Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ

Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ

Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
19Chapters
13views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ซุยหลันซีทะลุมิติมายังปี 1985 อยู่ในร่างของคุณหนูตกอับที่ไร้ทั้งทรัพย์สินและครอบครัว เธอต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ท่ามกลางความยากลำบาก พร้อมทั้งสร้างอนาคตและความรักครั้งใหม่กับชายหนุ่มผู้แสนเย็นชา เขาจะกลายเป็นแสงสว่างในยุคมืดของเธอ..ได้ไหม?

View More

Chapter 1

ตอนที่ 1 ทะลุมิติแบบงงๆ

“คุณหนู คุณหนู ตื่นครับ รถไฟมาถึงแล้ว เร็วเข้า ถ้าพลาดเที่ยวนี้ต้องรออีกสามวันเลยนะครับ” เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งดังขึ้น ร่างของซุยหลันซีถูกเขย่าเบาๆ ทำให้เธอเกิดความรำคาญเล็กน้อยจึงใช้มือปัดออก พูดกับคนที่มาปลุกเธอให้ตื่นจากนิทราอันแสนสุขด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

“เพ่ยเพ่ย อย่ามากวนได้ไหม ฉันง่วง จะนอน วันนี้วันหยุดไม่ต้องไปทำงาน” พูดจบก็พลิกตัวไปอีกด้านหนึ่ง แต่แทนที่จะคว้าเอาเจ้าขนฟูมากอดเหมือนวันอื่นๆ กลับกลายเป็นว่าร่างของเธอหล่นลงพื้นเสียงดังตุ๊บ

“โอ๊ย เพ่ยเพ่ย ยัยบ้า ไม่ตื่นแค่นี้ถึงกับถีบฉันตกเตียงเลยเหรอ!”

ซุยหลันซีลูบบั้นท้ายตนเองป้อยๆ ก่อนจะลืมตาตื่นเต็มที่หวังจะจัดการเพื่อนสาวคนสนิทที่แกล้งกันได้ แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะสภาพแวดล้อมที่ซุยหลันซีเห็นอยู่เต็มสองตาตอนนี้ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน ทั้งเก่าและทรุดโทรม ที่สำคัญคือมีเสียงดังจอแจเต็มไปหมด ซุยหลันซีเหลียวมองไปรอบๆ ก็ยิ่งตกตะลึงตาค้าง เพราะห่างออกไปไม่เกินห้าสิบเมตร เธอเห็นผู้คนกำลังหลั่งไหลไปขึ้นรถไฟขบวนหนึ่ง

“รถไฟ สถานีรถไฟเหรอ แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงล่ะ?”

ซุยหลันซีพึมพำกับตัวเองด้วยความงงงวย กำลังคิดว่าฝันไปอยู่หรือเปล่า ซุยหลันซีหยิกเนื้อที่ขาตัวเอง

“ซี๊ด...” ก็เจ็บนี่นา ไม่ได้ฝันไปเสียหน่อย

“คุณหนู เราต้องไปขึ้นรถไฟแล้วครับ” เสียงของชายคนเดิมเอ่ยเตือนขึ้นอีกครั้ง ช่วยให้ซุยหลันซีรู้สึกตัวหลุดออกจากภวังค์ ถึงแม้จะยังจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่พอตั้งสติได้ก็เอ่ยถามออกไป

“นี่คุณ ไปไหน ฉันต้องไปไหน”

“คุณหนู ลืมไปแล้วหรือครับ พวกเราต้องเดินทางไปกว่างโจวกัน ตอนนี้รถไฟมาแล้ว ถึงเวลาต้องไปขึ้นรถไฟแล้วครับ”

ชายหนุ่มบอกพลางลุกขึ้นสำรวจดูกระเป๋าของตนเองและของภรรยา เขาหิ้วกระเป๋าเดินทางขึ้นด้วยสองมือ พลางปรายตามองมายังซุยหลันซีที่ทำสีหน้างงงวยอยู่บนพื้น

“ไปเถอะเราต้องเดินทางกันอีกสองวัน”

