" ท่าทางดูเหมือนคุณจะเหนื่อย กินขนมปังหน่อยไหมคะ " ฉันที่หยิบขนมปังออกมาจากกระเป๋านักเรียนและได้ยื่นมันไปให้เขาทันที
เขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับหันหน้ามาทางฉันเล็กน้อย " ไม่กิน! " เขาตอบกลับฉันแต่มือของเขาดันหยิบขนมปังในมือของฉันออกและโยนมันเอาไปไว้เบาะด้านหลังรถทันทีและก็หันกลับไปนั่งและเอาหัวพิงเบาะและหลับตาลงต่ออย่างไม่ได้สนใจอะไรฉันนัก " ไม่กินก็ไม่ต้องกันซี่ โยนของหนูทิ้งทำไม " ฉันบ่นพึมพำของฉันเบาๆอยู่คนเดียว หลังจากที่รถขับมาได้เกือบหนึ่งชั่วโมง ก็มาจอดที่โรงจอดรถแห่งหนึ่งซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน " ถึงแล้วครับท่าน " ลูกน้องที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าคนขับหันหน้ามาบอกคุณบทร้าย " อืม " เขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับตอบกลับไปสั้นๆ หลังจากที่พวกเขาได้ยินคำตอบของผู้เป็นนายแล้วเขาก็ลงจากรถตู้ทันที ฉันที่เดินตามหลังของคุณบทร้ายมาก็พบว่าสถานที่ที่ฉันมาเป็นโรงแรมหรูขนาดใหญ่ พร้อมกับเขาที่เดินเข้ามาที่ห้องห้องหนึ่งซึ่งคล้ายๆเหมือนกับเป็นโต๊ะอาหาร ฉันที่เดินตามเขาเข้าไปพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเขา ซึ่งเขานั่งอยู่หัวโต๊ะอาหาร " เรามาทำอะไรกันเหรอคะ " ฉันหันหน้าไปถามเขาอย่างสงสัย " กินข้าว " เขาตอบกลับมาสั้นๆ แต่เขาก็ไม่ได้หันหน้ามามองฉันเลยสักนิด " กะ กินข้าวเหรอคะ พาหนูมากินด้วยเหรอ " ฉันที่ไม่ได้เข้าใจในการกระทำของเขานักก็เลยถามเขาไปตรงๆ " ไม่ได้พามา แค่เห็นยืนอยู่ข้างถนนเลยเอาติดรถมาด้วย " เขากดน้ำเสียงลงต่ำตอบฉันแต่ก็ไม่ได้หันหน้ามามองฉันเช่นเดิม " กินสิ " เมื่ออาหารมาเสิร์ฟจนครบเรียบร้อยแล้วแต่เขาก็ยังเห็นเด็กน้อยไร้เดียงสานั่งอยู่นิ่งๆไม่ยอมกินอะไรเลย จนเขาต้องเอ่ยปากชวน " กะ กินได้เหรอคะ " เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมาถามเขาพร้อมกับน้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างไม่น่าจะเชื่อคำพูดของเขาว่าอนุญาตให้เธอกินได้ " เออ กินไปเถอะ " เขาที่ไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนมาร่วมโต๊ะอาหารด้วยกันกับเขาเลยสักครั้ง แต่ก็ดันชวนเด็กขัดดอกใช้หนี้ร่วมรับประทานที่โต๊ะอาหารด้วย เขาคิดว่าแค่คนติดรถมาด้วยจะให้มานั่งดูเฉยๆก็ไม่ได้ " อื้ม อันนี้อร่อยดีนะคะ คุณบทร้ายลองชิมดูสิคะ " เด็กน้อยที่ตักสปาเกตตี้ขี้เมาไส้กรอกเข้าปาก ก็พบว่ามันอร่อยมาก เธอเลยถือวิสาสะตักสปาเกตตี้ขี้เมาไส้กรอกใส่จานของผม ผมก็มองดูพฤติกรรมของเธอพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันเป็นปม เพราะตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้ให้ผมเลยตั้งแต่วันที่พ่อกับแม่ของผมเสียไปตั้งแต่เด็กๆ ผมก็เลยต้องมาดูแลธุรกิจหลายด้านแห่งนี้สืบทอดจากตระกูลของผมยังไงล่ะ และผมก็ตั้งใจจะทำมันด้วย กว่าพ่อแม่ของผมจะสร้างมันมาได้กับมือทั้งเงินทองที่มากมายมหาศาลพร้อมทั้งอำนาจ บารมี ที่ใครๆต่างก็พากันต้องการ พวกท่านทั้งสองได้สร้างมันเอามาไว้ให้ผมเรียบร้อยแล้ว เธอยังเด็กที่ยังอายุเพียง 17 ปี และเป็นเด็กที่ยังไร้เดียงสา ผมเลยไม่อะไรกับเธอมาก ขนาดพ่อเลี้ยงของเธอยังส่งเธอมาขัดดอกทั้งๆที่เธอไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ก็ถือว่าเป็นคราวเคราะห์ของเธอแล้วกันที่ได้มาเป็นเด็กของฉัน...