Home / โรแมนติก / บรรณาการสิเน่หา / บทที่ 11...คุณชายผู้วิปริต

Share

บทที่ 11...คุณชายผู้วิปริต

รถคันงามที่เต็มไปด้วยบาดแผลแล่นเข้าสู่อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของตระกูลออปเปนไฮน์ อันเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของชายหนุ่มผู้เป็นบุตรชายเพียงคนเดียว เขาลงจากรถแล้วก็ไล่ให้บอดี้การ์ดไปเสียให้ไกลจากสายตา จากนั้นก็ขึ้นไปยังชั้นสามของบ้าน เข้าสู่ห้องนอนอันแสนหรูหราและกว้างขวาง จัดการถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกจากกายจนล่อนจ้อน เขากลับมาอยู่ในโลกส่วนตัวที่คุ้นเคยอีกครั้ง

“ไม่เคยมีใครกล้าทำอย่างนี้กับเราเลย...ให้ตาย...ฉันไม่ได้ฝันไปจริงๆ” เขายังคงอารมณ์เสีย เมื่อได้เห็นตัวเองในกระจกบานใหญ่ สภาพใบหน้าที่พังยับเยิน เขากัดกรามจนแน่น เม้มริมฝีปากจนเจ็บ ขณะลูบใบหน้าของตนเองแรงๆ “ยัยบ้านี่เป็นใครมาจากไหนวะ คอยดูเถอะ ฉันต้องรู้ให้ได้เลย ฉันสาบานว่าฉันจะเล่นงานเธอทั้งตระกูลเลย”

จากนั้นเขาก็พยายามจะดมกลิ่นของตนเอง

“หอมขนาดนี้ กลับหาว่าเหม็น ยัยนี่ ข้างถนนของแท้ จมูกไม่มีคลาสเอาซะเลยเลย เธอจะรู้ไหม ว่าราคามันเท่าไหร่ ชาตินี้ทั้งชาติ คนกระจอกชั้นล่างอย่างเธอไม่มีวันแม้แต่จะมอง”

พูดไปเถอะ พูดได้ตามที่ต้องการเสมอ แม้ใจจะต่อต้านและประท้วงสักแค่ไหน แม้เขาจะเกิดอาการลังเลขึ้นมาโดยรู้ตัว แม้เขาจะเผลอดมตามหัวไหล่ของตนเองซ้ำๆ เพื่อพิสูจน์ให้แน่ใจอีกครั้ง

“จริงๆ แล้ว...” เขายอมรับข้อนี้ไม่ได้เด็ดขาด นั่นเพราลึกๆ แล้ว เขาก็ไม่ได้ชอบน้ำหอมกลิ่นนี้นัก แต่เพราะเป็นขวดที่แพงที่สุดในคอนแลคชั่นและได้รับการการันตีเป็นพิเศษจากคนดังระดับโลก เขาก็เลยใช้มันอย่างภาคภูมิใจ “ไม่ แพงที่สุด ก็คือดีที่สุด นั่นละ คือคำตอบของมหาเศรษฐีผู้มีอันจะกิน”

และผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้น สำหรับเขา เปรียบได้กับคำว่าขยะ

“forget me not คิดว่าฉันจะกล้าลืมเธอง่ายๆ เหรอ ยัยขยะ”

เขาหลับตาลง ระลึกถึงความเจ็บปวดนั้นอย่างช้ำใจที่สุด

“หน้าของเธอมันค้างอยูในดวงตาของฉันนี่ แล้วเธอจะได้รู้ว่ากรีซไม่ใช่สวรรค์สำหรับเธอ แต่มันจะเป็นนรกที่เธอจะต้องหวาดกลัวไปตลอดชีวิต” ชายหนุ่มลืมตาขึ้นอีกครั้ง เป่าลมร้อนๆ ออกจากอก จากนั้นก็เข้าไปชำระล้างความสกปรกทุกอย่างที่เกาะติดอยู่ตามร่างกาย โดยเฉพาะใบหน้าของเขาที่เปื้อนไปด้วยคราบเค้กจนหมดเกลี้ยง จากนั้น ก็นอนแช่อยู่ในอ่างจากุดชี่เพื่อล้างความช้ำใจทั้งมวล เวลาผ่านไปประมาณชั่วโมงเศษๆ เขาก็ต้องสะดุ้งตกตื่นจากภวังค์ ด้วยเสียงกริ่งที่ดังอยู่ใกล้หู เขาทำหน้าขัดใจขณะเอื้อมมือไปกดรับที่ปุ่มเล็กๆ เหนืออ่างอาบน้ำ

