LOGINงานการกุศลที่คุณวิภาจัดขึ้นก็เพื่อวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือหาคู่ให้กับลูกสาวและฝึกให้ลูกสาวเรียนรู้ที่จะออกงานสังคมบ้าง หลังเรียนจบจากต่างประเทศ แต่หารู้ไม่ว่างานนี้ทำให้ลูกสาวของเธอได้แอบหลงเสน่ห์นักธุรกิจหนุ่มที่เป็นคู่แข่งทางธุรกิจไปแล้ว
“แกต้องช่วยฉันนะ เจน!!!” อิงฟ้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ระหว่างนั่งอยู่ในคาเฟ่โปรดกับเพื่อนสาวคนสนิท
“เจอแค่ครั้งเดียวเอง แกหลงรักเขาขนาดนี้เลยเหรอ..อิงฟ้า” เจนนิสา เพื่อนสนิทของอิงฟ้าเลิกคิ้วสูง มองหน้าเพื่อนด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ เจนนิสารู้จักนิสัยเพื่อนดีว่ามักจะเห่ออะไรเป็นพักๆ แต่ครั้งนี้ดูท่าจะจริงจังเกินไปหน่อย
“แกไม่เคยได้ยินคำว่ารักแรกพบหรือไง หึ!!”
“แต่คุณดุลภพเค้าเป็นซีอีโอบริษัทคู่แข่งของคุณพ่อแกเลยนะโว้ย!” เจนนิสาทวนคำพลางจิบกาแฟ
“ใช่! เค้าเป็นซีอีโอบริษัทคู่แข่งของคุณพ่อ เป็นลูกชายคนเดียวของคุณอดุลศักดิ์ อายุ 30 ปี จบ MBA จากต่างประเทศ”
“แหม่!!...รู้ประวัติเค้าอย่างกับจะเอาไปทำงานวิจัยงั้นแหละ!” เจนนิสาแซว พร้อมส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ อิงฟ้าไม่ใช่คนที่จะมานั่งจำรายละเอียดอะไรแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เธอสนใจจริง ๆ
“แน่นอนย่ะ แต่อันนี้มันยิ่งกว่าทำงานวิจัยซะอีก เค้าคือผู้ชายที่หล่อตรงตามสเปคของฉันทุกกระเบียดนิ้ว” อิงฟ้ายังคงพรรณนาถึงชายในฝัน ดวงตาเป็นประกายวาววับ ไม่สนใจสายตาจับผิดของเพื่อนสนิท
“แต่น่าเสียดายอยู่อย่างเดียว” เธอหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ทำหน้าครุ่นคิด
“อะไรเหรอ” เจนนิสา ถามกลับ
“ก็เจอกันครั้งแรก เค้าก็เย็นชาใส่ฉันเลยนะสิ...ยิ่งกว่าน้ำแข็งขั้วโลกอีกนะแก” อิงฟ้าตอบพร้อมกับทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย แต่แววตาซุกซนก็ยังคงฉายชัด
“เค้าอาจจะไม่ชอบผู้หญิงหรือเปล่า” เจนนิสา เอ่ยขึ้นอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย
“เฮ่ย!!!..ไม่หรอกมั้ง ฉันว่าฉันมองออกนะ พวกที่ไม่แมนน่ะ แต่คุณดลภพไม่ใช่ !!! เซนส์ของฉันมันไม่ได้บอกแบบนั้น” อิงฟ้าส่ายหน้าพรืด
“นี่ฉันจะเล่าอะไรให้แกฟังนะ..เจน ก่อนกลับเมืองไทยอะ มีหมอดูคนหนึ่ง จู่ๆ ฉันก็เดินผ่านเค้าไป ตอนแรกฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเค้าเป็นหมอดูน่ะ เขานั่งอยู่บนโต๊ะเล็ก ๆ พอฉันเดินผ่านเขาไป เขาก็รีบทักฉันเลย บอกว่าฉันจะกลับมาเจอเนื้อคู่ที่บ้านเกิดเว้ย! และเนื้อคู่ของฉันจะต้องเป็นผู้ชายที่ฉันเห็นแล้วจะต้องหลงรักเขาในทันที เนี่ย!!!...ฉันยังคิดถึงคำพูดของหมอดูคนนั้นอยู่เลย” อิงฟ้าพูดจบก็ยิ้มกว้างอย่างมั่นใจในโชคชะตา ราวกับว่าเป็นพรมหมลิขิตที่นำพาเธอมาพบกับเขาจริงๆ
“แกแน่ใจเหรอ ว่าเค้าจะอยู่เป็นโสดเพื่อรอคอยแกน่ะ หึ!!! หล่อ ๆ แบบนั้น ร้อยทั้งร้อยถ้าไม่มีแฟนไปแล้วก็เป็นเกย์ชัวร์” เจนนิสาสวนกลับอย่างรวดเร็ว พลางยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
