ซ่าาาาาาาาา เสียงฝนตก บนรถ ในขณะที่หมวยและกันต์ก้าวขาขึ้นรถเก๋งคันสีขาว ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ภายในรถยนต์ที่ขับฝ่าสายฝนไปตามถนนเงียบสงบ เสียงปัดน้ำฝนดังเป็นจังหวะเนิบๆ ” อุ้ยฝนตก ขอบคุณมากนะคะพี่กันต์ ” หมวยพูดขึ้นในที่สุดเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบตึงกันเกินไป เพราะจะทำให้คนสองคนภายในรถพลอยอึดอัดกันไปด้วย หมวยยกมือไหว้กันต์ เพราะตอนนี้เธอได้นั่งอยู่เบาะข้างๆคนขับ ดีนะที่มีพี่กันต์ไปส่งที่หอพัก ไม่อย่างงั้นเธอคงเปียกปอนแน่นอนเลย เพราะเวลาเธอเรียกรถให้มารับบนแอพในโทรศัพท์มือถือเธอจะเรียกพี่คนขับเป็นมอเตอร์ไซค์ตลอด “ ครับ ” กันต์บุคคลที่ไม่ค่อยพูดค่อยจา ยกเว้นกับนายท่านของเขา ตอบได้แค่ ครับ คำเดียว เพราะเขาไม่ค่อยได้คุยกับใครเลย ยกเว้นกับนายท่าน และบรรดาเหล่าลูกน้อง พนักงาน บอดี้การ์ด ในเครือของบทร้าย และส่วนมากก็มีแต่การพูดคุย เจรจากันในเรื่องงานเท่านั้น เขาจึงไม่รู้ว่าการสนทนาแบบคนปกติมันเป็นแบบไหน “ เอ่อ เลี้ยวซ้ายซอยด้านหน้านี้เลยค่ะ ” หมวยชี้นิ้วบอกทางไปหอพักเธอกับกันต์ ส่วนกันต์ไม่พูดไม่จาอะไรเลย เขาเพียงแต่ใช้ความเงียบแทนคำตอบ ( แก๊งค์มาเฟียขี้เก๊กทุกคนห
ฉันที่กำลังเลิกเรียนและยืนรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์ที่หน้าโรงเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน แต่จู่ๆ ก็มีกลุ่มผู้ชายชุดดำฉุดฉันขึ้นไปบนรถตู้ทันที" กรี๊ด! " ฉันกรี๊ดร้องเสียงดัง ซึ่งตอนนี้ที่ป้ายรถเมล์ไม่มีคนอยู่สักคนเลย เพราะทุกคนทำกิจกรรมกีฬาสีอยู่ในโรงเรียนกันหมด เลยยังไม่มีใครออกมานอกโรงเรียน นอกจากฉันที่แม่โทรหาฉันเมื่อกี้แล้วบอกกับฉันว่าให้รีบกลับบ้านทันที ฉันเลยขอตัวกับเพื่อนๆเพื่อกลับบ้านก่อนฉันโดนฉุดกระชากลากถูให้ขึ้นไปบนรถตู้คันสีดำ ฉันดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด เพราะผู้ชาย 2 คนล็อกแขนทั้งสองข้างของฉันเอาไว้แน่น ฉันที่มีแรงเท่ามดตะนอยจะไปสู้แรงพวกเขาได้ยังไง TT" พวกคุณเป็นใคร ปล่อยหนูนะ ปล่อยหนู " ฉันที่ตอนนี้ตื่นตะหนกเป็นอย่างมาก และร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว ฉันโดนผู้ชายทั้ง 4 คนยัดเข้าไปในรถตู้คันสีดำนั้นทันที" เรียบร้อยครับท่าน " ผู้ชายอีก 1 คนพูดกับใครก็ไม่รู้และเขาก็ปิดประตูรถตู้ทันที" หึ " ฉันที่ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเลยหันหลังไปดูต้นเสียงที่เบาะด้านหลังของฉันทันที เป็นผู้ชายผิวสองสี รูปร่างสูงน่าจะราวๆ 185 cm. มีหนวดเคราเล็กน้อย ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมออกมาประมาณ 4 เม็ด โชว์