“มีอะไรวะ กำลังอารมณ์เสียอยู่นะโว้ย อยากโดนถีบรึไง”

“นี่แม่เอง ลูกรัก”

ชายหนุ่มถึงกับดีดตัวผาง ด้วยความตกใจปนหัวเสีย เพราะคิดว่าเป็นไอ้พวกลูกน้องตัวแสบเสียอีก ทีแรกไม่คิดจะเอาเรื่องพวกนั้นแล้ว แต่สงสัยคงต้องสั่งสอนกันสักหน่อย ปล่อยให้แม่ของเขามาถึงห้องนอนของเขาโดยไม่บอกกล่าวได้อย่างไร

“ครับคุณแม่ ผมขอโทษนะครับ ผมคิดว่าเป็นพวกนั้น”

น้ำเสียงของมารดา ไพเราะนิ่มนวล อย่างที่เคยได้ยินมาจนชินหู ตอบรับลูกชายว่าจะรออยู่ในห้องรับแขก เพื่อพูดคุยธุระสำคัญ ชายหนุ่มรีบลุกจากอ่างอาบน้ำ หยิบชุดคลุมมาสวมแล้วก็เดินออกสู่ห้องนอน เขาจัดการสวมเสื้อผ้าจนเรียบร้อยแล้วจึงลงไปพบกับมารดาที่ชั้นล่าง

“คุณแม่ครับ” ลูกชายตรงเข้าไปหอมแก้มเอาใจมารดา แล้วก็นั่งลงพะเน้าพะนอทันที “เหมือนเราจะไม่ได้เจอกันมาสักสองเดือนแล้วนะ”

“ได้ข่าวว่าอารมณ์กำลังเสียหนัก แล้วก็จริง”

“พวกนั้นปากมากอีกแล้วหรือครับ ไม่มีอะไรสักหน่อย”

“ยังจะมาปฏิเสธอีก ได้ยินเองกับหูแท้ๆ” แล้วเธอก็ถอนหายใจ มองหน้าลูกชายอย่างพินิจ “เรื่องร้านขนมปังอบนั่นอีกแล้วใช่ไหม พวกเขายังไม่ยอมอีกเหรอ”

“ก็อย่างที่รู้ครับคุณแม่ ขนาดเอาเงินตั้งล้านยูโรไปวางตรงหน้ายังไม่เอาเลย”

“ให้คุณพ่อจัดการก็สิ้นเรื่อง เพราะพวกเขาเห็นว่าเราอยากจะได้ที่ตรงนั้นจริงๆ จึงเล่นแง่” ระหว่างที่มารดาพูด เขาหวนนึกไปถึงหญิงสาว ผู้ที่กำลังท้าทายเขาอยู่

“ถ้าคุณพ่อส่งทนายความไปเจรจา น่าจะได้ผล”

ชายหนุ่มส่ายหน้า เผยรอยยิ้มอบอุ่นสดใสเหมือนตอนเป็นเด็ก

“อย่าลำบากเลยครับคุณแม่ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ผมจัดการเองได้ ผมจะทำให้พวกเขาย้ายไปในวันสองวันนี่แหละครับ หลังจากนั้น เราก็จะได้เริ่มโครงการจัดสวนและสร้างสะพานเชื่อมระหว่างสองตึกนี่เสียที”

มารดายิ้มภูมิใจ

“ลูกชายของแม่นี่โตเป็นหนุ่มแล้วนะ ทั้งเก่งทั้งฉลาด แถมยังหล่อเหลาเสียขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะพาลูกสะใภ้มาให้แม่ชมเสียที”

วิกเตอร์ยิ้มแทบไม่ออก

“คุณแม่ครับ”

“แม่รู้ลูก แต่ลูกน่าจะไปปรึกษาหมอ”

“ผมไม่ใช่คนบ้าโรคจิตนะครับคุณแม่”

“วิกเตอร์” น้ำเสียงบ่งชัดว่าสงสาร แต่ก็แฝงความเหนื่อยอ่อนใจ “ลูกสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง มีผู้หญิงมากมายที่เหมาะสมกับลูก ทั้งชาติตระกูล ฐานะ การศึกษาและรูปโฉม เพียงแค่ลูกจะไม่...”

“วิปริต”

มารดาปิดปากของลูกชายด้วยฝ่ามือไว้

“อย่าพูดอย่างนั้นลูก”

ชายหนุ่มเงียบงัน หากดวงตาเท่านั้นมีเต็มไปด้วยเรื่องราว

“ใครจะกล้ามาแต่งกับผมครับแม่ ผมมันก็ไม่ต่างจากสัตว์ร้ายดีๆ นี่เอง”

“แม่บอกลูกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าพูดถึงมันอีก ตอนนั้นลูกยังเด็ก อาจจะควบคุมอารมณ์ไมได้ แต่ตอนนี้ ลูกโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว”

“ไม่จริงหรอกครับ” เขาปฏิเสธมันแทบจะทันท่วงที “ผมยังคงเป็นมันอยู่ ผมยังควบคุมมันไม่ได้”

ผู้เป็นแม่จับมือลูกชายไว้แน่น กล่าวบอกลูกชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แม่ต้องการให้ลูกแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนแม่ เธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อม เธอหลงรักลูกมาตั้งแต่เด็ก และไม่เคยสนใจข่าวลือบ้าบอพวกนั้นด้วย”

“มันไม่ใช่ข่าวลือ”

“วิกเตอร์” มารดาตวาดลูกชายจนลั่น ก่อนจะสงบสติอารมณ์ให้เป็นปกติ “เอาเป็นว่า หมั้นหมายกันในโอกาสดีๆ ที่จะถึงนี้ ลูกคงไม่ปฏิเสธ ลูกไม่ได้มีใครใช่ไหม”

ชายหนุ่มมิทันจะตอบมารดา ลูกน้องตัวดีของเขาก็ก้าวเข้ามา ซึ่งก็เป็นคนที่อยากจะเสนอหน้ามากที่สุดในทุกโอกาส ลุยจิโค้งให้ทั้งนายหญิงและเจ้านาย

“ท่านรัฐมนตรีให้มาเรียนว่าท่านมาถึงแล้วขอรับ และจะรอที่ห้องรับประทานอาหารเลยครับ”

มาดามไดแอน ออปเปนไฮน์จึงกล่าวบอกลูกชายสุดที่รัก

“ไปกันเถอะลูก อย่าให้คุณพ่อรอนาน”

“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณพ่ออยู่แล้วครับ เรื่องโรงแรมของเราที่ครีต” ชายหนุ่มลุกตามมารดาไปแต่โดยดี แม้ว่ายังไม่อยากจะพบกับบิดาในตอนนี้ก็ตาม เขาไม่อยากคุยเรื่องการเมืองกับบิดา บิดาต้องการให้เขาลงเล่นการเมือง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาเกลียดที่สุด

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • บรรณาการสิเน่หา   ตอนจบ - forget me not จูบฉันสิ

    เธอหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา เขย่งปลายเท้าแล้วจูบแก้มสากหอมๆของเขาด้วยความรัก ชายหนุ่มน้อมรับความรู้สึกแสนสวยนั่นด้วยการก้มลงจูบแก้มแดงเรื่ออย่างอ่อนโยน ทะนุถนอม เมื่อผละจาก ดวงตาสีเขียวคมกริบ จ้องมองใบหน้านวลในอุ้งมืออย่างมีความหมาย“แต่ใจผมเหมือนจะระเบิดทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าคุณ ผมถึงไม่อนุญาตให้คุณอยู่ใกล้ๆเวลาผมทำงานยังไงล่ะ”หญิงสาวยิ้มนิดๆ ดวงตาเต้นระยิบ“ทำไมคะ”เธอแสร้งถามไร้เดียงสา“เพราะผมอาจจะมีเซ็กกับคุณบนโต๊ะทำงานไง”“บ้า” เธอเขิน เขาหัวเราะ“ผมรักคุณนะ”“พูดแบบนี้อีกแล้ว” เขาพูดพลางยกร่างบางขึ้นอุ้ม แล้วพาเธอไปวางลงบนเตียงนอนแสนนุ่ม “คราวหลังพูดคำอื่นบ้างก็ได้ค่ะ”“เพราะถึงยังไง คุณก็ยอมผมอยู่ดี” แม้จนถึงวินาทีนี้ หัวใจของเขาและเธอก็ยังคงเต้นแรงทุกครั้ง การร่วมรักกันครั้งแล้วครั้งเล่าอาจหวานชื่น สดใส และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสมซาบซ่านหัวใจ แต่เขารู้ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน ๆ เพราะที่นี่คือเตียงแห่งความทรงจำ“forget me not”เขากระซิบบนปลายจมูกของเธอ หญิงสาวยิ้มหวาน“แต่ฉันกินมัสมั่นเข้าไปเยอะเลยนะคะ”เธอท้าทายเขา แต่เขาก็กลั้นใจยิ้ม“แต่ผมจะกินมัสมั่นจากปากของคุณ”หญิ

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 100...ฟ้าส่งคุณมาให้ผม

    เมื่อเสร็จสิ้นมื้ออาหารอันเลิศรสของครอบครัวที่แสนอบอุ่นมั่งคั่ง คู่พ่อแม่ก็แยกไปทำธุระสำคัญในฐานะนักการเมืองใหญ่ ส่วนคู่หนุ่มสาวที่มีหน้าที่หลักในการช่วยกันบริหารธุรกิจของออปเปนไฮน์ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป พวกเขาเขียนใบลาพักร้อนเป็นเวลาสองสัปดาห์เพื่อจะไปฮันนีมูนที่เมืองไทย วางงานไว้ให้ผู้ช่วยได้สร้างผลงานบ้าง“ฉันดีใจจังเลยค่ะ ฉันจะได้กลับบ้านแล้ว” ชายหนุ่มจูงมือเธอไว้แน่น ดวงตาเปล่งประกายขณะพาเธอเข้าลิฟต์แล้วกดลงชั้นต้อนรับของโรงแรม ทั้งที่ควรจะขึ้นไปยังห้องสวีตรูมอันเป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวของท่านซีอีโอ เขามีโต๊ะทำงานอยู่บนห้อง เขามีเอกสารหลายอย่างที่ต้องเซ็นก่อนจะออกเดินทางในเช้าวันพรุ่งนี้“จะไปไหนหรือคะ” ประตูลิฟต์เปิดออก เธอถูกเขาลากไปราวกับเป็นของไร้น้ำหนัก “วิกเตอร์ คุณกำลังทำอะไรคะ ทำไมไม่รีบขึ้นไปเคลียร์งาน”เมื่อถึงบริเวณหน้าฟร้อน เธอก็ได้เห็นเหล่าบอร์ดี้การ์ดของเขา ยืนเรียงเป็นแถว เหมือนพนักงานต้อนรับ เจ้านายหนุ่มวางก้ามทันที เขาหันไปพยักพเยิดบอกลุยจิและแอนเดรียให้ทำตามแผนการที่วางไว้สองหนุ่มเดินเข้ามา หยุดต่อหน้าเจ้านาย“คิดจะทำอะไรกันแน่คะ”“เชิญครับ” ลุยจิยิ้มบางๆ พร

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 99...คอยดูเถอะ ฉันจะทวงของๆฉันคืนจากเธอให้หมดเลย

