LOGINหลังจากปล่อยให้ชายหนุ่มมีเวลาส่วนตัวจนกระทั่งเธอทำมื้อเย็นเสร็จ หญิงสาวทยอยยกออกมาที่โต๊ะกินข้าว เธอลังเลว่าควรจะเรียกเขาหรือไม่ แต่เท้าเล็กไว้กว่าความคิด หญิงสาวเดินมาที่หน้าห้องนอนที่ปิดสนิทอยู่ เคาะมันเบาๆไม่กี่ครั้งก็ได้ยินเสียงอู้อี้ดังออกมา
“เปิดได้เลยครับ ผมไม่ได้ล็อก” หญิงสาวยืนอึ้งเล็กน้อย เธอเปิดประตูแง้มออกเพียงเล็กน้อยแต่ไม่ก้าวเข้าไป
“พอดีฉันทำมื้อเย็นเสร็จแล้วน่ะค่ะ จะมาถามว่าคุณจะกินมื้อเย็นพร้อมฉันเลยไหม”
“ครับ เดี๋ยวผมขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะตามออกไปครับ”
“ค่ะ”
มือเล็กปิดประตูลงก่อนจะเดินไปที่โต๊ะกินข้าว ตักข้าวใส่จานแล้วนั่งลงรอ ความคิดล่องลอยไปไกลเมื่อเธอมีเวลาว่าง เขาคนนี้คือเฉินซื่อซี นักร้องนักแสดงชาวจีนที่เธอชื่นชอบ เธอยังไม่คิดว่าตอนนี้คือเรื่องจริง เธอรู้สึกเหมือนยังอยู่ในความฝัน
“มาแล้วครับ คุณทำเองหมดนี่เลยเหรอ”
“ค่ะ ฉันชอบทำขนมทำอาหารน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าจะเผ็ดไปหรือเปล่า คุณลองชิมดูก่อนนะ”
“ครับผม อ้อ ผมลืมถาม คุณชื่ออะไรเหรอ”
“ฉันลืม ฉันชื่อซินซินค่ะ”
“ความหมายสมชื่อเลยนะครับ”
“คะ?”
“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ”
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร เพียงแต่ตอบรับหญิงสาวด้วยรอยยิ้มก่อนจะพากันลงมือกินข้าวพร้อมกับชวนกันพูดคุยทำความรู้จักกัน
“เดี๋ยวฉันจัดการเองค่ะ คุณไปพักผ่อนเถอะ”
“…..ผมขอสูบบุหรี่ได้ไหม” ร่างสูงถามเธอด้วยอาการไม่แน่ใจ
“ค่ะ นั่งหน้าบ้านก็ได้ค่ะ ที่นี่ไม่มีใคร คุณไม่ต้องกังวลนะคะ”
หญิงสาวยิ้มให้เขา บอกสิ่งที่ชายหนุ่มสงสัยอยู่ในใจก่อนจะยกจานไปล้าง ร่างสูงจึงเดินกลับเข้าห้องนอนไปหยิบบุหรี่ออกมาแล้วเดินออกไปนั่งที่โซฟาหน้าบ้าน ไม่นานนักก็กลับเข้ามาด้านใน ตั้งใจจะชวนหญิงสาวออกไปหาซื้อเครื่องดื่มแต่กลับไม่เจอเธอ
เฉินซื่อซีเดินไปรอบๆด้วยความสงสัยก็ไม่พบร่างเล็ก จึงมั่นใจว่าหญิงสาวกลับเข้าห้องนอนไปแล้ว ร่างสูงเดินมาหยุดหน้าประตูห้องนอนด้วยความลังเลก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆ
“คะ” ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กที่ออกมาด้วยสีหน้าสงสัย เธอกำลังจะเปิดคอมพิวเตอร์ หญิงสาวมีอาชีพเสริมเป็นนักเขียน เวลาที่เธอว่างก็มักจะแต่งนิยายลงโดยที่ไม่มีใครรู้
“พอดีผมจะชวนคุณไปหาซื้อเครื่องดื่มน่ะครับ”
“เครื่องดื่ม?”