“หื้ยยย!!!...อย่าเพิ่งไปคิดว่าเค้าเป็นเกย์สิ” อิงฟ้าทำท่าตกใจเล็กน้อย แต่ก็รีบแย้งทันควัน
“อิงฟ้า!!!...แกแน่ใจแล้วเหรอ...ว่าจะทำเรื่องบ้าบอแบบนี้” เจนนิสาถามย้ำอีกครั้งด้วยสีหน้าเหลือเชื่อและเป็นกังวล เรื่องที่อิงฟ้ากำลังจะทำมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย
“ใช่แล้วเจน... คุณดลภพคือผู้ชายที่เพอร์เฟกต์ที่สุดสำหรับฉันในเวลานี้ และพรหมลิขิตก็ได้ส่งเค้ามาให้ฉัน” อิงฟ้าเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม ไม่มีอะไรจะมาสั่นคลอนความตั้งใจของเธอได้
“เฮ่อ!!!... ฉันว่าแกอาการหนักแล้วว่ะ..อิงฟ้า” เจนนิสาถอนหายใจยาว ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบเพื่อสงบสติอารมณ์
“อย่าเพิ่งว่าฉันสิ แกน่ะต้องช่วยฉันยัยเจน!!! แล้วที่คุณดลภพเค้าไม่จริงจังกับใครน่ะ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะไม่แมนนี่ แค่เค้าอาจจะยังไม่เจอคนที่ใช่... และคนที่ใช่ของเค้าก็อาจจะเป็นฉันก็ได้นี่นา!” อิงฟ้ายิ้มกว้าง ก่อนจะพูดต่อด้วยแววตาท้าทาย สายตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับเหมือนมีแผนการบางอย่างซ่อนอยู่
“ดูแกมั่นใจจัง แล้วก็อย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งละกัน” เจนนิสาแกล้งเย้า แต่ในใจก็แอบทึ่งกับความบ้าบิ่นของเพื่อน
“แกว่า...เรื่องนี้มันท้าทายดีมั้ย... เจน!” อิงฟ้าเอ่ยถามอย่างสนุกสนาน ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงเกมที่เธอต้องเอาชนะให้ได้ เพื่อนของเธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนใจ
“แต่การตามตื้อผู้ชายที่บ้างานขนาดนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ...อิงฟ้า แถมยังเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันอีก” เจนนิสาส่ายหัวอย่างระอาใจกับความดื้อรั้นของเพื่อน เธอรู้จักนิสัยของท่านประธานธีระดีว่าหวงลูกสาวคนเดียวแค่ไหน ถ้าจับได้ว่าอิงฟ้าไปทำงานในบริษัทคู่แข่งล่ะก็... คงมีเรื่องใหญ่ตามมาแน่
“ไม่รู้ล่ะ! แต่แกต้องช่วยฉัน!!!” อิงฟ้าพูดอย่างเอาแต่ใจ ดวงตาคู่สวยจ้องมองเพื่อนอย่างอ้อนวอน
“ถ้าแกไม่ช่วยฉัน...ฉันจะงอนแกไปตลอดชีวิต”
“เฮ่อ!!!...ช่วยน่ะช่วยได้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเค้า ว่าจะรับแกเป็นเลขาฯ หรือเปล่า” เจนนิสาบอกปัด แต่ก็รู้ดีว่าสุดท้ายก็ต้องยอมเพื่อนอยู่ดี แค่เห็นแววตาของอิงฟ้าที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เธอก็ทำใจแข็งไม่ลงแล้ว
“แล้วเลขาฯ คนเก่าของเขาจะลาออกเมื่อไหร่” อิงฟ้าถามอย่างตื่นเต้น ไม่ได้สนใจคำทักท้วงของเจนนิสาเลยแม้แต่น้อย
“ก็คงสิ้นเดือนนี้ เธอจะไปอยู่เมืองนอกกับสามีนะ เห็นว่างั้น” เจนนิสาบอกอย่างจำใจ
“โอเค! งั้นวันนี้เดี๋ยวฉันไปยื่นใบสมัครเลย!” อิงฟ้าลุกพรวดขึ้นยืนด้วยความกระตือรือร้น ท่าทางกระฉับกระเฉงราวกับนักรบที่กำลังจะออกไปรบ
“เฮ่อ!!.. ฉันรู้สึกกังวลยังไงไม่รู้ว่ะแก” เจนนิสาบ่นอุบ แต่ก็ลุกตามเพื่อน
“ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า ไม่มีใครรู้รายละเอียดฉันนักหรอก” อิงฟ้าเอ่ยอย่างสบายใจพลางกะพริบตาปริบๆ
“ว่าแต่แกเปลี่ยนนามสกุล แบบนี้คุณแม่จะไม่ว่าเอาเหรอ” เจนนิสาถาม เพราะอิงฟ้าแอบเปลี่ยนนามสกุลในเอกสาร เพื่อไม่ให้ใครจับได้ว่าเธอเป็นลูกสาวท่านประธานใหญ่
“ก็อย่าให้รู้สิ!” อิงฟ้ายิ้มกริ่ม ก่อนจะคว้าแขนเพื่อนแล้วลากออกไปจากคาเฟ่
“อือๆๆ” เจนนิสาตอบรับแบบขอไปที ก่อนจะยอมเดินตามเพื่อนตัวแสบไป
ตอนที่ 15 เรื่องของหัวใจมื้อค่ำดำเนินไปอย่างอบอุ่น แต่ไม่นานนักคุณปู่ของเขาที่นั่งข้าง ๆ หลานชาย ก็เปิดประเด็นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ดลย์เอ้ย!!!” คุณปู่เอ่ยขึ้น พลางหันมามองหลานชายด้วยความเอ็นดู“ปีนี้หลานอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”“30 ย่าง 31 ครับคุณปู่”“30 ก็ถือว่าไม่น้อยเลย แล้วพร้อมที่จะแต่งงานมีครอบครัวหรือยังล่ะ” ดลภพชะงักเล็กน้อย เขารู้ดีว่าคำถามนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกครั้งที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้“ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยครับคุณปู่ ผมอยากลุยงานให้เต็มที่ก่อน” ดลภพตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แฝงความหนักแน่น เสียงคุณประยูรถอนหายใจเบาๆ“เฮ่อ!!!..หลานจะมัวคิดแบบนั้นไม่ได้นะ ปู่เองก็แก่ลงไปทุกวัน ๆ แล้ว จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ปู่น่ะ...อยากเห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝา มีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนพ่อกับแม่เค้า หลานช่วยทำให้ปู่นอนตายตาหลับได้มั้ย” คุณประยูรพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือความเศร้าเล็กน้อย เพื่อกดดันหลานชายทางอ้อม“เอ่อ...คุณปู่ครับ คือว่า...”“หลานช่วยแต่งงานตอนที่ปู่ยังมีชีวิตอยู่เถอะนะ ถือว่าปู่ขอร้อง!!!”คุณภัสสร ผู้เป็นมารดาที่นั่งฟังอยู่ตลอด พอ
ตอนที่ 14 เรื่องนี้ต้องสืบดลภพไม่พูดพร่ำทำเพลง เขายื่นรูปถ่ายในโทรศัพท์มือให้นักสืบดู รูปแรกเป็นภาพที่อิงฟ้ากำลังเดินลงจากรถของเพื่อนและก้าวเข้าไปในคฤหาสน์หรู ส่วนรูปที่สองคือรูปถ่ายในใบสมัครงานของอิงฟ้าที่เขาเคยแอบถ่ายเก็บไว้“เธอเป็นเลขาฯ คนใหม่ของผม คุณไปสืบดูนะว่าเธอเป็นอะไรกับเจ้าของคฤหาสน์หลังนั้น” ดลภพสั่งเสียงเรียบเตโชรับรูปมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดวงตาของเขากวาดมองรูปถ่ายคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นรายละเอียดบางอย่าง“นี่มันคฤหาสน์ของคุณธีระ ประธานบริษัท เน็กซัส วัน นี่ครับ ใคร ๆ ก็รู้จัก” เตโชเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกใจและไม่คิดว่าดลภพจะไม่รู้จักคฤหาสน์ราคาสามร้อยล้านหลังนั้น เตโชนั้นเป็นนักสืบที่คลุกคลีกับข้อมูลของบุคคลสำคัญอยู่แล้ว ย่อมจำคฤหาสน์ของบุคคลระดับนี้ได้เป็นอย่างดีดลภพพยักหน้ารับเล็กน้อย“ใช่ข้อนั้นผมรู้!!! แต่ผมต้องการรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับเจ้าของบ้าน” เขาเน้นย้ำด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม แววตาคมกริบจ้องมองนักสืบอย่างกดดันเตโชก้มลงดูรูปถ่ายของอิงฟ้าในใบสมัครงานอีกครั้ง เทียบกับใบหน้าในรูปถ่ายที่กำลังเดินเข้าบ้าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองดลภพด้ว