ฉันที่ได้ยินคำตอบของคนด้านหลังถึงกับสะดุ้งเฮือก ขะ เขาคือคุณบทร้าย คุณบทร้ายที่ดุๆ ที่แม่เคยเล่าให้ฟังน่ะเหรอ" หึ! ทำไม เงียบทำไม " เขาถามฉันขึ้นมาด้วยท่าทางพออกพอใจที่เห็นฉันตอนนี้หน้าซีดเผือดอย่างกับคนไม่มีเลือดสูบฉีดเข้าร่างกาย" คุณลักพาตัวหนูมาทำไมคะ " ฉันที่ตอนนี้น้ำเสียงเริ่มแผ่วเบาด้วยความกลัว เรี่ยวแรงที่จะพูดจะถามเขาก็แทบจะไม่มีเหลือแล้ว" หึ! ลักพาตัว กล้าดียังไงมาว่าฉันลักพาตัวเธอ ฮ่ะ!!!! " เขาตะคอกฉันเสียงดังลั่นรถ น้ำเสียงของเขาตอนนี้เหมือนเสือ เสือที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อและกัด ฉีก เนื้อของเหยื่อออกมาเป็นชิ้นๆ ให้ทรมาน ฉันที่ตอนนี้หน้าซีดเผือดด้วยความกลัว ฉันกลัวมากเลย และฉันก็หมดสติไปในที่สุด@เพนท์เฮ้าส์ฉันที่ตอนนี้รู้สึกเย็นๆเปียกๆก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา ก็พบว่าฉันโดนเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สาดน้ำลงมาใส่ใบหน้าของฉันจนเปียกชุ่ม ดีนะที่วันนี้ฉันใส่ชุดกีฬาของโรงเรียนมาเลยไม่โป๊มาก ถ้าเป็นชุดนักเรียนที่เคยใส่เป็นประจำกับเสื้อสีขาวๆ ถ้าเขาสาดน้ำลงมามันก็คงโป๊เปลือยไปหมดเลย" ตื่น!! " เขาตะคอกน้ำเสียงใส่ฉัน จนฉันที่ได้ยินถึงกับสะดุ้งอย่างตกใจ และฉันกลัวเขาจนสั่นไปหมด ทำไมเขา
หลังจากที่เขาพาฉันเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก ที่ในห้องนั้นเป็นโทนห้องสีแดงจากไฟหรืออะไรก็ไม่รู้ แต่ห้องที่เขาพาฉันมาเหมือนเป็นห้องเชือดเอาไว้ฆ่าสัตว์อย่างไงอย่างนั้น เพราะฉันเหลือบไปเห็นอาวุธต่างๆ พร้อมกับเครื่องไม้เครื่องมือที่เอาไว้ทรมานสัตว์ ตอนนี้เขาเอาผ้ามาปิดตาฉันไว้อีกครั้งพร้อมทั้งดึงและลากฉันออกไปจากห้องนั้นทันที ฉันที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาจะพาตัวฉันไปที่ไหนเพราะผ้าที่ปิดตาของฉันไว้ทำให้ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย ไม่นานนักเขาก็ผลักฉันลงบนเตียงนุ่มๆ ฉันพอเดาได้ว่ามันน่าจะเป็นเตียงเพราะมันกว้างมาก จึงอาจจะไม่ใช่โซฟาอย่างแน่นอน แล้วเขาก็แกะที่ปิดตาของฉันออกให้ฉัน พอฉันพ้นจากพันธะทางสายตาฉันก็มองไปรอบๆ พบว่ามันคือห้องนอนของฉัน มันเป็นห้องสีเหลี่ยมขนาดใหญ่กว่าห้องเชือดเมื่อกี้ที่ฉันเห็นเล็กน้อย ในห้องจะมี โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเรียนให้ฉันพร้อมกับเก้าอี้ ซึ่งฉันคิดว่าของที่อยู่ในห้องนี้ก็จะน่าราคาสูงพอควร " นี่! คือที่อยู่ของเธอ " เขาบอกฉันพร้อมกับจ้องใบหน้าของฉันอย่างรู้สึกเกลียดชังฉันที่แผ่รังสีออกมาจากสายตาของเขา" ขอบคุณค่ะ " ฉันยกมือไหว้ขอบคุณเขาจากใจจริง อย่าง