“…..”
“อ๋อ แอลกอฮอล์เหรอคะ”
“ครับผม”
“ได้ค่ะ แป๊บหนึ่งนะ ขอฉันหยิบกระเป๋าก่อน”
หญิงสาวไม่รอคำตอบจากเขา เธอผละตัวเข้าไปหยิบกระเป๋าด้านในก่อนจะเดินกลับออกมา
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวพร้อมแล้วเขาก็หยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าเงินมาใส่กางเกง หยิบหมวกแล้วเดินตามหญิงสาวออกไปที่รถ
“คุณอยู่ที่นี่คนเดียวเลยเหรอ”
“ใช่ค่ะ ที่นี่ฉันซื้อและออกแบบเองทั้งหมด คุณพ่อของฉันอยู่กับครอบครัวของเขาน่ะค่ะ ส่วนคุณแม่เสียไปแล้ว”
“เสียใจด้วยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวพาเขามาที่ห้างสรรพสินค้าที่ไม่ไกลจากบ้าน เมื่อมาถึงเขาก็สะดุ้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมหยิบแมสมาด้วย
“คุณ ผมลืมแมส”
“เปิดลิ้นชักได้เลยค่ะ ฉันมีติดรถเอาไว้ตลอด”
ใบหน้าหล่อเหลาพยักหน้าด้วยความโล่งใจ ก่อนจะใส่แมสและสำรวจความเรียบร้อยและลงจากรถตามหญิงสาวไป
“อยากดื่มอะไรคะ”
“คุณนำไปเลยครับ คุณจะดื่มเป็นเพื่อนผมใช่ไหม”
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา”
“ซินซิน”
“คะ” หญิงสาวชะงักเท้าไปเมื่อเขาเรียกชื่อเธอ เสียงของเขามันทำให้เธออบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“คุณอายุเท่าไหร่”
“25 ค่ะ”
“หืม น้อยกว่าผม 5 ปี”
“ค่ะ ประมาณนั้น”
“ไปเถอะ”
ด้วยความเคยชิน มือใหญ่เผลอแตะไปที่ไหล่บางเบาๆเพื่อให้เธอเดินนำไป หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้อุทานอะไรออกมา
หลังจากเลือกเครื่องดื่มและของกินเล่นกันเรียบร้อยก็พากันกลับบ้าน ซินซินปล่อยให้เขาถือของเข้าบ้านเองระหว่างที่เธอไปจอดรถ เมื่อสำรวจว่าไม่ได้ลืมอะไรเอาไว้ในรถเสร็จหญิงสาวก็เดินกลับเข้าบ้าน
“ผมขอหยิบแก้วหยิบจานเองได้ไหม”
“ได้ค่ะ คุณอยู่ที่นี่หยิบของใช้เองได้เลย ไม่ต้องขอฉันก็ได้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
รอยยิ้มหวานผุดขึ้น ก่อนที่ร่างสูงจะเดินหายเข้าไปในครัว สายตาคมกวาดมองไปทั่วเพื่อหาสิ่งของที่ต้องการ เขายอมรับเลยว่าหญิงสาวเรียบร้อยมาก เธอจัดเก็บทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเป็นระเบียบเรียบร้อยจนเขานึกชื่นชม
“คุณไปนั่งดื่มหน้าบ้านก็ได้นะคะ บรรยากาศดี”
“ครับ คุณตามมานะ”
“ค่ะ”