“เอ่อ...” ซุยหลันซีตกใจลุกพรวดขึ้นยืน ก้มลงจัดเสื้อผ้าด้วยความเคยชิน ขณะที่ใช้มือจัดเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ถึงกับอึ้งเป็นครั้งที่สองของวัน เพราะเสื้อผ้าที่เธอสวมอยู่นั้น มันช่างล้าสมัย ที่สำคัญเธอสวมกระโปรงกับรองเท้าคัชชูสีดำมีสายรัดเหมือนกับรองเท้านักเรียนอย่างไรอย่างนั้น

“ฉันนี่นะสวมรองเท้าคัทชู กับกระโปรง” ซุยหลันซีเปรยกับตนเองเบาๆ พอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าชายคนนั้นกำลังก้าวขึ้นรถไฟ

ซุยหลันซีกลัวจะหลงกับผู้ชายคนนั้น คนที่เรียกเธอ คล้ายกับรู้จักกัน ในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้ใจ เธอจึงเลือกที่จะเชื่อชายหนุ่มคนนี้ไปก่อน แล้วปัดทุกความสงสัยทิ้งไป

เมื่อมองไปรอบๆ เห็นกระเป๋าถือวางอยู่บนม้านั่งก็คิดว่าน่าจะเป็นกระเป๋าของตนเอง จึงรีบคว้ากระเป๋าถือขึ้นมาแล้วเดินจนเกือบจะวิ่งเพื่อตามชายตรงหน้าให้ทัน

“เดี๋ยวนะขึ้นรถไฟก็ต้องมีตั๋ว แล้วฉันมีตั๋วหรือเปล่า?”

ซุยหลันซีระหว่างเดินตามชายคนนั้นก็นึกเอะใจขึ้นมา จึงลองล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงก็เจอกับกระดาษแข็งสีขาวใบหนึ่ง เมื่อหยิบออกมาดูก็ปรากฏว่าเป็นตั๋วรถไฟ ในนั้นระบุว่า

ต้นทางคือปักกิ่ง  ปลายทางคือกว่างโจว

วันที่บนตั๋วระบุว่า วันที่ 10 เมษายน 1985

นอกจากนี้ก็ยังมีหมายเลขรถไฟ ประเภทที่นั่งและราคาตั๋ว

ข้อมูลทุกอย่างซุยหลันซีอ่านแค่เพียงผ่านตา แต่มาสะดุดแทบหัวคะมำเมื่อเห็นวันที่บนตั๋ว

“หนึ่ง เก้า แปด ห้า ตายแน่ฉัน ฉันกำลังฝันไปแน่ๆ ตื่นสิ ตื่น” ซุยหลันซีหยุดเดินแล้วยกมือตบหน้าตนเองไปสองสามที ทำให้ผู้โดยสารที่เดินตามหลังมาถึงกับอารมณ์เสีย

“นี่ คุณ หน้าตาก็ดี ไม่น่าเสียสติ ถ้าไม่ไปก็ขยับให้คนอื่นเดินสิ”

หญิงสาวคนหนึ่งที่เดินตามหลังซุยหลันซีมาตั้งแต่หัวขบวนพูดขึ้นมาเสียงดัง น้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่พอใจ คนอื่นๆ ที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังต่างก็ยื่นหน้าเบี่ยงตัวพากันมองมาที่เธอเป็นตาเดียว

“อะ...เอ่อ ขอโทษค่ะ” ซุยหลันซีได้ยินดังนั้นจึงสูดลมหายใจเข้าออกสองสามทีก่อนจะหันไปขอโทษคนข้างหลังและเดินตามหาตู้รถไฟที่ปรากฏบนตั๋ว ซึ่งระบุไว้ว่าเป็นตู้นอนส่วนตัวสองที่นั่งผ่านไปไม่ถึงห้านาทีเธอก็มาถึงตู้ขบวนรถไฟของเธอ พอมาถึงก็พบว่าชายคนที่เธอไล่ตามมานั่งอยู่ที่นั่น

“อ้าว คุณนั่งตรงนี้เหรอ” ซุยหลันซีเอ่ยถามพลางนั่งลงแล้ววางกระเป๋าถือไว้ข้างตัว

“คุณหนู เราเดินทางด้วยกัน ที่นั่งก็ต้องด้วยกันอยู่แล้ว”

