Home / โรแมนติก / บรรณาการสิเน่หา / บทที่ 10...เธอต้องติดคุก!ยัยตัวแสบ!!!

Share

บทที่ 10...เธอต้องติดคุก!ยัยตัวแสบ!!!

ภายในรถคันยาว ชายหนุ่มผู้นั่งอยู่ตรงตำแหน่งหลังสุด ยังคงตลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายนาทีก่อนไม่หาย สติของเขาซวนเซไปหมด ท้องไส้ของเขาปั่นป่วน หัวใจของเขาเต้นเร็วมาก ปากของเขาสั่น มือไม้ของเขาจับต้องอะไรก็ไม่ได้แม้แต่ขมับของตัวเอง เขาแทบบอกตัวเองไม่ได้เลยว่าจะไปไหนต่อดี

“เป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องจริง”

ชายหนุ่มผู้ทรงสง่า พยายามเรียกขวัญของตนเองกลับคืนมา ตั้งสติ ทบทวนวิบากกรรมแห่งชีวิตที่เกิดขึ้น ฉับพลัน ใบหน้าของเจ้าหล่อนก็ปรากฏในดวงตาของเขา ครานั้น อารมณ์ของเขาก็ระเบิดออกมาเหมือนปรมาณู

เขาขบกัดกรามจนแน่น ค่อยๆ ยกมือขึ้นคลำใบหน้าของตนเองที่เต็มไปด้วยเนื้อเค้ก เขากวาดมันออกจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่ไม่เคยมีมือใครกล้ามาแตะต้อง อย่าว่าแต่ผู้หญิงสูงศักดิ์คนไหนเลย ถ้าเขามีเซ็กส์ด้วย เขาก็ไม่เคยยอมให้ใครมาจูบ แม้แต่สัมผัสเพียงนิดก็ไม่ได้รับอนุญาต

แต่นี่ สิ่งที่เขาเผชิญอยู่นี่ เป็นฝีมือของผู้หญิงชั้นต่ำข้างถนนอย่างนั้นเหรอ คิดดังนั้นก็ระบายคลั่งแค้นด้วยการทุบหมัดลงไปบนเบาะตรงหน้าแรง ๆ จนลูกน้องนั่งตัวเกร็งกันไปหมด

เจ้าตัวคนนั่งตำแหน่งโชว์เฟอร์ ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถามว่าออกรถได้รึยังครับ นั่นเพราะตามกฎของวิกเตอร์แล้ว เขาจะต้องออกคำสั่งเสียก่อน ทุกอย่างถึงจะขับเคลื่อนได้

“อยากตายใช่ไหม!!!!!!!”

ทุกคนสะดุ้ง ขนหัวลุก กลืนน้ำลาย เพียงลุยจิเท่านั้นที่กลั้นใจกล้าตอบโต้เจ้านายผู้กราดเกรี้ยว

“เจ้านายจะให้เรียกมือปืนเลยไหมครับ”

“เงียบไปเลยไอ้ลุยจิถ้าไม่อยากถูกถีบ” เสียงตวาดลั่นจนทุกคนหลบลงราวกับมีระเบิดขว้างเข้ามาในรถ ยิ่งทำให้เจ้านายหัวเสียเข้าไปใหญ่ ตอนนี้เขาอยากจะฆ่าลูกน้องของตนเองมากกว่ายัยลิงบ้านั่นเสียแล้ว

“พวกแกไปหาปืนมายิงหัวตัวเองเสียด้วยนะ ก่อนที่ฉันจะจัดการพวกแกด้วยมือของฉันเอง”

ทุกคนพากันเงียบกริบ มีแค่เสียงหายใจฟืดฟาดๆ ของเจ้านายเท่านั้น ตอนนี้ แม้อุณหภูมิจะเย็นเยือกสักแค่ไหนก็ตาม ทุกคนเหงื่อแตกซิกเหมือนยืนอยู่กลางแดดในฤดูร้อน

“เจ้านายครับ” ผู้นั่งตำแหน่งโชว์เฟอร์กลั้นใจเสี่ยงชีวิตถามให้รู้แล้วรู้รอด “ออกรถได้รึยังครับ”