เจ้าหญิง ผมมองดูเด็กน้อยที่นั่งข้างๆผมที่ตอนนี้กำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมกับรอยยิ้ม มีความสุขอะไรขนาดนั้นเชียว ผมเผลอยิ้มออกมากับการกระทำของเธอ ผมที่รู้ตัวว่าตัวเองเผลอยิ้มออกมาก็รีบหุบยิ้มกลับไปทันที ผมกับเธอกินอาหารจนอิ่มก็ต้องรีบเดินกลับขึ้นมาบนรถทันที เพราะผมจำได้ว่าเธอบอกว่าเธอมีการบ้านต้องทำ ถ้ากลับดึกกว่านี้มีหวังได้นอนดึกตื่นเช้าไปโรงเรียนแน่นอน ผมไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยอะไรเธอนะ ผมแค่ไม่อยากมีภาระเพิ่มมากขึ้น แค่งานของผมก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว เพนท์เฮ้าส์ หลังจากที่รถตู้ของผมจอดสนิทที่หน้าบ้านหลังเล็กสีขาวของเธอ เธอก็ลงจากประตูรถทันทีแต่ก็ไม่วายหันหน้ากลับมาหาผม " ขอบคุณนะคะ วันนี้อาหารอร่อยมากค่ะ " เธอหันหน้ามายกมือไหว้ขอบคุณผมพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ผมจนตาหยี เด็กบ้าอะไรวะ! ผมรีบหันหน้าหนีทันทีพร้อมกับประตูรถที่ปิดลง ผมเดินเข้ามาในเพ้นเฮ้าท์หลังใหญ่พร้อมกับขึ้นไปบนห้องนอนของผม พร้อมกับรีบอาบน้ำชำระร่างกายและขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงนุ่มด้วยชุดนอนสีแดงเลือดหมูแบรนด์ดัง " เด็กบ้าอะไรวะ " ผมที่นอนอยู่บนเตียงพึมพำอยู่คนเดียว ก็เพราะภาพรอยยิ้มของเธอตั้งแต่ที่ยังอยู่ในโรงแรมมากระทั่งจนถึงเพ้นเฮ้าท์ยังติดตาผมอยู่เลยน่ะสิ หลอกหลอนซะมัด! ผมรีบสะบัดความคิดของตัวเองออกไปทันทีและยื่นมือไปปิดโคมไฟหัวเตียงและหลับตาลงไปในที่สุดเพราะความเหนื่อยล้าจากการทำงาน กริ้งงงง กริ้งงงงง เสียงนาฬิกาปลุกของเจ้าหญิงดังขึ้น ซึ่งตอนนี้เป็นเวลา 06.00 น. เจ้าหญิงรีบดันตัวเองลุกขึ้นนั่งพร้อมกับบิดตัวไปมาและเดินลงจากเตียงเพื่อมาเปิดผ้าม่านสีขาวตรงหน้าต่างออกมาสูดบรรยากาศตอนเช้า หลังจากที่เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เธอก็จัดกระเป๋านักเรียนและเดินออกมาจากห้องนอน เธอก็พบว่าวันนี้แปลกไปจากวันแรกที่เธอเข้ามา ก็เพราะว่าวันนี้เธอมีโต๊ะอาหารแถมยังมีอาหารเช้าวางไว้อยู่น่ะสิ เธอที่เห็นดังนั้นยกยิ้มดีใจใหญ่และรีบวิ่งไปนั่งที่โต๊ะอาหารทันที " ว้าววว ไข่น้ำ " เธอที่เห็นไข่น้ำก็รีบหยิบช้อนกลางขึ้นมาตักซดน้ำร้อนๆทันที " มีผัดกระเพราเครื่องในไก่ของโปรดเจ้าหญิงด้วย " เธอพูดพลางยิ้มดีอกดีใจอยู่คนเดียว แต่เธอหารู้ไหมว่ามีคนแอบมองดูการกระทำของเธอจากกล้องวงจรปิดที่เขาบอกให้ลูกน้องแอบติดเอาไว้ที่ด้านนอกบ้านและด้านในโถงบ้าน ยกเว้นเสียจากห้องนอนและห้องน้ำก็เท่านั้น เธอนั่งกินอาหารคนเดียวอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมกับหยิบถ้วยชามไปล้างจนสะอาดและเอามันกลับมาวางไว้บนโต๊ะอาหารเหมือนเดิม เธอเดินออกมาหน้าบ้านพร้อมกับยืนรอรถซาฟารีเหมือนเช่นทุกครั้งเพื่อออกไปหน้าประตูเพ้นเฮ้าท์และเดินไปรอรถเมล์ ไม่นานนักรถซาฟารีคันสีขาวที่เธอรอก็มาจอดที่หน้าบ้านหลังเล็กสีขาวของเธอ วันนี้เธอดูสดใสเป็นพิเศษ สงสัยมีอาหารเช้ามาวางไว้ให้เธอกินก่อนไปโรงเรียนเหมือนเช่นทุกวันที่แม่เธอเคยทำให้กินก่อนไปโรงเรียน " คิดถึงแม่จัง " คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนรถซาฟารีพูดขึ้นมาคนเดียวพร้อมกับหันหน้าไปมองวิวรอบๆพอถึงโรงเรียนเจ้าหญิงก็เดินเข้าไปในโรงเรียนตามปกติ พร้อมกับเถวะที่มายืนรอรับเจ้าหญิงหน้าป้ายรถเมล์อย่างเช่นทุกครั้ง" ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ " เถวะหันหน้าไปชวนเพื่อนสาวที่สนิทสุดๆของตัวเอง" เรากินมาแล้ว " เจ้าหญิงตอบกลับเถวะไปพร้อมกับรอยยิ้มแสนน่ารัก จนทำให้รอยยิ้มที่เจ้าหญิงยิ้มส่งมาให้เถวะ ทำให้เถวะหัวใจหล่นวูบทันที แอบรักเพื่อนสนิทตัวเองมันเป็นแบบนี้นี่เอง เถวะได้แต่คิดในใจ" แต่เราหิวนี่น๊าาา " เถวะพูดพลางลูบท้องของเขาไปมา" งั้นเจ้าหญิงพาเถวะไปกินที่โรงอาหารนะ " เจ้าหญิงบอกกับเพื่อนชายที่สนิทที่สุดของเขาทันที