รอยยิ้มถูกส่งให้กัน เฉินซื่อซีหยิบแก้ว 2 ใบเดินออกไปนั่งที่โซฟาด้านนอก หญิงสาวหยิบจานเดินตามออกมา เธอจัดการเอาของกินที่ซื้อมาใส่จาน ตั้งใจจะนั่งลงโซฟาตัวเล็กอีกตัวที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเดาอาการเธอออก จึงตบมือลงบนโซฟาข้างตัวเบาๆเป็นการบอกให้เธอมานั่งข้างกัน
ในหน้าหวานมีอาการอึ้งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงอย่างไม่แน่ใจนัก เธอเกรงว่าจะเป็นการใกล้ชิดเขามากไปจนจะทำให้เขาอึดอัด ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าซินซิน
“ไม่เป็นไร”
“อ่า ค่ะ”
ทั้งคู่ดื่มเครื่องดื่มท่ามกลางความเงียบกันอยู่สักพักใหญ่ จนกระทั่งชายหนุ่มร้องเพลงออกมาเบาๆ
“ผม…..มาพักใจ”
“…..ค่ะ งั้นคุณก็พักให้เต็มที่เถอะนะคะ ฉันจะไม่ถามเรื่องส่วนตัวของคุณ ที่นี่คุณจะมีความส่วนตัวเต็มที่ กลางวันส่วนใหญ่ฉันอยู่ในร้าน กลางคืนฉันก็อยู่แต่ในห้องนอน”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับ ขอแค่ไม่มีใครมาเจอผมที่นี่ก็พอ”
“คุณไม่ต้องกังวลนะคะ” ทั้งคู่ยิ้มให้กัน
เมื่อพากันดื่มจนดึกพอสมควร หญิงสาวจึงขอตัวเข้าบ้านก่อน เพราะตอนเช้าเธอต้องเปิดร้าน อีกอย่างวันนี้เธอยังไม่ได้ลงนิยายของเธอเลยแม้แต่ตอนเดียว
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนหญิงสาวก็นั่งทำงานของเธอต่อ เธอแต่งนิยายเพราะใจรัก เธอชอบอ่านหนังสือเขียนหนังสือมาตั้งแต่เด็ก บ้านหลังนี้ สิ่งเหล่านี้ที่เธอทำ คือสิ่งที่เธอมีความสุขกับมัน เพราะเธอทำมันมาจากหัวใจ
ทางด้านเฉินซื่อซี หลังจากหญิงสาวเข้าบ้านไปแล้วเขาได้ถ่ายรูปสวนดอกไม้ของเธอและโพสลงในช่องโซเชียลของเขา ว่าเขาพักผ่อน รอยยิ้มผ่อนคลายผุดขึ้น ถึงแม้ใจของเขาจะยังไม่ได้ผ่อนคลายขนาดนั้นก็ตาม
ชายหนุ่มยืนขึ้นเต็มความสูง ก้มลงอุ้มอาเจิ้งขึ้น ก่อนจะโอบร่างบอบบางของซินซินเข้ามากอดเพียงเท่านั้นเสียงกรี้ดกร้าดก็ดังไปทั่วบริเวณ บรรดาแฟนคลับที่มาในงานต่างก็ยกโทรศัพท์และกล้องขึ้นมากดถ่ายภาพ เสียงพูดคุยดังไปทั่วเมื่อพวกเขาได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการขอแต่งงานของไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบ“เอาล่ะค่ะ พวกเรามาถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึกดีกว่านะคะ” พิธีกรสาวทำหน้าที่ของตัวเองต่อหลังจากที่มาถึงคิวของหล่อนบรรดาแฟนคลับที่มาในงานมายืนรวมตัวกันอยู่ที่หน้าเวที เมื่อพวกเขาพร้อม