ตอนที่ 13 เธอต้องการอะไรอิงฟ้ายืนนิ่งอยู่กลางห้องทำงานของดลภพ หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก คำถามของเขาเมื่อครู่ยังคงก้องอยู่ในหู เธอรู้ดีว่าเขาต้องแอบตามเธอกับเพื่อนไปที่นั่น และเขากำลังสงสัย“เอ่อ...ก็แถวๆ นี้ค่ะ” อิงฟ้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม พยายามหลบสายตาคมกริบของเขา เธอเลือกที่จะตอบแบบคลุมเครือที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดลภพเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ใบหน้ายังคงเรียบเฉย แต่แววตาของเขาบ่งบอกถึงความไม่พอใจที่เห็นได้ชัด“ผมถามว่า...ที่ไหน” เขาเน้นย้ำคำถามเหมือนรู้ว่าเธอไปที่ไหนมา แต่ละคำชัดเจนและหนักแน่น จนอิงฟ้าแทบจะสำลัก เลขาฯ สาวยืนกัดริมฝีปากแน่น เธอรู้ว่าไม่มีทางเลี่ยงอีกแล้ว ก่อนจะตัดสินใจบอกเขาไปตามตรง“บริษัทเน็กซัส วัน ค่ะ” อิงฟ้าตอบเสียงเบาหวิว ราวกับกระซิบ“พอดีเพื่อนฉันทำงานอยู่ที่นั่นค่ะ เธอแวะไปเอาของก่อนที่เราจะออกไปทานมื้อกลางวันกัน” เธอรีบเสริมเหตุผลอย่างรวดเร็ว พยายามทำสีหน้าให้ดูบริสุทธิ์ใจที่สุด ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าคู่แข่งบริษัทของเขาจะเป็นเน็กซัส วันดลภพมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อถือ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ก้าวเข้ามาใกล้ จนอิงฟ้าสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากตัวเขา“คุ
ตอนที่ 12 หวานในลิฟต์เช้าวันต่อมาเจนนิสา ขับรถมารับอิงฟ้าที่บ้านตามปกติ บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของสองเพื่อนซี้ที่ปรึกษาหารือเรื่องแผนการพิชิตใจบอสหนุ่มอย่างดลภพ ก่อนจะรถเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าตึก JSK กรุ๊ปหลังจากส่งอิงฟ้าลงที่หน้าบริษัทเรียบร้อย เจนนิสาก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทเน็กซัสวันเพื่อทำหน้าที่เลขาฯ ให้กับแฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งก็คือตรีทศที่เป็นซีอีโอของบริษัทเน็กซัสวันตำแหน่งเดียวกันกับดลภพที่อยู่ JSK กรุ๊ป ก่อนที่เจนนิสาจะเดินขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังห้องทำงานของเธอพร้อมกับตรีทศแฟนหนุ่ม เสียงเข้มของท่านประธานธีระก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง เขากำลังเดินตรงเข้ามาในลิฟต์พร้อมเธอและตรีทศอย่างรวดเร็ว“สวัสดีครับท่านประธาน” ตรีทศรีบยกมือไหว้ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทด้วยความเคารพ“หนูเจน อิงฟ้าไปไหน ทำไมไม่เห็นมาฝึกงานพร้อมหนูล่ะ...ไหนว่าไปรับไปส่งกันทุกเช้าไม่ใช่เหรอ” ท่านประธานธีระเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงความสงสัยอย่างชัดเจน“เอ่อ ๆ คือว่า...” เจนนิสาอึกอักเล็กน้อย เธอเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอคำถามนี้“คืออิงฟ้าขอไปฝึกอีกที่หนึ่งค่ะ พอดีเพิ่งจะเปลี่ยนกะทันหัน” เจนนิสารี
