มือแกร่งของเขาลูบไล้ขึ้นมาจากหน้าท้องจนถึงนมสองเต้าสล้างที่ห้อยโย้ลงมา.... มือสองข้างของเขากอบอุ้มมันเต็มมือ.... กดมือบีบลงเบา ๆ พร้อมกับใช้นิ้วคลึงหัวนมเล่น... จนมันแข็งเป็นไต
ความเสียวซ่านทำให้นางถึงกับแหงนหน้าปรือตาครางออกมา....
“ซี้ดดดดดดด... อ่า...... คุณชาย... มือซุกซนจริง ๆ”
จมูกคมของชายหนุ่มปักลงที่ซอกคอระหงซุกไซร้สูดกลิ่นกายสาวอย่างหิวกระหาย.....
ทั้งมือก็บีบเต้า.... ทั้งกลิ่นที่สูดเข้าปอด.... มันกระตุ้นให้มังกรในรูหอยพองโตจนคับถ้ำ
“อะ... อ่า....”
ชายหนุ่มถึงกับครางกระเส่าเพราะความกระสันเสียว... เมื่อสะโพกงามของหญิงงามบิดส่าย... แล้วกดลงที่หน้าขาเขาหนักหน่วง... อย่างเร่งเร้าให้มังกรเขาเริ่มจู่โจม
ส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ
ส๊วบ!
“อร๊างงงงงงงง.....งง”
สะโพกแกร่งขยับอัดดุ้นมังกรเข้าสู่ร่องหอยตามใจปรารถนา สองมือยังเคล้าคลึงสองเต้า บดบี้
ส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ ส๊วบ!
“อร๊างงงงงงงง.....งง”
ส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ ส๊วบ!
คุณชายเหล่ยกระแทกสะโพกเข้าออกซอยไม่ยั้ง..... จนเหมยกุ้ยครวญครางเจียนขาดใจ....
ความสุขสมซ่านกระสันมันโผทะยานไปทั่วร่างน้อย ๆ ของนาง
“อะ... อะ... อึก อ่า.... คุณชะ.. ชาย แทงอีก.. แทงแรงๆ อ่า...”
เหมยกุ้ยเด้งสะโพกรับอ้าขารับจังหวะการโหมกระทุ้ง....
ยิ่งได้ยินเสียงกระเส่าเร่งเร้า... เขายิ่งทวีสะโพกโหมกระแทกดุ้นมังกรเข้าออกไม่ยั้ง...
ร่างอรชรโดยกระทุ้งหนักหน่วง... ใบหน้างามเสือกถูไถไปกับเตียงนุ่มเพราะแขนขาอ่อนระทวยไปกับเพลิงสวาทที่เผาไหม้...
มือที่กอบกุมสองเต้าเปลี่ยนมารั้งสะโพกงอนงามของหญิงสาวดึงให้ชิดรับกับจังหวะกระแทกเข้า
ส๊วบบบบ!
“อร๊างงงงงงงงงงงง”
“โอ้วววววววว”
ทั้งคู่ร้องออกมาพร้อมกันเมื่อมังกรมุดเข้ารูหอยเต็มแรงลึกเข้าสุดลำ ความเสียวซ่านมันนำพาทะลุขึ้นจนถึงชั้นฟ้า
ตับๆๆๆๆๆ
เขาซอยเอวลงถี่ ๆ จนร่างบางหัวสั่นหัวคลอน
“อะ.. อะ.. อ่า. จะถึงแล้ว... จะถึงแล้ว”
“โอ้วววววววว... ซี้ดดด แฮ่ก.. แฮ่ก...”
ตับๆๆๆๆ
เตียงสั่นไหวยิ่งกว่าทุกครั้ง... เสียงขาเตียงดัง เอี้ยด อ้าด.. เอี้ยด อ้าด..