“อ้าว!” เสียงอุทานดังสนั่น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงเขียว เมื่อมองนอกกระจกรถ “นี่รถยังไม่ออกอีกเหรอ นี่หมายความว่าฉันยังอยู่ที่หน้าร้านเฮงซวยนี่เหรอ”

แล้วชายหนุ่มก็หลับตาแน่น สูดลมหายใจอย่างเป็นจังหวะ ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง เพราะความตกใจมหันต์ ที่อยู่ ๆ ก็มีของบางอย่างหล่นตุ๊บลงบนหลังคารถของเขา

"เฮ๊ย! "

สามวินาทีหลังจากนั้น บอดี้การ์ดของเขาลงจากรถไปจนหมด เพื่อไปตรวจตราสถานการณ์ เขาอดรนทนไม่ไหว อยากรู้ใจแทบขาดว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเปิดประตูรถออกไปดูบ้าง

“พระเจ้า” เขาเห็นกระถางดอกไม้ขนาดเล็กแตกเละเทะอยู่บนหลังคารถของเขา “นี่มันอะไรกัน”

ไม่มีใครให้คำตอบแก่เขา จนเขาเงยหน้ามองขึ้นไปยังชั้นสามของตึกคร่ำคร่า

“เธอ!”

หญิงสาวยิ้มท้าทาย เท้าแขนลงบนขอบหน้าต่าง จ้องมองลงมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสะใจ ดูเหมือนว่าวิกเตอร์จะเจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกันแล้ว

เจ้าหล่อนชี้นิ้วขึ้นไปบนฟ้า แล้วตะโกนกลับลงมาด้วยเสียงใสแจ๋ว

“หล่นลงมาจากฟ้าค่ะ สงสัยพระเจ้าจะตักเตือนลูกที่น่ารังเกียจของท่าน”

รอยยิ้มของเจ้าหล่อนร้ายแรงยิ่งกว่านางร้ายตนใดในโลก วิกเตอร์อ้าปากค้าง ขากรรไกรแข็งจนพูดอะไรไม่ออก นอกจากอุทานด้วยความเจ็บใจ

“พระเจ้า!!!!!!”

เขาชี้หน้าเธอ

“เธอต้องติดคุก!!!”

“ผมจะจัดการแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้ครับ”

ลุยจิกล่าวทันที เพื่อเอาใจเจ้านาย

“แต่ตรงนี้เป็นที่ห้ามจอดรถอยู่แล้ว” เองเกิลเบิร์ตกล่าวเตือน ขณะยังไม่ละสายตาจากการมองข้างบนเช่นกัน ตอนนี้เขารู้สึกชื่นชมหญิงสาวผู้นี้เป็นอย่างมาก เขาอยากจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้แล้วสิ อย่างน้อยได้รู้จักชื่อก็ยังดี

“และไม่มีใครเห็นว่าเธอเป็นคนทำ” ส่วนเจ้าของรถ เขายังคงจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาอาฆาต สายตาแบบนั้น สาบานได้เลยว่าไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน นั่นเพราะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“ฉันไม่ปล่อยยัยนี่ไว้แน่”

“ถ้าฉันไม่ได้ที่ตรงนี้ภายในสองวันนี้ ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าวิกเตอร์อีก”

“ร้อยล้านยูโร”

เธอตะโกนกลับลงมา เขาหน้าค้าง ก่อนจะยิ้มดูถูก

“มากไปหน่อยกระมัง”

“ก็แค่ชั้นล่าง สามร้อยล้านยูโรทั้งหลัง คุณไม่กล้าหรอกวิกเตอร์ เพราะถ้ากล้า คงไม่พกผู้ติดตามตั้งหลายคนแบบนี้ คุณมันก็แค่คนขี้ขลาดคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไปซะ กลับไปอยู่ในโลกของคุณ โลกที่คุณหลงเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า” ราวกับเธอเป่าลมใส่หน้าเขาเต็มๆ ลมวูบใหญ่ทีเดียววิ่งมาปะทะใบหน้าของเขาจนรู้สึกชาชืดไปหมด