เพื่อนรักทั้งสองคนเดินไปที่โรงอาหาร เจ้าหญิงก็นั่งรอเถวะกินข้าวพร้อมกับหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่คุณบทร้ายซื้อให้ออกมากดเล่น" เจ้าหญิงเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่เหรอ " เถวะถามเจ้าหญิง เพราะปกติเจ้าหญิงจะไม่เปลี่ยนโทรศัพท์บ่อยๆ และเจ้าหญิงก็คงไม่ซื้อโทรศัพท์ที่ราคาแพงเกือบแสนแบบนี้" คุณบทร้ายซื้อให้เจ้าหญิงไว้โทรหาเขาตอนฉุกเฉิน คุณบทร้ายบอกว่าราคาไม่แพงมากนัก " เจ้าหญิงที่แสนไร้เดียงสาตอบกลับเถวะไป" เปลี่ยนเบอร์โทรด้วยเหรอ เมื่อคืนเราโทรหาเจ้าหญิงไม่ติดเลย เราว่าจะถามเรื่องการบ้าน
1 เดือนต่อมาในทุกๆ วันศุกร์ของคาบโฮมรูมเจ้าหญิงกับเถวะก็จะแอบออกไปพบแม่ของเธอที่ร้านอาหารตามสั่งทุกวันตามปกติ และคุณบทร้ายก็ไม่ได้รับรู้ถึงการกระทำของเด็กน้อยของเขาเลย เพราะเขาไว้ใจเธอและคิดว่าเธอก็คงเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งที่ไม่กล้าต่อกรอะไรกับเขามากนักเขาก็เลยไม่ได้สั่งให้คนไปเฝ้าตามติดและคอยดูเธอเอาไว้ แค่ให้เฝ้ารอรับเธอที่หน้าประตูโรงเรียนในทุกๆ วันวันนี้เป็นวันสอบไฟนอลเพื่อจะจบปีการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เจ้าหญิงกับเพื่อนๆ ของเขาอีก 3 คนตั้งใจเรียนและพากันติวหนังสืออย่างหนักเพื่อการสอบในครั้งนี้" เป็นยังไงบ้าง ทำได้ไหมเจ้าหญิง " พอทุกคนเดินออกจากห้องสอบหมวยเพื่อนสาวคนเดียวของเจ้าหญิงก็ถามขึ้น" พอได้จ๊ะ ^^ " เจ้าหญิงตอบเพื่อนด้วยรอยยิ้มสดใสเฉียดเช่นทุกครั้ง" ระดับเจ้าหญิงไม่มีคำว่าไม่ได้อยู่แล้ว " เถวะพูดขึ้นมาบ้าง" งั้นไปกินข้าวกันไหมเจ้าหญิง ฉลองสอบเสร็จ " หมวยเอ่ยถามเจ้าหญิง พร้อมกับเพื่อนๆทุกคนก็เดินอยู่ถึงกับหยุดนิ่งยืนรอคำตอบของเจ้าหญิง เพราะทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเจ้าหญิงไปที่ไหนไม่ค่อยได้ถ้าคุณบทร้ายไม่ได้อนุญาต " เอ่อ...คือ " เจ้าหญิงอ้ำๆอึ้งๆ ใจหนึ่งก็อยากจะไ
หลังจากที่วางสายคุณบทร้ายไปแล้ว เจ้าหญิงก็เดินกลับมาหาเพื่อนๆด้วยท่าทางหน้าสลดลง เจ้าหญิงทำหน้าทำตาเหมือนคุณบทร้ายไม่อนุญาตให้ไปเลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆ เจ้าหญิงคิดจะแกล้งเพื่อนของเธอเล่นสักหน่อย ^^" เป็นไงบ้างเจ้าหญิง " ต่อถามเจ้าหญิงขึ้นมาทันทีหลังจากที่เจ้าหญิงได้เดินเข้ามาหาเพื่อนๆแล้ว พร้อมกับที่เพื่อนๆทุกคนจ้องมองหน้าเจ้าหญิงเพื่อรอเอาคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ" ไม่เป็นไรนะเจ้าหญิง " หมวยยื่นมือของเธอมากุมมือของเจ้าหญิงไว้ เพราะเห็นสีหน้าท่าทางของเจ้าหญิงเพื่อนของเธอแบบนี้แล้ว คุณบทร้ายไม่น่าจะอนุญาตให้ไปเลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับพวกเธอเป็นแน่" ถ้าเจ้าหญิงไม่ไปเราก็ไม่มีอารมณ์จะไปหรอก " เถวะพูดขึ้นพลางยกมือขึ้นกอดอกอย่างไม่พอใจนัก เพราะถ้าไปที่ไหนแล้วไม่มีเจ้าหญิงไปด้วยเถวะก็ไม่อยากจะไปมากนักหรอก " เอ่อ...คุณบทร้าย " เจ้าหญิงทำท่าทางอ้ำๆอึ้งๆ เพื่อแกล้งเพื่อนของเธอเล่นต่อไป" คุณบทร้าย อนุญาต!! " เจ้าหญิงร้องตะโกนขึ้นมาพร้อมกับกระโดดโลดเต้นและปรบมืออย่างดีอกดีใจ " เจ้าหญิงแกล้งพวกเราเหรอ นี่แหนะ! " หมวยพูดขึ้นพลางยื่นมือไปจี้เอวของเจ้าหญิงเพื่อลงโทษฐานที่โกหกพวกเธอ " ฮ่าๆๆๆ อย่าจี