“หา? ฉันว่าจะถามคุณหลายครั้งแล้ว คุณรู้จักฉันด้วยเหรอ?” ซุยหลันซีจ้องไปยังใบหน้าคมคร้าม พลางพิจารณาชายตรงหน้าอย่างละเอียด เขาเป็นคนที่สูงมาก น่าจะสูงเกือบๆหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ใบหน้าคมคาย ผิวขาวคล้ายกับดาราจีนที่เธอชอบ ใบหน้าเย็นชา เหมือนจะมีอยู่หน้าเดียว เธอมองเขาเงียบๆ

หล่อไม่เบา เสียแต่ขี้เก๊กไปหน่อย

“คุณหนู ผมไม่ตลกด้วยนะครับ”

เติ้งเว่ยหมิงใช้หางตามองเธอกลับ คุณหนูที่เมื่อก่อนเอาแต่กลั่นแกล้งและรังแกเขา ด้วยถือว่าเขาเป็นเพียงแค่เด็กในบ้าน เป็นลูกไล่ของเธอตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจึงไม่มีวันไหนที่จะไม่ถูกเธอกลั่นแกล้ง

แต่สายตาชื่นชมนั่นมันคืออะไร? ร้อยวันพันปีคุณหนูผู้เย่อหยิ่งและสูงส่งไม่เคยมีสายตาเช่นนี้มองเขาสักครั้ง เติ้งเว่ยหมิงได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ

“ฉันก็ไม่ตลก เห็นเรียกฉันว่าคุณหนูๆ ตั้งหลายครั้งแล้ว ฉันแค่สงสัยก็เลยถามดู” น้ำเสียงจริงจังของหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้บ่งบอกว่าล้อเล่น ทำให้เติ้งเว่ยหมิงถึงกับขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ

คุณหนูผู้เอาแต่ใจคนเก่าหายไปไหน? หรือว่าหลังจากที่ต้องแต่งงานกับเขา เธอก็เสียใจจนเสียสติไปแล้ว?

“คุณหนูจำไม่ได้เหรอครับว่าเราแต่งงานกันแล้ว และกำลังจะเดินทางไปกว่างโจว” เสียงทุ้มๆ ของเขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ซุยหลันซีถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนจะใช้นิ้วชี้ไปที่ชายตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“นายว่าไงนะ นะ...นายกับฉัน แต่งงานกันแล้ว ไม่จริง! นายโกหกใช่ไหม มันจะเป็นไปได้ยังไง?” ซุยหลันซีตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้นเป็นรอบที่สาม ความจริงที่ออกจากปากคนที่เธอคิดว่าน่าจะบอกเรื่องราวต่างๆ ได้ แต่กลับไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลายมาเป็นแบบนี้

“ผมรู้ว่าคุณหนูเกลียดผม ไม่ชอบขี้หน้าผม แต่จะให้ทำยังไงได้ ตอนนี้คุณหนูไม่ใช่คุณหนูผู้สูงส่งลูกสาวท่านนายพลอีกต่อไปแล้ว แต่คุณหนูคือภรรยาของผม คนงานในบ้านที่ต่ำต้อยคนนี้”

เติ้งเว่ยหมิงตอบคำถามที่เดียวจบทุกคำ ซุยหลันซีถึงกับไปไม่เป็น เธอกำลังช็อกกับข้อมูลที่ได้รับ

เติ้งเว่ยหมิงเห็นแบบนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ เขากลับแปลกใจว่าเมื่อเห็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายนั่งทำหน้างงงวย แทนที่จะรู้สึกดีใจ มีความสุขที่สามารถเอาคืนเธอได้ แต่ลึกๆ ในใจกลับเกิดความสงสารและเห็นใจขึ้นมา

เติ้งเว่ยหมิงสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ก่อนจะเอ่ยออกมา

“นี่ก็เย็นมากแล้ว ผมจะไปตู้อาหาร คุณหนูจะไปด้วยกันไหม หรือจะให้ผมซื้อกลับมาให้”

“ฉันยังไม่หิว นายไปเถอะ” ซุยหลันซีเอ่ยตอบด้วยอาการเหม่อลอย พลางล้มตัวลงนอนหันหลังให้ เหมือนกับไม่ต้องการคุยด้วยอีกต่อไป

