คำพูดของไป๋เจิ้นถังยิ่งลึกซึ้งยิ่งขึ้น แม้แต่ไป๋เฟยเฟยก็ยังตกตะลึงใช่แล้ว!หากแผ่นดินถึงคราวตกอยู่ในความสับสนอลหม่านจริง ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออาหารและน้ำประทังชีวิต อย่างอื่นไม่สำคัญอีกต่อไป!ไม่ว่าจะมีอุดมคติอะไรอยู่ในใจ หรือความอาฆาตพยาบาทอะไรก็ตาม ล้วนกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญ!แม้จะยังไม่ถึงจุดนั้น แต่เชื่อว่าถ้ายังวุ่นวายอยู่เหมือนตอนนี้ อีกไม่นานก็คงถึงจุดนั้น!“ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำ คือควบคุมตระกูลเซิ่ง อย่าปล่อยให้พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป มิฉะนั้นคนที่มีความสามารถทั้งหมดในแผ่นดินจะเข้าหาพวกเขา”“ขณะเดียวกัน เราต้องพัฒนาการเงินของเราอย่างจริงจัง พร้อมกับรวบรวมเสบียงด้วย นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด!”“เมื่อสงครามปะทุขึ้น มันคือสิ่งที่พวกเราพึ่งพาได้!”ไป๋เจิ้นถังมองการณ์ไกล ท่าทางของเขาเช่นนี้เหมือนกับหวังหยวน!ไป๋เฟยเฟยพยักหน้าหลังจากได้ฟัง“ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องกังวล มรดกของตระกูลไป๋ของเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น ตระกูลเซิ่งไม่อาจเทียบได้แน่นอน!”ไป๋เฟยเฟยมั่นใจเรื่องนี้!การเงินของตระกูลไป๋นั้น ใกล้เคียงกับเงินในท้องพระคลังของต้าเย่!มีทองคำและเงินมากมายในคลังส่วนตั
คนส่งจดหมายฉบับนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากไป๋เหยียนเฟย!จดหมายฉบับนี้ของนางไม่ได้มีถ้อยคำมากมาย มีเพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้น!ให้พวกเขาไปเมืองหลวงเพื่อคุยกัน!“ท่านอาคงกำลังเผชิญปัญหาเป็นแน่”ไป๋เฟยเฟยรีบพูด นัยน์ตาฉายแววกระตือรือร้นไป๋เจิ้นถังก็เข้าใจความจริงข้อนี้เช่นกัน แต่ว่า...เขาถอนหายใจ รู้สึกหดหู่เล็กน้อย“เฮ้อ...อาของเจ้าเรียกให้พวกเราไปที่นั่นเพื่อประโยชน์ของนางเอง”ไป๋เจิ้นถังเข้าใจทันทีที่เขาเห็นจดหมายลับทุกวันนี้ตระกูลเซิ่งกำลังบุกอย่างดุเดือด และต้าเย่ก็ไม่มีความสามารถในการต่อต้าน หากตระกูลไป๋ช่วยนาง นางก็จะสามารถควบคุมราชสำนักได้ หรือแม้กระทั่งกำจัดตระกูลเซิ่งได้ด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลไป๋ด้วยซ้ำความคิดนี้ย่อมเป็นความคิดที่ดี แต่น่าเสียดายที่ไป๋เจิ้นถังไม่มีทางเห็นด้วย“ท่านพ่อ เช่นนั้นพวกเรา... จะไปหรือไม่?”ไป๋เฟยเฟยรีบถาม เมื่อนี้ไป๋เจิ้นถังได้ยินคำถามนั้นก็ถอนหายใจ“แน่นอนว่าพ่อไม่อยากไป แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เราไม่ไปได้ด้วยหรือ? เจ้าไม่รู้จักอาของเจ้าหรือ? นางมีนิสัยดื้อรั้นเพียงใด ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้จริง ๆ นางคงไม่มีทางขอร้องพวกเร