เพนท์เฮ้าน์หลังจากที่เจ้าหญิงได้เลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเจ้าหญิงก็บอกให้พี่อัคคีขับรถไปส่งเพื่อนๆของเธอที่บ้านกันทีละคน พร้อมกับขับรถไปส่งเถวะที่หน้าโรงเรียนอีกครั้ง ก็เพราะว่าเถวะขับรถส่วนตัวไปโรงเรียนทุกวัน เถวะเลยต้องกลับเข้าไปเอารถที่จอดเอาไว้แถวๆด้านหน้าของโรงเรียนพอเจ้าหญิงมาถึงบ้านหลังเล็กสีขาว เจ้าหญิงก็อาบน้ำชำระร่างกายของตัวเอง และในการกระทำของเธอทุกๆฝีก้าวก็อยู่ในสายตาของคนที่ชื่อบทร้ายตลอดเวลา เขาเห็นแม้กระทั่งเจ้าหญิงเดินเข้ามาในบ้านด้วยรอยยิ้มที่สดใส เพราะเธอได้ออกไปสนุกกับเพื่อนๆ และเขาเห็นแม้กระทั่งเจ้าหญิงเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ และเธอก็เดินกลับออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูสีขาวพันรอบอกตัวเดียว" อึก! " สัดส่วนโค้งเว้าของเธอที่ดูโตกว่าเด็กสาวทั่วๆไป ทำให้คนที่จดจ่ออยู่หน้าจอกล้องวงจรปิดถึงกับแอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เจ้าหญิงอีกเพียง 1 เดือนเธอก็อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว เธอจะถึงกำหนดอายุเร็วหน่อยก็เพราะเธอดันเกิดต้นเดือนน่ะสิ วันทีี 1 เดือน 1 แต่เจ้าหญิงมีเพียงอายุแค่นี้ แต่สัดส่วนในร่างกายของเธอดันโตเร็วกว่าเด็กสาวปกติทั่วไป แม้ตัวเธอจะ
" คุณบทร้ายเรียกเจ้าหญิงเข้ามาเพื่อจะตีเจ้าหญิงใช่หรือเปล่าคะ " เจ้าหญิงที่นึกขึ้นได้แบบนั้นก็ถามเขากลับไปพร้อมกับก้มหน้าก้มตาลงอย่างหวาดระแวง" หึ! " ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆจากคุณบทร้าย นอกจากเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของเขา" ตามมา " เขาสั่งเธอเสียงเข้มพร้อมกับเดินหันหลังไปขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 ทันที " อย่าให้ต้องเรียกเป็นครั้งที่สอง " หลังจากที่เขารู้ว่าเด็กน้อยยังไม่เดินตามหลังเขามา เขาก็สั่งเธอด้วยน้ำเสียงดุดันและจริงจังอีกครั้ง เพื่อเป็นการข่มขวัญให้เด็กน้อยกลัว และมันก็ได้ผล เจ้าหญิงที่มีร่างกายผอมบางรีบวิ่งแจ้นขึ้นไปบนบันไดตามแผ่นหลังแกร่งของเขาอย่างง่ายดาย" จะไปไหนเหรอคะ ห้องเชือดที่โดนทำโทษอยู่ข้างๆบ้านหลังใหญ่ไม่ใช่เหรอคะ " เจ้าหญิงที่เดินตามแผ่นหลังแกร่งเอ่ยถามเขาขึ้นอย่างนึกสงสัย" วันนี้เธอต้องมาทำหน้าที่เป็นเด็กขัดดอกให้ฉัน " เมื่อเดินถึงหน้าประตูห้องห้องหนึ่งเขาก็หยุดเดินและหันหน้ากลับมาพูดกับเจ้าหญิงอีกครั้ง" ทำหน้าที่ขัดดอกเหรอคะ ? " เจ้าหญิงเอียงคอเล็กน้อยอย่างนึกสงสัยว่าเขาจะให้เจ้าหญิงทำหน้าที่แบบไหนกันนะถึงได้พามาที่บ้านหลังใหญ่ที่เขาหวงนักหวงหนาแบบนี้การกระทำของเจ้
" คณะนิเทศศาสตร์ ? "เขาเลิกคิ้วถามเจ้าหญิงด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบที่แฝงไปด้วยแววตาดุดันอย่างไม่ชอบใจนักกับคณะที่เด็กสาวจะเลือกเรียนต่อ" คะ ? " เจ้าหญิงเอียงคอเล็กน้อยพร้อมกับมองจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแต่แฝงไปด้วยความดุดันในแววตาของเขาอย่างเห็นได้ชัด" ไปเลือกคณะที่เธออยากเรียนมาใหม่ คณะนี้ฉันไม่อนุญาตให้เธอเรียน " เขาเปล่งน้ำเสียงจริงจังบอกกับคนร่างบางที่นั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าต่อตาของเขาอย่างน่ารักน่าเอ็นดู" ทำไมเหรอคะ คณะนี้ไม่ดียังไงเหรอคะ " เจ้าหญิงเอ่ยถามเขาไปด้วยความสงสัย เพราะที่เธอได้ยินมาจากหมวยเพื่อนสาวของเธอ คณะนี้มันก็ไม่ได้ไม่ดีอะไรนี่น๊า แถมใช้ความสามารถในการแสดงของเธอหาเงินได้อีกตั้งเยอะแยะเลย แถมยังได้แต่งตัวสวยๆ มีคนชื่นชอบมากมายอีกด้วย" ไม่ต้องถาม ถ้าฉันไม่อนุญาตให้เรียนก็คือไม่อนุญาต " เขาบอกสาวน้อยร่างบางพร้อมกับยกขาขึ้นนั่งไขว้กัน พร้อมกับเอนตัวลงพิงพนักพิงโซฟาอย่างไม่ได้สนใจเจ้าหญิงที่ทำท่าทางงุนงงกับคำพูดของเขา" งั้นเดี๋ยวเจ้าหญิงขอกลับไปคิดก่อนนะคะว่าจะเรียนคณะอะไร " เจ้าหญิงตอบกลับเขาไปอย่างไร้เดียงสา เพราะตัวเธอเองก็ยังไม่ได้คิดเลยว่าตัวเองจะเรียนคณ
