " เจ้าหญิงคานเข่าขึ้นไปบนเตียงนอนที่เหมือนเตียงนอนเจ้าหญิงของเธอด้วยท่าทางดุกดิกๆก้นส่ายไปส่ายมา จนบทร้ายที่ยืนมองอยู่ถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้แทบจะไม่อยู่กับท่าทางของเด็กน้อยที่ไร้เดียงสานั่น ป๊าบบบบ!! มือหนาฟาดเข้าไปที่ก้นน้อยๆของเจ้าหญิงเบาๆ แต่ก็ทำให้เด็กน้อยที่ร่างบอบบางรู้สึกเจ็บขึ้นมาไม่น้อย " อุ้ย! คุณบทร้ายตีก้นเจ้าหญิงทำไม ก้นแดงไหมเนี่ย! " เจ้าหญิงที่โดนเขาตีก้นรีบหันหน้ากลับมาหาเขาและเอาก้นของตัวเองรีบนั่งลงบนเตียงนอนทันที พร้อมกับทำหน้าตาบูดบึ้งแกมป่องอย่างงอนง่อที่เขาตีก้นของเธอเข้า " ไหนบอกวันนี้จะกลับมาให้ตี ยังไม่ได้ตีเลย " เขาบอกออกมาแบบนั้นพร้อมกับเดินขึ้นไปบนเตียงของเจ้าหญิง " คุณบทร้ายขึ้นมาบนเตียงของเจ้าหญิงทำไมคะ " เจ้าหญิงที่ท่าทางงัวเงียจากการง่วงนอนถามขึ้นมาอย่างนึกสงสัย " นอน " เขาไม่ได้ตอบกลับอะไรเจ้าหญิงมากนัก แต่เขาดันหน้าผากของคนร่างบางให้นอนลงหนุนกับหมอนด้วยมือของเขาทันที " นอนไป ดึกมากแล้ว " เขาสั่งแกมบังคับเด็กน้อยให้นอนทันที เจ้าหญิงที่เห็นเขานั่งอยู่บนเตียงด้วยถึงกับคิดหนักขึ้นมาทันที " คุณบทร้ายก็กลับไปนอนบ้านหลังใหญ่ซี่ ถ้าคุณบทร้ายนั่งอยู่แบบนี้เจ้าหญิงก็คงนอนไม่หลับหรอก " เจ้าหญิงบอกกับเขาไป พร้อมกับที่เขาจับเอาผ้าห่มนวมลายการ์ตูนเจ้าหญิงสโนไวท์เข้ามาห่มให้เด็กน้อยจนถึงหน้าอกนุ่มนิ่ม " นอนไปอย่าพูดมาก " เขาสั่งเจ้าหญิงอีกครั้ง " หลับตา " เขาสั่งให้เด็กน้อยหลับตา เจ้าหญิงที่ได้ยินคำสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจังของเขา เธอถึงกับปิดเปลือกตาลงทันที ผ่านไปไม่ถึง 2 นาทีด้วยซ้ำ เด็กน้อยก็หลับปุ๋ยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว " เจ้าหญิง " เขาลองจับลงไปที่แก้มนิ่มของเจ้าหญิงและเรียกชื่อของเธอเพื่อเช็คดูให้แน่ใจว่าเธอหลับไปแล้วจริงๆหรือเปล่า พร้อมกับที่เขาเอื้อมมือไปเปิดเปลือกตาของเธอเช็คดูอีกรอบว่าเด็กน้อยแกล้งหลับไปหรือเปล่า พอเช็คดูจนเรียบร้อยแล้วว่าเด็กน้อยคนนี้ได้หลับไปแล้วจริงๆเขาถึงกับเผลอยิ้มออกมาอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว วันนี้เขาเผลอยิ้มออกมาหลายรอบมาก เพราะเจ้าหญิงเด็กน้อยขัดดอกคนนี้ และเขาเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าวันนี้เขายิ้มไปกี่รอบแล้ว " หึ ไหนบอกว่าถ้าฉันอยู่ตรงนี้แล้วเธอจะนอนไม่หลับไง ไม่ถึง 2 นาทีก็หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว " เขาพึมพำออกมาเบาๆพร้อมกับยกยิ้มขึ้นมุมปากและหัวเราะออกมาเบาๆ " ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้ฉันจะได้มีโอกาสแบบนี้ พาเด็กน้อยเข้านอน " เขาพูดพลางยื่นมือหนาของเขาไปลูบผมสีดำสนิทของเจ้าหญิงไปมาอย่างนึกเอ็นดูเด็กน้อยคนนี้อย่างไม่รู้ตัวโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังถูกจัดไว้สำหรับการคลอดโดยเฉพาะ บทร้ายไม่ยอมห่างจากห้องคลอดแม้แต่ก้าวเดียวเขานั่งกุมมือเจ้าหญิงแน่นตลอดทุกวินาทีของความเจ็บปวด“พี่…มันเจ็บ หนูไม่ไหวแล้ว…” เจ้าหญิงเหงื่อซึม หน้าซีด“ไหวสิเมียพี่ต้องไหว หนูเก่งที่สุดแล้วนะครับ…” บทร้ายแนบริมฝีปากกับหน้าผากเมียน้ำตาคลอ“แค่คลอดลูกของเราออกมา พี่ขอร้อง…”เสียงร้องไห้ของทารกตัวน้อยดังขึ้นในห้อง บทร้ายถึงกับทรุดนั่งร้องไห้เงียบๆข้างเตียงราวกับหัวใจถูกปลดปล่อยจากความกลัวทั้งปวง“ได้ลูกสาวค่ะ แข็งแรงมากเลย”“ลูกพ่อ… หนูของพ่อ… ขอบคุณที่มาเกิดเป็นลูกพ่อแม่นะครับ”...ลูกสาวของบทร้ายและเจ้าหญิงถูกตั้งชื่อว่า “น้องเจ้าขา”เด็กหญิงผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโตเหมือนแม่ รอยยิ้มอบอุ่นเหมือนพ่อเมื่ออายุครบ 1 ขวบเธอเริ่มหัดเดิน เริ่มพูดคำว่า “ปะป๊า” และ “หม่ามี๊” ได้บทร้ายนั่งคุกเข่ารอรับลูกที่กำลังเกาะโซฟาแล้วค่อยๆยืนขึ้นเจ้าขาก้าวขาเล็กๆเดินมาหาพ่อก่อนจะโผเข้ากอดอกบึ้กๆของบทร้ายแน่น“เก่งมากลูก… ลูกของพ่อเดินได้แล้ว!” บทร้าย หัวเราะแล้วร้องไห้ในเวลาเดียวกัน“เจ้าขาเก่งที่สุดเลยลูก หนูเก่งเหมือนแม่เลยใช่ไห
มหาวิทยาลัยเจ้าหญิงกำลังนั่งเรียนทุกคนตกใจเมื่อเห็น “เจ้าของมหาวิทยาลัย” เดินตรงมาที่หน้าห้องเรียน ใส่สูทสีดำ ขรึมเยือกเย็น ดวงตาแดงก่ำอาจารย์ถึงกับชะงักบทร้ายเปิดประตูโดยไม่พูดอะไร ก่อนพูดเพียงคำเดียว“ออกมาเดี๋ยวนี้” บทร้ายพูดเสียงเข้มเจ้าหญิงหน้าเสียหยิบของแล้วรีบลุกเสียงซุบซิบในห้องดังกระหึ่ม “บทร้ายดุโหดมาก” “โอ้ย เมียโดนแน่”ในรถพอขึ้นรถเท่านั้นแหละประตูปิดเสียงดัง “ปัง!” ก่อนที่บทร้ายจะพูดด้วยน้ำเสียงกดอารมณ์“ทำไมไม่บอกพี่?” บทร้ายเสียงสั่น“หนูแค่อยากเรียน… หนูไม่อยากเป็นภาระ” เจ้าหญิงก้มหน้าตอบน้ำเสียงเบาๆ“ไม่อยากเป็นภาระจนไม่รักตัวเองรึไง!?! หนูเพิ่งฟื้น รู้ไหมว่าถ้าเป็นอะไรขึ้นมา พี่จะ…” บทร้ายเผลอตะคอกใส่เจ้าหญิงด้วยความโกรธเขากำมือแน่นจนเส้นเลือดปูด ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธปนเสียใจ เจ้าหญิงน้ำตาซึมพยายามยื่นมือไปแตะแขนบทร้าย“พี่… หนูขอโทษ…”“อย่าทำแบบนี้อีกนะครับหนู พี่ขอโทษที่ดุ แต่พี่กลัว… พี่กลัวจะเสียหนูไปอีก…” บทร้ายเสียงแผ่วลงเมื่อรู้ตัวว่าเผลอตะคอกเมียเพนท์เฮ้าส์บทร้ายอุ้มเมียขึ้นห้องไม่พูดไม่จาแต่พอวางเมียบนเตียงเท่านั้นก็ซบหน้าลงที่หน้าท้องเธอน้ำตาหยด