    “อย่าคิดว่าจะลอยหน้าลอยตาอยู่ได้นาน คนอย่างเธอ...”“คนอย่างฉันมันยังไงหรือคะ ขอโทษเถอะคุณหนู คนอย่างฉันไม่เคยดูถูกใคร ไม่เคยคิดจะทำให้ใครเดือดร้อน เว้นก็แต่พวกเขาจะหาเรื่องเองทั้งนั้น”คุณหนูสะบัดมือจากการเกาะกุม หายใจฟืดฟาดๆ จนอกกระเพื่อม“ตอนนี้เธอคงจะสะใจละสินะ ที่เห็นครอบครัวของฉันต้องหมดเนื้อหมดตัว”“อย่าเอาความคิดของตัวเองมาตัดสินคนอื่นสิคะ ฉันไม่เคยคิดว่าความเดือดร้อนของคนอื่นเป็นของหวานหรอกนะคะ โดยเฉพาะกับคุณและคุณแม่ของคุณ”“อย่ามาสร้างภาพหน่อยเลยน่า คอยดูเถอะ ฉันจะทวงของๆฉันคืนจากเธอให้หมดเลย”มาลินียิ้มบางๆ เธออดตำหนิมารดาไม่ได้ ถึงมันจะเป็นบาปก็เถอะ ท่านเลี้ยงดูบุตรสาวให้เป็นคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน นอกจากจะมีนิสัยชอบดูถูกคนอื่น ชอบใช้กำลัง และขี้อิจฉาแล้ว เธอยังเป็นคนที่ไม่ยอมรับความจริงอีกด้วย นี่ถ้าเอามาให้เธออบรม เธอจะบ่มเสียใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า“เอาเถอะค่ะ ถ้าคิดว่าทำได้ ก็ลองดู”“ฉันทำได้แน่ แล้วเธอจะได้รู้จักฉันดีขึ้น” มาลินีผละจากช่อดาวมา โดยไม่หันไปมองอีกเลย แม้เธอจะรู้สึกเป็นห่วงเจ้าหล่อนอยู่บ้างก็เถอะ เธอสั่งพนักงานให้จัดการดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี ก่อนจะเดินไปหาสาม

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 98...เมียด่า แปลว่าจะเจริญ

    “ผมคงไม่ได้มาเยี่ยมท่านอีก ขอให้มีความสุขกับคุก ลาตลอดชาตินะครับ”เมื่อจบธุระที่แดนคุมขังนักโทษ ชายหนุ่มเดินทางไปยังสถานที่จอดเครื่องบินส่วนตัวของอธีน่ากรุ๊ป เพื่อพบกับภรรยาที่รออยู่ จากนั้นพวกเขาก็ขึ้นเครื่อง ออกเดินทางไปยังครีตในวันนี้ คฤหาสน์อันน่าสะพรึงกลัวถูกบูรณะซ่อมแซมเสียใหม่จนกลายเป็นคฤหาสน์แสนสวยที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ สวนไม้ยืนต้นขนาดใหญ่และทุ่งดอกไม้สีม่วงสดได้รับการปรับปรุงดูแลอย่างเหมาะสม มีการตกแต่งสวนหย่อมภายในรั้วเหล็กและปลูกดอกไม้เพิ่มเติมจนเต็มแน่นทุกพื้นที่ ตกแต่งด้วยลานน้ำพุ รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ มีผีเสื้อบินว่อนสร้างความมีชีวิตชีวาที่ซึ่งเคยเปรียบดั่งนรก บัดนี้กลับกลายเป็นสวรรค์ราวกับถูกเสก“สวยถูกใจคุณไหม” เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังของเธอ “ที่โยนเหรียญส่วนตัวของคุณ”หญิงสาวยังคงมองสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าด้วยความทึ่ง“คุณทำได้ยังไง สวยจนจำบรรยากาศเดิมแทบไม่ได้”“บอกแล้วว่าเงินบันดาลได้ทุกสิ่ง”“นอกจากมีเงินแล้ว ต้องเจ้าเล่ห์ขี้โกงด้วย”“ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน”“ฉันด่าต่างหาก”“ถ้างั้น เมียด่า แปลว่าจะเจริญ”เธอหัวเราะกับความกะล่อนของสามี เขาหัวเราะตาม ความส

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 97...ผมก็เป็นครอบครัวของคุณ

