LOGINวันต่อมา หลังจากที่อิงฟ้าไปยื่นใบสมัครเป็นเลขาฯ ของดลภพเรียบร้อยแล้ว
“แกจะไปเป็นเลขาฯ ของเขาทั้งที ไม่มีประสบการณ์เลยไม่ได้นะ!!” เจนนิสาเอ่ยเตือนเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง แววตาเต็มไปด้วยความกังวล และรู้ดีว่าอิงฟ้ามีความสามารถ แต่การทำงานในออฟฟิศระดับนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องความสามารถเพียงอย่างเดียว
“ก็ถึงต้องพึ่งแกนี่ไง!” อิงฟ้าตอบเพื่อนระหว่างที่ทั้งสองออกมาทานมื้อเที่ยงด้วยกัน
“แกเป็นเลขาฯ ของคุณตรีทศจนได้เค้ามาเป็นแฟน มีเทคนิคอะไรดี ๆ ก็บอกฉันบ้างสิ” อิงฟ้ากระซิบเสียงออดอ้อนเพื่อนรัก แล้วทำท่ากะพริบตาปริบๆ
“ฉันหมายถึงเรื่องงานย่ะ...เรื่องงาน!!!” เจนนิสาเน้นเสียงหนักอย่างเป็นจริงเป็นจัง และพยายามดึงเพื่อนกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง แต่ก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้กับความขี้เล่นของอิงฟ้า
“ก็เอาทั้งเรื่องงาน แล้วเรื่องพิชิตใจบอสด้วยเลยสิ โอเค๊!” อิงฟ้ายิ้มหวานให้เพื่อนรัก
“ถ้าผิดหวังขึ้นมา...แกจะมาโทษฉันไม่ได้นะ คุณดลภพนั่นผู้ชายระดับอัลฟ่าเลยนะแก ไม่ใช่จะมาอ่อยกันง่ายๆ นะเว้ย!” เจนนิสาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ไม่เป็นไรน่า! ขอแค่เทคนิคดี ๆ มาก่อน” อิงฟ้าพูดอย่างไม่ยี่หระ เธอยกมือขึ้นค้ำคาง มองเจนนิสาด้วยแววตาออดอ้อนสุดฤทธิ์ เจนนิสามองเพื่อนอย่างจนใจ ก่อนจะถอนหายใจยาว
“ให้เค้ารับแกไปเป็นเลขาฯ ก่อนเถอะ ถึงเวลานั้นแล้วฉั้นค่อยสอน” เจนนิสาผุดลุกขึ้นก่อนจะเดินหนีเพื่อนสนิทที่เป็นถึงลูกสาวเจ้านาย เพราะตอนนี้เธอกำลังทำงานเป็นเลขานุการให้กับคุณตรีทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารภายใต้บริษัทของท่านประธานธีระ หากท่านประธานรู้เรื่องเข้าว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการของอิงฟ้า อาจจะทำให้เธอและแฟนถูกไล่ออกได้ง่ายๆ งานนี้ดูไม่คุ้มกับความเสี่ยงเอาเสียเลย!