มหาวิทยาลัยเช้าวันรุ่งขึ้น: วันพรีเซนต์เจ้าหญิงสวมชุดนักศึกษาสะอาดเรียบ ผูกผม เรียบร้อย แต่หน้าซีดมาก เธอยืนหน้าห้องประชุมพร้อมทีม หัวใจเต้นแรงเพราะความเครียด ตอนที่เดินขึ้นเวที…เธอกลั้นหายใจและเริ่มพูด30 นาทีผ่านไป…...พรีเซนต์เสร็จ...ภาพเริ่มเบลอ เสียงในห้องเบาๆลง มือสั่น หน้าเย็นเฉียบ เจ้าหญิงเซ ทรงตัวไม่อยู่ ร่างบางล้มลงต่อหน้าอาจารย์และเพื่อนทั้งห้อง“เจ้าหญิง!!”🚑 โรงพยาบาลบทร้ายได้ยินข่าวจากพยาบาลที่ติดต่อมา บทร้ายมาถึงด้วยความเร็วสูงสุดที่รถของเขาจะพาไปได้ เขาเปิดประตูห้องฉุกเฉินด้วยหัวใจที่แทบหลุดออกมามองเห็นเมียนอนบนเตียง ให้น้ำเกลือ ขอบตาแดงเพราะน้ำตา“พี่ขอโทษ…พี่ไม่น่าปล่อยให้หนูทำทุกอย่างคนเดียวแบบนั้นเลย”“พี่ควรอยู่ตรงนั้น พี่ควรกอดหนู พี่ควรห้ามหนูตั้งแต่แรก…”เขาคุกเข่าข้างเตียง จับมือเมียไว้แน่น ริมฝีปากสั่น น้ำตาไหลเงียบๆ ในห้องเงียบสงัดมีแค่เสียงเครื่องวัดชีพจรและเสียงใจเขาเต้นระรัว...เจ้าหญิงลืมตาช้าๆเห็นหน้าผัวฟุบอยู่ข้างเตียงมืออุ่นๆของเขาจับมือเธอไว้ตลอดไม่ปล่อยเลยแม้แต่วินาทีเดียว“พี่…” เจ้าหญิงเรียกบทร้ายเสียงเบาและแหบพร่า“หนู…หนูตื่นแล้วใช่ไหมคะ
ฮันนีมูนสุดหรูหนึ่งวันหลังแต่งงานบทร้ายจองเกาะส่วนตัวที่มัลดีฟส์ มีแค่เขาและเธอ…ในรีสอร์ทกลางทะเลเสียงคลื่นเบาๆ บรรยากาศโรแมนติกจนต้องรักกันทุกเช้า เย็น และกลางคืน“บนเตียงก็ผัว บนเรือก็ผัว ในน้ำก็ผัว…หนูหนีผัวไม่พ้นหรอกเมียพี่”ปี 4เช้าวันเปิดเรียนเช้านั้น…เสียงนาฬิกาปลุกยังไม่ทันดัง บทร้ายก็ตื่นขึ้นมามองใบหน้าหวานของภรรยาสุดที่รัก เจ้าหญิงนอนกอดแขนเขาแน่นเสื้อยืดตัวใหญ่ที่ใส่นอนเมื่อคืนเลิกขึ้นมานิดๆเผยให้เห็นผิวขาวนวลจนคนเป็นผัวอยากจะให้เมียโดดเรียน…เอ้ย ไม่ใช่บทร้ายก้มจูบหน้าผากเจ้าหญิงเบาๆ“เมียพี่จะเป็นนักศึกษาปี 4 ที่สวยที่สุดในโลก”พอเจ้าหญิงอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ บทร้ายยืนยันจะขับรถไปส่งเมียเอง ไม่ยอมให้อัคคีขับเหมือนทุกครั้ง“ขอโทษนะคะ ผัวขับรถไปรอหน้าคณะทุกวันแบบนี้ เพื่อนจะไม่สงสัยเหรอคะ?” เจ้าหญิงพูดแซว“ก็ไม่ต้องสนใจสิคะคุณเมีย เขารู้ก็ดี จะได้รู้ว่าเมียใครอย่าแตะ” บทร้ายตอบยียวนกวนประสาทกลับมหาวิทยาลัยคณะนิเทศศาสตร์ทุกสายตาหันมามอง…เจ้าหญิงเปิดประตูลงจากรถสุดหรูพร้อมเสียงกระซิบของเพื่อนๆในคณะ“นั่นผัวเจ้าหญิงเหรอ?”“โอ๊ย ทำไมหล่อโหดขนาดนี้”“มีผัวดีชีวิตดีจริงๆ…”“แล
