เฉินหว่านฉือสมองกระทบกระเทือนหรือเปล่าถึงได้รอป๋อจิงโจวมา แต่ทว่าเธอประเมินค่าความเร็วผู้ชายต่ำไปหน่อย เธอเพิ่งออกถึงหน้าประตู ก็เจอเงาสูงชะลูดตรงดิ่งเข้ามาทางนี้
ป๋อจิงโจวสวมเสื้อเชิ้ตสีดำตัดเย็บเข้ารูปและกางเกงสูทรีดเรียบมีรอยจีบ หน้าตาหล่อเหลา บุคลิกภูมิฐาน และความเย่อหยิ่งโดยธรรมชาติของเขาโดดเด่นเป็นพิเศษ
หน้าตาดี ภาพลักษณ์ดี เยาว์วัยและมีเงิน……
ถ้ามองข้ามความห่วยแตกของเขาไป ป๋อจิงโจวเป็นเทพบุตรท่ามกลางเทพบุตรอย่างแท้จริง
ข้างกายเขามีเฉินสวี่ตามประกบข้าง และเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว กลิ่นอายของโอรสสวรรค์มิอาจมองข้ามได้
เฉินหว่านฉือตกตะลึงไม่กี่วินาที ป๋อจิงโจวก็มาถึงตรงหน้าเธอแล้ว การขมวดคิ้วของเขาแสดงถึงความไม่พอใจ “อาเจียงบอกว่าเมื่อคืนคุณไม่ได้กลับไปเหรอ?”
เขามาที่นี่เพื่อถามเรื่องแค่นี้น่ะเหรอ?
“อาเจียงไม่ได้บอกเหรอว่าฉันฝากบอกอะไร?ฉันไม่เพียงไม่กลับไปเมื่อคืน ต่อไปนี้ก็ไม่กลับไปแล้ว”
เฉินหว่านฉือหันตัวกลับมา ตั้งใจจะเลี่ยงเดินอีกทาง แต่กลับถูกเฉินสวี่สกัดไว้ “ผู้ช่วยเฉินครับ ประธานป๋อทราบว่าคุณอยู่ชั้นบน เลยขึ้นมาเลยนะครับ”
แล้วยังไงล่ะ? เธอจะต้องหลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้งใจหรือเปล่า?
เฉินสวี่คือคนข้างกายของป๋อจิงโจว เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ทราบถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างทั้งสอง แต่เขามักจะเรียกเธอว่า ‘ผู้ช่วยเฉิน คุณผู้หญิงเฉิน’
ดูสิ เธอเป็นแม่บ้านของป๋อจิงโจวมาสามปีแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเขาเลย แม้แต่คนข้างกายเขาก็ไม่ถือว่าเธอคือคุณหญิงป๋อ ถึงขนาดที่ว่าไม่สนใจที่จะเล่นละครตบตาผิวเผินด้วยซ้ำ
เฉินหว่านฉือเห็นเฉินสวี่ที่กำลังขวางเขาอยู่ ก็โมโหขึ้นมา “ผู้ช่วยเฉิน คุณรู้ไหมว่าคนแบบคุณ ถูกเรียกว่าอะไรในสมัยโบราณ?”
สุนัขตอน!
“เฉินหว่านฉือ”เสียงของป๋อจิงโจวระงับโทสะไว้ “งอแงให้มันน้อยๆลงหน่อย เท่านั้นยังไม่พอ คุณยังไม่ได้เอาเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับย้ายออกไป ไม่ใช่ว่าคุณอยากให้ผมง้อคุณหรอกหรอ?เฉินสวี่ไปสั่งอาหารไว้ ”
กำชับเสร็จแล้ว เขาก็พูดกับเฉินหว่านฉือว่า “ตอนเย็นมาทานอาหารเย็นด้วยกัน จะมีนิทรรศการอัญมณี คุณชอบอะไรก็เลือกได้เลยเต็มที่”
นี่เป็นวิธีการชุ่ย ๆ ของป๋อจิงโจวในการจัดการกับเธอหลังจากที่พวกเขาทะเลาะกันเสร็จ เขามอบกระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องประดับ และอะไรก็ตามที่สามารถซื้อให้เธอได้ให้กับเธอ แต่ก่อนเฉินหว่านฉือยังสามารถปลอบใจตัวเองได้ โดยคิดว่าเขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาและ ไม่น่าจะเข้าใจผู้หญิงดี จนกระทั่งเธอเห็นว่าเขาใส่ใจเจียนเหวยหนิง ก็รู้ว่าการหน้าแหกหมายความว่าอะไร
เธอหัวเราะเยาะออกเสียง เหน็บแนมไปว่า “ของพวกนั้นน่ะไม่ใช่ฉันไม่เอาหรอกนะ แต่ว่ามอบให้กับเจียนเหวยหนิง ไม่ใช่ว่าเธอชอบกินของเหลือต่อจากคนอื่นหรอกเหรอ? ขยะกองนั้นน่ะ ก็ถือซะว่าฉันมอบให้เป็นของขวัญงานแต่งพวกคุณก็แล้วกัน!”