ฉันที่ตอนนี้นั่งซาฟารีมาลงด้านหน้าตรงบานรั้วประตูใหญ่สีดำของเพ้นเฮ้าท์ และเดินออกมานอกรั้วแล้วหยุดยืนนิ่งอยู่ซักพักหนึ่งฉันก็เดินออกไปทางด้านซ้ายมือตามที่คุณบทร้ายได้บอกเอาไว้เมื่อคืนนี้ ฉันเดินประมาณราวๆ 2 นาทีก็ถึงป้ายรถเมล์ที่คุณบทร้ายได้บอกฉันเอาไว้ ฉันยืนรอรถเมล์ได้สักพักรถเมล์ก็มาจอดอยู่ที่หน้าป้าย ข้อดีอีกอย่างคือรถเมล์เกือบทุกสายที่ป้ายนี้ จะวิ่งผ่านหน้าโรงเรียนของฉันทุกสาย โดยที่ฉันไม่ต้องลงมาป้ายอื่นเพื่อต่อรถไปโรงเรียนอีกครั้งเหมือนตอนที่ยังอยู่ที่บ้าน ฉันนั่งรถเมล์เดินทางประมาณ 30 นาทีรถเมล์ก็จอดตรงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนของฉันพอฉันก้าวขาลงมาจากรถเมล์ก็พบกับเถวะที่กำลังยืนรอฉันอยู่เฉียดเช่นประจำเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ " เจ้าหญิง " เถวะโบกไม้โบกมือให้ฉันที่ตอนนี้ฉันกำลังก้าวขาลงจากรถเมล์ ฉันที่เห็นดังนั้นก็รีบลงจากรถเมล์และเดินเข้าไปหาเถวะทันที" เถวะ มารอนานหรือยัง " ฉันดินเข้าไปหาเถวะพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้เพื่อนชายคนเดียวของฉัน " ไม่นานหรอก ถึงนานกว่านี้ก็รอเจ้าหญิงได้เสมอแหล่ะ " เถวะตอบทีเล่นทีจริงพร้อมกับหัวเราะออกมาจนตาตี๋ๆของเขาแทบมองไม่เห็นลูกตาสีดำอยู่แล้ว" เราไ
ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับเถวะ ฉันเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกันกับหมวย ส่วนเถวะเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกันกับต่อ ที่นั่งโต๊ะอยู่ด้านหลังของฉันนั่นเอง" สวัสดีจ๊ะ หมวย " ฉันเอ่ยทักทายหมวยเพื่อนสาว สาวอวบอิ่ม ขาว ตาตี๋ที่น่ารักน่าหยิก ^^" สวัสดีจ๊ะ เจ้าหญิง " หมวยเอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้มหมวย เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉันมาตั้งแต่ ม.4 หมวยจะแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ที่ตอนนี้คนอื่นๆมองฉันเหมือนเป็นตัวน่าแขยะแขยงไปหมด ส่วนหมวยจะเป็นเพื่อนที่น่ารักและเข้าใจฉันเสมอ เพราะทางบ้านของหมวยเองก็มีฐานะไม่ต่างจากฉันมากเท่าไหร่นักก็เลยพอจะเข้าอกเข้าใจคนหัวอกเดียวกันเป็นอย่างดี แตกต่างจากเถวะที่บ้านเป็นตระกูลผู้ดีแต่เขายังมาเกือกกลั้วอยู่เป็นเพื่อนกับฉันมาตั้งแต่ที่ฉันอยู่ ม.1 ส่วน ต่อ เป็นเพื่อนชายของเถวะ หล่อ คม เข้ม ผิวสีแทน ซึ่งลุคดูแตกต่างจากเถวะ แต่นิสัยดันเหมือนกันสุดขั้ว ต่อที่ฐานะทางบ้านดีพอๆกันกับเถวะ ฉัน หมวย เถวะ และต่อ ก็เลยเป็นเพื่อนเล่น เพื่อนเรียนกันมาตลอด และจะเป็นพวกเพื่อนทั้ง 3 คนของฉันเสมอที่คอยปกป้องและดูแลฉันมาตลอด " เจ้าหญิงเลือกคณะที่ตัวเองอยากเข้าเรียนหรือยัง เทอมหน้าพวกเราก็ขึ้น ม.6 แล้วนะ