เติ้งเว่ยหมิงเห็นดังนั้นก็ไม่เซ้าซี้ เขาเดินออกจากตู้นอนไปยังตู้อาหาร

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
19 Chapters
ตอนที่ 1 ทะลุมิติแบบงงๆ
“คุณหนู คุณหนู ตื่นครับ รถไฟมาถึงแล้ว เร็วเข้า ถ้าพลาดเที่ยวนี้ต้องรออีกสามวันเลยนะครับ” เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งดังขึ้น ร่างของซุยหลันซีถูกเขย่าเบาๆ ทำให้เธอเกิดความรำคาญเล็กน้อยจึงใช้มือปัดออก พูดกับคนที่มาปลุกเธอให้ตื่นจากนิทราอันแสนสุขด้วยน้ำเสียงงัวเงีย“เพ่ยเพ่ย อย่ามากวนได้ไหม ฉันง่วง จะนอน วันนี้วันหยุดไม่ต้องไปทำงาน” พูดจบก็พลิกตัวไปอีกด้านหนึ่ง แต่แทนที่จะคว้าเอาเจ้าขนฟูมากอดเหมือนวันอื่นๆ กลับกลายเป็นว่าร่างของเธอหล่นลงพื้นเสียงดังตุ๊บ“โอ๊ย เพ่ยเพ่ย ยัยบ้า ไม่ตื่นแค่นี้ถึงกับถีบฉันตกเตียงเลยเหรอ!”ซุยหลันซีลูบบั้นท้ายตนเองป้อยๆ ก่อนจะลืมตาตื่นเต็มที่หวังจะจัดการเพื่อนสาวคนสนิทที่แกล้งกันได้ แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะสภาพแวดล้อมที่ซุยหลันซีเห็นอยู่เต็มสองตาตอนนี้ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน ทั้งเก่าและทรุดโทรม ที่สำคัญคือมีเสียงดังจอแจเต็มไปหมด ซุยหลันซีเหลียวมองไปรอบๆ ก็ยิ่งตกตะลึงตาค้าง เพราะห่างออกไปไม่เกินห้าสิบเมตร เธอเห็นผู้คนกำลังหลั่งไหลไปขึ้นรถไฟขบวนหนึ่ง“รถไฟ สถานีรถไฟเหรอ แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงล่ะ?”ซุยหลันซีพึมพำ
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more
ตอนที่ 2 จำได้แล้ว
เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นจากไปแล้ว ซุยหลันซีจึงได้เอามือวางประสานอยู่บนหน้าอก หลับตาลง แล้วหวนคิดถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับตนเองในตอนนี้จำได้ว่าเมื่อคืนออกไปฉลองกับเพื่อนในทีมอีกสองสามคนเนื่องในโอกาสได้รับรางวัลชนะเลิศ นักวาดยอดเยี่ยมประจำปีจากสำนักพิมพ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง หลังงานจบจึงไปฉลองต่อที่ผับแถวบ้าน เผอิญว่าฉลองหนักไปหน่อย ในตอนขากลับบ้านลิฟต์ที่คอนโดเสีย แล้วเธอก็ง่วงนอนสุดๆ จึงทำให้ต้องเดินขึ้นบันไดแทนแต่ด้วยความเมาเธอก้าวขึ้นไปสองก้าวก็ถอยหลังไปสามก้าว จำได้ว่าก่อนจะถึงชั้นที่อยู่ของตนเอง ดันก้าวพลาดตกบันไดคงเพราะแบบนั้น เธอน่าจะเสียชีวิต แล้ววิญญาณก็มาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนนี้ใครจะไปคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ แล้วก็ดันไม่ใช่ความฝันเสียด้วยสิ นี่ฉันต้องมาติดอยู่ในยุคนี้จริงๆ เหรอเนี่ย? ช่างเถอะทำอะไรไม่ได้แล้ว ก็คงต้องปล่อยให้เลยตามเลยไปก่อนละกันว่าแต่ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำไมฉันถึงไม่มีความทรงจำอะไรเลย เดี๋ยวนะ...ร่างนี้กำลังเดินทางไปกว่างโจวมันต้องมีอะไรสักอย่างให้ฉันหาข้อมูลได้แน่ซุยหลันซีคิดได้ดังนั้นจึงผุดลุกขึ้นหยิบกระเป๋าถือขึ้นมา แล้วลองคนในกระเป๋า ค้นอยู่สักพ