" ตามมา " ร่างสูงผละมือเรียวเล็กของเจ้าหญิงออกจากท่อนเอ็นที่ใหญ่โตของเขาและเดินออกไปผ่านหน้าผ่านตาเจ้าหญิงที่นั่งคุกเข่าอยู่ทันทีเจ้าหญิงลุกขึ้นยืนเต็มตัวพร้อมกับเดินตามร่างสูงที่ไร้อาพรในการปกปิดร่างกายเพื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำสุดหรูของเขาทันที" เปิดน้ำอุ่น ฉันจะเข้าไปแช่น้ำในอ่าง " เขาบอกเด็กสาวที่เดินตามมาพร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปทางอ่างจากุชชี่สุดหรูเพื่อให้เธอทำตามคำสั่งที่เขาบอก" ได้ค่ะ " เจ้าหญิงตอบรับคำสั่งพร้อมกับเดินไปเปิดทำน้ำอุ่นตามที่คนเป็นเจ้านายสั่งทันที" เรียบร้อยแล้วค่ะ " เจ้าหญิงหันหน้ามาบอกเขาที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว" ... " เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ก้าวขาเรียนยาวที่ไร้ขนขาของเขาเดินเข้าไปในอ่างจากุชชี่ทันทีเจ้าหญิงที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรต่อไปบ้าง เพราะเธอไม่เคยอาบน้ำให้กับใครมาก่อนก็เลยถามเขาขึ้นมา" แล้วหนูต้องทำยังไงบ้างคะ " เธอเอ่ยถามเขาที่นอนแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างสบายใจเฉียบ" ถอดชุดนอนเธอออกสิ " เขาบอกพร้อมกับจ้องมองมาที่เรือนร่างของเธอด้วยสายตาที่ทำให้เด็กสาวถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาทันที" หนูแค่จะอาบน้ำให้ หนูไม่ได้จะอาบน้ำด้วยนะคะ " เธอบอกเขาไปด้วยน้ำเสียงที่สั่
" คุณบทร้ายจะทำอะไรหนูคะ " เจ้าหญิงถามเขาออกไปด้วยความตกใจทันที เมื่อเธอเห็นท่าทางของเขาที่มีต่อเธอในตอนนี้ เขาปฏิบัติกับเธอไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่เธอได้ย่างก้าวเข้ามาเลย เพราะเมื่อก่อนเขาจะไม่เข้าใกล้เธอแม้แต่ปลายเล็บของเขา แต่ตอนนี้ดันกลับตาลปัตรไปหมดจนหัวใจดวงน้อยๆของเจ้าหญิงนึกกลัวกับการกระทำของเขาขึ้นมาอย่างมาก" ทำหน้าที่เด็กขัดดอก " เขาตอบสั้นๆพร้อมกับก้มใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาซุกไซร้ไปที่ซอกคอขาวเนียนของเธอไปมาเพื่อสูดดมกลิ่นกลายเด็กที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง และเขาก็ไม่ปฏิเสธเลยว่าเขาชอบและคลั่งไคล้กลิ่นกลายของเด็กสาวอย่างไม่อายปาก" อื้อ หอม " เขาพึมพำออกมาจากลำคอเบาๆ แต่ก็ยังซุกไซร้และดูดเข้าไปที่คอขาวเนียนจนเกิดรอยช้ำสองสามจุด" ท่านครับ! " จู่ๆก็มีเสียงของลูกน้องของเขาคนหนึ่งดังขึ้นที่ไหนสักแห่ง แต่เธอมองไปรอบๆก็ไม่เห็นจะเจอใครเลยด้วยซ้ำ หรือลูกน้องของเขาจะอยู่ที่ด้านนอกห้องน้ำกันนะเจ้าหญิงคิดในใจ เจ้าหญิงที่คิดได้ดังนั้นเลยตกใจตาโตทันที เพราะเธอกลัวคนอื่นจะรู้ว่าเธออยู่ในห้องน้ำกับเขาเป็นการส่วนตัวและเธอก็คงจะอายมากๆด้วยถ้ามีคนเห็นเธอกระทำแบบนี้ เธอยังเด็กอยู่เลยนะ! U.U" เกิด
เพนท์เฮ้าสน์ตอนนี้เป็นเวลา 4 ทุ่มเกือบจะ 5 ทุ่มแล้ว เจ้าหญิงพึ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จด้วยชุดนอนผ้าลื่นสายเดี่ยวสีแดงสดขับกับสีผิวที่ขาวของเธอพร้อมกับปล่อยผมยาวสีทองที่พึ่งไปย้อมมาใหม่จนถึงก้นงอน เพื่อใช้ประกวดดาว-เดือนโดยเฉพาะ เพราะช่วงนี้เธอซ้อมประกวดดาว-เดือน อย่างหนักเพราะสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มแข่งขันแล้ว เพราะการประกวดดาว-เดือน จะซ้อมได้แค่หลังเลิกเรียนและวันหยุดเพียงเท่านั้น เพราะเวลาปกติ 08.30 - 16.30 น. เป็นในเวลาการเรียน “ คุณนอนหรือยังนะ ทักไลน์ไปถามดีกว่า ” เจ้าหญิงเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือเข้าแอพไลน์และทักหาเขาในทันทีBR ชื่อไลน์เมื่อเจ้าหญิงเลื่อนเจอชื่อไลน์ของบุคคลที่เธอจะทักหาเธอก็เข้าแชทเขาอย่างไม่รีรอ แต่ทว่า...ไลน์ เสียงข้อความไลน์ของเธอดันดังมาซะก่อน พอเธออ่านรายชื่อบุคคลที่ทักหาเธอ มันก็คือบุคคลเดียวกันที่เธอกำลังจะทักหาอยู่พอดี BR ส่งรูปภาพเจ้าหญิงกดเข้าไปดูรูปภาพที่บุคคลดังกล่าวส่งมาเธอถึงกับตกใจตาโพลงโต 0.0“ คุณ เป็นอะไรคะเนี่ย! ” เจ้าหญิงพูดพึมพำคนเดียวก่อนจะพิมพ์แชทถามกลับไป“ ใครเป็นคนเล่นโทรศัพท์มือถือคุณคะ คุณอยู่ที่ไหนเหรอคะ ” เจ้าห