“มันจะไม่ทันการณ์เอาน่ะสิ แกบอกมาเลยเจน เอาเทคนิคที่แกใช้กับคุณตรีทศเค้าก็ได้”
“มั่นใจซะอย่าง จบนะ” เจนนิสาพูดพร้อมกับเดินมาที่รถ
“เฮ่ย!!..แค่มั่นใจอย่างเดียวเนี่ยนะ” อิงฟ้าตอบก่อนจะวนไปนั่งตำแหน่งคนขับรถ
“อื้ม.....ก็ถ้าสมมุติว่าแกได้ไปเป็นเลขาฯ ของเค้าจริง ๆ โอกาสมันอยู่ตรงหน้าแกแล้วไง”
“อันนั้นฉันรู้อยู่แล้ว แต่ของแบบนี้มันก็ต้องมีขั้นตอนป่าววะแก”
“เฮ้อ... ก็ได้! เอาล่ะ ๆ... ถ้าแกอยากจะอ่อยคุณดลภพ เค้าจริง ๆ อะนะ แกต้องอ่อยแบบมีชั้นเชิง โดยการเริ่มสร้างความประทับใจจากงานที่แกทำเสียก่อน” เจนนิสาเริ่มเข้าสู่โหมดกูรูเรื่องรัก ดวงตาเป็นประกายอย่างจริงจัง
“เอาเรื่องงานก่อนเลยนะ สิ่งแรกที่แกต้องทำคือ ความกระตือรือร้นเกินเบอร์” เจนนิสาเริ่มบรรยาย
“กระตือรือร้นเกินเบอร์? หมายถึงอะไรกัน” อิงฟ้าถามอย่างงงๆ
“สมมติว่าถ้าคุณดลภพเค้าสั่งงานอะไรมาน่ะ แกก็ต้องทำให้เร็ว! ไม่ใช่แค่เร็วนะ แต่ต้องละเอียดรอบคอบไร้ที่ติ เหมือนว่าแกเกิดมาเพื่อเป็นเลขาฯ ของเขาโดยเฉพาะ!” เจนนิสาอธิบายอย่างมีหลักการ
“ทำให้เขารู้สึกว่า เฮ้ย!!!... ผู้หญิงคนนี้มันทำงานดีเกินไปแล้วจริงๆ ดีจนเค้าขาดแกไม่ได้”
“โอ้โห...ต้องประมาณนั้นเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“โอเค... เข้าใจ แล้วไงต่ออะ!” อิงฟ้าพยักหน้าหงึกๆ
“ต่อมานะ ข้อนี้สำคัญมาก แกต้องฝึกใช้สายตา เคยได้ยินมั้ย ต้องตา ตรึงใจน่ะ แต่วิธีของฉันน่ะ มันจะค่อยเป็นค่อยไปนะ นิ่ง สงบ สยบความเคลื่อนไหว อย่าทำอะไรให้ไก่ตื่นเด็ดขาด”
“โดยเฉพาะเวลาที่แกอยู่กับเค้าสองต่อสอง เวลาหยิบหรือจับเอกสารส่งให้เค้า ก็ไม่ต้องรีบร้อนนะ แกทำยังไงก็ได้ให้ปลายนิ้วสัมผัสเค้าเบาๆ เหมือนบังเอิญ แต่มันคือความตั้งใจ! แล้วก็ผสานสายตาของแกเข้าไปจิกกัดเค้าสักนิด นิดเดียวนะ ไม่ต้องเยอะ”
“ต่อมาถ้าเค้าสนใจแก สายตาที่เค้าเคยเย็นชาก็อาจจะเปลี่ยนไป แกต้องหมั่นสังเกตดี ๆ จากนั้นเวลาที่แกมีโอกาสอยู่ใกล้ๆ เค้าอีก แกก็แกล้งๆ ทำเป็นสะดุดหรืออะไรก็ได้ เพื่อให้ตัวแกไปใกล้ชิดเค้าบ่อย ๆ จำไว้นะทุกอย่างที่เกิดขึ้น แกต้องทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แกต้องสร้างความบังเอิญให้มันสมเหตุสมผลนะ”
“โห...แบบนี้ฉันจะไม่โดนจับได้ก่อนเหรอ.!” อิงฟ้าตาโต
“ก็ทำให้เนียน ๆ สิ... แต่ยังไม่หมดหรอกนะมันยังมีต่อจากนี้อีก เอาไว้ให้แกได้ไปเป็นเลขาฯ ของเค้าจริง ๆ ซะก่อน แล้วฉันค่อยสอนแกเพิ่่ม!”