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more
ตอนที่ 3 บ้านหลังใหม่ 1
การเดินทางสิ้นสุดลงในเช้าอีกสองวันถัดมา เติ้งเว่ยหมิงหิ้วกระเป๋าเดินทางสองใบ ส่งสายตาให้ภรรยาพร้อมกับทำหน้าพยักเพยิดบอกให้เธอลงจากรถไฟซุยหลันซีใช้สายตางงงวยมองตอบเขา อ้าปากเป็นคำพูดถามว่า ‘ลงที่นี่เหรอ?’ แต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา พร้อมกับพยักหน้ารับรู้เธอหยิบกระเป๋าถือขึ้นมาแล้วเดินตามชายหนุ่มไปเงียบๆในช่วงการเดินทางบนรถไฟ ระหว่างพวกเขาสองคนแทบจะไม่มีบทสนนาอะไรกันมากนัก เพราะต่างคนต่างก็จดจ่ออยู่กับความคิดของตนเองสำหรับเติ้งเว่ยหมิงแล้ว เขาเห็นว่าคุณหนูผู้เอาแต่ใจแปลกไป เธอรู้จักขอบคุณ มีความอดทน ไม่โวยวายที่ต้องอุดอู้อยู่บนรถไฟตลอดสองวันมานี้ และที่สำคัญไม่กลั่นแกล้งเขาอย่างแต่ก่อนชายหนุ่มพาหญิงสาวออกมาจากชานชลา แล้วเรียกรถรับจ้างให้ไปส่งยังที่พัก ซุยหลันซีก็เดินตามไปอย่างเงียบๆ เช่นเคย แต่ใช้สายตากวาดมองสำรวจด้วยความตื่นตาตื่นใจ ความแปลกใหม่ของยุคสมัยนี้ สถานที่ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ทำให้ซุยหลันซีรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาของเธอในตอนนี้หลังจากใช้เวลาเดินทางประมาณสี่สิบห้านาที รถรับจ้างก็พาทั้งสองคนมาถึงจุดหมายปลายทาง จอดนิ่งสนิทอยู่ที่หน้าตึกอาคารขนาดห้าชั้นสภาพ
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more
ตอนที่ 3 บ้านหลังใหม่ 2
“ก็จริงนะ ฉันเป็นคุณหนู ไม่เคยทำงานหนัก ในเมื่อพี่เป็นสามีก็ต้องมีหน้าที่เลี้ยงดูฉันอยู่แล้ว”ซุยหลันซีนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว หลังจากพูดประโยคสุดท้ายจบ เธอก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป เติ้งเว่ยหมิงไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่กระเป๋าเดินทางซิปกระเป๋าเดินทางถูกเปิดออก เติ้งเว่ยหมิงค่อยๆ หยิบเสื้อผ้าออกมาทีละชิ้น เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าและเริ่มจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ ซุยหลันซีมองดูเขาด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรหลังจากเก็บเสื้อผ้าเสร็จ เขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เสียงน้ำไหลดังขึ้นเบาๆ ไม่นานนักเขาก็เดินออกมาในชุดอยู่บ้านธรรมดาๆ กางเกงผ้าฝ้ายขายาว“บ้านสกปรกไปหน่อย เพราะผมไม่อยู่หลายวัน” เติ้งเว่ยหมิงพูดขึ้นเบาๆ พลางมองไปรอบๆ ห้องซุยหลันซีพยักหน้า “ค่ะ”เติ้งเว่ยหมิงเดินไปหยิบไม้กวาดและผ้าถูพื้น เขาเริ่มทำความสะอาดอย่างขะมักเขม้น ซุยหลันซีมองดูเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องเพื่อจัดการกับของของตัวเองบ้างเธอหยิบเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋า นำไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าอีกด้านหนึ่งที่ว่างอยู่ ก่อนจะชะงักมือยืนนิ่งในมือของเธอถือชุดชั้นในสีชมพูอ่