" ท่าทางดูเหมือนคุณจะเหนื่อย กินขนมปังหน่อยไหมคะ " ฉันที่หยิบขนมปังออกมาจากกระเป๋านักเรียนและได้ยื่นมันไปให้เขาทันทีเขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับหันหน้ามาทางฉันเล็กน้อย" ไม่กิน! " เขาตอบกลับฉันแต่มือของเขาดันหยิบขนมปังในมือของฉันออกและโยนมันเอาไปไว้เบาะด้านหลังรถทันทีและก็หันกลับไปนั่งและเอาหัวพิงเบาะและหลับตาลงต่ออย่างไม่ได้สนใจอะไรฉันนัก" ไม่กินก็ไม่ต้องกันซี่ โยนของหนูทิ้งทำไม " ฉันบ่นพึมพำของฉันเบาๆอยู่คนเดียวหลังจากที่รถขับมาได้เกือบหนึ่งชั่วโมง ก็มาจอดที่โรงจอดรถแห่งหนึ่งซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน" ถึงแล้วครับท่าน " ลูกน้องที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าคนขับหันหน้ามาบอกคุณบทร้าย" อืม " เขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับตอบกลับไปสั้นๆ หลังจากที่พวกเขาได้ยินคำตอบของผู้เป็นนายแล้วเขาก็ลงจากรถตู้ทันทีฉันที่เดินตามหลังของคุณบทร้ายมาก็พบว่าสถานที่ที่ฉันมาเป็นโรงแรมหรูขนาดใหญ่ พร้อมกับเขาที่เดินเข้ามาที่ห้องห้องหนึ่งซึ่งคล้ายๆเหมือนกับเป็นโต๊ะอาหาร ฉันที่เดินตามเขาเข้าไปพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเขา ซึ่งเขานั่งอยู่หัวโต๊ะอาหาร" เรามาทำอะไรกันเหรอคะ " ฉันหันหน้าไปถามเขาอย่างสงสัย" กินข้าว " เขา
พอถึงโรงเรียนเจ้าหญิงก็เดินเข้าไปในโรงเรียนตามปกติ พร้อมกับเถวะที่มายืนรอรับเจ้าหญิงหน้าป้ายรถเมล์อย่างเช่นทุกครั้ง" ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ " เถวะหันหน้าไปชวนเพื่อนสาวที่สนิทสุดๆของตัวเอง" เรากินมาแล้ว " เจ้าหญิงตอบกลับเถวะไปพร้อมกับรอยยิ้มแสนน่ารัก จนทำให้รอยยิ้มที่เจ้าหญิงยิ้มส่งมาให้เถวะ ทำให้เถวะหัวใจหล่นวูบทันที แอบรักเพื่อนสนิทตัวเองมันเป็นแบบนี้นี่เอง เถวะได้แต่คิดในใจ" แต่เราหิวนี่น๊าาา " เถวะพูดพลางลูบท้องของเขาไปมา" งั้นเจ้าหญิงพาเถวะไปกินที่โรงอาหารนะ " เจ้าหญิงบอกกับเพื่อนชายที่สนิทที่สุดของเขาทันที เพื่อนรักทั้งสองคนเดินไปที่โรงอาหาร เจ้าหญิงก็นั่งรอเถวะกินข้าวพร้อมกับหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่คุณบทร้ายซื้อให้ออกมากดเล่น" เจ้าหญิงเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่เหรอ " เถวะถามเจ้าหญิง เพราะปกติเจ้าหญิงจะไม่เปลี่ยนโทรศัพท์บ่อยๆ และเจ้าหญิงก็คงไม่ซื้อโทรศัพท์ที่ราคาแพงเกือบแสนแบบนี้" คุณบทร้ายซื้อให้เจ้าหญิงไว้โทรหาเขาตอนฉุกเฉิน คุณบทร้ายบอกว่าราคาไม่แพงมากนัก " เจ้าหญิงที่แสนไร้เดียงสาตอบกลับเถวะไป" เปลี่ยนเบอร์โทรด้วยเหรอ เมื่อคืนเราโทรหาเจ้าหญิงไม่ติดเลย เราว่าจะถามเรื่องการบ้าน
ซ่าาาาาาาาา เสียงฝนตก บนรถ ในขณะที่หมวยและกันต์ก้าวขาขึ้นรถเก๋งคันสีขาว ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ภายในรถยนต์ที่ขับฝ่าสายฝนไปตามถนนเงียบสงบ เสียงปัดน้ำฝนดังเป็นจังหวะเนิบๆ ” อุ้ยฝนตก ขอบคุณมากนะคะพี่กันต์ ” หมวยพูดขึ้นในที่สุดเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบตึงกันเกินไป เพราะจะทำให้คนสองคนภายในรถพลอยอึดอัดกันไปด้วย หมวยยกมือไหว้กันต์ เพราะตอนนี้เธอได้นั่งอยู่เบาะข้างๆคนขับ ดีนะที่มีพี่กันต์ไปส่งที่หอพัก ไม่อย่างงั้นเธอคงเปียกปอนแน่นอนเลย เพราะเวลาเธอเรียกรถให้มารับบนแอพในโทรศัพท์มือถือเธอจะเรียกพี่คนขับเป็นมอเตอร์ไซค์ตลอด “ ครับ ” กันต์บุคคลที่ไม่ค่อยพูดค่อยจา ยกเว้นกับนายท่านของเขา ตอบได้แค่ ครับ คำเดียว เพราะเขาไม่ค่อยได้คุยกับใครเลย ยกเว้นกับนายท่าน และบรรดาเหล่าลูกน้อง พนักงาน บอดี้การ์ด ในเครือของบทร้าย และส่วนมากก็มีแต่การพูดคุย เจรจากันในเรื่องงานเท่านั้น เขาจึงไม่รู้ว่าการสนทนาแบบคนปกติมันเป็นแบบไหน “ เอ่อ เลี้ยวซ้ายซอยด้านหน้านี้เลยค่ะ ” หมวยชี้นิ้วบอกทางไปหอพักเธอกับกันต์ ส่วนกันต์ไม่พูดไม่จาอะไรเลย เขาเพียงแต่ใช้ความเงียบแทนคำตอบ ( แก๊งค์มาเฟียขี้เก๊กทุกคนห
มหาวิทยาลัย หลังจากที่เจ้าหญิงฝึกซ้อมดาว-เดือน เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ปาเข้าไปเป็นเวลาเกือบจะ 4 ทุ่มอยู่แล้ว ส่วนด้านต่อในตอนนี้เขาก็ได้กลับบ้านไปก่อนเพื่อนแล้ว เพราะต่อต้องมีเอกสารกิจกรรมที่จะต้องทำเยอะแยะไปหมด ก็คนเขาได้เป็นประธานรุ่นอ่ะเนาะ ทำไงได้ ฮ่าๆๆๆๆ “ เหนื่อยไหม ” เถวะรีบลุกขึ้นยืนจากอัศจรรย์อีกด้านทันทีเมื่อเขาเห็นเจ้าหญิงเดินมาทางนี้ เจ้าหญิงในชุดนักศึกษา แต่ครั้งนี้เจ้าหญิงใส่กระโปรงนักศึกษาสั้นแต่พอเข่าจึงทำให้แปลกหูแปลกตาไปบ้าง “ หวานซ่อนเปรี้ยวจริงๆ เพื่อนสาวคนสวยของหมวย ” หมวยเอ่ยชมเพื่อนสาวคนสนิททันทีเมื่อเธอเดินมาถึง “ ชมกันเกินไปน๊าาาา ” เจ้าหญิงตอบด้วยรอยยิ้มอย่างเขินๆ “ แล้วกลับยังไง ” เถวะที่เก็บสัมภาระของเจ้าหญิงใส่ลงในกระเป๋าเป้ให้เธอถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าปล่อยให้กลับเองคนเดียวมีหวังคงเป็นอันตรายเป็นแน่ “ ก็ต้องคุณบทร้ายให้เอารถมารับ มาส่ง เหมือนเดิมสิ ” หมวยตอบแทน แต่ตอนนี้พวกเธอยังไม่เห็นรถตู้คันสีดำคันเดิมที่มารอรับเจ้าหญิงเลยสักคัน “ เอ๋ แล้วพี่อัคคีไปไหนนะ ทำไมไม่มารอเจ้าหญิง ” เจ้าหญิงพึมพำเบาๆ แต่เพื่อนสนิททั
เพนท์เฮ้าส์“ เป็นยังไงบ้างคะ ไปมหาวิทยาลัยครั้งแรก ” บทร้ายที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารสีทองอร่ามถามเจ้าหญิงขึ้นพร้อมกับหั่นสเต๊กเนื้อราคาแพงในมือ“ ก็โอเคดีนะคะ เพื่อนๆพี่ๆ ใจดีกันทุกคนเลยค่ะ ” เจ้าหญิงตอบพร้อมกับหั่นสเต๊กในมือเช่นเดียวกัน หลังจากเลิกเรียนในวันแรก อัคคีก็ขับรถตู้คันสีดำมาจอดรอเจ้าหญิงหน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์เพื่อที่จะไปรับเจ้าหญิงเหมือนที่เคยขับรถไปรับไปส่งเจ้าหญิงที่โรงเรียนเช่นเคย พอถึงเพนท์เฮ้าส์เจ้าหญิงก็ไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านหลังเล็ก หลังจากนั้นเจ้าหญิงก็ไปทานข้าวที่บ้านหลังใหญ่กับคุณบทร้าย“ ดีแล้วค่ะ ” บทร้ายหั่นสเต๊กเข้าปาก“ คุณดูเครียดๆนะคะ เป็นอะไรหรือเปล่า? ” เจ้าหญิงมองเขาออกตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่แล้ว