ไป๋เหยียนเฟยก็ฉลาดมากเช่นกัน นางรู้ดีว่าตระกูลไป๋ไม่เพียงแต่จะมาคุยเท่านั้น แต่พวกเขาจะมาพร้อมกับเงื่อนไขด้วย!บางทีอาจจะพยายามดึงนางไปช่วยฝ่ายพวกเขาด้วยซ้ำ!ไป๋เหยียนเฟยรู้ทุกอย่าง แม้นางจะรู้ว่ามันยากมาก แต่นางก็ยังต้องพยายาม เพราะต้าเย่ในวันนี้ต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลไป๋จริง ๆ!“เงื่อนไขหรือ? ใช่แล้ว... ย่อมต้องมีเงื่อนไข…”ไป๋หลิงถอนหายใจ จำเป็นต้องคิดเรื่องนี้อีกหรือ?เนื่องจากตระกูลไป๋กำลังจะมา พวกเขาย่อมมีเรื่องจะขอแน่นอน ไม่เช่นนั้นตระกูลไป๋จะไม่มีทางช่วยฮองเฮาเป็นแน่ท้ายที่สุดแล้ว ความทะเยอทะยานของตระกูลไป๋ ก็ไม่น้อยไปกว่าความทะเยอทะยานของตระกูลเซิ่งเลย“ความจริงแล้ว วิธีที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลไป๋คือไม่ต้องมา ไม่สนใจข้าไปเลย เพราะพวกเขาสามารถรอจนกว่าแผ่นดินจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แล้วฉวยโอกาสดำเนินการ”“เมื่อถึงเวลานั้น ทั้งฝ่ายเราและตระกูลเซิ่งจะต้องประสบกับความสูญเสีย และมันจะเป็นผลดีที่สุดสำหรับตระกูลไป๋!”เมื่อไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ นัยน์ตานางก็ฉายแววหมดหนทาง“แต่ว่า... เหตุใดตระกูลไป๋ถึงมาล่ะ มาเพียงเพราะเงื่อนไขหรือ แต่จากที่พูดมา เงื่อนไขอะไรก็ไม่ดีเท
ไป๋เหยียนเฟยพูดตามตรง คำพูดของนางตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก ไม่มีการอ้อมค้อมเลยสุดท้ายเรื่องนี้ก็เคยพูดคุยกันตั้งแต่ครั้งที่แล้วไป๋เจิ้นถังจ้องมองไป๋เหยียนเฟย หลังจากคิดอยู่นานเขาก็พูด“น้องสาว เหตุผลที่พี่มาที่นี่ก็เพราะความเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ หากท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะทำอย่างไร?”ไป๋เจิ้นถังไม่ต้องการแสดงความเห็นจากมุมมองของตัวเอง แต่เลือกยกมุมมองของพ่อมาพูดแทน เพื่อให้ไป๋เหยียนเฟยเข้าใจความจริงนี้แม้ว่าเขาจะพูดประโยคนี้ไปแล้วเมื่อครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้เขาก็จะยังพูดอีกอยู่ดี!“ข้า... ข้าเข้าใจ...”ไป๋เหยียนเฟยพยักหน้า นางรู้ดีว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนตระกูลไป๋ปรารถนาสิ่งใดตอนนี้เป็นช่วงที่มีความหวังมากที่สุด แต่แล้วตัวนางเองล่ะ...นางไม่ได้ช่วยตระกูลไป๋เลย ถ้าพ่อของนางยังอยู่ เขาคงจะโกรธมาก!จากนี้ไปเขาอาจไม่ถือว่านางเป็นลูกสาวแล้วด้วยซ้ำ!เรื่องทั้งหมดนี้นางรู้ดี!แต่นางไม่สามารถละทิ้งต้าเย่ไปได้! ไม่อยากทำให้ฮ่องเต้ซิงหลงต้องผิดหวังในฐานะสามีภรรยา นางไม่คงไม่กล้าไปเผชิญหน้ากับเขาในปรโลก เพราะรู้สึกผิดมากเกินไป!