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more
ตอนที่ 4 เป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ง่ายเลย
แสงแดดยามเช้าลอดผ่านหน้าต่างบานเล็กเข้ามาในห้องนอนแคบๆ ของบ้านชั้นสองในตึกห้าชั้น ซุยหลันซีค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย เธอยกมือขึ้นป้องแสงแดดที่ส่องเข้ามากระทบใบหน้า จากนั้นลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอกก็เห็นว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านนอกจากเธอคนเดียว“อ้าว พี่เว่ยหมิงไม่อยู่เหรอเนี่ย” ซุยหลันซีพึมพำกับตัวเอง สายตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนผนังที่บอกเวลาเก้าโมงเช้า ซุยหลันซีถึงกับสะดุ้งโหยง“ตายแล้ว! สายขนาดนี้แล้วเหรอ”หญิงสาวกวาดตามองไปรอบๆ ก็เห็นกระดาษหนึ่งแผ่น มีซองสีแดงวางอยู่บนนั้น เธอหยิบขึ้นมาดูบนกระดาษมีตัวหนังสือเขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบผมไปทำงาน กลับบ้านตอนเย็น ผมทำอาหารไว้ให้ ถ้าอยากกินร้อนๆ ก็อุ่นเอาได้ ส่วนเงินนี้ผมให้ไว้เป็นค่าใช้จ่ายตามที่บอกไว้ ลงชื่อ เติ้งเว่ยหมิงซุยหลันซีเปิดซองสีแดง มีเงินสดห้าสิบหยวนอยู่ในนั้นอย่างที่เขาบอกไว้ จึงเดินเอาไปเก็บไว้ในกระเป๋าถือที่อยู่ในห้องนอน จากนั้นเดินกลับมายังโต๊ะอาหารบนโต๊ะมีอาหารอยู่สองอย่าง จานหนึ่งเป็นผัดผัก ไม่มีเนื้อ กับอีกจานเป็นเต้าหู้ยัดไส้นึ่งซีอิ๊ว มีหม้อข้าววางไว้ข้างๆ พร้อมกับถ้วยเปล่าและตะเกียบเห็นอาหารบนโต๊ะ ท้องก็เริ่มประท้
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more
ตอนที่ 5 โอกาสมาถึงครั้งแรก 1
“พี่ชิงหรงชุดที่พี่ใส่ฉันชอบมากเลยค่ะ” ซุยหลันซีชอบจริงๆ ในยุคสมัยนี้ยังพอมีกี่เพ้าแบบดั้งเดิมให้เห็น นั่นก็คือการปักลวดลายด้วยมือ ไม่เหมือนกับในยุคที่เธอจากมา ลายบนผ้าจะเป็นการใช้เครืองจักรพิมพ์ลาย งานฝีมือแบบดั้งเดิมแทบจะ ไม่มีใครอนุรักษ์แล้ว“อย่าบอกฉันนะว่าชุดที่พี่ใส่อยู่ตอนนี้ เป็นฝีมือพี่ตัดเอง?” ซุยหลันซีมองสำรวจขึ้นลงชุดที่หลี่ชิงหรงสวมใส่ ชุดนี้ตัดเย็บได้ประณีตมากจริงๆ“ใช่แล้วล่ะ ชุดนี้พี่ตัดเย็บและปักลายเอง” หลี่ชิงหรงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “พี่ชอบเสื้อผ้ามาก แล้วยังมีความฝันว่าในอนาคตอยากจะมีร้านตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง แต่ตอนนี้ทำได้แค่ฝันไปก่อน”“ฉันว่าฝีมือการตัดเย็บของพี่ดีมากเลยนะคะ ถ้าฉันมีเงินจะขอเป็นหุ้นส่วนเปิดร้านกับพี่”ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของซุยหลันซีทันทีฝีมือตัดเย็บของพี่สาวข้างบ้านดีมากจริงๆ ถ้านำเอาแบบเสื้อผ้าในอีกสี่สิบปีข้างหน้ามาผลิตขาย น่าจะขายดี เพราะแบบเสื้อผ้าแปลกใหม่ดูล้ำสมัยกว่าในตอนนี้แม้เทคโนโลยีทางด้านเนื้อผ้าและลายผ้าในสมัยนี้คงเทียบไม่ได้กับในอีกหลายสิบปีข้างหน้า แต่จุดเด่นคือในยุคนี้ยังคงงานฝีมือการปักผ้าไว้อยู่หลี่ชิงหรงฟังความคิดของ