สีหน้าและแววตาของเขาดูเครียดๆ ไม่สดใสเอาเสียเลย“ เครียดเรื่องธุรกิจนิดหน่อยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะ ” บทร้ายตอบเจ้าหญิงอย่างไม่ปิดบังและเขาก็ส่งยิ้มกลับไปให้เธอ เพราะกลัวเธอจะเป็นกังวล “ อย่าเครียดเลยนะคะ บนโลกใบนี้เจ้าหญิงเชื่อว่าประตูมี 2 ด้านค่ะ ก็เหมือนกับมนุษย์เราที่มีนิสัย 2 ด้าน ” เจ้าหญิงพยายามที่จะพูดให้กำลังใจคุณบทร้าย “ หึๆ ” บทร้ายหัวเราะออกมาในลำ
“ ขั้นตอนต่อไปเราจะตามหาประธานรุ่นกันนะคะ ประธานเอาจริงๆไม่ได้มีขั้นตอนอะไรมากมายนักหรอกค่ะ เพราะรุ่นพี่จะสุ่มจับขึ้นมาด้านหน้าตรงนี้เอง ฮ่าๆๆๆ ” พี่นิดพูดไปขำไป คณะนิเทศศาสตร์แตกต่างไปจากที่คิดเอามากๆ รุ่นพี่ทุกคนใจดี ไม่เครียด เป็นกันเอง ชิวๆ แบบโคตรชิว เพราะหันไปมองรุ่นพี่แต่ละคนที่ยืนรายล้อมน้องๆอยู่ก็มีแต่รอยยิ้มให้กับน้องๆทุกคนเลย มันไม่แปลกไปใช่ไหม หรือมันปกติ “ รบกวนพี่เคประธานรุ่นปี3 กับพี่ใหม่ประธานรุ่นปี4 เดินสุ่มจับน้องมาสัก 4 คนหน่อยค่า เชิญค่าาา ” สิ้นคำสั่งจากพี่นิดประธานรุ่นปี2 พี่เคกับพี่ใหม่ก็เดินเลือกน้องๆมองดูและเดินไปเช็คดูในแต่ละแถวและจับสุ่มออกมา“ น้องคนนี้ลุกขึ้นค่ะ ” พี่ใหม่เดินไปที่แถวของต่อกับเถวะ และพี่ใหม่ก็บอกให้ต่อลุกขึ้นไปยืนหน้าแถว ต่อทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย “ ดูเท่ห์ว่ะ :) ” ต่อพูดก่อนจะลุกขึ้นไปยืนด้านหน้าแถวของตัวเอง “ ลุกขึ้นครับ ” พี่เคบอกเพื่อนผู้ชายที่ยกมือถามคำถามพี่ฝนก่อนหน้านี้ “ ลุกขึ้นค่ะ ” พี่ใหม่จับเพื่อนผู้หญิงอีกคน“ ลุกขึ้นครับ ” พี่เคจับเพื่อนผู้ชายอีกคนให้ลุกขึ้นเป็นคนสุดท้าย “ ตอนนี้เราได้ว่าที่ประธานรุ่นของคณะนิเทศศาสตร์ของพ
มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งวันนี้เป็นเปิดเรียนวันแรกของภาคการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ปี1 เทอม1 เจ้าหญิงที่กำลังจะก้าวขาลงจากรถตู้เธอก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้คนที่ขับรถไปรับไผส่งเธอเป็นประจำในทุกๆวัน“ สวัสดีค่ะพี่อัคคี เจ้าหญิงไปเรียนก่อนนะคะ ” เจ้าหญิงยกมือไหว้อัคคีอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะอัคคีเปรียบดั่งเสมือนพี่ชายของเธอเลย เธออยู่กับเขาเธอรู้สึกอบอุ่น และรู้สึกถึงความเป็นพี่ชายจากตัวเขาเป็นอย่างมาก “ ครับ ตั้งใจเรียนนะครับ ” อัคคีหันไปยิ้มให้กับเด็กสาวที่เปรียบเสมือนน้องสาวของตนเหมือนกัน เขารู้สึกรักและเอ็นดูเจ้าหญิงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเลยก็ว่าได้ “ เป็นยังไงบ้าง ” บทร้ายที่ค้างสายอยู่ตลอดเวลากับอัคคีถามเขา“ ลงจากรถไปแล้วครับ ” บทร้ายวันนี้ติดประชุมด่วนเลยไปส่งเจ้าหญิงที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะค้างสายเพื่อเช็คเธอจากอัคคีตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเพื่อความปลอดภัย หรือหวงกันแน่ 😂“ อืม ” บทร้ายตอบและตัดสายโทรศัพท์ไปหลายปีก่อนหน้า“ พ่อครับ พ่ออย่าทิ้งผมไปเลยนะครับ ” อัคคีในวัยเพียงไม่กี่ขวบวิ่งไปกอดขาพ่อของเขาเอาไว้แน่น“ ออกไป! ไปซะ! ” พ่อของอัคคีไล่เขาด้วยน้ำเสียงแข
“ เกาะไว้แน่นๆนะคะ ” บทร้ายที่อุ้มเจ้าหญิงด้วยท่าลิงอุ้มแตงบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า เสียงแหบของเขามันดูเซ็กซี่จัง -////-“ อ๊ะ จะ เจ็บ ” เจ้าหญิงสะดุ้งโหยงเมื่อเธอรู้สึกถึงท่อนเอ็นแข็งๆที่มีขนาดใหญ่มากๆเข้ามาทิ่มแทงไปที่โพลงกลีบกุหลาบของเธอ “ อ๊าาาาาาาาา ” บทร้ายร้องครางออกมาด้วยความสุขสม แม้มันจะเข้าไปได้แค่ปลายหัวถอกของเขาเท่านั้น “ ฟิตจังค่ะ ที่รัก ” บทร้ายพูดพลางอุ้มเจ้าหญิงด้วยแขนข้างเดียว ดูเหมือนเขาไม่หนักเลย เขาอุ้มเจ้าหญิงด้วยแขนข้างเดียวอย่างง่ายดาย แต่แขนอีกข้างหนึ่งของเขากลับอ้อมแขนล้วงไปที่ใต้ระหว่างขาของเด็กสาว เขาจับท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินขนาดมาตรฐานชายไทยถอดออกมาจากโพลงกลีบกุหลาบของเธอ พร้อมกับที่เขาจับท่อนเอ็นแข็งถูไปถูมาจนเริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมาเล็กน้อย“ แฉะ แล้วนะคะ ” “ ทนอีกนิดนะคะ เดี๋ยวก็มีความสุขแล้ว ” บทร้ายพูดพลางแอบยัดท่อนเอ็นใหญ่ของตัวเองเข้าไปในโพลงกลีบกุหลาบโดยที่เด็กสาวยังไม่ทันได้ตั้งตัว “ กรี๊ดดดด อ๊ายยยย ” เจ้าหญิงร้องออกมาเสียงหลงด้วยอาการที่เจ็บแสบไปรอบๆโพลงเล็กๆของเธอ มันเจ็บจัง TT“ อ๊าาา เสียววววสัสๆ ” บทร้ายเผลอพูดสบถคำหยาบออกมาอย่างสุขสมอา
เพนท์เฮ้าส์“ เจ้าหญิงขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวเจ้าหญิงจะไปหาที่บ้านหลังใหญ่ค่ะ ” เจ้าหญิงบอกกับบทร้ายก่อนที่เธอจะก้าวขาลงจากรถตู้“ ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวพี่จะไปหาที่บ้านหลังเล็กเอง อยากเปลี่ยนบรรยากาศ :) ” บทร้ายยิ้มร้ายๆใส่เจ้าหญิง แววตาของเขาพร้อมที่จะตะครุบนางแมวน้อยยั่วสวาทตัวนี้จริงๆ แต่เขาก็ต้องอดใจรอไว้ก่อน เพราะต่างคนต่างต้องแยกย้ายกันไปอาบน้ำตัวหอมๆ เพราะกลิ่นอาหารทะเลติดตามตัวเขาไปหมด “ ร้ายนะคะเนี่ยยยย ” เจ้าหญิงยิ้มหวานและก้าวขาเรียวเล็กของเธอลงจากรถตู้และเดินเข้าบ้านหลังเล็กสีขาวของเธอทันทีก็อก ก็อก ก็อก ตอนนี้เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าๆ เสียงเคาะประตูบานเล็กดังขึ้น เจ้าหญิงได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งแจ้นออกมาเปิดประตูให้เจ้าของเสียงเคาะประตูทันที เพราะจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากเขา...คุณบทร้าย “ มาแล้วค่าาาา ” เสียงใสเจียแจ้วดังมาแต่ไกล “ อ๊ะ! ” เจ้าหญิงที่พึ่งเปิดกลอนประตู เธอโดนบทร้ายกอดรัดแน่นและโผล่เข้าจูบปากเล็กอย่างหื่นกระหายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว“ อื้อๆ ” เจ้าหญิงทุบอกแกร่งอย่างแรงเพราะเธอหายใจไม่ออก คุณบทร้ายทำแบบนี้เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะ “ ปะ ปิด ปาาาา ตู้ ”