โดยเฉพาะเมืองหวง ความแข็งแกร่งของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ หากเห็นความวุ่นวายในต้าเย่ พวกเขาอาจดำเนินการไปนานแล้ว!ครั้งนี้ยึดเมืองเหลียงไป และตระกูลเซิ่งไม่กล้าไปบุกยึดง่าย ๆ แต่กลับบุกเมืองสู่ และขับไล่หมานอี๋กลับไปเป็นเพราะเมืองหวงนั้นแข็งแกร่งเกินไป!“น้องสาว พี่ขอพูดหน่อยเถิด คนในแผ่นดินต้าเย่แห่งนี้สิ้นหวังแล้ว ตอนนี้โจรออกอาละวาดไปทั่วทุกเมืองทุกแคว้น ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่บ่งชี้ว่าผู้คนอดอยาก ถ้ามีกินมีใช้เพียงพอ ใครจะอยากขึ้นไปเป็นโจรบนภูเขาบ้าง”ไป๋เจิ้นถังวิเคราะห์สถานการณ์ทั่วไปนี้ เพื่อให้ไป๋เหยียนเฟยเข้าใจความจริง!ทั้งตระกูลไป๋และตระกูลเซิ่งไม่สามารถหยุดความวุ่นวายนี้ได้!เพียงแต่ว่าตระกูลไป๋และตระกูลเซิ่งได้เริ่มดำเนินการแล้ว!หากความวุ่นวายเกิดขึ้นในแผ่นดินต่อไปไปเรื่อย ๆ หลายคนคงหันมาสนใจพวกเขา!ต้าเย่ในปัจจุบันเปรียบเสมือนหยาดน้ำฝน ที่ลอยไร้ทิศทางอยู่ท่ามกลางสายฝน อาจตกลงมาแตกกระจายเมื่อใดก็ได้!นี่จึงเป็นเพียงโอกาสหนึ่ง!“ข้าเข้าใจ... แต่... แต่ข้าไม่เต็มใจจะยอมแพ้...”ไป๋เหยียนเฟยกัดฟันพูดตามตรง“เจ้าไม่เปิดใจรับความจริง น้องสาว ไม่ใช่ว่าพี่อ
น้ำเสียงของไป๋เจิ้นถังเริ่มดุดัน!ขณะพูดเรื่องนี้ ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด!เพราะนี่เป็นโอกาสสำหรับตระกูลไป๋จริง ๆ!แต่ไป๋เหยียนเฟยล่ะ?ต้าเย่กำลังจะเกิดความหายนะ แต่นางกลับขัดขวางการเคลื่อนไหวของตระกูลไป๋ ไป๋เจิ้นถังย่อมโกรธอยู่แล้ว!ตอนนี้ต้าเย่ตกอยู่ในภาวะวิกฤติ จึงต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา สิ่งที่ไป๋เจิ้นถังอยากทำมากที่สุดในวันนี้ คือการเตือนสติน้องสาวให้ได้ แม้จะต้องดุก็ตาม!แม้ว่านางจะรักฮ่องเต้ซิงหลงและลูกชายของนาง แต่นางก็ต้องไม่ปล่อยให้ความพยายามหลายชั่วอายุคนของตระกูลไป๋ต้องสูญเปล่า!ใครเป็นคนเลี้ยงดูนางให้เติบโตมา?ใครพร่ำสอนบทกวีและอบรมมารยาท?ใครเป็นคนวางแผนให้นางแต่งงานกับราชวงศ์?ใครทำให้นางมีความมั่นใจในการครองวังหลังของต้าเย่?คนที่ทำทั้งหมดนี้คือคนตระกูลไป๋!ตอนนี้เมื่อไป๋เหยียนเฟยยอมทำเช่นนี้เพื่อฮ่องเต้ซิงหลง เขาจึงโกรธมากเป็นธรรมดา!ไป๋เหยียนเฟยสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองพี่ชายของตน นางรู้ดีว่านางไม่ควรเป็นเช่นนี้ทว่า...นางทนไม่ไหวจริง ๆ!ไป๋เจิ้นถังรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็รู้ด้วยว่าหลังจากที่เขาพูดในวันนี้ อย่างน้อยน้องสาวของเขาก็มีปฏิ