เฉินซื่อซีก็พาซินซินกับอาเจิ้งลงไปยืนใกล้ๆ พวกเขาโดยมีแค่แถบกั้นคั่นกลางเท่านั้นหลังจากการถ่ายภาพที่ระลึกเสร็จก็เป็นอันจบงาน พวกเขาทยอยเดินออกจากพื้นที่จัดงานด้วยรอยยิ้ม วันนี้เป็นวันที่คุ้มที่สุดสำหรับพวกเขาซินซินกับเฉินซื่อซีเดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว โดยมีเสี่ยวเหยาอุ้มอาเจิ้งเดินตามไป เมื่อเข้าในห้องแต่งตัว ทีมงานต่างก็ตบมือต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น“ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อยกันในวันนี้นะคะ”“ยินดีด้วยนะคะ” หนึ่งในทีมงานเป็นตัวแทนมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับซินซิน“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อยกันนะคะ อย่าลืมนะคะ เย็นนี้เร
กลางดึกคืนนั้นซินซินที่หลับๆ ตื่นๆ ตั้งแต่มีลูกเธอก็เคยชินกับการนอนหลับไม่สนิท หญิงสาวพลิกกายไปมาจนร่างสูงที่อยู่ข้างๆ รู้สึกตัว“นอนไม่หลับเหรอ”“ฉันทำให้คุณตื่นเหรอ ขอโทษนะคะ”“ไม่เป็นไรจ้ะ เป็นอะไรถึงนอนไม่หลับ หืม”“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยค่ะ”“บอกผมได้ไหม”“พอดีเดือนหน้าจะตีพิมพ์นิยายเรื่องใหม่ แล้วจะมีจัดงานแจกลายเซ็น ฉันกลัวทำอะไรผิดพลาด”“อย่าคิดมากสิ คุณเก่งจะตาย แล้วถึงจะมีอะไรผิดพลาดก็ไม่เห็นเป็นอะไร”“…..ค่ะ”“นอนพักเถอะจ้ะ”“ค่ะ”1 เดือนต่อมา“เตรียมเปิดงานหรือยัง เหล่าซือล่ะ”“กำลังจะออกมาค่ะ เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ”“ใกล้ได้เวลาแล้ว คนมารอหน้างานกันเต็มเลย เปิดให้เข้ามาก่อนเวลาได้เลย”“รับทราบค่ะ”หลังจากได้รับคำสั่ง ทีมงานก็สั่งการผ่านทางวิทยุสื่อสารให้เปิดประตูเข้างานได้เลย ผู้คนทยอยเข้ามาเดินดูงานกันอย่างต่อเนื่อง หนังสือที่วางขายหน้างานถูกเหมาเกือบหมดจนต้องให้ทางทีมงานนำมาวางเพิ่ม จนกระทั่งถึงเวลาเปิดตัวซินซิน หญิงสาวก็เดินออกมาขึ้นเวทีด้วยชุดเดรสสีชมพูสวยงาม“สวัสดีค่ะเหล่าซือ”“สวัสดีค่ะทุกคน”“ถือว่าเป็นการเปิดตัวนักเขียนคนสวยของเราอย่างเป็นทางการนะคะ วันนี้เราจ