ซ่าาาาาาาาา เสียงฝนตก บนรถ ในขณะที่หมวยและกันต์ก้าวขาขึ้นรถเก๋งคันสีขาว ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ภายในรถยนต์ที่ขับฝ่าสายฝนไปตามถนนเงียบสงบ เสียงปัดน้ำฝนดังเป็นจังหวะเนิบๆ ” อุ้ยฝนตก ขอบคุณมากนะคะพี่กันต์ ” หมวยพูดขึ้นในที่สุดเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบตึงกันเกินไป เพราะจะทำให้คนสองคนภายในรถพลอยอึดอัดกันไปด้วย หมวยยกมือไหว้กันต์ เพราะตอนนี้เธอได้นั่งอยู่เบาะข้างๆคนขับ ดีนะที่มีพี่กันต์ไปส่งที่หอพัก ไม่อย่างงั้นเธอคงเปียกปอนแน่นอนเลย เพราะเวลาเธอเรียกรถให้มารับบนแอพในโทรศัพท์มือถือเธอจะเรียกพี่คนขับเป็นมอเตอร์ไซค์ตลอด “ ครับ ” กันต์บุคคลที่ไม่ค่อยพูดค่อยจา ยกเว้นกับนายท่านของเขา ตอบได้แค่ ครับ คำเดียว เพราะเขาไม่ค่อยได้คุยกับใครเลย ยกเว้นกับนายท่าน และบรรดาเหล่าลูกน้อง พนักงาน บอดี้การ์ด ในเครือของบทร้าย และส่วนมากก็มีแต่การพูดคุย เจรจากันในเรื่องงานเท่านั้น เขาจึงไม่รู้ว่าการสนทนาแบบคนปกติมันเป็นแบบไหน “ เอ่อ เลี้ยวซ้ายซอยด้านหน้านี้เลยค่ะ ” หมวยชี้นิ้วบอกทางไปหอพักเธอกับกันต์ ส่วนกันต์ไม่พูดไม่จาอะไรเลย เขาเพียงแต่ใช้ความเงียบแทนคำตอบ ( แก๊งค์มาเฟียขี้เก๊กทุกคนห
มหาวิทยาลัย หลังจากที่เจ้าหญิงฝึกซ้อมดาว-เดือน เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ปาเข้าไปเป็นเวลาเกือบจะ 4 ทุ่มอยู่แล้ว ส่วนด้านต่อในตอนนี้เขาก็ได้กลับบ้านไปก่อนเพื่อนแล้ว เพราะต่อต้องมีเอกสารกิจกรรมที่จะต้องทำเยอะแยะไปหมด ก็คนเขาได้เป็นประธานรุ่นอ่ะเนาะ ทำไงได้ ฮ่าๆๆๆๆ “ เหนื่อยไหม ” เถวะรีบลุกขึ้นยืนจากอัศจรรย์อีกด้านทันทีเมื่อเขาเห็นเจ้าหญิงเดินมาทางนี้ เจ้าหญิงในชุดนักศึกษา แต่ครั้งนี้เจ้าหญิงใส่กระโปรงนักศึกษาสั้นแต่พอเข่าจึงทำให้แปลกหูแปลกตาไปบ้าง “ หวานซ่อนเปรี้ยวจริงๆ เพื่อนสาวคนสวยของหมวย ” หมวยเอ่ยชมเพื่อนสาวคนสนิททันทีเมื่อเธอเดินมาถึง “ ชมกันเกินไปน๊าาาา ” เจ้าหญิงตอบด้วยรอยยิ้มอย่างเขินๆ “ แล้วกลับยังไง ” เถวะที่เก็บสัมภาระของเจ้าหญิงใส่ลงในกระเป๋าเป้ให้เธอถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าปล่อยให้กลับเองคนเดียวมีหวังคงเป็นอันตรายเป็นแน่ “ ก็ต้องคุณบทร้ายให้เอารถมารับ มาส่ง เหมือนเดิมสิ ” หมวยตอบแทน แต่ตอนนี้พวกเธอยังไม่เห็นรถตู้คันสีดำคันเดิมที่มารอรับเจ้าหญิงเลยสักคัน “ เอ๋ แล้วพี่อัคคีไปไหนนะ ทำไมไม่มารอเจ้าหญิง ” เจ้าหญิงพึมพำเบาๆ แต่เพื่อนสนิททั
เพนท์เฮ้าส์“ เป็นยังไงบ้างคะ ไปมหาวิทยาลัยครั้งแรก ” บทร้ายที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารสีทองอร่ามถามเจ้าหญิงขึ้นพร้อมกับหั่นสเต๊กเนื้อราคาแพงในมือ“ ก็โอเคดีนะคะ เพื่อนๆพี่ๆ ใจดีกันทุกคนเลยค่ะ ” เจ้าหญิงตอบพร้อมกับหั่นสเต๊กในมือเช่นเดียวกัน หลังจากเลิกเรียนในวันแรก อัคคีก็ขับรถตู้คันสีดำมาจอดรอเจ้าหญิงหน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์เพื่อที่จะไปรับเจ้าหญิงเหมือนที่เคยขับรถไปรับไปส่งเจ้าหญิงที่โรงเรียนเช่นเคย พอถึงเพนท์เฮ้าส์เจ้าหญิงก็ไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านหลังเล็ก หลังจากนั้นเจ้าหญิงก็ไปทานข้าวที่บ้านหลังใหญ่กับคุณบทร้าย“ ดีแล้วค่ะ ” บทร้ายหั่นสเต๊กเข้าปาก“ คุณดูเครียดๆนะคะ เป็นอะไรหรือเปล่า? ” เจ้าหญิงมองเขาออกตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่แล้ว สีหน้าและแววตาของเขาดูเครียดๆ ไม่สดใสเอาเสียเลย“ เครียดเรื่องธุรกิจนิดหน่อยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะ ” บทร้ายตอบเจ้าหญิงอย่างไม่ปิดบังและเขาก็ส่งยิ้มกลับไปให้เธอ เพราะกลัวเธอจะเป็นกังวล “ อย่าเครียดเลยนะคะ บนโลกใบนี้เจ้าหญิงเชื่อว่าประตูมี 2 ด้านค่ะ ก็เหมือนกับมนุษย์เราที่มีนิสัย 2 ด้าน ” เจ้าหญิงพยายามที่จะพูดให้กำลังใจคุณบทร้าย “ หึๆ ” บทร้ายหัวเราะออกมาในลำ
“ ขั้นตอนต่อไปเราจะตามหาประธานรุ่นกันนะคะ ประธานเอาจริงๆไม่ได้มีขั้นตอนอะไรมากมายนักหรอกค่ะ เพราะรุ่นพี่จะสุ่มจับขึ้นมาด้านหน้าตรงนี้เอง ฮ่าๆๆๆ ” พี่นิดพูดไปขำไป คณะนิเทศศาสตร์แตกต่างไปจากที่คิดเอามากๆ รุ่นพี่ทุกคนใจดี ไม่เครียด เป็นกันเอง ชิวๆ แบบโคตรชิว เพราะหันไปมองรุ่นพี่แต่ละคนที่ยืนรายล้อมน้องๆอยู่ก็มีแต่รอยยิ้มให้กับน้องๆทุกคนเลย มันไม่แปลกไปใช่ไหม หรือมันปกติ “ รบกวนพี่เคประธานรุ่นปี3 กับพี่ใหม่ประธานรุ่นปี4 เดินสุ่มจับน้องมาสัก 4 คนหน่อยค่า เชิญค่าาา ” สิ้นคำสั่งจากพี่นิดประธานรุ่นปี2 พี่เคกับพี่ใหม่ก็เดินเลือกน้องๆมองดูและเดินไปเช็คดูในแต่ละแถวและจับสุ่มออกมา“ น้องคนนี้ลุกขึ้นค่ะ ” พี่ใหม่เดินไปที่แถวของต่อกับเถวะ และพี่ใหม่ก็บอกให้ต่อลุกขึ้นไปยืนหน้าแถว ต่อทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย “ ดูเท่ห์ว่ะ :) ” ต่อพูดก่อนจะลุกขึ้นไปยืนด้านหน้าแถวของตัวเอง “ ลุกขึ้นครับ ” พี่เคบอกเพื่อนผู้ชายที่ยกมือถามคำถามพี่ฝนก่อนหน้านี้ “ ลุกขึ้นค่ะ ” พี่ใหม่จับเพื่อนผู้หญิงอีกคน“ ลุกขึ้นครับ ” พี่เคจับเพื่อนผู้ชายอีกคนให้ลุกขึ้นเป็นคนสุดท้าย “ ตอนนี้เราได้ว่าที่ประธานรุ่นของคณะนิเทศศาสตร์ของพ
มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งวันนี้เป็นเปิดเรียนวันแรกของภาคการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ปี1 เทอม1 เจ้าหญิงที่กำลังจะก้าวขาลงจากรถตู้เธอก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้คนที่ขับรถไปรับไผส่งเธอเป็นประจำในทุกๆวัน“ สวัสดีค่ะพี่อัคคี เจ้าหญิงไปเรียนก่อนนะคะ ” เจ้าหญิงยกมือไหว้อัคคีอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะอัคคีเปรียบดั่งเสมือนพี่ชายของเธอเลย เธออยู่กับเขาเธอรู้สึกอบอุ่น และรู้สึกถึงความเป็นพี่ชายจากตัวเขาเป็นอย่างมาก “ ครับ ตั้งใจเรียนนะครับ ” อัคคีหันไปยิ้มให้กับเด็กสาวที่เปรียบเสมือนน้องสาวของตนเหมือนกัน เขารู้สึกรักและเอ็นดูเจ้าหญิงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเลยก็ว่าได้ “ เป็นยังไงบ้าง ” บทร้ายที่ค้างสายอยู่ตลอดเวลากับอัคคีถามเขา“ ลงจากรถไปแล้วครับ ” บทร้ายวันนี้ติดประชุมด่วนเลยไปส่งเจ้าหญิงที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะค้างสายเพื่อเช็คเธอจากอัคคีตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเพื่อความปลอดภัย หรือหวงกันแน่ 😂“ อืม ” บทร้ายตอบและตัดสายโทรศัพท์ไปหลายปีก่อนหน้า“ พ่อครับ พ่ออย่าทิ้งผมไปเลยนะครับ ” อัคคีในวัยเพียงไม่กี่ขวบวิ่งไปกอดขาพ่อของเขาเอาไว้แน่น“ ออกไป! ไปซะ! ” พ่อของอัคคีไล่เขาด้วยน้ำเสียงแข