“พระเจ้าคะ ได้โปรด ไปให้ไกลจากที่นี่เถอะค่ะ แล้วก็อย่ากลับมาสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเขาอีกเลย เพราะไม่อย่างนั้น พระเจ้าจะได้รู้จักความเจ็บปวดที่ไม่เคยเจอมาก่อน”

มาลินีรู้ตัวว่าก็แค่ปากดีไปอย่างนั้นเอง ไม่รู้ละ กับคนแบบนี้ ต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน มันถึงจะสูสีกันหน่อย ตอนนี้เธอต้องพยายามปั้นสีหน้าให้เหี้ยมเข้าไว้ ขณะที่ชายหนุ่มคิดว่าตนเองเพิ่งถูกตบหน้าไปหมาดๆ มันทำให้สติของเขาสั่นไหวอีกครั้ง

“และด้วยความหวังดี กลิ่นน้ำหอมของคุณ แรงมาก คิดว่ามันจะสามารถกลบปิดความเหม็นเน่าที่ตัวเองก่อไว้ได้เหรอ ใครโกหกคุณว่ากลิ่นนี่มันวิเศษ กลับไปชกหน้าคนแนะนำด้วยนะ เพราะแสดงว่าเขาเกลียดคุณและไม่เคยหวังดีต่อคุณเลยสักนิดเดียว คุณมันคนน่าสมเพช”

ด่าแล้วเสร็จ เจ้าหล่อนก็จัดการปิดหน้าต่างบานนั้น หายไปจากสายตา ทิ้งให้ชายหนุ่มมึนงง เหมือนคนสติหลุดหายไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เจ้าผู้ติดตามทั้งห้าจะเข้ามาหาเขา เขากลับยกมือขึ้นห้ามไว้

“อย่าเข้าใกล้ฉัน” อย่าให้ใครเข้าใกล้เขาเวลาที่เขารู้สึกว่าเหมือนเนื้อมันถูกกรีดเป็นริ้วๆ “ออกไป”

เขาค่อยๆ หมุนตัวไปมองรถคันงาม บนหลังคาที่แสนสะอาด แข็งแกร่ง บัดนี้ มันไม่เหลือความภูมิใจให้แก่เขาอีกต่อไปแล้ว เขาคว้าต้นดอกไม้ที่หลุดออกนอกกระถาง กำดอก forget me not ไว้แน่นมือ แน่นจนเอ็นผุดเต็มลำแขน

“ฉันต้องการกลับบ้าน เดี๋ยวนี้”

เขากลับเข้าไปนั่งในรถ ด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียมดุดัน ในมือยังคงกำดอกไม้เจ้ากรรมเอาไว้ ตอนนี้ สิ่งที่เขาคิดก็คือศักดิ์ศรีของเขาที่สั่งสมมาทั้งชีวิต ได้ถูกทำลายไปในชั่วพริบตาเดียว ด้วยฝีมือของผู้หญิงคนนั้น

“ชาตินี้ อย่าได้หวังว่าจะมีความสุขอีกเลย แล้วเธอจะเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไปในวันนี้”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • บรรณาการสิเน่หา   ตอนจบ - forget me not จูบฉันสิ

    เธอหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา เขย่งปลายเท้าแล้วจูบแก้มสากหอมๆของเขาด้วยความรัก ชายหนุ่มน้อมรับความรู้สึกแสนสวยนั่นด้วยการก้มลงจูบแก้มแดงเรื่ออย่างอ่อนโยน ทะนุถนอม เมื่อผละจาก ดวงตาสีเขียวคมกริบ จ้องมองใบหน้านวลในอุ้งมืออย่างมีความหมาย“แต่ใจผมเหมือนจะระเบิดทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าคุณ ผมถึงไม่อนุญาตให้คุณอยู่ใกล้ๆเวลาผมทำงานยังไงล่ะ”หญิงสาวยิ้มนิดๆ ดวงตาเต้นระยิบ“ทำไมคะ”เธอแสร้งถามไร้เดียงสา“เพราะผมอาจจะมีเซ็กกับคุณบนโต๊ะทำงานไง”“บ้า” เธอเขิน เขาหัวเราะ“ผมรักคุณนะ”“พูดแบบนี้อีกแล้ว” เขาพูดพลางยกร่างบางขึ้นอุ้ม แล้วพาเธอไปวางลงบนเตียงนอนแสนนุ่ม “คราวหลังพูดคำอื่นบ้างก็ได้ค่ะ”“เพราะถึงยังไง คุณก็ยอมผมอยู่ดี” แม้จนถึงวินาทีนี้ หัวใจของเขาและเธอก็ยังคงเต้นแรงทุกครั้ง การร่วมรักกันครั้งแล้วครั้งเล่าอาจหวานชื่น สดใส และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสมซาบซ่านหัวใจ แต่เขารู้ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน ๆ เพราะที่นี่คือเตียงแห่งความทรงจำ“forget me not”เขากระซิบบนปลายจมูกของเธอ หญิงสาวยิ้มหวาน“แต่ฉันกินมัสมั่นเข้าไปเยอะเลยนะคะ”เธอท้าทายเขา แต่เขาก็กลั้นใจยิ้ม“แต่ผมจะกินมัสมั่นจากปากของคุณ”หญิ

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 100...ฟ้าส่งคุณมาให้ผม

    เมื่อเสร็จสิ้นมื้ออาหารอันเลิศรสของครอบครัวที่แสนอบอุ่นมั่งคั่ง คู่พ่อแม่ก็แยกไปทำธุระสำคัญในฐานะนักการเมืองใหญ่ ส่วนคู่หนุ่มสาวที่มีหน้าที่หลักในการช่วยกันบริหารธุรกิจของออปเปนไฮน์ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป พวกเขาเขียนใบลาพักร้อนเป็นเวลาสองสัปดาห์เพื่อจะไปฮันนีมูนที่เมืองไทย วางงานไว้ให้ผู้ช่วยได้สร้างผลงานบ้าง“ฉันดีใจจังเลยค่ะ ฉันจะได้กลับบ้านแล้ว” ชายหนุ่มจูงมือเธอไว้แน่น ดวงตาเปล่งประกายขณะพาเธอเข้าลิฟต์แล้วกดลงชั้นต้อนรับของโรงแรม ทั้งที่ควรจะขึ้นไปยังห้องสวีตรูมอันเป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวของท่านซีอีโอ เขามีโต๊ะทำงานอยู่บนห้อง เขามีเอกสารหลายอย่างที่ต้องเซ็นก่อนจะออกเดินทางในเช้าวันพรุ่งนี้“จะไปไหนหรือคะ” ประตูลิฟต์เปิดออก เธอถูกเขาลากไปราวกับเป็นของไร้น้ำหนัก “วิกเตอร์ คุณกำลังทำอะไรคะ ทำไมไม่รีบขึ้นไปเคลียร์งาน”เมื่อถึงบริเวณหน้าฟร้อน เธอก็ได้เห็นเหล่าบอร์ดี้การ์ดของเขา ยืนเรียงเป็นแถว เหมือนพนักงานต้อนรับ เจ้านายหนุ่มวางก้ามทันที เขาหันไปพยักพเยิดบอกลุยจิและแอนเดรียให้ทำตามแผนการที่วางไว้สองหนุ่มเดินเข้ามา หยุดต่อหน้าเจ้านาย“คิดจะทำอะไรกันแน่คะ”“เชิญครับ” ลุยจิยิ้มบางๆ พร

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 99...คอยดูเถอะ ฉันจะทวงของๆฉันคืนจากเธอให้หมดเลย