2 ปีผ่านไป“ต้าเกอ ทางนั้นกำหนดวันเปิดกล้องมาแล้วนะ”“ลงคิวไว้เลย” ร่างสูงที่กำลังนั่งแต่งหน้าตอบผู้จัดการส่วนตัวโดยที่สายตายังมองกระจกอยู่“พรุ่งนี้มีถ่ายวาไรตี้ มะรืนมีอีเว้นท์”“อืม วันนี้ซ้อเข้ากองไหม”“ไม่ได้เข้าค่ะ วันนี้ซ้อเข้าบริษัทค่ะ”เมื่อแต่งหน้าเสร็จร่างสูงก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินเข้าสตูดิโอไปเตรียมตัว“ทางเราติดต่อสำนักพิมพ์แล้ว มีคิวว่างประมาณเดือนหน้า หลังจากตีพิมพ์จะจัดงานอีเว้นท์แจกลายเซ็นค่ะ”“จะมีคนมาเหรอคะ”“โห ระดับนักเขียนนิยายที่ได้รับการนำไปทำเป็นซีรี่ย์เลยนะคะ ไหนจะสถานะภรรยาคนสวยของดาราชื่อดังอย่างเฉินซื่อซีอีก มีคนอยากเจอคุณเยอะแยะ”“ค่ะ ว่าไงว่ากันค่ะ”“อ้อ มีข่าวดีด้วยนะคะ นิยายเรื่องใหม่ติดฮ็อตเสิร์ชยาวเลยค่ะ แฮชแท็กยังไม่หลุดจากอันดับต้นๆ เลยค่ะ”“เดี๋ยวเสร็จงานรอบนี้สงสัยต้องฉลองใหญ่กันแล้วนะคะ”“อย่าลืมพาพี่เขยมาด้วยนะคะ”“ถ้าเขาว่างก็น่าจะมาค่ะ”หลังจากการพูดคุยจบลงซินซินก็ออกจากบริษัทและกลับเข้าไปที่กองถ่าย ตอนนี้หน้าที่การงานของเธออยู่ตัวในระดับหนึ่ง เธอเป็นนักเขียนที่มีต้นสังกัดดูแลและตั้งแต่ที่เธอได้มีส่วนร่วมในการเขียนบทในซีรี่ย์เรื่อง บังเอิ
“ตื่นแล้วเหรอครับ เป็นยังไงบ้าง”“หนาวค่ะ”“เป็นเอฟเฟ็กยาน่ะครับ แต่เดี๋ยวพยาบาลจะเอาผ้าห่มอบร้อนมาให้นะ จะได้หายหนาว”“…..ค่ะ”หญิงสาวมีอาการหนาวจนร่างกายสั่น จนกระทั่งพยาบาลนำผ้าห่มอบร้อนมาให้เธอจึงค่อยๆดีขึ้น“ฉันคันหน้าคันตัว เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หายใจไม่ออก ตอนแรกคิดว่าจะตายเลยนะคะ”“คุณมีอาการแพ้ยาบล็อกหลังน่ะ ตอนคุณบอกว่าหายใจไม่ออก ผมตกใจแทบแย่”“แล้วลูกล่ะคะ”“ตรวจอยู่จ้ะ เดี๋ยวตรวจอะไรเสร็จแล้วพยาบาลจะพาเข้ามา”“ค่ะ”“คุณรู้ไหม ตอนแรกผมทำอะไรไม่ถูกเลย จนผมเห็นคุณที่ต้องมาเจ็บตัวคลอดลูก ผมสาบานกับตัวเองเลยว่าจะดูแลคุณกับลูกให้ดีที่สุด ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณเสียใจเด็ดขาด”“ขอบคุณนะคะ”“ขอบคุณทำไม ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ”“…..”“ขอบคุณนะซินซิน ขอบคุณที่ตอนนั้นคุณยอมที่จะจับมือผม ยอมที่จะก้าวตามผมมา ขอบคุณที่คุณยอมให้มีคำว่าเรา ขอบคุณที่มอบสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับผม และที่สำคัญที่สุดคือขอบคุณที่คุณยอมเจ็บตัวเพื่อมีลูกของเรา”“ขอบคุณเยอะไปแล้วค่ะ”“เอาล่ะ คุณพักผ่อนเถอะนะ เอาไว้ลูกมาแล้วเดี๋ยวผมปลุก”“ค่ะ” เพียงไม่กี่นาที ดวงตากลมโตก็หลับพริ้มลงอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย“กลับ