ตับๆๆๆๆ
“อร๊างงงงงงงงงงงง”
“โอ้วววววววว”
ไม่นานนักรูหอยก็รัดมังกรแน่นตอดตุบๆ รัดมังกรแน่นจนมันพุ่งน้ำอุ่น ๆ ออกมาเต็มถ้ำ...ทะลักไหลเป็นทางตามแนวขา
“อ่า....... “
“ซี้ดดดดด.... แฮ่ก แฮ่ก”
ทั้งคู่ล่องลอยขึ้นสู่สวรรค์ชั้นฟ้า..... เหมยกุ้ยจิกมือกับเตียงแววตาฉ่ำเยิ้มอย่างสุขสม...
คุณชายเหล่ยแนบตัวทาบทับลงมา... ตอกมังกรไว้กับรูหอยไม่ขยับ.... ความสุขกำลังแผ่ซ่านเข้าสู่กายเขาทะลุเข้าไปถึงกระดูก......
เหมยกุ้ย.. เป็นนางคณิกาที่เยี่ยมยอด...
ความสุขสมที่นางมอบให้ มันคุ้มกับราคาที่เขาจ่ายไปจริง ๆ
ตามธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน
ทุกปี เจ้าเมืองใหญ่อันประกอบด้วยหัวเมืองเหนือ-ใต้-ออก-ตก ต้องเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อถวายฎีการายงานสุขทุกข์ของราษฎรตามหัวเมืองต่าง ๆ
และปีนี้ก็เช่นกัน ใต้เท้าอันฉี เจ้าเมืองหัวเมืองเหนือ ได้เร่งรัดเดินทางเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้ให้ทันตามหมายกำหนดการ
การเดินทางครั้งนี้... บ่าวไพร่รวมทหารอารักขานับได้ประมาณยี่สิบกว่านาย ซึ่งครั้งนี้ใต้เท้าอันฉีพา “อันเหว่ย” ซึ่งเป็นบุตรชายที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่มในวัยยี่สิบต้น ๆ มาด้วย เพื่อหวังว่าจะได้แนะนำให้เป็นที่รู้จักแก่เหล่าขุนนางทั้งหลาย เมื่อครั้นเข้าสอบจองหงวนก็จะได้เป็นใบเปิดทางได้ง่ายขึ้น
หรือ หากชะตาฝ้ากำหนด... องค์หญิงนางใดนางหนึ่งในวังอาจจะหลงรูปงามของลูกชายเขาก็เป็นได้
ชะรอยเขาอาจจะได้เป็นดองกับฮ่องเต้... ตำแหน่งหน้าที่ในบ้านของเขาก็จะรุดหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก
“ฮึ... ฮึ...ฮึ”
มืออวบอูมของใต้เท้าอันฉีลูบเคราสีเทาแซมดำขณะที่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี เมื่อจินตนาการว่าตนจะได้เกี่ยวสัมพันธ์เป็นเครือญาติกับฮ่องเต้
เกี๊ยวของใต้เท้าอันฉี... ถูกแบกโอนเอนไปมาตามจังหวะก้าวย่างของไพร่พลแบกหาม...
ขบวนใต้เท้าอันฉีเดินทางอ้างแรมท่ามกลางป่าเขาล่วงเข้าสู่วันที่สองแล้ว...
เมื่อข้ามเขาลูกนี้ได้ก็จะพ้นแนวป่าเข้าสู่เมืองฉีซาน....
เมืองฉีซาน...... เมืองฉีซาน....
เมืองศิวิไลซ์หน้าด่านภาคเหนือก่อนเข้าสู่เขตภาคกลาง....
เมืองนี้... ใต้เท้าอันฉีตั้งใจว่าจะค้างเสียคืนหนึ่ง... เขามั่นหมายไว้ในใจว่าจะแวะ.. หอมู่ตานให้ได้.. เหตุเพราะพ่อค้าที่เที่ยวค้าขายผ่านเมืองนั้นสู่เมืองนี้.. ต่างเล่าขานเป็นเสียงเดียวกันว่า...
“หอมู่ตาน คือ แดนสวรรค์
มีหญิงงามเลื่องชื่อ.. เหมยกุ้ย...
งามหยาดหยด.. ประดุจนางฟ้า..