    “อย่าคิดว่าจะลอยหน้าลอยตาอยู่ได้นาน คนอย่างเธอ...”“คนอย่างฉันมันยังไงหรือคะ ขอโทษเถอะคุณหนู คนอย่างฉันไม่เคยดูถูกใคร ไม่เคยคิดจะทำให้ใครเดือดร้อน เว้นก็แต่พวกเขาจะหาเรื่องเองทั้งนั้น”คุณหนูสะบัดมือจากการเกาะกุม หายใจฟืดฟาดๆ จนอกกระเพื่อม“ตอนนี้เธอคงจะสะใจละสินะ ที่เห็นครอบครัวของฉันต้องหมดเนื้อหมดตัว”“อย่าเอาความคิดของตัวเองมาตัดสินคนอื่นสิคะ ฉันไม่เคยคิดว่าความเดือดร้อนของคนอื่นเป็นของหวานหรอกนะคะ โดยเฉพาะกับคุณและคุณแม่ของคุณ”“อย่ามาสร้างภาพหน่อยเลยน่า คอยดูเถอะ ฉันจะทวงของๆฉันคืนจากเธอให้หมดเลย”มาลินียิ้มบางๆ เธออดตำหนิมารดาไม่ได้ ถึงมันจะเป็นบาปก็เถอะ ท่านเลี้ยงดูบุตรสาวให้เป็นคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน นอกจากจะมีนิสัยชอบดูถูกคนอื่น ชอบใช้กำลัง และขี้อิจฉาแล้ว เธอยังเป็นคนที่ไม่ยอมรับความจริงอีกด้วย นี่ถ้าเอามาให้เธออบรม เธอจะบ่มเสียใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า“เอาเถอะค่ะ ถ้าคิดว่าทำได้ ก็ลองดู”“ฉันทำได้แน่ แล้วเธอจะได้รู้จักฉันดีขึ้น” มาลินีผละจากช่อดาวมา โดยไม่หันไปมองอีกเลย แม้เธอจะรู้สึกเป็นห่วงเจ้าหล่อนอยู่บ้างก็เถอะ เธอสั่งพนักงานให้จัดการดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี ก่อนจะเดินไปหาสาม

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 98...เมียด่า แปลว่าจะเจริญ

    “ผมคงไม่ได้มาเยี่ยมท่านอีก ขอให้มีความสุขกับคุก ลาตลอดชาตินะครับ”เมื่อจบธุระที่แดนคุมขังนักโทษ ชายหนุ่มเดินทางไปยังสถานที่จอดเครื่องบินส่วนตัวของอธีน่ากรุ๊ป เพื่อพบกับภรรยาที่รออยู่ จากนั้นพวกเขาก็ขึ้นเครื่อง ออกเดินทางไปยังครีตในวันนี้ คฤหาสน์อันน่าสะพรึงกลัวถูกบูรณะซ่อมแซมเสียใหม่จนกลายเป็นคฤหาสน์แสนสวยที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ สวนไม้ยืนต้นขนาดใหญ่และทุ่งดอกไม้สีม่วงสดได้รับการปรับปรุงดูแลอย่างเหมาะสม มีการตกแต่งสวนหย่อมภายในรั้วเหล็กและปลูกดอกไม้เพิ่มเติมจนเต็มแน่นทุกพื้นที่ ตกแต่งด้วยลานน้ำพุ รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ มีผีเสื้อบินว่อนสร้างความมีชีวิตชีวาที่ซึ่งเคยเปรียบดั่งนรก บัดนี้กลับกลายเป็นสวรรค์ราวกับถูกเสก“สวยถูกใจคุณไหม” เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังของเธอ “ที่โยนเหรียญส่วนตัวของคุณ”หญิงสาวยังคงมองสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าด้วยความทึ่ง“คุณทำได้ยังไง สวยจนจำบรรยากาศเดิมแทบไม่ได้”“บอกแล้วว่าเงินบันดาลได้ทุกสิ่ง”“นอกจากมีเงินแล้ว ต้องเจ้าเล่ห์ขี้โกงด้วย”“ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน”“ฉันด่าต่างหาก”“ถ้างั้น เมียด่า แปลว่าจะเจริญ”เธอหัวเราะกับความกะล่อนของสามี เขาหัวเราะตาม ความส

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 97...ผมก็เป็นครอบครัวของคุณ