“กลับมาแล้วครับ”“ไง พ่อตัวดี”“อ้าว แม่ยังไม่กลับอีกเหรอ มืดแล้วนะ”“แม่มาหาอาซิน ทำไมแม่จะอยู่นานไม่ได้”“กลับดึกมันอันตรายนะแม่”“ขี้บ่น”ร่างสูงส่งเสียงบอกภรรยาสาวเหมือนที่ทำเป็นประจำทุกวัน แต่ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อมารดาของเขายังไม่กลับบ้านทั้งที่ข้างนอกก็เริ่มมืดแล้ว“แม่เป็นห่วงอาซิน แกกลับมาแม่ก็จะได้หมดห่วง”“หืม เสี่ยวเหยาไปไหน”“ไปธุระ”“อ้อ แล้วซินซินล่ะ”“หลับ อยู่ในห้อง”“งั้นแม่กลับเลยไหม เดี๋ยวจะดึก มันอันตรายนะ”“ก็คงต้องอย่างนั้น ดูแลอาซินดีๆล่ะ แม่ไปนะ”“ครับ ถึงบ้านแล้วโทรมาบอกผมด้วยนะ”“อืมๆ”ร่างสูงเดินมาส่งมารดาที่ลิฟต์ก่อนจะกลับเข้าบ้าน เขาเข้าไปดูหญิงสาว เมื่อเห็นเธอยังหลับอยู่จึงกลับเข้าไปในห้องทำงานและเปิดไลฟ์สดต่อเป็นการจบการทำงานของวันนี้หลายเดือนต่อมา“คุณพยาบาลคะ เมื่อคืนน้องไม่ดิ้นค่ะ”“ไม่ดิ้นเลยเหรอคะ”“ไม่เชิงค่ะ ปกติน้องจะดิ้นประมาณเที่ยงคืนถึงตีสอง แต่เมื่อคืนไม่ดิ้นค่ะ”“เดี๋ยวติดเครื่องวัดหัวใจนะคะ”วันนี้หญิงสาวมีนัดตรวจครรภ์ตามปกติ อายุครรภ์เธอถึงกำหนดคลอดแล้ว เธอก็ยังไม่มีอาการเจ็บปวดใดใดเมื่อหญิงสาวมานอนที่เตียงและพยาบาลก็เข้ามาติดเครื่องวัดคลื
“ง่วงหรือยัง”“ยังค่ะ แต่อิ่มมากเลย”“แหมคุณ ถ้ากินขนาดนี้ไม่อิ่ม ผมว่าควรไปตรวจแล้วล่ะ”“ทำเป็นพูด ใครบอกให้ฉันกินเยอะๆล่ะ ถ้าคลอดแล้วน้ำหนักไม่ลดฉันจะโทษคุณ”“ทำอย่างกับคุณน้ำหนักขึ้นเยอะ คุณหมอบอกให้คุณเพิ่มน้ำหนักไม่ใช่เหรอ”“เพิ่มกว่านี้ฉันคงเดินไม่ไหวแล้วค่ะ รูปร่างฉันเล็ก ถ้าน้ำหนักขึ้นเยอะก็กลัวจะคลอดเองไม่ไหว”“ไม่เห็นเป็นอะไร ผมไม่ได้หัวโบราณถึงขนาดที่ว่าแม่ต้องคลอดลูกเองเท่านั้น ไม่ว่าคลอดเองหรือผ่า ยังไงก็ขอให้ปลอดภัยกันทั้งคุณทั้งลูกก็พอ”“…..”“…..อ้าว”ใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองภรรยาสาวเมื่อไม่มีเสียงตอบรับ ก่อนจะต้องชะงักไปเมื่อคนที่พูดเจื้อยแจ้วอยู่เมื่อครู่ได้หลับไปเรียบร้อยแล้วรอยยิ้มเอ็นดูปรากฏขึ้น ก่อนที่ร่างเล็กจะถูกอุ้มลอยขึ้นราวกับว่าเธอไม่มีน้ำหนักทั้งที่ท้องของเธอเริ่มใหญ่มากขึ้นจนมองเห็นได้ชัดแล้วร่างสูงก้าวขายาวๆ ตรงเข้าไปในห้องนอน วางร่างบอบบางลงบนเตียงหลังใหญ่อย่างเบามือเพื่อไม่ให้หญิงสาวต้องตื่นจากนิทรา“ว่าไง” มือใหญ่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับเมื่อมีแจ้งเตือนสายเรียกเข้า“ต้าเกอ ทางบริษัทแจ้งด่วนเข้ามาว่ากระแสดีมาก อยากให้ทั้งคู่หาเวลาไลฟ์สดด้วยกัน”“ไว้ค่อยถา