งามพร้อมสติปัญญาเลิศแพร้ว
ชายใดแคล้ว.. ไม่ได้เชยชม
ชายนั้นไซร้.. สุดแสนอาลัยหา”
ฮี้ๆๆๆๆ ฮี้!!!!
คร๊ากกกกก
หยุดเกี้ยว!!!
เสียงม้าร้องฮ้อเพราะถูกดึงให้หยุด.... ตามด้วยเสียงอันเหว่ยร้องสั่งให้หยุดเกี๊ยว
คิ้วใต้เท้าอันฉีขมวดเข้าหากัน... แล้วเอื้อมมือเปิดผ้าม่านที่บังเป็นประตูออกดู เขาเห็นลูกชายตัวควบม้ากลับมาเทียบเกี๊ยว จึงร้องถาม
“ทำไมหยุดเสียหล่ะ”
“มีเด็กบ้าที่ไหนไม่รู้ มาขวางทางไว้ แล้วร้องบอกว่าขอไปด้วย”
อันเหว่ยรายงานผู้เป็นบิดา
“เหรอ.. ไหนพานางมาพบข้าสิ”
“ครับ”
ไม่นานนักเด็กสาวสวมเสื้อสีทึม ๆ ตัวโคร่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าขะมุกขะมอมราวกับคนบ้า ก็ถูกทหารสองนายหิ้วแขนซ้ายขวา ลากนางมาทิ้งไว้ให้คุกเข่าต่อหน้าเกี้ยว
ดวงตาหยีเล็กของใต้เท้าอันฉีมองทะลุผ่านเสื้อตัวเก่า ความขาวผ่องของเนื้อแท้ข้างในตัวสาวป่าบ้าใบ้ลอดให้เห็นวับแวมตามช่องคอเสื้อตัวโคร่ง
“ตะ ใต้เท้า ข้าน้อยอยากไปเมืองหลวง”
สาวชาวป่าบอกความต้องการของตนขณะที่หมอบก้มคำนับผู้อยู่บนเกี้ยว
“เงยหน้าขึ้นพูดกันเถอะ”
สาวน้อยชาวป่าเงยหน้าขึ้นตามคำบัญชาของใต้เท้าอันฉีด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์โดยที่ยังหมอบ ช่องคอเสื้อตัวโคร่งลู่ลงเผยให้เห็นเต้านมสาวที่เพิ่งแตกผ่านตั้งเต้าเป็นบัวตูม เม็ดยอดบัวตูมสีชมพูระเรื่อเย้ายวน คนบนเกี้ยวถึงกับอุทานออกมา
“อ่า เจ้าช่างน่าดูดน่าเคล้นยิ่งนัก”
“อะไรคะ ใต้เท้า ขะ ข้าฟังไม่ค่อยถนัด”
เด็กสาวชาวป่ายืดตัวขึ้นทั้งตัว เพื่อตั้งใจฟังคนบนเกี้ยว ใต้เท้าอันฉีถอนหายใจอย่างแสนเสียดายที่เต้านมน้อย ๆ ผลุบหายเข้าไปในคอเสื้อ
“อะ อะ อ่าซ์ อร้ายยยยยยยยยยยย”สิ้นเสียงครวญคราง เรือนร่างโชกเหงื่อของทั้งคู่ก็สั่นสะท้านราวกับถูกไฟฟ้าซ็อต ทั้งสองนิ่งค้างซึมซาบความซาบซ่านให้เต็มทรวง ก่อนจะจบบทสวาททะลวงหอยของแม่ทัพด้วยการจูบบดลึกวาบหวามฝากความหวานให้ตราตรึงใจและแล้ววันแต่งตั้งองค์จักรพรรดินีอย่างเป็นทางการพื้นที่ท้องพระโรงลามไปจนถึงประตูวังด้านหน้าเต็มไปด้วยบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ เข้าร่วมถวายพระพรและเป็นสักขีพยานในการรับตำแหน่งอันสูงส่งเมื่อเสียงแตรเสียงประทัดดังสนั่นขึ้นเป็นสัญญาณการเริ่มพิธี เสียงแซ่เซ็งพูดคุยของเหล่าขุนนางทั้งหลายต่างสงบลง พร้อมกับยืนในแถวรอรับการเสด็จขึ้นบัลลังก์ไม่ช้าร่างงดงามในชุดจักรพรรดิเต็มยศก็ปรากฏบนพรมสีแดงที่ทอดยาวสู่ราชบัลลังก์ท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวสีแดงปักมังกรที่ฐานด้านล่าง ชายกระโปรงยาวระพื้น ยามก้าวเดินสะบัดไหวดูราวกับมังกรโลดแล่นในสายน้ำแยงชี ผ้าคล้องไหล่สีทองอร่ามคลุมเป็นสายยาวที่แขนทั้ง 2 ข้าง เสื้อชั้นนอกแขนกว้างปักลายกุหลาบดิ้นทอง แขนเสื้อที่ยาวลงมาถึงสะโพกพลิ้วไหวตามจังหวะย่างก้าว เนื้อแพรพรรณล้วนทักทอจากช่างฝีมือดีที่สุดในแผ่นดิน !!“แม่ทัพใหญ่จางหย่งขอเข้าเฝ้า!!!”