“ไปมูที่ไหนดี ฉันอยากได้งานนี้อะ” อิงฟ้าพูดออกมาอย่างจริงจัง ดวงตาสุกใสเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เจนนิสาถึงกับหลุดขำพรืดออกมา
“แกจะมูเพื่อให้ได้งานหรืออยากได้แฟนถามจริ๊ง!!!” เจนนิสาแกล้งถามเสียงสูงเมื่อรถจอดติดไฟแดง แล้วหันไปจ้องหน้าอิงฟ้าอย่างจับผิด
“แหม่!!!..เล่นถามซะตรงเชียว” อิงฟ้าหน้าแดงก่ำเล็กน้อย ทำท่าทีเขินอายแต่ดวงตากลับพราวระยิบ
“ก็ถ้าอยากได้งาน สายมูเค้าจะไปกันที่ศาลเจ้าพ่อเสือ ส่วนถ้าอยากได้ผัวละก็..ศาลย่านาก ว่าไง!!!...แกอยากได้อะไรล่ะ” เจนนิสาไล่เรียงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังที่คนนิยมไปขอพรตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ให้เพื่อนฟังอย่างตรงไปตรงมา
“หุยยย!!!...เอาแค่เป็นแฟนก่อนเถอะ!!!...แล้วแกว่าเอาที่ไหนดีล่ะ! ช่วยฉันคิดหน่อยสิ” อิงฟ้าถามย้ำอย่างกระตือรือร้น เธอไม่ได้ล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย ความปรารถนาในใจมันตีรวนกันไปหมด ทั้งอยากได้งาน และอยากได้ใจดลภพ
เจนนิสาหันจ้องหน้าเพื่อนเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันถามจริง ๆ แกรักเค้ามั้ย พร้อมจะเป็นของเค้าหรือเปล่า” คำถามของเจนนิสานั้นตรงไปตรงมาจนอิงฟ้าถึงกับสะดุ้ง
“เฮ่ย!!!...ถามอะไรแบบนั้นเล่า ฉันยังไม่เคยนะ แล้วก็ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้นสักหน่อย” อิงฟ้าหน้าแดงเถือกไปถึงใบหู เธอหลบสายตาเพื่อนอย่างประหม่า ความรู้สึกอายถาโถมเข้ามา เมื่อถูกเพื่อนจับจ้องและพูดถึงเรื่องส่วนตัวที่เธอไม่เคยเปิดเผยกับใครแบบจริงจัง
“ห๊า!!!!.. นี่แกไปเรียนตั้งเมืองนอกเมืองนา ทำไมแกรอดมาได้วะ” เจนนิสาถึงกับตาโตอ้าปากค้าง เธอไม่คิดว่าคุณหนูอย่างอิงฟ้าจะยังคงความบริสุทธิ์ ท่ามกลางสังคมตะวันตกที่เปิดกว้างเรื่องเซ็กซ์
“เฮ่อ!!!.. มันก็เกือบ ๆ หลายครั้งนั่นแหละ แต่พอฉันไม่มั่นใจว่าเค้าจะรักฉันจริง ฉันก็ไม่ยอมไง” อิงฟ้าบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาฉายแววถึงความตั้งใจจริงในเรื่องความรัก แต่เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมพลีกายให้ใครง่ายๆ หากไม่แน่ใจในความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีให้
“แกนี่หัวโบราณนะเนี่ย!!.. ฉันคิดว่าแกกลับเมืองไทยคราวนี้คงได้สามีฝรั่งเป็นตัวเป็นตนกลับมาซะอีก” เจนนิสาแซว พร้อมส่ายหัวอย่างอ่อนใจในความหัวแข็งของเพื่อน
“บ้าเหรอ!!...พ่อกับแม่ฉันได้แพ่นกระบาลเอาสิ” อิงฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งขำกึ่งจริงจัง เพราะรู้ดีว่าคุณพ่อคุณแม่ของเธอหวงเธอมากแค่ไหน
คำพูดของเจนนิสากลับทำให้อิงฟ้ายิ่งมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อดลภพ ชายหนุ่มผู้เย็นชาที่เธอเพิ่งพบแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่เพราะแค่ความหล่อเหลาหรือฐานะ แต่เป็นความรู้สึกบางอย่างที่ผูกพันกันราวกับมีพรหมลิขิต