บทร้ายวางแหวนวงเดิมไว้ในกล่องกำมะหยี่เขาคุกเข่าอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะผิด แต่เพราะรัก“หนู…พี่ไม่รู้ว่ามีสิทธิ์ไหม แต่ขอพี่ได้ใส่แหวนวงนี้ให้อีกครั้ง ไม่ใช่แค่ในฐานะผัว แต่ในฐานะผู้ชายที่ไม่มีใครรักเท่าหนูอีกแล้ว…”เจ้าหญิงยื่นมือไปทั้งน้ำตาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหูเขา“ใส่ให้แน่น ๆ เลยนะคะพี่…เพราะรอบนี้ หนูจะไม่มีวันถอดมันออกอีกแล้ว…”...ห้องสวีทชั้นบนสุดของโรงแรม 7 ดาวในกรุงเทพมหานครคือสถานที่ที่บทร้ายจัดไว้สำหรับการ “เริ่มต้นชีวิตคู่ใหม่” เขาไม่พูดพร่ำ ไม่อธิบายซ้ำ เขาแค่จ้องเจ้าหญิงด้วยแววตาที่ลึกกว่าทะเล…และเร่าร้อนกว่ากองไฟบทร้ายปิดประตูห้องเบาๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหาเจ้าหญิงช้าๆเหมือนนักล่าที่รอคอยเหยื่อของเขากลับมาอยู่ในอ้อมแขนอีกครั้ง“คืนนี้…ผัวจะรักเมียให้สมกับที่เกือบเสียเมียไป…” บทร้ายดึงเจ้าหญิงเข้าไปจูบอย่างรุนแรงลิ้นของเขาดุนดันสอดแทรกและตักตวงรสหวานจากริมฝีปากที่เขาโหยหา มือเขากอบกุมเอวบางแน่นจนเจ้าหญิงต้องจับไหล่เขาไว้“พะ-พี่…เดี๋ยวก่อน…”“ไม่รอแล้ว…เมียพี่ทั้งคน ผัวห้ามใจไม่ไหวแล้ว…”บทร้ายยกตัวเข้าหญิงขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวก่อนพาไปวางลงบนเตียงใหญ่ ฝ่ามืออุ่นร้อนลูบไล
เพนท์เฮ้าส์ทุกคืน…บทร้ายนอนกอด iPad เปิดรูปคู่ที่ถ่ายตอนขอแต่งงานและวิดีโอที่เขาแอบอัดเอาไว้เองเสียงเจ้าหญิงพูดว่า “รักผัวนะคะ” ยังอยู่ในคลิป แต่ยิ่งฟังยิ่งเจ็บ เพราะรู้ว่า…เขาทำลายมันด้วยมือของตัวเอง“พี่แม่ง…เลวชิบหาย…” บทร้ายกัดปากจนเลือดซึม โทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระจกที่แขวนไว้ถูกเขาเขวี้ยงแตกเป็นเสี่ยงๆในไลน์กลุ่มรวมนักศึกษาโดยบทร้ายมีแอ็คอวตารเข้าไปอยู่ด้วยในกลุ่ม...มีคนโพสต์รูประหว่างเจ้าหญิงกับเพื่อนใหม่มีเสียงเชียร์ว่า “เปิดใจเถอะเจ้าหญิง” แต่ทุกข้อความ…เหมือนมีดปักที่กลางอกบทร้าย...โต๊ะกินข้าวที่เคยมีเจ้าหญิงคอยตักให้วันนี้มันว่างเปล่า บทร้ายนั่งมองข้าวเย็นจนแข็ง แล้วเอาไปเททิ้งทั้งน้ำตา“ไม่มีหนู…อะไรมันก็ไม่มีรสชาติอีกเลย…”วันถัดไปธันวามาหาเพื่อนสนิทที่เพนท์เฮ้าส์ ธันวาแอบไปซุ่มดูเจ้าหญิงห่างๆ เขาอัดวิดีโอที่ตอนเจ้าหญิงพูดกับแม่วันดีไว้ เขานำมาเปิดให้บทร้ายดูในวันหนึ่งที่เขาหมดแรงจะลุกขึ้นจากเตียง “แม่…หนูไม่ได้อยากหย่า หนูแค่เสียใจ หนูแค่รู้สึกว่าพี่เขาไม่รักหนูจริง…”คำว่า “ไม่ได้อยากหย่า” กลายเป็นไฟสุดท้ายที่ยังจุดในหัวใจบทร้ายบทร้ายเงยหน้าขึ้น…น้ำตาไหลพร