หลังจากที่ไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ ไป๋เจิ้นถังก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็เข้าใจเช่นกันสิ่งที่น้องสาวของเขาต้องการ คือให้โอรสของนางกับฮ่องเต้ซิงหลงได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่ว่า...นางควบคุมไม่ได้ว่าจะสามารถนั่งบนบัลลังก์นี้ได้นานแค่ไหน และนางก็ไม่อยากดิ้นรนแล้ว!หากพูดเช่นนี้ เขาก็รู้แล้วว่าต้องทำอะไร“น้องสาว เนื่องจากเจ้าพูดเช่นนี้ พี่ก็สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนแก่เจ้าได้ ตอนนี้เจ้าสามารถให้ชางเอ๋อร์เป็นฮ่องเต้ได้ และพวกพี่ยังสามารถช่วยให้เจ้ารักษาตำแหน่งอันสูงส่งของเจ้าไว้ได้ด้วย”“แต่หลังจากที่ตระกูลเซิ่งถูกกำจัด แผ่นดินของต้าเย่จะต้องเป็นของตระกูลไป๋เท่านั้น”“เมื่อถึงเวลานั้น พี่จะให้พวกเจ้า ฮองเฮาสองคนแม่ลูก ได้ใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งและมีเกียรติ”ตอนนี้มีรอยยิ้มจางบนใบหน้าของไป๋เจิ้นถัง ในการเจรจาระหว่างเขากับน้องสาวของเขา ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายชนะการที่น้องสาวมีความคิดเช่นนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่านางไม่อยากต่อสู้อีกต่อไปแล้วยิ่งไปกว่านั้น ไป๋เจิ้นถังไม่ได้โกหก!...หวังหยวนกำลังดื่มชาอยู่ที่บ้านในหมู่บ้านต้าหวัง ทันใดนั้นหวงเจียวเจียวก็เข้ามาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ดวงตาของนางเต็
ผู้นำพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วสั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไปดักพวกมันกันเถอะ!”หลังจากออกคำสั่งแล้ว ทุกคนก็รีบพากันวิ่งลงจากภูเขาใบหน้าของหวงเจียวเจียวที่ติดตามหวังหยวนมาด้วย เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความไม่สบายใจฉายชัดไปทั่วดวงตาของนาง นางรู้สึกว่ามีอันตรายซ่อนเร้นอยู่มากมายรอบตัวนาง!โชคดีที่มีต้าหู่และทหารเกราะดำหลายสิบคนคอยอยู่เคียงข้าง จึงรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเล็กน้อย“สามี พวกเรา...”ก่อนที่หวงเจียวเจียวจะพูดจบ นางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าย่ำใบไหม้แห้งดังกรอบแกรบใบหน้าของต้าหู่เคร่งขรึม เขาถอยกลับไปหาหวังหยวนและหวงเจียวเจียวทันที เพื่อเตรียมปกป้องทั้งสองใช้เวลาไม่นานนัก โจรหลายพันคนก็รีบวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วหวงเจียวเจียวตกใจ นางรีบคว้าแขนเสื้อของหวังหยวน แล้วไปซ่อนอยู่ข้างหลังเขาด้วยความตื่นตระหนกต้าหู่และทหารเกราะดำหลายสิบคนก็ตื่นตัวทันที ทุกคนต่างจ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าจริงจังหวังหยวนตกตะลึงเมื่อได้เผชิญหน้ากับพวกโจรอาจเป็นไปได้ว่ามีโจรหน้าใหม่บุกโจมตีเนินเขาในบริเวณนี้ และกำลังวางแผนจะปล้นพวกเขาใช่หรือไม่?เขาจึงถามอย่างสุภาพทันที “พวกเจ้ามาจากหุบเขาโจรแห่งใดกั