    เขาพูดจบก็หันหลังขวับ จะเดินจาก หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างเร่งร้อน“เดี๋ยวค่ะ” เธอประคองตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนร่างเซเกือบจะล้ม ชายหนุ่มอีกคนรีบเข้ามาจับตัวเธอไว้ แต่เธอไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ เธอผละจากเขา เดินไปหาผู้ชายที่กำลังจะจากไป “ฉันต้องขอโทษแทนพ่อของฉันด้วยนะคะ ที่มีส่วนทำให้คุณต้องเป็นทุกข์และมีชีวิตที่เดียวดายมาโดยตลอด”เขาหยุดฝีเท้า แต่ไม่ได้หันกลับมามองหญิงสาว“ได้โปรด อย่าเป็นทุกข์อีกเลยนะคะ เริ่มต้นชีวิตใหม่และมีความสุขกับทุกวัน”เขาหัวเราะในลำคอเบาๆราวกับเพิ่งฟังเรื่องตลก เขาตัดสินใจหันกลับมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวอีกครั้ง เขายิ้มมุมปาก สีหน้ามีกลิ่นเย้ยหยันนิดๆติดอยู่อย่างจับได้ ครานี้แหละ เธอถึงตระหนักว่าสองหนุ่มหน้าเหมือนกันไม่น้อย“ถ้านี่เป็นคำอวยพร ก็ขอบคุณ แต่ถ้าอยากให้ผมมีความสุขจริงๆละก็ คุณก็เลิกกับหมอนั่นเสียสิ แล้วมาอยู่กับผมที่นี่แทน”วิกเตอร์รีบเดินมาดึงตัวเธอไปอยู่ข้างๆทันที เหมือนกลัวจะถูกโฉบไป“มันจะมากไปแล้วนะโว้ย เธอเป็นเมียฉัน เป็นน้องสะใภ้ของนายนะ”นีโอนาสทำหน้าหยัน“ใครจะสน”น้องชายชี้หน้าพี่ชาย หญิงสาวรีบจับแขนคนใจร้อนไว้เพราะกลัวเขาจะเปลี่ยนจากชี้เป็นก

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 96...ฉันจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้แหละ

    “ช่วยไม่ได้ มันอยากโง่เองนี่นา” วิกเตอร์ไม่แปลกใจเลย เขาพอจะเดาเรื่องนี้ออกตั้งแต่ที่รู้ความจริงแล้ว สำหรับหญิงสาวก็เช่นเดียวกัน เธอนึกไม่ถึงเลยว่าหมอนี่จะเห็นความซื่อสัตย์ของปู่เป็นเครื่องมือในการแก้แค้น เธออยากจะทุบหัวหมอนี่ให้ยุบไปเลย“เขาไม่รู้หรอก ว่าฉันแอบมองมาจากตู้เสื้อผ้า ด้วยสายตาแน่วแน่ เพื่อจะจดจารรายละเอียดทั้งหมด เพื่อฝังเอาไว้ในหัวสมอง” ภาพในอดีตย้อนกลับมาให้เขาคลั่ง เขาเล่าเหมือนกำลังมองเห็นเหตุการณ์ในตอนนั้นอยู่ “ตอนที่เขาตบหน้าลูกชายของเขาด้วยความแรง และประกาศตัดขาดความเป็นพ่อลูก ฉันเฝ้ามองด้วยความสะใจ และบอกกับตัวเองว่าให้ใจเย็นๆเข้าไว้ และรอคอยให้เวลานี้มาถึง พระเจ้า และเธอก็มาที่นี่ มาเพื่อฉันจริงๆด้วย”น้ำเสียงของเขาน่ากลัวนัก วิกเตอร์หายใจไม่ค่อยทั่วท้องสักเท่าไหร่ หัวใจเต้นเร่า หวาดหวั่นว่าหญิงสาวจะได้รับอันตรายจากคนสติหลุด เขาจ้องมองหญิงสาวชนิดไม่ยอมกระพริบตา แต่เจ้าหล่อนกลับมีสีหน้าสงสัยมากกว่าจะหวาดกลัว นั่นเพราะเธอสัมผัสได้ว่าหัวใจของชายหนุ่มผู้กำความแค้น เต้นถี่ยิบและรุนแรงเหมือนจะระเบิดออกมา มันกระทุ้งลำตัวของเธอจนรู้สึกได้เป็นไปได้ไหมที่หมอนี่กำลังหวาดก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status