ตับ ตับ ตับ ตับๆๆๆๆๆๆ“อะ อ่า อ๊า อร้ายยยยยยยย”ซ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบพรวดดดดดดดดดดดดดดดด“อร้ากกกกกกกกกก”มังกรยักษ์พ่นพิษอุ่นซ่านเข้าเต็มโพรงหอยพร้อมกับเสียงครางระงมจนถึงสวรรค์ของทั้งคู่ ร่างอรชรกระตุกงึกๆ เกร็งเสียวสุดขีด สะโพกแกร่งของแม่ทัพหนุ่มผู้หิวกระหายตอกตรึงรูหอยบดแน่น ปล่อยให้จิตวิญญาณของตนล่องลอยไปแสนไกล ในไม่ช้าเรือนร่างกำยำก็ค่อยๆ เอนซบลงอกอวบๆ ทั้งคู่หอบหายใจกระเส่า“อ่า ข้าไม่เคยกินสุราอร่อยขนาดนี้มาก่อน”แม่ทัพรำพันกระซิบแนบเนื้อนวล บนโต๊ะกลมใหญ่กลางกระโจม เขาไม่คิดว่าการเดินทางกลับวังหลวงครั้งนี้จะได้พบเทพธิดาที่นำพาเข้าสู่สรวงสวรรค์อย่างไม่คาดฝัน“ข้าก็ไม่เคยถูกมังกรยักษ์จ้วงกระหน่ำได้ถึงใจขนาดนี้เช่นกัน โอ้แม่ทัพสมแล้วที่ท่านเป็นยอดชาตรี”เหมยกุ้ยพลิกตัวขึ้น ดุ้นมังกรยักษ์จึงหลุดออกจากร่องหอย“อ่า”ร่างอรชรค่อยๆ เลื้อยกายลงมาที่หว่างกำยำ จนสบเข้ากับลำตัวของมันเยิ้มไปด้วยน้ำทิพย์สีขาวขุ่น“มังกรท่านใหญ่น่ากินเหลือเกิน”เหมยกุ้ยถึงกับอุทานกระเส่าเมื่อเจอหัวดุ้นสีน้ำตาลไหม้อาบช่ำด้วยน้ำทิพย์ เส้นเลือดปูดโปนยังเต้นตุบๆ ลิ้นเรียวเล็กแลบเลียริมฝีปากตนอย่างห
ยิ่งลิ้นสากสอดแทง... น้ำหวานยิ่งทะลักจนฉ่ำปาก เขาดูดดื่มตักตวงความหวานฉ่ำที่ทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสายแผล็บๆ แผล็บ ๆ “อะ.... อือ... อะ อ่า จะแตกแล้ว อ่อยยยยยย”ปากใหญ่ร้อนฉ่ายังคงขบเม้มกลีบเนื้อหอยเต็มปากเต็มคำ ลิ้นร้อนฉ่าแทงเข้าแทงออกรัวๆ เร่งจังหวะตามเสียงกระเส่าของนาง ยิ่งดูด ยิ่งเลียน้ำหอยฉ่ำ ๆ ยิ่งไหลทะลัก ร่างอรชรบิดส่ายบ่งบอกว่าเจ้าของร่างกำลังเสียวซ่านมากแค่ไหนจ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบจ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ แฮ่กๆ แฮ่กๆ“โอ้วววววววว ท่านแม่ทัพ ไม่ไหวววว แล้ววววว อร้ายยยย”เหมยกุ้ยแอ่นสะโพกหยัด มือเรียวขยุ้มผมดกดำของเขาให้แนบชิดร่องสาว ร่างอรชรกระตุกเกร็งงึก ๆ ริมฝีปากสีแดงสดเผยอค้างครางออกมาผะแผ่วด้วยความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านไปทั้งกายสาว“อร้ายยยยยยยยยยย”พรวดดดดดดดดดดดด