2 วัน ผ่านไปร้านอาหารตามสั่งวันดีวันนี้บทร้าย เจ้าหญิง ธันวา นม กันต์ และอัคคีได้มาชิมอาหารฝีมือของแม่วันดี แม่ของเจ้าหญิงครั้งแรกตามที่บทร้ายบอกว่าจะพามา เขาอยากพาเธอมาอวดผลสอบผู้เป็นแม่ และให้เจ้าหญิงได้เจอแม่ก่อนเปิดเรียนมหาวิทยาลัย “ คุณแม่ขาาาาา ” เจ้าหญิงที่พึ่งก้าวขาลงจากรถตู้ เธอรีบวิ่งไปกระโดดกอดแม่ของเธอทันที เมื่อวันก่อนที่จะมาหาคุณแม่ เจ้าหญิงได้โทรบอกกับแม่ของเธอไว้ก่อนแล้วว่าเธอจะเข้ามาพร้อมกับคุณบทร้าย วันนี้วันดีเลยปิดร้านอาหารเพื่อต้อนรับลูกสาวของตัวเองและผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายของลูกสาวเป็นพิเศษวันนี้เจ้าหญิงใส่ชุดเดรสสั้นสีฟ้าอ่อน พร้อมกับใส่ที่่คาดผมผ้าสีฟ้า พายกระเป๋าใบสีขาว รองเท้าส้นสูงสีขาว ใส่สร้อยและต่างหู นาฬิกา เครื่องประดับเล็กน้อย แต่งตัวดั่งเจ้าหญิงเช่นเคย...“ ลูกสาวแม่โตเป็นสาวแล้ว ” วันดีกอดลูกสาวน้ำตาคลอ เธอคิดถึงลูกสาวคนดีของเธอมากๆ ก่อนที่จะมีเรื่องเกิดขึ้น เธอกับลูกสาวเจอหน้ากันทุกวัน เจ้าหญิงเป็นเด็กที่น่ารักมาก ช่วยเหลืองานบ้านของแม่ทุกๆอย่าง เธอทั้งเรียนหนัก ทั้งทำงานบ้าน ค้าขายช่วยแม่อย่างหนัก และแม่ของเธอไม่เคยได้ยินเด็กตัวเล็กๆแค่นี้
“ นมขาาา ” เจ้าหญิงยื่นหมู ไก่ เนื้อ ให้นม เพื่อให้นมหั่นเป็นชิ้นๆให้เธอ “ พี่อัคคีช่วยเจ้าหญิงจับหน่อยค่าาา ” เจ้าหญิงที่กำลังจะปูเสื่อลงพื้นที่หน้าบ้านบอกให้อัคคีช่วยจับอีกแรงตอนนี้เธอแต่งตัวด้วยกางเกงผ้าลื่นขาสั้นสีดำ เสื้อยืดตัวใหญ่ๆสีชมพู พร้อมกับใส่ผ้ากันเปื้อนในการจัดเตรียมอาหารมื้อเย็นสุดพิเศษเธอค่อยๆยกหม้อต้มชาบูที่เธอพึ่งซื้อมาค่อยๆวางลงพื้นอย่างเบามือ และก็เดินไปยกหม้อใบที่สองออกมา เธอซื้อหม้อต้มชาบูกับหม้อปิ้งย่างมาอย่างละ 2 ใบ เผื่อมีคนอยากกินทั้งต้มและย่าง “ :) ” บทร้ายเดินไปยิ้มไปอย่างมีความสุข ส่วนธันวาก็มองหน้าเพื่อนสนิทจนจะเลี่ยนในความรัก ความรักที่ไม่รู้หัวใจตัวเอง...“ มาแล้วเหรอคะ :) ” เจ้าหญิงที่ตอนนี้ตัวเลอะเทอะไปหมดเอ่ยทักขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวาน จนทำให้ธันวาคล้อยตามไปกับสาวน้อยด้วย“ อุ้ย! คุณพาเพื่อนมาด้วยเหรอคะ เชิญค่ะๆ คุณ... ” เจ้าหญิงเอียงคอถามเล็กน้อย “ ธันวา เพื่อนสนิทคุณบทร้ายครับผม :) ” ธันวาแนะนำตัวพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับเจ้าหญิง แถมเขายังยื่นมือจะไปจับมือน้อยๆทักทายเจ้าหญิงอีกด้วยแปะ แปะ แปะ เจ้าหญิงทั้งปัดและเช็ดมือที่สกปรกของตัวเองออก ก่อน