เถาชิงอี้ที่อยู่ข้างๆพูดแทรกขัดจังหวะ “คุณผู้หญิงป๋อคะ คุณเข้าใจอาหนิงผิดไปแล้วจริงๆ แม้ว่าเธอจะชอบประธานป๋อ แต่เธอก็ไม่คิดที่จะล่มงานแต่งใคร! เธอขอให้ประธานป๋อช่วยสั่งกระเป๋าใบนี้ เพียงเพราะเธอไม่มีสมาชิกของ แบรนด์นี้ จองไม่ได้ ถ้าคุณชอบกระเป๋าใบนี้ พวกเรายกให้ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปอ้าปากด่าทอคนด้วยคำพูดว่าเป็นมือที่สามให้คนอื่นต้องอับอายเลยใช่ไหมล่ะคะ?”
ถ้าดอกทองมีการแบ่งอันดับล่ะก็ คนที่อยู่ตรงหน้านี้ต้องเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน
ในเมื่อจะหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งเลยเอาเรื่องซื้อกระเป๋ามาเป็นข้ออ้างเปิดศึก……เฉินหว่านฉือหันกลับไป ยิ้มสวยหยาดเยิ้ม “ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
การซื้อกระเป๋าใบนี้นี่ยากจริงๆ ฉินเยว่จือจะต้องชอบแน่นอน
ประเด็นคือ……เธอไม่ต้องจ่ายเงินเอง ทำไมจะต้องไม่เห็นดีด้วยล่ะ?
สำหรับป๋อจิงโจว เธอไม่สนใจว่าเขาจะคิดอย่างไร
เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะเดินไปที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน ป๋อจิงโจวก็คว้าข้อมือของเธอแล้วพูดว่า “อย่าก่อปัญหา ถ้าคุณชอบ ผมจะสั่งเพิ่มอีกอัน ใช้เวลาไม่นาน”
เฉินหว่านฉือใจเจ็บแปล๊บ เบ้าตากลั้นความเจ็บปวดไว้ไม่แทบไหว
เมื่อนึกถึงสามปีของการแต่งงานแบบหญิงม่าย ตัวเองที่สภาพพังพินาศ แล้วดูรักจะลำเอียงไปทางเจียนเหวยหนิงอีก
เธอเข้าใจว่าป๋อจิงโจวหมายถึงอะไร กระเป๋าใบนี้ให้เจียนเหวยหนิง เธอแตะต้องไม่ได้
ใบหน้าของเธอซีดลงเล็กน้อย แต่เธอไม่ยอมให้เขาสังเกตเห็น เธอหันกลับมาชี้ไปที่กระเป๋าผู้ชายแบบสุ่มแล้วพูดกับพนักงานว่า “รับกระเป๋าผู้ชายใบนี้ค่ะ ห่อให้ฉันด้วย”
ป๋อจิงโจวเม้มริมฝีปาก และเห็นว่าเธอไม่โกรธ และยังซื้อของขวัญให้เขาด้วยซ้ำ อารมณ์ของเขาซึ่งกลัดกลุ้มมาหลายวันก็ดีขึ้นเล็กน้อย
แม้ว่า ป๋อจิงโจวจะไม่ชอบกระเป๋าทรงนั้น
เสียงของเขาก็ผ่อนคลายลง “ไปทานอาหารเย็นคืนนี้ แล้วผมจะให้คนไปที่บ้านของฉินเยว่จือเพื่อขนกระเป๋าเดินทางของคุณกลับมาให้คุณ”
เฉินหว่านฉือไม่สนใจเขา และถามพนักงานต่อไป “เขียนการ์ดอวยพรได้มั้ยคะ”
พนักงานพยักหน้า “ได้สิคะ”
“งั้นเขียนว่า คุณเฉียว สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะ”
เปลือกตาของป๋อจิงโจวกระตุกอย่างรุนแรง นิ้วของเขาจับข้อมือของเธอแน่นขึ้น ซักถามว่า “คุณเฉียวคือใคร?”