ตอนที่ 15 เรื่องของหัวใจมื้อค่ำดำเนินไปอย่างอบอุ่น แต่ไม่นานนักคุณปู่ของเขาที่นั่งข้าง ๆ หลานชาย ก็เปิดประเด็นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ดลย์เอ้ย!!!” คุณปู่เอ่ยขึ้น พลางหันมามองหลานชายด้วยความเอ็นดู“ปีนี้หลานอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”“30 ย่าง 31 ครับคุณปู่”“30 ก็ถือว่าไม่น้อยเลย แล้วพร้อมที่จะแต่งงานมีครอบครัวหรือยังล่ะ” ดลภพชะงักเล็กน้อย เขารู้ดีว่าคำถามนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกครั้งที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้“ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยครับคุณปู่ ผมอยากลุยงานให้เต็มที่ก่อน” ดลภพตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แฝงความหนักแน่น เสียงคุณประยูรถอนหายใจเบาๆ“เฮ่อ!!!..หลานจะมัวคิดแบบนั้นไม่ได้นะ ปู่เองก็แก่ลงไปทุกวัน ๆ แล้ว จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ปู่น่ะ...อยากเห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝา มีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนพ่อกับแม่เค้า หลานช่วยทำให้ปู่นอนตายตาหลับได้มั้ย” คุณประยูรพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือความเศร้าเล็กน้อย เพื่อกดดันหลานชายทางอ้อม“เอ่อ...คุณปู่ครับ คือว่า...”“หลานช่วยแต่งงานตอนที่ปู่ยังมีชีวิตอยู่เถอะนะ ถือว่าปู่ขอร้อง!!!”คุณภัสสร ผู้เป็นมารดาที่นั่งฟังอยู่ตลอด พอ
ตอนที่ 14 เรื่องนี้ต้องสืบดลภพไม่พูดพร่ำทำเพลง เขายื่นรูปถ่ายในโทรศัพท์มือให้นักสืบดู รูปแรกเป็นภาพที่อิงฟ้ากำลังเดินลงจากรถของเพื่อนและก้าวเข้าไปในคฤหาสน์หรู ส่วนรูปที่สองคือรูปถ่ายในใบสมัครงานของอิงฟ้าที่เขาเคยแอบถ่ายเก็บไว้“เธอเป็นเลขาฯ คนใหม่ของผม คุณไปสืบดูนะว่าเธอเป็นอะไรกับเจ้าของคฤหาสน์หลังนั้น” ดลภพสั่งเสียงเรียบเตโชรับรูปมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดวงตาของเขากวาดมองรูปถ่ายคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นรายละเอียดบางอย่าง“นี่มันคฤหาสน์ของคุณธีระ ประธานบริษัท เน็กซัส วัน นี่ครับ ใคร ๆ ก็รู้จัก” เตโชเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกใจและไม่คิดว่าดลภพจะไม่รู้จักคฤหาสน์ราคาสามร้อยล้านหลังนั้น เตโชนั้นเป็นนักสืบที่คลุกคลีกับข้อมูลของบุคคลสำคัญอยู่แล้ว ย่อมจำคฤหาสน์ของบุคคลระดับนี้ได้เป็นอย่างดีดลภพพยักหน้ารับเล็กน้อย“ใช่ข้อนั้นผมรู้!!! แต่ผมต้องการรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับเจ้าของบ้าน” เขาเน้นย้ำด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม แววตาคมกริบจ้องมองนักสืบอย่างกดดันเตโชก้มลงดูรูปถ่ายของอิงฟ้าในใบสมัครงานอีกครั้ง เทียบกับใบหน้าในรูปถ่ายที่กำลังเดินเข้าบ้าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองดลภพด้ว