ตอนที่ 11 แรงกดดันกับความลับที่สั่นคลอนเน็กซัสวัน ยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมหรูครบวงจร คุณธีระเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ทั้งคอนโดมิเนียมหรู โรงแรมระดับห้าดาว และรีสอร์ตริมทะเลอันงดงาม การแข่งขันของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ระหว่าง เน็กซัสวัน และ JSK กรุ๊ปคือการช่วงชิงทำเลทอง การสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่เป็นไอคอนิก และการให้บริการที่เหนือระดับในขณะที่บริษัท JSK กรุ๊ป ซึ่งเป็นคู่แข่งตลอดกาลในวงการเดียวกัน แต่ปัจจุบันนี้ JSK กรุ๊ปหันมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเชิงพาณิชย์และที่พักอาศัยระดับพรีเมียม รวมถึงการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์หรูหราการแข่งขันระหว่าง เน็กซัสวัน และ JSK กรุ๊ป ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้น แต่ได้ถูกสืบทอดมาตั้งแต่ รุ่นปู่ของดลภพ กับ รุ่นพ่อของท่านประธานธีระมานานแล้ว ศึกชิงความเป็นหนึ่งในวงการนี้ดุเดือดมาหลายทศวรรษ ตั้งแต่การประมูลที่ดินผืนงาม การช่วงชิงสัญญาโครงการใหญ่ๆ ไปจนถึงการงัดกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้มข้น เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดและพิสูจน์ศักยภาพของตระกูลความบาดหมางทางธุรกิจที่ฝังรากลึกนี้เอง ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิง
ตอนที่ 10 กับดักรัก...ของคุณหนูอิงฟ้าอ้างว่าที่เธอไปทำงานเป็นเลขาฯ ของดลภพในทุก ๆ วัน เธอบอกว่าไปฝึกงานอยู่กับเจนนิสา เพื่อเรียนรู้งานของบริษัทอย่างเป็นขั้นเป็นตอน“ห๊า!!..จริงอะ” เจนนิสาถึงกับหลุดอุทานเสียงดังลั่น“อื้อ!!!..ก็จะให้ฉันโกหกว่าไงล่ะ” อิงฟ้าโอดครวญ“ไม่บอกว่าไปฝึกงานเป็นแม่บ้านก็ดีนักหนาแล้ว”“ตาย ๆ! ถ้าวันไหนแม่แกเกิดเข้าออฟฟิศขึ้นมา ฉันไม่แย่เลยรึ!!!” เจนนิสาโวยวายด้วยความกังวล เพราะถ้าคุณวิภามาที่บริษัทจริง ความลับต้องแตกแน่ ๆ แล้วเธอเองเนี่ยแหละจะซวย!“แม่ฉ้นไม่ไปหรอกน่า รายนั้นเพื่อนเค้าเยอะ วัน ๆ ก็เอาแต่ตีดัมมี่” อิงฟ้าพูดอย่างสบายใจ เธอรู้จักนิสัยแม่ดี ว่าเป็นคนสังคมจัด ไม่ค่อยได้เข้ามาในออฟฟิศเท่าไร บางวันก็ชวนกันเล่นไพ่ที่บ้าน“ค่อยยังชั่ว!!” เจนนิสาถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก“หวังว่าคงไม่ขาขาด แล้วมาหาเอาตามออฟฟิศหรอกนะ” เจนนิสาเปรยขึ้นมาอย่างขำๆ“ไม่หรอกน่า แกก็เล่นเพลินๆ ไปตามประสาคนแก่นั่นแหละ ส่วนใหญ่จะคุยกันซะมากกว่า” อิงฟ้าบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจกับมุก ฮาๆ ของเพื่อน“เอาล่ะๆ มาคุยเรื่องคุณดลย์ต่อเถอะ” อิงฟ้าวกเข้าเรื่องหลักอีกครั้ง“แกว่าฉันควรจะรีบปิด