    เขาพูดจบก็หันหลังขวับ จะเดินจาก หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างเร่งร้อน“เดี๋ยวค่ะ” เธอประคองตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนร่างเซเกือบจะล้ม ชายหนุ่มอีกคนรีบเข้ามาจับตัวเธอไว้ แต่เธอไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ เธอผละจากเขา เดินไปหาผู้ชายที่กำลังจะจากไป “ฉันต้องขอโทษแทนพ่อของฉันด้วยนะคะ ที่มีส่วนทำให้คุณต้องเป็นทุกข์และมีชีวิตที่เดียวดายมาโดยตลอด”เขาหยุดฝีเท้า แต่ไม่ได้หันกลับมามองหญิงสาว“ได้โปรด อย่าเป็นทุกข์อีกเลยนะคะ เริ่มต้นชีวิตใหม่และมีความสุขกับทุกวัน”เขาหัวเราะในลำคอเบาๆราวกับเพิ่งฟังเรื่องตลก เขาตัดสินใจหันกลับมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวอีกครั้ง เขายิ้มมุมปาก สีหน้ามีกลิ่นเย้ยหยันนิดๆติดอยู่อย่างจับได้ ครานี้แหละ เธอถึงตระหนักว่าสองหนุ่มหน้าเหมือนกันไม่น้อย“ถ้านี่เป็นคำอวยพร ก็ขอบคุณ แต่ถ้าอยากให้ผมมีความสุขจริงๆละก็ คุณก็เลิกกับหมอนั่นเสียสิ แล้วมาอยู่กับผมที่นี่แทน”วิกเตอร์รีบเดินมาดึงตัวเธอไปอยู่ข้างๆทันที เหมือนกลัวจะถูกโฉบไป“มันจะมากไปแล้วนะโว้ย เธอเป็นเมียฉัน เป็นน้องสะใภ้ของนายนะ”นีโอนาสทำหน้าหยัน“ใครจะสน”น้องชายชี้หน้าพี่ชาย หญิงสาวรีบจับแขนคนใจร้อนไว้เพราะกลัวเขาจะเปลี่ยนจากชี้เป็นก

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 96...ฉันจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้แหละ

    “ช่วยไม่ได้ มันอยากโง่เองนี่นา” วิกเตอร์ไม่แปลกใจเลย เขาพอจะเดาเรื่องนี้ออกตั้งแต่ที่รู้ความจริงแล้ว สำหรับหญิงสาวก็เช่นเดียวกัน เธอนึกไม่ถึงเลยว่าหมอนี่จะเห็นความซื่อสัตย์ของปู่เป็นเครื่องมือในการแก้แค้น เธออยากจะทุบหัวหมอนี่ให้ยุบไปเลย“เขาไม่รู้หรอก ว่าฉันแอบมองมาจากตู้เสื้อผ้า ด้วยสายตาแน่วแน่ เพื่อจะจดจารรายละเอียดทั้งหมด เพื่อฝังเอาไว้ในหัวสมอง” ภาพในอดีตย้อนกลับมาให้เขาคลั่ง เขาเล่าเหมือนกำลังมองเห็นเหตุการณ์ในตอนนั้นอยู่ “ตอนที่เขาตบหน้าลูกชายของเขาด้วยความแรง และประกาศตัดขาดความเป็นพ่อลูก ฉันเฝ้ามองด้วยความสะใจ และบอกกับตัวเองว่าให้ใจเย็นๆเข้าไว้ และรอคอยให้เวลานี้มาถึง พระเจ้า และเธอก็มาที่นี่ มาเพื่อฉันจริงๆด้วย”น้ำเสียงของเขาน่ากลัวนัก วิกเตอร์หายใจไม่ค่อยทั่วท้องสักเท่าไหร่ หัวใจเต้นเร่า หวาดหวั่นว่าหญิงสาวจะได้รับอันตรายจากคนสติหลุด เขาจ้องมองหญิงสาวชนิดไม่ยอมกระพริบตา แต่เจ้าหล่อนกลับมีสีหน้าสงสัยมากกว่าจะหวาดกลัว นั่นเพราะเธอสัมผัสได้ว่าหัวใจของชายหนุ่มผู้กำความแค้น เต้นถี่ยิบและรุนแรงเหมือนจะระเบิดออกมา มันกระทุ้งลำตัวของเธอจนรู้สึกได้เป็นไปได้ไหมที่หมอนี่กำลังหวาดก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status