เฉินหว่านฉือตอบอย่างไม่ใส่ใจ “คู่เดทฉันคืนนี้”
เธอดึงมือออกจากมือของป๋อจิงโจวแล้วพูดว่า “ประธานป๋อคะ อย่าสร้างปัญหาเลยค่ะ ถ้าคุณชอบ ฉันจะสั่งให้คุณอีกอัน ใช้เวลาไม่นานหรอกค่ะ”
ได้ยินคำพูดถอดแบบเขามาเลย เส้นเลือดบนหน้าผากของป๋อจิงโจวเต้นอย่างเป็นจังหวะ กรามที่กัดแน่นมีความโค้งที่คมชัด
พนักงานได้ออกใบเสร็จแล้ว แต่ในสถานการณ์นี้ ก็ไม่กล้าปริปาก
เฉินหว่านฉือล้วงบัตรออกมาใบนึงยื่นไป “รูดบัตรค่ะ”
ใบหน้าหล่อเหลาอึมครึมของชายผู้นี้แฝงด้วยความเย็นยะเยือก“เฉินหว่านฉือ เงินเดือนคุณสองหมื่นสองพันห้าร้อยบาท คุณมีปัญญาจ่ายกระเป๋าใบนี้ไหวเหรอ?”
ก่อนหน้านี้ที่ให้แบล็คการ์ดไม่จำกัดวงเงินใบนั้นกับเธอ เขาระงับแล้ว นอกจากรายจ่ายค่าโรงแรมจำนวนมากคืนก่อน ปีนี้ เธอไม่ได้ใช้เงินในนั้นเลย
ก็นับว่าสองหมื่นสองพันห้าร้อยบาทหนึ่งเดือน ไม่กินไม่ดื่มเก็บปีนึงก็แค่ห้าหมื่นกว่า ครึ่งหนึ่งของกระเป๋ารุ่นนี้ก็ซื้อไม่ไหว็็้
เสียง "ติ๊ง" รูดบัตรเครดิตสำเร็จ และเครื่อง POS ก็เริ่มพิมพ์ใบเสร็จ ‘เอี๊ยดๆ’
เฉินหว่านฉือ รับกล่องของขวัญจากไกด์ช้อปปิ้ง หันหลังกลับและจากไป
ป๋อจิงโจวจ้องตามเงาด้านหลังของเธอ ดวงตาทั้งสองข้างแทบลุกเป็นไฟ
หลังจากออกมาจากห้างสรรพสินค้า เฉินหว่านฉือมีอารมณ์ดีขึ้นมา เมื่อเห็นว่าดึกแล้ว เธอก็นั่งแท็กซี่ไปที่ร้านขายของโบราณของฉินเยว่จือ
ฉินเยว่จือขณะนี้ไม่ยุ่ง เมื่อเห็นเธอมา ก็ลุกขึ้นและเข้าไปทักทาย “ เธอมาได้ยังไง?ไม่ใช่ว่าตอนเย็นจะเข้าครัวลงมือทำหม้อไฟให้ฉันหรอกหรอ?”
เฉินหว่านฉือนำกล่องของขวัญในมือโยนใส่เธอ นอนลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยล้า“ไม่ต้องเอ่ยถึงแล้ว เฮงซวย”
ฉินเยว่จือถือกล่องของขวัญ แววตาเซอร์ไพร “นี่คืออะไรน่ะ ?ให้ของขวัญวันเกิดฉันเหรอ?”
เฉินหว่านฉือหลับตา ตอบแบบสะลึมสะลือ “อืม”
ฉินเยว่จือแกะห่ออย่างเบิกบานดีใจ เห็นข้างในเป็นกระเป๋าทรงผู้ชาย ดูเหมือนมะเขือยาวที่ถูกทุบด้วยน้ำค้างแข็ง เหี่ยวเฉา “แม้ว่าเธอจะคิดว่าฉันดูไม่เหมือนผู้หญิง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเตือนฉันด้วยวิธีนี้ก็ได้มั้ย”
เฉินหว่านฉือพูดน้ำเสียงเย็นชา “เธอเอาไปให้แฟนเธอได้นะ”
ฉินเยว่จือ “……”
เธอจะไปเอาแฟนจากไหนมา เคลวิน แอนดี้ หรือว่าเจฟที่สโมสร ถือว่านับมั้ย?
เฉินหว่านฉือพักอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากอารมณ์ผ่อนคลายลง ก็เลยเอาเรื่องที่ห้างมาเล่าให้ฟัง
ฉินเยว่จือฟังเรื่องที่ว่าป๋อจิงโจวยืนกรานที่จะให้เฉินหว่านฉือย้ายกลับไป รู้สึกแปลกประหลาด เงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดสิ่งที่น่าตกใจออกมาว่า “ไอ้หมาป๋อจิงโจวนั่น ไม่ใช่ว่าตกหลุมรักเธอเข้าแล้วนะ?”