ตอนที่ 13 เธอต้องการอะไรอิงฟ้ายืนนิ่งอยู่กลางห้องทำงานของดลภพ หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก คำถามของเขาเมื่อครู่ยังคงก้องอยู่ในหู เธอรู้ดีว่าเขาต้องแอบตามเธอกับเพื่อนไปที่นั่น และเขากำลังสงสัย“เอ่อ...ก็แถวๆ นี้ค่ะ” อิงฟ้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม พยายามหลบสายตาคมกริบของเขา เธอเลือกที่จะตอบแบบคลุมเครือที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดลภพเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ใบหน้ายังคงเรียบเฉย แต่แววตาของเขาบ่งบอกถึงความไม่พอใจที่เห็นได้ชัด“ผมถามว่า...ที่ไหน” เขาเน้นย้ำคำถามเหมือนรู้ว่าเธอไปที่ไหนมา แต่ละคำชัดเจนและหนักแน่น จนอิงฟ้าแทบจะสำลัก เลขาฯ สาวยืนกัดริมฝีปากแน่น เธอรู้ว่าไม่มีทางเลี่ยงอีกแล้ว ก่อนจะตัดสินใจบอกเขาไปตามตรง“บริษัทเน็กซัส วัน ค่ะ” อิงฟ้าตอบเสียงเบาหวิว ราวกับกระซิบ“พอดีเพื่อนฉันทำงานอยู่ที่นั่นค่ะ เธอแวะไปเอาของก่อนที่เราจะออกไปทานมื้อกลางวันกัน” เธอรีบเสริมเหตุผลอย่างรวดเร็ว พยายามทำสีหน้าให้ดูบริสุทธิ์ใจที่สุด ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าคู่แข่งบริษัทของเขาจะเป็นเน็กซัส วันดลภพมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อถือ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ก้าวเข้ามาใกล้ จนอิงฟ้าสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากตัวเขา“คุ
ตอนที่ 12 หวานในลิฟต์เช้าวันต่อมาเจนนิสา ขับรถมารับอิงฟ้าที่บ้านตามปกติ บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของสองเพื่อนซี้ที่ปรึกษาหารือเรื่องแผนการพิชิตใจบอสหนุ่มอย่างดลภพ ก่อนจะรถเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าตึก JSK กรุ๊ปหลังจากส่งอิงฟ้าลงที่หน้าบริษัทเรียบร้อย เจนนิสาก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทเน็กซัสวันเพื่อทำหน้าที่เลขาฯ ให้กับแฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งก็คือตรีทศที่เป็นซีอีโอของบริษัทเน็กซัสวันตำแหน่งเดียวกันกับดลภพที่อยู่ JSK กรุ๊ป ก่อนที่เจนนิสาจะเดินขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังห้องทำงานของเธอพร้อมกับตรีทศแฟนหนุ่ม เสียงเข้มของท่านประธานธีระก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง เขากำลังเดินตรงเข้ามาในลิฟต์พร้อมเธอและตรีทศอย่างรวดเร็ว“สวัสดีครับท่านประธาน” ตรีทศรีบยกมือไหว้ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทด้วยความเคารพ“หนูเจน อิงฟ้าไปไหน ทำไมไม่เห็นมาฝึกงานพร้อมหนูล่ะ...ไหนว่าไปรับไปส่งกันทุกเช้าไม่ใช่เหรอ” ท่านประธานธีระเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงความสงสัยอย่างชัดเจน“เอ่อ ๆ คือว่า...” เจนนิสาอึกอักเล็กน้อย เธอเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอคำถามนี้“คืออิงฟ้าขอไปฝึกอีกที่หนึ่งค่ะ พอดีเพิ่งจะเปลี่ยนกะทันหัน” เจนนิสารี