“ เกาะไว้แน่นๆนะคะ ” บทร้ายที่อุ้มเจ้าหญิงด้วยท่าลิงอุ้มแตงบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า เสียงแหบของเขามันดูเซ็กซี่จัง -////-“ อ๊ะ จะ เจ็บ ” เจ้าหญิงสะดุ้งโหยงเมื่อเธอรู้สึกถึงท่อนเอ็นแข็งๆที่มีขนาดใหญ่มากๆเข้ามาทิ่มแทงไปที่โพลงกลีบกุหลาบของเธอ “ อ๊าาาาาาาาา ” บทร้ายร้องครางออกมาด้วยความสุขสม แม้มันจะเข้าไปได้แค่ปลายหัวถอกของเขาเท่านั้น “ ฟิตจังค่ะ ที่รัก ” บทร้ายพูดพลางอุ้มเจ้าหญิงด้วยแขนข้างเดียว ดูเหมือนเขาไม่หนักเลย เขาอุ้มเจ้าหญิงด้วยแขนข้างเดียวอย่างง่ายดาย แต่แขนอีกข้างหนึ่งของเขากลับอ้อมแขนล้วงไปที่ใต้ระหว่างขาของเด็กสาว เขาจับท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินขนาดมาตรฐานชายไทยถอดออกมาจากโพลงกลีบกุหลาบของเธอ พร้อมกับที่เขาจับท่อนเอ็นแข็งถูไปถูมาจนเริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมาเล็กน้อย“ แฉะ แล้วนะคะ ” “ ทนอีกนิดนะคะ เดี๋ยวก็มีความสุขแล้ว ” บทร้ายพูดพลางแอบยัดท่อนเอ็นใหญ่ของตัวเองเข้าไปในโพลงกลีบกุหลาบโดยที่เด็กสาวยังไม่ทันได้ตั้งตัว “ กรี๊ดดดด อ๊ายยยย ” เจ้าหญิงร้องออกมาเสียงหลงด้วยอาการที่เจ็บแสบไปรอบๆโพลงเล็กๆของเธอ มันเจ็บจัง TT“ อ๊าาา เสียววววสัสๆ ” บทร้ายเผลอพูดสบถคำหยาบออกมาอย่างสุขสมอา
เพนท์เฮ้าส์“ เจ้าหญิงขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวเจ้าหญิงจะไปหาที่บ้านหลังใหญ่ค่ะ ” เจ้าหญิงบอกกับบทร้ายก่อนที่เธอจะก้าวขาลงจากรถตู้“ ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวพี่จะไปหาที่บ้านหลังเล็กเอง อยากเปลี่ยนบรรยากาศ :) ” บทร้ายยิ้มร้ายๆใส่เจ้าหญิง แววตาของเขาพร้อมที่จะตะครุบนางแมวน้อยยั่วสวาทตัวนี้จริงๆ แต่เขาก็ต้องอดใจรอไว้ก่อน เพราะต่างคนต่างต้องแยกย้ายกันไปอาบน้ำตัวหอมๆ เพราะกลิ่นอาหารทะเลติดตามตัวเขาไปหมด “ ร้ายนะคะเนี่ยยยย ” เจ้าหญิงยิ้มหวานและก้าวขาเรียวเล็กของเธอลงจากรถตู้และเดินเข้าบ้านหลังเล็กสีขาวของเธอทันทีก็อก ก็อก ก็อก ตอนนี้เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าๆ เสียงเคาะประตูบานเล็กดังขึ้น เจ้าหญิงได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งแจ้นออกมาเปิดประตูให้เจ้าของเสียงเคาะประตูทันที เพราะจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากเขา...คุณบทร้าย “ มาแล้วค่าาาา ” เสียงใสเจียแจ้วดังมาแต่ไกล “ อ๊ะ! ” เจ้าหญิงที่พึ่งเปิดกลอนประตู เธอโดนบทร้ายกอดรัดแน่นและโผล่เข้าจูบปากเล็กอย่างหื่นกระหายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว“ อื้อๆ ” เจ้าหญิงทุบอกแกร่งอย่างแรงเพราะเธอหายใจไม่ออก คุณบทร้ายทำแบบนี้เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะ “ ปะ ปิด ปาาาา ตู้ ”
2 วัน ผ่านไปร้านอาหารตามสั่งวันดีวันนี้บทร้าย เจ้าหญิง ธันวา นม กันต์ และอัคคีได้มาชิมอาหารฝีมือของแม่วันดี แม่ของเจ้าหญิงครั้งแรกตามที่บทร้ายบอกว่าจะพามา เขาอยากพาเธอมาอวดผลสอบผู้เป็นแม่ และให้เจ้าหญิงได้เจอแม่ก่อนเปิดเรียนมหาวิทยาลัย “ คุณแม่ขาาาาา ” เจ้าหญิงที่พึ่งก้าวขาลงจากรถตู้ เธอรีบวิ่งไปกระโดดกอดแม่ของเธอทันที เมื่อวันก่อนที่จะมาหาคุณแม่ เจ้าหญิงได้โทรบอกกับแม่ของเธอไว้ก่อนแล้วว่าเธอจะเข้ามาพร้อมกับคุณบทร้าย วันนี้วันดีเลยปิดร้านอาหารเพื่อต้อนรับลูกสาวของตัวเองและผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายของลูกสาวเป็นพิเศษวันนี้เจ้าหญิงใส่ชุดเดรสสั้นสีฟ้าอ่อน พร้อมกับใส่ที่่คาดผมผ้าสีฟ้า พายกระเป๋าใบสีขาว รองเท้าส้นสูงสีขาว ใส่สร้อยและต่างหู นาฬิกา เครื่องประดับเล็กน้อย แต่งตัวดั่งเจ้าหญิงเช่นเคย...“ ลูกสาวแม่โตเป็นสาวแล้ว ” วันดีกอดลูกสาวน้ำตาคลอ เธอคิดถึงลูกสาวคนดีของเธอมากๆ ก่อนที่จะมีเรื่องเกิดขึ้น เธอกับลูกสาวเจอหน้ากันทุกวัน เจ้าหญิงเป็นเด็กที่น่ารักมาก ช่วยเหลืองานบ้านของแม่ทุกๆอย่าง เธอทั้งเรียนหนัก ทั้งทำงานบ้าน ค้าขายช่วยแม่อย่างหนัก และแม่ของเธอไม่เคยได้ยินเด็กตัวเล็กๆแค่นี้