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more
ตอนที่ 6 โอกาสมาถึงครั้งแรก 2
ซุยหลันซีจ่ายค่ารถสามล้อ ลงจากรถแล้วมองไปรอบๆ บนถนนเส้นนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งชายหญิงขี่รถจักรยาน พวกเขายังคงนิยมสวมชุดจงซาน[1]สีน้ำเงิน มีร้านค้าเรียงรายอยู่สองข้างทาง เสียงเรียกคนมาซื้อ ผสมปนเปกับเสียงตะโกนโฆษณาขายสินค้า ผู้คนเดินกันขวักไขว่ เป็นภาพที่ดูแล้วคึกคักมากเพียงแค่เธอก้าวเดิน สายตาของคนโดยรอบต่างพากันมองที่เธอเป็นจุดเดียว ที่ปั่นจักรยานก็ปั่นช้าลงพลางหันมอง ที่เดินก็เดินช้าลงถึงกับบิดคอหันไปมอง ราวกับเกิดภาพสโลโมชันขึ้นชั่วขณะหนึ่งในทุกจังหวะที่ก้าวเดินผ่านคนเหล่านั้นด้วยรูปร่างและใบหน้าที่งดงาม พร้อมกับท่าทางที่มั่นใจ ทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจคนทั้งถนนซุยหลันซีพลางคิดในใจ ถนนเส้นนี้ แม้ในอีกสี่สิบปีข้างหน้าก็ยังคงอยู่และยังเป็นแหล่งอนุรักษณ์วัฒนธรรมเก่าแก่ของเมืองนี้อีกด้วยเธอมองภาพตรงหน้าด้วยความตื่นตาตื่นใจเดินไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็สะดุดตาเข้าตึกตึกหนึ่ง ด้านหน้าตึกมีคนเดินเข้าออกอยู่เป็นจำนวนมาก ต่างหิ้วถุงพรุงพะรัง บ้างก็มีเด็กมาด้วย แต่ที่ทำให้เธอดีใจมากที่สุด คือการได้เห็นคนเหล่านี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีสีสัน ผู้หญิงสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวหลากหลายสีสวมรองเท้
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more
ตอนที่ 7 ภรรยาแปลกไป 1
ลงจากรถสามล้อเป็นเวลาบ่ายมากแล้ว ซุยหลันซีรีบเดินเข้าไปในตลาด ใช้เวลาเดินสำรวจที่ถนนเป่ยจิงลู่นานหลายชั่วโมง เหลือเวลาอีกประมาณสองชั่วโมงเติ้งเว่ยหมิงจะได้เวลาเลิกงานกลับบ้านซุยหลันซียืนอยู่หน้าร้านขายผักสด ไม่แน่ใจว่าควรซื้ออะไรบ้างพลันหูได้ยินเสียงทักมาจากทางด้านหลัง“หลันหลัน มาซื้อผักเหรอจ๊ะ”เสียงคุ้นหูดังขึ้น เป็นหลี่ชิงหรงที่เดินจูงมือหวังเย่เล่อ ลูกชายเข้ามาหา เธอยิ้มทักทายอย่างอบอุ่น“พี่ชิงหรงกับเล่อเล่อนั่นเอง พี่ก็มาจ่ายตลาดเหมือนกันเหรอคะ”“จ้ะ พี่เพิ่งเสร็จธุระก่อนกลับบ้านก็เลยแวะมาตลาด วันนี้ได้อยู่บ้านกับเล่อเล่อก็เลยว่าจะทำหม้อไฟกินกัน”หลี่ชิงหรงตอบยิ้มๆ“จริงด้วย พี่ชิงหรง ฉันยังไม่ได้ฉลองที่มาอยู่บ้านใหม่เลย วันนี้พี่ไปกินหม้อไฟบ้านฉันดีไหมคะ อีกอย่าง ฉันอยากจะขอเรียนการทำอาหารจากพี่ด้วย พี่พอจะช่วยสอนฉันได้ไหมคะ?” หญิงสาวพูดด้วยอาการเขินอาย“ได้สิ พี่ยินดีสอนเธออยู่แล้ว แลกกับที่เธอจะดูแลเล่อเล่อให้กับพี่ เอาล่ะ พวกเราก็ไปซื้อของสดกันเถอะ”ปรากฏว่าของสดที่หลี่ชิงหรงพูดถึงนั้นมีเพียงแค่ผักกับเห็ดไม่กี่อย่าง ไม่มีเนื้อสัตว์ทำให้ซุยหลันซีอดแปลกใจไม่ได้“พี่ชิงหรง กิ