น้ำหอยแตกพรวดทะลักง่ามขา รูหอยขมิบตอดอากาศอย่างหิวโหย ซ่านกระสันอยากให้มังกรจ้วงแทงแทบขาดใจ เหมยกุ้ยครางกระเส่าขมิบตอดความว่างเปล่าไม่ยอมหยุด นางลอยขึ้นสวรรค์ชั้นหนึ่งไปแล้ว“อะ อ่า อือ อ่อยยยยยย”“อู้ววว.. อ่า... เหมยกุ้ย... เงี่ยนมากแล้วสินะ นำทะลักเลยนะ โอ้ววววว”แม่ทัพหยัดกายขึ้นแลบล
“เชิญชิมสุราชั้นเลิศจากข้า... เหมยกุ้ย มอบเป็นของขวัญแด่ท่านแม่ทัพ”มือใหญ่ยึดข้อมือเล็กกางออก แล้วร่างใหญ่ก็ถาโถมเข้าใส่ร่างเล็กที่นอนแผ่หลาบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว“เหมยกุ้ยยยยยยย ฮ่า ๆ เหมยกุ้ย”จ๊วบ!ซู้ดดดด จ๊วบ“อะ อ่า หือ อ่า”ลิ้นสากร้อนระอุแทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่น มันตวัดลิ้นเล็กให้ตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อนเลือดในกายนางร้อนระอุ เผยอเรียวปากขึ้น ตอบรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามา และหยัดร่างเข้าเบียดกายแข็งแกร่งทันทีซู้ดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“อืม อ่า จ๊วบ”ร่างอรชรใต้ร่างใหญ่กำยำบิดส่าย อย่างซ่านกระสันเมื่อแม่ทัพหนุ่มบรรจงจูบด้วยลิ้นร้ายอย่างหื่นกระหาย ลิ้นร้อนควาญรีดน้ำหวานในโพรงนางจนหมดสิ้น แล้วลามเลียมาถึงติงหูเกิดความสยิวแผ่ซ่านจนขนอ่อนของนางลุกซู่ทั้งกายจนครางกระเส่าออกมา“อร้ายยยย อ่า หือ”แผล็บ! จ๊วบ!ปากร้อนระอุของแม่ทัพใหญ่ลามเลียเลื้อยลากมาถึงซอกคอขาวผ่อง ลิ้นร้อนตวัดเลียกลืนกินสุราในเนื้อนวลมาเรื่อยๆ มือใหญ่ร้อนฉ่าดึงทึ้งอาภรณ์นางออกจนเกิดรอยแยกของเสื้อคลุม หน้าอกอวบอิ่มเผยชูชันอวดเต้าสล้างกลมกลึงเฉิดฉายอยู่ตรงหน้าแม่ทัพหนุ่มจับจ้องอกอวบๆ ของนางอย่างหลงใหล
แม่ทัพใหญ่ยืนนิ่งราวกับถูกสาป เขาคาดว่าจะได้กลิ่นคาวเลือดและการสู้รบซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัด แต่สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ คือ สาวงาม งามที่สุดที่เขาเคยพบยิ่งยามที่ร่างอรชรเยื้องย้ายขยับกายเข้าใกล้ กลิ่นหอมฟุ้งลอยอบอวลไปทั่วทั้งกระโจม ใจของแม่ทัพใหญ่เต้นตึกตักระส่ำ เต้นแรงยิ่งกว่าการเห็นกองทัพศัตรูนับแสนอยู่ตรงหน้าสติของแม่ทัพใหญ่หลุดลอยลืมสิ้นว่าตนมาที่กระโจมน้อยนี้เพื่อสิ่งใด หัวใจของเขามันวาบหวามเคลิบเคลิ้ม แม้มือเรียวของนางเอื้อมเข้าสัมผัสมือใหญ่ เขาก็ยอมให้นางนำพาแต่โดยดี“ท่านแม่ทัพเชิญทางนี้เถิด”เหมยกุ้ยจูงร่างสูงใหญ่ให้นั่งลงที่โต๊ะกลมกลางกระโจม ที่มีสำหรับอาหารและเหล้าชั้นดีไว้เพียบพร้อม หากแม่ทัพใหญ่มีสติมากพอเขาจะประเมินสถานการณ์ตรงหน้าว่าคือ กลลวง แต่เหตุไฉนร่างกายของเขากลับวูบไหวยอมนั่งลงตามคำสั่งนางแต่โดยดี“ขออภัยท่านแม่ทัพที่ข้าน้อยบังอาจมารบกวนท่าน”เหมยกุ้ยชวนคุยระหว่างรินสุราเลิศรสลงในจอก“อะ เอ่อ ไม่เป็นไร เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นแม่ทัพ?”แม่ทัพใหญ่จางหย่งตอบอย่างเงอะงะ หลายเดือนที่ผ่านมาเขากรำศึกทั้งวันทั้งคืนเจอแต่บรรดาทหารหนุ่มๆ นี่เป็นคืนแรกที่เขา
“หากผู้ใดแพร่งพรายเรื่องในพระตำหนักนี้ออกไป มันผู้นั้นจะมีสภาพเป็นเหมือนนายทหารผู้นี้!”ปากสีแดงสดเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น“หากผู้ใดสวามิภักดิ์ต่อข้า มันผู้นั้นจะยังคงนอนหลับกินอิ่มอยู่ในตำหนักแห่งนี้เหมือนเช่นเคย!”องค์จักพรรดินี จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!บรรดาข้าทาสบริวารต่างคุกเข่าหมอบลงถวายความจงรักภักดี ไม่มีใครไม่รักชีวิต!เมื่อผู้เป็นนายเก่าสิ้นวาสนา นกน้อยที่ไร้ผู้ปกครองย่อมบินหาคอนเกาะที่มั่นคงกว่ามันคือสัจธรรมของชีวิต“ฮ่าๆ ทุกคนจงฟัง!”เสียงประกาศก้อง ร่างอรชรในชุดสีทองกรุยกรายยืดกายขึ้นองครักษ์ทั้งสองยืนเคียงข้าง“ขอให้พวกเจ้าทุกคนจงปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเหมือนเช่นเคยปฏิบัติมา อีกไม่เกิน 1 ชั่วยาม พระชายาก็จะฟื้น แต่จะกลายเป็นคนไร้สติ ให้พวกเจ้าทุกคนบอกกล่าวต่อๆ กันออกไปว่า -พระชายาโศกเศร้าเพราะสูญเสียพระสวามีจนเสียสติ-”น้อมรับพระบัญชา!“ระหว่างที่เจ้าเฝ้าพระตำหนักพระชายามีผู้ใดเล็ดลอดคาบข่าวไปบอกแม่ทัพใหญ่หรือไม่?”เหมยกุ้ยเอ่ยถามหลี่เจี๋ยขณะเสด็จกลับตำหนักของตน“ไม่มีแม้แต่เงาเส้นหนึ่ง”องครักษ์หนุ่มตอบ“ดีมาก ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้ดูแลพระตำหนักของพระชายาเพราะข้ายังไม่ไว