ตอนที่ 11 แรงกดดันกับความลับที่สั่นคลอนเน็กซัสวัน ยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมหรูครบวงจร คุณธีระเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ทั้งคอนโดมิเนียมหรู โรงแรมระดับห้าดาว และรีสอร์ตริมทะเลอันงดงาม การแข่งขันของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ระหว่าง เน็กซัสวัน และ JSK กรุ๊ปคือการช่วงชิงทำเลทอง การสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่เป็นไอคอนิก และการให้บริการที่เหนือระดับในขณะที่บริษัท JSK กรุ๊ป ซึ่งเป็นคู่แข่งตลอดกาลในวงการเดียวกัน แต่ปัจจุบันนี้ JSK กรุ๊ปหันมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเชิงพาณิชย์และที่พักอาศัยระดับพรีเมียม รวมถึงการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์หรูหราการแข่งขันระหว่าง เน็กซัสวัน และ JSK กรุ๊ป ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้น แต่ได้ถูกสืบทอดมาตั้งแต่ รุ่นปู่ของดลภพ กับ รุ่นพ่อของท่านประธานธีระมานานแล้ว ศึกชิงความเป็นหนึ่งในวงการนี้ดุเดือดมาหลายทศวรรษ ตั้งแต่การประมูลที่ดินผืนงาม การช่วงชิงสัญญาโครงการใหญ่ๆ ไปจนถึงการงัดกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้มข้น เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดและพิสูจน์ศักยภาพของตระกูลความบาดหมางทางธุรกิจที่ฝังรากลึกนี้เอง ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิง
ตอนที่ 10 กับดักรัก...ของคุณหนูอิงฟ้าอ้างว่าที่เธอไปทำงานเป็นเลขาฯ ของดลภพในทุก ๆ วัน เธอบอกว่าไปฝึกงานอยู่กับเจนนิสา เพื่อเรียนรู้งานของบริษัทอย่างเป็นขั้นเป็นตอน“ห๊า!!..จริงอะ” เจนนิสาถึงกับหลุดอุทานเสียงดังลั่น“อื้อ!!!..ก็จะให้ฉันโกหกว่าไงล่ะ” อิงฟ้าโอดครวญ“ไม่บอกว่าไปฝึกงานเป็นแม่บ้านก็ดีนักหนาแล้ว”“ตาย ๆ! ถ้าวันไหนแม่แกเกิดเข้าออฟฟิศขึ้นมา ฉันไม่แย่เลยรึ!!!” เจนนิสาโวยวายด้วยความกังวล เพราะถ้าคุณวิภามาที่บริษัทจริง ความลับต้องแตกแน่ ๆ แล้วเธอเองเนี่ยแหละจะซวย!“แม่ฉ้นไม่ไปหรอกน่า รายนั้นเพื่อนเค้าเยอะ วัน ๆ ก็เอาแต่ตีดัมมี่” อิงฟ้าพูดอย่างสบายใจ เธอรู้จักนิสัยแม่ดี ว่าเป็นคนสังคมจัด ไม่ค่อยได้เข้ามาในออฟฟิศเท่าไร บางวันก็ชวนกันเล่นไพ่ที่บ้าน“ค่อยยังชั่ว!!” เจนนิสาถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก“หวังว่าคงไม่ขาขาด แล้วมาหาเอาตามออฟฟิศหรอกนะ” เจนนิสาเปรยขึ้นมาอย่างขำๆ“ไม่หรอกน่า แกก็เล่นเพลินๆ ไปตามประสาคนแก่นั่นแหละ ส่วนใหญ่จะคุยกันซะมากกว่า” อิงฟ้าบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจกับมุก ฮาๆ ของเพื่อน“เอาล่ะๆ มาคุยเรื่องคุณดลย์ต่อเถอะ” อิงฟ้าวกเข้าเรื่องหลักอีกครั้ง“แกว่าฉันควรจะรีบปิด