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more
ตอนที่ 8 ภรรยาแปลกไป 2
เติ้งเว่ยหมิงกำลังเก็บถ้วยชามบนโต๊ะไปล้าง จู่ๆ มือขาวๆ ของซุยกลันซีก็แย่งถ้วยในมือไปถือไว้พร้อมกับบอกว่า“พี่ไปพักผ่อนเถอะ งานพวกนี้ฉันทำเอง”เติ้งเว่ยหมิงได้ยินถึงกับชะงัก มองหญิงสาวอย่างแปลกใจ“ต่อไปนี้งานบ้านทุกอย่าง ฉันจะเป็นคนจัดการเอง พี่ไปทำงานข้างนอกมาก็เหนื่อยทั้งวันแล้ว กลับมาบ้านพี่ควรจะได้พักผ่อน” คำตอบของซุยหลันซีถึงกับทำให้เติ้งเว่ยหมิงพูดไม่ออก เขาตะลึงไปแล้วจริงๆ“แต่ว่า...”“ไม่มีแต่ค่ะ ฉันพูดว่าฉันทำได้ ฉันก็หมายความตามนั้นจริงๆ พี่ไปนั่งพักเถอะค่ะ” เธอพูดพลางดันร่างของชายหนุ่มให้เดินไปนั่งที่เก้าอี้ยาวตัวที่เขานอนเมื่อคืนนี้คล้อยหลังซุยหลันซีเดินกลับไปห้องครัว เติ้งเว่ยหมิงยังคงนั่งอึ้งอยู่ที่เดิม พักใหญ่กว่ารู้สึกตัว สะบัดหัวด้วยความไม่แน่ใจ แล้วลุกเดินเข้าไปในห้องนอนหยิบเอาเสื้อผ้าออกมาเพื่ออาบน้ำ‘นี่ใช่คุณหนูผู้แสนเย่อหยิ่งคนนั้นจริงๆ หรือ’พอออกจากห้องน้ำก็พบว่าซุยหลันซีจัดการเก็บล้างห้องครัวเรียบร้อย พอดีกับที่เติ้งเว่ยหมิงอาบน้ำเสร็จแล้วเช่นกัน ชายหนุ่มเดินเข้าไปหยิบหมอนกับผ้าห่มกำลังจะเดินออกไปจากห้องนอนก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้าตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินคำพูดของหญิ
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more
ตอนที่ 9 วิกฤตของเติ้งเว่ยหมิง
ชีวิตประจำวันของซุยหลันซีกับเติ้งเว่ยหมิงก็เป็นไปตามปกติ เติ้งเว่ยหมิงออกไปทำงานทุกวัน ส่วนซุยหลันซีก็หัดทำอาหาร ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า และยังดูแลเล่อเล่อในตอนกลางวัน ระหว่างที่เด็กชายนอนพักกลางวัน เธอก็เอางานออกแบบชุดมาทำไปเรื่อยๆ จนวันนี้แบบที่วาดก็สำเร็จ“หลันหลัน มันสวยมาก พี่ไม่เคยเห็นชุดอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะ” เมื่อหลี่ชิงหรงกลับมาจากทำงานแล้วมารับลูกชายเพื่อกลับบ้าน ซุยหลันซีจึงถือโอกาสเอาแบบที่เธอวาดเสร็จแล้วออกมาให้กับหลี่ชิงหรงดู“เพิ่งวาดเสร็จบ่ายนี้เองค่ะ กะว่าจะลงสีอีกสักเล็กน้อยก็พร้อมจะเอาไปส่งที่โรงงานได้เลย” ซุยหลันซียิ้มรับคำชม“ดีๆ อย่างนั้นวันพรุ่งนี้ไปกับพี่ ดีไหม?”หลี่ชิงหรงเสนอตัวด้วยความยินดี อย่างไรเธอก็ทำงานที่โรงงานนี้อยู่แล้ว“ขอบคุณค่ะพี่ชิงหรง วันพรุ่งนี้ฉันต้องรบกวนพี่แล้วนะคะ”หลังจากนั้นหลี่ชิงหรงก็พาลูกชายกลับบ้าน ซุยหลันซีเดินเข้าครัวลงมือทำอาหารไว้รอเติ้งเว่ยหมิงกลับมาจากทำงานเสียงเปิดประตูบ้านดังขึ้น เป็นเวลาเดียวกับที่ซุยหลันซีทำกับข้าวเสร็จชายหนุ่มเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า คิ้วหนาเข้มขมวดเป
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status